เหล่าแกะหลงทางในเขาวงกต - นิยาย เหล่าแกะหลงทางในเขาวงกต : Dek-D.com - Writer
×

    เหล่าแกะหลงทางในเขาวงกต

    เรื่องราวของเทพธิดาผู้แสวงหาความสุข นักคิดผู้พันธนาการตัวเอง อัจฉริยะผู้หลงลืมตัวตน นักสมมติผู้นิยมความสุดโต่ง จอมลวงโลกผู้ถูกต้องอยู่เสมอ ศิลปินผู้ปรารถนาจุดสิ้นสุด และผู้หลงผิดซึ่งติดอยู่ในเขาวงกต

    ผู้เข้าชมรวม

    21,910

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    102

    ผู้เข้าชมรวม


    21.91K

    ความคิดเห็น


    170

    คนติดตาม


    289
    จำนวนตอน :  362 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ย. 64 / 23:08 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    “เพราะว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อที่จะมีความสุขไงล่ะ”

     

    “ฉันแค่อยากพ้นไปจากทางวงกตนี่เท่านั้น”

     

    “น่าอิจฉานะ ที่มีชีวิตอยู่ในฐานะ มนุษย์ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

     

    “เหรียญเนี่ยมันมีสองด้านใช่ไหมล่ะ จะเลือกไปอยู่ฝั่งไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเรานี่แหละ”

     

    “ถ้าทุกคนรู้ ว่าฉันขยะแขยงมนุษย์ขนาดไหน ในฐานะมนุษย์ พวกเขาจะรู้สึกยังไง”

     

    “ก็ไม่ได้ชอบสีดำหรอกนะ แต่คงไม่มีทางหลงใหลสีขาวได้หรอก”

     

    “เลิกหลอกตัวเองซะที!

     

    “นี่...พวกเราน่ะ เป็นแค่ขยะไร้ค่าของโลกนี้สินะ”

     

    “บางครั้งสายฝนก็นำพาความสุขมาให้ แต่บางครั้งมันก็สร้างความทรมานได้เหมือนกัน”

     

    “ใครกันเหรอ ที่มีสิทธิ์กำหนดความแตกต่างระหว่างคนบ้ากับคนปกติ”

     

                            “ผมจะสร้างโลกใหม่ให้เอง”

     

     

    “เอาละ...ออกไปจากที่นี่กันเถอะ”


    ******


    "เหล่าแกะหลงทาง" ต่างเผชิญปัญหาชีวิตที่แตกต่างกัน

    บางคนแสวงหาแต่เพียงความสุข บางคนพันธนาการตัวเอง บางคนหลงลืมตัวตน บางคนมัวเมาในทางเลือกสมมติอันสุดโต่ง บางคนโป้ปดจนไม่อาจเอ่ยความจริงได้อีก บางคนสร้างโลกใหม่เพื่อกักขังผู้เป็นที่รัก บางคนพร้อมทำลายโลกทั้งใบเพื่อแลกศรัทธา ในขณะที่บางคนยอมทำทุกทางเพียงเพื่อจะได้หลับใหลตลอดกาล

    เหล่าแกะหลงทางต่างดิ้นรนเพื่อหาทางออกจาก "เขาวงกต"

    เขาวงกตซึ่งแต่ละคนเลือกที่จะขังตัวเองเอาไว้ด้วยเจตนารมณ์ของตนเอง


    ******

    ** (edit ล่าสุด 6 ก.ย. 64) ฉบับรีไรท์จะลงที่ readAwrite <link นี้> อย่างเดียวแล้วนะคะ

    ส่วนในเด็กดีเราตัดสินใจลงเนื้อหาเดิมเก็บไว้ 

    ย้อนอ่านแล้วมีทัศนคติบ้ง ๆ ปนอยู่พอสมควร เลยอยากเก็บฉบับเดิมไว้เปรียบเทียบค่ะ ;-;


    นับตั้งแต่เริ่มเขียนเรื่องนี้ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาราว ๆ สิบปีนิด ๆ แล้ว รู้สึกได้เลยว่าเราเติบโตมาพร้อมกับเรื่องนี้จริง ๆ ทั้งในแง่ความคิด การมองโลก รวมไปถึงสภาพจิตใจ เราใช้เรื่องนี้เป็นพื้นที่ระบายความอัดอั้น พร้อมกันนั้นก็ใช้เป็นพื้นที่ทำความเข้าใจตัวเอง ผ่านตัวละครและเรื่องราวสมมติที่ช่วยให้เราสามารถเปิดเผยเรื่องเหล่านั้นออกมาได้อย่างสบายใจมากขึ้น ยิ่งเพราะเราเป็นคนสื่อสารไม่เก่ง ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกหรือความขัดแย้งในใจที่ซับซ้อนมาก ๆ เราจะเรียบเรียงคำพูดเล่าออกมาตรง ๆ ไม่ได้เลย ดังนั้นการได้เล่าอย่างอ้อมค้อมผ่านตัวละครและเรื่องราวสมมติจึงเป็นอะไรที่ช่วยเยียวยาเราได้มาก แถมยังช่วยเป็นสื่อกลางให้เราถ่ายทอดสิ่งที่เราอยากสื่อสารออกไปได้ด้วย

    จนถึงตอนนี้ เราอยากขอบคุณเรื่องราวนี้มาก เราหาเป้าหมายในชีวิตตัวเองเจอแล้ว ไม่รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่าอย่างที่เคยรู้สึกมาตลอดช่วงสิบกว่าปีนี้ อะไรหลาย ๆ อย่างก็ลงตัวขึ้นมาก ยอมรับว่าเรื่องราวนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการทำให้เราได้ย้อนทบทวนจนรู้ชัดว่าชีวิตเราต้องการอะไร รวมถึงทำให้เรามีความกล้าในการเลือกทำสิ่งนั้นด้วย เราจึงถือโอกาสนี้กลับมาย้อนอ่านเรื่องราวนี้ใหม่ตั้งแต่ต้น และตัดสินใจว่าจะปรับแก้บางอย่างโดยระวังไม่ให้ไปเปลี่ยนสาระสำคัญและสิ่งที่ตัวเราเมื่อสมัยก่อนเคยพยายามจะสื่อสารเอาไว้มากจนเกินไป

    เราเป็นคนที่ไม่ถนัดเรื่องการโปรโมท ดังนั้นเราคงเลือกใช้วิธีลงเรื่องราวนี้ในเว็บไปเงียบ ๆ เหมือนเคย ถึงโอกาสที่จะมีคนบังเอิญผ่านมาเจอจะไม่มากนัก แต่เราก็อยากใช้พื้นที่นี้บอกเล่าประสบการณ์ความขัดแย้งในใจตัวเองที่เราเผชิญมาตลอดช่วงสิบกว่าปีนี้ให้ใครสักคนได้รับรู้ รู้ว่ามีคนที่เคยเผชิญเรื่องราวแบบนี้อยู่นะ รู้ว่าเคยมีคนที่อารมณ์ดิ่งเหวและสับสนเหมือนติดอยู่ในเขาวงกตตลอดเวลาแบบนี้อยู่ด้วยนะ แต่ตอนนี้คนคนนั้นก็ประคับประคองตัวเองผ่านพ้นจุดดิ่งเหวที่สุด จนมาอยู่ในจุดที่มองย้อนกลับไปแล้วพอจะรู้สึกขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้นได้

    ที่สำคัญ เราคงดีใจมากถ้าใครสักคนที่ตกอยู่ในมรสุมแบบเดียวกันได้รับรู้ถึงความหวังเล็ก ๆ ที่เราใส่ไว้เพื่อให้กำลังใจตัวเองมาตลอดในเรื่องราวนี้

    แล้วก็ ที่ปรับชื่อเรื่องเนี่ยก็ไม่มีอะไรมาก แค่คิดว่า “แกะหลงทาง” เป็นคำที่สื่อสารถึงทั้งตัวเราและเด็ก ๆ ในเรื่องนี้ได้ชัดเจนดีเท่านั้นเองค่ะ

    เนื่องจากเรื่องราวนี้ยาวมากจนคนที่ผ่านมาเห็นครั้งแรกอาจจะมองไม่เห็นภาพรวมสักเท่าไหร่ เราเลยจะขอลงเรื่องย่อคร่าว ๆ ของแต่ละตอนไว้ตรงนี้นะคะ

     

    01 อุดมคติ

    เรื่องราวที่ตั้งคำถามว่าความสุขคืออะไร ผ่าน “ยู” เทพธิดาผู้แสวงหาความสุข

    ยูเป็นนักเรียนชั้น ม.4 ผู้เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อจะมีความสุข การมีตัวตนอยู่ของยูทำให้ห้องเรียนของเธอกลายเป็น ยูโทเปียเป็นชั้นเรียนในอุดมคติที่ทุกคนมีความสุขอย่างเสมอภาค ทว่าเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งกลับเป็นแกะดำขัดขวางอุดมคติของเธอ แดนสวรรค์ที่บรรจงสร้างไว้เป็นอย่างดีเริ่มปรากฏรอยร้าว เพื่อนร่วมชั้นที่ถูกยัดเยียดความสุขสำเร็จรูปให้ตลอดเวลาเริ่มทนรับความสุขนั้นต่อไปไม่ไหว ยูจึงต้องพยายามทำทุกทางเพื่อเหนี่ยวรั้งทุกคนให้ยังอยู่ในโลกอุดมคติของเธอ

     

    02 พันธะ

    เรื่องราวที่ระบายถึงปัญหาการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นของเราเองออกมาในเชิงสัญลักษณ์ พร้อมกับพยายามหาคำตอบว่าคนแบบนี้ควรทำยังไงจึงจะใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยถ่ายทอดผ่าน “ไวนด์” นักคิดผู้พันธนาการตัวเอง

    ไวนด์เกลียดกลัวมนุษย์ทุกคน แต่เธอก็กลัวถูกทุกคนรังเกียจ จึงเลือกใช้ชีวิตอย่างประนีประนอมมาตลอด นานวันเข้า ผลของไหลตามกระแสเชี่ยวกรากของคนอื่นโดยเมินเฉยความต้องการของตัวเอง ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความอัดอั้นในตัวเธอเติบโตขึ้นเป็นเถาวัลย์อันน่าชิงชัง สิ่งนั้นพันธนาการให้เธอทุกข์ทรมานทุกครั้งเมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ อีกทั้งเธอยังรู้ว่าสิ่งที่เธอบ่มเลี้ยงให้เติบใหญ่ขึ้นมาได้หลอมรวมเข้ากับอัตลักษณ์ของเธอจนไม่มีทางที่จะรักษาให้หายขาดได้ เธอจึงต้องหาวิธีอยู่ร่วมกับสิ่งนั้นท่ามกลางสังคมซึ่งเต็มไปด้วยมนุษย์ที่เธอขยะแขยง

     

    03 ความธรรมดา ความฝัน

    เรื่องราวที่ระบายความอาลัยอาวรณ์ต่อสิ่งที่ตัวเราเองเคยทิ้งไปในอดีต รวมถึงความอัดอั้นต่อปัจจุบัน ณ ตอนนั้นที่ชีวิตเคว้งคว้างจนไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร ผ่านอัจฉริยะผู้หลงลืมตัวตนอย่าง “เรน”

    เรนเคยถูกกีดกันจากสังคมเพราะความเป็นคนพิเศษเกินหน้าคนอื่นและความแตกต่างที่ทำให้เขาดูแปลกแยก เขาจึงทำลายตัวตนในอดีตและกลายเป็นคนธรรมดา ทว่ากลับต้องมาทนทุกข์กับการอยู่ในโลกสีเทาหม่นที่ไม่มีอะไรนอกจากความธรรมดา ระหว่างใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้จุดหมาย ฮีโร่ ได้ปรากฏตัวขึ้นและแต่งแต้มสีสันให้โลกของเขา เขาชื่นชม ฮีโร่ คนนั้นมาก แต่เขากลับเป็นต้นเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายต้องจากโลกนี้ไป นั่นทำให้เขาพยายามทำทุกทางให้ตัวเองได้เป็นคนพิเศษ เพื่อจะได้พ้นจากโลกสีเทาหม่นและไปหา ฮีโร่ คนนั้น โดยไม่รู้ตัวว่านั่นทำให้น้องสาวของ ฮีโร่ เคียดแค้นจนต้องการทำลายเขาอีกครั้ง

     

    04 ถ้า...

    เรื่องราวที่เดิมทีเขียนแค่เพื่อคลายเครียดสนองรสนิยมของตัวเอง แต่ก็ต้องการสมมติเล่น ๆ ด้วยว่าถ้าเราเปลี่ยนตัวเลือกสำคัญในชีวิตได้ แล้วชีวิตเราจะดำเนินไปในทางไหน โดยเล่าผ่าน “เชนทร์” นักสมมติผู้นิยมความสุดโต่ง

    เชนทร์เกิดมาในครอบครัวโปรไฟล์สมบูรณ์แบบ เขาถูกตั้งความหวังอย่างสุดโต่งจนกลายเป็นคนที่มองโลกแบบสองขั้ว มีแค่ “ดี” กับ “เลว” มีแค่ “สำเร็จ” กับ “ล้มเหลว” ความอัดอั้นจากการถูกกดดันอย่างหนักทำให้เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตในแบบที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคน “เลว” และ “ล้มเหลว” ระหว่างที่กำลังใช้ชีวิตเหลวแหลกไปวัน ๆ เขาได้พบความหมายของการมีชีวิตจากคนรักแรก แต่แล้วก็ต้องสูญเสียมันไปอีกครั้งพร้อมกับการจากไปของเธอ เชนทร์จึงเลือกที่จะหนีความจริงไปขังตัวอยู่ในโลกสมมติ ซึ่งเป็นโลกฝั่งตรงข้ามกับเส้นทางที่เขาเลือกในแต่ละจังหวะสำคัญของชีวิต แต่ยิ่งหนีกลับยิ่งพบเจอเพียงความสิ้นหวังที่ไม่ต่างอะไรกับการติดอยู่ในเขาวงกต

     

    05 เรื่องราวเบื้องหน้าของผู้ผดุงความยุติธรรม

    เรื่องนี้เกิดจากความกังวลว่าคนที่คอยประคับประคองผู้มีสภาพจิตใจไม่มั่นคงมาตลอด สักวันคนคนนั้นจะกลายเป็นคนที่สูญเสียความมั่นคงทางจิตใจไปเองหรือไม่ โดยให้ผู้ผดุงความยุติธรรมอย่าง “แอล” เป็นตัวแทนของคนที่คอยประคับประคองคนนั้น

    แอลเป็นประธานนักเรียนผู้ยึดมั่นในความยุติธรรมมาก แต่นั่นทำให้น้องชายฝาแฝดของเธอเป็นทุกข์จนเขาเริ่มแสดงอาการชอบทำร้ายตัวเอง แอลเครียดกับเรื่องของเขาจนพลอยมีสภาพจิตใจย่ำแย่ไปด้วย แต่เธอก็เมินปัญหาของตัวเอง แสร้งทำเป็นเข้มแข็งและเข้าช่วยแก้ปัญหาของผู้อื่นต่อไป ระหว่างนั้น วีวินซึ่งเคยพรากเพื่อนคนสำคัญไปจากเธอแสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการใช้ประโยชน์จากน้องชายฝาแฝดของเธอ แอลจึงยิ่งกังวลหนักว่าวีวินอาจทำให้น้องชายเธอต้องเป็นทุกข์ โดยที่ไม่ทันได้คิดว่าทั้งตัวเธอเองและน้องชายต้องการทำยังไงกันแน่

     

    06 เรื่องราวเบื้องหลังของตัวตนที่ถูกลบเลือน

    เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากการต้องการระบายความรู้สึกเบื่อหน่ายที่มีมากจนถึงขั้นเบื่อที่จะมีชีวิต โดยเล่าผ่าน “จี” นักเล่าเรื่องที่ลบเลือนตัวตนของตัวเอง

    จีเบื่อหน่ายกับทุกสิ่งทุกอย่าง เหนือสิ่งอื่นใดคือเบื่อหน่ายการที่แอลพร้อมจะเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นได้ตลอดเวลา เขาจึงแสร้งทำตัวเป็นคนจิตใจไม่มั่นคงเพื่อทำให้แอลเป็นกังวล จะได้เรียกร้องให้เธอยอมฟังเขาทุกอย่าง ทว่าเขากลับแสดงมากไปจนมาถึงจุดที่ไม่สามารถหยุดแสดงได้ด้วยตนเอง รู้ตัวอีกที สิ่งที่เขาทำมาตลอดกลับกลายเป็นการกัดกร่อนสภาพจิตใจแอลไปโดยที่เขาไม่เจตนา ระหว่างที่ปัญหาระหว่างพี่น้องยังแก้ไม่ได้ วีวินเสนอทางเลือกสำคัญมาให้ เธอบอกตามตรงว่าจะใช้ประโยชน์จากความสามารถในการเล่าเรื่องของเขา เพื่อให้เขาเล่าเรื่องคนคนหนึ่งที่วีวินต้องการคำอธิบายที่ยอมรับได้ตามหลักตรรกะในหัวเธอ แลกกับการที่เขาเองก็จะได้ฟังเรื่องราวนั้นเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายที่หนักหน่วงขึ้นทุกวัน

     

    07 ‘มีด สองคม

    เรื่องราวที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่ใครสักคนจะนิยามตัวเองว่าเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ รวมถึงการแสดงความปรารถนาดีต่อใครสักคนเพื่อความสบายใจของตัวเอง ผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง “กริช” และ “วีวิน”

    กริชเป็นลูกชายของอดีตคนขับรถของพ่อวีวิน พ่อของเขาเคยเผลอก่ออาชญากรรมล่วงละเมิดทางเพศกับวีวินในวัยเด็ก ทั้งยังร้ายแรงถึงขั้นส่งผลต่อสุขภาพของวีวินในปัจจุบัน วีวินย้ำแล้วย้ำอีกว่าเธอเป็นคนหลอกให้เขาทำเอง เธอยืนกรานว่าเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายกระทำ ส่วนเขาคือเหยื่อที่ถูกเธอล่อลวง ถึงกระนั้นกริชก็ยังคงรู้สึกผิดมาตลอด เขาตัดสินใจว่าจะยอมอุทิศทั้งชีวิตให้วีวิน แม้วีวินจะกล่าวหาว่าทั้งหมดนั่นเขาทำไปเพื่อสนองความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนเองโดยไม่ได้นึกถึงความต้องการจริง ๆ ของเธอ แต่เขากลับยังคงไม่อาจแสดงความปรารถนาดีต่อวีวินในรูปแบบอื่นนอกเหนือจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้

     

    08 วาทกรรม เด็กดี

    เรื่องราวที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเรา โดยเฉพาะการตั้งคำถามเกี่ยวกับการเลือกเส้นทางในชีวิตและการเก็บกดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไว้เพียงเพราะต้องการตอบสนองต่อความคาดหวังของคนรอบข้าง เรื่องนี้เล่าผ่านตัวละครที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกต้องอยู่เสมออย่าง “ราล์ฟ” และ “เอแคลร์”

    ราล์ฟและเอแคลร์เป็นนักเรียนดีเด่นที่มองจากภายนอกแล้วแทบจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งคู่ต่างปิดบังด้านมืดของตัวเองไว้เพื่อรักษาภาพลักษณ์ เด็กดี ตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคม ทว่าเอแคลร์กลับค่อย ๆ แสดงด้านมืดของตัวเองออกมาทีละน้อยเพื่อให้ตัวตนที่แท้จริงของเธอได้รับการยอมรับบ้าง ในขณะที่ราล์ฟยังคงปกปิดด้านมืดนั้นไว้ต่อไปและใช้มันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

     

    09 สีเทา

    เรื่องราวที่เขียนขึ้นเพื่อระบายความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าเป็นอาการของโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD อย่างอื่นนอกเหนือจากนั้น หรือว่าทั้งหมดผสมปนเปกัน ในสมัยที่สังคมยังอคติและไม่เปิดใจยอมรับโรคกลุ่มนี้ โดยเล่าผ่านตัวละครหลายคนที่ถูก “วีนัส” ลากเข้ามาพัวพัน

    เรื่องนี้เล่าย้อนไปในสมัยที่วีนัสผู้เป็นแม่ของวีวินยังคงเป็นนักศึกษา โดยเล่าผ่านมุมมองของคนที่เป็นพี่เลี้ยงวีวินในปัจจุบัน วีนัสมีอาการคล้ายเป็นโรคไซโคพาธ เธอไม่เพียงแต่ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ตาม ปกติ ได้ วันหนึ่ง แฟนหนุ่มของเธอถูกฆาตกรรม เธอจึงประกาศกร้าวต่อหน้าทุกคนที่เธอลากเข้ามาพัวพันว่าคนร้ายอยู่ในกลุ่มพวกเขา และเธอก็ต้องการแก้แค้นคนร้ายคนนั้น ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้น บางคนในกลุ่มพวกเขาเต็มกลืนแล้วกับการประคับประคองชีวิตของตนเองให้อยู่รอดไปได้ในแต่ละวัน

     

    10 1.61803...

    เรื่องราวนี้เล่าชีวิตของเราเองในรูปแบบที่จะว่าคล้ายนิยายน้อยที่สุดก็ใช่ แต่จงใจให้เป็นนิยายมากที่สุดก็ถูก เพราะเป็นการเล่าผ่าน “ฟี” ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องแต่งที่จีเขียนขึ้น

    ฟีเป็นนักศึกษาปริญญาโทสายวรรณกรรมที่รู้ตัวดีว่าต้องการเรียนแพทย์ แต่เธอในวัยเด็กได้วางแผนชีวิตตัวเองในเส้นทางสายมนุษยศาสตร์ไว้เป็นดิบดีและเดินตามทางเส้นทางนั้นมาอย่างราบรื่น เธอจึงยึดติดว่าจะต้องทำตามแผนการนั้นมากเกินไปจนกลายเป็นเหมือนตุ๊กตาชักใยของตัวเองในวัยเด็ก นั่นทำให้เธอไม่มีความกล้าที่จะเลือกอนาคตที่ตัวเองต้องการจริง ๆ พร้อมกันนั้นยังต้องมารู้ว่าชีวิตเธอทั้งชีวิต ชีวิตที่เธอเคยเชื่อว่าเป็นของเธอเองและเธอมีสิทธิ์กำหนดทุกอย่าง แท้จริงแล้วเป็นเพียงเรื่องแต่ง โลกที่เคยเชื่อว่าเป็นโลกในแบบที่ควรเป็นเองก็กลับเป็นเพียงโลกในหัวใครสักคน เธอจึงแสดงเจตนารมณ์ให้เจ้าของโลกถอนตัวจากเรื่องราวนี้ เพื่อที่เธอจะได้ปลดแอกและมีอำนาจกำหนดชีวิตตัวเองเสียที

    นอกจากนี้ วีวินให้จีเขียนเรื่องราวนี้ขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามว่าเป็นไปได้ไหม หากโลกที่พวกเธออยู่กันตอนนี้แท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงโลกในหัวใครสักคนเหมือนกัน

     

    11 เหล่าผู้หลงผิด

    เรื่องราวที่เริ่มมาจากความต้องการระบายความกังวลในการเข้าสังคมของคนที่ไม่เก่งเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ พร้อมกันนั้นยังอยากเล่าถึงตัวละครที่ผูกพันมาหลายปีผ่านมุมมองของ “มิญช์” ผู้เฝ้ามองคนรอบข้างด้วยความพยายามที่จะเข้าอกเข้าใจพวกเขามาตลอด

    มิญช์เป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทเอแคลร์ที่เคยหักหลังเอแคลร์มาก่อน แต่แท้จริงแล้วเธอทำไปเพียงเพราะต้องการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนและเพื่อหาคำตอบให้กับปัญหาของตัวเอง แม้เธอจะเป็นคนที่มีบุคลิกเก็บตัวจนมักถูกหาว่ามืดมน แต่แท้จริงแล้วเธอคอยสังเกตและพยายามที่จะทำความเข้าใจคนอื่นอยู่ตลอดเวลา พี่เลี้ยงของวีวินได้เลือกเธอมาช่วยสังเกตการณ์คนรอบตัววีวินเพื่อจะได้เข้าใจปัญหาที่รบกวนจิตใจวีวินอยู่ในตอนนี้ จนทำให้มิญช์ได้มีโอกาสเข้าไปพัวพันกับ เหล่าผู้หลงผิด รอบตัววีวินและเฝ้ามองพวกเขาด้วยสายตาของ คนนอก

     

    12 นับถอยหลัง

    ตอนนี้เขียนในช่วงที่เราเริ่มหาคำตอบให้ชีวิตตัวเองได้แล้วว่าจะไปทางไหนต่อ ดังนั้นจึงกลับมาสะสางเกี่ยวกับโลกในเรื่องราวนี้ทั้งหมด ถ้าเป็นนิยายก็คงคล้าย ๆ ตอนคลายปมหรือตอนที่เฉลยเรื่องราวทุกอย่าง ทำไมหลาย ๆ อย่างในเรื่องนี้ถึงได้ดูผิดสามัญสำนึก ทำไมตัวละครบางคนถึงผูกพันกันทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ภาพและเสียงบางอย่างที่ผุดขึ้นในหัวตัวละครบางคนมาตลอดทั้งเรื่อง แท้จริงคืออะไรกันแน่ โดยผู้ดำเนินเรื่องหลักในตอนนี้คือ “น้องชายของซอล”

    เอาเป็นว่าเป็นตอนที่ไม่รู้จะเล่าเรื่องย่อยังไงดีเหมือนกัน แต่คิดว่าเป็นตอนที่คล้าย ๆ ตอนจบของเรื่องราวทั้งหมดนี้ เพียงแต่มันไม่จบบริบูรณ์เพราะเรายังต้องการใช้พื้นที่ในเรื่องราวนี้อยู่ แค่เปลี่ยนจากพื้นที่ระบายความอัดอั้นมาเป็นพื้นที่หาความบันเทิงคลายเครียดแทน ประเด็นที่อยากเขียนถึงก็ยังมีอีกเยอะแยะ ทำให้หลังจากนี้ยังมีตอน 13 14 เป็นคล้าย ๆ ตอนแถมที่น่าจะแถมต่อไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่เรายังอยากเขียนอยู่ โดยที่บรรยากาศในเรื่องน่าจะมีแนวโน้มผ่อนคลายลงและมีชีวิตชีวามากขึ้น

     

    13 สโนว์ไวท์ โดโรธี และแอปเปิ้ลพิษของเจ้าหญิงนิทรา

    เรื่องราวที่เก็บตกความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงนิทราผู้ไม่มีวันหลับได้อีกแล้วอย่าง “ซอล” กับ “ไวท์” และ “ธีร์” ผู้ซึ่งต่างก็มองว่าซอลเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิต

    ด้วยความที่ทั้งไวท์และธีร์ผูกพันกับซอลมากในโลกที่ซอลกลายเจ้าหญิงนิทราไป ทั้งสองจึงเป็นเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของโลกนี้ที่เริ่มนึกถึงความทรงจำของตนเองอีกคนออกทีละน้อย พวกเขาจึงมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความทรงจำที่ทั้งสองมีต่อซอลคนนั้น เพื่อที่ต่างฝ่ายต่างจะได้นึกเรื่องของซอลออกมากขึ้น

    อีกด้าน วีวินรับไม่ได้เรื่องที่โลกนี้เป็นโลกในหัวของคนคนเดียว เธอจึงดึงดันทำทุกทางเพื่อจะหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลให้กับโลกใบนี้ เพื่อจะได้นำมาหักล้างว่าโลกนี้ไม่ใช่แค่โลกในหัวของใคร แต่เป็นโลกจริง ๆ ที่เธอเชื่อว่าควรจะเป็น นั่นเป็นเหตุให้เธอส่ง คนในของตนเองไปอยู่รอบตัวซอลเพื่อจะได้หาทางอธิบายเรื่องของซอลในแบบที่เธอยอมรับได้ เพราะเธอมองว่าตัวตนของซอลคือเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้โลกนี้ไม่สมเหตุสมผล ไวท์และธีร์เองก็เป็นหนึ่งใน คนใน’ นั้น

    นอกจากนี้ ตอนนี้ยังเป็นตอนที่เฉลยย้อนหลังเพิ่มเติมอีกว่าวีวินเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องราวของยูในตอน “อุดมคติ” ยังไง และเป็นการตอบคำถามว่าแจกันที่เพิ่มมาในชั้นเรียนและหายไปในจังหวะที่เหมาะเจาะที่สุดนั้นมีความหมายยังไงกันแน่

     

    14 O N E I R O P H O B I A

    เรื่องราวตอนนี้เขียนขึ้นหลังจากที่ชีวิตเราเริ่มลงตัวมาก ๆ แล้ว นับตั้งแต่ตอนนี้ไปจะใช้เป็นพื้นที่เล่นสนุกของเราล้วน ๆ เลยประเดิมตอนแรกที่ “แฟร์” และ “ภีม” ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวโยงกับตัวเรื่องหลักมากนัก แต่มีประเด็นที่เราอยากเขียนถึงอยู่เต็มไปหมด

    ตอนนี้เริ่มมาจากความสนใจในสาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น รวมถึงจิตวิทยาพัฒนาการ จึงอยากเล่าเกี่ยวกับความปรารถนาดีของผู้ปกครองที่บางครั้งก็แสดงออกในทางที่จะทำร้ายเด็กคนหนึ่งในระยะยาว แต่ถึงจะพูดแบบนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คงจะเป็นแค่ว่าเราอยากเขียนเพื่อความสนุกของตัวเองเท่านั้น บวกกับความอยากเห็นชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ ในเรื่องที่ตึงเครียดกันมาตลอดสิบกว่าปีในแบบที่ผ่อนคลายลงด้วย

     

    สุดท้าย เราค่อนข้างมั่นใจว่าหลังจากนี้เรื่องราวนี้ก็น่าจะยังคงดำเนินต่อไปอีกเรื่อย ๆ เพียงแต่บางช่วงอาจจะเขียนได้ช้าลงบ้าง เพราะเราดันเลือกมาทำตามความต้องการตลอดสิบกว่าปีของตัวเอง ซึ่งคงจะทำให้ชีวิตเรายุ่งมาก ๆ ไปอีกพักใหญ่ แต่มันเป็นเส้นทางที่เราเลือกเองและเป็นทางที่จะช่วยเติมเต็มความหมายให้ชีวิตเราได้ อย่างที่บอกไปข้างต้นเลยว่าเบื้องหลังการเลือกนั้น เรื่องราวนี้นี่แหละที่มีส่วนสำคัญมากในการช่วยผลักดันให้เราค้นพบความต้องการของตัวเอง มั่นใจในทางเลือกของตัวเอง และกล้าเลือกที่จะทำตามความต้องการนั้น

    เอาเป็นว่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ถ้าสนใจก็ลองไปพบกันในเรื่องดูนะคะ

      

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น