ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Story กาลครั้งหนึ่ง ถึง..ความรัก

    ลำดับตอนที่ #9 : +:...Remember Chapter 05...:+

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 52





    poster-character

    ข้อแนะนำ :: ควรฟังเพลงซาวของเรื่องที่มแปะไว้ด้วย
                         เพราะตอนนี้ยกให้ สองพี่น้อง




                   

    กาญจนบุรี บริเวณเขตชายแดน ชายวัยกลางคนผู้ดำรงผู้พัน ของกองทหาร นี้ ใบหน้าที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นตอนนี้มีรอยบึ้งตึงมากถึงมากที่สุดจนทหารชั้นผู้น้อยไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะท่านแม่ทัพตอนนี้อยู่ในช่วงอารมณ์ บ่จอยจากข่าวลือว่ามีไอ้หนุ่มตากล้องดีกรีนักเรียนนอกพ่วงมาด้วยตำแหน่งรุ่นพี่ของลูกชายทำท่าจะมาสมัครเป็นลูกเขย โดยมีฝ่ายสนับสนุนเป็นแม่ยายของภรรยาที่เสียชีวิตไปยิ่งเครียด

     

    พ.ท.สุริยเดช พิพิธวรกุล ใครก็รู้ว่าขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวขนาดไหนทำไมทั้งกองพันจะไม่รู้ เวลาลงพื้นที่เสี่ยงตายตาลุงนี่แกก็มักจะนำทัพลงทุกครั้ง สั่งการ ปฏิบัติการเอง ทำทุกอย่างหมดต้องยกให้นายทหารท่านผู้นี้ บวกกับใบหน้าที่ดูไม่รับแขกและนิสัยที่ไม่ชอบขี้หน้าไอ้พวกวางมาดใหญ่โต ซึ่งมักจะเจอตาลุงนี่โวยกลับไปทุกครั้ง ไอ้หนุ่มที่ไหนที่คิดจะจีบลูกสาวแกอย่างน้อยต้องผ่าดงกระสุนลูกซองให้ได้เสียก่อนไม่นับอาวุธสงครามอีกมากมาย

     

    ปัง!!!! เสียงกระสุนนัดแรกที่ลั่นขึ้นจากกระบอกลูกซองคู่ ดังลั่นขึ้นทำเอาพลทหารสะดุ้งกันเป็นแถวๆ ท่าทางข่าวลืมนั่นจะเป็นจริง

     

    เฮ้ย!!!จ่าเขายังไม่อนุมัติเรื่องขอลาพักร้อนฉันอีกเหรอ!!!”

     

    ผู้พันครับ...ทั้งค่ายเนี่ยจะมีใครใหญ่กว่าผู้พันอีกเหรอครับ คนเป็นจ่าตอบ แต่แล้วเสียงเจ้าลูกซองคู่ลั่นขึ้นอีกครั้ง แสนซาบซึ้งในความโหดร้ายของผู้พันนายทหารกล้าผู้นี้แล้ว

     

    ผมจะไปติดต่อเดี๋ยวนี้แหละครับ!!!” ทหารชั้นผู้น้อยพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะให้

     

    เดี๋ยว!!!จ่า

     

    ครับ

     

    จองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วยจะไปเยี่ยมไปเยี่ยมแม่ยายสักหน่อย ไปเยี่ยมแม่ยายหรือไปหนุนกองรบกันท่ากันแน่ เสียงซุบซิบดังขึ้น แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อเจอสายตาที่มีรังสีอัมหิตในมือของผู้พันตอนนี้ไม่ใช่เจ้าลูกซองแฝดแล้วแต่เปลี่ยนเป็นลูกซองแบบปั๊มแอ๊คชั่นแทน แอบไปเปลี่ยนตอนไหนตาลุงเนี่ยเร็วจริงๆ แรงไม่ตกตั้งแต่สมัยหนุ่มๆเลย แค่เพียงเสียงชักกระสุนเข้าสู่รังเพลิงก็เล่นคนบริเวณนั้นกลืนน้ำลายอย่างยากกลำบากเต็มทน

     

     

     

     

     

    กลับมาที่เรือนไม้หลังงามที่แม่ฮ่องสอน หญิงสาวคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเรือนไม้การแต่งตัวแบบสาวภาคเหนือแบบผู้ดีผิวขาวเนียนละเอียดกับใบหน้าหวานละมุนก็พอจะทำให้รู้ได้ว่าเธอเป็นคนที่นี่แต่กำเนิด ดวงตาคู่สวยพยายามมองหาเจ้าของบ้าน ก่อนไปสะดุดกับร่างของใครบางคนที่บริเวณชานบ้านกำลังนอนกระดิกเท้าอ่านหนังสืออย่างสบายใจข้างๆกายที่ชายคนนั้นนอนอยู่ก็หนังสือการ์ตูนอีกหลายเล่มวางไว้อย่างเกลื่อนกลาด ผู้มาใหม่แอบยิ้มน้อยๆ ก่อนค่อยๆเดินเข้าไปใกล้มองหนังสือที่ชายคนนั้นอ่านอยู่

     

    ..เต้นท์!!..

     

    อ่ะหยัง..!!!” พูดก็ยังคงนอนกระดิกเท้าอ่านหนังสือการ์ตูนเล่มต่ออย่างไม่สนใจเธอ มือหนาพยายามควานหาเม็ดมะม่วงหิมพานต์โรยเกลือที่เจ้าตัวอุตส่าห์ลงทุนไปขโมยมาจากในครัวเอง

     

    โอ้ว..ยะจะอี้เหรอเวลาอู้กับผู้ใหญ่..ที่บ้านบ่ได้สอนก่า

     

    สอนแต่..เต้นท์ขี้คร้านจำ..โอเค๊!!!!” เจ้าตัวแสบพูดขึ้นพร้อมกับเน้นภาษาฝรั่งท้ายประโยคซะสูงเว่อร์  จะว่าไปพ่อหนุ่มน้อยนี้ก็ไม่ได้จะสนใจละสายตาจากการ์ตูนเล่มโปรดมามองเธอเลย

     

    อ้าว!!..จ้าว...สวัสดีเจ้า เสียงของคุ้นๆดังขึ้นทำเอาคนที่หนังสืออยู่เริ่มระแวงหน่อยๆล่ะ จ้าวเหรอ และสิ่งที่ระแวงอยู่ก็มาทันทีไม้กวดหวดเข้ามาที่หน้าแข้งเต็มๆ

     

    โอ๊ย!!!!ยายเจ็บ..

     

    ดีสอนกี่ครั้งแล้วว่าอย่ายะแบบนี้ขายขี้หน้ายายหมด มีหลานแต่ล่ะคนไม่เคยได้ดั่งใจ เก็บของให้หมดเลยนะแล้วไปเอาขนมในครัวมาต้อนรับจ้าวไหมฟ้า เร็ว!!!”

     

    นี่ถ้าหูเขาไม่ฝาดจ้าวไหมฟ้า มาบ้าน งานเข้าแล้วไอ้เต้นท์เอ๋ย ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนส่งยิ้มหวานอยู่ จ้าวไหมฟ้าตัวจริง คำพูดเมื่อกี้เหมือนมันไหลย้อนเข้ามาในหัวหมดพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นดันมาเห็นเสียจนได้ ความอายบังเกิดอย่างรวดเร็วทำให้ลืมอาการเจ็บปวดบริเวณหน้าแข้งไปทันทีเจ้าตัวแสบรีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที

     

    แหม จ้าวว่าแต่มีธุระอ่ะหยังเจ้าถึงต้องถึงที่เฮือน

     

    มาเอาภาพนะค่ะ...พอดีว่านัดกับปลายไว้ คนที่เชื้อสายจ้าวทางเหนือตอบ พร้อมกับมองหาจิตกรเอกที่เธอพึ่งพูดถึงเมื่อกี้

     

    บ่ต้องหาหรอกจ้าว ปลายมันอยู่ที่เมืองปายนู่น

     

    หืม...ปลายไปยะอ่ะหยังที่นู่น

     

    อ๋อ..พาบ่าวแอ๋วเมืองปาย

     

    คำพูดนั้นทำเอาคนที่ฟังอยู่ตาโตเลยทีเดียว อย่างไม่เชื่อหูตัวเองเลย ใครกันน้อคือผู้บ่าวคนนั้นที่ยายคำเอื้องพูดมา ชักอยากจะเห็นหน้าสักหน่อยแล้วตอนนั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ออกมาจากครัวพร้อมกับจานที่มีขนมสีสวยวางไว้อย่างสวยงาม แต่คนที่ถือมากลับไม่ใช่เจ้าตัวแสบที่วิ่งเข้าไปในครัว กลับเป็นทินกร

     

    อ้าว ทีแล้วน้องล่ะ คนเป็นยายถามด้วยความสงสัยว่าเมื่อไม่เห็นเจ้าเต้นท์ออกมาจากครัวสักที

     

    เต้นท์น่ะเหรอ เห็นนั่งทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ถามอะไรก็ไม่ตอบ

     

    งั้นก็ช่างมันก่อน ไหนๆก็ไหนแล้ว จ้าวคะ นี่หลานชายคนโตพี่ชายของเจ้าปลาย ทินกรค่ะ!!” ยายคำเอื้องจัดการแนะนำหลานชายขี้โมโหบวกด้วยขี้หวงให้กับหญิงสาวเชื้อจ้าวให้รู้จัก ไหมฟ้ายกมือขึ้นไหว้ทินกรอย่างสง่า ส่วนฝ่ายที่โดนแนะนำก็รับไหว้พร้อมกับยิ้มน้อยๆให้กับเธอ

     

    ที นี่จ้าวไหมฟ้า ลูกค้าที่ชอบมาดูแกลรอรี่ของเจ้าปลายบ่อยๆ

     

    ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับจ้าว

     

    เช่นกันเจ้า คุณทินกรไหมฟ้าพูดพร้อมกับยิ้มบางๆให้กับเขา โดยภาพเหล่านั้นอยู่ในสายตาของใครบางตนที่ตอนนี้ไฟอิจฉากำลังลุกโชนขึ้นในดวงตาขี้เล่นคู่นั้น และมันก็เริ่มลุกขึ้นอีกเมื่อทั้งสองคนเริ่มบทสนทนากันอย่างออกรสโดยมีเสียงหัวเราะของทั้งสองดังออกมาเป็นระยะ ส่วนยายคำเอื้องขอตัวออกไปจ่ายตลาดคนเดียวไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่คุณยายจอมเจ้าเล่ห์คนนี้ แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเพราะตอนนี้อกของเขามันกำลังร้อนรุ่มอยู่เต็มทีอยากจะเข้าไปดึงตัวพี่ชายออกมา หรือไม่ก็ เข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งสองจริงติดเสียอย่างเดียวคือ คำว่า อย่าออกไป มันค้ำคอของเขาอยู่น่ะสิ

     

    อ้ายนะอ้าย ทำกันได้ เสียงที่พูดรอดออกจากไรฟันด้วยความโกรธอยู่มือก็ทุบฝาผนังไปด้วย นิสัยท่าทางที่เริ่มเป็นเด็กค่อยๆออกลายมาทีละน้อย จนในที่สุดเมื่อภาพบาดตามันบาดลึกไปถึงหัวใจดวงน้อยที่กำลังถูกบดขยี้จากจ้าวไหมฟ้าคนสวยไม่พอยังโดนพี่ชายแท้ๆของตัวเองกระทืบซ้ำเติมเอง เพราะภาพตรงหน้าที่เขาเห็นคือภาพที่หญิงสาวคนสวยกำลังลุกขึ้นยืนแต่แล้วเหมือนขาข้างที่เธอนั่งทับอยู่นานก็ถูกจู่โจมด้วยอาการเหน็บชาทำให้ร่างของเธอที่กำลังลุกเซ มือข้างหนึ่งกดขาบริเวณที่เหน็บกิน เลยทำให้คุณชายทินกรต้องไปช่วยประคองร่างนั้นให้กลับลงมานั่งที่เดิม

     

    ขอโทษเจ้า คุณทินกร!!”

     

    ขอโทษอะไรล่ะครับจ้าว

     

    ก็...

     

    ตรงนี้ใช่รึเปล่าครับ ที่ชา.... ยังไม่ทันจ้าวไหมฟ้าพูด ชายหนุ่มก็ถือวิสาสะไปนวดบริเวณขาที่มีอาการเหน็บชาให้เธอพร้อมกับส่งรอยยิ้มดั่งดวงตะวันสมชื่อมาให้เธออีก

     

    เจ้า!..” เพียงคำเดียวที่ตอบมาทำเอาคนที่แอบมองดูอยู่เกิดอาการไฟอิจฉา อิโวลูชั่น ขึ้นเป็นไฟริษยาแทน ร่างสูงออกจากที่หลบภัยย่างสามขุมไปหาสองคนที่นั่งหวานกันอยู่ในสายตาของเขาเท่านั้น

     

     

    พี่ที...!!!!” น้ำเสียงที่เคยปนขี้เล่นตอนนี้หายไปทันทีเหลือเพียงแค่น้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูน่ากลัว

     

    “….” ทั้งสองเงยหน้ามาทางต้นเสียงนั้นทันที ก่อนที่จะสะดุ้งโหยงพร้อมกันเพราะเจ้าเต้นท์บัดนี้รอบๆตัวเหมือนมีออร่าสีเหลืองพุ่งออกมา ดวงตาทั้งสองข้างก็เหมือนจะมีไฟลุกท่วมอยู่

     

    อ...อะไร

     

    ยายเรียกพี่ให้ไปหาหน่อยน่ะ

     

    เรียก... ทินกรทำหน้างง เพราะเมื่อกี้ยายคำเอื้องเป้นคนบอกเองว่าจะไปตลาดกับเด็กรับใช้ที่บ้านแล้วอะไร ยายแกทำไมกลับมาเร็วจัง ยายแกเพิ่งตลาดเองนะ

     

    เหอะน่า บอกว่าเรียกก็เรียกสิ

     

    ไม่ว่างเว้ย!...” คำเดียวจอด เจ้าเต้นท์ควันออกหูทันทีในขณะที่คนอายุมากกว่านั่งหัวเราะคิกๆด้วยความสะใจเพราะพอเข้าใจอะไร อะไร แล้ว ตอนนั้นแหละที่มือหนาของเจ้าเต้นท์ที่พยายามฉุดแขนชายที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้นทันที ภาพเหตุการณ์ทะเลาะกันแบบเด็กๆที่มีหญิงสาวเพียงคนเดียวดูอยู่ เสียงหัวเราะคิกออกมาพองาม

     

    เล่นไม้นี้ใช่ป่ะ

     

    .....

     

    เจ้าเต้นท์เดินออกจากวงเหมือนจะยอมแพ้ แล้วก็หายไปเงียบในทันที จนในที่สุดการหายตัวของเจ้าตัวแสบเริ่มจะสร้างความไม่หวาดระแวงไม่น้อยให้กลับเขา จนในที่สุดอาการเหน็บชาที่เจ้าไหมฟ้าเริ่มจะค่อยๆหายไป เธอจึงขอตัวกลับก่อนเพราะมานานแล้วเกรงใจคนรถที่มาด้วย ชายหนุ่มเลยอาสาเดินลงไปส่งที่รถหลังจากที่ล่ำลากันเสร็จแล้วเท่านั้นแหละพอเท้าข้างที่ก้าวขึ้นบ้าน หูก็ดันไปได้ยินเสียงหัวเราะที่น่าพึงประสงค์ดังออกมา

     

    ฮี่ๆๆๆๆๆๆ ทินกรค่อยๆเหลียวหลังกลับไปมองราวกับว่าจะมีอะไรโผล่ออกมาจากโอ่งน้ำนั้น และก็อย่างที่คาดเจ้าเต้นท์ที่ถือโทรศัพท์มือถือแนบหูอยู่พูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อกับปลายสายอยู่

     

    พี่แพม....พี่อยู่ไหนครับเนี่ย นั่นแหละชื่อต้องห้ามสำหรับเขา (รึเปล่า) เท้าที่ไวกว่าสมองเดินตรงไปหาคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ทันที

     

    จริงรึเปล่าอ่ะ...อยู่ปายหรอ พูดไปก็หลบมือทศกัณฑ์ที่กำลังแย่งโทรศัพท์ไปจากตัวเอง

     

    ไม่มาเที่ยวบ้านเต้นท์เหรอ เนี่ยมีคนอยากเจอยู่นะปฏิบัติการหลบก็ยังคงทำต่อไปเพราะดูท่าทีเจ้าของวิชามารมือทศกัณฑ์จะไม่มีท่าทางยอมแพ้ ใครหรอ อยากรู้มาดูเองสิ เนี่ยกลับมาพร้อมพี่ปลายก็ได้นะประโยคเด็ดหลุดออกมาทำให้ทินกรชี้หน้าเจ้าตัวแสบอย่างอาฆาต เจ้าตัวแสบเลยชูสองนิ้วไปแทนคำตอบพร้อมกับยกคิ้วให้แล้วยิ้มในท่าทางกวนๆตามแบบของตัวเอง ทินกรพยายามระงับโทสะไว้พร้อมกับควักแบงค์สีเขียวออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ แต่เจ้าเต้นท์กลับปัดออกพร้อมกับชูสองนิ้วขึ้นมาใหม่ คนอายุมากกว่าเริ่มรู้สึกว่าขันติของตัวเองจะโดนเจ้าตัวแสบนี่ทุบจนแตกแทนมือหนาล้วงไปควักกระเป๋าตังค์ในกระเป๋ากางเกงหลังมาพร้อมกับหยิบแบงค์สีแดงขึ้นมาสองใบแล้วส่งให้ ครั้งนี้ทำให้เจ้าเต้นท์ยิ้มกริ่มรับแบงค์แดงๆนั้นแล้วเก็บเข้ากระเป๋าไปแต่แทนที่จะวางโทรศัพท์ที่จะคุยตามเงื่อนไข หนุ่มน้อยกลับคุยต่อโดนทำหน้าทำตาลอยชายไม่รับรู้อะไร

     

    พี่แพม ไม่มาจริงๆเหรอ จะให้เต้นท์ไปรับก็ได้นะ...อ่าได้ให้ขี่จักรยานไปรับก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆ เสียงหัวเราะที่น่าขบขันแต่คนที่เพิ่งเสียค่าโง่ไม่ขำด้วย นิ้วสองนิ้วจากคนคนเดิมก็ชูขึ้นมาอีกพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง ว่าคราวนี้จะวางจริงๆ แต่ครั้งนี้ดูท่าจะไม่ได้ผลเพราะคนที่เรียกร้องเมินใส่ มีรึว่าเขาจะง้อ ต่อสิครับ

     

    จะว่าพิ่คิดไงกับ... ยังไม่ทันพูดจบประโยคแบงค์สีแดงสองใบก็ถูกยัดเข้าใส่มือข้างที่ว่างอยู่ทันที จังหวะเดียวกันนั้นเองมือข้างที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็ยื่นไปทางคนที่ยัดแบงค์ให้ คนตัวสูงกว่ารับมาอย่างงงๆ เต้นท์ยิ้มน้อยก่อนจะรีบวิ่งให้ห่างจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด ตอนนั้นเองแหละเพิ่งจะอ๋อเพราะว่าหน้าจอมือถือว่างเปล่า!?

     

     

    ไอ้เต้นท์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     

     

     

     

     

    ฮัดชิ้ว!!! เสียงจามเบาๆมาจากหญิงสาวคนสวยที่กำลังนั่งทานอาหารเที่ยงอยู่ ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยื่นกระดาษทิชชูมาให้ คนที่จามรับมาก่อนจะกล่าวขอบคุณ

     

    ยัยแพม นี่เป็นหวัดรึเปล่าเนี่ย

     

    คงงั้นแหละคะ....พี่ศิลา

     

    งั้นพี่ว่าวันนี้หยุดพักก่อนดีกว่าไหม...พรุ่งนี้ค่อยเที่ยวก็ได้

     

    ไม่เอาอ่ะ..เสียเวลาอีกอย่างแพมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย หญิงสาวคนสวยย่นจมูกขึ้นเล็กน้อย แพม หรือ พริตา หญิงสาวคนสวยที่ดำรงตำแหน่ง บรรณาธิการนิตยาสารวัยรุ่นชื่อดังตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยความสามารถของเธอเองโดยไม่มีเส้นสายใดๆเลย ว่าแต่เมื่อวานเหมือนยัยปลายแวบๆนะ

     

    ฮะ...ไม่ใช่หรอกมั้ง..ว่าแต่วันนี้ไปเที่ยวไหนกันดีล่ะศิลาหัวเราะพร้อมกับพูดเฉไฉพยายามออกเรื่องให้ไกลที่สุดเพราะกลัวหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามจะจับเค้นเอาคำตอบ

     

    งั้นเหรอ...แย่จริง...นี่ถ้าใช่ แพมกะว่าจะขอไปเที่ยวบ้านยัยปลายต่อสักหน่อย

     

    แล้วทำไมไม่ไปเองล่ะ

     

    กลัวหลงน่ะ!!!” ประโยคเดียวอยู่หมัดศิลาถึงกับกลั้นหัวเราะทันทีไม่นึกว่าหญิงสาวมาดมั่นคนนี้จะหลงทางเป็นกับเขาเหมือนกัน หัวเราะอะไรพี่

     

    ป..เปล่า

     

     

     

     

     

     

     

    โครม!

     

    เสียงของสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งพยายามหลบสิ่งที่ปามาจากทศกัณฐ์จนก้นลงไปกระแทกกับพื้นไม้เต็มๆ เต้นท์กำก้นตัวเองป้อยๆด้วยอาการเจ็บเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันพัก ร่างสูงต้องกระโดดหลบให้พ้นรัศมีเท้าที่กำลังวาดมามาทางเขาแล้วก็จัดการเผ่นต่อ

     

    หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้แสบ!!!”

     

    หยุด เต้นท์ก็ตายก่า!!!!เหวอ!!!!” เสียงร้องลั่นของเจ้าหลานสุดที่รักของยายคำเอื้องซึ่งตอนนี้แปลงร่างเป็นหนุมานชาญสมรไปเรียบร้อยวิ่งหนีจ้าวกรุงลงกาที่วิ่งไล่กวดมาติดๆ ตอนนี้ร่างของคนที่สวมวิญญาณเป็นลิงเผือกก็ปีนขึ้นต้นไม้ไปแล้ว

     

    อย่าคิดนะว่าอยู่บนนั้นแล้วจะรอดคนที่กำลังโกรธเป็นฟืนไฟเพราะโดนต้มหลอกเอาตังค์ไป สี่ร้อย ทำท่าจะปีกต้นไม้ตามไป

     

    โฮ๊ะ ยังขึ้นไหวก๊า อายุปูนนี้แล้ว

     

    อยู่ตรงนั้นนะ แกอย่าหนีฉันไปไหนนะไอ้เต้นท์ วันนี้ฉันต้องฆ่าแกให้ได้

     

    โหย ลุงทินกร น้องเต้นท์ไปแล้วเน้อ!!!~” และแล้วร่างของเจ้าหนุมาณก็กระโดดลงจากมะม่วงไป ทำเอาคนที่ปีนมาจะถึงตัวหน้าเหวอไปในทันทีกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เสียโง่เจ้าอัจฉริยะทางด้านนี้เฉพาะไปเสียแล้ว รังมดแดงขนาดใหญ่ที่ถูกวางไว้ตอนนี้มันตกลงมาใส่เขาเรียบร้อยแล้ว เสียงโหยหวนนั้นทำให้ยายคำเอื้องที่เพิ่งกลับมาจากตลาดรีบวิ่งจากหน้าบ้านมาดูเหตุการณ์ และทันทีที่เห็นภาพเจ้าหลานคนโตนอนดิ้นพลาดๆอยู่บนพื้น เพื้อตัวแดงเป็นจ้ำๆเพราะฤทธิ์มดตัวน้อยตัวนิดที่ต่ายอยู่

     

    ตายๆๆๆๆๆ....พุธโธ ธัมโม สังโฆ

     

    ยังยายแค่โดน...โอ๊ยยยยยยยยยยยยสียงร้องลากยาวๆเพราะเจ็บจากการโดนบิดเนื้อบริเวณต้นแขนจนตัวของเด็กหนุ่มจะบิดตามไปด้วยตามแรงบิดของผู้สูงวัย

     

    ยังจะมาหน้าระรื่นไปช่วย เจ้าทีตวย

     

    โฮะ...อะหยังเต้นท์ต้องไปช่วยก่า

     

    ยังจะมาต่อปากต่อคำ..บ่ะนี่ตอนนั้นเองมือที่ทำท่าจะชูเพื่อเรียกแบงค์แดงมาอีกก็โดนคนเป็นยายรู้ทัน มืออันเหี่ยวย่นเร็วกว่าตรงเข้าไปบิดบริเวณพุงของเจ้าหนุมาน เสียงร้องดังๆสลับกันเสียงคนนอนอยู่ตอนนี้ลุกขึ้นมากระโดดเต้นโหยงๆแทน ก่อนที่จะโดนยายแกลากไปบริเวณตุ่มน้ำแล้วจัดตักน้ำรากตั้งแต่หัวยันเท้าเพื่อฆ่ามดน้อยเหล่านั้นไปอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นค่อยพาขึ้นเรือนไปในสภาพที่แดงไปทั้งตัว.... 


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ryuzaki's Talk :: อัพล้วนะครับ ดองมานาน 555+ ยังไงก็ตอนนี้ รู้สึกเจ้าสองตัวจะเด่น
    ไม่ไหว ไม่ไหว เล้ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×