ตอนที่ 5 : CYM 4 : Learns to love again
4
Then you tell her that the only way
her heart will mend is when she learns to love again
แล้วคุณก็บอกเธอไปว่า ทางเดียวที่จะทำให้
ใจของเธอนั้นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ก็เมื่อตอนที่เธอได้พบรักอีกครั้ง
-learns to love again-
ฉัน ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเอาซะเลย..ปวดหัวเป็นบ้า จำได้ว่าเมื่อคืนหลังจากที่เจเรมี่ขับรถมาส่ง ขึ้นห้องมาฉันก็ถึงกับน้ำตาร่วงทันที นั่งร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้าอยู่พักนึงก่อนจะเผลอหลับไป บอกตรงๆว่าฉันเสียใจค่อนข้างมาก อเล็กซ์อาจจะไม่ใช่แฟนคนแรก แต่ในระหว่าง1ปีที่คบกันมาฉันก็จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้พอตัวเลยแหละ อเล็กซ์ดูแลฉันเป็นอย่างดี น้อยครั้งมากๆที่เขาจะทำให้ฉันเสียใจหรือร้องไห้ แต่สุดท้ายเขาก็เป็นคนทำลายมัน ทำลายความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้ไปจนหมด และทำให้ฉันต้องมานั่งร้องไห้เป็นบ้าอยู่แบบนี้! แต่สาบานเลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะร้องไห้ให้นายน่ะอเล็กซ์!!
~ครืด ครืด ~
แรงสั่นจากไอโฟนดังขึ้นที่ข้างเตียง ฉันคว้ามาดูก่อนจะเห็นว่าเป็นฌอณที่ส่งเมสเสจมา..
ฌอณ งั้นหรอ O_O!! เวรแล้วไง เมื่อคืนตอนกลับมาก็ลืมบอกพวกนั้นไปซะสนิท!!!
Sean 63 misscall
Martin 48 misscall
Benjamin 51 misscall
Allvin 46 misscall..
HOLLYx!! นี่ยังไม่รวมเมสเสจที่พวกนั้นกระหน่ำส่งมาอย่างกับเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์นั่นอีก! ไอโฟนฉันแทบจะค้างแน่ะ พวกนี้มันบ้าไปแล้ว T^T ฉันรีบต่อสายโทรหาฌอณทันที หมอนั่น..หมอนั่นต้องฆ่าฉันแน่ oh my god T0T
“ ฮะ..ฮัลโหล..”
[ x! โทรศัพท์เธอเป็นเวรอะไรวะเจส โทรไปทำไมไม่รับ!เอาไปปาหัวหมาเหอะว่ะพูดจริง! แล้วนี่อยู่ไหนน่ะ!? เมื่อคืนหายหัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอกพวกฉันเลยสักคนวะ! ]
“ จะ..ใจเย็นนะ ตอนนี้ฉันอยู่คอนโดแล้ว-_-;; “
[ Damn it! เธอมีมือถือไว้ทำเวรอะไรวะเจสสิก้า! โทรมาบอกกันบ้างก็ดี!! ] ฮืออ ช่วยฉันด้วยย ฌอณกำลังโกรธหนัก และฉันมั่นใจมากว่าถ้าตอนนี้หมอนั่นอยู่ตรงหน้าฉันคงจะจับฉันบีบคอไปแล้วแหละT^T
“ ฌอณณณณณ ฉันขอโทษๆๆๆๆ เมื่อวานเกิดเรื่องนิดหน่อยก็เลยกลับคอนโดมาก่อน อย่าโกรธกันเลยนะที่รัก T_T “
[ แต่เธอควรจะโทรหาฉันหน่อย! ไม่ก็ไอ้เวรสักคนในกลุ่มก็ได้! ไม่ใช่หายหัวแบบนี้โว้ยยย ] ฉันรีบดึงไอโฟนให้ออกห่างจากหูทันที โอ๊ย แก้วหูจะแตก! หมอนี่จะตะโกนทำบ้าอะไรน่ะ แต่เอาเถอะ ตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะที่โวยกลับได้ที่ไหนล่ะL
“ เข้าใจแล้วๆๆ วันหลังจะโทรบอก จะไม่หายหัวแบบนี้อีกแล้วค่ะ “
[ เออ ให้มันจริง จัดการโทรไปบอกไอ้พวกนั้นด้วย พวกมันเป็นห่วงเธอแทบตายแล้ว!]
“ แล้วถ้าโทรไปพวกนั้นจะเป็นเหมือนนายในตอนนี้รึเปล่าน่ะT^T “ แบบนั้นฉันตายแน่ถ้าต้องมานั่งฟังอีก3คนโวยแบบนี้น่ะ นี่แค่ฌอณคนเดียวก็จะประสาทกินแล้วนะ
[ แล้วคิดว่าไงล่ะ! โทรซะ!! ไม่งั้นเธอตายแน่เจสซี่ ]
“ รับทราบค่ะ(._.) “ ฌอณวางสายไปแล้วและนั่นทำให้ฉันเข้าใจลึกซึ้งถึงคำว่าถูกบ่นจนหูชาเลยทีเดียว หมอนั่นขี้บ่นเป็นบ้า แค่คิดว่าถ้าจีเซลทำให้หมอนี่โกรธขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นก็.. ฮึ๋ยย ไม่อยากจะคิด!
ฉันเปลี่ยนชุดมาอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว จริงๆวันนี้ฉันไม่มีเรียนหรอกนะ แต่Professor Adam อาจารย์ที่สอนในคลาสEEE 102 (Electrotechnology I) เพิ่งโทรมาเลื่อนคลาสของวันพฤหัสมาเป็นวันนี้แทน บอกตามตรงว่าฉันไม่มีกะจิตกะใจจะไปเรียนเลยจริงๆนะ ฉันยังไม่อยากเจอใครตอนนี้ โดยเฉพาะเพื่อนในกลุ่มนี่แหละ ถ้าพวกฌอณรู้ว่าฉันเลิกกับ อเล็กซ์แล้วพวกนั้นคงดีใจแทบบ้า แต่ถ้ารู้สาเหตุว่าหมอนั่นนอกใจฉันไปมีคนอื่น พวกนั้นก็คงจะโมโหแทบคลั่งอีกเหมือนกัน และฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องมันคงไม่จบแค่นี้ อย่างน้อยต้องมีใครสักคนเจ็บตัว! (แน่นอนว่าเป็นอเล็กซ์อย่างไม่ต้องสงสัย) ฉันหยิบหนังสือเรียนที่วางอยู่ที่โต๊ะและกุญแจรถที่วางอยู่ข้างๆมาถือไว้ใน มืออย่างจำใจ เฮ้อ ไม่อยากไปมหาลัยเลยจริงๆนะT^T
“ แอ๊ดดด../แอ๊ดดดด..” ฉันเปิดประตูในขณะที่เสียงเปิดประตูของห้องตรงข้ามก็ดังขึ้นเช่นกัน
เจเรมี่..เป็นเขาอีกแล้วนั่นเอง..
“ ไง “ เหมือนเคย เขายกมือขึ้นทักทายฉันแบบสบายๆก่อนจะให้หลังกลับไปล็อคประตูห้องและหันกลับ มาเผชิญหน้าฉันอีกครั้ง วันนี้เขาแต่งตัวดูดีอีกแล้วแฮะ เอ่อ อันที่จริงก็ดูดีอยู่ทุกวันนั่นแหละนะ
“ ฮะ..ฮายยยย “ ฉันทักก่อนจะรีบก้มหน้าทันที ทำไงได้ ฉันไม่อยากให้เขาเห็นว่าฉันตาบวมเป็นอึ่งอ่างแค่ไหนนี่! นี่มันเรื่องน่าอายชัดๆ เมื่อวานยังบอกเขาว่าไม่เป็นไรอยู่เลย ใครจะไปรู้ว่าเดินเข้าห้องมาแล้วน้ำตามันจะแตกเป็นบ้าขนาดนั้นกัน
“ นี่เธอ..ร้องไห้หนักขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ” เจเรมี่ถามก่อนจะก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับฉัน และยื่นหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ
“ นี่ อย่ามองได้มั้ยเล่า มันไม่ใช่เรื่องน่าขำนะ! “
“ ก็ดูตาเธอดิ ฮ่าๆ นี่ยังกล้าออกมาจากห้องอีกหรอเนี่ย “
“ ก็วันนี้ฉันมีเรียนนี่ ให้ทำไงได้(._.) “ ถ้าวันนี้ไม่มีเรียนฉันก็ไม่ออกไปไหนหรอกย่ะ! โอ๊ย ขนาดเจเรมี่ยังดูออกว่าเมื่อคืนฉันร้องไห้หนักแค่ไหน แล้วมีหรอที่พวกเพื่อนตัวดีของฉันจะดูไม่ออกน่ะ พวกนั้นต้องล้อแน่ เชื่อสิ : (
“ ฮ่าๆ โอเคๆ มันไม่ใช่เรื่องน่าขำฉันรู้ “ แต่ที่เขาทำคือกำลังขำฉันอยู่นะ! บ้าชะมัด
“ แล้วนี่กำลังจะไปเรียนใช่มั้ย ไปพร้อมกันสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง “
“ ไม่เป็นไร แค่เมื่อวานก็ลำบากมากพอแล้ว ฉันไปเองได้ “ ฉันพูดพร้อมกับโชว์กุญแจรถที่อยู่ในมือ และมันก็จริงอย่างที่ฉันพูด แค่เมื่อวานก็ลำบากเขามากพอแล้ว ถึงฉันจะบอกว่าไม่ต้องมาส่งแต่เจเรมี่ก็ยังยืนยันที่จะมาส่งเพราะเขาบอกว่า สติฉันดูไม่ค่อยอยู่กับตัวเท่าไหร่ และ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องทิ้งรถของตัวเองไว้ที่ผับแล้วค่อยกลับมาเอาใน ภายหลัง ฉันแอบรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้เขาต้องวุ่นวายอ่ะนะ แต่การที่เขายืนขำฉันอยู่ตรงนี้ทำให้ความรู้สึกผิดนั่นหายไปหมดแล้วล่ะ-_-
“ เธอนี่ชอบปฏิเสธความหวังดีของฉันอยู่เรื่องเลยนะ “
“ ก็แล้วจะลำบากทำไมล่ะ “
“ ฉันพูดที่ไหนว่ามันลำบาก ในเมื่อมันเป็นความเต็มใจของฉันนี่ “
“ … “
“ ไงล่ะ ทีนี้จะให้ฉันไปส่งได้ยัง? แต่พูดจริงๆ ฉันไม่คิดว่าเธอจะลืมตาดูถนนได้หรอกนะ”
“ เจเรมี่!! ”
“ ฮะๆ ตามมาดิJ “ หมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย!? แล้วยังไอ้ประโยคก่อนหน้านั้นอีก..เขาพูดอย่างกับว่า..เอ่อ เอาเหอะ มันคงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดแน่ๆ..ไม่มีทางใช่แน่ๆอ่ะ!
#CAMFORD UNIVERSITY
“ เธอเลิกเรียนกี่โมงน่ะ? ” เจเรมี่ถามขึ้นในขณะที่กำลังเลี้ยวรถเข้ามาในมหาลัย ให้ตายเหอะ!ฉันบอกว่าให้เขาจอดข้างหน้าก็ไม่ยอม ดูสิ คนมองกันใหญ่แล้วเนี่ย! แหงล่ะ รถเจเรมี่ใช่ว่าจะธรรมดาซะที่ไหน สปอร์ตคาร์สีดำคันเท่ห์ขนาดนี้เลี้ยวเข้ามาในมหาลัยก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่แล้ว
“ 4โมง เฮ้ ฉันบอกให้จอดข้างหน้า นายเลี้ยวเข้ามาทำไมเนี่ย! “
“ ก็เลี้ยวเข้ามาแล้วนี่ ให้ทำไงได้“ พนันได้ว่าคนแถวนี้กำลังรอดูว่าใครกันที่จะลงมาจากรถที่สุดแสนจะเท่ห์ระเบิด ขนาดนี้ แน่นอนว่าถ้าหากคนพวกนี้เห็นเป็นฉันต้องมีเรื่องวุ่นวายแน่อ่ะ เพราะเรื่องที่ฉันคบกับอเล็กซ์และมีเขาคอยไปรับไปส่งทุกวันเป็นเรื่องที่คน ทั้งมหาลัยรู้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะว่าอเล็กซ์เป็นคนดังของที่นี่ ไม่มีใครไม่รู้จักเขา และแน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเราเลิกกันแล้ว! ขืนฉันลงจากรถจะไม่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาหรอ T^T
“ ให้จอดตรงไหน? “
“ ตรงนี้ๆ จอดตรงนี้แหละ “
“ เฮ้ นี่เรื่องจริงดิ เธอเรียนE.E เนี่ยนะ? (English Programme of Engineering) “
“ ใช่ มันแปลกตรงไหนไม่ทราบ “ เจเรมี่ทำหน้าแปลกใจใส่ฉันอีกแล้ว อยากจะรู้จริงๆว่าผู้หญิงสำหรับเขานี่ต้องเป็นคนแบบไหนกัน? วันๆต้องสนใจแต่พวกแฟชั่น? Cosmetic? หรือการMake upยังไงให้ดูดีแบบParrypie? อะไรพวกนี้รึไงน่ะ
“ ก็ไม่แปลก แต่..มันใช่หรอวะ? ขอเหอะ อย่าบอกนะว่าเธอเป็น..ทอม? “
“ นี่หัวคิดได้แค่นี้ใช่มั้ย-_-^ “ อยากจะเอาหนังสือที่อยู่ในมือนี่ฟาดหัวเขาจริงๆเลย คิดได้ไงน่ะ!?
“ ล้อเล่นหรอกน่า ถ้าเธอเป็นทอมจริง คงมีผู้ชายหลายคนที่ต้องเสียดายแน่ๆ “
“ นั่นรวมถึงนายด้วยสินะJ “
“ มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอ? “ โอเค จบ ฉันจะไม่พูดเล่นกับเขาอีกแล้ว-_- คนเพิ่งเลิกกับแฟนอย่างฉันไม่ควรจะมาflirt กับผู้ชายที่ไหนทั้งนั้นในตอนนี้ และโดยเฉพาะกับผู้ชายเจ้าชู้อันตรายอย่างเจเรมี่แล้วควรจะหลีกเลี่ยงที่สุด
“ ยังไงก็ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มาส่ง “
“ You’re welcome “ เขาหยักไหล่สบายๆแบบที่ชอบทำ แต่ฉันในตอนนี้ไม่รู้สึกสบายไปด้วยเลยสักนิด ไม่อยากอยู่บนรถแต่ก็ไม่อยากลงไป นี่ฉันต้องทำยังไงเนี่ย!? ทำไมคนพวกนี้ถึงได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นกันจริงๆเลยนะ
“ เฮ้ นี่จะไม่ลงรึไง หรือต้องให้ลงไปเป็นเพื่อน? “
“ NO! ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้นแน่นอน “
“ เธอนี่..ปฏิเสธกันได้อย่างร้ายกาจจริงๆ “ เอาเหอะ เป็นไงเป็นกันวะ กะอีแค่เดินลงจากรถ จะไปยากอะไรนักหนา!
“ Bye Jeremy~ “ ฉันบอกลาเขาก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูและก้าวขาลงมาจากรถ รู้สึกได้ทันทีถึงสายตานับสิบคู่ของคนแถวนั้นที่กำลังมองมา ตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทาที่ดังมาตลอดทางที่ฉันเดิน
“ นั่นมันเจสสิก้านี่.. “
“ ใครมาส่งหล่อนน่ะ..?”
“ ไม่ใช่รถของอเล็กซ์ด้วย!”
“ ดูนั่นสิ! ตาเธอบวมเหมือนร้องไห้มาเลย.. “
“ หรือสองคนนั้นจะมีปัญหากัน!? “
และหลายคำถามอีกมากมายที่ดังเข้าโสตประสาทฉัน นี่มัน..แย่จริงๆด้วย! ไอ้ที่ว่าแย่นี่หมายถึงเรื่องที่คณะของฉันอยู่ติดกับB.E.C (Business English Communication Program) นั่นทำให้ในทุกๆวันจะมีสาวๆจากคณะบริหารมานั่งโปรยเสน่ห์อยู่ที่ใต้ตึกคณะฉันเป็นประจำ และไม่ใช่น้อยๆซะด้วยสิ! มันน่าปวดหัวตั้งแต่ที่คณะวิศวะถูกโหวตให้เป็นคณะที่มีคนหล่อเยอะที่สุดในมหาลัยนั่นแหละ แน่นอนว่ากลุ่มฌอณนี่ตัวTopกันทั้งนั้น
“ Yo! Wht’s sup babe! “ เสียง ห้าวที่ทักขึ้นมาจากข้างหลังพร้อมกับแขนที่ถูกพาดมายังคอฉันอย่างสนิทสนม ทำให้ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลยว่าใคร...ตายยากจริงๆ ฌอณ ทำไมฉันต้องเจอหมอนี่เร็วขนาดนี้ด้วย!
“ เฮ้ย เธอร้องไห้หรอวะเจสซี่! นี่อย่าบอกนะว่าเธอรู้สึกผิดเรื่องเมื่อวานขนาดนี้เลย? “
“ ประสาทน่ะฌอณ ไม่ใช่สักหน่อย “ ฉันพูดพร้อมกับปัดมือของฌอณที่พยายามจะจับหน้าฉันให้เงยขึ้นออก
“ แล้วมันเรื่องอะไรวะที่ทำให้คนอย่างเธอถึงกับร้องไห้จนตาบวมเป็นอึ่งอ่างน่าเกลียดแบบนี้ “ โอ๊ย ฉันเกลียดฌอณ! หมอนี่แซวฉันอย่างที่คิดจริงๆด้วยL
“ ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่ายุ่งได้มั้ยห๊ะ “ ฉันปัดมือของฌอณ(อีกครั้ง)ก่อนจะดันหน้าหมอนั่นให้ออกไปห่างๆสายตา ฉันคงจะทำกรรมไว้เยอะแน่ๆ พระเจ้าถึงได้ส่งฌอณมาป่วนฉันแต่เช้าน่ะ!
“ เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่า..ไอ้เวรอเล็กซ์!!”
“ ชู่วว! นายเสียงดังเกินไปแล้วนะฌอณ “
“ ชัวร์เลย เพราะไอ้เวรนั่นแน่ๆ บอกฉันมานะว่ามันทำอะไรเธอ!?” ที่ฉันพูดไปไอ้บ้านี่มันได้ยินกันมั่งมั้ยเนี่ย!
“ นายจะตะโกนไปถึงไหน นี่มันอาคารเรียนนะไอ้บ้า”
“ Who’s care! Tell me the truth Jessy!”
“ คุยกันทีหลังได้มั้ยฌอณ นี่มันเข้าเรียนแล้วนะ” ฉัน พูดอย่างเหนื่อยใจ หมอนี่มันบ้าจริงๆ ตอนนี้คนเริ่มหันมามองพวกเรามากขึ้นอีกเป็น10เท่า จากปกติที่เดินกับฌอณก็ตกเป็นเป้าสายสำหรับสาวๆอยู่แล้ว นี่ยิ่งมาตะโกนปาวๆแบบนี้ กลัวไม่ได้รับความสนใจรึไงกันไอ้บ้าฌอณ!
“ เฮ้ย คุยอะไรกันเสียงดังไปถึงหน้าคณะเลยวะ? “ Oh my god…
ที่ท่านส่งมาคนเดียวยังไม่พอรึไงกันคะ!? ถึงได้ยังส่งมาร์ตินมาป่วนลูกอีกคนแบบนี้T^T
“เออ แกมาก็ดีไอ้ติน ไปเคลียร์กับไอ้เวรอเล็กซ์ด้วยกันตอนนี้เลย มันทำเจสซี่ร้องไห้จนตาปูดเป็นอึ่งอ่างแล้ว! “
“ ไหนดูดิ๊..เฮ้ย จริงว่ะ! นี่มันทำอะไรให้เธอโกรธจนต้องร้องไห้ตาบวมเป็นกบแบบนี้วะเจสซี่ “ เพื่อนกัน นิสัยเหมือนกันไม่มีผิด!
“ โทรตามพวกที่เหลือมาด่วนเลยไอ้ติน”
“ เออ ได้ “
แค่แป๊ปเดียวเท่านั้นทั้ง อัลวิน และ เบนจามิน ก็ตามมาสมทบทันที พวก นี้ใช้เวลาไม่นานก็ขู่เข็ญแกมบังคับให้ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างช่วย ไม่ได้ และเมื่อทุกคนจับใจความได้ว่า อเล็กซ์นอกใจฉันเท่านั้นแหละ..พวกนี้ก็ออกตามล่า เอ่อ ฉันหมายถึงตามหา อเล็กซ์ทันที นี่มันชักจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนะ! โอ๊ย มีเพื่อนแบบนี้น่าปวดหัวชะมัด
เวลา ผ่านไปเร็วมาก แป๊ปเดียวก็เลิกเรียนแล้ว ฉันเดินออกมาจากคลาสพร้อมกับพวกฌอณที่เดินตามมาอยู่ข้างหลัง สาวๆบริหารกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ เสียงดังน่ารำคาญที่สุดอ่ะพูดตรงๆ-_-^ อ้อ และถ้าคุณจะถามถึงเรื่องของอเล็กซ์ล่ะก็ คงต้องบอกว่าวันนี้เป็นวันของหมอนั่นจริงๆ เพราะวันนี้อเล็กซ์ไม่มีเรียนพวกฌอณเลยตามหาเขาไม่เจอ แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ฌอณบอกว่าจะตามไปลากคออเล็กซ์ถึงที่บ้าน ฉันที่ได้ฟังแล้วถึงกับกุมขมับให้กับความรักเพื่อนเข้าขั้นโอเว่อร์ของพวก มันจริงๆ นี่จะถือเป็นว่าฉันโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะที่มีเพื่อนหล่อแต่นิสัยน่า รำคาญแบบนี้น่ะ
“ เจสสิก้า! เจสซี่! “ เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากข้างหลัง ฉันหันกลับไปมองก่อนจะพบว่าเป็น เอ่อ..เธอคนนี้ไม่ได้อยู่คณะฉันนี่
“ เอ่อ จ..เจสสิก้า คือว่า.. .///. “ เธอเริ่มมีอาการพูดติดขัดทันทีเมื่อบรรดาหนุ่มๆหรือเพื่อนที่สุดแสนจะน่า รำคาญของฉันยืนล้อมรอบเธอและตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูดกับฉัน เฮ้ ได้ข่าวเธอจะพูดกับฉันไม่ใช่รึไงน่ะ-_-?
“ ออกไปห่างๆได้มั้ยไอ้พวกบ้า! ว่าไงเธอมีอะไรรึเปล่า^^ “
“ เอ่อ คือว่า มีคนให้มาเรียกเจสซี่น่ะ .///. “ ห๊ะ? มีคนให้มาเรียก?
“ ใครให้มาเรียก? “ << ฌอณ
“ ผู้หญิงผู้ชายน่ะ? “<< มาร์ติน
“ ใช่ไอ้เวรอเล็กซ์รึเปล่า!? “<< อัลวิน
“ มันอยู่ที่ไหน! “<< เบนจามิน
“ นี่! เธอกำลังคุยกับฉันนะไม่ใช่พวกนาย ไอ้พวกบ้าเอ้ย กลับบ้านไปเลยไป! “ ฉันพูดออกมาอย่างหงุดหงิด นับวันพวกนี้ยิ่งทำตัวเหมือนพ่อฉันเข้าไปทุกทีแล้วนะ วันนึงนี่จะต้องให้ฉันปวดหัวกับพวกนี้กี่รอบกันเนี่ยยยย
“ พูดอะไรโง่ๆ แล้วใครจะไปส่งเธอที่คอนโดวะห๊ะเจส รถก็ไม่เอามา แฟนก็ไม่มี “ กรี๊ดดดด เกลียดมันนนนน ฉันเกลียดฌอณจากใจจริง!
“ Shut up! เฮ้ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ ใครให้มาเรียก? “
“ คือ ฉ..ฉันก็ไม่รู้ แต่ว่าเขาบอกให้เธอไปหาที่หน้าคณะที่เดิมกับเมื่อเช้าน่ะ..” ที่เดิมกับเมื่อเช้า? หรือว่าจะเป็นO_O
“ เดี๋ยววันนี้ฉันกลับบ้านเอง พวกนายจะไปปาร์ตี้ที่ไหนต่อก็ไปเหอะ Bye! “ ฉันรีบพูดก่อนจะรีบวิ่งออกมาโดยที่ไม่ทันได้ฟังเสียงบ่นของฌอณที่ตะโกนไล่ หลังมา แต่เหมือนจะได้ยินหมอนั่นโวยวายว่าเรื่องเมื่อเช้าอะไรสักอย่างนี่แหละ เอาเถอะ ช่างหมอนั่นไปก่อน แต่เจเรมี่นี่สิ เป็นเขาที่ให้มาเรียกฉันรึเปล่าน่ะ!?
#หน้าคณะ
“ เขาเป็นใครกันน่ะ..”
“ นั่นสิ ฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ “
“ พระเจ้า แต่เขาหล่อสุดๆไปเลย! “
และ อีกสารพัดคำชมที่กำลังพูดถึงหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังยืนกดไอ โฟนพิงรถสปอร์ตสีดำคันเท่ห์อย่างไม่สนใจสาวๆจำนวนมหาศาลที่กำลังยืนตีวงล้อม รอบเขาอยู่เป็นวงกว้าง พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับฉันแน่..
เจเรมี่..เขามาทำอะไรที่นี่!?
“ ขอโทษนะครับ แต่ช่วยไปเรียกเจสสิก้าที่เรียนอยู่ E.E ให้ผมหน่อยได้มั้ย-_- “ ทันทีที่เจเรมี่พูดจบประโยค เสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นเหมือนเมื่อเช้าทันที..
“ ฉันจำได้แล้ว! รถคันนี้มันคันเดียวกับที่มาส่งเจสสิก้ามื่อเช้านี่! “ เอ่อ ลางไม่ดีซะแล้วสิ ฉันว่าฉันไม่ควรจะอยู่ที่นี่สักเท่าไหร่นะ..
“ นั่นไงเจสสิก้า! เฮ้ ผู้ชายคนนี้กำลังตามหาเธออยู่น่ะเจสซี่! “
Oh x.. ใครมันตาดีเห็นฉันวะเนี่ย!
“ ไง กว่าจะตามเจอนะ-_- “ สรุปคือฉันก็เดินเข้ามาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของสาวๆพวกนี้จนได้.. พรุ่งนี้เรื่องของฉันต้องเป็นทอลค์ ออฟ เดอะ ทาวน์ แน่ topicจะว่าไงดีล่ะ? จะเป็นเรื่องที่ฉันเลิกกับอเล็กซ์ หรือจะเป็นเรื่องที่ฉันคบกับหนุ่มคนใหม่ทันทีดี? แต่ไม่ว่าจะเป็นtopicไหนมันก็แย่พอๆกันนั่นแหละ!
“ นายมาทำไมเนี่ย”
“ ยังต้องให้พูดอีกหรอ นึกว่าเห็นแค่นี้เธอก็น่าจะรู้แล้วซะอีก “
“ ฉันไม่รู้! รู้แต่ว่านายทำให้มหาลัยฉันวันนี้วุ่นวายมากเจเรมี่! “ ฉันโกหก อันที่จริงฉันก็พอจะเดาได้ว่าเขาคงจะมา..รับฉัน? มันน่าจะเป็นแบบนั้น แต่คำถามคือ ทำไมต้องมา!?
“ เออ รู้ว่าวุ่นวายก็รีบขึ้นรถดิ หรือจะต้องให้เปิดประตูให้?“ แน่นอนว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด! ฉันรีบตัดปัญหาโดยการเปิดประตูขึ้นรถทันที นี่มันใช่วิธีตัดปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้วใช่มั้ยเนี่ย ใครก็ได้บอกทีเหอะL
- TO BE CONTINUED -
______________________________________________________________________________________________
22.03.13
UP NOW!
ตอนที่5แล้ว เป็นไงกันบ้าง
มันพอไปได้สวยรึเปล่าอันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ5555
คงต้องดูคอมเม้นของรีดเดอร์นี่แหละ
ยังไงก็ช่วยสนับสนุนกันด้วยนะคะ
THANKS WITH LOVE.
-Justjay-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอาใจไปเลยค่ะ 4ห้องให้หนุ่มๆ4คนนี้หมดเลย *.*
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจเรมี่ยังคงเป็นที่1ในใจค่ะไรท์เตอร์><
คืออิมเมจเธอฟินมว๊ากกก
นิยายเรื่องนี้ผู้ชายดึงดูดฉันชัดๆ><
จะแปลกมั๊ย ถ้าบอกว่าชอบ เจเรมี่ >
แต่แอบสงสัยเล็กๆค่ะ J L มันคืออะไรอ่ะคะ?
มันเป็นอีโมติคอนรึเปล่า? ยังไงก็รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
^^ เป็นกำลังใจให้ค่าาาไรท์เตอร์ ♥
รีบอัพนะไรท์เตอร์