หลังจากที่ทุกอย่างจบลง สึนะก็เข้าพิธีรับการสืบทอดอีกครั้ง จากเด็กหนุ่มตัวเล็กกลายเป็ยชายหนุ่ม ร่างกลายที่เคยบอบบางมีหมัดกล้าขึ้นเล็กน้อยจากการอ่อกกำลังและฝึกฝน จากคนที่อะไรๆก็ห่วยกลับมายืนอยู่แถวหน้า ไม่ว่าจะด้านใด
“รีบอร์นจัง ทำการบ้านเสร็จหรือยังเอ่ย?”นานะเดินเข้ามาถามเด็กชายวัยสิบขวบที่กำลังทำการบ้านที่ได้รับมาจากโรงเรียนด้วยอาการเบื่อหน่าย
“ใกล้แล้วฮ่ะ มาม๊า”เด็กชายเอ่ย “มาม๊าจะออกไปข้างนอนหรือฮะ?”
“ใช่จ๊ะ รีบอร์นจังจะไปกับแม่ไหม?”
“ไม่ครับ… ผมอยากอยู่รอสึนะ”รีบอร์น
“จ๊ะ งั้นเดี๋ยวมาม๊าซื้อของโปรดของรีบอร์นมาให้แล้วกันนะ”
“ครับ”
หลังจากที่นานะออกไปสักพัก รีบอร์นก็ทำการบ้านของตัวเองสร็จ ร่างเล็กขยับกายลุกขึ้นเดินมาบนห้องนอนของลูกชายเจ้าของบ้าน หากแต่ตอนนี้มันเป็นของเขาด้วยเช่นกัน
ฟุบ~
ร่างบางทิ้งตัวนอนบนที่นอนฝังใบหน้าลงบนหมอนแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า. เพียงไม่นานร่างเล็กก็หลับไปจากพิษไข้ และความเหนื่อยที่ซะสมมาทั้งอาทิตย์
รีบอร์นยังคงมีทำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสึนะอยู่ แม้ว่าอะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป แม้ว่าเจ้าห่งยอย่างสึนะจะไม่ต้องการเขาแล้ว แต่คำว่าหน้าที่ทำให้เขาไม่สามารถไปไหนได้ งานต่างๆที่เกี่ยวกับวองโกเล่ก็ถูกโอนมาให้เขาตรวจสอบ แม้จะบางส่วนแต่มันก็เยอะมาก เขาต้องใช่ชีวิตในฐานะเด็กประถมและที่ปรึกษามาเฟียไปพร้อมๆกัน. พึ่งเข้าใจความรู้สึกของสึนะก็ตอนนี้
“อืม~”
“อยู่เฉยๆสิ”เสียงทุ้มคุ้นเคยดังเข้ามาในโซนประสาท รีบอร์นพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นเพื่อมองว่าใครกันที่เป็นเจ้าของเสียง แม้ใจจะรู้ดีก็ตามเพราะห้องๆนี้ นอกจากเขาที่เป็นเจ้าของห้องร่วม สึนะก็ไม่เคยให้ใครเข้ามาอีกเพราะมีเอกสารที่เกีายวกีบวองโก่เล่อยู่มากแม้ไม่ได้สำคัญมากก็ตาม เวลาจะทำความสะอาด ก็ทำเองเสียส่วนใหญ่
“แกหรอ… ไอ้ห่วย…”
“อืม~”สึนะเอ่ยรับ “เป็นไงบ้าง?”
“ปวดหัว…”รีบอร์นเอ่ยพร้อมกับเบ้ปากออกน้อยๆ
“ไปหาหมอไหม?”สึนะถามอีกครั้ง
“ไม่… ไม่ไป ฉันอยากพักมากกว่า”
“ก็ได้… แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น ฉันจะให้จามาลมาดู”สึนะเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลุกเดินออกมา
สึนะเดินลงมาข้างก็พบว่าผู้เป็นมารดาของตนเองพึ้งกลับมาพร้อมกับข้าวของเต็มสองมือ
“ผมช่วยครับ”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปช่วยถือของ
“น้องไปไหนละซือคุง”นานะเอ่ยเมื่อกวาดตามองไปรอบๆแล้วไม่เดินใครอีกคนที่บอกว่าจะรออยู่บ้าน
“รีบอร์นไม่สบายนะครับ ผมให้นอนอยู่ด้านบน”สึนะเอ่ยตอบ
“อ้าว… เป็นอะไรมากหรือเปล่า แม่ไป…”
“แม่ช่วยทำโจ๊กหรือข้าวต้มให้หน่อยนะครับ”สึนะเอ่ยแทรกขึ้น
“อ่อ… จ๊ะๆ”นานะเอ่ยก่อนจะเดินเลี่ยงเข้ามาภายให้ห้องครัว
สึนะผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย ที่เขาไม่ให้ใครเข้าไปในห้องเพราบนห้องมีเอกสารเกี่ยวกับวองโกเล่อยู่ ถึงจะบอกผู้เป็นแม่ไปแล้วว่าเขา พ่อ และอีกหลายๆคนเป็นมาเฟีย เขาก็ไม่ต้องการให้มารับมารู้อะไรมากไปกว่านั้น. ยิ่งรู้มากก็ยิ่งอัยตรายมากขึ้น
แอ๊ดดด~
ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็พบว่าคนตัวเล็กยังคงนอนหลับสนิท มือใหญ่ทาบลงบนหน้าผากเล็กเพื่อวัดไข้ แม้ตัวยังร้อนอยู่ แต่ก็ไม่มากเท่าตอนแรก
“อืม~ สึนะ”
“ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาก่อน”เขาว่าเสียงเรียบ รีบอร์นยอมลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย เพราะฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่
“ฉันจะกินเอง แค่กๆ แค่กๆ”รีบอร์นว่าก่อนจะไอออกมาอย่างหนัก สึนะหยิบแก้วน้ำอุ่นให้ร่างเล็กจิบแล้วลูบหลังให้เบาๆ
“ให้หายก่อนเถอะ แล้วค่อยดื้อ”สึนะต่อว่าเล็กน้อย
รีบอร์นเบะออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่แล้าพูดเอ่ยสิ่งใดออกมา หลังจากที่ทุกอย่างจบ ทุกๆคนเปลี่ยนกันไปมาก โกคุเดระ จากที่เคยใจร้อน ตอนนี้สุขุมขึ้นมาก ยามาโมโตะ เองก็เปลี่ยนจากที่ดูซื่อๆ ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจ้าเล่ห์สุดๆ เป็นรองแค่มุคุโร่ ทุกคนเปลี่ยนไป โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะคนๆนี้ ซาวาดะ สึนะโยชิ คนที่เป็นบอสคนนี้ ทุกครั้งที่ต้องตัดสิ้นใจอะไร เมื่อก่อนหากไม่ถามความคิดเห็นเขา ก็มักจะถามเพื่อนๆรอบข้าง แต่ตอนนี้ไม่ สึนะเด็ดขาดมากขึ้น มีความเป็นผู้นำมากขึ้นจนขนาดทำให้คนที่ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครอย่างฮิบาริยอมรับ ทำให้ซันซัสที่มักจะถูกแคลนอยู่ตลอดเปลี่ยนความคิด และยอมที่จะอยู่ใต้อำนาจของวองโกเล่ที่มีสึนะเป็นผู้นำ เป็นคนที่จับต้องสายหมอกได้ รู้ทันความคิด รู้ทันความเคลื่อนไหวของสายหมอกอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้แม้แต่พรีโม่ก็ตาม สึนะกลายเป็นคนที่เด็ดขาดมากๆ กลายได้กลายเสีย เจ้าเล่ห์ ไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดอีก ไม่กลัวแม้แต่ตัวรีบอร์น
“ฉันจะให้พ่อมาดูแลงานส่วนของนายแทน และจะงดให้นายทำภารกิจสักพัก”สึนะเอ่ยไม่ได้หันมองร่างเล็กแม้แต่น้อย
ร่างเล็กชะงักพร้อมกับมองคนตัวสูงอย่างไม่พอใจ
“นายไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้!!!”
“แน่ใจหรอรีบอร์น?”สึนะเอ่ยพร้อมกับจับจ้องอีกคนนิ่งๆ
“…”
“นายลืมไปหรือไงว่าฉันเป็นบอสของวองโกเล่ เป็นเจ้านายของนาย”
“…”
“ฉันจะให้นายทำอะไร หรือไม่ทำอะไรก็ได้ ที่บอกไม่ใช่ขอความคิดเห็น อต่เป็นคำสั่งจากบอสของนายต่างหาก”สึนะเอ่ยก่อนลุกเดินออกมาปล่อยรีบอร์นไว้ในห้องเพียงคนเดียว
ไอ้ห่วยที่เขารู้จักเปลี่ยนไปมาก แบะไอ้ห่วยที่เขารู้จักก็คงเกลียดเขาแล้ว เพราะเขาไม่เคยได้รับความอ่อนโยนจากอีกฝ่ายเลย การดูแลต่างๆก็ทำเพราะหย้าที่ หากไม่ใช่เพราะเขาคือผู้ร่วมห้อง ไอ้ห่วยก็คงไม่คิดสนใจ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น