Star war
“ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นข้าขอรับไว้เพียงผู้เดียว.....ทั้งๆที่ควรจะเป็นข้า ...แต่กลับเป็นเจ้าที่ปกป้องข้าไว้ด้วยชีวิต....ชีวิตที่มีค่าต่อข้า
มากมาย......ทั้งๆที่ควรจะเป็นข้า....” คำพูดจากชายคนหนึ่งที่อยู่ในสงครามแห่งจักรวาล
ค่ำคืนหนึ่งในจักรวาลอันไกลโพ้น ดาวเคราะห์สองดวงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะโคจรมาเจอกัน แต่คืนนี้เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นท่ามกลาง
ความประหวั่นพรั่นพรึงในสงคราม ดาวสองดวงที่ห่างกันไปเป็นเวลานานแสนนาน แต่ความแค้นที่มีต่อศัตรูยังมิเคยเลือนหายไป สงคราม
นั้นกำลังจะมาถึง
โดยที่ดาวมาร์ มีผู้นำคือ ซีรีอุส ผู้ได้ชื่อว่า เป็นจักพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ในท้องฟ้ายามรัตติกาล และ เลโอนิส บุตรชาย มีหัวใจที่เปรียบเสมือนหัวใจสิงโต กล้าหาญ และเข้มแข็งไม่แพ้ผู้เป็นบิดา ดังเช่นที่โหรดวงดาวได้เคยทำนายเอาไว้ว่าวันใดที่ เลโอนิส ได้ขึ้นมายืน ณ จุดที่บิดาของเขาเป็นอยู่ คือ จักพรรดิ์ เลโอนิส จะยิ่งใหญ่กว่าซีรีอุสได้อย่างแน่นอน
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง ดาวที่มีขนาดเล็กกว่า แต่มีแสงสว่างสุกใสไม่แพ้ดาวมาร์ นามว่า “แอนแทรีส” ถึงจะเป็นดาวที่เล็กกว่า แต่ความชั่วร้ายนั้นมีมากนัก ดาวดวงนี้เป็นตัวแทนแห่งความตาย ความชั่วร้าย และความมืด ดังเช่น จักพรรดิ์ผู้นี้ ชอล่า เป็นเสมือนเหล็กในของต่อแตน ที่มีพิษร้ายแรงสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างเลือดเย็น พร้อมกับทหารคนสนิทที่มีชื่อว่า
แอสเตอรอยด์ จักพรรดิ์ กำลังจัดตั้งกองกำลังถล่มดาวมาร์ ชื่อว่า Black hole
“ ต่อจากนี้ไปดาวมาร์จะไม่มีโอกาสจะได้เห็นดวงอาทิตย์อีกต่อไป” ชอล่า คำรามลั่น ในป้อมปราการที่มีแต่ความโฉดชั่ว ที่ดาว แอนแทรีส ตอนนี้กำลังจัดงานรื่นเริงปลุกใจเหล่านักรบอยู่ โดยที่หารู้ไม่ว่าดาวมาร์ ก็กำลังจัดกำลังพล และหาที่คุ้มภัยอยู่เช่นกัน
“ ข้าว่า เราน่าจะอพยพผู้คนให้ไปอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง  กว่าดาวมาร์จะหมุนรอบตัวเองอีกครั้งคงมีเวลาเหลืออยู่พอที่จะต้านทานเหล่าศัตรู”
ซีรีอุสกำลังประชุมกับหัวหน้าทหารทุกเหล่าทัพ เพื่อป้องกันผู้คนจำนวนมากจากภัยสงคราม
“ แต่ท่านพ่อ ข้าว่า ชอล่าจอมโฉดจะต้องตั้งกองทัพถล่มเราในอีกซีกโลกนึงอย่างแน่นอน ทางที่ดีเราน่าจะขุดลงไปใต้ดินจะดีกว่า” เลโอนิส กล่าวแย้งบิดาของตน
“ก็น่าจะดี ถ้าเช่นนั้นจงออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคน ไปอยู่ที่หลุมหลบภัยที่ชายฝั่ง
เลเวนไตน์ ทางตอนใต้ให้หมด โดยเฉพาะเด็กกับผู้หญิง” ซีรีอุส ลุกขึ้นเอามือยันโต๊ะ พอสิ้นเสียง
การประชุมก็สิ้นสุดลง หัวหน้าทหารทุกคนออกไปปฏิบัติตามคำสั่งนั้น ตอนนี้ในห้องประชุมเหลือเพียง เลโอนิส กับ ซีรีอุส เท่านั้น การพูดคุยระหว่างพ่อกับลูกอย่างเป็นกันเองจึงเริ่มขึ้น
“ เลโอ นับวันเจ้ายิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน สักวันหนึ่งคงแข็งแกร่งเกินพ่อซะแล้ว” ซีรีอุสพูดกับลูกชาย แล้วเดินไปตบบ่าเลโอนิสเบาๆ ทั้ง 2 คนกำลังมองดูเส้นขอบฟ้าผ่านทางหน้าต่างบานใหญ่
“..ไม่หรอกท่านพ่อ..ข้ามีพ่อที่เก่งกว่าใครในหล้า” เลโอนิสตอบอย่างภาคภูมิ สายตายังคงทอดยาวไปไกล ใบหน้าที่คมเข้มดูจริงจัง
“ แต่ไม่สามารถปกป้องแม่เจ้าได้” ซีรีอุส พูดเสียงเศร้า เขาเสียแอนโดเลียนางอันเป็นที่รักไปเพราะความโง่เขลาในวัยหนุ่ม ณ สงครามกลางเมือง
เลโอนิสเป็นเด็กที่กำพร้าแม่แต่ยังเล็ก แต่เขาก็สามารถมีชีวิตที่เข้มแข็งอยู่ได้ เขาเป็นเด็กชายที่กล้าหาญไม่แพ้ทหารหาญเลย ด้วยรูปร่างสูงโปร่งสันทัด ในตาที่คมเข้มมีความกล้าอยู่มิใช่น้อย ตอนนี้เขากำลังเป็นที่กล่าวถึงในบรรดาสาวๆชาวมาร์ตั้งแต่เด็กยันคนแก่ สรุปแล้วคือ เขาหล่อนั่นเอง
“ไม่เอาน่าท่านพ่อ เรื่องนี้มันนานมาแล้วนะ” เลโอหันกลับมายิ้มรับ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องพูด
“ ท่านว่ากลุ่ม White Dwarf ของจักวรรดิ์เราจะมีชัยเหนือ แอนแทรีส มั้ย” สีหน้าของเจ้าลูกชายกลับมาวิตกกังวลอีกครั้ง ทว่าเขา ไม่ห่วงเลยว่าชีวิตของตนนั้นจะอยู่หรือตาย แต่เขาห่วงเพียงเธอคนนั้น เพียงแค่อยากให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป
“ยังไงก็ต้องชนะ เจ้าจงเชื่อมั่นสิ”  ซีรีอุส ให้คำมั่นแก่ลูกชาย ใจจริงเขาก็รู้อยู่ว่ากองกำลังของ แอนแทรีส มีน้อยก็จริง แต่ความร้ายกาจของทหารสวะของพวกมันมีมากเหลือคณา
ตึก..ตึก..ตึก เสียงบางเสียงดังขึ้น เสียงใครบางคนกำลังวิ่งมากยังห้องประชุม...ประตูเปิดออก
“ ..เลโอนิส..” เสียงที่เลโอนิสคุ้นหูเป็นอย่างดีดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัววิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้อง แต่พอเจอซีรีอุสก็จ๋อยเลย
“ อ๊ะ ขอโทษที่ คุยกับพ่อเจ้าอยู่เหรอ” ใบหน้านั้นสลดสำรวมลง กระซิบมาทางเลโอ แล้วกำลังหันหลังจะเดินออกไป
“ ข้าคุยกับเลโอนิสเสร็จแล้ว เจ้ามีเรื่องอะไรก็คุยไปเถอะ สไปกา” ซีรีอุสพูดอย่างอ่อนโยน แล้วเดินออกไป สไปกาโค้งศีรษะลงเล็กน้อย ตามมารยาท
      สไปกา ( สไปท์ ชื่อที่เลโอนิสใช้เรียก) หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเลโอนิส โดยนิสัยแล้วจะมีนิสัยห้าวๆ กระโดกกระเดก ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่อีกมุมมองนึงเธอเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เวลาที่เธอทำตัวให้ดูเหมือนผู้หญิง ( ทั่วไป ) ชายทุกคนอาจต้องมาสยบอยู่แทบเท้าเธอก็เป็นได้ เธอเป็นเพื่อนกับเลโอมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซีรีอุสรักเธอเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง
“ เห็นพวกทหารบอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะมาชวนเจ้าไปดูยานลำใหม่ที่ประจำอยู่ทางเหนือน่ะ” สไปกาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น กำลังรอปฏิกิริยาตอบโต้ของเลโอนิส
“ จะมีสงครามอยู่แล้ว ทำไมเจ้ายังไม่ไปที่หลุมหลบภัยเหมือนกับคนอื่นๆ” เลโอนิสพูดเชิงตำหนิ สีหน้ายังคงวิตกกังวล
“ ข้าไม่ได้อ่อนแอเหมือนหญิงคนอื่นหรอกนะ ว่ายังจะไปรึป่าว” สไปกากอดอก ตอบด้วยเสียงขุ่นมัว เธอไม่ค่อยชอบให้เลโอนิสเปรียบเธอกับหญิงอื่น
“ ก็ได้ๆ ข้าลืมไปว่าเจ้าไม่ใช่ผู้หญิง สไปท์” เลโอนิสหยอก หัวเราะร่า แล้ววิ่งนำหน้าไป
“ นี่เจ้า ..กล้าว่าข้าเหรอ..เจ้าเลโอ” สไปกา วิ่งตามไล่หลังไป หัวเราะเล่นกันเหมือนเด็กๆ
ณ ที่โล่งห่างจากป้อมปราการไปทางทิศเหนือราว 200ไมล์  ยานสำรวจลำใหม่กำลังลอยคว้างอยู่กลางอากาศ มันยังอยู่ในช่วงทดสอบ โดยมีทหารคุมอยู่ข้างล่างประมาณ 50 นาย หนึ่งในนั้นคือ ออไลออน พี่ชายแท้ๆของสไปกา
“ เจ้าว่ามันเป็นยังไงมั่ง” ออไลออนเดินเข้ามาหาทั้ง 2 คน แล้วถามเลโอนิส
“ มันสวยมากเลยล่ะ” เลโอนิสกล่าวชมโลหะวัตถุสีดำขลับ เป็นเงา ดูแล้วเหมือนไข่มุกดำในรัตติกาล
“ เห็นมั้ยล่ะ ข้าถึงอยากชวนเจ้ามาดูยังไงล่ะ” สไปกากล่าวสายตายังคงจ้องอยู่ที่ยานลำใหม่
( อาจจะไม่ได้มาดูด้วยกันอีกแล้วก็เป็นได้) เธอรู้อยู่เต็มอกว่าสงครามกำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอ อยากอยู่กับคนที่เธอรัก ถึงแม้เขาจะไม่รักเธอ จนถึงวินาทีสุดท้าย
“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นเล่า” เลโอถาม เมื่อเห็นสไปกาเหม่อมองฟ้า สีหน้าแฝงไปด้วยความเศร้า
“เปล่าหรอก ข้าไม่เป็นไร ไปที่ทุ่งกันมั้ย” เธอยิ้มกลบเกลื่อน หันหลังเดินไป
( ทำไมสไปท์ถึงต้องเก็บไว้คนเดียวทั้งที่เราไม่เคยปิดบังอะไรกัน ) เลโอนิสสังสัยแต่ไม่อยากถามอะไรให้เธอรำคาญใจจึงเงียบไปเฉยๆ
...ทันใดนั้น...เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นจากป้อมปราการ เสียงนั้นดังไปทั่วราชอาณาจักร ทั้ง เลโอนิส สไปกา และเหล่าทหารของออไลออน รีบมุ่งหน้ากลับไปยังปราการ
“ ท่านพ่อ .นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เลโอนิสวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามายังห้องควบคุม พร้อมกับสไปกาที่ดูตื่นตระหนกไม่แพ้กัน
“ ในไม่ช้าชอล่าจะมาถึงที่ดาวเรา ..แต่ข้าให้ทหารปิดกั้นสนามรบกับดาวเราไว้แล้ว  ไม่รู้ว่าจะต้านได้นานเท่าไหร่” ซีรีอุสตอบ ใบหน้าที่มีริ้วรอยนั้นเคร่งเครียด
“ ทุกคนอยู่ในที่ปลอดภัยรึยัง” สไปกาโพร่งขึ้นมา ซีรีอุสจึงหันกลับมามองอย่างแปลกใจ
“ ทุกคนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ..แต่ทำไมเจ้ายัง” ซีรีอุสสงสัยว่าทำไมสไปกายังอยู่ที่นี่
“ ข้าจะไปรบกับเลโอนิสด้วยเช่นกัน” เธอพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง
“ ข้ารู้จักการใช้อาวุธดีพอๆกับเลโอนิส” สไปกาย้ำอย่างหนักแน่น เธอกำมือแน่น สีหน้าดูมุ่งมั่น
“ ไม่ได้นะ ยังไงเจ้าก็เป็นผู้หญิง ...เจ้า  ..เจ้าไม่ควรออกรบมันอันตรายเกินไป” เลโอนิสพูด
รัวเร็ว เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่า สไปกาคิดอะไรอยู่ เขาเพียงแต่ต้องการให้เธออยู่รอดปลอดภัย สไปกาหันกลับมาจ้องหน้าเขา กำลังจะเปิดปากพูด แต่ซีรีอุสก็พูดขึ้นมาก่อน
“ เจ้าช่างกล้าหาญไม่แพ้ชายคนใดเลย ข้าไม่สามารถห้ามเจ้าไว้ได้หรอกนะ เว้นเสียแต่เจ้าจะห้ามตัวเจ้าเอง” ซีรีอุสกล่าว เขาอยากให้เธอเลือกที่จะปกป้องตัวเองมากกว่า แต่อีกใจนึงเขาก็คิดยกย่องความกล้าหาญของเธอ ( เจ้าสมควรที่จะเป็นลูกสาวข้าจริงๆ)
“แต่ท่านพ่อ
” เลโอนิสยังคงพยายามโต้แย้งกับการกระทำของสไปกาอยู่ แต่ซีรีอุสยกมือปราม แล้วสั่งให้ทั้ง 2 คนไปเตรียมตัวให้พร้อม
เลโอนิสจึงจำใจที่จะต้องทำตามคำสั่ง
( เฮ้อ..เจ้าคงรักเลโอมากสินะ แต่เจ้ารู้มั้ยว่าลูกข้าก็รักเจ้ามากเช่นกัน) ซีรีอุสถอนหายใจ แล้วเดินไปที่กองบัญชาการเพื่อเตรียมความพร้อมของทหารทุกเหล่าทัพ
-ในห้องเก็บศาสตราวุธ- เลโอนิส กับสไปกากำลัง หาอาวุธที่จะนำติดตัวไปในการรบ ตอนนี้ทหารทุกคนอยู่ที่สนามรบ เพื่อเตรียมรับมือกับ
แอนแทรีสแล้ว
“ ทำไมเจ้าต้องออกรบด้วย” เลโอนิสยังคงถามสไปกา น้ำเสียงไม่พอใจ หลังจากที่เงียบมาตลอดทาง
“ เราไม่เคยห่างกันเกิน 200ไมล์เลยนะ แล้วเรา ก็ไม่เคยทิ้งกันให้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง เจ้าลืมคำที่เราเคยสัญญากันแล้วเหรอ” เธอพูดเต็มเสียง โดยไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตา
( ก็จริงอยู่ที่ข้าสัญญากับเจ้าว่า “ จะไม่มีวันทิ้งกัน” แต่คราวนี้ข้าไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้าจริงๆซะแล้วล่ะ) เลโอนิสนิ่งเงียบ เขายังคงจำคำสัญญานั้นได้ดี
    ณ สนามรบนอกดาวมาร์ มีพื้นเป็นกระจกใส ทอดยาวออกไปหลายร้อยไมล์ใต้กระจกนั้นเป็นห้วงจักรวาลสีดำทะมึน อาศัยเพียงแสงสลัวจากกลุ่มดาวเล็กๆ และไฟสีส้มจากยานของแต่ละฝ่าย กลิ่นไอของสงคราม และความน่าสะพรึงกลัวกำลังคืบคลานเข้ามา
และบัดนี้สงครามนั้นก็เกิดขึ้นระหว่าง ดาวมาร์ และดาวแอนแทรีส เสียงโห่ร้องดังระงม เป็นเสียงที่มีแต่ความโกรธแค้น และความเจ็บปวดของทั้ง 2 ฝ่าย
สไปกา และเลโอนิส สวมชุดนักรบที่รัดกุม วิ่งมาอยู่ที่หน้าประตูสู่สนามรบ เลโอนิสกุมมือสไปกาไว้แน่น
“ เจ้าคิดดีแล้วเหรอ” เขาถามเธอ สีหน้าดูวิตกกังวล มือทั้ง 2 ที่เย็นเฉียบยังคงเกาะเกี่ยวกันไว้แน่นราวกับว่าจะไม่ปล่อยให้กันและกันจากไป
“ อืม ..ข้าจะไม่เสียใจเลยถ้าจะต้องตาย  ถ้าหากยังมีเจ้าอยู่” ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จนกลายเป็นเสียงกระซิบ ทั้ง 2 คนก้าวเข้าสู่สนามรบ เลโอนิสรู้สึกว่ามีสายลมที่อบอุ่นพัดผ่านใบหน้าเขาไป ตอนนี้เขาและสไปกาอยู่ในสนามรบเต็มตัวแล้ว
“ ไปลุยพวกมัยเลย” เลโอนิสและสไปกามองหน้ากัน พูดขึ้น แล้ววิ่งออกไปรบเคียงคู่กัน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เลโอนิส กับสไปกา กวัดแกว่งอาวุธต่อสู้กับศัตรูอย่างชำนิชำนาญ ทั้ง 2 คน ยังคงต่อสู้ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะอยู่ข้างๆกันแล้วนี่ ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ถึงตอนนี้ต้องตายก็ไม่เสียดายอะไรทั้งนั้น
“โอ๊ย.” เสียงสไปกาดังขึ้น ทหารคนหนึ่งล้มลงมาโดนเธอ เขาถูกทหารของแอนแทรีสทำร้าย สไปกาหันกลับไปมอง คนๆนั้นคือ..
“ ออไลออน..” เธอร้องอย่างตกใจ พี่ของเธอกำลังจะสิ้นใจ เสียงเธอนั้นทำให้เลโอนิสวิ่งกลับมาพยุงออไลออนไว้
“ ...ป..ปกป้อง..น้อง..สาวของข้า..” ออไลออน จับมือเลโอนิสไว้แน่น เลือดอุ่นๆ ซึมผ่านออกมาจากบาดแผล เขากระแอมออกมาเป็นคำๆ ซึ่งเลโอนิสได้ยินอย่างชัดเจน พยักหน้ารับคำ
ออไลออนทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหว ...เขาสิ้นใจกลางสนามรบในห้วงจักรวาลที่มืดมิดนั้น
“..........” สไปกานิ่งเงียบ ตัวเธอสั่นน้อยๆ ในดวงตาวูบไหว เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ กำมือแน่นต้านทานกับความอ่อนแอในตัวเธอ ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้น
“ ปล่อยเขาไว้ที่นี่แหละ เลโอ....ไปเถอะก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป” เธอสูดหายใจลึก ผมสีน้ำตาลปกปิดสายตาที่ซ่อนความปวดร้าวไว้ ภายใต้ดวงตาที่แข็งกร้าวอยู่เป็นนิจ แต่ทำไมบัดนี้แววตาคู่นั้นดูอ่อนแอลง
“ สไปท์...” เลโอนิสรู้ดีว่าเธอเจ็บปวดขนาดไหน แต่เขาก็ลุกขึ้นตามที่เธอบอก ทั้ง 2 คนกลับเข้าในสนามรบอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่กดดันมากกว่าเดิม ( ใช่..ก่อนที่มันจะสายไป
ทหารของดาวแอนแทรีสเริ่มลดน้อยลง แต่ดาวมาร์ก็เช่นกัน ทหารเริ่มอ่อนกำลังลงแต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนที่ถอดใจ แต่แล้วเลโอนิส กับ สไปกาก็เข้ามาถึงตัวของชอล่า ที่กำลังปล่อยลำแสงที่ทรงพลังออกมาทำลายกองกำลังของดาวมาร์
“ นั่นมัน...” สไปกาตาเบิกโพรง เธอไม่เคยเห็นใครที่มีหน้าตาอัปลักษณ์เฉกเช่นเจ้านี่เลยเป็นเหมือนฝันร้าย ความขยะแขยง ที่จะสัมผัส
“ สไปท์ ...มาทางนี้” เลโอนิสฉุดมือเธอให้มาหลบอยู่ที่ฐาน เขาหายใจหอบ
“ ยังไง..เจ้าก็หลบที่นี่ละกัน มันน่าจะปลอดภัยกว่า...อยู่ที่นี่จนกว่าข้าจะกลับมานะ” เลโอนิสจ้องหน้าสไปกา เขาไม่อยากให้เธอต้องออกไปต่อสู้อีกแล้ว เธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว
“ ทำไมล่ะ...” เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตา ความแข็งแกร่งยังคงผ่านออกมาจากสายตาอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อสบตากับเลโอนิสเธอก็ยอมสงบแต่โดยดี
“ สัญญานะว่าจะกลับมา” สไปการั้งแขนของเลโอนิสไว้ เลือดในร่างกายเย็นเฉียบ ความหวาดกลัวย่ำกลายเข้ามาเมื่อไม่มีเลโอนิสอยู่
“ ข้าสัญญา” เลโอตอบอย่างอ่อนโยน ลูบที่ผมสีน้ำตาลที่นิ่มดุจเส้นไหม อย่างอ่อนโยน แล้วก็วิ่งออก เขาโล่งใจขึ้นมากเมื่อสไปกาอยู่ในที่ๆปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่า สไปกาเดินตามเขามา
( ขอโทษนะ เลโอ ข้าไม่สามารถทิ้งเจ้าให้ไปรบคนเดียวได้ ) ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด หากชีวิตนี้ต้องดำเนินต่อไปโดยไม่มี...เลโอนิส...
เลโอนิสต่อสู้ร่วมอยู่กับเหล่าทหารของดาวมาร์ ระหว่างที่ สไปกาต่อสู้อยู่รอบนอก โดยที่
เลโอนิสไม่รู้เลย เลโอนิสผละตัวออก เขาเสียหลัก...ล้มลง แอสเตอรอยด์ทหารของชอล่าจอมโฉดเดินเข้ามา ตอนนี้อาวุธของเลโอนิส
หลุดมือไปแล้ว ...ไม่มีทางที่จะต่อสู้....เลโอนิสถอยกรูออกห่างทหารสวะนั่น...แต่มันกำเพิ่มความเร็วขึ้นจนมาถึงตัวเขา
( ขอโทษนะสไปกา...ที่ข้าไม่รักษาสัญญา..) เจ้าทหารโสมมเงื้ออาวุธขึ้น แล้วฟาดลงมาอย่างแรง ...แรงพอที่จะทำให้คนที่แข็งแรงคนนึงขาดเป็น 2 ท่อนได้
...แคร้ง... เสียงของอาวุธนั่นกระทบกับโลหะแข็งอย่างแรง สไปกานั่นเองเธอเอาเกราะเหล็กจากร่างที่ไร้วิญญาณมารับอาวุธของ
แอสเตอรอยด์ เธอล้มลงเพราะแรงกระแทกที่รุนแรงนั้น เกราะนั้นแตกหักไม่มีชิ้นดี ..เธอบาดเจ็บ... เลโอนิส..ลุกขึ้นได้ทันแล้วหยิบปืนลำแสงของสไปกามา ยิงผ่านทะลุกลางลำตัวของแอนเตอรอยด์ ...มันสิ้นใจทันที...
“ สไปกา....ทำไมเจ้าไม่อยู่ที่นั่น” เลโอนิสเข้ามาพยุงร่างเธอไว้..น้ำเสียงสั่นเครือ...เขาอุ้มเธอมาอยู่ที่ฐานเดิมที่ปลอดภัยอีกครั้ง สไปกาหายใจถี่
“ เพราะเจ้า..ไม่ปลอดภัย” เธอพูดออกมา ..เธอยังคงอดทนต่อความปวดร้าวภายในเลโอนิสรู้สึกว่าเลือดในร่างกายเย็นยะเยือก ตาพร่ามัว...เขาลุกขึ้น..
“ รอนะ ..สไปท์” เขารีบกลับไปที่สนามรบ  สไปกานั่งนิ่ง ตอนนี้เธอไม่อาจจะลุกไปช่วย
เลโอนิสได้อีกแล้วเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ถึงอยากจะไป แต่ร่างกายของเธอ...ไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดไว้ได้..
( ทำได้แต่เพียงหายใจทิ้งไปเรื่อยๆเท่านั้นสินะ..) สไปกา คิดเธอเงยหน้าขึ้นมองฟ้าสีดำที่มืดมิด..หม่นหมอง ..ทำได้เพียงภาวนาให้เลโอนิส
กลับมาอย่างปลอดภัย
เลโอนิส กำลังเสียสติ เขาเดินฝ่าเข้าไป ฆ่าทหารแอนแทรีสอย่างเลือดเย็น ในหัวสมองมีแต่ความแค้นที่อัดแน่น มีแต่ภาพความเจ็บปวดของสไปกา ในที่สุดเขาก็เข้าไปถึงตัวของชอล่า สู้รบร่วมกับเหล่าWhite Dwarf ต่อต้านกลุ่ม Black hole อย่างสุดกำลัง ในที่สุดชัยชนะกำลังจะมาถึง.....แต่ก็ต้องตามมาด้วยเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด....
“ สไปท์ ..อดทนไว้นะ” เลโอนิสอุ้มร่างที่ดูบอบบางกลับเข้าไปในดาว ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงสู้กันอยู่ แต่ดาวมาร์ ยังคงได้เปรียบอยู่
“ ข้าขอโทษ...ข้าคง..ต้องทิ้งเจ้าไปจริงๆ..” เสียงที่อ่อนหวานกระซิบขึ้น เธอรู้ดีว่าคงจะไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเธอ..เพียงแต่ให้คนที่เธอรักได้อยู่ต่อไป..น้ำใสๆ..อุ่นๆ...ไหลลงมาจากดวงตาที่อ่อนโยน เธอกำลังจ้องเข้าไปในตาของเลโอนิสที่พร่ามัว
“ .......เจ้า...ทำไม..ปกป้องข้า..” เลโอนิส เสียงสั่น พูดไม่เป็นประโยค เขาโอบกอดร่างของเธอไว้แน่น ร่างกายของเลโอนิสสั่นเทา น้ำตาเริ่มซึมออกมา เขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยห่างไกลกันมากอย่างนี้ทั้งๆที่กายอยู่ใกล้กัน
“ ..ข้าอยาก...บอกเจ้ามา..นานมากแล้ว..แต่ข้าไม่เคยเข้าใจตัวเอง...ไม่เข้าใจว่า...ทำไมตา..ถึงเป็นหน้าต่าง...ของหัวใจ..ข้าหลอก ..ความรู้สึกตัวเองใตลอด..ว่าเจ้าเป็นเพื่อนที่ข้ารัก....จนวันนี้ข้าเข้าใจ..ความหมายของมันแล้ว...ถ้าเจ้าจ้องตาข้า..แล้วเจ้าจะรู้” สไปกายิ้มอย่าง
อ่อนโยน ตอนนี้เธอดูสวยกว่าหญิงใดทั้งหมด..นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธอ
“ เจ้า..รัก..ข้า” เลโอนิสพูดออกมาอย่างชัดเจน น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคมเข้ม
“ ทำไมเจ้าไม่บอกข้า...ไหนเจ้าว่าสัญญากันแล้ว...ว่าจะไม่ทิ้งให้ข้าเผชิญปัญหาแต่เพียงลำพัง ..ตอนนี้ข้ามีปัญหา...อย่างใหญ่หลวง...
ในใจข้า ..ทำไมเจ้าไม่ช่วยข้า”
“ เจ้า..มีปัญหา..” สไปกากล่าวอย่างงงๆ หายใจถี่ขึ้น
“ ใช่ ข้ามีปัญหา....ปัญหาที่..คนที่ข้ารัก..กำลังจะผิดสัญญากับข้า” น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด กอดหญิงสาวแน่นขึ้นอีก
“ เจ้า...ข้าดีใจนะ ..แต่ข้าอยาก...ให้เจ้าอยู่ต่อไป..” เธอยิ้ม นิ้วเรียวสวยปาดน้ำตาของเลโอนิส ออกไป...จากร่างที่เคยมีชีวิตชีวา บัดนี้ กลับกลายเป็นร่างที่นิ่ง..ไร้วิญญาณไปแล้ว..
“ สไปท์......สไปท์” เลโอนิส ตะโกนสุดเสียง โอบกอดร่างของหญิงสาวที่เคยมีชีวิตไว้แน่น
เสียงโห่ร้อง ดังขึ้น ดาวมาร์ได้ชัยชนะกลับมา แต่ทว่าชายที่กล้าหาญคนหนึ่งในสนามรบ ไม่ได้ดีใจอะไรกับชัยชนะนี้เลย ชัยชนะที่ได้มา
( ไม่สามารถแลกกับชีวิตของเธอได้) เลโอนิสนิ่งเงียบไป
    เลโอนิสยังคงต้องทนอยู่กับความเป็นจริง เมื่อไม่มีสไปกา แต่คำที่เธอทิ้งไว้ให้เป็นเหมือนสิ่งที่เติมชีวิตของเขาให้ก้าวเดินต่อไป
( ข้าอาจจะต้องก้าวเดินไปเพียงคนเดียว...แม้จะมีอุปสรรค...ก็จะต้องข้ามไปให้ได้...เจ้าเห็นไหม ..สไปท์  ข้าจะอยู่ต่อไปเพื่อเจ้า..
ที่รักของข้า..)
The end
( เพียงขอให้เวลาหยุดลงซักนิดเท่านั้น...อยากปกป้องเธอเอาไว้...ความเจ็บปวดที่ยากจะรับได้...ดังนั้นเหมือนกับเดินเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง...ช่วงเวลากำลังหมดลงเรื่อยๆ....โอบกอดความทรงจำที่เต็มไปด้วยน้ำตา...ตอนนี้อยากจะบอกแก่เธอว่า...รัก..เธอ.. โลกใบใหม่รออยู่ตรงหน้า..จะไม่ลืมเธอ...ทั้งความรัก...ความฝัน...และความทรงจำ...วันเวลาที่ทับถม...ฤดูกาลผ่านพ้นไป...จะเก็บเอาไว้ในใจนี้...
...You can do it...)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น