[YAOI] ลาเต้ที่รัก (เรื่องสั้น) - [YAOI] ลาเต้ที่รัก (เรื่องสั้น) นิยาย [YAOI] ลาเต้ที่รัก (เรื่องสั้น) : Dek-D.com - Writer

    [YAOI] ลาเต้ที่รัก (เรื่องสั้น)

    พี่ครับ ลาเต้ไม่หวาน แก้วหนึ่งครับ...

    ผู้เข้าชมรวม

    394

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    394

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 พ.ย. 58 / 10:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    พี่ครับ ลาเต้ไม่หวาน แก้วหนึ่งครับ...

    ครับ ลาเต้ไม่หวาน หนึ่งที่ครับ ...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ลาเต้ที่รัก..

       

      “พี่ครับ ลาเต้เย็น 1 แก้ว  ไม่หวานนะครับ” หนุ่มหน้าตี๋ สั่งออเดอร์กาแฟไปพลาง ตาก็มองเมนูที่ติดอยู่เหนือหัวของเขาไปพลาง ก่อนจะหันกลับไปหาที่นั่งในร้าน ซึ่งขณะนี้ ไม่มีใคร เพราะใกล้เวลาปิดร้านแล้ว

       

      “ลาเต้เย็น ไม่หวาน รับทราบครับ”  เสียงห้าว ๆ ของคนชงกาแฟตอบรับ หลังจากยิ้มให้ และหันหลังกลับไปชงกาแฟตามออเดอร์ที่ได้รับมา

                                                                                                                                           

      ร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านนี้ ตกแต่งประดับประดาในแบบโมเดิ้ลสไตล์ มีต้นไม้ปลูกในกระถางทรงทันสมัยวางประดับไว้บ้าง แขวนไว้ติดกับผนังบ้าง มีที่ชุดที่นั่งแบบ 2 คนนั่ง  4 ชุด โดย 2 ใน 4 ชุดจะตั้งอยู่ภายนอกร้าน  และชุดใหญ่ 4-5 คนนั่ง 1 ชุด  ตรงเคาน์เตอร์กาแฟ สามารถนั่งแบบบาร์ได้อีก 2 ที่นั่ง  ในร้านติดเครื่องปรับอากาศ

       

      เหตุที่ร้านเล็ก ๆ นี้เปิดและคงอยู่ได้เพราะนิสัย รสชาติ สำคัญที่สุดก็คือหน้าตาของเจ้าของร้าน!!!

       

      ปลั๊ก.. ชายหนุ่มเจ้าของร้านหน้าพิมพ์นิยม ฝีมือการชงกาแฟได้ใจลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ เก้ง กวาง ชะนี หนุ่มออฟฟิศ  แต่ตัวปลั๊กเองซะอีกที่กลับไม่เคยสนใจกับคำชมเหล่านี้ เขายังคงตั้งใจชงกาแฟเพื่อลูกค้าที่รักต่อไป

       

      “ลาเต้เย็น ได้แล้วครับ” ปลั๊กขานเรียกเจ้าของลาเต้เย็น ให้มารับตามที่ได้ออเดอร์ไว้ เขายังไม่รู้ว่าเจ้าของลาเต้เย็นแก้วนี้เป็นใคร เสียงไม่คุ้น น่าจะเป็นลูกค้าใหม่

       

      ปลั๊ก ชะโงกหน้ามองซ้ายมองขวา ก็เห็นแต่ผู้ชายคนหนึ่ง ดูอายุรุ่นน้องกว่าเขา นั่งหันหลังให้เขา  “คุณครับ” ชายผู้นั้นไม่หันกลับมา ปลั๊กตัดสินใจเดินออกไปนอกเคาน์เตอร์ มองออกไปที่หน้าร้านก็ไม่พบใคร เพราะนี่เป็นช่วงเย็น ซึ่งใกล้จะได้เวลาปิดร้านแล้ว

       

      ไม่มีใครนอกจากชายคนนี้ ที่ยังคงนั่งหันหลังให้เขา  ปลั๊กตัดสินใจเดินถือลาเต้เย็นไปหาชายผู้นี้   เมื่อเขาเดินไปถึง เขาสะกิดชายผู้นี้เล็กน้อย ก่อนจะยื่นกาแฟให้ “ลาเต้เย็นครับ คุณสั่งใช่ไหม”

       

      แต่ปรากฏว่า ชายผู้นั้นหันกลับมาพร้อมกับน้ำตา  ปลั๊กตกใจ  “เป็นอะไรครับคุณ”  “ไม่เป็นไรครับ ขอโทษ ๆ ลาเต้เย็นของผมเอง” ชายผู้นั้นรีบปาดน้ำตา และรับแก้วกาแฟจากมือปลั๊กไว้  ปลั๊กนั่งลงข้าง ๆ เขา

       

      “คุณเป็นอะไรรึเปล่า” ปลั๊กคะยั้นคะยอถาม

      “ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ” เขาปฏิเสธ แล้วควักเงินในกระเป๋าเสื้อส่งให้ จำนวนพอดีกับค่ากาแฟ  ก่อนจะลุกพรวดพราวแล้วเดินออกไปจากร้าน โดยทิ้งกาแฟลาเต้แก้วนั้นไว้

      “คุณ ๆ กาแฟล่ะ” ปลั๊กส่งเสียงเรียก แต่ช้าไปเสียแล้ว ชายผู้นั้นจ้ำอ้าวออกจากร้านไปโดยชำระเงินค่ากาแฟ แต่ไม่เอากาแฟที่สั่งไป   ปลั๊กงงกับเหตุการณ์นี้ และคิดว่า ถ้ามีโอกาสเจออีกสักครั้งก็คงจะดี

      +++++

       




      ห้าวันผ่านไป

       

      ปลั๊ก ลืมเรื่องของชายคนนั้นไปแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกค้าไม่ค่อยมี เพราะตามปกติลูกค้าของเขาจะเป็นลูกค้าที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ทั้งสิ้น  วันนี้เขาจึงทำตัวสบาย ๆ เพราะลูกค้าก็ยังคงมีบ้าง สำหรับบางคนที่ต้องทำงานวันเสาร์ยังสามารถหากาแฟร้อน-เย็นในราคาที่รับได้และอร่อยที่ร้านของปลั๊กแห่งนี้

       

      ขณะที่ปลั๊กกำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์กาแฟที่หลังเคาน์เตอร์  มีเสียงเปิดประตูเข้ามาในร้าน  และเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์

       

      “พี่ครับ... ลาเต้เย็น 1 แก้ว  ไม่หวานนะครับ”  ปลั๊กถึงกับชะงัก คำสั่งซื้อนี้ แม้จะฟังแล้วไม่น่าแปลกเพราะลูกค้าทั่ว ๆ ไปก็สั่งกันแบบนี้เยอะแยะ  แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงักได้คือ เจ้าของเสียงต่างหาก

       

      ปลั๊กหันหน้ากลับมา ก็ประจันหน้ากับลูกค้าพอดี ตาจ้องตา ทำเอาปลั๊กหน้าแดงทันทีโดยไม่รู้ตัว  เจ้าของสายตาคู่นั้น คือลูกค้าที่สั่งกาแฟลาเต้เย็น แล้วก็ไม่เอาไปดื่ม ทิ้งไว้ที่ร้านเขาในวันนั้นเมื่อหลายวันก่อน  ตากลมโต ภายใต้เปลือกตาสองชั้นแบบหลบใน หน้าขาว ๆ อมเหลืองแบบเอเชีย ทรงผมสั้นเรียบกลมไปทั้งหัว ปากแดง ๆ แบบนั้นแหละ ที่ทำให้ปลั๊กหน้าแดงในทันที

       

      “วันนั้น น้องไม่เอากาแฟถือไปด้วย” ปลั๊กพูดแค่นี้  ชายผู้นั้นก็ยิ้มพร้อมกับนิ้วชี้จุ๊ปาก ส่ายหัวไปมา

      “ไม่พูดถึงวันนั้นนะครับ...เอาวันนี้ก่อน...ผมหิวกาแฟแล้ว” ตัดบทกันง่าย ๆ แบบนี้ ปลั๊กต้องรีบหันกลับไปชงกาแฟเย็นตามที่สั่งอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้เห็นว่าหลังจากนั้น ชายผู้นั้นนั่งยิ้มมองเขาทำกาแฟอยู่อย่างตั้งใจ


      ไม่นาน ปลั๊กหันหน้ากลับมาพร้อมกาแฟ  แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไร ชายหนุ่มลูกค้าผู้น่ารัก ซึ่งบัดนี้นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ เอามือเชยคางไปพราง อีกมือหนึ่งก็เตรียมรับกาแฟเย็นจากมือของปลั๊ก


      “ผมชือเต้... ชอบลาเต้ ไม่หวานครับ” ก่อนจะรับมาจากมือของปลั๊กและดูดพรวดเดียว ลาเต้เย็นหายไป 1/3 ของแก้ว  แล้ววางลง หลับตา ยิ้มกริ่ม “อร่อยสุด ๆ”


      “เต้”  ปลั๊กย้ำคำ  “ครับ เต้” เต้ย้ำซ้ำอีกครั้ง

      “พี่ชื่อปลั๊ก”  ปลั๊กแนะนำตัวบ้าง เต้ยิ้มรับ ก่อนจะเอามือซ้ายล้วงกระเป๋าหยิบแบงค์ 100 ขึ้นมา 1 ใบ

      “ค่าลาเต้ครับ”  เต้ส่งเงินให้ปลั๊ก แต่ปลั๊กส่ายหน้าไม่รับ เอามือดันแบงค์กลับไป

      “ไม่ต้องนะ… วันก่อนไม่เอาไปด้วย วันนี้ถือว่า เป็นลาเต้ในวันนั้นละกัน” ปลั๊กบอกเหตุผลที่ไม่รับเงิน ส่วนเต้ก็ลังเลสักพัก ก่อนจะเก็บเงินเข้ากระเป๋าไป “ขอบคุณครับ”


      ปลั๊กเห็นว่าวันนี้ไม่มีลูกค้ามากนัก โดยเฉพาะสาย ๆ แบบนี้ เพราะลูกค้าเข้างานหมดแล้ว จึงเอ่ยปากชวนเต้ให้นั่งเล่นที่ร้านก่อน ซึ่งเต้เองก็ไม่ปฏิเสธ คว้ากาแฟได้ก็ลงไปนั่งเล่นที่โต๊ะชุดเล็ก ส่วนปลั๊กก็ชงกาแฟสำหรับตัวเอง ลงมานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วย


      วันนี้เป็นวันแรกที่ปลั๊กได้เห็นเต้ชัด ๆ  บุคลิกท่าทางของเต้ ถ้ามองผิวเผิน จะเหมือนเด็กนักเรียน ม. ปลาย แต่ในขณะนี้เขาได้นั่งต่อหน้าชัดเจน  เต้น่าจะเป็นนักศึกษามากกว่า ด้วยท่าทางเฉลียวฉลาด หุ่นพอดี ๆ ผิวขาว หน้าใส แบบนี้ เขาเองซะอีกที่รู้สึกว่า มโน ไปเอง

      “พี่เป็นอะไรครับ… ตาค้างเลย…” เต้เอื้อมมือมาปัดไปปัดมาตรงหน้าของปลั๊ก ซึ่งปลั๊กเผลอมองหน้าของเต้แล้วคิดมโนไปต่าง ๆ นา ๆ  พอรู้ตัว ก็รีบขอโทษ ส่วนที่ปิดไม่ได้คือ ปลั๊กหน้าแดงอีกรอบด้วยความเขิน


      “พี่เป็นไรอ่ะ..หน้าแดงเลย”  เต้แสร้งถามอาการของปลั๊กที่หน้าแดงขึ้นมาชัดเจน  เจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมกันลุกขึ้นยืน และเดินเลี่ยงไปทางเคาน์เตอร์  ส่งผลให้หนุ่มเต้ นั่งหัวเราะเบา ๆ ด้วยความขบขันกับอาการที่ปลั๊กแสดงออกมา


      เต้นั่งดื่มกาแฟอยู่สักพัก ก็ลุกขึ้น เขาเดินเข้าไปตรงที่ปลั๊กก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หลังเคาน์เตอร์  ก่อนที่จะอำลา เนื่องจากเต้จะต้องไปธุระให้คุณแม่

      “พี่..ปลั๊ก ครับ.. ไว้ผมมาใหม่นะ  นี่เบอร์โทรผม…” เต้พูดจบ ก็วาง Post it เล็ก ๆ ไว้ที่เคาน์เตอร์  เขาหันหลัง เปิดประตู และเดินหายไปบนท้องถนน  โดยไม่ได้หันกลับมามองว่าปลั๊กจะสนใจเบอร์โทรศัพท์ของเขาหรือไม่


      Post it เจ้ากรรม! … ปลิวไปตามแรงลมเป่าจากเครื่องปรับอากาศ…  มันปลิวลงไปตรงช่องเก็บหลอดกาแฟ !! โดยที่ปลั๊กไม่ทันได้เห็น  เมื่อเขาเสร็จธุระ หันกลับมา ก็ไม่พบเบอร์โทรศัพท์ของเต้แล้ว “ไหนล่ะเบอร์โทร?”


      -----------------------------------


      หลังจากวันนั้น  เต้ก็ไม่ได้มาที่ร้านกาแฟของปลั๊กอีกเลย  ปลั๊กพยายามไม่คิดอะไรมาก นึกเสมอว่า เต้เป็นเพียงลูกค้ากาแฟจอมทะเล้นน่ารักคนหนึ่งของเขา  ซึ่งในความเป็นจริง เมื่อนึกถึงหน้าเต้ที่ไร เขาจะเกิดอาการคิดถึง “ฟุ้งซ่านไปแล้วเรา”


      -----------------------------------


      1 เดือนผ่านไป… เย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ลูกค้าหมดแล้ว  ปลั๊กกำลังทำความสะอาดชุดเก้าอี้ และยกขึ้นเก็บบนโต๊ะ เป็น ปกติทุกครั้งหลังเลิกขาย  ส่วนที่เหลือที่เขาต้องทำคือทำความสะอาดเคาน์เตอร์ทั้งหมด   เขาเก็บทุกอย่างทำความสะอาด  ไม่ว่าจะเป็น แก้วกาแฟ เครื่องทำกาแฟ นม ฯลฯ จัดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย และจุดสุดท้ายที่เขาต้องทำขึ้น เทหลอดกาแฟออกมาเก็บใส่ถุง ซึ่งเขาต้องยกกล่องเก็บหลอดกาแฟขึ้น ขณะนั้นเอง Post it สีเหลืองใบหนึ่ง ก็ปลิวลงมาตกบนเคาน์เตอร์ ปลั๊กก้มลงมองด้วยความประหลาดใจ


      “Post it” เขาอุทานเบา ๆ ก่อนจะรีบวางกล่องลง และเพ่งมองข้อความในนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

      “อย่าลืมโทรหาผมนะ ที่ xxx-xxx-xxxx” เมื่ออ่านจบ ปลั๊กแทบจะอยากตีหัวตัวเองจริง ๆ เขาทำความสะอาดเจ้ากล่องใบนี้ทุกวันมาตลอดเดือน Post it ใบนี้ทำไมเพิ่งจะร่วงลงมา


      ไม่รอช้า !!  ปลั๊กรีบกดหมายเลขตามที่ระบุใน Post it  


      ครั้งแรก.. สัญญาถูกปล่อยจนตัด  


      ครั้งที่สอง และครั้งที่สาม.. ยังคงไม่มีผู้รับสายเช่นเดิม  ปลั๊กเริ่มรู้สึกแย่ เขาผิดเองที่คิดว่าเต้ไม่ได้ให้เบอร์ไว้จริงตามที่ได้บอกไว้ จึงไม่ได้สนใจ มาถึงตอนนี้ ก็คงไม่แปลก ถ้าโทรไปแล้วเต้ไม่รับสาย

      ปลั๊กตั้งใจว่าจะต่อครั้งที่สี่ เป็นครั้งสุดท้าย… ถ้าเต้ไม่สาย เขาก็จะไม่ต่อสายเป็นครั้งที่ห้าแล้ว


      เขากด redial หมายเลขเดิมเป็นครั้งที่สี่   


      “อยากโดนเป็นเจ้าของ..อยากมีคนจับจอง… แม้ว่าได้ครอบครอง เจ้าของใจ ดวงนี้” ปลั๊กสะดุ้งสุดตัว เสียงเรียกเข้าดังลั่นอยู่ข้างหลังเขา  “ของใคร” เขารีบหันหลังกลับไปยังต้นเสียงเรียกเข้าโบราณ ๆ นี้  ก็พบกับหน้าตี๋ ๆ ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่


      “เฮ้... เต้” ปลั๊กคว้าแขนของเต้ไว้ เขาเกือบจะกอดเต้แล้ว ดีที่ยั้งมือไว้ทัน  


      เวลานี้ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน  ปลั๊กมีสีหน้ายินดีอย่างชัดเจน ในขณะที่เต้หน้าบึ้งตึง แต่ก็ไม่ขยับและปล่อยให้ปลั๊กจับแขนไว้อย่างนั้น


      “ทำไมเพิ่งโทรครับ” เสียงเต้ทำลายความเงียบ  

      “พี่เพิ่งเจอเบอร์โทรในนี้ เมื่อกี้นี้เอง” ปลั๊กทำหน้าสำนึกผิดพร้อมชู Post it แผ่นนั้นให้เต้ดู เต้ทำหน้าเบ้ก่อนจะพูดต่ออย่างอารมณ์เสีย “ผมให้ไปตั้งแต่วันนั้น พี่ไม่โทรมา ผมก็คิดว่า….” มาถึงตอนนี้ สีหน้าบึ้ง ๆ ของอาตี๋เต้ เปลี่ยนไปแล้ว เขาเงยหน้าขึ้น มองตรง ๆ มาที่ปลั๊ก ซึ่งปลั๊ก ก็ไม่หนีสายตานั้น


      “นายจะมาที่นี่ทุกวันได้ไหม เต้”  ปลั๊กเอ่ยปากถามขึ้น เขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป

      เต้ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะตอบคำถามของปลั๊ก “ผมมาได้ไม่ทุกวันหรอกครับพี่ปลั๊ก…”

      “ทำไมล่ะ”

      “ผมยังไม่ได้ทำงานนะพี่… ดื่มกาแฟทุกวัน ตังค์ช๊อตพอดี” ว่าแล้วก็ยิ้มแหย ๆ  ใช่ เขาตอบตรง ๆ เพราะเต้ยังเรียนอยู่ และยังไม่มีเงินเดือน

      “เรื่องแค่นี้เอง..  สำหรับเต้พี่ให้ฟรี ทุกวัน”ปลั๊กรีบออกตัวด้วยความดีใจ

      “ให้อะไรฟรีพี่..พูดเต็ม ๆ ดิ”  เต้แซวกลับ

      “อยากได้อะไรล่ะ” ปลั๊กโต้กลับ   เด็กอะไรปากดีจริง ๆ

      “ไม่บอก….” เต้ว่าแล้วก็แลบลิ้นใส่ 1 ที  แล้วรีบหันหลังกลับเตรียมวิ่ง  ปลั๊กเห็นดังนั้นจึงรีบจับตัวไว้ในอ้อมกอดทันที  เต้หยุดชะงัก และดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการกอดของปลั๊ก แต่ด้วยความที่ตัวเล็กกว่า จึงทำให้ดิ้นไม่หลุดซะที


      “อายุเท่าไร ตอบพี่มา” ปลั๊กถามข้างหูเต้เบา ๆ

      “19 แล้ว.. แต่ก็ไม่แก่เท่าพี่หรอก” เต้ตอบ แถมด้วยกวนประสาทปลั๊กอีกนิด


      ไม่ทันตั้งตัว  ปลั๊กหอมแก้มเต้ฟอดใหญ่ “โทษฐานงอน และดิ้นรน เมื่อยแขนไปหมด”

      “ขี้โกง ๆ พรากผู้เยาว์นะเนี่ยะ” เต้โวยวายพร้อมกับพยายามจะดิ้นให้หลุดจากวงแขน

      “19 ปี เกินผู้เยาว์แล้ว... “ อีกฟอด หลังจากพูดจบ  ตอนนี้เต้หยุดดิ้นแล้ว แต่พยายามหันกลับมาหาปลั๊ก

      ปลั๊กจับตัวเต้หันกลับมา แต่ยังคงอยู่ในวงอ้อมกอด มองตากัน

      “พี่ปลั๊ก...เต้ยังเด็ก เรียนไม่จบ พี่จะคบเด็กหรอ”  เต้ถามปลั๊กตรง ๆ

      “คบสิ… พี่ก็อายุไม่ขนาดว่าแก่นะ….”ปลั๊กท้วงบ้าง

      “เท่าไร”

      “25”

      “เก่งอ่ะ อายุน้อยแล้วเป็นเจ้าของร้านได้”  เต้ชื่นชมปลั๊กในเรื่องนี้

      “ร้านนี้เป็นของแม่พี่ ตอนนี่แม่พี่ให้พี่ดำเนินการต่อ .. ส่วนแม่ก็นาน ๆ มาที” ปลั๊กเล่าเรื่องสั้น ๆ ให้เต้ฟัง

      “อ้าว .. งี้ผมมาทุกวัน แม่ไม่สงสัยเหรอครับ” เต้เริ่มจะงอแงอีกแล้ว

      “ไม่ต้องห่วง.. เรื่องเต้ พี่เล่าให้แม่ฟัง ทุกตรง” ยิบตา 1 ที


      เต้เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มปลั๊กบ้าง ปลั๊กยิ้มเขิน ๆ ก่อนจะคลายอ้อมกอด แล้วจูงมือไปนั่งคุยกันที่โต๊ะตัวที่ใกล้ที่สุด
       

      ปลั๊กเล่าเรื่องตัวเขากับแม่ที่มาเปิดร้านนี้  ต่อมา แม่สุขภาพไม่ดี ปลั๊กจึงต้องมาดำเนินการทั้งหมดเอง และก็ต้องคอยดูแลแม่ที่บ้านในช่วงหลังจากเลิกขายกาแฟ  ส่วนเรื่องที่เขาชอบผู้ชาย แม่ไม่ว่า..แต่อยากให้เลือกคนที่ไม่มาหลอกลวง


      เมื่อฟังจบ เต้จึงเล่าเรื่องของเต้ให้ฟังบ้าง
       


      เต้เป็นลูกคนโต มีน้องสาว 1 คน ปกติที่เจอเต้ เพราะเต้จะมาต่อรถเพื่อกลับบ้าน  วันนั้นบังเอิญรู้สึกง่วง ก็เลยแวะเข้ามาหากาแฟแก้ง่วง และก็ได้พบกับปลั๊ก  โดยปกติเต้พักอยู่กับน้องสาวเท่านั้น เพราะบ้านจริงของเต้ อยู่เชียงใหม่ นาน ๆ จะกลับสักครั้ง   เรื่องที่เต้ชอบผู้ชาย น้องสาวรู้ดี และรับได้อย่างสบาย ๆ เพราะน้องสาวก็เป็นสาวทอม


      หลังจากที่ทั้งสองได้ทราบความเป็นมาของกันและกัน  เวลาก็ล่วงเลยไปกว่า 1 ทุ่ม  


      “ถ้าว่างเต้จะมาหาพี่บ่อย ๆ ได้ไหม” ปลั๊กเอ่ยขึ้นก่อนจะร่ำลากัน

      “เอางี้ ผมมาช่วยพี่ เอาป่าว แลกกับ ลาเต้เย็น”

      “ไม่หวานด้วย...ใช่ไหม… สบายมาก” ปลั๊กทวนคำสั่งซื้อของเต้


      “ผมเป็นลูกจ้าง ใช่มะเนี่ยะ” เต้ทำเสียงยียวนอีกครั้ง

      “ไม่ใช่..” ปลั๊กส่ายหัวปฏิเสธ

      “อ้าว แล้วเป็นไร” เต้ทำหน้าเจ้าเล่ห์

      “เป็นแฟนพี่ไง”  ปลั๊กตอบดื้อ  
       

      เต้ทำหน้ามึน ๆ ใส่ปลั๊กก่อนจะเอ่ยอย่างกวน ๆ ว่า “ผมบอกหรอ ว่าจะเป็นแฟนพี่” จบประโยคนี้  ได้ผลชะงัด  ปลั๊กหุบยิ้มทันที  “ล้อเล่นค๊าบบ.. เราดู ๆ กันไปก็แล้วกัน ผมก็ยังเด็กนะ…”

      “โอเค...พี่จะรอวันที่นายยอมเรียกพี่ว่าแฟน โอเคนะ”  


      เขาทั้งสองจับมือกัน มือตากัน…. ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกต่อจากนี้  แม้จะเร็ว แต่ถ้าใจตรงกัน เพียง 1 วันก็เกินพอ


      ทั้งสองช่วยกันเก็บร้าน และเริ่มต้นกับคำว่า “รัก”


                                                                   “ลาเต้ที่รักของผม”

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×