ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mermaid [rewrite]

    ลำดับตอนที่ #2 : ผู้แหวกว่ายใต้ผืนทะเล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 28
      0
      4 ก.ย. 48

    บนโลกอันกว้างใหญ่ของเรานั้นเป็นสถานที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ ซึ่งตั้งแต่มนุษย์ธรรมดาเดินดินไปจนถึงพวกที่มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ด้วยกันอย่างจอมเวทย์ ที่ได้อาศัยร่วมกันมานาน มียามสุขสงบสันติบ้าง มีความขัดแย้งเกิดสงครามฆ่าฟันล้มตายกันเป็นเบือบ้าง แต่ก็ยังอยู่ไม่ยักกะสูญหายไปไหนสักที (ช่างตายยากกันดีแท้ ยังกะพวกแมลงสาบเลย -_- !) แต่ใช่ว่าบนโลกจะมีมนุษย์ครอบครองอยู่เพียงเผ่าพันธุ์ เดียว

    ..............................

                                           ลึกลงไปในใต้สมุทรอันเร้นลับและกว้างใหญ่ไพศาล

                                                       ที่มนุษย์ยังมิสามารถเข้าไปถึง

                          สถานที่ที่มนุษย์ยังจินตนาการถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่นั่นด้วยความเกรงและหวาดกลัว

                                                          แต่สำหรับ “พวกเขา”

                                   บนพื้นปฐพีเป็นดินแดนเป็นดินแดนน่ารังเกียจไม่อยากเหยียบย่าง

                                 หากแต่ใต้ทะเลลึกนั้นเปรียบเหมือนสรวงสวรรค์ที่ไม่อาจหาใดเหมือน

                                          ณ นครใต้สมุทรที่ซึ่งเป็นที่พำนักของชาวเงือก

                                                            “ อควาเรียส! ”

        และต่อจากนี้เรื่องราวของสองชีวิตที่เหมือนอยู่ห่างคนละโลกได้มาบรรจบกัน อาจด้วยโชคชะตาหรือความบังเอิญ  แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ทำให้ทั้งสองโลกได้เกี่ยวพันและเรียนรู้กันและกันมากขึ้น

    ...............

                ชาวเงือกคือมนุษย์ที่.. ไม่ใช่สิ คงต้องเรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ต่างหาก ร่างกายท่อนบนของเงือกจะเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่สวยสมบูรณ์แบบชนิดที่มนุษย์ไม่อาจเทียบ ดุปุบก็รู้ปับเพราะเธอหรือเขาคนนั้นจะสวย เท่ เก๋ หล่อ ได้อย่างผิดมนุษย์มนา และยังมีนิสัยเฉพาะเผ่าพันธุ์อื่นเทียบไม่ได้

              เช่น      เรื่องความรักสวยรักงามและหลงตัวเองเป็นที่สุด กับอารมณ์ที่แปรปรวนได้เหมือนพายุเฮอริเคน !!

                      โดยเฉพาะเงือกสาวๆนั้น(ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ และสาวแก่) ที่อารมณ์ไม่เคยได้อยู่กับร่องกับรอยเลยได้สักวัน   เพราะอารมณ์ของเจ้าหล่อนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เกือบทุกๆวินาที

                      ส่วนเงือกชายก็ดีกว่าหน่อยที่ไม่ค่อยเจ้าอารมณ์ซักเท่าไร เป็นประเภทหล่อเลิศเพอร์เฟ็กแบบไม่มีที่ติ เป็นแบบชายในฝันของสาวๆ(ชาวมนุษย์นะ)

                                     เสียแต่ความเจ้าชู้ไม่บันยะบันยัง!

                     พวกเขาจีบผู้หญิงมากมายเหมือนเชยชมดอกไม้ริมทาง และเปลี่ยนทิ้งขว้างอย่างสิ้นเปลืองยิ่งกว่าใช้กระดาษชำระอีก !!!!

                   นั่นเป็นเหตุผลที่คนมาหลงเป็นสาวมนุษย์มากกว่าจะเป็นเงือกเพราะเงือกด้วยกันรู้ไต๋จนหมดไส้หมดพุงแล้วนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนิสัยของชาวเงือกแต่ละคนก็เป็นอย่างที่กล่าวมาข้างต้นมากน้อยต่างกันไปและนอกจากนั้นก็ยังมีพวกที่แปลกกว่าชาวบ้านอยู่เสมอไม่ว่าจะในสังคมไหน ไม่ว่าจะแปลกไปในทางที่ดีขึ้น หรือแย่หนักกว่าเดิมก็เถอะ เงือกบางคนอาจนิสัยดีเรียบร้อยผิดคาด แต่ก็อาจมีพวกบ้าที่พิลึกสุดขั้วได้เหมือนกัน!  ยังไงซะสิ่งที่แน่นอนในโลกนี้ก็คือความไม่แน่นอนอย่างที่เค้าว่ากันนั่นแหละ

    เงือกนั้นจะมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ประมาณห้าถึงสิบเท่าตามพลังเวทย์ที่มีอยู่ในตัวซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมากกว่ามนุษย์ธรรมดามาก แต่น่าเสียดายที่สามารถใช้ได้ดีเพียงเวทย์สายธาตุน้ำและใช้เวทย์ธาตุใกล้เคียงอย่างธาตุลมพอได้เท่านั้น อาจบอกได้ว่าเวทย์ธาตุน้ำไม่มีใครสู่ชาวเงือกได้  ในขณะที่นอกจากเวทย์น้ำและเวทย์ใกล้เคียงอย่างเวทย์ลมแล้วจะสามารถใช้เวทย์อย่างชำนาญสู้มนุษย์ที่พลังเวทย์ห่วยแตกสุดๆยังไม่ได้เลย  โดยเฉพาะเวทย์ไฟที่ไม่มีเงือกคนไหนกล้าแตะเพราะนอกจากจะใช้ได้ไม่ดีแล้วยังต้องเสียพลังชีวิตอย่างมากด้วยรวมถึงผลกระทบแย่ของพลังที่อาจอันตรายถึงชีวิตได้



    ถึงจะบอกว่า อควาเรียสนั้นเป็นนครใต้สมุทร แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วควรบอกว่ามันเป็นชื่อเรียก “สถานที่” ที่ชาวเงือกอาศัยอยู่มากกว่า

    อควาเรียสกินพื้นที่ใต้ทะเลลึกเกือบทั้งหมด เพราะบางที่เป็นสถานที่อันตราย อย่างวังน้ำวน หรือบางทีอาจเสี่ยงกับการพบเจอมนุษย์และถูกมนุษย์พบเจอ  พื้นที่นอกจากนั้นก็จะแบ่งได้เป็นสองเมืองใหญ่ๆ คือ มารีนบลู  และ โอเชี่ยนเพิร์ล  

    โอเชี่ยนเพิร์ล ปกครองโดยราชาไททัน ครอบครองพื้นที่ทะเลตะวันออกทั้งหมด

    มารีนบลู  ปกครองโดยราชินีมาเรียโอเน่และราชาโครนอสผู้ซึ่ง  ครอบครองพื้นที่ทะเลตะวันตกทั้งหมด

    ถึงแม้ว่าทั้งสองเมืองจะเป็นเมืองใต้ทะเลเหมือนกันแต่กลับไม่ค่อยถูกกันเท่าไร  ความสำพันธ์ของทั้งสองเมืองจึงมีแค่การค้าขายแถบชายแดนที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่  และประชุมหารือหรือขอความช่วยเหลือในกรณีจำเป็นอย่างสุดๆ ส่วนเรื่องที่ทั้งสองเมืองไม่ค่อยถูกกันเป็นเรื่องนมนานนาเลมาแล้วกว่า สามสี่ร้อยปี เรื่องมันมีอยู่ว่า....................

    ขี้เกียจเล่าอ่ะ

    มาว่ากันต่อ ราชินีมาเรียโอน่านั้นมีโอรสสององค์และธิดาหนึ่งองค์  คือเจ้าชายองค์โต ไมนอส  เจ้าหญิงองค์รอง เมรีลีน    และเจ้าชายองค์รอง มาคีรอส

    โอรสและธิดาทั้งสามนั้นเรียกได้ว่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจขององค์ราชาทีเดียวโดยเฉพาะกับมารีลีนธิดาองค์เล็กที่ราชาโครนอสทั้งหวงและห่วงจนแทบไม่ให้นางได้กระดิกตัวไปไหนได้เลยเพื่อไม่ให้นางเจอในสิ่งที่ท่านคิดว่าอันตราย แต่คงไม่ได้ผลเพราะนั่นทำให้เจ้าหญิงองค์น้อยเบื่อแสนเบื่อและรู้สึกอยากทำอไรที่แหกกฏตรงกันข้ามมากขึ้น

    “ซ่า...........ซ่า..............

    ซ่า.....................................................



    “เลิกล้อข้าได้แล้ว!!! ไอ้เด็กงี่เง่า”



    “ไม่ได้ล้อ ข้าพูดความจริงต่างหาก ที่บอกว่าไอ้ก้อนหินสีเหลืองอ๋อยนี่มันรูปร่างพิลึก”



    “เจ้า....ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่านั่นไข่มุกไม่ใช่ก้อนหิน!!! ถ้าไม่อยากได้ก็เอาคืนมา”



    “เรื่องแน่ะ”



    เสียงหัวเราะของคนสองคนดังแว่วมาในความฝัน หนึ่งหญิงสาว และหนึ่งเด็กชายพูดคุยกัน

    ริมหาดทรายใต้แสงดาว เป็นภาพที่ดูคุ้นเคยแต่นึกไม่ออกว่าเป็นความทรงจำเรื่องใด

    รู้แต่เพียงว่ามันให้ความรู้สึกที่เป็นสุข



    “ข้าให้อะไรมั่งดีกว่า”



    “นี่... ดีกว่าก้อนหินของเจ้าเยอะเลยละ”



    ผู้เป็นเด็กชายพูดพร้อมยื่นสร้อยคอเงินเส้นบาง ประดับด้วยมุกเม็ดเล็กๆน่ารักสีชมพูอ่อน

    ให้หญิงสาวแล้วพูดเสียงเบาราวกระซิบ



    “สักวัน”



    “เราจะได้พบกันอีก”



    -.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

    .-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.--.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-



    เสียงของหนักๆตกจากเตียงเสียงดังสนั่นเป็นการต้อนรับวันใหม่ของมารีลีน เจ้าหญิงเงือกแห่งมารีนบลู ธิดาสุดรักสุดหวงของราชาโครนอสและราชินีมาเรียโอเน่  น้องสาวจอมซนของเจ้าชายไมนอส  และเป็นพี่สาวคู่หูคู่ลุยของ น้องชายอย่างเจ้าชายมาคีรอส

    “เจ้าหญิงตื่นบรรทมได้แล้วนะเพคะ วันนี้ท่านต้องเรียนกับท่านราชครูแต่เช้า”

    เสียงใสๆของลีเดียนางกำนัลสาวประจำตัวดังแว่วเข้ามาในห้อง ให้เงือกสาวที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นขานรับด้วยเสียงของคนที่ยังไม่ตื่นดี

    “จ้า ~~~~”  



    ในวันนี้ นครใต้สมุทร มารีนบลู ก็ยังวุ่นวายเหมือนทุกๆวันตั้งแต่เจ้าหญิงน้อยเข้ามา

    มารีลีนไม่ใช่ธิดาแท้ๆขององค์ราชาแต่เป็นหลานสาว ไม่ใช่หลานที่เป็นลูกของลูกแต่เป็นลูกของน้องสาว เพราะฉะนั้นว่ากันตามตรงก็เป็นลุงกับหลานนั่นแหล่ะ

    มารดาแท้ๆของเธอคือเจ้าหญิงฟิเชเนียน้องสาวของท่านพ่อโครนอส เงือกหญิงอีกคนที่ท่านให้ความสำคัญพอๆกับท่านแม่มาเรียโอเน่

    ท่านแม่ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน ท่านแม่มาเรียโอเน่จึงเล่าวีกรรมทั้งหลายของท่านแม่เมเรียให้ฟังได้มากมาย ที่เธอชอบที่สุดคงเป็นตอนที่ท่านแม่เมเรียวางแผนจับคู่ให้พระเชษฐาซึ่งตอนนั้นคือเจ้าชายโครนอสกับเลดี้มาเรียโอเน่เพื่อนสาวคนสนิทธิดาของหัวหน้าสภาผู้เฒ่าที่เธอเคยได้ยินท่านพ่อแอบเรียกผู้เป็นพ่อตาลับหลังว่าตาเฒ่าขี้งก ด้วยกิตติศัพท์ของหัวหน้าสภาผู้นี้ที่ขอเบิกงบประมาณได้ยากมากกกก และตรวจสอบละเอียดยิบซะจนท่านพ่อใกล้จะเป็นโรคประสาทหน่อย แต่ก็วางใจได้เลยว่าผู้เฒ่าคนนี้จะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ทรยศโกงกินแผ่นดินได้นานเกินกว่าจะได้พูดคำว่า “ไม่ได้ทำ” ทันเสียอีก

    กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ  (เท่าที่ฟังเขาเล่ามา)ท่านแม่ฟิเชียน่าเป็นเงือกสาวคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่างามที่สุดในอาณาจักรใต้ทะเลนี้ แน่นอนว่าเงือกหนุ่มๆทั้งในมารีนบลูและโอเชี่ยนเพิร์ลต้องปราถนาได้นางมาครอบครอง และแน่นอนอีกว่าท่านพ่อโครนอสผู้หวงน้องสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่จะไล่ตะเพิดเงือกหนุ่มเหล่านั้นกลับไปทุกราย ไม่เว้นแม้แต่เจ้าชายไททัน ซึ่งในขณะนี้คือราชาไททันแห่งโอเชี่ยนเพิร์ล

    แต่ในขณะที่ราชาโครนัสมัวแต่คอยกันหนุ่มๆอยู่ใต้ทะเลนั้นก็หารู้ไม่ว่าน้องสาวสุดที่รักถูกหนุ่มบนพื้นโลกฉกไปซะแล้ว

    ฟังมาถึงตรงนี้ก็น่าสงสารท่านพ่อโครนอสเหมือนกัน

    ท่านแม่ฟิเชียน่าได้หนีความวุ่นวายใต้สมุทรขึ้นมายังบนพื้นโลกและได้พบรักกับหนุ่มคนหนึ่งซึ่งก็คือท่านพ่อแท้ๆของมารีลีน

    ทั้งสองตกลงใจอยู่ร่วมกันอย่างลับๆกลางวันท่านแม่จะทำตัวตามปกติอยู่ใต้น้ำ แต่พอตกกลางคืนก็จะแอบไปอยู่กับสามีบนพื้นโลกโดยไม่มีใครจับได้เสียนานหลายเดือน จนกระทั่งเมรีลีนตัวน้อยกำเนิดขึ้นมา

    และในที่สุด.........

    ท่านพ่อโครนอสก็รู้เรื่องเข้า

    ท่านพ่อโกรธขนิษฐา (น้องสาว)เป็นอันมากที่ทำเรื่องงามหน้าเช่นนี้(หมายความว่าทำตัวไม่ดีนะ : ผู้เขียน) เลยกักบริเวณน้องสาวไว้ไม่ให้ไปไหนได้

    ด้วยความพยายามของท่านแม่ก็ได้แอบขึ้นไปบนพื้นโลกอีกครั้งเพื่อไปพบสามี แต่.....คงไม่พบ เพราะเมื่อท่านแม่กลับมาสู่ท้องสมุทรอีกครั้งท่านก็อยู่ในสภาพเหมือนคนที่มีแต่ร่างไร้ซึ่งวิญญาณและพลังที่จะมีชีวิตอยู่    

    ไม่ช้าท่านก็จากไป

    ไปยังโลกที่เราไม่มีทางไปถึง

    และในตอนนั้นเองที่ท่านพ่อโครนอสและท่านแม่มาเรียโอเน่รับเลี้ยงเธอในฐานะ

    ”ลูก” ของท่านอีกคนหนึ่ง

    เรื่องในตอนนั้นทำเอาเงือกสาวถึงกับช็อกไปเลยแล้วก็โกรธด้วยที่ท่านพ่อไม่บอกความจริง  จำได้ว่าหลบหน้าท่านพ่ออยู่หลายวัน แต่ก็คืนดีกันได้ในที่สุดเป็น ”ครอบครัว” กันมันดีตรงนี้แหละ ^_^

    ว่าแต่..............

    ตอนนั้นเราทำยังไงถึงคืนดีกันได้นะ?  อย่างกับความทรงจำช่วงนั้นมันหายไปแน่ะ

    เงือกสาวว่ายไปคิดไประหว่างเดินไปตามระเบียงปราสาทเพื่อไปเรียนกับท่านราชครู

    วูบ!

    แล้วทันใดนั้นก็เหมือนมีความทรงจำบางอย่างแล่นเข้ามา เสียงของ.....เด็กผู้ชายคนหนึ่ง



    สักวัน ......จะ.....กัน...อีก



    เอ๊ะ!!!!



    โครม!!!!!!!!! เพล้ง !!!!!!!!!!!!  

    บึ้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    “เจ้าญิ้งงงงงงงงงงงงงงงงง”



    เสียงผลงานอีกอย่างของท่านราชครูที่ระเบิดแตกกระจายไปทั่วห้องเพราะเธอมัวแต่เดินเหม่อไม่ระวัง และเสียงราชครูดังลั่นทางด้านหลังทำให้เธอหันไปยิ้มให้เหยๆ



    หวาย !! โดนดุอีกแหงเลยเรา T_T



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×