ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mermaid [rewrite]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33
      0
      26 มี.ค. 48

              





                         ท่ามกลางความมืดอันเงียบเงียบสงัด สรรพชีวิตต่างหลับไหล หากเมื่อสายลมพัดผ่าน

      แว่วยินเสียงประหลาดท่ามกลางการหลับไหล เสียงที่ดัง……….เช่นนี้

           ตุ๊บ !!!!!

          แอ่ก!!!!!!!!



          โครม!!!!!!!!!!!!

         โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!



       แค่กๆๆ  แค่กๆๆๆ



           ฝุ่นและควันฝุ้งตลบไปทั่ว บริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นหอสมุดขนาดใหญ่ หนังสือนับหมื่นแสนเล่มเรียงราย

      ตามชั้นอย่างเป็นระเบียบ  แต่อาจจะเว้นบริเวณนี้

      ฝุ่นควันเริ่มจากลง และเสียงโวยวายเบาๆจากคนสองคนที่วัยไม่น่าเกิน15ปีก็ดังขึ้น



    “ เจ็บนะเฟ้ย!!!!!!! ทำบ้าอะไรของนายนะ  แค่จับบันไดทำให้ดีๆหน่อยไม่ได้รึไง “ คนหนึ่งกล่าวโทษขึ้นมาก่อน

    “ ไม่ใช่ความผิดของฉันคนเดียวนี่!!!!!!!! นายก็เหมือนกันแหละ หยิบหนังสือยังไงให้มันหล่นโครมลงมาหมดทั้งชั้นห๊า

    แบบนี้ต้องเสียเวลาเก็บอีกนานเลย ยิ่งไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วย “ อีกคนสวนกลับบ้างเมื่อตนโดนว่า พลางตามเก็บ

    หนังสือที่หล่นกระจัดกระจายลงมาหลังฝุ่นจางลงไปจนหมดแล้ว



    “ นายอยากลองขึ้นมาหาตำราฝุ่นหนาเขรอะหน้าปกยุ่ยหยิบทีเกือบจะหลุดบนนี้บ้างมั้ยเล่า แต่ละเล่มสมควรเข้า

    พิพิธภัณฑ์ไปได้แล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้เก็บไว้ทำไมให้เปลืองเนื้อที่หอสมุด “ เด็กคนแรกบ่นหย่างหงุดหงิดแล้วผลัก

    บันไดหลบให้พ้นทางก่อนมาช่วยเพื่อนเก็บหนังสือบ้าง หนังสือที่เก็บมาโดยสองเด็กหนุ่มถูกวางเป็นตั้งๆไว้ที่พื้น

    แล้วถูกเปิดอ่านตรงนั้นเลย โดยไม่ใส่ใจจะขนไปอ่านบนโต๊ะที่จัดเตรียมไว้ให้



    “ เขาเก็บไว้ให้นายหาข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์นะสิ อย่ามัวบ่น รีบหาเร็วๆเข้า งานนายของแท้ๆ

    “คนเร่งเริ่มเปิดดูเนื้อหาในหนังสือทำให้คนถูกเร่งเริ่มเปิดหนังสือเล่มใกล้ตัวบ้าง



    พรึบๆ !

    พรึบ ๆๆๆๆๆ! ! ! ! ! ! !

    เสียงคนใจร้อนพลิกหน้าหนังสือดูหัวข้อเนื้อหาข้างในอย่างรวดเร็ว



    “ ประวัตินักบุญแห่งรีอา ไม่ใช่แหะ  แนะนำอาชีพ : สถานีประจำไหนที่เหมาะกับคุณ ช่างสิ

    อีกตั้ง4ปีกว่าชั้นจะสอบบรรจุเข้าสถานี จะคิดทำไมให้ปวดสมอง รวมบทความ : จิตแพทย์ระบุพนักงาน

    ประจำสถานีวาลคิวเร่กว่า 70 % มีจิตผิดปกติกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า สงสัยสถานีนี้มันเป็นโรง’บาลคนบ้าละมั้ง

    ท่องเที่ยวเทียวไปกับไกด์คุง : อาทิตย์นี้แนะนำแหล่งท่องเทียวในเซคคัลล่า พบกับนางรำแสนสวย

    น้ำทะเลสุดใสที่ชายหาดเมืองเซเรีย  .....

    ว้าว! น่าสนแหะ โดดเรียนไปด้วยกันมั้ย?เลียซ “



    เฟี้ยว !!!

    โป๊ก!!!!!!!!!!!



    “ แค่ล้อเล่น “ เจ้าคนขี้บ่นแก้ตัวเสียงอ่อยๆ เมื่อหนังสือเล่มหนาปึกจากเพื่อนรักนามว่าเลียซถูกขว้าง

    มาอย่างแม่นยำเข้าที่หัวด้วยความรักและความหมั่นไส้บวกรังสีอาฆาตอีกนิดๆพอหอมปากหอมคอ

    ทันทีที่ประโยคเชิญชวนจบลง



    “ อย่าทำเป็นเล่น คาเซล ถ้างานนี้เสร็จไม่ทัน ฉันสาบานเลยว่าจะส่งนายเป็นอาหารค่ำเซอบิรุสด้วยตัวฉันเอง”

    เลียซสวนกลับอย่างไม่มีอารมณ์สนุกด้วย นี่มันงานของไอ้บ้านั่นแท้ๆ เขาต้องอดนอนหาหนังสือทำรายงานให้

    แต่เจ้าตัวดีกลับเล่นสนุกยิ้มระรื่น ถ้ากำหนดส่งไม่ใช่พรุ่งนี้ต่อให้เขาลากตัวมายังไงคาเซลก็คงดื้อไม่ยอมมา



    คิดมากไปปวดหัว หาต่อดีกว่า

    หนังสือเล่มใหม่ถูกนำมาเปิดอ่านอย่างคร่าวๆ



    “ อืม…… อ๊ะ! อันนี้น่าจะใช่แหะ รีอา บ้านที่รัก   ไหนดูซิ…..อ้าว!!!! มีแต่กลอนเกี่ยวกับปรัชญาทั้งนั้นนี่นา

    ไม่ได้เรื่องเลย” หนังสือในมือถูกแยกไปวางอีกกองที่มีหนังสือวางอยู่แล้ว10เล่ม แล้วหนังสือเล่มที่ 12

    จากกองใหม่ที่อยู่ใกล้มือก็ถูกนำมาเปิดอ่าน



    “ รีอา  ภูมิประเทศของรีอา ภูมิอากาศของรีอา ประเทศในรีอา ฉันว่าฉันเจอแล้วละ กรีซ เกรเดล ก ข ค ง

    จ ช ………………. เจอแล้ว ร  รามิน่า ริเมล่า แล้วก็…หมดแล้ว!!!!!!!!! กรุณาอ่านต่อเล่ม 2 !!!!!!!!!!!!

    อะไรฟะ อีกนิดเดียวก็จะถึงรูเน่แล้ว จะไปหาเล่มสองจากชั้นไหนดีละเนี่ย “



    คำบ่นประมาณนี้ดังไปเรื่อยติดต่อกันประมาณ 2 ชั่วโมงจนสองหนุ่มต้องยอมแพ้ของพักยก มานั่งพิงหลัง

    กับหนึ่งในชั้นหนังสือที่เรียงรายเป็นตับอยู่ในหอสมุด



    “ แฮ่กๆ ไม่นึกเลยว่าหนังสือในหอสมุดอธีนามันจะเยอะขนาดนี้ “ คาเซลจอมขี้บ่นที่หยุดบ่นมาตั้งแต่

    1 ชั่วโมง 30 นาทีที่แล้วหอบแฮ่กอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่เจ้าตัวมั่นใจว่าความสามราถทางกีฬา

    และสุขภาพของตนจัดอยู่ในเกณฑ์ดีไม่แพ้ใคร กลับต้องมานั่งพักเหนื่อจากการหาหนังสือเล่มเดียว

    ที่ยังหาไม่เจอซักทีแบบนี้



    “ หนังสือของหอสมุดโรงเรียนเรามันเยอะมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทุกคนเขารู้กันทั่ว มีแต่นายนั่นแหละ

    ที่ไม่เคยเหยียบย่างเข้าห้องสมุดเลยเกือบตลอด 2 เทอมที่ผ่านมาเลยไม่รู้น่ะสิ “ อีกคนที่เหนื่อยไม่แพ้กัน

    ไม่วายให้ความรู้แก่คนสมองกลวงพร้อมกับแขวะเข้าให้เล็กน้อย



    “ ถ้าฉันไม่ตกวิชาของตาเฒ่าอัลเฟรด ฉันจะไม่ยอมเหยียบเข้ามาในหอสมุดนรกนี่เด็ดขาด “

    คำโอดครวญของคาเซลเรียกสายตาวาวจากเลียซ หากแต่ไม่มีรายการประทุษร้ายอย่างใด

    (เนื่องจากไม่มีแรงจะลุก)นอกจากคำประชด



    “ ใช่! ถ้าผู้เฒ่าแกไม่พูดว่า การที่เพื่อนที่นั่งข้างๆเธอสอบตกในวิชาอันสุดแสนง่ายและน่าเบื่อ

    จนพวกเธอหลายคนนั่งหลับในวิชาของชั้น ถ้าไม่ไร้ความรับผิดชอบอย่างสุดประมาณก็เป็น



    เพราะความโง่เหลือหลาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่ากรณีใดก็ตาม การที่เธอไม่ช่วยกระตุ้นเพื่อนของเธอ

    ให้ขยันขึ้นหรือช่วยสอนให้ความรู้เข้าสมองกลวงๆนั้นบ้างก็แสดงให้เห็นว่าเธอไร้ความรับผิดชอบเช่นกัน



    แล้วยังแล้งน้ำใจ ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นสมควรถูกหักคะแนนในส่วนแย่ๆนั้น แม้มันจะทำให้ผู้ที่

    สอบได้คะแนนสูงสุดของชั้นปีอย่างคุณต้องตกมาอยู่ในอันดับบ๋วยอย่างคนที่นั่งข้างๆคุณก็ตาม  “



    “ ถ้าผู้เฒ่าที่เคารพรักอย่างสุดซึ้ง (กัดฟันพูดนะเนี่ย) ไม่พูดเช่นนี้ละก็ ฉันไม่มีทางยอมแหกกฏ

    แอบเข้ามาในหอสมุดตอนกลางคืนเพื่อช่วยคนอย่างนายหาหนังสือเขียนรายงาน 300 หน้าเพื่อส่ง

    อาจารย์ท่าน ให้ทันพรุ่งนี้เด็ดขาดเหมือนกัน!!!!!!!!! ………………… นี่นายฟังฉันพูดอยู่รึเปล่าเนี่ย?? “



    ประโยคสุดท้ายถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจเมื่อรู้สึกว่าคนข้างๆตนเงียบไปทั้งๆที่ปกติจะต้องสวนกลับมา

    ด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบยิ่งกว่าแล้วสงครามน้ำลายก็จะดำเนินต่อไปอีกยืดยาว หากแต่ตอนนี้

    ความสนใจทั้งหมดของคาเซลอยู่ที่หนังสือเล่มหนึ่ง



    “ เจอแล้วเรอะ ? “ เลียซถามอย่างมีความหวัง  และต่อมาก็ถูกทำลายความหวังอย่างสิ้นเชิง

    ด้วยคำพูดของคนที่เขาไม่น่าบ้าไปตั้งความหวังเลยจริงๆ



    “ เปล่า แค่เจอหนังสืออ่านเล่นน่าสน”

    “ ไอ้…… ช่างเหอะ ! ว่าแต่หนังสืออะไรที่ทำให้คนที่จับหนังสือได้ไม่เกินห้านาทีก็หลับตลอด

    อย่างนายสนใจได้  เอามาให้ดูมั่งซิ “ โดยไม่ต้องรอคำอนุญาต หนังสือก็ถูกดึงจากมือคาเซลไ

    ปอยู่ในมือเลียซเรียบร้อย



    “ บันทึกและเรียบเรียงเหตุการณ์โดย  ริเมล่า ซีเซเรียน ที่ 2 “

    “ ป้าคนนี้ชื่อเดียวกับเมืองริเมล่าเลยเนอะเลียซ” คาเซลออกความเห็น



    “ อือ ท่าทางน่าสนใจ แต่ไว้ทำงานก่อนเสร็จแล้วค่อยจิ๊ก กลับไปอ่านที่หอ” เลียซแนะนำด้วย

    น้ำเสียงธรรมดา แต่ทำให้คาเซลหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ



    “ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กดีเด่น เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วอย่างนายจะแนะนำอย่างนี้”

    “แล้วนายจะทำมั้ยละ?”น้ำเสียงท้าทายและแววตาที่ฉายแววสนุกสนานราวเจอของเล่นถูกใจ

    ชิ้นใหม่อย่างที่เห็นได้ยากจากเลียซมองมา ให้คนถูกท้าแยกเขี้ยว ดวงตาวิบวับด้วยแววเจ้าเล่ห์



    “มันก็แน่อยู่แล้ว ว่าต้องทำสิ”

    ร่างของ 2 เด็กหนุ่มเดินมองหาของที่ต้องการต่อไปแต่ ในมือของคนหนึ่งมีหนังสือปกสีน้ำตาลติดไปด้วย

    แสงจันทร์กระทบกับตัวอักษรสีทองที่เขียนชื่อของหนังสืออย่างสวยงาม

    ชื่อที่เขียนว่า Mermaid









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×