อารัมเอิร์ธ
ก็ตาสีเขียวแบบนั้นทำให้นึกถึงมัจุลินเลย แถมสีดำตัวก็ใหญ่เหมือนกันไปอีก ทว่าแววตาบ่งบอกว่าคนละตัวกัน อ้าวก็มีมังกรให้ดูก็ต้องดู ในโลกเดิมของฉัน ไม่เคยมีอย่างนี้ นอกจากมัจุลินตัวเดียว
ผู้เข้าชมรวม
7,270
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
แฟนตาซี ต่อสู้ ผจญภัย เวทมนตร์ นางเอกเก่ง พลังวิเศษ ตัวเอกหญิง มังกร ตลก นางเอกกวนตีน ชิงบังลังก์ สงคราม ศึกตระกูล
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตัวละครหลัก ส้มโอ ชาน(หลง) เด็กหญิงอายุ12 ปี เป็นเด็กเพียงแต่รูปลักษณ์ข้ามโลกมาที่อารัมเอิร์ธ
เปิดศึกตระกูล ชิงบรรลังก์ เงื่อนงำต่างๆในอดีตจะเผยออกมาที่ละน้อย ใครจะอยู่หรือไป
การเข้ามาในโลกอารัมเอิร์ธของส้มโออย่างมีปริศนา
ผัง12 ต้นตระกูลในโลกอารัมเอิร์ธ ที่ท่านอารัมจุติหัวใจของตระกูลให้
1-10 เป็นอาวุโสในสภาสูุงอารัม
1.อาวุโส1
2.อาวุโส2 (ผู้เฒ่าแพทย์ เปิดตัวละครครั้งแรกตอนที่10)
3.อาวุโส3
4.อาวุโส4
5.อาวุโส5
6.อาวุโส6
7.อาวุโส7
8.อาวุโส8 (ตระกูลเลสลี่ย์ เปิดเผยตระกูลครั้งแรกตอนที่ 31-32)
9.อาวุโส9
10.อาวุโส10
11.แบล็ค (ตระกูลตัวเอกรอง)
12.หลง (ตระกูลตัวเอกหลัก)
ตัดมาจากตอนที่19 มันต้องบวกงานนี้
ตอนที่19
ป้อมปราการอัศวินดำ
ฉันมองเจ้าวูฮานเดินแบกสัมภาระข้าวของมาอย่างเชื่องช้า แต่ละก้าวย่างแม่งโคตรสโลว์ไลฟ์เพราะอยากโชว์มาดอัศวินให้เห็นชัดถนัดตาผู้ชม แต่ผู้ชมคือฉันคนเดียวปะที่ยืนรอมันอยู่ ไม่ต้องเยอะนักก็ได้
“ เฮ้ย เร็วสิลุง”ฉันชักสีหน้าระอา ช่วยจบท่าเดินวิถีสโลว์ไลฟ์อัศวินสักทีเถอะ
กว่าจะเดินมาถึงคอกม้าได้ตาลุงวูฮานเอ้ย นึกว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางกัน ทว่าเมื่อฉันเหลือบเห็นสัมภาระของเขาแล้วต้องยิ้มกริ่มขึ้นทันที
“ มีมีดสั้นสัก 5-6 เล่มให้ยืมไหมลุง” ยิ้มหวานใส่หน้าวูฮานที่กำลังแกะเชือกปล่อยม้าออกจากคอก
“ มีแต่ไม่ให้ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าหัดเล่นอาวุธ” วูฮานพูดเสียงเข้ม
เขาอุ้มตัวฉันขึ้นนั่งบนหลังม้า แล้วก็พากันควบม้าออกไปจากปราสาทอัศวิน ส่วนจะไปไหนเราสองคนก็ยังไม่แน่ชัดเหมือนกัน
ฉันเกาะเอวตาลุงแน่นกระซิบอ้อนใส่แผ่นหลังเบาๆว่า
“แล้วธนูละมีให้หนู ยืมไหมค่ะ”
“ไม่”
“ยืมดาบหน่อยนะค่ะคุณลุง อันที่เหน็บข้างเอวลุงอยู่”
“ไม่”
“ค้อนละค่ะ”
“ ก็บอกว่าไม่”
“ไม้จิ้มฟันสักอันงั้น” หึ
“ไม่ได้”
วิถีตอแหลยังใช้ไม่ได้ผลกับเจ้าวูฮานมันยังคงหนักแน่นกับคำว่า’ไม่'อย่างแข็งแรง
วูบหนึ่ง วูฮานมันชะงักม้าไปชั่วขณะ แล้วพาฉันเลี้ยวหักศอกไปซ้ายอย่างสุดตัวแบบกระทันหัน ตะบึงม้าหนีอย่างเร็วจี๋ จนหัวฉันโขกกระแทกใส่แผ่นหลังมัน ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนแดงเถือก
เอ้ะไอ้นี้
เฮ้ย ฉับพลันฉันมองเห็นกลุ่มคนใส่ชุดขาวก็ชุดแบบเดียวกันกับกุนซือหวังใส่นั้นแหละ กำลังวิบๆแวบๆลงมาที่ตรงหน้าประตูใหญ่ทางเข้าป้อมปราการ เหมือนใช้มวลสารอะไรบ้างอย่างเคลื่อนย้ายมาพร้อมกันเป็นขบวน
กะจำนวนคร่าวๆได้นับสิบคน แต่เสียใจด้วยนะ พวกมันทำได้แค่อ้าปาก จ้องมองแผ่นหลังพวกเราควบม้าหนีไปก่อนที่พวกสภาสูงเหล่านี้เท้าจะแตะถึงพื้น
“ หนูกลัวจังเลย” ฉันยังตอกย้ำความตอแหลแต่คราวนี้ได้ผล วูฮานยอมให้ล่วงกระเป๋าสัมภาระที่แขวนไว้ข้างม้า โดยง่าย ที่ไม่มีคำว่า'ไม่' ปฎิเสธตามมา
ฉันนี้จ้วงเอาๆอะไรต่อมิอะไรมาออกมาจากกระเป๋า มาจับมาถือมาเหน็บมาเสียบไว้รอบตัวเต็มไปหมด ราวกับคนบ้าหอบฟาง
ถ้าสิบกว่าคนนั้นจับเราได้ มันจะเหลืออะไร แค่กุนซือหวังคนเดียว ยิงเวทมาแค่1เม็ดก็ทะลวงอกทะลุลุกไหม้เผาเป็นจุณแล้ว
วูฮานสัดทัดเส้นทางที่คดเคี้ยวตามแนวป่าแนวเขาในเลวาอย่างมาก ข้อดีที่ทำให้พวกเหล่าขบวนการชุดขาวผู้คลั่งไคล้ไม้กายสิทธ์เหล่านั้นไล่ตามมาไม่ทัน
แต่จู่ๆ
เกิดม่านหมอกเป็นควันสีขาวอมเทาสว่างวาบขึ้นมาข้างหลังเหมือนเป็นประตูมิติเล็กๆสำหรับเคลื่อนย้ายมวลสารอีกแล้ว
โอ้โห พวกมันใช้พลังงานมากมายขนาดนี้เพื่อสร้างประตูวาร์ปจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเป็นว่าเล่น ต้องมีแหล่งพลังงานเวทย์กักเก็บไว้ใช้มากมายขนาดไหนถึงเอามาถลุงเล่นได้เยอะแยะ
ม้าสีขาวอันน่าเกรงขามสามตัวกระโจนออกมาจากประตูม่านหมอก ไล่หวดหลังพวกเราเข้ามาอย่างกระชันชิด
“ เฮ้ยวูฮาน เอ็งว่ามันจะฆ่าพวกเราไหมวะ” ฉันหันไปมองเหตุการณ์ข้างหลังจนคอเคล็ด
วูฮานเหงื่อแตกเป็นเม็ดๆยังคงมุ่งมั่นควบม้าหนีต่อไปโดยไม่ตอบอะไรฉันแม้แต่น้อย ถึงแม้กุนซือทัังสามจะขี่ม้าหวดตามเข้ามาใกล้ๆแล้ว เหลือระยะทางห่างกันราวเจ็ดเมตรเท่านั้น
ฉันต้องจัดการอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันการ หันหลังกลับไป ปามีดสั้น3เล่ม ไปที่หน้าพวกกุนซือ
วิ้วว มีดพุ่งละลิ่วลอยไป
หวืด
ทั้งสามเล่ม ทิ่มตกนอนเอกเขนงบนพื้นอย่างไม่มีใครสนใจใยดี
พวกสภามองฉันแบบ ตากี้คืออะไรวะ เหมือนจะมีอะไรแวบๆ
ฝีมือฉันห่วยแตก ทำไมฉันเพิ่งมาตระหนักรู้ตัวเองเอาตอนนี้วะเนี้ย ไอ้ที่เจ๋งๆนั้นมันเจ้าสองปาทั้งนั้น โธ่ถังกาละมังหม้อ
จากเหตุการณ์เมื่อกี้ยิ่งทำให้เหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าวูฮานไหลแตกทะลักทะล้นปานเขื่อนแตกในหน้าฝน หากแต่ว่าเขายังควบม้าต่อไปโดยไม่หันมามองแม้แต่นิดเดียว
ฉันจัดการเขวี้ยงค้อนไปข้างหน้าอีกสักรอบเล็งเจ้าคนกลาง เอาวะ รอบนี้ต้องโดนเต็มรักแน่
ฉันเพ่งจิต ไปที่ค้อนที่เขวี่ยงออกไปแล้ว เพื่อใส่พลังให้ค้อน ทว่าฉันได้ยินสักอย่างแว่วเข้าหู
“ มนตรากระจกเงาสะท้อน”
อ้าว มันว่าไรนะ ฉันช้ากว่าพวกกุนซือไปหนึ่งก้าว ค้อนก็เลยปลิวกลับมากระแทกเข้าใส่หน้าฉันอย่างเต็มรักแทน เพราะโดนเวทสะท้อนของฝั่งนั้นกลับมาเสียก่อน
เลือดนี้ไหลย้อยออกจมูก ส่วนปากก็บวมเจ๋อ
วูฮานชักทนไม่ไหว เขาขนลุกซู่ต้องหยุดชะงักม้ากระทันหัน เพื่อหันมาบอกว่า
“ส้มโอ พี่มีเรื่องจะพูด มันด่วนมาก” สีหน้าเจ้าลุงที่มองมายังฉันดูย่ำแย่เสียเหลือเกิน
“ ว่ามาเลยลุง” ฉันแก้มบวมตุ๋ยปากแตกกว่าจะเค้นคำพูดแต่ละคำออกมาได้ วูฮานมันน่าจะจอดม้าแล้วบวกพวกสภาตรงๆเลยแต่แรก แลดูจะง่ายกว่านี้นะ
“ พี่ปวดฉี่มากเลย พี่แวะป่าก่อนได้ไหม”
ห๊ะ
ผลงานอื่นๆ ของ ษ.เขียน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ษ.เขียน
ความคิดเห็น