อารัมเอิร์ธ - นิยาย อารัมเอิร์ธ : Dek-D.com - Writer
×

    อารัมเอิร์ธ

    ก็ตาสีเขียวแบบนั้นทำให้นึกถึงมัจุลินเลย แถมสีดำตัวก็ใหญ่เหมือนกันไปอีก ทว่าแววตาบ่งบอกว่าคนละตัวกัน อ้าวก็มีมังกรให้ดูก็ต้องดู ในโลกเดิมของฉัน ไม่เคยมีอย่างนี้ นอกจากมัจุลินตัวเดียว

    ผู้เข้าชมรวม

    7,270

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    7.27K

    ความคิดเห็น


    174

    คนติดตาม


    157
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  50 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ย. 65 / 20:06 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตัวละครหลัก ส้มโอ ชาน(หลง) เด็กหญิงอายุ12 ปี เป็นเด็กเพียงแต่รูปลักษณ์ข้ามโลกมาที่อารัมเอิร์ธ

    เปิดศึกตระกูล ชิงบรรลังก์ เงื่อนงำต่างๆในอดีตจะเผยออกมาที่ละน้อย ใครจะอยู่หรือไป

    การเข้ามาในโลกอารัมเอิร์ธของส้มโออย่างมีปริศนา

    ผัง12 ต้นตระกูลในโลกอารัมเอิร์ธ ที่ท่านอารัมจุติหัวใจของตระกูลให้

    1-10 เป็นอาวุโสในสภาสูุงอารัม

    1.อาวุโส1

    2.อาวุโส2 (ผู้เฒ่าแพทย์ เปิดตัวละครครั้งแรกตอนที่10)

    3.อาวุโส3

    4.อาวุโส4

    5.อาวุโส5

    6.อาวุโส6

    7.อาวุโส7

    8.อาวุโส8 (ตระกูลเลสลี่ย์ เปิดเผยตระกูลครั้งแรกตอนที่ 31-32)

    9.อาวุโส9

    10.อาวุโส10

    11.แบล็ค (ตระกูลตัวเอกรอง)

    12.หลง   (ตระกูลตัวเอกหลัก)

     

     

    ตัดมาจากตอนที่19 มันต้องบวกงานนี้

    ตอนที่19

    ป้อมปราการอัศวินดำ

    ฉันมองเจ้าวูฮานเดินแบกสัมภาระข้าวของมาอย่างเชื่องช้า แต่ละก้าวย่างแม่งโคตรสโลว์ไลฟ์เพราะอยากโชว์มาดอัศวินให้เห็นชัดถนัดตาผู้ชม แต่ผู้ชมคือฉันคนเดียวปะที่ยืนรอมันอยู่ ไม่ต้องเยอะนักก็ได้

    “ เฮ้ย เร็วสิลุง”ฉันชักสีหน้าระอา ช่วยจบท่าเดินวิถีสโลว์ไลฟ์อัศวินสักทีเถอะ 

    กว่าจะเดินมาถึงคอกม้าได้ตาลุงวูฮานเอ้ย นึกว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางกัน ทว่าเมื่อฉันเหลือบเห็นสัมภาระของเขาแล้วต้องยิ้มกริ่มขึ้นทันที

    “ มีมีดสั้นสัก 5-6 เล่มให้ยืมไหมลุง” ยิ้มหวานใส่หน้าวูฮานที่กำลังแกะเชือกปล่อยม้าออกจากคอก

    “ มีแต่ไม่ให้ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าหัดเล่นอาวุธ” วูฮานพูดเสียงเข้ม

    เขาอุ้มตัวฉันขึ้นนั่งบนหลังม้า  แล้วก็พากันควบม้าออกไปจากปราสาทอัศวิน ส่วนจะไปไหนเราสองคนก็ยังไม่แน่ชัดเหมือนกัน

    ฉันเกาะเอวตาลุงแน่นกระซิบอ้อนใส่แผ่นหลังเบาๆว่า

    “แล้วธนูละมีให้หนู ยืมไหมค่ะ”

    “ไม่”

    “ยืมดาบหน่อยนะค่ะคุณลุง อันที่เหน็บข้างเอวลุงอยู่”

    “ไม่”

    “ค้อนละค่ะ”

    “ ก็บอกว่าไม่”

    “ไม้จิ้มฟันสักอันงั้น” หึ

    “ไม่ได้”

    วิถีตอแหลยังใช้ไม่ได้ผลกับเจ้าวูฮานมันยังคงหนักแน่นกับคำว่า’ไม่'อย่างแข็งแรง

    วูบหนึ่ง วูฮานมันชะงักม้าไปชั่วขณะ แล้วพาฉันเลี้ยวหักศอกไปซ้ายอย่างสุดตัวแบบกระทันหัน ตะบึงม้าหนีอย่างเร็วจี๋ จนหัวฉันโขกกระแทกใส่แผ่นหลังมัน ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนแดงเถือก

    เอ้ะไอ้นี้

    เฮ้ย ฉับพลันฉันมองเห็นกลุ่มคนใส่ชุดขาวก็ชุดแบบเดียวกันกับกุนซือหวังใส่นั้นแหละ กำลังวิบๆแวบๆลงมาที่ตรงหน้าประตูใหญ่ทางเข้าป้อมปราการ เหมือนใช้มวลสารอะไรบ้างอย่างเคลื่อนย้ายมาพร้อมกันเป็นขบวน

    กะจำนวนคร่าวๆได้นับสิบคน แต่เสียใจด้วยนะ พวกมันทำได้แค่อ้าปาก จ้องมองแผ่นหลังพวกเราควบม้าหนีไปก่อนที่พวกสภาสูงเหล่านี้เท้าจะแตะถึงพื้น

    “ หนูกลัวจังเลย” ฉันยังตอกย้ำความตอแหลแต่คราวนี้ได้ผล วูฮานยอมให้ล่วงกระเป๋าสัมภาระที่แขวนไว้ข้างม้า โดยง่าย ที่ไม่มีคำว่า'ไม่' ปฎิเสธตามมา

    ฉันนี้จ้วงเอาๆอะไรต่อมิอะไรมาออกมาจากกระเป๋า มาจับมาถือมาเหน็บมาเสียบไว้รอบตัวเต็มไปหมด ราวกับคนบ้าหอบฟาง

    ถ้าสิบกว่าคนนั้นจับเราได้ มันจะเหลืออะไร แค่กุนซือหวังคนเดียว ยิงเวทมาแค่1เม็ดก็ทะลวงอกทะลุลุกไหม้เผาเป็นจุณแล้ว

    วูฮานสัดทัดเส้นทางที่คดเคี้ยวตามแนวป่าแนวเขาในเลวาอย่างมาก ข้อดีที่ทำให้พวกเหล่าขบวนการชุดขาวผู้คลั่งไคล้ไม้กายสิทธ์เหล่านั้นไล่ตามมาไม่ทัน 

    แต่จู่ๆ

    เกิดม่านหมอกเป็นควันสีขาวอมเทาสว่างวาบขึ้นมาข้างหลังเหมือนเป็นประตูมิติเล็กๆสำหรับเคลื่อนย้ายมวลสารอีกแล้ว 

    โอ้โห พวกมันใช้พลังงานมากมายขนาดนี้เพื่อสร้างประตูวาร์ปจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเป็นว่าเล่น ต้องมีแหล่งพลังงานเวทย์กักเก็บไว้ใช้มากมายขนาดไหนถึงเอามาถลุงเล่นได้เยอะแยะ

    ม้าสีขาวอันน่าเกรงขามสามตัวกระโจนออกมาจากประตูม่านหมอก ไล่หวดหลังพวกเราเข้ามาอย่างกระชันชิด

    “ เฮ้ยวูฮาน เอ็งว่ามันจะฆ่าพวกเราไหมวะ”  ฉันหันไปมองเหตุการณ์ข้างหลังจนคอเคล็ด 

    วูฮานเหงื่อแตกเป็นเม็ดๆยังคงมุ่งมั่นควบม้าหนีต่อไปโดยไม่ตอบอะไรฉันแม้แต่น้อย  ถึงแม้กุนซือทัังสามจะขี่ม้าหวดตามเข้ามาใกล้ๆแล้ว เหลือระยะทางห่างกันราวเจ็ดเมตรเท่านั้น

    ฉันต้องจัดการอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันการ หันหลังกลับไป ปามีดสั้น3เล่ม ไปที่หน้าพวกกุนซือ

    วิ้วว มีดพุ่งละลิ่วลอยไป

    หวืด

    ทั้งสามเล่ม ทิ่มตกนอนเอกเขนงบนพื้นอย่างไม่มีใครสนใจใยดี

    พวกสภามองฉันแบบ ตากี้คืออะไรวะ เหมือนจะมีอะไรแวบๆ

    ฝีมือฉันห่วยแตก ทำไมฉันเพิ่งมาตระหนักรู้ตัวเองเอาตอนนี้วะเนี้ย ไอ้ที่เจ๋งๆนั้นมันเจ้าสองปาทั้งนั้น โธ่ถังกาละมังหม้อ

    จากเหตุการณ์เมื่อกี้ยิ่งทำให้เหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าวูฮานไหลแตกทะลักทะล้นปานเขื่อนแตกในหน้าฝน หากแต่ว่าเขายังควบม้าต่อไปโดยไม่หันมามองแม้แต่นิดเดียว

    ฉันจัดการเขวี้ยงค้อนไปข้างหน้าอีกสักรอบเล็งเจ้าคนกลาง เอาวะ รอบนี้ต้องโดนเต็มรักแน่

    ฉันเพ่งจิต ไปที่ค้อนที่เขวี่ยงออกไปแล้ว เพื่อใส่พลังให้ค้อน ทว่าฉันได้ยินสักอย่างแว่วเข้าหู

    “ มนตรากระจกเงาสะท้อน”

    อ้าว มันว่าไรนะ ฉันช้ากว่าพวกกุนซือไปหนึ่งก้าว ค้อนก็เลยปลิวกลับมากระแทกเข้าใส่หน้าฉันอย่างเต็มรักแทน เพราะโดนเวทสะท้อนของฝั่งนั้นกลับมาเสียก่อน

    เลือดนี้ไหลย้อยออกจมูก ส่วนปากก็บวมเจ๋อ

    วูฮานชักทนไม่ไหว เขาขนลุกซู่ต้องหยุดชะงักม้ากระทันหัน เพื่อหันมาบอกว่า

    “ส้มโอ พี่มีเรื่องจะพูด มันด่วนมาก” สีหน้าเจ้าลุงที่มองมายังฉันดูย่ำแย่เสียเหลือเกิน 

    “ ว่ามาเลยลุง” ฉันแก้มบวมตุ๋ยปากแตกกว่าจะเค้นคำพูดแต่ละคำออกมาได้ วูฮานมันน่าจะจอดม้าแล้วบวกพวกสภาตรงๆเลยแต่แรก แลดูจะง่ายกว่านี้นะ

    “ พี่ปวดฉี่มากเลย พี่แวะป่าก่อนได้ไหม”

    ห๊ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น