ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF) MY ALL IS IN WONKYU.

    ลำดับตอนที่ #1 : [Wonkyu or Haekyu]Devil Whisper เสียงเพรียกจากปีศาจ - #1

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 55


     

              Devil Whisper.  เสียงเพรียกจากปีศาจ

     

              Wonkyu Or Haekyu

     

    - 1 -

     

              ทั่วอณูสัมผัสแตะลงผิวกายเนียนอย่างแผ่วเบาและเงียบเชียบ

     

              เสียงกระซิบเพียงแผ่วเบาแทบทำให้แทบสะดุ้งโหยงเพราะความหวาดกลัวที่อยู่ในใจ

     

              มันคืออะไรกัน...

     

              กายบางกอดตัวเองแน่นเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกเย็นที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆและมากขึ้นไปทุกที ใบหน้าหวานเริ่มบิดเบี้ยว หยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดพรายบนใบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกอึดอัด

     

              "อึก..อือ.."

     

              กายขาวสะอาดบิดเร้าตัว ความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนแทบประทุออกมา

     

              "โจ.. คยูฮยอน.. อีกไม่นานเกินรอ..." เสียงเรียกแผ่วเบานั่นช่างน่ากลัว ไหนเสียงหัวเราะแหบพร่านั่น ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมา

     

     

              "คยูฮยอน.. คยูฮยอน ตื่นสิ เป็นอะไรน่ะ" เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้น ทำให้ร่างบอบบางตื่นขึ้นและโผกอดเข้าหาร่างสูงตรงหน้าทันที มือหนาลูบผมนุ่มของคนรักอย่างปลอบประโลมเมื่อรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลออกมาจากดวงตากลมคู่นั้น

     

              "พี่ซีวอน.. ฮึก ผมกลัว"

              "ไม่เป็นไรนะคนดี ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร" คนร่างสูงจูบขมับของคนรักเบาๆ คนร่างบางซุกตัวเข้าไปหาไออุ่นจากร่างสูงก่อนจะค่อยๆสงบสติลง

     

              ชเวซีวอนมองดูคนรักของตนเองในอ้อมกอดก่อนจะเม้มปากเป็นเส้นตรง

     

              มันกลับมาอีกครั้งแล้วสินะ..

     

              ต่อไปนี้คงให้คยูฮยอนอยู่คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด

     

              "คยูฮยอน ฝันเห็นอะไรครับ" ซีวอนเริ่มถามคนรักที่เริ่มหายจากอาการสั่นเทาเบาๆ

     

              "ผมเห็นเงาสีดำๆ..."

              "..."

              "มันค่อยๆเข้ามาหาผมเรื่อยๆจากข้างหลัง... มันกระซิบ.."

              "กระซิบอะไรครับ?"

     

              "ข้างหูของผม... มัน... เรียกชื่อของผม.. มันบอกว่าอีกไม่นาน.. พี่ซีวอน มันคืออะไร ฮึก" น้ำเสียงของคยูฮยอนสั่นเทาไม่น้อยจนซีวอนสงสารคนรักจับใจ แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้

     

              ปีศาจกำลังกลับมา

              พร้อมกับผู้ชายคนนั้น...

     

              ในความทรงจำของชเวซีวอนเองก็ไม่ค่อยชัดเจนนักเพราะรับรู้จากพลังของเทวทูตมิคาเอลคนก่อนๆ

     

              'ข้าจะกลับมา'

     

                'ข้าจะเอาคืนอย่างสาสม ไม่นานเกินรอ..'

     

              หลังจากที่มันได้ถูกกักขังพร้อมเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของมันโลกก็กลับมาสงบอีกครั้ง

     

              แต่ทำไมปีศาจต้องเลือกคยูฮยอน

              ทำไมไม่เป็นเขา.. ทั้งที่เขาเป็นเทวทูตมิคาเอลซึ่งมีพลังมาก

     

              ลูซิเฟอร์กำลังจะกลับมาพร้อมกับคืนจันทร์สีเลือด

              ถึงเวลานั้นพระเจ้าก็จะหมดอำนาจ

     

              ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าจะโอบกอดร่างที่อยู่ในอ้อมแขนได้อีกนานแค่ไหน

     

     

              ลูซิเฟอร์เริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสว่างของพระเจ้าเองไม่รู้จะต้านทานไหวรึเปล่า

     

     

     

              วันรุ่งขึ้น ร่างโปร่งของคยูฮยอนสาวเท้าไปยังพื้นโบสถ์จนเกิดเสียงกระทบกับพื้น เพราะช่วงเช้าที่นี่ไม่ค่อยมีคนแวะเวียนเข้ามานักหรอก มือเรียวสวยยกขึ้นสวดภาวนาเพื่อให้พ้นจากฝันร้ายที่เหมือนกับคืนนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้าง เขาถอนหายใจเสียงแผ่ว เขาเริ่มรับรู้ถึงความอบอุ่นของพระเจ้า

     

              พระเจ้าต้องคุ้มครองเขาอย่างแน่นอน

     

              "มาทำอะไรแถวนี้ หืม?" น้ำเสียงนุ่มเสียงหนึ่งกล่าวจากข้างหลังพร้อมกอดเอวของร่างโปร่งไว้ คยูฮยอนหันไปยิ้มให้กับคนรัก

     

              "มาสวดภาวนาน่ะครับ"

              "อ๋อ.." คนร่างสูงพยักหน้าพร้อมกับหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ คยูฮยอนหัวเราะคิกคักก่อนจะบีบจมูกของอีกคนเบาๆ

     

              "พี่ก็ตามหาเราซะนาน วันนี้พี่จะพาไปวาติกัน" น้ำเสียงนุ่มกล่าวทำเอาคยูฮยอนตกใจ

              "วันนี้? ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะ"

              "พี่ต้องไปทำงานที่นั่นระยะยาว พี่กลัวคิดถึงเรานะ" ซีวอนกล่าวพร้อมกอดเอวอีกคนแน่นขึ้นอย่างกลัวว่าอีกคนจะหายไป

     

              คยูฮยอนพยักหน้าอย่างรับรู้ เพราะรู้ว่าซีวอนเป็นเทวทูตที่สืบเชื้อสายจากมิคาเอลคนเก่าโดยตรง ยิ่งถ้าเป็นเขาที่กำลังได้รับอันตราย ซีวอนยิ่งต้องงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า นั่นคือสิ่งที่คยูฮยอนลำบากใจ ทำไมลูซิเฟอร์ต้องเลือกเขาทั้งที่เขาไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยซักนิดเดียว

     

              เขาก็แค่เป็นช่างภาพธรรมดาที่เผลอไปเที่ยววาติกันแล้วเจอซีวอนเข้าเท่านั้นแหละ

     

              พอนึกถึงอดีตทีไรแทบจะหุบยิ้มไม่ได้เลยทีเดียว

     

              'คุณเป็นช่างภาพเหรอ แล้วทำไมเลือกที่นี่ล่ะ?'

                'ใช่ครับ ผมว่าที่นี่ดูแปลกตาดี แล้วคุณล่ะ?'

                'ผมเป็นนักท่องเที่ยวน่ะ ไม่ใช่เพราะที่นี่ดูแปลกตาหรอกครับ ผมว่าเป็นเพราะโชคชะตาอยากให้ผมเจอกับคุณมากกว่า'

     

              ให้ตายเถอะ... ไปหลงรักเทวทูตขี้กะล่อนคนนี้ได้ยังไงกันนะ

     

              "พี่คงต้องเหนื่อยมากแน่ๆเลย" มือเรียวสวยลูบแก้มคนร่างสูงเบาๆก่อนจะส่งสายตาอย่างมีความหมายให้อีกคน

     

              "พี่ไม่เหนื่อยหรอก เราต้องปลอดภัย พี่สัญญา"

     

     

              "พี่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเราโดยเด็ดขาด"

     

     

     

     

              นครรัฐวาติกัน

              ไม่กี่นาทีด้วยมนต์เคลื่อนย้ายของเทวทูตก็สามารถย้ายตนเองจากที่หนึ่งมายังอีกที่หนึ่งได้โดยง่าย คยูฮยอนคิดว่ามันเป็นมนต์ที่สะดวกเกินไป แถมเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคงสัมผัสธรรมชาติด้วยจิตแบบเทวทูตไม่ได้หรอก

              ซีวอนกุมมือของคยูฮยอนไว้ก่อนจะเดินเข้าหน่วยงานของตนเองในศาสนสถานใจกลางกรุงวาติกัน ฐานทัพลับนี้อยู่ทางใต้ดินจึงไม่มีใครรู้ว่ามีศูนย์รวมของเทวทูตทั้งหลายอยู่ข้างใต้เพื่อทำอะไรบางอย่าง

     

              "ไง คิมจงอุน" ซีวอนทักทายเพื่อนร่วมงานซึ่งกำลังง่วนกับงานบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารวางระเกะระกะไปหมด แถมคนทำงานเหมือนไม่ได้อาบน้ำและเซ็ทผมหลายวัน ใบหน้าหล่อเหลากับแว่นสายตาหนาเตอะที่ภายในดูแววตาช่างง่วงงัวเงียเหลือเกิน

     

              "ถึงเทวดาจะไม่ต้องหลับต้องนอนแต่ก็อยากพักผ่อนเหมือนกันนะ!" เขาระบายออกมาอย่างอดกลั้นก่อนจะมองไปยังเพื่อนร่วมงานที่กล่าวทักทายเขาเมื่อครู่

     

              "ไง ชเวซีวอน ไม่ได้เจอกันนานนะ เรื่องจดหมายของนายฉันได้อ่านมันหมดแล้วและเตรียมคนไว้ให้แล้วด้วยสำหรับการดูแลยอดดวงใจ" เขาร่ายยาวพลางเซ็นเอกสารกองใหญ่ๆนั่นต่ออย่างรวดเร็ว แก้วกาแฟกระดาษมากมายกระจายไปทั่วจนเกิดรอยเลอะเทอะจากคราบกาแฟที่เหลือจากแก้ว

     

              "ขอบใจมาก แล้วไหนคนที่นายเตรียมไว้ล่ะ"

              "เป็นเทวดาที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีแน่นอน อยู่ในลำดับขั้นพาวเวอร์ ชื่ออีทงเฮ เดี๋ยวฉันจะเรียกมาเดี๋ยวนี้แหละ" จงอุนว่าก่อนจะส่งโทรจิต คยูฮยอนยังคงทึ่งกับความสามารถในการทำงานของจงอุนมาก เพียงไม่กี่นาทีก็เคลียร์เอกสารทั้งหมดได้ตั้งห้ากอง

     

              "ทำไมโดมิเนี่ยนอย่างฉันต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยนะ เทวดาสมัยนี้ไปทำอะไรกันหมด รู้ไหมว่ากระทรวงวุ่นวายขนาดไหน!" เขาบ่นออกมาพลางทิ้งปากกา เทวดาอย่างพวกเขาก็มีกระทรวงเทวดาเหมือนกัน เขาเป็นเลขาผอ.กระทรวงเทวดาจึงต้องรับทำหน้าที่อนุมัติเอกสารทั้งหมดแทนผอ.ซึ่งหนีไปพักร้อนที่ฮาวาย

     

              ไม่นานนักก็มีร่างหนาร่างหนึ่งปรากฎกายออกมา

     

              ซีวอนจ้องร่างนั้นอย่างพินิจ เขารู้สึกถึงกลิ่นไอแปลกๆ ที่เหมือนกลิ่นไอปีศาจในตัวของชายคนนั้น แต่มันก็กลบด้วยกลิ่นไอเทพที่มากกว่าอยู่ดี

     

              "ลูกครึ่งเทพปีศาจ ไม่ต้องขมวดคิ้วน่าซีวอน ฉันหาได้แค่นี้แหละ คนอื่นมันบ่ายเบี่ยงกันหมด มีเจ้านี่ที่ใช้งานง่าย" จงอุนบ่นเข้าให้เมื่อเห็นซีวอนทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

     

              "สวัสดีครับ ผมทงเฮ" คนร่างหนากล่าวพลางยิ้มให้กับซีวอนและคยูฮยอน ทงเฮเหมือนจะยื่นมือเข้าเชคแฮนด์คยูฮยอนแต่ซีวอนกับชิงจับเสียก่อน

     

              ใช่.. ชเวซีวอนหึงอยู่

              ตั้งแต่รอยยิ้มพิมพ์ใจนั่นรู้สึกเหมือนไม่ถูกโฉลก แต่คงทำอะไรไม่ได้เพราะจงอุนคงไม่หาคนให้อีกแล้ว งานมันเยอะจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน

     

              จะให้ดูแลเองก็กระไรอยู่เพราะพรุ่งนี้มีออกลาดตระเวณดูพื้นที่รอยแยกมิติซึ่งเป็นทางผ่านของลูซิเฟอร์ ถ้าพาไปด้วยคยูฮยอนคงได้รับอันตรายเป็นแน่

     

              "ฉันฝากคยูฮยอนไว้ด้วยแล้วกัน" ซีวอนพูดแบบขอไปที คยูฮยอนมองหน้าคนรักอย่างสงสัยว่าทำไมถึงดูแปลกๆและหงุดหงิด

     

              ทงเฮก็ไม่น่าจะเลวร้ายเลยนี่นา ทำไมนะ?

     

              "ได้เลยครับรุ่นพี่" ทงเฮพูดพลางยิ้มกว้างอีกครั้ง

     

              แต่ในความรู้สึกของชเวซีวอนคือ ไม่ถูกโฉลกอย่างแรง!

     

              พอเวลามองไปยังเพื่อนรักที่วุ่นอยู่ทีไรกลับรู้สึก...

     

              ยังไงก็ต้องทนสินะ

     

              "อีกซักพักพี่ต้องออกไปเชื่อมรอยแยกมิติแล้ว เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ห้ามดื้อห้ามซน" ซีวอนกำชับคนรัก คยูฮยอนเบ้ปากเล็กน้อย

     

              "ผมโตแล้วนะครับ! ตาลุงอย่างพี่จะมองผมเด็กอย่างเดียวเลยรึไง" คยูฮยอนโวยวายใส่จนซีวอนหัวเราะแล้วหอมแก้มนิ่มนั่นแรงๆหนึ่งฟอดด้วยความหมั่นเขี้ยว อย่างเขาคงไม่ใช่แค่ตาลุงหรอก คยูฮยอนอายุแค่25เอง ส่วนเขาอายุ250ปีแล้วเนี่ยสิ

     

              อายุเราห่างกันสิบเท่าเลยล่ะนะ

     

              "ก็พี่เป็นห่วงเรานี่เด็กน้อย"

              "ไปทำงานได้แล้ว" คยูฮยอนพูดพลางดันตัวอีกคน

              "ไล่พี่เหรอ หืม?" ร่างสูงยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าใบหาดวงหน้าหวานของอีกคนจนพวกแก้มเกิดสีแดงฝาด

              "ใช่! ไล่แล้ว ไปเลย!"

              "โหย ไปก็ได้ครับ ไปก็ได้" พูดพลางยิ้มทะเล้นให้อีกคน คยูฮยอนปัดมือไปมาเชิงไล่ ซีวอนมองไปยังเด็กน้อยของเขา ไม่ว่ายังไงก็ยังเป็นคนน่ารักเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด เขาโบกมือให้กับคนรักก่อนหันหลังเดินจากไป

     

     

              "ไปแล้วน่ะ รีบกลับมาเร็วๆด้วยนะ!!" คยูฮยอนตะโกนไล่หลังจนซีวอนแทบหุบยิ้มไม่ได้

     

     

              นั่นไง เชื่อเลยจริงจริ๊ง คนรักของชเวซีวอนนี่ช่างน่ารักน่าฟัดเป็นที่สุด

     

              ซีวอนพูดกับตัวเองก่อนจะใช้มนต์เคลื่อนย้ายจากไป คยูฮยอนมองดูร่างของคนรักหายไปก็เริ่มรู้สึกโหวงๆในใจ ริมฝีปากสวยง้ำงอลงเล็กน้อย

     

              ทงเฮซึ่งยืนอยู่ข้างคยูฮยอนอมยิ้มบางๆ ดูเหมือนคนที่เขาต้องดูแลน่ารักอยู่พอตัว บางทีอาจจะเฉพาะกับแฟนตัวเองอย่างเดียวล่ะมั้ง

              คยูฮยอนหันมามองทงเฮพลางหัวเราะแหะแหะ เขาคงทำเรื่องหน้าอายลงไปแน่ๆเลย ดูจ้องเสียไม่กระพริบแบบนั้น

     

              ย่าห์... โจคยูฮยอน นายทำอะไรเนี่ย

     

              "อ่า.. ขอแนะนำตัวอีกครั้ง ผมอีทงเฮ เทวดาชั้นพาวเวอร์ เป็นคนที่จะมาดูแลคุณนะครับ" ร่างหนาบอกพลางยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร มือหนายื่นขึ้นมา

    คยูฮยอนยื่นมือขึ้นมาบ้างก่อนจะจับมืออีกคนด้วยรอยยิ้มยิ้มแย้ม

     

              "ผมโจคยูฮยอน.. เป็นช่างภาพครับ"

     

     

     

     

              เพราะโจคยูฮยอนเป็นช่างภาพเขาจึงมีกล้องติดตัวเสมอ

                แม้จะมืดแค่ไหนแต่เขายังคงง่วนกับการเช็ดกล้องและเลนส์ของตัวเอง

     

              "ยังไม่นอนอีกเหรอครับ" ทงเฮที่ยังคงอยู่ในเครื่องแบบของเทวทูตพูดขึ้น คยูฮยอนพยักหน้า

              "ยังไม่อยากนอนน่ะครับ กลัวเจอกับฝันร้าย" ร่างโปร่งว่า ทงเฮเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

              "ฝันร้าย? ลูซิเฟอร์?"

              "คงอย่างนั้นแหละครับ ดีจังนะเทวดา ไม่ต้องหลับต้องนอนต้องกิน มีชีวิตได้เป็นพันๆปี ผมมันแค่มนุษย์ธรรมดา"

              "ดีจะตายไปครับมนุษย์ โลดแล่นอย่างอิสระ มีชีวิตอยู่นานๆมันก็น่าเบื่อจะตายครับ ดูอย่างคุณจงอุนไม่ต้องหลับต้องนอนเพราะง่วนกับการทำงาน" ทงเฮพูดพลางยิ้มกว้าง แต่คยูฮยอนกับยู่ปาก

     

              "เพราะความฝันแบบนั้นผมเลยไม่อยากนอน"

              "..."

              "จะว่าผมกลัวก็ได้ เพราะมันน่ากลัวจริงๆ" คยูฮยอนพูดพลางวางเลนส์ลงและกอดเข่าตัวเอง

     

              "ลูซิเฟอร์เลือกผม พี่ซีวอนก็จะลำบาก"

              "..."

              "ผมเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำทำไมต้องเลือกผมด้วย" ใบหน้าหวานงุดหน้าลงกับเข่าตัวเองอย่างเศร้าหมอง เขาช่วยอะไรคนรักของตัวเองไม่ได้เลย เขาต้องทำให้ซีวอนลำบากมากแน่ๆ

     

              "ลูซิเฟอร์น่ะ ไม่เลือกคนแบบขอไปทีหรอกครับ อาจเพราะคุณมีความพิเศษบางอย่างที่แก้ไขไม่ได้"

              "ความพิเศษ?" คยูฮยอนถามอย่างสงสัย

              "ผมคิดว่าลูซิเฟอร์ต้องการอะไรจากตัวคุณ ซึ่งทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง"

              "อ่า... งี้ก็แย่น่ะสิครับ" ยิ่งพูดดูเหมือนจะทำให้คยูฮยอนทุกข์เข้าไปใหญ่

              ทงเฮมองคนร่างโปร่งอย่างครุ่นคิดก่อนจะนึกอะไรออก

     

              "คุยแต่เรื่องซีเรียสคงไม่ดีแน่เลย ผมจะพาคุณออกไปข้างนอก"

              "ข้างนอก?" คยูฮยอนมองอีกคนอย่างฉงนแต่กลับถูกอีกคนลากตัวไปข้างนอกศาสนสถานเสียอย่างนั้น

     

              "คุณคงไม่เคยเดินบนเมฆสินะ" ทงเฮว่าพลางยิ้มกว้างก่อนที่ปลายเท้าของเทวดาหนุ่มจะลอยเหนือพื้นดินเล็กน้อย

              "บนเมฆ? คุณจะพาผมไปบนนั้นน่ะเหรอ?" คยูฮยอนมองท้องฟ้าอย่างตื่นเต้น มือเรียวสวยจับมือหนานั่นไว้แน่นก่อนที่ปลายเท้าของเขาจะลอยขึ้นอยู่ในระดับเดียวกันกับทงเฮ

              "ผมร่ายมนต์ให้คุณแล้ว เอาล่ะ เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ" ว่าพลางลอยตัวขึ้นสูง คนร่างโปร่งร้องเสียงหลงพร้อมทำหน้าเหวอเมื่อตัวเขาเริ่มห่างจากพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้พวกเขาทั้งสองเริ่มขึ้นไปสูงถึงสิบเมตร

              คยูฮยอนจับมือทงเฮแน่น หยาดเหงื่อเล็กๆเริ่มผุดพรายบนใบหน้ามากขึ้นแถมมือที่จับนั่นยังสั่นงกๆอีกจนคนร่างหนาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

     

              "จะกลัวอะไรกันครับ ผมร่ายเวทย์ไว้แล้วไม่ต้องกลัวหรอก"

              "ผมไม่ใช่เทวดาแบบคุณซะหน่อย! ผมจะไปชินได้ไงเล่า" คยูฮยอนเบ้ปากง้ำงอน

     

              "งั้นจับมือผมไว้"

     

     

              ราวกับตัวเองเบาหวิวอย่างไรอย่างนั้น ปลายเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับก้อนเมฆนิ่ม บรรยากาศข้างบนค่อนข้างจะหนาว แถมโจคยูฮยอนเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแถมตอนนี้เขายังอยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนเสียด้วย

              เขาวิ่งเล่นบนก้อนเมฆนิ่มอย่างอัศจรรย์ใจ เหมือนกับเขาได้โบยบินโลดแล่นอย่างอิสระเหมือนปีเตอร์แพน

     

              ในความคิดของอีทงเฮนั้น โจคยูฮยอนเหมือนกับเด็กน้อย พอเริ่มชินก็ปีกกล้าขาแข็งโดยที่เขาไม่ต้องจับมือไว้เลย

     

              "ทงเฮครับ สนุกจัง ผมชอบมากเลย" โจคยูฮยอนพูดราวกับเด็กกำลังสนุกสนาน เจ้าเริ่มออกลวดลายบินทะลุเมฆ ตีลังกาบ้างอะไรบ้างจนทงเฮหัวเราะ

     

     

              โจคยูฮยอนใสซื่อเกินไปในความคิดของเขา

              เป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักและทำให้ยิ้มได้มากเลยทีเดียว

     

              ดูเหมือนเจ้าเด็กน้อยเริ่มเหนื่อยล้าแล้ว คยูฮยอนหอบแฮ่กก่อนจะแผ่ตัวลงนอนบนปุยเมฆ ทงเฮเข้าไปนั่งข้างก่อนจะลูบเรือนผมนิ่มนั่นเบาๆพร้อมกับไล้ไปที่พวงแก้มนิ่มที่ออกสีแดงฝาดเพราะความเหนื่อย

     

              ใบหน้างดงามแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนเมื่อห้าร้อยล้านปีก่อนเคยมีเทวดาแบบคยูฮยอนบนสวรรค์

              เป็นชายหนุ่มรูปงามท่ามกลางหมู่ดอกไม้ในสวนของเทวทูตมิคาเอลตอนที่ซีวอนยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง

     

              "นี่ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้วนะ" ทงเฮพูดเสียงเบาเมื่อรู้ว่าอีกคนได้ผล็อยหลับลงไปแล้ว

     

              "คยูฮยอน... เจ้ารู้รึเปล่าว่าเคยเป็นคนรักของข้า"

     

     

              "คนรัก...ของลูซิเฟอร์"

     

     
    Talk :3
    เรื่องแรกที่เปิดมาก็แฟนตาซีเลยทันที . . . 
    แต่งช็อตฟิคค้างๆไว้เยอะมาก ต้องไปขุดมาลงเล่นละ (หัวเราะ)
    ฝากด้วยหนา TVT
    B-badเกิร์ล คนสวยที่ไม่ติดว่าขี้เหร่


     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×