os(happy new year!) : resolution (youngmin x donghyun) - os(happy new year!) : resolution (youngmin x donghyun) นิยาย os(happy new year!) : resolution (youngmin x donghyun) : Dek-D.com - Writer

    os(happy new year!) : resolution (youngmin x donghyun)

    ผู้เข้าชมรวม

    379

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    379

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ธ.ค. 61 / 21:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    จะไปไหน


    รำคาญ ทำไมชอบงี่เง่านั่นเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่ดงฮยอนจะปิดประตูแล้วก้าวออกจากห้องของเขาไป เขาไม่ได้ตามรั้งดงฮยอนเหมือนเช่นเคยเพราะด้วยอารมณ์ที่ยังคงคุกรุ่นกับเรื่องที่พึ่งเกิดไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ครั้งนี้เป็นการทะเลาะของเขาสองคนครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้เนื่องด้วยตัวเขาเองก็ไม่อยากจะนับมันเท่าไหร่นัก หากแต่ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นความผิดของเขาเองที่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของดงฮยอนแต่เขาก็มีสิทธิ์จะรู้ในเรื่องของแฟนเขาเองไม่ใช่หรือไงกันในเมื่อไอ้ข้อความที่ส่งมาเป็นข้อความของคนที่ชื่อมินฮยอนที่เคยจีบแฟนของเขาเมื่อสามเดือนก่อน 

    แหงล่ะเรื่องพวกนี้เขาจำได้แม่น ไอ้หน้าตี๋ที่ไม่รู้จักกาลเทศะสักแต่จะมาจีบแฟนเขาอย่างเดียวมันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดไม่ใช่หรือไง เรื่องนี้ก็เคยเป็นประเด็นมาแล้วรอบนึงหากแต่ก็เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าดงฮยอนโสด อยากรู้ว่าไอ้นั่นมันไปอยู่หลังเขามาหรือไงถึงไม่รู้ว่าเขากับดงฮยอนคบกันทั้งที่เขากับดงฮยอนก็มาเรียนกับกลับคอนโดพร้อมกัน ล่อตีนเสียไม่ว่า


    โหล คืนนี้ว่างป่ะวะผ่านพ้นไปกว่าเกือบชั่วโมงกับอารมณ์ที่เริ่มผ่อนลง เขาตัดสินใจกดโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อที่จะชวนออกไปปาร์ตี้ข้างนอก ไหนๆแล้วดงฮยอนก็ไม่อยู่และเขาก็รู้ดีว่าคนอย่างดงฮยอนก็ต้องรอให้หายก่อนถึงจะกลับมา ขืนไปรั้งไปโทรตามตื้อยังไงมันจะทำให้อีกฝ่ายโมโหกว่าเดิม อีกอย่างยังไงแล้วดงฮยอนก็ต้องกลับมานอนที่ห้องของเขาอยู่ดีเพราะเขากับดงฮยอนเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันตั้งแต่เริ่มคบกันได้


    เออว่าง จะนัดกูตี้เหรอ ช่วงนี้ก็บนงดเหล้าไว้เอาเป็นดูต้นคริสมาสต์เฉยๆได้ป่ะ

    ไอ้เหี้ย ไปก็ได้วะ

    เจอกันสี่ทุ่มหน้าห้างเดิมเหมือนปีที่แล้วที่มึงเคยไปกับแฟนมึง

    เขาสบถด่าเพื่อนสนิทตัวดีไปฉาดนึง รายนั้นก็เหมือนจะรู้ทันเขาไปซะทุกเรื่อง เออก็ปกติคนมีแฟนแล้วตัวติดกันจะตายแต่ในวันสิ้นปีแบบนี้กลับมาชวนเพื่อนออกไปข้างนอกก็คงไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากทะเลาะกันนั่นแหละก็คงไม่ได้ฉลาดอะไรนักหรอก


    ติ๊ง


                  เขาสะดุ้งตัวกับเสียงแจ้งเตือนนั่น แน่นอนว่าไม่ได้มาจากมือถือของเขาอย่างแน่นอนในเมื่อโทรศัพท์เขาก็อยู่ในมือและยังไม่มีการแจ้งเตือนไหนโผล่มาด้วยซ้ำ พอลองเพ่งมองไปยังโต๊ะหน้าทีวี มือถือเครื่องสีดำที่คุ้นตานั่นแหละที่เป็นตัวก่อให้เกิดเสียง 

         ใช่ มือถือเครื่องนั้นเป็นของดงฮยอนและนั่นมันทำให้เขาเกิดอาการร้อนรนภายในใจอย่างห้ามไม่ได้ ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทะเลาะกันแล้วดงฮยอนไม่เคยลืมมือถือ อย่างน้อยการที่อีกคนเลือกที่จะพกมือถือไปด้วยมันก็ทำให้เขาสบายใจไปเปราะนึง หากว่าอีกคนอยากงอแงให้ไปรับหรือว่าครั้งไหนมันนานเกินไปเขาก็จะสามารถตามตัวอีกคนได้สบายๆ นั่นแหละถึงจะทะเลาะกันยังไงเขารู้ว่าดงฮยอนจะต้องกลับมาที่ห้องแต่มันก็อดไม่สบายใจไม่ได้ หากอีกคนไร้เครื่องมือติดต่อสื่อสารแบบนี้ ความคิดของเขาเริ่มเตลิดเปิดเปิงไปไกล ยิ่งในวันสิ้นปีแบบนี้ด้วยหากดงฮยอนไปเจอคนข้างทางที่แม่งสติไม่ดีหรือคิดจะปล้นอันนี้จะทำยังไง จะหาว่าเขาเว่อร์ก็ได้แต่สมัยนี้คนเราจิตใจมันอำมหิตยิ่งนักแทบจะไม่เหลือความเป็นคนเลยก็ว่าได้



                  ตอนนี้เขาพยายามโทรติดต่อเพื่อนของดงฮยอนทุกคน โชคดีที่ดงฮยอนยังไม่เปลี่ยนรหัสปลดล็อคของมือถือซึ่งมันเป็นตัวเลขของวันเกิดเขามาโดยตลอด เขาไล่ถามเกือบทุกลิสต์ในรายชื่อว่าดงฮยอนได้ไปหาเพื่อนคนไหนหรือเปล่า สุดท้ายจนหนทาง ไม่มีใครเห็นดงฮยอน เขากำลังคิดว่าตัวเองแทบเป็นบ้าจนกระทั่งโทรไปโวยวายงอแงกับเพื่อนสนิทที่เขาพึ่งจะโทรชวนออกไปข้างนอกเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว คำก่นด่าที่ออกมาไม่ขาดจากคนปลายสายทำให้เขาต้องวิ่งลงจากคอนโดไปถามรปภ.ที่เฝ้ายามอยู่หน้าคอนโด ก็ถือเป็นโชคอีกครั้งที่รปภ.คนที่เข้ากะวันนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาและดงฮยอนพอสมควร คำบอกกล่าวของคุณลุงรปภ.ทำให้เขาคิดว่าดงฮยอนน่าจะแอบไปเดินเล่นอยู่ที่ห้างประจำที่เจ้าตัวมักชอบไป


          สุดท้ายแล้วความคิดเด็กสามขวบที่เขาคิดได้คือการที่จะไปให้ information ของห้างนั้นประกาศตามหาดงฮยอน ตอนแรกก็แค่คิดแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะลงมือทำจริงๆ ชื่อของดงฮยอนถูกประกาศตามไลน์ของลำโพงไปทั่วทั้งห้าง เขายังคงยืนรออย่างกระวนกระวายอยู่แบบนั้น สองชั่วโมงก็แล้วไม่มีวี่แววของคนรักเขาเลยสักนิด ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นเสียแล้วเขาตัดสินใจที่จะกลับห้องก็แค่เผื่อว่าดงฮยอนจะฉุกคิดได้ว่าตนลืมโทรศัพท์ แล้วจะยอมจำนนกลับมาห้องก็เท่านั้นเอง


    ครืด ครืด


    เจอดงฮยอนยังเสียงแรกที่ดังขึ้นมาเป็นเสียงของเพื่อนสนิทเขาที่ดูจะร้อนใจพอๆกับเขามากพอสมควร

    ยังว่ะ ตอนนี้กูกลับห้องมาละ มึงมาหากูที่ห้องหน่อยเขาพูดกับเพื่อนไว้เพียงเท่านั้น ซองอูไม่ได้ปฏิเสธอะไรและใช้เวลาไม่กี่นาทีในการมาถึงคอนโดของเขา บทสนทนาในตอนนี้ก็มีแต่เรื่องของดงฮยอนทั้งสิ้น


    มึง เดี๋ยวน้องก็มา

    ถ้าน้องเป็นอะไรไปล่ะวะหลังจากที่ลงไปรับเพื่อนของตนขึ้นมาบนห้อง เขาพาตัวเองมานั่งที่โซฟา ความรู้สึกกระวนกระวายยังคงหลั่งไหลออกมาไม่หยุดไม่หย่อนทำให้เขาวิตกมากเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร ยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งเคว้งคว้างมากขึ้นและสีท้องฟ้าก็เริ่มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ การที่มีเพื่อนอยู่ด้วยในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นยาบรรเทาที่ดีแต่ก็ไม่ได้มากเสียจนทำให้เขาเลิกห่วงดงฮยอนได้เลย



    ไอ้เหี้ยทนไม่ไหวแล้วอะ

    มึงไปทะเลาะไรกันมา

    ก็ไอ้ตี๋นั่นแม่งส่งข้อความมาหาแฟนกู ชวนแฟนกูออกไปเค้าท์ดาวน์ ไอ้เหี้ย วันสิ้นปีใครๆก็ต้องไปกับแฟนป่ะวะ เสร่อชิบหายขี้เสือก

    แล้วน้องเขาได้ออกไปป่ะล่ะ

    ไม่

    เออไอ้สัสปัญญาอ่อนงี่เง่า” 


         หลังจากที่โดนด่าไปรอบที่สองเขาก็สารภาพเลยว่าเป็นที่ตัวเขาเองที่งี่เง่า ทั้งที่ดงฮยอนก็แทบจะไม่ได้ตอบอะไรแชทของไอ้นั่นเสียด้วยซ้ำ เออเขางี่เง่ามากจริงๆน่ะแหละแต่สำนึกผิดตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้วหรือเปล่า ในเมื่อตอนนี้ดงฮยอนก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เขาสาบานกับตัวเองเลยว่าถ้าดงฮยอนกลับมาภายในคืนนี้เขานี่แหละจะปรับปรุงตัวเองให้มีเหตุผลมากกว่านี้เพื่อที่ในปีต่อไปเราจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันอีก และเขาจะไม่ต้องมานั่งเป็นบ้าแบบนี้อีก


    23.30


    ไอ้เหี้ย นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว กูโทรไปหาเพื่อนน้องทุกคนอีกรอบแล้วนะเว้ยเพื่อนน้องบอกว่าน้องไม่ได้มาหาเลย กูจะทำยังไงดีวะ

    แจ้งความผ่านไปหลายชั่วโมงและเขาก็ยังหาหนทางอะไรไม่ได้เสียที แต่ความคิดที่เพื่อนเขาเสนอมันก็เป็นความคิดที่ดีแต่เพียงว่าดงฮยอนยังหายไม่ถึงเกณฑ์ที่เขากำหนดว่ากี่ชั่วโมงถึงจะควรแจ้ง ไอ้เขาก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ทางนี้เสียเท่าไหร่แต่ก็ยังพอรู้มาบ้าง

    มึงไปเสิร์ชเน็ตซะ แจ้งได้ก็เหี้ยละ

    มึงพ่นเหี้ยใส่กูหลายรอบแล้วนะเขายักไหล่ไม่ใส่ใจกับคำพูดของเพื่อนสนิทตนก่อนจะพาตัวเองลุกออกไปข้างนอกห้อง เขาบอกทิ้งท้ายกับเพื่อนสนิทว่าให้อยู่เฝ้าห้องเพราะเขาจะลงไปรอดงฮยอนข้างล่างล็อบบี้


    23.45


    ตอนนี้เขานั่งอยู่ที่โซฟาบริเวณล็อบบี้ของคอนโด เหลือบมองนาฬิกานี่ก็อีกสิบห้านาทีที่เขามานั่งรอตรงนี้และอีกสิบห้านาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว เขาเริ่มหาวอย่างต่อเนื่องเพราะไม่ค่อยจะนอนดึกเสียเท่าไหร่ ก็เพราะดงฮยอนนั่นแหละที่ชอบชวนเขานอนก่อนสี่ทุ่มจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว เรากินข้าวเวลาเดียวกัน นอนเวลาเดียวกัน ไหนจะออกไปเรียนเวลาเดียวกันอีก ก็พึ่งจะสังเกตรายละเอียดเล็กๆนี่ก็ตอนทะเลาะกันจนเขาเอาแต่พร่ำเพ้อตอนดงฮยอนหายไปนี่แหละ ดงฮยอนมีอิทธิพลต่อชีวิตเขาโคตรๆเลยก็ว่าได้



    .

     

     

    .

     

    ปุ้ง


    เสียงพลุที่ดังกระหน่ำที่ทำให้เขาสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเรียกอาการหัวใจเต้นไม่เป็นสับเป็นส่ายอย่างช่วยไม่ได้ ดังบ้านแตกขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องตกใจล่ะวะ เอาจริงๆเขาไม่รู้ตัวเองว่าเผลอหลับไปตอนไหนรู้ตัวอีกทีก็เสียงพลุดังนั่นแหละ เขามองไปรอบกายและเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนไว้บนเสาบริเวณล็อบบี้ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนเป๊ะและดงฮยอนยังไม่กลับมา แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจมากนักดงฮยอนอาจจะเดินเลยเขาขึ้นไปบนห้องแล้วก็ได้ เขาโทรเช็คเพื่อนตัวดีที่เขาปล่อยให้มันเฝ้าห้องอยู่อย่างนั้น ก็แค่หวังว่าดงฮยอนจะขึ้นไปแล้วแต่พอได้รับคำตอบก็โคตรจะน่าผิดหวัง ใช่ ดงฮยอนยังไม่กลับมาและตัวเขาเองที่กำลังจะสติแตก อยู่ๆก็รู้สึกว่าร้อนผ่าวอยู่ที่ขอบตา พูดอย่างคนไม่โง่เลยว่าตอนนี้เขากำลังจะร้องไห้ ความร้อนรนความกระวนกระวายใจและความเครียดที่สั่งสมมาตั้งแต่ตอนบ่ายจนกระทั่งถึงตอนนี้ ความจริงในวันสำคัญแบบนี้เขาควรจะอยู่กับดงฮยอนเสียด้วยซ้ำ ควรทำอะไรดีๆร่วมกันแทนที่จะได้นั่งรอเคาท์ดาวน์ปีใหม่กับคนรัก นอนดูทีวีโง่ๆอยู่บนโซฟาตัวโปรดของเขาและอีกฝ่าย และจบด้วยการนอนหลับในอ้อมกอดของกันและกันมันควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และเขาก็ทำมันพังด้วยตัวเองทั้งสิ้น


    ร้องไห้ทำไมเสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เขาต้องรีบหันไปมองด้วยหัวใจที่เต้นรัว ไวกว่าความคิดเขารีบหยัดตัวลุกออกจากเก้าอี้ก่อนจะทรุดกอดเอวของดงฮยอนเอาไว้ จากตำราบ้าบอคอแตกที่เคยได้ยินมาว่าเป็นลูกผู้ชายต้องอย่าร้องไห้ให้ใครเห็นเขาว่าแม่งเป็นเรื่องโคตรไร้สาระ ต่อให้ผู้หญิงหรือผู้ชายถ้าจะเสียใจจะร้องไห้ต่อหน้าใครถ้ามันไม่ไหวก็ไม่ผิด ใช่และตอนนี้เขากำลังกอดเอวดงฮยอนไว้และร้องไห้เป็นเด็กงอแงอยู่แบบนั้น น้ำหูน้ำตาไหลผสมปนเปมั่วไปหมด ความอบอุ่นที่วางอยู่บนศีรษะของเขาทำให้เขารู้สึกดีจนหัวใจพองโตไปเสียหมด


    หายไปไหนมา รู้มั้ยว่าเป็น..ห่วงเอ่ยออกมาอย่างทุลักทุเล ดงฮยอนก็คงจะขำขันกับเขาในตอนนี้ ถามว่ารู้ได้ไงก็คงเป็นแรงสั่นจากหน้าท้องของดงฮยอนที่เขาซุกไว้นั่นแหละ


    อยู่นี่แล้วไง ขึ้นห้องกัน ไปคุยกันบนห้องก็แค่คิดว่าดงฮยอนคงจะให้ใครเห็นภาพอุจาดตานี้ไม่ไหวถึงได้ชวนเขาขึ้นไปบนห้อง ตอนนี้เขาจับมือของอีกฝ่ายแน่นเพราะกลัวว่าดงฮยอนจะหนีเขาหายไปไหนอีก คิดได้แค่นั้นน้ำตาอีกระลอกก็ไหลออกมา นั่นแหละเขาร้องไห้โฮคาลิฟท์อีกครั้ง



    ใครอยู่ในห้อง


    ซองอูเมื่อมาถึงห้องก็พบว่าประตูถูกล็อคไว้เป็นอย่างดี ดงฮยอนถามหากุญแจแต่เขาก็บอกว่าไม่ได้เอาออกมาเพราะว่าเพื่อนสนิทเป็นคนเฝ้าห้องไว้ เคาะประตูไปไม่กี่ครั้งเพื่อนสนิทของเขาก็ออกมาต้อนรับประหนึ่งว่าเจ้าตัวเป็นเจ้าของห้องนี้ หน้าตาของซองอูมองดูจากดาวอังคารก็ยังรู้ว่ารายนั้นตลกหน้าตาของเขาที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาเป็นเด็กสามขวบมากขนาดไหน เขาไม่ได้เล่าอะไรให้เพื่อนของตนฟัง องซองอูก็ขอตัวกลับก่อนเสียแล้ว ตอนนี้ภายในห้องมีแค่เขา ดงฮยอน และเสียงแอร์ที่ดังเป็นระลอกเพราะทำงานตามอุณหภูมิด้านในห้องที่ปรับเปลี่ยนไป


    ขอโทษเขาเอ่ยขอโทษดงฮยอนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาข้างเขา ดงฮยอนไม่ได้ตอบอะไรแต่มือเล็กนั่นถูกส่งมาจับมือของเขาไว้ เขาหันหน้าไปมองใบหน้าของคนรักที่ยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีอยู่อย่างนั้น ดงฮยอนมีสีหน้าที่เรียบตึงไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ยังโกรธอยู่เหรอ


    รู้ว่าผิดจริงๆ ก็ปีใหม่แล้วจะทำตัวให้ดีขึ้น จะไม่งี่เง่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว จะเป็นแฟนที่ดีไม่ทำอะไรให้น่าปวดหัวหรือน่าหนักใจอีกแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหนีพี่ไปไหนแบบนี้อีกนะ ถ้าจะหนีก็เอาโทรศัพท์ไปด้วยรู้มั้ยว่าเป็นห่วงมากๆเขาพูดความรู้สึกทั้งหมดออกไป ก็ไม่รู้ว่าดงฮยอนจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เขาตั้งใจจะส่งไปหรือไม่แต่เขาอยากให้อีกฝ่ายรับรู้มากจริงๆ


    จริงๆก็หนีไปอยู่ที่ห้างนั้นมาแหละ แต่ตอนนั้นโกรธอยู่เลยไม่ยอมไปหา ตลกมากเลยอะประกาศเป็นเด็กอนุบาลเลย ตรงที่บอกว่าสูง 181 ชอบกินเยลลี่อันนี้จะบอกคนอื่นเขาทำไมอะ น่าอายชิบหาย โง่เอ้ยโดนเทศน์ไปช็อตนึงแถมยังตบด้วยข้อความที่ดูเหมือนจะตลกนั่นอีก เดาว่าดงฮยอนก็คงไม่ได้โกรธเขาแล้วหรืออาจจะโกรธอยู่แต่ก็คงลดลงจากเมื่อตอนบ่ายมากพอสมควร ถามว่ารู้ได้ไง ก็ไม่รู้ ก็คงรู้ได้จากการกระทำในตอนนี้ที่นัยน์ตาคู่สวยกำลังจ้องมาทางเขาเช่นเดียวกัน ความเงียบถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งรวมทั้งริมฝีปากอิ่มที่บรรจงจูบที่ริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบาก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆผละออกไป ใบหน้าของเขาและดงฮยอนตอนนี้ไม่ได้อยู่ห่างกันมากนักและมันทำให้เขาอยากจะฉกชิมริมฝีปากนั้นอีกครา


    ดงฮยอน


    .

     


    .

     


    หือ


    ปีหน้าฝากตัวด้วยนะครับ







    happy new year!

    ฟิคเรื่องนี้ก็คือแต่งภายใน 2 ชั่วโมงค่ะไม่มีการดูคำผิดอะไรทั้งนั้น รีบลงมากเพราะว่าจะไปนอนแล้ว T_T

    แล้วก็คิดว่าคงจะไม่ได้แต่งฟิคเรื่องอื่นต่อแน่ๆเลยเพราะใกล้จะเรียนจบแล้ว โปรเจคก็ยังมะเสร็จแง้

    ปีใหม่แล้วก็ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงนะคะ อะไรไม่ดีในปีนี้ทิ้งไปเนอะ เริ่มต้นกันใหม่นะคะ!

    ขอบคุณที่ให้กำลังใจกับฟิคเรามาตลอดด้วยค่ะ T_T แค่เม้นท์เดียวก็ทำให้เรามีกำลังใจมากๆแล้ว

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×