SF: TWITTER (youngmin x donghyun) - SF: TWITTER (youngmin x donghyun) นิยาย SF: TWITTER (youngmin x donghyun) : Dek-D.com - Writer

    SF: TWITTER (youngmin x donghyun)

    โดย ochqx

    how do you just walk away ?

    ผู้เข้าชมรวม

    306

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    306

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ธ.ค. 61 / 20:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    SF: TWITTER

    ( youngmin x donghyun )



         เสียงถอนหายใจดังขึ้นนับไม่ถ้วนของวัน ดวงตาคู่สวยกำลังจดจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมจนแทบไม่กระพริบท่ามกลางแสงสว่างที่ออกจะสลัวในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆสีขาว ชีวิตปิดเทอมของคิมดงฮยอนช่างน่าเบื่อหน่าย

    เฮ้อ

    นั่นแหละแล้วเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นอีกรอบ เขาออกจะเบื่อหน่ายกับการเข้าเว็บนู้นออกเว็บนี้ฟังเพลงก็แล้วดูหนังก็แล้วก็ยังไม่หายเบื่อ ครั้นจะชวนเพื่อนสนิทออกไปเที่ยว เหล่าเพื่อนตัวดีของเขาก็ดันมีนัดกับแฟนหมดซะนี่ น่ารำคาญจริงๆ

     

    น่าเบื่อคำนี้ไม่ใช่เสียงในห้วงความคิดหรืออะไรแต่กลับเป็นข้อความสั้นๆที่เจ้าตัวอัพลงทวิตเตอร์ของตัวเองที่มีคนฟอลเป็นหลักหมื่น เขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมคนอื่นถึง follow เขามากมายขนาดนี้ ก็เป็นแค่แอคเคาท์ที่ฟีลโซบลูแค่เพียงนิดเดียว เขาค่อนข้างเหนื่อยในด้านความรู้สึกเวลามีคนบอกว่าเขาทำตัวเป็นแอคคำคม คำคมซะที่ไหนกันคนเหล่านั้นไม่เคยฟังเพลงแล้วรู้สึกอินกับมันบ้างหรือไงกันนะ ?

     

    15 Notifications

    อัพทวิตไปเพียงไม่กี่นาทีก็เป็นปกติที่การแจ้งเตือนของเขาจะเด้งมาอย่างรวดเร็ว ก็แค่แจ้งเตือนรีทวิตธรรมดาเหมือนในทุกๆวันแต่ครั้งนี้มันต่างออกไปตรงที่มีเมนชั่นแทรกเข้ามาด้วยน่ะสิ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมอ่านเมนชั่นจากแอคเคาท์นึงที่พิมพ์มาหา


    Lym_1225: @b_kdh98 ออกมาเที่ยวกันมั้ยครับ


    สารภาพตามตรงว่าแอบกลัวนิดหน่อยที่โดนเมนชั่นมาแบบนั้น หรือว่าจะเป็นแอคเค่อหรือไงกันนะ แต่ว่าไปแล้วเขาก็ออกจะคุ้นกับแอคเคาท์นี้นิดหน่อยเพราะแอคเคาท์นี้น่ะรีทวิตที่เขาอัพทุกทวิตมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแถมยังใช้ดิสเพลย์เดิมไม่เปลี่ยน นั่งคิดได้สักพักด้วยความที่ไม่เคยคิดจะกดไปดูแอคคนอื่นเลยตอนนี้เขาก็แค่คิดว่าลองส่องดูสักนิดก็ไม่เสียหายเท่าไหร่

    มีแต่รูปของกินไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเจ้าของแอคดันลงแต่รูปอาหาร เขาค่อนข้างโล่งใจที่แอคที่เขากำลังส่องนั้นไม่ใช่แอคเค่อแบบที่คิดไว้ แถมไม่ต้องเสียสายตาไปดูอะไรที่ไม่ควรจะเห็นอีกด้วย

    ครืด ครืด

    เขาหลุบตามองโทรศัพท์ข้างคอมที่วางไว้พบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาเองที่โทรมา ริมฝีปากอิ่มนั่นยกยิ้มอย่างมีความสุข ให้เดาเถอะว่าจองเซอุนเดทกับแฟนเสร็จแล้วแน่ๆ

    "ว่าไง"

    รับเร็วเชียวดงฮยอน

    "ทำไมล่ะ จะชวนไปเที่ยวต่อเหรอ"

    จะว่างั้นก็ได้แต่งานนี้เที่ยวกลางคืนนะ

    "อะไรกันเลิกกับแฟนหรือไง เป็นเพื่อนกันมาไม่เคยชวนไปร้านเหล้า"

    รู้ได้ไงว่าร้านเหล้า ทายถูกแล้วแต่ว่าไม่ได้เลิกกับแฟนนะ เขาก็ไปด้วยเนี่ยอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ

    "โอเค ที่ไหนกี่โมงว่ามาพร้อมแล้ว"

    เจอกันร้าน xx สามทุ่มครึ่ง

    "ดีลสารภาพตามตรงว่าจริงๆแล้วเขาไม่ค่อยถูกกับเหล้ากับเบียร์เท่าไหร่เพราะดันเคยเมามากๆจนกอดโถส้วมอ้วกไปสองชั่วโมงอ้วกจนเหม็นกลิ่นเหล้าเบียร์ไปเลย ไหนจะแขนสองข้างที่ถูกหิ้วปีกทุลักทุเลกลับห้องพร้อมถุงพลาสติกที่ห้อยกับหูอีก เหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทำให้เพื่อนคนอื่นมักจะชวนเขาไปร้านบ่อยๆเพราะอยากเห็นเขาสภาพแบบนั้น ให้ตายมันตลกมากหรือไงกันเนี่ย

     

    เขาไม่รู้ตัวว่าสามารถส่องแอคเคาท์ใครคนนึงได้นานจนแถบสกอร์เม้าส์ข้างๆบีบเล็กจนเป็นแค่สี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก แต่จุดที่ทำให้เขาหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำเป็นส่าย ก็คงจะหน้าของเจ้าของทวิตเตอร์แอคนี้ นิ้วที่กำลังไถลสกอร์เม้าส์หยุดชะงักเพร้อมกับหัวใจที่แทบจะหยุดเต้นไปเสียครู่หนึ่ง อิมยองมิน รุ่นพี่ที่เขากำลังแอบชอบอยู่เป็นเหตุผลของอาการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

    เดี๋ยวนะ

    ยิ่งกว่าสูตรแคลคูลัสหนึ่งสองสามมารวมกัน สมองเขาตอนนี้รวนไปหมดจนแทบวูบ ถ้าอีกฝ่ายไม่ลงรูปก็คงไม่รู้ว่าเป็นอิมยองมิน แหงล่ะในเมื่อคนชื่ออิมยองมินในประเทศเกาหลีก็ไม่ได้มีคนเดียว แอคเค้าท์นั่นน่ะอาจจะเป็นอิมยองมินคนที่ 100 แล้วก็ได้

    อ่า

    เขาไม่รู้ว่าจะดีใจหรือว่าควรรู้สึกอย่างไร พอคิดได้ว่าตัวเขาเองก็เคยลงรูปตัวเอง ไหนจะประโยคฟีลโซบลูที่อัพลงทวิตเตอร์แบบนั้นอีก

    พี่เขาจะคิดว่าเราขี้เก๊กหรือเปล่าวะ

    ขยี้หัวตัวเองจนเจ็บไปหมด ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเจอหน้ากันที่ม.ซะเมื่อไหร่ แต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้สนใจกับแค่คนเดินผ่านหรือเดินสวนกัน แต่ถึงยังไงมันก็น่าอายอยู่ดีถ้าวันนึงเจอหน้ากันตรงๆน่ะ


    "ฮัลโหล"

    ว่าไงดงฮยอน

    "กูไม่ไปละ"

    ไม่รอให้จองเซอุนต้องเอ่ยปากห้าม เขาก็ชิงตัดสายซะก่อน จะหักไม่หักก็คราวนี้


    b_kdh98: @Lym_1225 พูดจริงพูดเล่นครับ

    เขาอยากจะขอโทษคุณแม่จริงๆที่ทำตัวแบบนี้ แต่ไหนๆแล้วโอกาสมาถึงขนาดนี้ก็ขอคว้าเอาไว้หน่อยก็ .. คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

    Lym_1225: @b_kdh98 พูดจริงครับ เดี๋ยวดีเอ็มไปได้มั้ย

    b_kdh98: @Lym_1225 ครับ

    ให้ตาย ตอนนี้ใจเขาเต้นระรัวเป็นกลองแซมบ้าแล้ว บอกเลยว่าไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่แต่เหมือนมือจะไปก่อนสมองเสียด้วยซ้ำเมื่อตอนนี้เขาดันเปิดกล่องดีเอ็มรอแจ้งเตือนคำขอทางข้อความเรียบร้อยแล้ว นี่คือ ไม่ได้ตื่นเต้นจริงๆนะ!


    คำขอทางข้อความ(1)


    ไม่ได้ใช้เวลาในการรออะไรมากมาย สิ่งที่เขารอคอยก็มาถึง ส่วนในเรื่องหัวใจตอนนี้ก็เต้นแรงไม่หยุด อะไรจะประหม่าขนาดนี้กันนะคิมดงฮยอน

    Lym_1225: ไว้ใจคนง่ายขนาดนี้เลยเหรอครับ

    เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกับประโยคที่กึ่งจะออกแนวเชิงไปทางตักเตือนบวกกับเหน็บแนมนิดหน่อย

    b_kdh98: ก็แค่เบื่อครับ

    Lym_1225: ไม่กลัวผมพาไปทำอะไรที่น่าเสียหายเหรอครับ

    b_kdh98: คนที่คิดจะทำจริงๆเขาจะมานั่งบอกกันแบบนี้เหรอครับ

    Lym_1225: ย้อนเก่งจริงๆ เจอกันร้านกาแฟหน้าม.นะครับบ่ายสาม

    b_kdh98: รู้เหรอครับผมเรียนม.ไหน ?

    Lym_1225: ก็เดินสวนกันอยู่ที่คณะทุกวันครับ


    ออกตัวก่อนว่าถ้าสมมติตอนนี้มีโอ่งตั้งอยู่ เขานี่แหละจะพาตัวเองไปแหกปากใส่โอ่งให้รู้แล้วรู้รอด พลางคิดในใจกับตัวเองว่าสรุปในที่ผ่านมาอีกฝ่ายก็คือรู้ว่าเขาเป็นใครมาตลอดจริงๆน่ะเหรอ แต่จากการพูดทั้งหมดแล้วความจริงก็คือความจริง ไม่มีตรงไหนที่อีกฝ่ายจะพูดไม่ชัดเจนว่าเคยเห็นเขามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาค่อนข้างวุ่นวายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เสียมากกว่าว่าเรื่องในตอนนี้ทำไมถึงมาไวและเกิดขึ้นไวเสียขนาดนี้

    ใจเย็นก่อนคิมดงฮยอนเขาพูดกับตัวเองเบาๆ อ่า .. นี่มันเรื่องน่าอายที่สุดเลยไม่ใช่หรือไงเนี่ย ตามตรงเลยว่าตอนนี้เขาเริ่มคิดหนักกับการจะออกไปเจออีกฝ่าย มีสมการสำเร็จอะไรให้แก้เพื่อหาคำตอบมั้ย ด้วยเกียรติของว่าที่วิศวกรเกียรติยมอันดับหนึ่งที่พอมีสติคิดถึงความเป็นจริงบอกเลยว่า ไม่มี

    ตอนนี้ใครจะว่าเขาปัญญาอ่อนก็ได้ที่กำลังสลับนับนิ้วตัวเองว่าไป/ไม่ไป แหงล่ะถ้าเริ่มด้วยไม่ไปมันก็จบที่ไปทั้งนั้นและเขาก็ทำแบบนี้มาสามรอบได้แล้ว สรุปน่ะเหรอ

    เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์พร้อมกับสนีคเกอร์คู่โปรดถูกโยนออกมาจากตู้เรียบร้อย เหลือบมองนาฬิกาก็จวนจะบ่ายสองครึ่งอยู่แล้ว

    เอาไงเอากันวะ



    .

     

     

    .

     

     

    .

     


    15:01

    เขารู้สึกขอบคุณที่วันนี้รถเมล์พาเขามาส่งถึงที่หมายได้ตรงเวลาอย่างรวดเร็ว วันปกติเนี่ยไม่เคยจะมาไวหรอกในทุกเช้าที่เขารีบก็มักจะมาส่งเขาที่มหาลัยช้าอยู่ทุกทีเรื่อยไป แต่ทำไมทีเรื่องแบบนี้ล่ะก็เป็นใจกันนัก

    ฟู่ว

    อยู่ดีๆหน้าเขาก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเสียอย่างนั้น พูดเลยว่าตอนนี้น่ะประหม่าที่สุดในชีวิตแล้ว เขายืนจ้องร้านกาแฟที่ถูกปิดด้วยฟิล์มกระจกอยู่สักพัก จริงๆแล้วจากด้านนอกนี้หากมองเข้าไปข้างในก็ไม่สามารถจะมองเห็นได้ พูดเลยว่าถ้าหากอีกฝ่ายมาจริงๆก็คงนั่งมองเขาเป็นตัวตลกจากข้างในนั่นแหละ

    หรือว่าจะกลับดีวะด้วยความไม่มั่นใจของเขาทำให้ต้องยืนกระวนกระวายอยู่นอกร้าน แต่ยังไม่ทันจะได้หาคำตอบให้ตัวเองมือถือที่อยู่ในกางเกงก็ดันสั่นขึ้นมา หากคิดไม่ผิดก็คงจะเป็นอีกฝ่ายที่ส่งดีเอ็มย้ำมาอีกรอบ และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ผิดจริงๆ

    Lym_1225: ไม่เข้ามาเหรอครับ เห็นยืนอยู่หน้าร้านนานแล้ว

    มือของเขาเริ่มสั่นเทาไม่ว่าจะด้วยความตื่นเต้น ความประหม่าหรืออะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อตอนนี้เขาก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแต่ถ้าหากคิดที่จะหนีกลับไปทางเดิมมันก็สามารถทำได้ แต่หากไม่ติดว่าเวลาห้าเดือนที่ผ่านมาที่เคยมองอีกฝ่ายมาตลอดนั่นค้ำคอจนทำให้เขาอยากเริ่มความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายไม่ว่ามันจะลงเอยด้วยสถานะอะไรในตอนสุดท้ายเขาก็อยากที่จะลองเสี่ยงดูอยู่เหมือนกัน

    เอาวะเรียกกำลังใจให้กับตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพาตัวเองก้าวเดินเข้าร้าน หลังบานประตูกระจกนั่นเขาแง้มหน้าเข้าส่องหาใบหน้าที่ทำให้เขาใจสั่นอยู่บ่อยครั้ง ประโยคทั่วไปที่เอ่ยกล่าวว่าเคยเจอใครแล้วโลกหยุดหมุนมีหรือไม่ คิมดงฮยอนอยากเขียนตอบกลับไว้ว่าสิ่งแบบนั้นมีอยู่จริงและมันกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาในตอนนี้

    สวัสดีครับเขาก้าวขาเข้าไปใกล้โต๊ะวงกลมสีดำที่ถูกวางด้วยแก้วกาแฟของอีกฝ่ายก่อนจะหย่อนตัวเองลงบนเก้าอี้สีเทาที่อยู่ตรงข้ามในตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะวางมือไปตรงไหนก็รู้สึกเกะกะไปเสียหมด แม้กระทั่งการที่พูดว่าสวัสดีเขายังรู้สึกไม่เป็นตัวเองเสียด้วยซ้ำ

    เป็นทางการมากเลยครับเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับดวงตาสีดำขลับที่จ้องมองมาทางเขา รอยยิ้มถูกประดับอยู่ที่มุมปากของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องแอบลอบมองก่อนสายตาจะหลุบลงมองมือของตัวเองที่ถูกวางอยู่บนหน้าขา เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มประหม่ามากขึ้นทุกทีเมื่อมือที่กำลังประสานกันทั้งสองข้างของเขาเริ่มที่จะสั่นเทา

    ก็คุณเป็นรุ่นพี่ผม

    รู้จักผมด้วยเหรอครับ

    ประธานสโมวิศวะปีสี่ใครจะไม่รู้จักกันล่ะครับ

    แล้ว.. จะไม่มองหน้ากันจริงๆเหรอครับได้สติก็ตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น จากที่นั่งก้มมองมือตัวเองด้วยความประหม่าก็ดันรีบเงยหน้าขึ้น จนสบเข้ากับดวงตาที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้มองอย่างตรงไปตรงมาและเขาคิดว่ามันสวยงามมากเหลือเกินกับการที่คล้ายกับว่ามีดวงดาวล้านดวงอยู่ในดวงตาคู่นั้น และพบว่าเขากลับชอบทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิม

    ไม่สบายเหรอ หน้าแดงเชียวเหมือนระเบิดลงเป็นครั้งที่สองในเมื่อคนตรงหน้าดันรู้ทันและดักจุดเขาไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มนั่นหรือดวงตาที่ส่อแววเหมือนรู้ทันทุกความรู้สึกที่อยู่ในใจเขา ร้ายกาจ

    เปล่าครับ

    กล้าดีนะครับที่ออกมาประโยคที่อีกฝ่ายพูดคลับคล้ายคลับคลากับที่พูดในดีเอ็มทวิตเตอร์ไม่มีผิด และนั่นมันทำให้เขาตะหงิดใจไม่น้อยว่าควรจะโกรธหรือไม่พอใจหรือจะว่าอย่างไรดี แต่สิ่งที่อิมยองมินพูดไม่ว่าจะจุดประสงค์ไหนเขาก็ดูเป็นคนไม่ระมัดระวังตัวแบบที่อีกฝ่ายบอกจริงๆ แต่มันก็แค่กับอีกฝ่ายเท่านั้น

    มันแปลกหรือไงครับ ลองถามย้อนกลับไปพร้อมทั้งรวบรวมความกล้ามองตรงไปยังอีกฝ่ายที่กำลังยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นมาดื่มโดยที่ไม่ได้สบตาเขาเลยสักนิด ผมสีดำนั่นกับเสื้อโค้ทสีน้ำตาลอ่อนพร้อมกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มรวมทั้งเสื้อคอเต่าสีดำนี่มัน .. โคตรอันตรายต่อใจคิมดงฮยอนสุดๆ

    แล้วถ้าผมเป็นคนอื่น คุณจะยอมออกมามั้ยดงฮยอนค่อนข้างชั่งใจในการที่จะตอบคำถามนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงออกไปให้อีกฝ่ายไม่ต้องคิดสงสัยในคำพูดของเขา และการที่เขานิ่งเงียบไปหลายวินาทีก็ทำให้อีกฝ่ายบอกปัดไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขายังคงนั่งเงียบอยู่แบบนั้น มีแต่เสียงพูดคุยในร้านกาแฟที่ทำลายความเงียบของระหว่างเขาและอีกคนในตอนนี้


    ขอตัวกลับก่อนนะครับความเงียบหลายนาทีเริ่มทำให้ดงฮยอนอึดอัด การบอกลาอีกฝ่ายคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อระงับอาการประหม่าและความอึดอัดที่เกิดขึ้น ดวงตาที่เป็นประกายของอีกคนจ้องมองมาทางเขา ริมฝีปากนั่นไม่ได้เอ่ยพูดอะไร เขาเลื่อนเก้าอี้เพื่อใช้พื้นที่ในการขยับลุกออกรวมทั้งการโค้งตัวเพื่อขออนุญาตอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาไม่ได้มองอีกฝ่ายว่ามีปฏิกิริยาเช่นไรแต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกคนไม่ได้สนใจใยดีอะไรเลยสักนิด แหงล่ะก็แค่คนพึ่งรู้จักกันจะเอาอะไรมาใส่ใจ

     

    คิมดงฮยอนก้าวเดินออกมาได้ไม่นานมากนัก เสียงเรียกชื่อของเขาดังไล่ตามหลัง ร่างกายของเขาหยุดชะงักและยังคงนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่แม้แต่ต้องหันไปมองเขาก็ทราบดีเวลาน้ำเสียงที่เรียกชื่อของเขาเมื่อสักครู่นี้เป็นน้ำเสียงของใคร หัวใจกลับมาวูบวาบอีกครั้ง คนที่อายุมากกว่าเดินอ้อมมาด้านหน้าของเขา รองเท้าหนังสีดำขลับอยู่ห่างจากตัวเขาไม่ไกลมากนักแต่ตัวเขาเองก็ยังไม่กล้าที่จะเงยหน้ามอง

    ทำไมไม่มองผม ประโยคคำถามถูกเอื้อนเอ่ยและเขาก็ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ เขารู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายเริ่มสูงขึ้นเหงื่อที่ออกตามมือนั่นเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างดีกับความรู้สึกในตอนนี้ เขาก็แค่สงสัยว่าอีกฝ่ายจะเดินออกมาตามเขาทำไมก็แค่นั้น

    ลืมกุญแจไว้หรือเปล่าเมื่อได้ยินดังนั้นจากใบหน้าที่กำลังก้มอยู่ก็เงยขึ้นมา อ่า.. ใช่ เขาลืมกุญแจบ้านจริงๆ ก็นั่นแหละอย่างที่ว่าไป ก็พึ่งรู้จักจะเอาอะไรมาพูดเยอะแยะ เป็นตัวเขาเองชัดๆที่มัวแต่หวังอะไรลมๆแล้งๆคิดอะไรไปไกลเรื่อยเปื่อยทั้งที่ความจริงระยะห่างของเราสองคนไม่ได้ใกล้กันเลยสักนิด ก็แค่ประธานสโมวิศวะปีสี่กับเด็กในคณะที่แค่เดินสวนกันไปวันๆ


    ขอบคุณครับเขากล่าวขอบคุณอีกคนที่ยังอุตส่าห์วิ่งเอาของมาคืน อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าไปเผลอทำกุญแจตกไว้ตอนไหนเหมือนกันแต่ก็น่าจะเป็นจังหวะที่กำลังนั่งอยู่เพราะเขาก็ติดนิสัยชอบห้อยพวงกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อความสะดวกในตอนหยิบออกมา เขาหยิบกุญแจจากมือของอีกคนก่อนจะก้าวเดินสวนตัวของอีกคนไป


    ติ๊ง


    เสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์เขาดังขึ้นอีกครั้ง ริงโทนแจ้งเตือนที่บ่งบอกได้เด่นชัดเป็นอย่างดีว่าเป็นแอพลิเคชั่นใดกำลังทำงานอยู่ในตอนนี้ ซึ่งมันทำให้เขาต้องรีบหยิบโทรศัพท์ของตนออกมาด้วยหัวใจที่เต้นรัว ยิ่งหน้าจอแสดงแอคเคาท์ของอีกฝ่ายความวูบโหวงในช่องท้องของเขาก็เพิ่มมากขึ้น


    Lym_1225: หันมาข้างหลังอีกทีหน่อย


    เขาชั่งใจอยู่สักพักกับประโยคที่ถูกส่งมาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน มือของเขายังคงกำโทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้แน่น ขาของเขาค่อยๆก้าวหันกลับไป อิมยองมินยังคงยืนอยู่ที่เดิม เส้นผมของอีกฝ่ายปลิวไปตามแรงลมของฤดูหนาวที่เริ่มใกล้เข้ามา ดวงตากลมยังคงจ้องมองมาทางเขาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายพูดคำคำหนึ่งออกมา และนั่นมันก็ทำให้เขาคิดว่าตัวเองกำลังตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ยอมหันกลับมาตามคำขออีกคนอย่างว่าง่าย


    ลองคุยกันดูไหม

    แบบที่ก่อนคนเป็นแฟนกันเขาทำน่ะ


         เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดที่อีกคนเอ่ยออกมาแถมยังหมุนตัวกลับมายังที่เดิมเพื่อหลบหลีกสายตาคู่นั้นและขาของเขาเริ่มออกเดินอีกครั้ง ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกอึดอัดหรืออะไร คนที่ชอบมาตลอดพูดแบบนั้นใครๆก็ดีใจด้วยซ้ำไปแต่เขาเพียงแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันค่อนข้างกระชั้นชิดแบบที่คาดไม่ถึงต่างหาก การเดินออกมาจากอีกฝ่ายเป็นการกระทำเดิมที่เขาทำอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่เสียงเรียก ไม่มีแรงกระชากที่ข้อมือแบบหนังหรือซีรีย์ทั่วไปทำ ทั้งที่หวังแต่ก็ยังคงวิ่งหนีนี่คือสิ่งที่เขากำลังทำ บางครั้งเขาแค่คิดว่าเขาอาจจะชอบการที่แอบมองดูอีกฝ่ายเพียงฝ่ายเดียวมากกว่าแต่เมื่อเวลาผ่านไปสองอาทิตย์จิตใจของเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุกอีกครั้ง หลังจากวันนั้นที่เขาเดินออกมา แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของคนโตกว่าก็ถูกปิดไป เขาค่อนข้างว้าวุ่นและร้อนรนภายในใจอย่างบอกไม่ถูก อยากโทรถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าทำไมถึงปิดแอค ทำไมถึงหายไป กำลังรู้สึกไม่ดีอะไรอยู่หรือเปล่าแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักอย่าง แน่นอนว่าเขาไม่ทราบอะไรของอีกคนเลยนอกจากแอคทวิตเตอร์นั่นหรือแม้กระทั่งที่เคยเดินสวนกันที่คณะ เขาก็ไม่เจออีกฝ่ายอีกเลยถึงแม้ว่าหลายครั้งจะพยายามกวาดสายตามองไปทั่วทั้งคณะแล้วก็เถอะ


    CE (60)

    พวกมึง มีไลน์พี่ประธานสโมมั้ย

    สโม ? สโมไหน

    สโมวิศวะ

    มี


    สุดท้ายแล้วเขาก็ยอมแพ้ให้กับความรู้สึกของตัวเองที่เป็นไปอย่างไม่ฝืนกฎของธรรมชาติใดๆ หากว่ามีใครอยู่ ณ ที่ตรงนี้ก็คงจะขำขันกับท่าทางที่เขาแสดงออกในตอนนี้อย่างแน่นอน ใช่ เขาไม่ปฏิเสธว่าเขากำลังดีใจอย่างสุดขีดและเสียงตึงตังที่ดังทั่วบ้านจนแม่ของเขาตะโกนขึ้นมาว่าให้เบาๆนั่นก็คงเป็นสัญญาณบอกได้ดีว่าเขาดีใจมากจริงๆ เขาทึ้งหัวตัวเองกับความคิดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็แค่ลองก้าวข้ามผ่านความกลัวและอะไรเดิมๆแค่คิดจะตามหาอีกฝ่ายก็ตามหาไม่ยากเลยสักนิด


    Flower.k : สวัสดีครับ

    Lim : ใครครับ

    Flower.k : พี่ครับ

    Flower.k : ลองคุยกันดูมั้ยครับ แบบที่ก่อนคนเป็นแฟนกันเขาทำน่ะ

    Read

    Lim is calling you..

     

    อ่า เชี่ยละ

    เขาสบถในใจเมื่อหน้าจอในตอนนี้กลับขึ้นโชว์ว่าอีกฝ่ายกำลังโทรต่อสายมาหาเขา ความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกแต่มันก็ยังคงแฝงไปด้วยความประหม่าดั่งเช่นเคย เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไหนๆแล้วก็กล้าก้าวข้ามทุกอย่างมาขนาดนี้ก็แค่ลองอีกครั้งจะเป็นอะไรไป


    ฮัลโหลครับ

    คิมดงฮยอน

    ครับ

    เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวครับ พรุ่งนี้ออกมาหาพี่ที่ร้านกาแฟเหมือนเดิมเวลาเดิม

    เรื่องอะไรครับ


    ครับ เรื่องของเรา









    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    จริงๆแล้วฟิคเรื่องนี้แต่งไว้นานมากเลยค่ะตั้งแต่เดือน 6 แล้วก็ว่าได้แต่พึ่งมาแต่งให้จบเอาตอนนี้

    รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไม่ได้ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำอะไรมากนักอยากให้เรียบง่ายมากกว่า

    ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ :-) แค่เมนต์เดียวก็ต่อกำลังใจให้เราได้เยอะแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×