SF: DADDY ISSUES 02
you got me in the mood, for love
ผู้เข้าชมรวม
446
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ควันขาวที่ลอยคละคลุ้งอยู่ไปทั่วบริเวณระเบียงห้องหากแต่ไร้ซึ่งกลิ่นเหม็นแบบบุหรี่ทั่วไป น้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้าที่เริ่มจะเหือดแห้งทำให้คนที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ต้องเอื้อมตัวคว้าหยิบน้ำยากลิ่นที่คนรักของตนชอบมือถือไว้ในมือก่อนที่จะบรรจงเติมมันเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ ความอบอุ่นที่โถมโอบกอดจากด้านหลังเรียกรอยยิ้มของเขาได้เป็นอย่างดี แขนเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบคอคนโตกว่าพร้อมกับปลายคางแหลมถูกวางเอาไว้บนลาดไหล่กว้างรวมทั้งสัมผัสอุ่นจากริมฝีปากที่ถูกมอบลงมาที่แก้ม
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”
เขาหันไปถามดงฮยอนพร้อมทั้งกดจูบลงไปที่ริมฝีปากนั่นอย่างมันเขี้ยว
ดวงตาคู่สวยกำลังจ้องมองมาที่ใบหน้าของเขา ดงฮยอนไม่ได้เอ่ยตอบคำถามนั้นเป็นคำพูด หากแต่เจ้าตัวกลับตอบรับในลำคอแทน
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
เพราะวันนี้ดงฮยอนดูออดอ้อนเขามากกว่าทุกวัน
อันที่จริงแล้วดูเหมือนจะเป็นอาการที่อ้อนเพราะความไม่สบายใจอะไรสักอย่างเสียมากกว่า
หากถามว่าเขารู้ได้เช่นไร ก็คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวของเจ้าตัวเองแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าคนที่กำลังกอดเขาจากด้านหลังกำลังมีความรู้สึกขุ่นมัวในใจอยู่ไม่มากก็น้อย
“เปล่า”
“ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ใช่ไหม” เขาดึงให้คนเด็กกว่าที่กำลังยืนกอดตัวเขาจากด้านหลังอ้อมมานั่งบริเวณหน้าตัก มือที่กำลังยกป้อนบุหรี่ไฟฟ้าให้กับตัวเองอยู่ วางอุปกรณ์ทุกอย่างลงบนโต๊ะด้านข้างและย้ายไปเกี่ยวกระหวัดโอบรอบเอวของอีกคนแทน ควันสีขาวถูกพ่นไปที่คนเด็กกว่าด้วยความตั้งใจ ดงฮยอนไม่ได้มีท่าทีรังเกียจกับควันเหล่านั้นที่ถูกพ่นออกมาเพราะอย่างน้อยแล้วเขาก็ดันชอบกลิ่นที่อีกคนสูบมากๆเสียด้วยซ้ำ
“จริงๆแล้วก็รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยแต่ก็ช่างมันเถอะครับ
กลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้วนี่” คนเด็กกว่าพูดพร้อมเอนตัวพิงมายังแผ่นอกของยองมิน
ดงฮยอนหันมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนอายุมากกว่าก่อนที่ริมฝีปากจะบรรจงจูบไปที่ลำคออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาแล้วถึงผละออกมา
ดวงตาคู่สวยพิจารณาใบหน้าของคนรักของตนเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมา อิมยองมินไม่ว่าจะยังไงก็ทำให้เขาพ่ายแพ้อยู่เสมอ
ไม่ต้องทำอะไรเขาก็ยอมยองมินอยู่ยังวันยังค่ำจริงๆ แค่เพียงมองหน้าของอีกฝ่ายเฉยๆก็ยังรู้สึกว่าตัวของเขาเองอยากจะมอบทุกอย่างให้กับผู้ชายคนนี้จริงๆ
“นิสัยไม่ดีเลยเนอะพี่เนี่ย”
“อื้ม
นิสัยไม่ดีเลย” พอได้ยินคำตอบของดงฮยอน
คนโตกว่าก็หลุดขำออกมา ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
จริงๆเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ได้แล้ว
เขาไม่นึกรำคาญหรือหงุดหงิดดงฮยอนเลยที่คนเด็กกว่ายังคงมีอาการท่าทางแปลกๆใส่เขาหรือบางครั้งเจ้าตัวก็เงียบจนรู้สึกถึงความอึดอัด
แต่ในระหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้ทำตัวให้น่าหนักใจ
บางครั้งคนเด็กกว่าก็โทรมาทั้งตอนพักกลางวันและตอนพักสิบนาทีของโรงงาน
และทุกเย็นที่เขาไปรับอีกคนที่มหาวิทยาลัยดงฮยอนก็ยังอ้อนเป็นลูกแมวมากกว่าเก่า
เขาเดาได้ว่าหากโรงงานไม่มีกฏห้ามเล่นมือถือนอกจากเวลาพักหรือสามารถติดกล้องตามตัวได้ดงฮยอนก็คงจะตามดูเขาไปแล้วเสียกระมัง
“ขอโทษ” เขาเอ่ยขอโทษดงฮยอนอีกครั้ง
ลูกแมวที่นั่งอยู่บนตักของเขาไม่ได้ตอบอะไรแต่มือเล็กๆที่ในตอนแรกกำลังวางไว้บนหน้าขาของตนกลับเลื่อนขยับมาทาบทับลงที่มือของเขาที่กำลังโอบรอบเอวบางนั่นพร้อมลูบที่หลังมือของเขาเบาๆ
การกระทำของอีกฝ่ายเรียกรอยยิ้มของเขาให้ผุดขึ้น เขาจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มของคนเด็กกว่าและแน่นอนว่า
กลิ่นของดงฮยอนเป็นกลิ่นที่เขารักเสมอ
“ก็..
รู้แล้วว่าขอโทษ
ไม่ได้อยากโกรธหรือเกลียดเลยแต่ความรู้สึกลึกๆมันก็ยังเสียใจอยู่ที่อยู่ดีๆริมฝีปากของพี่ก็ไปเป็นของใครก็ไม่รู้ทั้งที่มันควรเป็นของเราคนเดียว
ในช่วงเวลาที่เราคบกัน” เขาฟังคำพูดจากความรู้สึกของอีกฝ่ายพร้อมกับทอดสายตามองไปยังแสงสีส้มอ่อนจากไฟบนท้องถนนในยามค่ำคืน
ความเร็วของรถนำพาซึ่งเสียงที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์
ดงฮยอนสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงท่อของรถมอเตอร์ไซค์ที่ดังจนเหมือนประทัด
เขากระชับกอดอีกคนให้แน่นขึ้นเพื่อปลอบขวัญคนที่กำลังนั่งอยู่ตักของเขา
“บิ๊กไบค์คันนั้นน่าตีเนอะ
แบ็คไฟร์ออกมาจนคนแถวนี้สะดุ้งเลย”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย
สำนึกผิดบ้างหรือเปล่าเนี่ย”
“รู้สึกผิดแล้วก็เสียใจอยู่ทุกวันนั่นแหละครับ”
ไร้ซึ่งคำพูดใดออกมาจากปากของทั้งสองคน
ลมหายใจในคราแรกของดงฮยอนที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ในตอนนี้เริ่มกลับกลายเป็นติดขัดเมื่อมือหนาที่วางบนหน้าท้องราบในคราแรกกลับเลื่อนมือสอดเข้าไปในเสื้อยืดของคนเด็กกว่าพร้อมทั้งยังลากไล้ลงไปยังขอบกางเกงนั่น
และแน่นอนว่าอิมยองมินไม่ได้หยุดการกระทำเพียงแค่นั้นหากยังคงไล่มือของตนลงต่ำไปมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่คัดค้าน เขาจูบลงที่แก้มนิ่มของคนเด็กกว่า กลิ่นครีมอาบน้ำที่ดงฮยอนชอบใช้ยังคงติดอยู่ตามตัวของอีกฝ่ายซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะไล่กดจูบลงไปตามลำคอขาวจนเกิดเป็นจ้ำสีแดง
เขามองผลงานของตัวเองอย่างพอใจและมือที่ยังไล้วนอยู่ภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์ของคนเด็กกว่าก็ยังคงทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
“มะ..
ไม่เอาตรงนี้”
ดงฮยอนดันท่อนแขนของยองมินออก หากแต่มือหนาที่กำลังกอบกุมส่วนกลางของร่างกายตนทำให้ดงฮยอนแทบไม่มีแรงจะห้ามปรามการกระทำที่แสนน่าอายนี้เลยสักนิด
นิ้วโป้งที่ไล้วนอยู่บริเวณส่วนหัวภายใต้กางเกงที่ไม่ได้ถูกถอดทำให้ดงฮยอนแทบคลั่ง
“บนระเบียงก็สนุกดีออกไม่ใช่เหรอ”
ยองมินแหย่ถามและนั่นทำให้ดงฮยอนหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งส่ายหน้าจนเส้นผมสีดำขลับปลิวไปตามแรง
ดวงตากลมมองคนอายุน้อยกว่าที่กำลังเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ เนี่ย ฝืนตัวเองชัดๆ
ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นพร้อมทั้งมือที่เริ่มรูดรั้งส่วนกลางของคนเด็กกว่า
แต่เหมือนกับว่าครั้งนี้ดงฮยอนก็ไม่มีท่าทีจะยอมยองมินเหมือนเฉกเช่นเคย
มือเล็กพยายามดึงแขนของคนอายุมากกว่าออกจนสำเร็จพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดที่ดวงตาของอีกฝ่าย
ทุกอย่างในตอนนี้ที่ยองมินมองเห็นคือความมืดและเขาก็ยอมปล่อยคนเด็กกว่าอย่างโดยดี เขาก็แค่อยากรู้ว่าดงฮยอนจะทำอะไรก็แค่นั้นเอง เมื่อรับรู้ถึงการขยับเคลื่อนย้ายของอีกคนรอยยิ้มของยองมินผุดขึ้น
ความวูบโหวงที่หายไปเนื่องจากคนเด็กกว่าที่ลุกออกจากตักของเขาชั่วครู่หนึ่ง ในตอนนี้กำลังถูกทาบทับลงมาอีกครั้ง
ต่อให้ไม่ต้องเปิดตาเขาก็รู้ว่าในตอนนี้ดงฮยอนกำลังนั่งท่าไหนบนตักของเขา
“ยั่วเก่งจังเลยนะเดี๋ยวนี้” เขาเอ่ยพูดพร้อมทั้งจับข้อมือของอีกคนเลื่อนลงอย่างช้าๆ
เขามองไปที่ใบหน้าของอีกคน เราสบตากันเพียงชั่วครู่ก่อนที่ดงฮยอนจะก้มหน้าลงงุดพร้อมทั้งย้ายมาเกยที่ไหล่ของเขาอีกครั้ง
ท่าทางแบบนี้มันน่ารักมากๆเลยไม่ใช่หรือไงกันนะ
“ก็เปล่า แต่ถ้าอยากให้สนุกก็จะทำให้สนุกสุดๆไปเลย”
.
.
“พี่”
“หืม”
“คือ..
อยากไปทะเล”
ดงฮยอนเอ่ยถามอีกคนที่กำลังนั่งจิบกาแฟบนโต๊ะทานข้าวภายในโซนห้องครัว
วันนี้เขาไม่ต้องออกไปเรียนและอิมยองมินก็ไม่ต้องออกไปทำงานเช่นกัน วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ไม่ได้มีมาบ่อยครั้งและเขาแอบคิดว่ามันก็ดีไม่น้อยที่อย่างน้อยก็ได้หยุดพักในวันที่ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์และความคิดที่ค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนหลังเสร็จกิจกรรมบนเตียง
อาจจะฟังดูแปลกๆแต่อยู่ดีๆคือความรู้สึกที่เขาอยากไปทะเล แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะอยากไปด้วยเหมือนกันหรือเปล่า
ความจริงที่รู้มาคืออิมยองมินชอบทะเลแต่เหตุผลที่อาจเป็นเงื่อนไขของการปฏิเสธข้อเสนอครั้งนี้คืออาการเหนื่อยล้าสะสม
อิมยองมินเป็นวิศวกรภายในโรงงานทำงานแปดชั่วโมงเต็มและได้พักเบรกวันละยี่สิบนาทีหากไม่นับเวลาพักกลางวันและเขารู้ว่าการที่อีกฝ่ายทำงานในโรงงานมันน่าเบื่อและเหนื่อยมากขนาดไหน
พอได้หยุดยาวสามวันก็คงคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะอยากนอนพักเฉยๆอยู่คอนโดมากกว่า แต่ทางเขาเองที่ไม่ได้แบกภาระอะไรหนักมากนักก็เป็นปกติที่จะอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง
“นึกยังไงถึงอยากไป”
ดงฮยอนก้มหน้างุดยืนอยู่ด้านข้างของโต๊ะทานข้าวเมื่อน้ำเสียงของคนโตกว่าที่เอ่ยออกมากำลังพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
ดวงตาของอีกฝ่ายยังคงจ้องอยู่ที่จอทีวีที่ฉายข่าวในยามเช้า ในตอนนี้เขาเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านซ้ายของอีกคน
ใบหน้าหวานยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ก็ปกติไม่เคยโดนจะพูดเสียงเรียบใส่
เจอแบบนี้ก็เลยไปไม่ถูกเสียมากกว่า
“ก็..
อยากไปเปิดหูเปิดตา อีกอย่างเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันนานแล้ว
แต่ว่า.. ถ้าพี่เหนื่อยอยากนอนพักอยู่ห้องก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราไปเที่ยวกับเพื่—”
“ไปเตรียมเสื้อผ้าสิ วันนี้เลย”
ใบหน้าที่กำลังก้มงุดมองมือตัวเองนานเมื่อฟังประโยคที่คนโตกว่าเอ่ยมากลับเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของยองมินกำลังส่งยิ้มมาให้เขาและนั่นทำให้เขาดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ ดงฮยอนเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะเคลื่อนตัวไปกอดอีกฝ่ายอย่างแรง
เสียงหัวเราะของเขาทั้งสองดังขึ้นแต่ก็ต้องจบด้วยเสียงฟาดที่บ่าของคนโตกว่าเพราะประโยคน่าอายที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากนั่น
“ดงฮยอน
อยากลองริมทะเลมั้ย”
“ทะลึ่ง” หลังที่ได้ฟาดคนโตกว่าที่พูดจาทะลึ่งตึงตังอย่างสมใจแล้ว
ขาเรียวก้าวเดินไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมชุดทั้งหมดเพื่อออกเดินทาง
โดยไม่ลืมที่จะเตรียมเสื้อผ้าให้อีกคนด้วย
แน่นอนว่าเขาจะไม่ให้ยองมินลงเล่นน้ำทะเลและเขาก็จะไม่สนใจด้วยว่าอีกฝ่ายจะอยากเล่นหรือไม่
เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครต่อใครมาเห็นเนื้อหนังของคนโตกว่าอย่างแน่นอน
เมื่อทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างเรียบร้อย
ยังไม่วายที่คนอายุมากกว่ายังคงถามหายาสามัญเพื่อพกติดไปด้วย
ความเป็นห่วงคนเด็กกว่าถูกถ่ายทอดอารมณ์ผ่านดวงตาที่กลมโตนั่น
ยองมินไม่อยากให้ดงฮยอนต้องไม่สบายหรือเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวในระหว่างที่อยู่ต่างจังหวัด
คำตอบที่ได้รับจากปากของดงฮยอนเป็นที่น่าพึงพอใจเมื่อคนเด็กกว่าได้จัดเตรียมทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว
เขาจึงเริ่มเคลื่อนรถออก ระยะทางระหว่างตัวเมืองกับต่างจังหวัดไม่ห่างกันไกลมากนัก
หากนับความเร็วเฉลี่ยที่ตัวเขาเองเคยขับไปแล้วก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าแต่เหมือนว่าในวันนี้เขาจะขับรถด้วยความเร็วที่ช้าลงกว่าปกติเพราะเห็นว่าคนที่นั่งข้างที่นั่งคนขับให้ความสนใจกับวิวข้างทางมากเป็นพิเศษ
ดงฮยอนไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวต่างจังหวัดซะเท่าไหร่ เหตุผลหลักก็เป็นที่ตัวเขาเองที่มักจะได้หยุดแค่เสาร์อาทิตย์แถมเสาร์อาทิตย์ที่ได้หยุดบางครั้งก็ต้องเอางานกลับมาทำที่คอนโดอีก
ไหนจะอาทิตย์ไหนที่งานหนักมากๆวันเสาร์อาทิตย์เขาก็ได้แต่หลับเป็นตายด้วยความเหนื่อยล้าจนไม่ได้ออกไปไหน
“เคยฟังเพลงนี้มั้ย”
เขาเอ่ยถามคนเด็กกว่าพร้อมไล่นิ้วเลื่อนเปิดเพลงที่อยากจะให้เจ้าตัวได้ฟัง
ใบหน้าหวานที่หันหน้าออกทางหน้าต่างเพื่อชมวิวไม่ได้ตอบเพียงแต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบเมื่อได้ยินจังหวะเพลงที่ไม่คุ้นหูขึ้นมา
These are the
moments I cherish
Us hiding from the rain
Stay by your side till I perish
I know you’d do the same
I never knew that this could
feel so good
นิ้วเรียวเริ่มเคาะไปตามจังหวะของเพลง สายตาก็ยังคงทอดมองไปตามวิวข้างทาง
ยองมินมองท่าทางของอีกฝ่ายก่อนจะหลุดขำออกมา ในตอนนี้ดงฮยอนกำลังน่ารักมากๆ ริมฝีปากที่กำลังพึมพำอยู่กับตัวเองเมื่อท่อนของเพลงเริ่มวนมาซ้ำๆจนเจ้าตัวแทบจะร้องได้
นั่นมันทำให้เขาอยากจะจับอีกคนมาฟัดจนให้หนำใจหากติดอยู่ตรงที่ว่าเขากำลังขับรถอยู่
“เพลงนี้เหมือนเคยฟังเลยแต่ว่านานมากๆแล้ว” ดงฮยอนหันหน้ามามองเขาก่อนที่จะใช้นิ้วจิ้มอยู่ที่ขมับตัวเองอย่างใช้ความคิด
ท่าทางที่ออกจะแปลกประหลาดไปเสียหน่อยสำหรับเขาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อีกครา
จริงๆดงฮยอนก็เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว ท่าทางประหลาดๆที่เจ้าตัวชอบทำน่ะ ถึงจะประหลาดแต่เขาก็ชอบมากๆอยู่ดี
“ก็พี่เคยส่งให้เราฟังตอนที่กำลังจีบเราอยู่ไง
จะไม่เคยฟังได้ยังไงล่ะ” ดงฮยอนเบิกตากว้างพร้อมกับถามเขาย้ำๆว่าที่เขาพูดน่ะจริงไหม
ไหนจะยังพร่ำคำขอโทษออกมาไม่หยุดอีกและนั่นทำให้เขาเกิดคำถามกับตัวเองว่าทำไมดงฮยอนถึงดูลนลานขนาดนั้น
คำตอบที่ได้รับมันทำให้เขาอยากฆ่าตัวตายกับความน่ารักของเด็กคนนี้รอบที่ร้อย
“ปกติเราจำเรื่องของพี่ได้หมดเลยแต่อยู่ดีๆมาลืมเพลงที่พี่เคยส่งให้
แบบนั้นมันน่าตีไม่ใช่หรือไง” เออเนี่ย
น่ารักจริงๆด้วย
ใช้เวลาไปกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย เขาขับรถวนเข้าโรงแรมที่เคยเข้าพักอยู่บ่อยครั้งกับครอบครัวสมัยยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย
โชคดีที่เมื่อเช้าเขาตัดสินใจจองห้องผ่านทางแอพลิเคชั่นในระหว่างที่รอดงฮยอนเตรียมเสื้อผ้า
ไม่งั้นก็คงต้องได้ย้ายไปนอนโรงแรมอื่น จริงๆแล้วเขาไม่ได้มีปัญหากับเรื่องการนอนโรงแรมที่ไม่คุ้นเคย
หากแต่ว่าเขาพบเจอโรงแรมที่ดีที่สุดที่เคยพักมา พูดไปเขาก็เหมือนจะรอยัลตี้ไปกับโรงแรมนี้เต็มๆ
พนักงานยังคงยิ้มแย้มและบริการดีเฉกเช่นเคย
ตอนนี้ดงฮยอนกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ล็อบบี้และเป็นเขาเองที่อาสาเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องเพราะสัมภาระที่เตรียมมาไม่ได้เยอะมากมายนักและไม่จำเป็นต้องพึ่งรถเข็นของโรงแรมเลยสักนิด
“ป่ะ”
เขาใช้เวลาไม่นานในการเก็บของ ก็แค่โยนๆกระเป๋าไว้บนเตียงแล้วรีบลงมาเพราะกลัวอีกฝ่ายจะรอนาน
“ไปไหน”
ดงฮยอนเอ่ยถาม ใบหน้าของคนเด็กกว่าเต็มไปด้วยความสงสัย
จะว่าไปอีกฝ่ายก็ไม่ได้ถามอะไรเขาสักนิดว่าให้นั่งรอตรงล็อบบี้ไปทำไมแทนที่จะได้ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน
ใช่ ดงฮยอนดูเป็นเด็กดีว่าง่ายเหลือเกิน
“ไปกินอาหารทะเลที่ร้านไง” เมื่อได้ยินในเรื่องของอาหาร ดวงตาเฉี่ยวก็เบิกกว้างเป็นประกายร่างของดงฮยอนลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วพร้อมกอดแขนของเขาเดินไปที่รถ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดงฮยอนก็คงจะหิวมาก
ถึงแม้ว่าการเดินทางจะไม่ได้ยาวนานหนักหนาแต่คนอย่างดงฮยอนน่ะ หลังลงรถทีไรก็กินเยอะจนเขาอดที่จะเอ็นดูไม่ได้
แต่ก็น่าแปลกที่กินเยอะขนาดนั้นแต่ตัวของดงฮยอนก็ยังบางอยู่ดี แทบจะหักคามือของเขาเลยก็ว่าได้
เขาพาดงฮยอนไปร้านประจำที่ทานกับครอบครัวบ่อยๆ
วันนี้คนค่อนข้างเยอะเลยทำให้ได้เมนูอาหารแต่ละอย่างในเวลาที่ค่อนข้างนาน
แต่ดงฮยอนก็ไม่ได้มีท่าทีที่หงุดหงิดอะไร ความจริงอีกอย่างที่ทำเขารักดงฮยอนคือการที่อีกฝ่ายเป็นคนใจเย็นในเรื่องที่ควรใจเย็นจริงๆ
มื้ออาหารในครั้งนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนเด็กกว่า
เขารักในรอยยิ้มของอีกฝ่ายมากเหลือเกิน ความสุขที่ดงฮยอนได้ทานอาหารอร่อยๆทำให้เขาหัวใจพองโตจนย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ไปกินเลี้ยงสายรหัสที่ทำให้เขาเจอกับดงฮยอนครั้งแรกและนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาตกหลุมรักรอยยิ้มของเด็กคนนี้
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในร้านอาหาร ในตอนนี้เป็นเวลาค่อนข้างเย็นไปเกือบมืดมากแล้ว
ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าสดในตอนกลางวัน ตอนนี้กลับแซมไปด้วยสีส้มเสียส่วนใหญ่
เขาเอ่ยถามคนเด็กกว่าว่าอยากไปทะเลในช่วงเวลานี้หรือเปล่า
ดงฮยอนไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่หน้าตาที่แสดงถึงความเสียดายก็บ่งบอกจนเห็นได้ชัดจนเขาต้องเอ่ยถามถึงสาเหตุของความไม่สบายใจนั้น
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“ก็.. อยากเล่นน้ำทะเลด้วยแต่ไม่ได้เอาชุดมา” คำตอบของดงฮยอนทำให้เขาต้องยกมือลูบหัวของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
วันนี้ดงฮยอนน่ารักมากๆน่ารักจนเขาใจสั่นไปหมดจริงๆ
“น้ำทะเลไว้เล่นพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ ตอนนี้เย็นแล้ว
เราไปยืนดูทะเลเฉยๆก่อนก็ได้”
เขาตอบ คนเด็กกว่าพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆจับมือของเขามาวางไว้ที่หน้าขาของตัวเอง
มือเล็กค่อยๆลูบไล้ไปบนหลังมือเขาเบาๆก่อนจะจับมือของเขายกขึ้นทาบไปบนพวงแก้มนิ่มนั่น
อุณหภูมิที่กระจายออกมาจากผิวของอีกคนสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดให้เขาอีกครั้ง ดงฮยอนกำลังทำให้เขาใจเต้นเป็นเด็กสาวอายุสิบสี่รอบที่สิบของวัน
เขาค่อนข้างจะแปลกใจกับความรู้สึกตัวเองในวันนี้ก็นั่นมันก็คงเป็นเพราะว่าเราไม่เคยได้ออกมาเที่ยวกันนอกเมืองกันเสียมากกว่าแถมบางเหตุการณ์ก็ยังปลุกความรู้สึกเมื่อตอนได้เจออีกฝ่ายใหม่ๆอีกด้วยซ้ำ
เขาขับรถใช้เวลาเพียงไม่นานเพื่อไปจอดรถที่ริมทะเลเพราะร้านอาหารก็อยู่ห่างจากทะเลไม่มากนักหากลองประมาณดูแล้วก็แค่ห้าร้อยเมตร
เมื่อถึงที่หมายคนที่ชิงลงรถไปคนแรกก็คือฝั่งของคนเด็กกว่า ขาเรียวก้าวเข้าเขตของหาดทรายแต่ว่าเขายังคงยืนอยู่ที่บริเวณริมประตูรถเฉกเช่นเดิม
เขามองภาพคนรักที่กำลังเดินเข้าใกล้ในส่วนของน้ำทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ เส้นผมสีดำขลับที่ปลิวไปตามแรงลม
แสงอาทิตย์ที่ยังไม่ได้ลับหายไปขอบฟ้า น้ำทะเลสีครามที่ซึมซับสีของท้องฟ้าเอาไว้
รวมไปถึงหาดทรายที่ประดับไปทั่วพื้นที่ ช่างเป็นภาพที่สวยงามสำหรับเขาหากแต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบที่สุด
“จะยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆเหรอครับ” เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ก้าวเดินตามอีกฝ่ายไป
ก็คงเป็นความเคยชินที่ดงฮยอนมักจะต้องมีเขาอยู่ข้างๆเสมอ คนเด็กกว่าหันหลังกลับมาตะโกนหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับขึ้นบนใบหน้าที่เขารักและหวงแหนมากที่สุด
อ่า ..
เขาคิดว่าเขาเจอภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตเขาแล้วล่ะ
- daddy issues 03 is coming -
ตอนนี้ไม่บาปแล้วนะคะเพราะเอาลงเด็กดีบาปมากไม่ได้ T_T
#ดดอชยองดง แท็กเดิมไม่เปลี่ยนค่ะขอบคุณทุกฟีดแบคด้วยนะคะ รัก.
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx
ความคิดเห็น