OS: HEAVY ( youngmin x donghyun )
ผู้เข้าชมรวม
421
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ONE SHOT: HEAVY
LIMYOUNGMIN X KIMDONGHYUN
ความสวยงาม ความเพอร์เฟกต์ ความน่าค้นหา เทสต์ที่ดี เพลงที่ฟัง การแต่งตัว แม้กระทั่งมู้ดโทนของรูปภาพ อิมยองมินทำให้ดงฮยอนหลงใหลกับตัวตนที่แสดงผ่านแอพลิเคชั่นชื่อดังอย่างอินสตราแกรมอย่างปิดไม่มิด
การกดไลค์รูปภาพทุกรูปของอิมยองมินและการกดเข้าไปดูไอจีสตอรี่ของอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่ดงฮยอนเลือกที่จะทำในทุกวัน ในการที่เขากล้าที่จะเปิดเผยความชอบที่มีต่อใครสักคนที่เขาแสดงออกไม่ใช่เรื่องยาก ในเมื่ออีกฝ่ายมีคนติดตามเป็นหลักหมื่นและแน่นอนไม่มีทางที่อิมยองมินจะมาสังเกตหรือใส่ใจอะไรกับไอจีที่เอาแต่ลงรูปหมารูปแมวรูปวิวไร้ซึ่งใบหน้าของเขานอกจากดิสเพลย์ที่โชว์ แต่เหมือนพระเจ้ากำลังล้อเขาเล่นอย่างไรอย่างนั้นเมื่อวันดีคืนดี ไอจีสตอรี่ของเขาที่ถ่ายคลิปสั้นๆของตัวเองกับแมวที่บ้าน ดันถูกรับชมด้วยไอจีของอิมยองมิน บุคคลที่เขาผู้ซึ่งชื่นชมมาตลอดในสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออก เพียงแค่นั้นหัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะและยิ่งมากขึ้นทุกทีเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาดูทุกวัน เขาค่อนข้างจะกระสับกระส่ายและทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้นและแน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็อัพไอจีสตอรี่ถี่กว่าปกติ มันเป็นเพียงเรื่องโง่ๆที่เขาถ่ายลง ทั้งที่เมื่อก่อนแทบไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักกับการเพิ่มเรื่องราวในนั้น บทความในทวิตเตอร์สั้นๆที่เขาเคยอ่านจู่ๆก็เด้งขึ้นมาในห้วงความคิด
‘การอัพไอจีสตอรี่ในบางครั้งก็อยากให้ใครสักคนกดเข้ามาดู’
ถึงแม้ไม่อยากจะยอมรับว่าตัวเองกำลังเกิดอาการแบบนั้นแต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าอยากให้อีกฝ่ายกดเข้ามาดูจริงๆอย่างที่ทวิตนั้นพูดนั่นแหละ
เรื่องที่เรียกรอยยิ้มของเขาในทุกวันเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมากขึ้นทุกทีจนเขาแทบจะไม่เป็นตัวเอง
สิ่งที่อิมยองมินทำกับเขาหลังจากนั้นคือการที่อีกฝ่ายทักไดเรคเมสเสจในอินสตราแกรมของเขา
ถ้าเปรียบความรู้สึกในตอนนั้นก็คงเหมือนกับเด็กสาววัยแรกรุ่นที่มีความรักครั้งแรกเมื่อตอนอายุสิบสี่เสียอย่างนั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมีแฟนและเคยมีความรักมาก่อนแต่การที่ได้รู้จักใครและชอบในไลฟ์สไตล์ที่เขาเป็นหรือแสดงออก
มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่เขาก็แปลกใจในตัวเองพอสมควร ก็แค่ไม่คิดว่าจะใจเต้นกับคนที่ไม่เคยเจอกันแบบจังๆมาก่อน
‘อยากรู้จักด้วยครับ’
นั่นเป็นประโยคแรกที่อิมยองมินทักเขามา คำถามและข้อสงสัยถูกส่งไปยังอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างประหม่า สิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นดันเป็นไปในทางตรงกันข้ามทั้งหมด ใช่แล้วอิมยองมินน่ะเห็นเขามาตั้งแต่เริ่มแรก แถมอีกฝ่ายยังเล่าให้ฟังอีกว่าตัวเขาเองนั่นแหละที่เริ่มติดตามไอจีของอิมยองมินตั้งแต่มันยังไม่มีอะไร อาจจะฟังแล้วคล้ายกับการที่ได้เติบโตมาพร้อมกับใครสักคนแบบนั้นหรือเปล่านะ เขาไม่อาจจะแน่ใจได้เลย ความสัมพันธ์ของเขาเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นไปในทางของพี่น้อง แต่กลับกลายเป็นความพิเศษของกันและกัน หลังจากนั้นอินสตราแกรมของอิมยองมินก็เต็มไปด้วยรูปของคิมดงฮยอนและแน่นอนว่าอินสตราแกรมของคิมดงฮยอนก็เต็มไปด้วยรูปของอิมยองมินเฉกเช่นเดียวกัน
เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดน่ะ
ความสวยงาม ความเพอร์เฟกต์ ความน่าค้นหา เทสต์ที่ดี เพลงที่ฟัง การแต่งตัว
แม้กระทั่งมู้ดโทนของรูปภาพของอิมยองมิน สร้างภาพชัดๆ
เพี้ยะ
แรงจากอีกฝ่ายที่ถูกส่งมากระทบกับใบหน้าของเขาทำให้เขาไม่สามารถที่จะควบคุมให้ร่างกายของตัวเองหยุดนิ่งได้
ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงที่ถูกส่งมา ไม่ไหวติงเขาไม่ได้แม้แต่หันกลับไปมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ
ด้วยความกลัวหรืออะไรก็ตามแต่
อิมยองมินที่อยู่ตรงหน้าของเขาใจร้ายมากขึ้นและมากขึ้นในทุกวัน
“มึงจะเอายังไง”
คำพูดไร้ซึ่งความอ่อนหวานเหมือนตอนแรกเริ่มที่คบกัน
ที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่เขาไม่อาจจะย้อนเวลากลับไปหาจุดเริ่มต้นของมันได้
รวมถึงความรุนแรงที่อิมยองมินใช้มักมันกับเขาในแทบทุกวัน
ทุกวันที่อีกฝ่ายดื่มแอลกอฮอล์หรือแม้กระทั่งตอนที่เจ้าตัวไม่สบอารมณ์
ระยะเวลาที่พวกเขาคบกันก็ถือว่าไม่นานมากเท่าไหร่นัก ในเกือบสองปีที่ผ่านทุกอย่างด้วยกันมามันดีมากๆ
ด้วยความที่มหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กัน อิมยองมินเสนอให้เขามาอยู่ห้องด้วยกัน
ทั้งที่อีกฝ่ายก็รู้ว่าดงฮยอนมีบ้านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลมหาวิทยาลัยและแน่นอนว่ามันไม่แปลกเพราะพ่อและแม่ของเขาไปทำงานที่ต่างประเทศ
ครึ่งปีจะกลับมาครั้งนึง บ้านหลังนั้นจึงมีแค่เขาและคนดูแลที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเด็กจนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวได้
ซึ่งทางฝ่ายคนดูแลก็ไม่ได้ขัดใจอะไรกับการที่เขาจะย้ายไปอยู่กับยองมิน
เพียงแค่เข้าใจว่าเขาคงเหงาที่นานๆครั้งจะได้เจอพ่อและแม่
ความเหงาและความไร้เดียงสามันทำให้เขาเลือกที่จะเข้าไปอยู่ร่วมห้องกับอิมยองมินโดยไร้ซึ่งข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น
นับจากหนึ่งปีกว่าที่คบกันหลังจากนั้นอีกฝ่ายก็เริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างที่เขาก็แทบจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
ข้อสงสัยและคำถามค้างคาในใจเป็นร้อยคำถามแต่ไม่อาจเอ่ยถามได้แม้แต่คำถามเดียว ในวันนั้น
รอยลิปสติก น้ำหอมผู้หญิง ยางรัดผมที่ประดับด้วยคริสตัลนั่น ทำให้เขาแทบจะสติแตกหลังจากกลับมาถึงห้อง
และในตอนแรกที่เขาบอกว่าหาจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ไม่เจอ เขาคิดว่าในตอนนี้เขาอาจจะหามันเจอแล้วก็ได้
นั่นแหละมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์พังๆแบบนี้ทั้งหมดก็เป็นได้
“จะกลับไปอยู่บ้าน”
“กูไม่ให้มึงไป!”
แรงบีบที่ข้อมือและแรงกระชากอย่างแรงนั่นทำให้เขาเซถลาเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างแรง
และแน่นอนว่าอิมยองมินไม่ได้รับตัวเขาไว้แต่อย่างใด เพียงแต่ปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้นพรมสีแดงเข้มอย่างไม่ใยดี
“พี่จะให้เราอยู่ทำไม
เราอยู่รับอารมณ์ของพี่ไม่ไหวแล้ว”
“เรื่องของมึง
แต่กูไม่ให้มึงไป!”
“งั้นก็ฆ่าเราไว้ที่นี่สิ”
มีเพียงแต่เสียงลมหายใจที่ดังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนี่
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากประโยคนั้น อีกฝ่ายก็เช่นกัน จะมีก็แต่แรงโอบรัดรวมทั้งความอบอุ่นที่แผ่ซ่านครอบคลุมตัวของเขาอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วอิมยองมินก็พ่ายแพ้แก่น้ำตาของเขาเช่นเดิม
“อย่าพูดอะไรแบบนั้นออกมาอีกนะ”
“อื้ม”
.
.
.
“ดงฮยอน”
“ว่าไง”
“หน้าไปโดนอะไรมา”
“เปล่า”
“พี่ยองมินอีกแล้วเหรอ”
เมื่อข้อสงสัยถูกไขขึ้นอย่างง่ายดาย
เขาไม่มีแม้แต่ข้อโต้แย้งใดๆที่จะเอ่ยกับเพื่อนสนิทของตัวเอง
แอบสงสัยว่าเขาจะสามารถเรียกอีกฝ่ายว่าเพื่อนสนิทได้หรือเปล่านะในเมื่อนานๆทีจะคุยกันครั้งนึงเพราะอยู่ต่างคณะ
ถ้าไม่นับในแชทด้วยล่ะก็ .. น่าจะนับครั้งได้เลย
“ทำไมไม่ตอบล-”
“ช่างมันเถอะดงฮัน”
น้ำเสียงของเขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรเลยสักนิด
แม้กระทั่งความรู้สึกในตอนนี้เช่นเดียวกัน บางครั้งเขาก็แอบคิดว่าอิมยองมินคือยมทูต
ที่ทำให้ความเป็นตัวเองของเขาถูกกลืนหายไปทีละนิด ความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบแฝงไปด้วยเศษเสี้ยวที่แตกยับแต่ยังคงไม่ไปไหนปล่อยให้บาดลึกและทิ่มแทงอยู่แบบนั้น
ทั้งที่ควรก้าวออกมาตามที่ใครต่อใครบอกแต่เขาไม่อาจจะทำได้เลย ทุกความรู้สึกมากกว่าความชอบไปจนถึงคำว่ารักและบางครั้งเขาคิดว่ามันอาจก้าวเข้าสู่ความผูกพันธ์เสียแล้วก็เป็นได้
อย่างนั้นจริงๆน่ะเหรอ
“กลับบ้านกัน
เดี๋ยวไปส่งนะ”
“ไม่ต้อง”
“ดงฮยอน
เลิกกับพี่ยองมินเถอะ” ดวงตาเรียวที่เอาแต่มองออกไปนอกสนามฟุตบอลอย่างไร้จุดหมายหันขึ้นสบกับเพื่อนสนิทของตนตรงหน้า
สีหน้าของดงฮันดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด แววตานั่นดูเหมือนกำลังเจ็บปวดกับอะไรสักอย่างถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นเรื่องของเขาเสียมากกว่า
ความคิดความทรงจำและความรู้สึกทั้งหมดที่เหมือนจะตกตะกอนไปตั้งแต่เมื่อคืนวานเริ่มตีฟุ้งขึ้นมา
เรื่องราวของเขากับอิมยองมินที่เคยดี สั่นคลอน แตกหัก
แต่ออกจากกันไม่ได้เสียทีทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าเสียให้ได้ เขาเคยรักตัวเองมากกว่านี้
แน่นอนมันก็แค่เคยในเมื่อตอนนี้เขากลับรักอีกฝ่ายสุดหัวใจจนก้าวออกมาไม่ได้ เขาทำมันไม่ได้จริงๆ
ใบหน้าของดงฮันเริ่มพร่ามัวเมื่อหยาดน้ำตาใสไหลหล่นลงมาจากดวงตาเฉี่ยวนั่น รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมอกของเพื่อนสนิทของตนไปเสียแล้ว
“ฮึก”
ความรู้สึกเขาตอนนี้มันจวนแทบจะขาดใจและยังคงเกลียดตัวเองที่ไปไหนไม่ได้เสียที
รอยบอบช้ำตามร่างกายเป็นเครื่องเตือนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในการมาเรียนในทุกวันคิมดงฮันไม่เคยจะไม่สังเกตความผิดปกติตามร่างกายของคิมดงฮยอนเลยสักนิด
และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากให้เพื่อนของตนไปเลิกกับแฟนของอีกฝ่ายเมื่อความอดทนมาถึงขีดสุดแล้ว
“ดงฮยอน”
“คบกับเราไหม”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะตั้งใจพูดให้อีกฝ่ายได้ยิน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือการที่อิมยองมินผลักตัวเขากับดงฮยอนแยกออกจากกันอย่างแรง
ดวงตาที่แข็งกร้าวที่กำลังจ้องมองมานั่นทำให้เขารู้สึกกลัวและหวั่นใจเล็กน้อย อิมยองมินไม่ได้พุ่งมาต่อยเขาตามที่เขาคาดไว้และเขาคงเดาไม่ผิดว่าอารมณ์รุนแรงทั้งหมดนั่นคงจะไปลงที่คิมดงฮยอนเสียแทน
เขามักจะเชื่อในสัญชาตญาณตัวเองเสมอสิ่งที่เขาเลือกที่จะทำในตอนนี้คือการพุ่งไปปะทะกับคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
เสียงสะอึกสะอื้นของดงฮยอนที่คอยเอ่ยห้ามการปะทะกันในครั้งนี้ทำให้เขาหงุดหงิดจนจะบ้า
“ทำไมไม่เลิกกับมันสักทีวะ!”
“ที่ผ่านมามันเอาแต่ทำร้ายร่างกายเธอนะดงฮยอน!”
“แล้วมึงเสือกอะไร”
สีหน้าอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากดงฮยอนถูกส่งไปให้ดงฮัน
แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะนิ่งนอนใจในขณะที่คิมดงฮยอนกำลังถูกอิมยองมินกระชากตัวให้เดินตามไปด้วยกัน
แต่สุดท้ายแล้วคนที่แทบจะพยุงตัวเองไม่ไหวก็คือตัวของดงฮันเสียเอง เขาไม่เคยคิดอยากจะโทษตัวเองมากเสียขนาดนี้
ความรู้สึกผิดถูกก่อและตีตื้นขึ้นมาจนจุกไปหมดเมื่อเขาไม่สามารถจะรั้งดงฮยอนมาอยู่กับเขาได้
ปลายเงาของของมีคมถูกควักมาจากกระเป๋าของอิมยองมิน โชคดีที่มันแค่เฉียดตัวเขาไปกว่าจะตั้งสติได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งดงฮยอนและยองมินก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียแล้ว
ปัง!
เสียงปิดประตูห้องอย่างรุนแรงทำให้ดงฮยอนอดตกใจกับมันเสียไม่ได้
แต่มันก็ยังคงน้อยกว่าเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ที่อิมยองมินคว้ามีดเตรียมจะแทงเพื่อนสนิทของตน
ร่างของเขาถูกเหวี่ยงลงบนอย่างรุนแรง ร่างกายเริ่มสั่นเทาเพราะความกลัวที่ก่อมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้อิมยองมินดูเป็นอิมยองมินที่แตกต่างจากเมื่อวานเฉกเช่นเดิม สายตาที่ว่างเปล่านั่นทำให้เขาไม่กล้าที่จะสบตาอีกฝ่ายเลยสักนิด
เสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวของอีกฝ่ายถูกถอดออกอย่างลวกๆทำให้เขาเดาไม่ออกในการกระทำของอีกฝ่าย
รวมทั้งการที่ร่างสูงนั่นเดินวนไปวนมาในห้องอย่างใช้ความคิด
“ดงฮยอน”
“อะ .. อืม”
เสียงของเขาสั่นเครือเมื่ออีกฝ่ายพาตัวเองมานั่งอยู่บริเวณริมเตียง
รอยยิ้มนั่นเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจและน่ากลัวในคราเดียวกัน
เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าอิมยองมินกำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจ
“ร่านนักนะมึงอะ” คำพูดที่อีกฝ่ายพูดออกมาทำหัวใจเขากระตุกจนรู้สึกเจ็บแปลบ
เขาเดาได้ว่าการที่อีกฝ่ายพูดจาแบบนี้นั้นสาเหตุมาจากอะไรถ้าไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“ก็คงไม่เหมือนพี่ที่เคยหิ้วผู้หญิงมาที่ห้องใช่ไหม
แบบนั้นเขาเรียกว่าอะไร” ความกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้เหมือนถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไปจนหมดสิ้นเมื่อยองมินพูดคำพูดที่เหมือนจะกลืนความเป็นตัวเองและสิ่งที่ตัวเองเคยทำลงไป
สิ่งที่ตามมาในเฉกเช่นเดิมก็คงหนีไม่พ้นกับการที่เขาโดนอีกฝ่ายตบหน้าอย่างแรงและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
รอยแดงที่ใบหน้าจากเมื่อวานถูกซ้ำเติมจนมันแดงมากขึ้นจนน่ากลัว
“ปากดี” ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดที่สันกรามที่ถูกบีบอย่างแรงทำให้เขาไม่มีแม้แต่แรงจะผลักอีกฝ่ายออก
รอยยิ้มคนที่กำลังคร่อมร่างของเขานั้นดูสะใจมากยิ่งขึ้นที่ได้เห็นเขาเจ็บปวด สุดท้ายแล้วหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอีกครั้งของวันนี้ก็ไม่ได้ทำให้อิมยองมินใจอ่อนกับเขาได้เลย
“เราพูดจริงๆนะ”
“พี่ทำให้เราตายๆไปซะน่าจะดีกว่า”
END
ฟิคอะไรไม่รู้นะคะแต่แต่งสนองนี้ดอารมณ์แบดๆของตัวเองเมื่อวาน T - T ด่าได้แต่อย่าแรงค่ะ
จริงๆแล้วอยากลองแต่งอะไรที่แหวกแนวตัวเองบ้างปกติแต่งแต่ good vibes แล้วก็พบว่า .. ค่ะไม่รอดแล้วก็
ใจร้ายกับน้องดงฮยอนไม่ลงจริงๆ น่าจะสั้นที่สุดเท่าที่เคยแต่งมาแล้ว(ในเวิร์ดแค่สี่หน้าเองปกติจะประมาณหก)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ochqx
ความคิดเห็น