ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yandere Creepypasta x Reader] Love Succubus ซัคคิวบัสในร่างมนุษย์ [18+]

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 5 : The stars

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 761
      86
      15 ต.ค. 65

    Chapter 5 : The Stars





            ในคืนหนึ่ง เป็นคืนที่แสนเงียบสงบดั่งไร้คนอาศัย แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกับเสียงหิ่งห้อยที่ดังเบาๆจากด้านนอกยามกลางคืน ภายในห้องนอนที่มีเพียงคุณนอนอยู่บนเตียงคนเดียว คุณไม่อาจที่จะหลับได้ คุณนอนไม่หลับและไม่ว่าจะพยายามข่มตาหลับแค่ไหนก็ตามก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ผล...

            คุณจึงตัดสินใจที่จะหาอะไรทำเผื่อว่าคุณจะง่วง

            แต่ว่า...คุณจะไปไหนดีล่ะ? คุณยังไม่ได้ลองสำรวจภายในคฤหาสน์หลังนี้เลยนะ แล้วถ้าเกิดบังเอิญว่าคุณไปเข้าห้องคนอื่นจะเป็นยังไง? หรือว่า...คุณจะลองเดินเล่นที่สวนก่อนดีล่ะ?

            คุณคิดอยู่ครู่หนึ่งสักพักจึงตัดสินใจว่าจะไปเดินเล่นที่สวนแทน อย่างไรหากเดินดูรอบๆภายในคฤหาสน์ตอนกลางคืนทั้งที่ยังไม่รู้เส้นทางจะไปไหนคงไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณที่ไม่เคยออกมาเผชิญโลกภายนอกหรอกนะ

            คุณมุ่งหน้าไปยังสวนโดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูที่ช่วยปิดบังร่างกายอันสุดวาบหวิวนี้ คุณไม่อยากออกไปในสภาพที่ไร้อาภรณ์หรอก...





            ภายในสวนหลังคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ แสงจัทร์ที่สาดส่องยามค่ำคืนมันช่างสวยงามและมีบรรยากาศที่โรแมนติก เหมาะสำหรับคู่เดทมากเลยล่ะ แต่คุณไม่เคยมีเรื่องแบบนี้และไม่เลย คุณนั่งลงที่ม้านั่งพลางเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ มันคือสิ่งเดียวที่ช่วยให้คุณไม่รู้สึกเบื่อเวลาที่ต้องหลบซ่อนอยู่แต่ในห้อง

            ทุกอย่าง...จะเรียบร้อยดีใช่มั้ย?

            *แกร๊ก*

            "อะ!?"คุณสะดุ้งน้อยๆแล้วหันไปตามต้นเสียงก็ได้พบกับชายหนุ่มเจ้าของรอยแผลตรงมุมปากยาว เขายังคงอยู่ในเสื้อฮู้ดตัวเดิม

            เขายังไม่ได้เปลี่ยนชุดหรอ? หรือว่ากำลังวุ่นอยู่กับงานกันนะ?

            "นี่เธอ...ยัยนักบวช เธอออกมาทำอะไรด้านนอก รู้มั้ยว่าออกมาแบบนี้เกิดเจ้าบ้านั่นมาเห็นเธอโดนมันขย่ำแน่"ฝีปากที่ดูร้ายๆ แต่ก็เหมือนว่าจะแฝงไปด้วยความหวังดี
            "ฉ-ฉันขอโทษ ฉันแค่นอนไม่ค่อยหลับเลยออกมาดูดาวน่ะ"คุณตอบตามความจริงและกล่าวคำขอโทษด้วยความจริงใจ เขาดูไม่ได้ใส่ใจคำพูดของคุณมากนักนอกจาก "นั่งด้วยได้มั้ย?" คุณมองเขาอย่างงุนงง
            "ได้สิ แต่ต้องนั่งห่างๆกันนะ"เมื่อคุณกล่าวจบจึงเขยิบที่นั่งให้ แล้วเขาเดินมานั่งกับคุณถือว่าเว้นระยะห่างพอสมควรเพื่อไม่ให้ถูกเนื้อต้องตัวกันมากเกินไป เจฟฟ์ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเงยหน้ามองกลุ่มดาวที่ส่องแสงยามราตรีนเงียบๆคุณเองก็มองตามเช่นกัน...

            "เธอชอบดูดาวงั้นหรอ?"เงียบมาได้สักพักเจฟฟ์ก็เป็นฝ่ายปริปากถามขึ้น
            "อื้ม! มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันไม่รู้สึกเบื่อเวลาที่ต้องอยู่แต่ในห้องน่ะ"คุณพูดและยิ้มให้เขา "งั้นเหรอ...ฉันก็ด้วย..." ก่อนจะค่อยๆเงยหน้ากลับมามองดูดาวอีกครั้ง มันชวนให้คุณนึกถึงในสมัยที่คุณอยู่ในอารามโบสถ์...ตั้งแต่ที่อยู่ที่นั่นเวลาที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ก็มักจะเปิดหน้าต่างเพื่อมองดูดาวหรือไม่ก็เล่นกับเหล่าซิสเตอร์ในห้องหลังจากที่ทำพิธีเสร็จ...






            ในคืนนั้นเป็นคืนที่แสนสงบสุข ในช่วงชีวิตอันแสนธรรมดาแต่ก็มีความสุขสำหรับเด็กสาวอ่างคุณที่แทบไม่ได้ออกไปข้างนอกหลังจากเจอเรื่องของบาดแผลที่ไร้ที่มาที่ไป แม้ว่าจะไม่ได้ออกไปพบปะหรือว่าได้ไปร่วมทำพิธีกับเพื่อนๆ แต่พวกเธอก็มักจะแวะเวีนมาหาและมานอนด้วกันเสมอ
            "นี่[ชื่อคุณ]เธอเชื่อเรื่องดวงดาวแห่งคำอธิษฐานรึเปล่า?"
            "ดวงดาวแห่งคำอธิษฐานหรอ?"
            "ใช่แล้วล่ะ! หากว่าเราขอพรจากดวงดาวในตอนกลางคืน ความปรารถนาที่เราขอจะเป็นจริง! แต่ว่า...มันต้องขอได้เพียงข้อเดียวน่ะ"คุณฟังด้วยความสนอกสนใจ เรื่องของดวงดาวแห่งคำอธิษฐานนั้น...มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? หากเป็นไปได้จริงล่ะก็...
            "แต่ว่าการขอพรนี้ต้องทำถึง 3 คืนนะ"
            "3 คืนหรอ?"
            "อื้ม พวกฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ว่า...พวกเรา 2 คนเองก็อยากจะลองทำแบบนั้นเหมือนกันนะ!"เพื่อนของคุณพูดด้วยความสนใจและอยากรู้อยากเห็น คุณเองก็เฃ่นกัน คุณมีสิ่งที่ปรารถนา

            ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา...ในทุกๆคืน คุณมักจะตื่นมาช่วงกลางดึกเพื่อที่จะมองหาดวงดาวพร้อมกับกล่าวอธิษฐานถึงสิ่งที่ต้องการปรารถนา...

            คุณต้องการเป็นอิสระ....คุณอยากออกไปโลดเล่นไปไหนมาไหนด้วยกันกับพวกเพื่อนๆ อยากให้บาดแผลกดทับนั่นหายๆไปซะเหมือนคนปกติ...

            แต่แม้จะผ่านไปสามวัน...


            มันก็ไม่เคยเลยที่จะแสดงผลออกมา...


            หรือการได้เป็นอิสระจะไม่ใช่สิ่งที่คุณปรารถนา?


            เพราะอะไรกัน....ทั้งๆที่...คุณก็แค่อยากออกไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแท้ๆ...






            ไม่รู้เมื่อไหร่ที่คุณเผลอหลับไปทั้งแบบนั้นโดยที่มีชายหนุ่มนั่งมองคุณหลับอยู่ข้างๆ "ให้ตายสิ ถ้าเป็นไอ้พวกบ้าตัณหานั่นล่ะก็ป่านนี้เธอคงโดนแดกไปแล้วนะยัยบ้า" เจฟฟ์กล่าวคล้ายหัวเสียเล็กๆ แต่ในน้ำเสียงที่ติดไม่พอใจนั้นก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยถ้าไม่ติดที่ว่าเขาแสดงออกไม่เก่งและค่อนข้างปากเสียน่ะนะ...

            เอาเถอะ...เขาจะพาคุณไปส่งเอง เจฟฟ์ค่อยๆช้อนตัวอุ้มคุณขึ้น แต่ก็แสดงสีหน้าตะลึงเล็กน้อย ตัวของเธอเบาขนาดนี้เหมือนปุยเมฆได้ยังไง? นี่ไม่ใช่ว่ากินน้อยหรอกนะ? แม้จะสงสัยแต่เดี๋ยวค่อยไปถามเจ้าเทรนเดอร์ในตอนเช้าก็ได้ว่าคุณได้กินอะไรหรือเปล่า เมื่อคิดเสร็จเขาก็พาคุณออกมาจากสวนและมุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนของคุณ...


            ในเช้าวันที่อากาศสดใส คุณค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นด้วยความงัวเงียและพบว่าตอนนี้คุณมาอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว คุณสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้ว่าเมื่อคืนคุณไปนั่งเล่นที่สวน...หรือว่าตอนนั้นคุณเผลอหลับไป? และเจฟฟ์เป็นคนพามาส่ง เพราะในตอนนั้นก็มีแค่คุณกับเจฟฟ์ที่อยู่ด้วย คนอื่นอาจจะหลับไปแล้วก็มีแค่เขา...

            อ่า...ควรที่จะขอบคุณเขางั้นสินะ

            *ก๊อก ก๊อก ก๊อก*

            เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่บานประตูนั้นจะถูกเปิดออกพร้อมกับถาดอาหารเช้าน่ากิน เป็นเด็กสาวตัวน้อยผมสีน้ำตาลลอนคลื่นและดวงตาสีเขียวอันแสนคุ้นเคยพร้อมรอยยิ้มน่ารัก "พี่สาว! หนูเอาอาหารเช้ามาให้! มากินด้วยกันนะคะ!" แซลลี่พูดอย่างร่าเริงแล้วจึงนำถาดอาหารวางบนโต๊ะข้างๆเตียงของคุณ คุณยิ้มให้และไม่ปฏิเสธเด็กน้อยที่อยากกินด้วยเลยช่วยเด็กน้อยหาเก้าอี้สำหรับรองอาหารมาให้
            "เมื่อคืนหลับสบายมั้ยคะพี่สาว? ถ้าพี่สาวนอนไม่หลับเพราะเรื่องนั้นล่ะก็ให้แซลลี่นอนเป็นเพื่อนได้นะ!"แซลลี่ตัวน้อยกล่าวพลางกินขนมปังปิ้ง
            "ไม่เป็นไรหรอกแซลลี่ พี่สบายดี แต่ถ้าแซลลี่อยากมานอนด้วยล่ะก็ ได้เสมอเลย"คุณยิ้มให้พลางหยิบขนมปังมากัดคำนึง
            "จริงเหรอ!? แซลลี่มานอนกับพี่สาวได้จริงๆนะ! นอนหลายวันก็ได้ใช่มั้ย!" แซลลี่มีท่าทีตื่นเต้นและดวงตาที่เป็นประกายความหวัง คุณยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพลางค่อยๆยื่นมือมาลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ "ได้สิแซลลี่....ได้เท่าที่ต้องการเลย พี่เองก็อยากมีคนมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยเหมือนกัน" เมื่อได้รับคำตอบ แซลลี่ก็ดูดีใจดี้ด้าอย่างมากราวกับเด็กน้อยดีใจที่ได้รับของขวัญสุดพิเศษจากพ่อแม่ คุณอดยิ้มขบขันอย่างเอ็นดูไม่ได้ อ่า....น่ารักจริงๆเลยแฮะ ราวกับเหมือนคุณเป็นแม่อย่างไรอย่างงั้นแน่ะ
            "งั้นถ้ากินเสร็จ พี่[ชื่อคุณ]ก็มาเล่นพ่อแม่ลูกกับแซลลี่นะ! อะ แต่ว่า...." เด็กสาวมีท่าทีอึกอักลำบากใจเล็กน้อยพร้อมสีหน้าที่ดูเศร้าสร้อย ถ้าให้คุณเดาคงจะเป็นเรื่องข้อจำกัดในการพบคุณสินะ คุณบอกกับแซลลี่ว่าเดี๋ยวคุณจะรับบทเป็นทั้งพ่อและแม่ให้แซลลี่ก็ได้ แต่เด็กสาวส่ายหน้า "แบบนั้นก็ไม่ได้อารมณ์น่ะจิ แซลลี่อยากเล่นกัน 3 คนน่ะ" อ่า...หนักใจนิดหน่อยแฮะ
            "อ้า! นึกออกแล้ว! แซลลี่จะไปตามลุงสเปลนดี้ให้นะ! รอแปบนึงนะพี่สาว"
            พูดจบ แซลลี่ก็ลุกขึ้นแล้วเร่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมปิดประตูให้คุณ คุณยิ้มอ่อนใจให้กับท่าทีนั้นของเด็กน้อย อย่างน้อยการที่แซลลี่มีความสุขแล้วยังได้วิ่งเล่นนั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ก็...คิดเสียว่าทดแทนในวัยเด็กที่คุณแทบไม่ได้เล่นข้างนอกเหมือนคนทั่วไปแล้วกันนะ...


            ผ่านไปไม่นาน แซลลี่ก็ได้พาร่างสูงของชายคนนั้นที่เด็กสาวเรียกเขาว่า 'ลุง' เขาคล้ายสเลนเดอร์แมน แต่ต่างตรงที่เขาจะมีดวงตากับปากยิ้มๆคล้าย...อะไรสักอย่าง แถมใส่ชุดแปลกๆ ถึงจะคล้ายสเลนเดอร์แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ "พี่[ชื่อคุณ]! นี่คือลุงสเปลนดี้!" แซลลี่น้อยเอ่ยแนะนำตัวเขา คุณเองก็แนะนำตัวกลับ
            "สวัสดี ยินดีที่ได้พบนะสาวน้อย ฉันสเปลนเดอร์แมน เรียกสเปลนดี้ก็ได้นะ"
            เขาเองก็ทักทายตอบกลับอย่างเป็นมิตร คุณยิ้มให้เขาจนเสียงของแซลลี่ดังขึ้นเรียกให้คุณทั้งสองมาเล่นปาร์ตี้น้ำชาด้วยกัน ซึ่ง...ก็ไม่รู้ว่าเด็กน้อยไปจัดเตรียมโต๊ะกับของเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันจนคุณได้เพียงแต่หัวเราะแห้งๆ

            จนปาร์ตี้น้ำชาได้เริ่มต้นขึ้น หนูน้อยแซลลี่ได้จัดเตรียมเหล่าตุ๊กตามาเล่นด้วยโดยเฉพาะตุ๊กตาหมี Mr.Death ซึ่ง...คุณเองก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงตั้งชื่อแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรนักหรอก ถึงคุณจะเคยอยู่ในอารามโบสถ์ก็ตามเถอะ แต่คุณก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้มากนักหรอกนะ
            "อ๊า! น้ำชาหมดแล้ว! ถึงเวลาเติมน้ำชาแล้วล่ะ มีใครอยากเติมน้ำชามั้ย?"คุณยิ้มขำเล็กๆด้วยความเอ็นดูและบอกเธอว่าคุณเองก็ต้องการเติมเช่นเดียวกับสเปลนเดอร์เองก็ด้วย

            หลังจากที่เล่นเสร็จ แซลลี่บอกว่าเธออยากจะนอนกับคุณด้วยคืนนี้และอยากให้คุณช่วยอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง คุณไม่ปฏิเสธแล้วจากนั้นจึงไปร่วมทานอาหารกับแซลลี่ด้วยกัน เพราะแซลลี่ได้ขออนุญาตพ่อบุญธรรมให้คุณมาร่วมทานอาหารด้วย แต่มันติดปัญหาตรงที่ว่าคุณเป็นคนที่ดูผิวหนังบอบบางมากๆและมีความเสี่ยงเป็นแผลกดทับง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ขอให้เทรนเดอร์ช่วยออกแบบดีไซด์ชุดที่น่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้คุณได้บ้าง...

            แต่ดูจากชุดแล้ว...มันค่อนข้างบางมากพอสมควรเลย แต่เขาก็ออกแบบให้เป็นชุดเดรสสีดำ แม้จะยังพอเห็นหากมันกระทบกับแสงดังนั้นตอนทานอาหารร่วมกันคงต้องทำให้ห้องมืดๆแล้วจุดเทียนแทน(?) แต่นั่นก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรใส่ไปกินมื้อเย็นร่วมกันน่ะนะ

            "พี่[ชื่อคุณ]มาแล้วๆ~!"แซลลี่จูงมือคุณพาเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร แต่เป็นการพามาแบบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเสียมากกว่า
            "ให้ตายสิ เดี๋ยวนี้มีอารมณ์ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันแล้วหรือไงห๊ะไอ้โย่ง"หลังจากที่คุณกับแซลลี่นั่งที่ของตัวเอง เสียงของเจฟฟ์ก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าห้องนี้เปิดเพียงแค่แสงจากเทียนเท่านั้นทั้งๆที่ไฟก็ไม่ได้ดับ
            "มันเป็นเหตุจำเป็นเจฟฟ์...คืนนี้[ชื่อคุณ]ก็มาร่วมอาหารด้วย"สเลนเดอร์กล่าวขึ้น
            "อ๋อ วันนี้มาแปลกเนอะ"
            "แซลลี่เป็นคนชวนพี่[ชื่อคุณ]มาเอง! พี่เจฟฟ์อย่ามารังแกพี่[ชื่อคุณ]เชียวนะ!"
            เจฟฟ์ไม่พูดอะไรนอกจากส่งเสียงเหอะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากนั่งฮัมเพลงเงียบๆ จนในที่สุด อาหารค่ำก็มาถึง เทรนเดอร์ได้บอกกับคุณว่าในวันพรุ่งนี้จะมีสิ่งที่พิเศษมอบให้ ซึ่งคุณเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ก็จะพยายามตั้งตารอดูว่ามันคือสิ่งใด
           "อร่อยมากเลย.."
           "ถ้าชอบก็ทานเยอะๆนะครับ ผมทำเตรียมไว้ แต่ก็อย่ากินเยอะเกินไปนะครับ มันไม่ดีต่อร่างกาย"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย คุณยิ้มให้เขาและกล่าวขอบคุณก่อนจะนั่งทานซุปหัวหอมพร้อมขนมปังกระเทียมแสนอร่อย

           วันธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรมากมายนอกจากกาอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับแซลลี่ หรือไม่ก็หลบซ่อนตัวอยู่ในห้องของตัวเอง แม้ว่าออฟเฟนเดอร์จะพยายามเข้าหาเธอ พวกเขาก็มักพยายามกันออกไปเพราะเกรงว่าอาจทำคุณกลัว

           พวกเขาบอกว่าปกติออฟเฟนเดอร์เป็นคนที่สนใจสาวๆสวยๆและเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ไปทั่วอยู่แล้ว แต่กับคุณเขากลับแสดงออกอย่างชัดเจนจนน่าหวาดกลัว ถึงหมอนี่จะไม่ชั่วถึงขั้นจะเอาเด็ก แต่ก็เกรงว่าหากอยู่กับคุณไม่รู้ว่ามันจะจับกินสะระบะหึ้มตอนไหน(?)

           คุณกลับมาที่ห้อง เปิดหน้าต่างแล้วเงยหน้าขึ้นมองเหล่ากลุ่มดาวมากมายที่ประกายระยิบระยับยามกลางคืน คุณนึกถึงในคืนที่เจฟฟ์ออกมาดูดาวด้วยกัน การได้มีเพื่อนมาร่วมดูด้วยแบบนี้มันดีจริงๆนะ นั่ง/ยืนมองนับดาวก็ช่วยแก้เบื่อแก้เหงาได้ดีเลย หรือไม่ก็ทำให้ระลึกความทรงจำอันมีช่วงเวลาที่แสนมีความสุขด้วย

           "ยังไม่นอนหรอ.."เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง นั่นทำคุณต้องสะดุ้งเร่งหันมามองด้วยความตกใจ พอเห็นว่าเป็นฮู้ดดี้ก็พลอยทำเธอโล่งอกนึกว่าเป็นคนอื่น
           "อ-อืม นอนไม่หลับน่ะก็เลยออกมาดูดาวที่ระเบียงสักหน่อย"
           "เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอาออกมาข้างนอกแบบนี้น่ะ เอานี่สิ.." ชายหนุ่มสวมฮู้ดสีเหลืองกล่าวพร้อมนำเสื้อคลุมมาสวมให้อย่างเบามือแม้คุณจะอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าก็ตาม "ข-ขอบคุณ" คุณยิ้มเล็กๆด้วยความรู้สึกอุ่นใจ เขาเป็นคนแปลกๆแต่กลับใจดีและเอาใจใส่พอสมควร ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีมุมแบบนี้ แต่มันเป็นไปแล้ว
           "แล้วคุณ...ยังไม่นอนหรอ?"
           "ฉันออกมาดูลาดเลากับตรวจตราความเรียบร้อยนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว.."
           "อย่างงั้นเหรอคะ...คงเหนื่อยแย่เลย"
           "ก็ไม่เท่าไหร่หรอก มันเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแล้วก็ต้องทำด้วย"คุณเงียบ ก่อนจะหันไปมองกาต้มน้ำร้อนแบบไฟฟ้า "จะดื่มโกโก้ด้วยกันสักหน่อยก่อนออกไปดีมั้ยคะ?" "..ก็ดีนะ" เมื่อได้รับคำตอบ คุณจึงเดินไปที่โต๊ะที่มีกาต้มน้ำอยู่ แต่พอเห็นรูปประพันสันฐานแล้วแบบว่า....
           "เอ่อ...ไอ้นี่มันใช้ยังไงคะ"คุณหันไปถามเขา อีกฝ่ายนิ่งก่อนจะเดินเข้าไปหยิบบางสิ่งแล้วเสียบตรงส่วนที่เป็นรูกลมๆนั่น
           "มันเป็นกาน้ำร้อนไฟฟ้า นี่เรียกว่าปลั๊กเอาไว้เสียบตรงที่เสียบปลั๊กจุดนี้เพื่อนำพลังงานไฟฟ้ามาช่วย"
           "โห...สุด..ยอด"คุณก็ไม่ได้รอบรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยีมากนักแต่มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจและยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆด้วย เพราะที่โบสถ์ของคุณไม่มีอะไรแบบนี้ ละระหว่างรอให้น้ำร้อนมันสุกร้อนได้ที่ พวกคุณทั้งคู่ก็มานั่งที่เตียง ขณะที่ฮู้ดดี้เลือกนั่งบนเก้าอี้ข้างๆคุณ
           "คุณไม่ได้น่ากลัวและอันตรายเหมือนฆาตกรเลยนะคะ"
           "อย่างงั้นหรอ.."คุณไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดคุยและถามจากตรงไหนดี
           "อ-อื้ม รู้สึกว่าคุณจะเป็นคนใจดีและเอาใจใส่ต่อให้ทำตามหน้าที่ ถึงแม้จะแปลกๆหรือน่ากลัวบ้างก็ตามแต่คุณก็มีมุมที่อ่อนโยนและน่ารักแบบแปลกๆดีนะ"คุณพูด และคล้ายเขาจะมีท่าทีเหมือนกับ...กำลังเขิะเขินเบาๆ
           "ฉัน...ขอบคุณ"เขาเป็นคนขี้อายงั้นสินะ และในระหว่างนั้นเองคุณกับเขาก็ได้มีพูดคุยกัน ทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ รวมถึงเรื่องราวต่างๆนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ฮู้ดดี้ได้สอนวิธีการใช้กล่องถ่ายวิดีโอที่เขาใช้ชอบถ่ายพวกวิวต่างๆหรือเหตุการณ์ที่สำคัญและจำเป็น คุณมองภาพวิวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามบริสุทธิ์ และบางภาพที่เป็นช่วงกลางคืนเต็มไปด้วยดวงดาวหรือพวกหิ่งห้อย คุณประทับใจกับเจ้าสิ่งประดิษฐ์สุดประหลาดนี่(?)มากเลย เขาไม่ได้ให้คุณดูภาพที่เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในบางอย่าง เพราะบางทีมันก็มีพวกคราบเลือดด้วยคุณเลยไม่ได้ดูมันเพราะเข้าใจว่าเขาไม่อยากให้คุณเห็น

           เขาดูเหมือนจะเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่บางสิ่งที่ทำให้เขามีเหตุผลต้องทำงานร่วมกับสเลนเดอร์แมน อีกอย่าง...พวกพาสต้าไม่ชอบมนุษย์ด้วยจึงปลีกตัวมาอาศัยอยู่ที่ห่างไกลมากๆ...หรือจะเรียกว่าเป็นอีกมิตินะ?

           แต่คุณเป็นมนุษย์ ไม่สิ...มันก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหล่ะ แต่ข้างในกายของคุณกลับมีบางสิ่งผิดปกติ

           *ติ๊ง*

           เสียงกาน้ำดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ามันสุกพอดีแล้วคุณจึงลุกขึ้นแล้วไปหยิบซองโกโก้ออกมา คุณหันไปถามเขาว่าต้องการใส่นมมั้ยและเขาปฏิเสธ คุณจึงไม่ได้ใส่มัน มันเป็นผงโกโก้ชนิดที่มีไขมันไม่สูงเท่าไหร่ ออกจะน้อยมากเลยชงให้เขา แต่คุณเป็นคนชอบใส่นมหรือน้ำตาลจึงทำแยกไว้แล้วนำมาให้เขา
           "นี่ค่ะ"
           "ขอบคุณ.."
           เขารับมาก่อนจะดื่มมัน คุณบอกเขาว่าถ้าอยากดื่มนมก็เตรียมไว้ให้ แต่เป็นนมจืด เขาก็กล่าวขอบคุณอีกเช่นกัน อ่า..ช่างเป็นคนที่น่ารักแปลกๆดีนะ
           "ฉันต้องไปแล้ว เธอเองก็รีบนอนเถอะ มันดึกมากแล้ว"
           "อื้ม ขอบคุณนะที่อยู่เป็นเพื่อน ฉันสนุกมากเลยที่ได้คุยน่ะ"
           คุณยิ้มให้ ฮู้ดดี้พยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป คุณมองตามสักพักแล้วล้มตัวลงนอน คืนนี้คุณรู้สึกดีมากๆเลย แบบนี้ได้นอนแบบเต็มอิ่มและสบายใจเลยล่ะ

           ขณะเดียวกัน...ด้านนอกประตูที่คิดว่าเขากลับไปแล้ว แต่เปล่าเลย...ชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ชิดกับห้องด้านนอกห้องของคุณ เขายังคงยืนนิ่งเงียบอยู่แบบนั้นสักพักก็ค่อยๆหย่อนตัวกึ่งแทบทรุดนั่งกับพื้นชิดประตูห้องของคุณแล้วยกมือมากุมใบหน้า

           "...ใจดีหรอ...เท่...และน่ารักหรอ.."

           เขาพึมพัมกับตนเองด้วยเสียงอันแผ่วเบา ภาพในความทรงจำที่ใช้เวลากับคุณเมื่อครู่นี้ถูกฉายออกมาอีกครั้ง ซ้ำไป..ซ้ำมา รอยยิ้มของคุณและคำพูดของคุณที่เปรียบดั่งนกน้อยที่จะคอยมอบความอบอุ่นและความบริสุทธิ์ที่ชวนให้ผ่อนคลาย มันทำให้เขาเมื่อได้อยู่กับคุณแล้วมันรู้สึก...ดีไม่ใช่น้อยเลย...

           ทุกคำพูด...ทุกบทสนทนาที่คุณเอ่ยนั้น มันทำให้ตัวเขารู้สึกอีกอย่างว่าคุณเหมือนเด็กน้อยที่ไม่เคยออกมาเผชิญโลกภายนอกเลย เป็นนกน้อยที่ต้องปกป้องดูแลทะนุถนอม และเลี้ยงดูในสถานที่ปลอดภัย..

           "ฉัน...ไม่เคยรู้สึกอยากปกป้องใครขนาดนี้มาก่อนเลย.."

           เขาอยากจะปกป้องเธอ...

           ปกป้องรอยยิ้มของเธอ...

           ปกป้อง..และเฝ้าทะนุถนอมไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายคุณ

           แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เขาจะเป็นเกราะกำบังให้คุณ


           จนกว่าชีวิตของเขาจะหาไม่



    ไรท์กลับมาแว้ววว จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×