คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 12 นายรุกฉันรุกกว่า
12
“อ่า..” คางุระนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่ทุกคนทิ้งเธอไว้ให้นอนกับคนที่เธอเกลียดขี้หน้ามากที่สุด แล้วสาวน้อยก็ยิ้มตอบพี่สาวนอกไส้ของเธอไปตามความเป็นจริง “อั้วนอนกับอาตี๋ซาดิสม์น่อ”
“ห๊า!! พี่ไม่น่าไปนอนกับกอริล่าเลย.. แล้วเมื่อคืนไม่เกิดอะไรขึ้นใช่มั้ยจ้ะ?” พี่สาวนอกไส้ถามเสียงใส
“อ่า.. ไม่มีอะไรเลยน่อ” คางุระยิ้มตอบ
“ท่านพี่ครับ คางุระจัง ไม่รอผมกันเลยนะครับ” เสียงที่แขวนแว่นดังขึ้นด้วยความน้อยใจ
“เฮ้ ชินปาจิ บอกเจ้าพวกนั้นด้วยว่าขึ้นก่อนเวลาข้าวกลางวันนาเหวย” คุณกินตะโกนไล่หลังมา
“คุณกินจะพาไปหาข้าวกินหรอครับ?” ชินปาจิหยุดวิ่งลงน้ำหันไปถามตาหงอกบนฝั่ง
“ใช่ซะที่ไหนเล่า ระดับคุณกินก็ต้องเกาะเขากินสิเฟ้ย..” คุณกินพูดเสียงเรียบเฉย
“ไอ่หงอกเอ้ยตะกี้แกบอกว่าจะเกาะพวกตรูกินใช่มั้ยนั่น” ฮิจิคาตะตะโกนถามแกมด่า
“อะไรนะไอ่มายองเนสลิซึม ตะกี้เอ็งด่าคุณกินว่าหงอกใช่ป่ะ หงอกใช่มะ?” คุณกินสติแตกไล่ตอกกลับ
“ฆ่ามันเลยครับลูกพี่” โอคิตะที่นั่งนิ่งดูคนอื่นเล่นน้ำใต้ร่มเงาผ้าใบออกความเห็น
“อ้าว อ่าวแบนคนหนึ่ง เกือบแบนคนหนึ่งกับที่แขวนแว่นตรงนั้นน่ะขึ้นได้แล้วนาเหวย” คุณกินยืนเรียกเด็กในปกครองให้ขึ้นจากน้ำด้วยท่าทางไม่เกรงกลัว
“ลื้อว่าใครแบนกันน่อ” คางุระตะโกนแข่งกับแม่ค้าในตลาด
“ดูเหมือนคุณกินคงกำลังอยากลงไปทุรนทุรายในท้องทะเลสินะค่ะ?” สิ้นเสียงสาวใหญ่ก็มีเสียงหักนิ้วมืออย่างคล่องแคล่ว
“เฮ้ยๆสงบลงหน่อยสิพวกเธอน่ะ” คุณกินยกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจ
“อากินจังอย่ามาดูถูกอั้วน่อ อั้วออกจะหุ่นดีน่ารักน่อ” คางุระเดินมาถึงฝั่งก็ชี้หน้าคุณกินบ่นทันที
“ถ้าเป็นอย่างงั้นคุณกินจะยอมซื้อสาหร่ายดองให้เธอเยอะๆเลยนา คางุระ..” คุณกินพูดแบบไม่ใส่ใจ
“คอยดูล่ะกันน่อ!” คางุระบ่นอุบอิบ
“แล้วเรียกมาเพื่อหาของกินหรอครับคุณกิน” ชินปาจิถาม
“หา? อ๋อๆใช่ๆ ฉันจะถามว่าหิวกันรึเปล่าน่ะ” คุณกินทำท่าเพิ่งนึกได้
“หิวจะตายน่อ เมื่อเช้าอั้วยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วยน่อ” คางุระลูบท้องของตน
“งั้นหรอๆ งั้นก็ไปหาอะไรกินกันเองล่ะกันเนอะ คุณกินไปดีกว่า..” คุณกินได้ยินว่าคางุระยังไม่กินข้าวเช้าเขาก็รีบออกวิ่งหายไป
“อะไรกังน่อ อากินจังทิ้งอั้วได้งายน่อ..” นักเขมือบในร่างสาวน้อยหน้ามุ่ย ก่อนจะได้รับการสะกิดจากบางสิ่ง
เธอหันไปพบกับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่มองมายังเธอและอ้าปากถามเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
“ไปหาอะไรกินกัน” พอเขาพูดเสร็จก็เดินนำเธอไป
“ห้ะ? ลื้อบอกว่าอะไรนะอาตี๋?” คางุระถามคืน
“จะไปมั้ย? ไม่งั้นฉันตัดสิทธิพิเศษของเธอนะ” โอคิตะหันหน้ามาครึ่งเสี้ยวแล้วหยุดรอ
“อะ.. เอาสิน่อ ฮี่ๆ อาตี๋ลื้อก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย” คางุระได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแป้นเดิมตามมา “อ้อ แต่อั้วต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องก่อนน่อ”
“สองคนนั้นไปกันถึงไหนกันแล้วน่ะท่านพี่” แว่นคุงดันแว่นพลางถามพี่สาวของตน
“ไม่รู้สิจ้ะชินจัง” โอทาเอะระบายยิ้มบางๆให้แก่น้องสาวกับว่าที่น้องเขยที่เดินไปไกลแล้ว
หลังจากนั้นคางุระกับโอคิตะที่ทำธุระเส็จแล้ว ก็เดินเลือกร้านมาจนถึงร้านอาหารเล็กๆตกแต่งแบบญี่ปุ่นเก่าแก่ร้านหนึ่งที่คนน้อยจนแห้ง แต่คางุระเลือกจะนั่งร้านนี้ เพราะคนน้อยไม่ต้องรอนาน ถึงแม้จะขัดกับความคิดของชายหนุ่มที่ชวนมา แต่สุดท้ายเขาแพ้เธอเพราะการที่เธอเลือกจะวิ่งเข้าใส่ร้านนั้นทันทีที่เขาปฏิเสธ
“อาตี๋ๆ ลื้อเลี้ยงอั้วรึเปล่าน่อ?” คางุระถามหลังจากเขมือบไปมากโขแล้ว
“ห้ะ? เปล่านี่ ฉันพาเธอมาจ่ายตังค์น่ะ” โอคิตะพูดเสียงนิ่งๆพลางใช่ตะเกียบคีบเนื้อปลา
“อาตี๋ อั้วไม่มีเงินน่อ ลื้อรู้อยู่จะชวนอั้วมาเพื่ออารายน่อ” คางุระหยุดกินกระทันหัน
“หือ ฉันแค่พูดเล่นน่ะ ฉันจ่ายเองแหละ” โอคิตะชายตามองสาวน้อยด้วยความนิ่งเงียบ
“เอ๋? วันนี้ลื้อใจดีจังน่อ ทำไมล่ะน่อ?” คางุระยิงคำถาม
โอคิตะที่ไม่อยากจะบอกคำตอบที่จะทำให้เธอรู้สึกแปลกไป จึงตอบสิ่งที่ไม่ตรงกับสมองของเขา
“ฉันสงสารเด็กน้อยแบบเธอน่ะ” โอคิตะหรี่ตามองหน้าคางุระด้วยสายตาสมเพช
“อาตี๋!!! ลื้อบอกว่าอั้วเป็นเด็กใช่มั้ยน่อ?!” คางุระวีนเสียงแปดสิเดซิเบล ควบคู่กับการเอาอาหารเข้าปากไปด้วย
โอคิตะเหลือบมองสาวน้อยตรงหน้าเขา หวังให้เธอรับรู้ความรู้สึกของเขาได้ง่ายๆ เพราะเขาไม่ต้องการให้สภาพความสัมพันของเขาและยัยหมวยต้องแปลกไป
แต่ดูเหมือนว่ายัยหมวยที่เขาเผลอรักไปคงจะโง่ไปหน่อยกระมัง เธอยังคงท่าทางเดิมๆของเธอไว้ ไม่มีอาการเขินอายตอนที่ถูกชวน หรืออะไรแม้แต่น้อย คงจะมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่น่าจะทำให้เธอหวั่นไหวได้ง่ายๆ และเขาเลือกที่จะทำมันทันที!
“นี่ คางุระ” โอคิตะปรายตามองท่าทีของสาวน้อยที่หยุดชะงักการโวยวายทันทีที่ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเธอ
สาวน้อยก้มหน้ามองชามข้าวของตน เกิดความเงียบแต่ไม่อึดอัดขึ้น ใบหน้าเธอเกิดอาการขึ้นสีเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะเกิดจากการโมโหก็ตามแต่เธอก็เริ่มมีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้าง
“อะไรน่อ ตะกี้ลื้อเรียกชื่ออั้วใช่มั้ยน่อ?” คางุระเงยใบหน้าสงสัยของตนมาถาม เธอไม่เคยได้ยินเลยตั้งแต่รู้จักกันมา แต่พอได้ยินแล้วกลับรู้สึกชอบใจจนอย่าพูมันอีกมากกว่า
“ชอบรึเปล่าล่ะคางุระจัง?” ชายหนุ่มเหลือบมองใบหน้าของสาวน้อยเป็นครั้งคราวและสังเกตการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน
สาวน้อยตรงหน้าหลบตาโอคิตะอย่างเห็นได้ชัด เธอมองไปรอบๆอย่างวอกแวก หันมาสบตากับเขาเพียงเสี้ยววินาที โอคิตะจึงเลือกจะจ้องหน้าของเธอไปเลย
ทางคางุระที่ประหม่าบอกไม่ถูกดันอยากตอบกลับไปว่าชอบมากซะงั้น แต่เธอก็กลัวมันจะฟังดูแปลกๆ คิดไปคิดมาก็เลือกได้ว่าจะพูดอะไร เขารุกเธอก็รุกเต็มพิกัดเช่นกัน
สาวน้อยเงยหน้าที่มีพวงแก้มสีระเรื่อ มรกตสีฟ้าอ่อนงดงามประดับอยู่ยกยิ้มอย่างมีความสุขแก่ชายหนุ่มตรงหน้าด้วยคำตอบที่ทำฝ่ายชายต้องอึ้งเอง “ชอบมากเลยน่ออาโซโกะ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพรวดพลางกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
ทำเธออดนึกไม่ได้ว่าชายคนนี้ไม่เหมาะแก่การถูกจีบอย่างชัดเจน คางุระหน้ามุ่ยแบบขำๆ
หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวเสร็จด้วยความเงียบ เธอก็บอกโอคิตะด้วยท่าทางปกติว่าจะกลับซักใกล้ๆบ่ายสี่ ส่วนทางโอคิตะนั้นลับในอีกสองสามวัน เธอจึงลาโอคิตะและเดินไปที่ชายหาดเพื่อหาเพื่อนพ้องของเธอตามฉบับ
“อากินจัง อั้วมาแล้วน่อ” คางุระยิ้มแย้มอย่างบอกไม่ถูก เพราะเธออิ่มมาแล้วด้วยกระมัง เมื่อเธอมองทางคนอื่นๆที่มีท่าทางเหมือนอดอยากมาหลายวัน
“อ่า.. คางุระดีจังเลยน้า.. มีคนเลี้ยงข้าวด้วยนี่..” คุณกินกล่าวเสียงยานคาง
“พวกลื้อไม่ได้กินข้าวกันหรอน่อ?”คางุระหยิบไม้มาจิ้มๆคุณกินที่แทบกลายเป็นซากศพ
“ใช่น่ะซี่..”
“อั้วว่าแล้วน่อ อั้วเลยจิ้กข้าวปั้นติดมือมาด้วยน่อ” คางุระยิ้มแป้น ยกถุงที่มีข้าวปั้นหอกระดาษฟอยอยู่สามชิ้นให้ดู ก่อนจะแบ่งให้คนล่ะชิ้น
“คางุระจังเป็นคนดีจังนะครับ..” ชินปาจิมองข้าวปั้นในมืออย่างมีความสุข
ทุกคนกินอย่างมูมมามแล้วก็พากันเดินไปจนถึงท่าเรือ รอเรือรำพิเศษแล้วกลับบ้านอย่างปลอดภัย
“จะว่าไปนะครับคุณกิน” ที่แขวนแว่นหันมาถาม
“ว่าอะไรรึปาสซัง?” คุณกินหันมามอง
“ยังไรท์ดองงานนั่นชื่ออะไรหรอครับ..?” ที่แขวนแว่นดันชินปาจิ
“หือ ฉันไม่เคยบอกเรอะ?” คุณกินจ้องหน้าชินปาจิ ที่แขวนแว่นส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ “คุโรมิ นางบอกแค่นามแฝงน่ะ”
ความคิดเห็น