ความสุข 15 นาที
ใน 24 ชั่วโมง คุณมีความสุขกี่นาที?
ผู้เข้าชมรวม
843
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เรื่องนี้ไม่เคยเขียนเป็นตัวหนังสือ
แต่เคยเล่าให้น้องสาวฟัง
ผมชอบคิดเรื่องแล้วเล่าให้น้องฟัง
เพราะบางทีก็ขี้เกียจเขียน
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น้องสาวผมชอบมาก
แล้วบอกว่า "เฮีย เขียนเถอะ อยากอ่าน"
ผมเลยนั่งเขียนมันออกมา
เพราะชื่อเรื่องมันคือ ความสุข 15 นาที
ผมเลยใช้เวลาเขียนเรื่องนี้ 15 นาทีเช่นกัน
.
.
.
หวังว่ามันจะทำให้มีความสุขไม่มากก็น้อย
(อย่างกับประโยคเขียนลงท้ายคำนำรายงานส่งอาจารย์)
อีกอย่าง สับเละ คอมเม้น อะไรได้ทุกอย่าง
ผมรับได้นะ แมนพอที่จะรับฟังเพื่อนำไปแก้ไข เอาให้เต็มที่
เพราะก่อนอ่านคอมเม้นก็ไหว้พระแล้ว
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าแหละ ไม่ใช่เรื่องที่เขาเล่ากันมานะ เป็นเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟัง มันเป็นเรื่องราวของผู้ชายที่เกิดมาในครอบครัวเข้มงวด ไร้อิสระทั้งทางความคิดและการกระทำ พ่อแม่ของเขาคิดว่าการควบคุมให้ลูกอยู่ในกรอบเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่พวกท่านก็โชคดีนะ ที่ได้ผู้ชายคนนี้เป็นลูก เพราะเขายอมปฏิบัติตามทุกอย่างแต่โดยดีไม่มีข้อโตแย้งใดๆ
พ่อแม่สั่งให้ไปซ้าย...เขาก็ไป
พ่อแม่สั่งให้ไปขวา...เขาก็ไป
เวลาทั้ง 24 ชั่วโมงของชีวิตเขา เป็นของพ่อแม่ทั้งหมด ไม่มีสักวินาทีเดียวที่เป็นของเขา แม้กระทั่งเวลานอน พ่อแม่ยังตามเข้ามาสั่งในฝันเลย เป็นผมอาจจะบ้าไปเลยก็ได้
แล้วทางแยกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแยกหนึ่งในการใช้ชีวิตก็ดำเนินมาถึง นั่นก็คือการการเลือกเข้ามหาวิทยาลัย แต่ไม่ต้องห่วง พ่อกับแม่ของเขาก็จัดการให้เสร็จสรรพแล้วแหละ ว่าต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง เขาจำใจเรียนในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบและไม่ถนัด ถามว่าเขามีความสุขมั้ย...พูดยากนะ เพราะความสุขที่แท้จริงคืออะไรเขาไม่เคยสัมผัส อิสรภาพหรอ อย่าพูดถึงเลย มันเป็นคำที่ไม่สามารถสัมผัสได้ยิ่งกว่าทฤษฎีปรัชญาทั่วไปอีก
ในวันที่เขาสำเร็จการศึกษา พ่อกับแม่ของเขานับได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุดในโลกก็ว่าได้ เขายิ้มออกที่ได้เห็นพวกท่านยิ้มกว้างและบอกว่าภูมิใจแค่ไหนที่มีลูกอย่างเขา
พวกท่านถามเขาว่า “เนื่องในโอกาสเรียนจบปริญญา พ่อกับแม่จะให้ของขวัญลูกหนึ่งชิ้น ลูกต้องการอะไร” ชายผู้นี้ขอเวลาพ่อกับแม่เพื่อไปคิดถึงสิ่งที่เขาอยากได้
ในห้องนอนของเขาวันนั้น กระดาษทุกแผ่น เต็มไปด้วยสิ่งที่เขาอยากทำ ไม่ว่าจะเป็นการไปจ๊อกกิ้งยามเช้า หรือว่าการเล่นเกมออนไลน์เหมือนที่เพื่อนๆเขาเคยเล่นตอนมัธยมปลาย เขาใช้เวลาทั้งคืนในการตัดสินใจว่าเขาจะขออะไรจากพ่อกับแม่ดี
จนในที่สุดเขาก็ได้คำตอบ...
“พ่อครับ...แม่ครับ...ผมขอเวลาวันละ 15 นาที เพื่อทำในสิ่งที่ผมอยากทำครับ” นั่นคือคำขอ เขาอนุญาตให้พ่อกับแม่เลือกได้ว่าเวลาวันละ 15 นาทีของเขาจะเป็นช่วงไหน พ่อกับแม่เลือกให้เวลาของเขาเป็นช่วงเช้า ด้วยความคิดที่ว่า ช่วงเช้ายังทำอะไรไม่ได้มากหรอก ตอนเช้ายังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเท่าใดนัก
และแล้วก็มาถึง 15 นาทีแรกของชีวิตเขา...เขาเลือกที่จะโหลดและลงเกมออนไลน์ในคอม แต่ปรากฏว่า แค่โหลดกับลงโปรแกรมมันก็หมดเวลาแล้ว แม้แต่สมัครเขายังไม่ได้ทำเลยด้วยซ้ำ...ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ
กว่าเขาจะสามารถเล่นเกมได้ก็ใช้เวลาไปประมาณเกือบสัปดาห์นึง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็มีความสุข
สัปดาห์ถัดมา เขาตัดสินใจไปวิ่งจ๊อกกิ้งยามเช้า ระหว่างที่เขาวิ่งเขาก็มองอะไรต่างๆแล้วคิดไปเรื่อยเปื่อย จนสายตาเขาไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่นับว่าถูกใจเขาทีเดียว
14.58
14.59
15.00
ตี๊ด...
นาฬิกาจับเวลาบอกว่าหมดเวลา 15 นาทีของเขาแล้ว เขาได้แต่มอง ตัดใจ แล้วรีบกลับบ้าน หลายคนอาจจะคิดว่า นานๆจะเจอคนที่ถูกใจ ทำไมไม่คว้าไว้ล่ะ ผมก็คิดแบบนั้น ว่าทำไมเขาถึงไม่คว้าไว้ ถ้าพ่อแม่ถามว่าทำไมกลับมาช้าก็แถไปก็ได้ว่า เจอเด็กหลงทางครับ คุณป้าข้ามถนนช้าครับ อะไรก็ว่าไป แต่สิ่งที่ชายผู้เชื่อฟังพ่อแม่เป็นงานอดิเรกคนนี้เขาคิดว่า ถ้าเขาและเธอมีวาสนาต่อกันจริง ในวันถัดมา เขาจะต้องได้เจอกับเธอ และในวันถัดๆไป ต้องได้รู้จักกับเธอแน่นอน แต่ถ้าทั้งสองไม่มีวาสนาต่อกัน ก็จบกันไปแค่นั้นแหละ...เยี่ยม
วันนี้พ่อเขาใช้ให้ไปทำธุรกรรมการเงินที่ห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน ตลอดทางที่เขาไปทำธุระให้กับพ่อ ในสมองของเขาก็วางแผน 15 นาทีของเขาในวันถัดไป ว่าจะใช้อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาตัดสินใจที่จะวิ่งให้เร็วขึ้น และเผื่อเวลาไว้เผื่อเขาได้เจอเธออีกครั้ง เขาคิด...แล้วเขาก็ยิ้ม
ให้ตายสิ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนแค่ 3 วิแล้วมีความสุขมาตลอดวันขนาดนี้เลย
จะบอกว่าโชคชะตาเล่นตลกก็ได้ ระหว่างที่เขากำลังจะกลับบ้านหลังจากทำธุรกรรมการเงินเสร็จ เขาเห็นบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งที่ถือถุงจำนวนมาก เขาไล่สายตาจนไปสุดที่กลางแถวของบอดี้การ์ด...ไม่น่าเชื่อ ผู้หญิงคนนั้นนั่นเอง เธอดูกลายเป็นอีกคน กลายเป็นคนหน้านิ่วคิ้วขมวด แม้เธอจะมีเสื้อผ้าและสิ่งของมากมายสนองความต้องการขนาดนั้น เธอก็ยังดูไม่พอใจและไม่มีความสุข หน้าตาเธอดูเหมือนคนที่ติดคุกมากกว่าเขาเสียอีก
บางทีผมคิดว่าเธออาจจะอารมณ์เสียที่จะต้องมาช้อปกับพวกบอดี้การ์ดหน้าเหี้ยม หุ่นบึก มากกว่าเพื่อนสาวแฟนชั่นนิสต้าของเธอก็ได้นะ
และการจ๊อกกิ้งในเช้าวันถัดมาก็เป็นไปตามที่เขาคิด เขาได้เจอเธออีกครั้ง และเวลาก็เหลือพอที่จะเข้าไปทำความรู้จัก เธอกลับมาเป็นผู้หญิง 3 วินาทีที่เขาประทับใจเหมือนเดิม คนที่ดูสดชื่น สบายใจ แต่ก็นะ...ยังพูดคุยกันไปได้ไม่เท่าไหร่ นาฬิกาที่เขาเคยปลื้มนักหนาเพราะได้มันมาตอนสอบได้ที่หนึ่งสมัยมัธยมปลายก็เตือนเขาว่ามันครบ 15 นาทีแล้ว...ตอนนี้เขาเกลียดมันมาก ไม่ต้องซื่อตรงขนาดนั้นก็ได้นะ
เขาได้พูดคุยกับเธอทุกวัน และก็ทุกวันอีกเหมือนกันที่เขาต้องเป็นฝ่ายพูดว่า “ขอโทษทีนะ พอดีมีธุระต้องรีบไปแล้ว” สีหน้าไม่พอใจ เป็นสีหน้าสุดท้ายของเธอที่เขาได้เห็นเสมอ เพราะเขาเผลอไปขัดใจเธอเขาน่ะสิ...แต่ทำยังไงได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะถือว่าไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่
จนวันหนึ่ง...เขาไม่เจอเธอที่สวนสาธารณะ น่าแปลก...เมื่อวานไม่เห็นบอกนิหน่าว่าจะไม่มา เขาคิดแบบนั้น และคิดว่าวันนี้เธออาจจะมีธุระด่วนอะไรก็ได้ ไว้พรุ่งนี้ค่อยถาม
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ก็ยังไม่มีวี่แววของผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้เขาร้อนใจถึงขีดสุด เธออยู่ที่ไหน ทำไมถึงหายไป หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ คำถามมากมายเกิดขึ้นในสมองของเขา
14.58
14.59
15.00
ติ๊ด...
เวลา 15 นาที หมดแล้ว เขาควรทำอย่างไร เขายืนคิดอยู่ครู่นึง แต่ถึงเขาจะคิดว่าควรทำอย่างไรดี ขาของเขาก็ตัดสินใจแทนไปเรียบร้อยแล้ว มันก้าวออกไปอย่างเร็ว จากเดินกลายเป็นวิ่ง และวิ่งไปจนสุดแรง
มันเป็นครั้งแรก ที่เขาแหกกฎชีวิตของพ่อแม่เขา มันเป็นครั้งแรกที่เขาเลือกความต้องการของเขามากกว่าความพอใจของพ่อแม่
แห่ก แห่ก
หน้าประตูขนาดใหญ่ เขายืนหอบอยู่ตรงนั้น และกดกริ่ง...
หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นทุกลมหายใจ จนมันแทบจะกระเด็นออกมา และหยุดเต้น เมื่อประตูนั่นเปิดออก เขาได้เจอกับแม่บ้านสูงอายุและบอกจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้ไป แม่บ้านรับรู้และบอกว่าเธอจะไปแจ้งคุณหนูของเธอให้ แต่คุณหนูจะลงมาหรือไม่เป็นเรื่องที่หล่อนไม่สามารถบอกได้เช่นกัน
15 นาทีแห่งการรอคอย
แล้วเขาก็ได้พบกับเธอ เธอในมาดของคุณหนูที่ไม่พอใจอะไรในชีวิต
“คุณไม่อยากเสวนากับฉันแล้วมาทำไม ไม่ต้องมาอ้างว่ามีธุระทุกวันก็ได้ เอ้อ..แล้ววันนี้ไม่มีธุระเหรอ เกินเวลาปกติแล้วหนิ เดี๋ยวก็สายหรอก” เธอพูดเสียงประชดประชันที่ซ่อนความน้อยใจ เขาได้ยินแบบนั้นทำให้รู้สึดีอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยเธอก็สบายดี ไม่ได้ไม่สบายตรงไหน
“เกินแล้ว” พอได้ยินอย่างนี้แล้วหญิงสาวแทบจะปิดประตูใส่หน้าเขาทันที แต่ดีที่เขาดึงไว้ทัน
“!!!...”
“แต่ว่าวันนี้คงต้องยอมเกินเวลา ไม่งั้นใครบางคนคงไม่ออกมาพบผมอีกตลอดชีวิต”
“มีอะไรก็ว่ามา พอดีมีธุระต้องรีบไปแล้ว” เธอเคาะที่นาฬิกาของเธอ
“ฟังนะ ในหนึ่งวัน ผมมีเวลาแค่ 15 นาที ที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ถึงจะเป็นเวลาแค่ 15 นาที มันก็สามารถทำให้มีความสุขไปได้ตลอด 24 ชั่วโมงของชีวิต ผมใช้เวลากว่า 22 ปีเพื่อที่จะได้ 15 นาทีนี้มา แต่ผมเชื่อว่าอีกหน่อยไม่นานมันก็จะพัฒนาเป็น 30 นาที 1 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง เพราะท่านสองคน เป็นคนที่สำคัญที่สุด ผมเป็นคนที่ไม่สามารถขัดใจท่าน เพื่อให้ตัวเองไปมีความสุขได้ เพราะยังไงแล้วสิ่งที่ท่านทำทุกอย่างท่านก็ทำเพื่อผม ขอให้คุณเข้าใจ พวกท่านรักผมและหวังดีต่อผมมากกว่าใครบนโลกใบนี้ ผมไม่สามารถทิ้งท่านไปเพื่อใครคนอื่นได้ ไม่ต้องห่วง ถ้าพวกเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ท่านต้องสนับสนุนพวกเราแน่นอน...จนกว่าจะถึงเวลานั้นเมื่อพ่อแม่ของผมไว้ใจผม และมั่นใจในตัวผมเต็มที่ ช่วยมาเป็นความสุข 15 นาทีของผมจะได้มั้ย”
“คุณพูดผิดนะ...”
“??”
“ตรงที่บอกว่า พวกท่านรักคุณมากกว่าใครบนโลกนี้ เพราะบางทีอาจจะมีใครที่ยืนอยู่ตรงนี้ รักคุณ เท่าพวกท่านก็ได้ ฉันเข้าใจ และขอบคุณที่ยอมสละ 15 นาทีแห่งความสุขนั้นให้กับฉัน...”
ผมรู้สึกประทับใจกับความรักของเขาสองคนที่เห็นค่าของทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันนะ
ชายคนหนึ่งที่จะมีอิสระแค่เพียง 15 นาทีต่อวันแต่เขาสามารถขยายมันให้ครอบคลุมถึง 24 ชั่วโมงได้ แล้วคุณล่ะที่มีอิสระ 24 ชั่วโมงสามารถทำให้ชีวิตมีความสุขได้กี่นาที?
วันนี้ ผมมีความสุข 15 นาที ที่ได้เล่าเรื่องนี้...
ผลงานอื่นๆ ของ เคลิ้มเคลิ้ม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เคลิ้มเคลิ้ม
ความคิดเห็น