และแล้ว มันก็เป็นอย่างนั้น (มุกพราว) - และแล้ว มันก็เป็นอย่างนั้น (มุกพราว) นิยาย และแล้ว มันก็เป็นอย่างนั้น (มุกพราว) : Dek-D.com - Writer

    และแล้ว มันก็เป็นอย่างนั้น (มุกพราว)

    โดย トり

    ผู้เข้าชมรวม

    858

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    858

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ต.ค. 54 / 07:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
     เรื่องของความรัก อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น อย่าไปซีเรียส 5555555
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
        เรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องที่สองแล้ว5555 การเล่าเรื่องจะเป็นช่วงละคนๆไป คือไม่ใช่แค่คนเดียวเล่านะ อย่างช่วงแรกเป็น เมย์ ต่อมาเป็นพราวไรงี้ เดี๋ยวอ่านไปก็รู้เอง 5555
      แล้วเรื่องนี้ถ้าเจออะไรไร้เหตุผลก็ข้ามไป เพราะมันคิดไม่ออก5555 แอบบกากเนื้อเพลง + งี่เง่าเบาๆ มาม่า+ฮาไปพร้อมกัน 55555
      ต้องขอบคุณทุกตัวละครที่เพิ่มสีสันให้ฟิค ทั้ง ***เมย์-ไรท์ที่แต่งชอทฟิคมุกพราวมาได้สักพัก ใหม่-ผู้ช่วยอีดิทเนื้อหาของไรท์เมย์นั่นเอง 555  นิ่ม-ไรท์นิ่มผู้แต่งณ บัดนี้กับแพ้ใจ 555  หมี-ไรท์ที่แต่งนทแอปชื่อเรื่องยาวๆๆๆๆๆๆ แ้ล้วก็ชอทฟิคมุกพราวอีก จุก-แต่งมุกพราวไปแล้วเหมือนกันเห้นว่ามีแพลนสำหรับเรื่องยาวอยู่555***

      ขอให้อ่านอย่างสบายๆอย่าเครียดนะ5555

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
                 "คุณหนูเมย์คะ คุณมุกให้มาตามไปรับประทานมื้อเช้าค่ะ" เสียงนังพราวเรียกฉัน มันเป็นคนรับใช้คนใหม่ของคฤหาสน์ตระกูล"มณฑีรรัตน์" ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่ามุกจะพามันมาอยู่ที่นี่ทำไม ก็นังพราวทั้งสวย มีเสน่ห์ ถึงจะไม่มีหัวนอนปลายเท้าก็เถอะ ฉันกลัวมุกจะไปหลงรักมันน่ะสิ! ถึงฉันจะคบกับมุกมาปีกว่าๆ และเพิ่งหมั้นกัน 2 เดือนก็อดระแวงไม่ได้ มุกน่ะเจ้าชู้ประตูดินยิ่งกว่าอะำไีร หึ!
      "ฉันรู้แล้ว พูดมากจริง รำคาญ!" ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งเล่นริมระเบียงแล้วเดินไปชนนังพราว แค่เบาๆ! ให้มันรู้ว่าอย่าได้ริอาจมาเทียบชั้นกับคนอย่างหม่อมเมย์ มาพูเล่ ทายาทตระกูลดังฝั่งยุโรป ที่ทำธุรกิจโรงแรม รถยนต์ บ่อน แล้วก็อีกมากมาย บอกไปก็ไม่หมดหรอก รู้ไว้แค่ว่าฉันรวยและมีอำนาจมากพอละกัน!
      "เมย์มาแล้วค่ะมุก ไหนๆเช้านี้มีอะไรบ้างคะ หอมน่ากินทั้งนั้นเลย นทนี่ฝีมือดีไม่เปลี่ยนเลยนะ" ฉันกล่าวชมนทและยิ้มให้กับมุก คนรักของฉัน ถึงเราจะหมั้นกันด้วยเหตุผลทางธุรกิจของท่านพ่อกับท่านแม่ ที่ต้องการจะร่วมลงทุนกิจการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียกับครอบครัวมุก แต่ฉันก็รักมุกมาก แม้มุกจะไปมีใครบ้าง สักวันฉันจะทำให้มุกหยุดที่ฉันให้ได้!

      "อืม มานั่งข้างๆมุกสิ" มุกเป็นคนมีเสน่ห์ น่าหลงใหล ทั้งการพูดจาที่ใครได้ฟังเป็นต้องเคลิ้ม และการกระทำที่ดึงดูดนั้น ทำให้ฉันตกหลุมรักมุกตั้งแต่แรกพบที่อิตาลีเมื่อ 2 ปีก่อน...
      ...................................................................................
      ฉันมาหยุดพักร้อนที่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี หลังจากการสอบปลายภาคเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ บ้านเกิดของฉัน ฉันอยากมาเที่ยวบ้างจึงขออนุญาตท่านพ่อมา แต่ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียว ท่านพ่อจึงส่งคนมาดูแลด้วยคนหนึ่งชื่อ ใหม่ ซึ่งโตมาด้วยกันและสนิทกันมาก รู้จักกันมาตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่มัธยมต้น ท่านพ่อพาใหม่มาเลี้ยงเพราะลูกน้องของท่านพ่อซึ่งเป็นน้าของใหม่ตาย เนื่องจากยอมเป็นแพะรับบาปเรื่องค้ายาเสพติดแทน

      "คุณหนูคะ แดดเริ่มร้อนแล้ว ไปหาที่ร่มนั่งพักก่อนดีกว่า" ใหม่พูดเรียบๆตามแบบของตัวเอง เนื่องจากเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ ฉันจึงไม่รู้ว่าใหม่คิดอะไรอยู่ แต่ใหม่ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ที่ฉันคอยปรึกษาได้เวลาฉันมีปัญหา

      "อือ ฉันก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน ไปหาที่นั่งพักหน่อยก็ดี" ฉันตอบใหม่ ใหม่ยิ้มตอบน้อยๆกลับมาก่อนเราทั้งสองจะออกเดินไป

      .

      "โอ๊ย" ขณะฉันกำลังเปิดประตูเข้าร้านกาแฟในเมือง ก็มีใครไม่รู้เดินออกมาชนฉัน ใครกันนะ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย บ้าจริงๆ เดี๋ยวจะด่าให้! ในจังหวะที่ฉันเห็นหน้าเขาชัดๆนั่นเอง...น่ารักจัง

      "Oh, I'm really sorry. Are you alright?" ผู้หญิงคนนี้กล่าวขอโทษฉัน เพียงแค่เขาเปล่งเสียงออกมาเท่านั้น ฉันก็ยกโทษให้ไปแล้ว

      "อะ เอ่อ เห้ย" ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อ ใหม่ก็กระโจนเข้าไปหาคนๆนั้นแล้วชกไปบนหน้าเขาเต็มแรง

      "ใหม่ พอแล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" ฉันตะโกนออกไปด้วยความที่กลัวผู้หญิงที่ชนฉันจะบาดเจ็บ ฉันวิ่งไปหาเขา ผลักใหม่ออกแล้วประคองเขาขึ้นมา

      "Are you okay?" ฉันถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ที่มุมปากเขามีเลือดออกนิดๆ บ้าจริง! ใหม่นะใหม่!

      "เอ่อ คุณเป็นคนไทยเหรอ...อ้อ แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ขอบคุณนะ" เขาบอกฉัน กรี๊ดดดดด น่ารักเป็นบ้าเลย พูดแค่นี้ฉันก็แทบละลายแล้วนะ

      "เอ่อ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอเลี้ยงมื้อกลางวันคุณเป็นการขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะึคะ...ว่าแต่คุณชื่อ.." ได้การละ จะว่าไปก็ต้องขอบคุณใหม่เหมือนกันที่ไปต่อยเขา ฉันจะได้มีโอกาสตีสนิทให้มากขึ้น!

      "มุก ฉันชื่อมุก" มุกเหรอ มุก...เมย์ ม.ม้าเหมือนกันด้วย เนื้อคู่กันแน่ๆเลย มุกเมย์ๆ เสร็จฉันล่ะ มุกต้องเป็นของฉัน!

      "อ่อ ค่ะ ฉันเมย์นะคะ แล้วนี่เพื่อนฉันชื่อใหม่ ขอโทษแทนใหม่ด้วยนะคะมุก" ฉันแนะนำตัวไปหวังให้เรารู้จักกันมากขึ้น มาอิตาลีครั้งนี้มันพรหมลิขิตชัดๆ ฉันถึงได้มาเจอกับมุก รักแท้ของฉัน

      "งั้นเราไปกันเถอะค่ะมุก" ฉันรีบพูดต่อเพราะกลัวมุกปฏิเสธ โดยหันไปมองใหม่ด้วยสายตาขอบคุณ แล้วไปร้านอาหารที่โรงแรมที่ฉันกับใหม่พักอยู่
      ...............................................................................
      เหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันไม่เคยลืมเลย มุกเป็นรักแรกพบของฉัน ถึงจะเจ้าชู้ไปบ้าง มีคนอื่นหลายคนหลายครั้ง แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้จนวันนี้ที่เราได้หมั้นกัน กระนั้น มุกก็ชอบหวานเสน่ห์ไปทั่ว! และตอนนี้นังพราวคือคนที่ฉันระแวงที่สุด ฉันดูออกว่ามุกชอบมันไม่น้อยเลย

      "มุกคะ เมย์ว่าเราไปเดินเล่นในสวนดอกกุหลาบกันดีกว่า จุกเพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่อวานพอดีเลยค่ะ" ฉันชวนมุกไปด้วยกัน อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ มุกจะได้รักฉันให้มากขึ้น จะได้สนใจแต่ฉัน

      "มุกเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่นะเมย์ มุกขอพักหน่อยนะ" มุกก้มลงมาหอมแก้มฉันเบาๆ ก่อนจะไปขึ้นไปชั้นสอง...มุกน่ารักอย่างนี้ ขออะไรฉันก็ยอมทั้งนั้นแหละ ถึงมุกจะไม่เคยขออะไรมากไปกว่าจูบฉัน ฉันก็ยังรอ เพราะถ้าฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จะดูไม่ดีน่ะสิ อีกอย่าง เราก็ไม่ได้นอนห้องเดียวกันด้วย..
      "อ๊ะ คุณมุก" ฉันที่กำลังจัดที่นอนห้องของคุณมุกอยู่ก็ตกใจกับเสียงเปิดประตู ตายแล้ว อยู่กันสองต่อสองแบบนี้เดี๋ยวคุณเมย์จะเข้าใจผิดเอา รีบออกก่อนดีกว่า..

      "เดี๋ยวพราว" คุณมุกคว้าแขนฉันไว้แล้วดึงฉันจากด้านหลังเข้าไปในอ้อมกอด ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันถูกคุณมุกกอด แต่ก็ไม่เคยเกินเลยไปถึงขั้นมีอะไรกัน..

      "คุณมุกคะ พราวมีงานต้องทำต่อ ปล่อยเถอะค่ะ" ฉันกล่าวเสียงสั่นเนื่องจากความกลัวคุณเมย์ และอีกอย่างคือลมอุ่นๆที่กระทบกับคอของฉัน ทำให้ฉันปั่นปวนอยู่ภายในทุกที..

      "ฉันไม่ปล่อย เธอจะทำไม" สิ้นเสียงคุณมุก ฉันรับรู้ไ้ด้ถึงสัมผัสเบาๆที่ลำคอของฉัน ความรู้สึกวูบวาบแปลกๆนี้ ทำให้ฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่ หันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายแล้วริมฝีปากของเราทั้งคู่ก็แนบเข้าหากัน ฉันรู้สึกได้ถึงบางสิ่งกำลังแทรกตัวเข้ามาภายใต้กระโปรงของฉัน มันยิ่งเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจให้เร็วขึ้น ด้วยสติที่หลุดลอยไป ฉันจึงได้โอบคอคนตรงหน้าเข้ามาให้ใกล้กันมากขึ้น เบียดลำตัวเข้าหาด้วยความต้องการที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง...ใช่...ฉันรักคุณมุก

      "มุกคะ นอนหรือยัง เมย์ขอเข้าไปหน่อยนะคะ" เสียงคุณเมย์พร้อมกับเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากทางด้านนอก ฉันกับคุณมุกผละออกจากกัน ทำยังไงดี ใช่ ฉันต้องตั้งสติก่อน จากนั้นฉันก็เดินไปเปิดประตูห้องนอนของคุณมุก

      "นี่แก แกเข้ามาทำอะไรในห้องของมุก!" เป็นไปดังคาด คุณเมย์โวยวายใส่ฉัน แต่เนื่องจากฉันชินแล้ว จึงไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย

      "ขอโทษจริงๆค่ะคุณหนู พราวเข้ามาจัดห้องคุณมุกน่ะค่ะ ขอตัวไปทำงานอื่นต่อนะคะ" ฉันตอบคุณเมย์ไป แล้วรีบเบี่ยงตัวออกประตู แต่เดินไปได้เพียงก้าวเดียวเท่านั้น ก็ถูกคุณเมย์กระชากผมจนฉันล้มลง คุณเมย์ลงมาคร่อมฉันไว้แล้วเงื้อมือขึ้นจะตบ..

      "เมย์หยุดนะ!" คุณมุกเ้ข้ามาจับข้อมือคุณเมย์ไว้..คุณมุกตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หน้าตาที่เคยยิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสดใจแกมเจ้าเล่ห์นั้น บัดนี้คุณมุกเหมือนคนที่โกรธพอที่จะสามารถฆ่าใครได้อย่างไรอย่างนั้น

      "มะ..มุก" คุณเมย์หันไปมองคุณมุกอย่างหวาดๆ ฉันรู้สึกได้ถึงความกลัวของคุณเมย์ เพราะคุณมุกไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยสักครั้ง แขนคุณเมย์สั่นเกร็งไปหมดด้วยแรงบีบจากมือของคุณมุก ฉันลุกขึ้นช้าๆแล้วจับเข้าที่แขนของคุณเมย์ข้างทีโดนบีบอยู่นั้น

      "คุณมุกคะ ปล่อยคุณเมย์เถอะค่ะ พราวไม่ได้เป็นอะไร" ฉันมองคุณมุกด้วยสายตาเชิงขอร้อง ถึงคุณเมย์จะชอบตวาด ดูถูก หรือทำร้ายฉันอยู่เป็นประจำแม้ฉันจะเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ฉันก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำพอจะปล่อยให้ใครต้องเจ็บตัวหรอก..

      "นี่แก! ไม่ต้องมาทำตัวเป็นแม่ชีแถวนี้! ไม่ต้องทำเป็นนางเอก น่าสมเพช!" คุณเมย์ตะคอกกลับมาอย่างไร้ความสำนึกแม้เพียงนิด ยิ่งไปกว่านั้นคือน้ำลายที่กระเด็นเข้ามาใส่หน้าฉันอย่างจัง ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่คิดโกรธแค้นอะไร เพราะคุณแม่ของฉันสอนให้ฉันเป็นคนใจเย็นมาตั้งแต่เด็กๆ

      "เมย์! ถ้ายังไร้เหตุผลแบบนี้ เราเลิกกัน!" ไม่ใช่แค่คุณเมย์เท่านั้นที่ตะลึงกับคำพูดของคุณมุก ฉันก็ตกใจไม่น้่อยไปกว่าคุณเมย์ด้วยซ้ำ แม้คุณมุกจะไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ค่อนข้างมาก แต่คุณมุกก็เอาใจใส่คุณเมย์มาตลอดทุกครั้งที่ฉันเห็น

      "มุก..มุกพูดอะไรคะ..มันไม่จริงใช่ไหม..พูดสิว่าไม่มีอะไร..แก! นังพราว เพราะแกทั้งนั้นที่ทำให้มุกบอกเลิกฉัน!" คุณเมย์อ้อนวอนคุณมุกด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ แล้วหันขวับมาด่าฉัน มาโทษว่าเป็นความผิดของฉัน ไม่เพียงเท่านั้น คุณเมย์ยังดิ้นให้หลุดจากคุณมุกที่ยังไม่ปล่อยข้อมือจนกระทั่งตอนนี้ เพื่อมาทำร้ายฉัน

      "เมย์ หยุดบ้าสักที แล้วออกไปจากบ้านฉันซะ ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนสติไม่ดีอย่างเธอ!" คุณมุกตะโกนสุดเสียงด้วยอารมณ์ที่เดือดพุ่งพล่าน และทันใดนั้นเอง..

      เพียะ!...คุณมุกตบคุณเมย์...ถึงคุณเมย์จะโวยวายอยู่หลายครั้ง เอาแต่ใจตัวเองบ่อยๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคุณมุกจะทำถึงขนาดนี้ ฉันกำลังอึ้งกับการกระทำเบื้องหน้า ฉันทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่มีแรงแม้จะลุกออกจากเหตุการณ์บ้าๆนี่ ทำไมคุณมุกถึงน่ากลัวได้ขนาดนี้นะ..ไม่เหมือนตอนนั้นที่เราเจอกันครั้งแรก...เมื่อเดือนก่อน
      ...............................................................................
      "พราว เริ่มงานวันแรกไม่ต้องกลัวนะ แค่ทำตามที่คุณเขาบอกก็พอ" พี่นิ่ม เจ้าของร้านอาหารที่หรูที่สุดในบางกอก กล่าวกับฉันอย่างใจดี พี่นิ่มเป็นลูกของเพื่อนป้าฉัน ตอนนี้ที่ฉันไม่เหลือใครสักคน ทั้งพ่อแม่และป้า พี่นิ่มก็ชวนฉันมาทำงาน ถึงงานนี้จะเป็นงานที่ฉันไม่อยากทำที่สุดก็ตาม..

      "ค่ะ" ฉันตอบรับพี่นิ่มไปเบาๆ

      ฉันรู้มาตลอดว่าเบื้องหลังร้านอาหารแห่งนี้ก็คือสถานเริงรมย์ดีๆนี่เอง มันเป็นที่ๆพวกผู้ชาย รวมถึงผู้หญิง มาหาความสุขจากตัณหาของตน ด้วยการจ่ายเงินแลกกับตัวคนที่ทำอาชีพอย่างฉัน จริงๆแล้วพี่นิ่มไม่ได้อยากจะทำธุรกิจแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่พี่นิ่มเคยบอกฉันว่าอาหมี ซึ่งเป็นอาแท้ๆของพี่นิ่มทำกิจการนี้มานานแล้ว ลูกค้าเก่าๆก็มีมากมาย ไม่อยากจะยกเลิก จึงสั่งให้พี่นิ่มรับช่วงต่อ นอกจากนี้อาหมีได้ป่วยเป็นโรคเก๊า มะเร็งปอด ความจำเสื่อม และอัมพาต พี่นิ่มก็ไม่อยากจะขัดใจ ประจวบเหมาะกับที่ป้าของฉันเพิ่งเสีย ฉันจึงได้มาทำงานกับพี่นิ่มที่นี่

      ฉันเดินไปยังห้องที่เตรียมไว้สำหรับผู้มาใช้บริการ ใจก็กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อพี่นิ่มรับฉันมาเลี้ยงดูแล้ว ฉันก็ไม่อยากจะมานั่งๆนอนๆเป็นภาระไม่ช่วยอะไร...ทำใจซะเถอะพราว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป..

      ฉันอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง ถือว่าเป็นห้องชั้นดีทีเดียว เพราะอาหมีจะจัดห้องไปเป็นประเภทๆ ราคาก็จะต่างกันไป แสดงว่าลูกค้ารายนี้ต้องรวยใช้ได้เลยล่ะ

      "ขอโทษที่ให้รอค่ะ" ฉันเคาะประตูก่อนเดินเข้าไปภายใน ห้องนี้สวยจริงๆ ทั้งผ้าม่านลูกไม้ลายไทย เตียงไม้สักจากป่าเขตสงวน ผ้าปูเตียงที่ทอจากผ้าไหมของเจ้านางมณีรินตระกูลล้านนา หัวกระซู่ที่ลักลอบตัดมาก็ราคาแพงใช่ย่อย ทั้งหมดนี้ช่างลงตัวเป็นห้องที่สวยงามแบบไทยๆและเหมาะสมกับคนมีฐานะเสียจริง ขณะที่ฉันกำลังชื่นชมบริเวณรอบๆห้องอยู่อย่างเพลิดเพลิน ฉันก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งขึ้น

      "มาแล้วเหรอ หึหึ เร็วๆเถอะฉันทนไม่ไหวแล้ว" ฉันหันไปตามที่มาของเสียงนั้น ตรงหน้านั้นเป็นผู้ชายร่างท้วม หัวล้านมันเป็นประกาย พุงห้อยย้อยดูหน้าเกลียดนั่น ทำฉันรู้สึกกลัวและขยะแขยงขึ้นมาทันที

      "อะ เอ่อ ดะ เดี๋ยวสิคะ" ฉันรีบพูดทันทีหลังจากชายแก่คนนั้นเดินตรงเข้ามาด้วยสายตาหื่นกระหาย ถึงฉันจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่นี่ก็น่ากลัวเกินไป ฉันไม่กล้าจริงๆ

      "โถๆๆหนูน้อย เดี๋ยวหนูทำตามที่พี่บอก ก็เรียบร้อยแล้ว หึหึ" น้ำเสียงแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น ไม่! ขอโทษนะคะพี่นิ่ม แต่พราวคงทำไม่ได้จริงๆ

      ฉันวิ่งอ้อมไปหวังจะหนีออกจากห้องๆี้นี้ ผู้ชายลามกก็ยังตามมาคว้าตัวฉันแล้วเหวี่ยงลงบนเตียง อ้วนเป็นฮิปโปแท้ๆ ทำไมเร็วแถมแรงเยอะนักนะ บ้าจริง หลังฉันก็กระแทกหัวเตียง เจ็บจัง

      "มามะ มามีความสุขกันดีกว่า" ไอ้บ้ากาม! แค่เห็นหน้าฉันก็แทบอาเจียนแล้ว ไม่ได้การ ต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด อ๊ะ แจกันข้างๆเตียงนี่ คิดได้ดังนั้นฉันจังรีบคว้ามันมาแล้วฟาดเข้าไปที่หัวใสๆนั่นเต็มแรง เพล้ง!

      "อะ โอ๊ยยย ยัยบ้านี่ มึง! กูไม่ปล่อยมึุงแน่" ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาสนใจแล้ว ฉันอาศัยจังหวะที่มันเสียหลักวิ่งไปเปิดประตูและออกจาห้อง ก็ยังมีเสียงมันตะโกนไล่หลังมา บ้าจริง ยังมีแรงอีกเหรอเนี่ย ฉันหันไปมองมันจึงทำให้ไม่เห็นทางข้่างหน้า และชนเข้ากับใครบางคน..

      "อ๊ะ" ฉันและคนๆนั้นล้มลงทำให้ปลายจมูกเราสัมผัสกัน ฉันตกใจมากแต่ด้วยความกลัวเฒ่าหัวงูที่มีมากกว่าจึงรีบลุกเพื่อจะหนีไป แต่ก็ถูกคนที่ฉันชนรั้งไว้ก่อน

      "คือฉันขอโทษจริงๆค่ะที่ชนคุณ แต่ฉันรีบ ขอตัวนะคะ" ฉันพูดรัวๆแต่คนๆนั้นก็ยังไม่ปล่อย ผู้ชายหื่นคนนั้นก็ใกล้จะถึงแล้ว โอ๊ย ไม่รอดแล้วแน่ๆเรา

      "นี่อีหนู! มาทุบหัวกูแล้วหวังจะหนีง่ายๆเหรอ กูจะจับมึงทำเมียแน่ๆ คอยดู!" ฉันไม่อยากเป็นเมียมัน ไม่เอา ฉันไม่ต้องการ...รู้แล้ว ขอโทษจริงๆนะคุณคนแปลกหน้า..

      "พี่ชายคะ หนูขอโทษจริงๆค่ะ เมื่อกี้หนูเข้าห้องผิด คือผู้หญิงคนนี้เป็นลูกค้าหนูน่ะค่ะ...ใช่ไหมคะ" ฉันหันไปพยักเพยิดให้ผู้หญิงที่ฉันกำลังเกาะแขนอยู่อย่างขอร้อง ช่วยฉันทีเถอะ ช่วยฉันจากผู้ชายโรคจิตคนนี้ที

      "ค่ะ ยังไงก็ขอโทษแทนเด็กของฉันด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าเสียหายให้" พูดจบผู้หญิงคนนี้ก็หยิบเงินขึ้นมาจำนวนมากพอดูแล้วยื่นให้ไอ้แก่นั่น...ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ

      "เออ ถือว่าเห็นแก่หน้าคุณกฤตพรนะ ฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ" เขากล่าวเสร็จแล้วเดินจากไป

      "เฮ้อ" เหตุการณ์เมื่อกี้เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ถ้าไม่ได้คุณคนนี้ช่วยไว้ ฉันต้องแย่แน่ๆเลย คนอะไรหน้าตาดี แถมใจดีอีก

      "ขอบคุณจริงๆนะคะที่ช่วยฉันไว้ เอ่อ คุณกฤตพร" จริงสิ! กฤตพร ลูกเจ้าของธุรกิจมากมายที่คนทั่วประเทศไม่มีใครไม่รู้จัีก ถึงว่าหน้าคุ้นๆ เห็นตามหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ

      "ไม่เป็นไร" เธอยิ้มให้ฉันอย่างใจดี ถึงจะรวยล้นฟ้า แต่ก็เป็นกันเองดีจัง..

      "ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะตอบแทนคุณกฤตพรได้ก็บอกได้เลยนะคะ ฉันยินดี" ฉันกล่าวออกไปอย่างเต็มใจ  ช่างโชคดีจริงๆที่โลกนี้มีเธอ

      "เรียกฉันว่ามุกเฉยๆก็ได้ แล้วก็ตามฉันมานี่" คุณมุกจูงมือฉันไปที่ห้องๆหนึ่ง พี่นิ่มเคยบอกฉันว่าห้องนี้ห้ามเข้าเป็นอันขาด เพราะเป็นห้องส่วนตัวของลูกค้ารายสำคัญ และมีของใช้ส่วนตัวอยู่ด้วย

      "คุณกฤตพรคะ คือห้องนี้ห้ามใครเข้านะคะ พี่นิ่ม เอ่อ เจ้าของร้านเคยบอกไว้" ฉันพูดไปตามที่ฉันรู้มา เพราะพี่นิ่มดูจริงจังมากตอนบอกฉัน

      "ฉันบอกให้เรียกว่ามุกไง ไม่ต้องพูดมากแล้ว ตามฉันเข้ามา" เธอหยิบกุญแจดอกสีทองประดับด้วยมุกพราวระยับออกมาไข แล้วเดินเข้าในห้องพร้อมจูงฉันตามไปด้วย

      "ทำไมคุณกฤต..เอ่อคุณมุกถึงได้มีกุญแจล่ะคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย รอบๆห้องนอกจากเตียงนอนและข้าวของที่สั่งจากแถบตะวันตกแล้ว ยังมีโซ่ เทียนไข ไม้เรียว เชือก กุญแจมือ ตะปู มีด แล้วยังมีรอยเลือดติดอยู่บนกำแพงนั่นอีก! หรือว่า...!!

      "ที่เธอบอกว่าจะตอบแทนฉันน่ะ ฉันขอเลยแล้วกันนะ" ไม่รอช้า คุณมุกผลักฉันลงบนเตียงเนื้อผ้าอย่างดี หยิบมีดขึ้นมากรีดเสื้อผ้าฉันออกช้าๆ ตอนแรกฉันกลัวมาก แต่ดูจากสีหน้าคุณมุกแล้ว เขาไม่ใช่คนโหดร้ายสักนิด

      "คุณ คุณมุกจะทำอะไรคะ" ฉันถามคนที่อยู่ด้านบน พร้อมใช้มือปกปิดร่างกายส่วนที่เสื้อฉีกขาด สายตานั่นทำให้ฉันแทบละลาย

      "..." คุณมุกอ้่าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็เงียบไป แล้วก้มลงมาสัมผัสฉันเบาๆที่หน้าผากด้วยริมฝีปากของเธอ ไล่ลงมาบนเปลือกตา แก้ม และริมฝีปากของฉัน

      มือเรียวของคุณมุกไล้ไปตามผิวกายของฉันช้าๆ และถอดเสื้อที่ขาดวิ่นของฉันออกจนไม่เหลืออะไรปิดบังไว้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครได้เห็นฉันในสภาพนี้นอกจากแม่กับป้าเท่านั้น ฉันเกร็งไม่น้อยและกอดตัวเองเอาไว้ กระนั้นคุณมุกก็แกะมือของฉันไปคล้องคอของเธอ แล้วเบียดตัวเองเข้ามากันอย่างแนบชิดที่สุด ไอร้อนส่งผ่านจากผิวสู่ผิว ความรู้สึกแปลกๆนี้ มันเรียกอะไรกันนะ แล้วความคิดของฉันก็ถูกหยุดลงเมื่อเกิดแรงขบเบาๆที่หน้าท้องของฉัน...เอาอีก...นี่คือสิ่งที่ฉันคิด ลิ้นบางนั้นไล้ต่ำลงเรื่อยๆจนกระทั่ง..

      "พราว อยู่ในนั้นหรือเปล่า" นั่นเสียงพี่นิ่มนี่ พอได้สติกลับมาฉันจึงลุกขึ้นเพื่อจะแต่งตัว แต่เสื้อฉันก็ขาดไปแล้ว..จู่ๆคุณมุกก็ยื่นเสื้อตัวหนึ่งมาให้ฉัน

      "ฉันมีเสื้อสำรองในตู้น่ะ ฉันให้" คุณมุกพูดเบาๆแล้วยิ้มให้ฉัน ฉันรีบใส่เสื้อตัวนั้น แล้วคุณมุกก็เปิดประตูห้องให้พี่นิ่ม

      "เอ่อ คุณมุก" พี่นิ่มเอ่ยเบาๆ ก่อนมองมาทีฉัน

      "เมื่อกี้มีลูกค้าคนหนึ่งบอกว่าพราวไปทุบหัวเขาแล้วมากับคุณมุก พี่เลยมาดูน่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหม" พี่นิ่มเข้ามาถามฉันด้วยความเป็นห่วง ฉันพยักหน้าตอบไปด้วยความสำนึกผิดที่ทำให้พี่นิ่มต้องเสียชื่อ

      "พราวขอโทษนะคะ พราวกลัวเขาจริงๆ" ฉันตอบตามความจริง ขอบคุณพี่นิ่มมากๆที่ไม่โกรธฉัน

      "ชื่อพราวเหรอ" คุณมุกซึ่งเีงียบไปสักพักพูดขึ้นมา ฉันไม่แน่ใจนักว่าเขาถามฉันหรือพี่นิ่ม ฉันก้มหน้าไม่กล้าสู้หน้าคุณมุกเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อครู่

      "ค่ะ พราวเป็นน้องของดิฉันเอง ขอโทษแทนพราวด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้คุณมุก" พี่นิ่มบอกคุณมุก แต่พี่นิ่มคงไม่รู้เรื่องของฉันและคุณมุกที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีที่แล้วจึงดูไม่ตกใจอะไร

      "ในฐานะที่เรารู้จักกันมานานนะคุณนิ่ม ฉันขอตัวพราวไปกับฉันได้ไหม" ทั้งฉันและพี่นิ่มต่างก็แปลกใจกับคำขอนั้น ฉันไม่รู้ว่าคุณมุกต้องการอะไรกันแน่

      "เอ่อ คือ" พี่นิ่มก็คงไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ทำให้คุณมุกพูดต่อขึ้นมาก่อน

      "พราวไม่เหมาะกับงานแบบนี้หรอก ให้ไปทำงานบ้านฉันดีกว่า" ไปอยู่บ้านคุณมุกเหรอ แต่ว่า แล้วพี่นิ่มล่ะ..

      "ดิฉันก็เห็นด้วยกับคุณมุกนะคะ ยังไงก็ฝากพราวด้วยค่ะ" หมายความว่าฉันต้องไปอยู่กับคุณมุกอย่างนั้นใช่ไหม แล้วครอบครัวเขาล่ะ จะยอมรับฉันได้เหรอที่จู่ๆก็มีใครไม่รู้ไปปรากฏตัว

      "เธอไม่ต้องกังวลนะพราว ฉันจัดการเอง" คุณมุกตอบเหมือนอ่านใจฉันออก แล้วยิ้มใจดีให้ฉันอีกครั้ง

      วันรุ่งขึ้นคุณมุกมารับฉันไปที่บ้าน..ไม่สิ..ต้องเรียกคฤหาสน์ถึงจะถูก ใหญ่โตสวยงามมากๆ ไม่คิดว่าในชีวิตของฉันจะได้มาอยู่ที่ดีๆแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ไม่มีอะไรที่ดีไปเสียทั้งหมดอยู่แล้ว..เพราะวันนั้นเป็นวันที่ฉันได้เจอคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวดทั้งร่างกาย และจิตใจ...
      ..................................................................................
      ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกว่าคุณมุกมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ยิ่งการมาปรากฏตัวของฉันทำให้คุณเมย์ต้องคอยจิกกัดและทำร้ายฉันอยู่ตลอด แต่ฉันก็ทนเพื่อคุณมุก เพื่อได้อยู่ใกล้ๆคนที่ฉันรัก

      อย่างไรก็ตาม คุณมุกที่ฉันเห็นตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ คุณมุกที่โหดเหี้ยม คุณมุกคนที่ตบคู่หมั้นตัวเอง คุณมุกคนที่ตวาดเสียงดัง...คุณมุกคนเดิมนั้นหายไป คุณมุกที่เคยใจดีหายไปไหน..
      "มุก อย่าทำอย่างนี้กับเมย์สิคะ เมย์รักมุกนะคะ ที่เมย์ทำไปทั้งหมดก็เพราะเมย์รักมุกมาก" คุณเมย์ร้องด้วยความเสียใจ ฉันรู้สึกสงสารเธอแม้เธอจะคิดร้ายกับฉันแค่ไหนก็ตาม

      "เมย์ เธอทำมากไปแล้ว พราวเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอน่ะบ้า แล้วก็เอาแต่ใจ ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!" ความโกรธของคุณมุกไม่มีทีท่าว่าจะลดลงสักนิด และจู่ๆก็มีคนวิ่งมาจากด้านหลังของฉันแล้วชกคุณมุกอย่างแรง

      "แก ไอ้มุก แกทำร้ายคุณเมย์ ฉันทนมานานแล้ว ฉันจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว" ใช่แล้ว..พี่ใหม่ คนที่มาดูแลคุณเมย์จากบ้านตระกูลมาพูเล่..ฉันรู้ว่าพี่ใหม่รักพี่เมย์มาก เพราะพี่ใหม่จะมาปรึกษากับฉันอยู่บ่อยๆ แต่พี่ใหม่ก็ต้องยอม เพราะคุณเมย์รักคุณมุก ฉันจึงไม่แปลกใจนักถ้าพี่ใหม่จะโกรธที่คุณมุกตบคุณเมย์ไปเมื่อกี้

      "ใหม่! ทำอะไรน่ะ! หยุดทำร้ายมุกนะ!" คุณเมย์แผดเสียงด้วยความรู้สึกที่มากมายซึ่งฉันสัมผัสได้

      "คุณเมย์ตาสว่างสักที ไอ้มุกมันเคยรักใครจริงที่ไหน ไปมั่วคนนู้นคนนี้ที แล้วมันยังตบคุณเมย์อีก ใหม่ทนไม่ได้แล้ว ใหม่ทนไม่ได้ที่มันมาทำร้ายคนที่ใหม่รัก!" พี่ใหม่ระบายทุกสิ่งอย่างในใจออกไปจนหมด

      "ใหม่อย่ามาพูดอะไรไร้สาระ เมย์รักมุกเท่านั้น ได้ยินไหม เมย์ไม่ได้รักใหม่!" ภาพตรงหน้าฉันตอนนี้เป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก ฉันควรทำอะไรสักอย่างแล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้ต้องจบไม่ดีแน่ๆ

      ฉันรีบลุกวิ่งไปตามจุกที่กำลังตกแต่งดอกกุลาบอยู่ในสวน และนทที่กำลังทำครัวเตรียมอาหารกลางวัน มาช่วยแยกคุณมุกกับพี่ใหม่..และเหตุการณ์ก็สงบลงโดยพ่อและแม่ของคุณเมย์มารับตัวคุณเมย์กลับไป
      หลังจากเหตุการณ์นั้นมา 2 วัน ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ เว้นแต่คุณมุกกับคุณเมย์ที่เลิกกันแล้ว คุณเมย์เสียสติจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด คุณมุกก็ดูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนัก เพียงแต่ใส่ใจพราวมากขึ้น แต่ันั่นก็ไม่ทำให้พราวใจอ่อน เพราะพราวได้เก็บของเตรียมจะย้ายออกไปเย็นนี้

      "พราว ต้องไปจริงๆเหรอ คุณมุกเขารักพราวมากนะ" ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมให้พราวอยู่ต่อ ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่พราวก็เป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด

      "พราวขอโทษจริงๆนะนท พราวเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ พราวไม่กล้าอยู่ต่อหรอก" ฉันเข้าใจดีว่าพราวรู้สึกผิดแค่ไหน ในเมื่อพราวตัดสินใจจะไปฉันก็คงไม่ห้าม

      "อืม แล้วพราวจะไปอยู่ไหนล่ะ" ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะญาติพราวก็ไม่เหลือแล้วพราวก็คงไม่กลับไปทำงานกับพี่นิ่ม

      "ก็ไม่รู้สิ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละเนอะนท" พราวยิ้มกลับมา แต่แววตานั่นยังดูกังวลใจ

      "งั้นนทขอให้พราวโชคดีนะ" พราวเจออะไรแ่ย่ๆมามากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้พราวต้องมีเรื่องมากไปกว่านี้อีก

      เมื่อถึงตอนเย็น ฉันมาส่งพราวที่ปากซอย เราร่ำลากันและพราวสัญญาว่าจะเขียนจดหมายมาหาฉันเรื่อยๆ...หลังจากไปส่งพราว ฉันเดินกลับมายังคฤหาสน์มณฑีรรัตน์ ระหว่างทางฉันเจอผู้หญิงแถวบ้าน...น้องพลอยนี่!...กำลังถูกผู้ชายเมาคนหนึ่งวิ่งไล่

      "น้องสาววว น่ารักอย่างนี้ พี่ขอสักสามทีได้ป่ะ หึหึ" ไอ้บ้านั่นเมาแล้วจะทำมิดีมิร้ายน้องพลอยแน่ๆ ฉันอยู่เฉยไม่ได้หรอก

      "เห้ย ไอ้เวร!" มันหันมา ฉันจึงซัดไปหนึ่งหมัด เนื่องจากเมาด้วยอยู่แล้ว มันจึงเซล้มสลบอย่างง่ายดาย

      "ฮืออออ" น้องพลอยร้องไห้แล้วกอดฉันยกใหญ่ เห้อ มาเดินอะไรคนเดียวตอนเย็นแบบนี้เนี่ย

      "ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่นทอยู่นี่แล้ว" ฉันกอดปลอบน้องพลอยแล้วพาไปนั่งพัก เด็กอะไรไม่รู้ ขี้แงจริงๆเลย

      "ขอบคุณพี่นทมากๆนะคะ ถ้าพี่นทไม่มาช่วยพลอยก็ไม่รู้จะทำยังไง" จะไม่ให้ช่วยได้อย่างไรล่ะ ก็ฉันชอบน้องพลอยมาตั้งแต่น้องเขามาอยู่แถวนี้แล้วนี่

      "เอ้อ แล้วทำไมมาเดินคนเดียวล่ะ ดึกแล้วเดี๋ยวคุณน้าเป็นห่วงนะ" น้องพลอยอาศัยอยู่กับคุณน้าที่เปิดร้านตัดเย็บอยู่ในตลาด ปกติก็อยู่ด้วยกันตลอด ทำไมถึงปล่อยน้องพลอยมาอยู่คนเดียวได้นะ

      "ฮึก พี่นท คุณน้าโดนผู้ชายคนเมื่อกี้ ฮึก" น้องพลอยพูดพลางสะอื้น ฉันรู้สึกสงสารน้องพลอยจับใจ

      "มันทำอะไรคุณน้าคะ เดี๋ยวพี่นทจัดการให้" คุณน้าของน้องพลอยก็เป็นผู้ใหญ่ที่ฉันเคารพมากคนหนึ่ง ถ้าช่วยได้ฉันก็จะทำเต็มที่ที่สุด

      "คุณน้า..ตายแล้วค่ะ ฮึก เขา ฮึก เขาดันคุณน้าตกท่อ" หา! ไอชั่วนั่นมันฆ่าคุณน้าเหรอ แล้วน้้องพลอยจะอยู่ได้ยังไงกัน

      "น้องพลอยไม่ต้องคิดมากนะคะ เดี๋ยวพี่นทแจ้งตำรวจให้ น้องพลอยมาอยู่กับพี่นทนะคะ" ฉันกล่าวออกไปด้วยความเป็นห่วงเด็กสาวตรงหน้า ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว...พี่นทรักน้องพลอยนะคะ

      วันต่อมาฉันไปโรงพักเพื่อจัดการเรื่องคุณน้าของน้องพลอย และขนของใช้ของน้องพลอยย้ายมาที่คฤหาสน์มณฑีรรัตน์ ซึ่งคุณมุกก็อนุญาต..ตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ดูแลน้องพลอยจนสามเดือนให้หลังเราจึงได้คบกัน..
      วันนี้ฉันได้ทำบุญครบรอบ 1 เดือนกับการจากไปของอาหมีที่ฉันเคารพ ไหนๆอาหมีก็ไม่อยู่แล้วฉันจึงตัดสินใจปิดกิจการขายบริการนี่สักที ตอนนี้ก็มีแต่ร้านอาหารเท่านั้นที่เหลืออยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันลำบากอะไรมากนัก

      "เอ่อ ขอโทษนะคะ" จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านอาหารและ
      ตรงเข้ามาหาฉัน สภาพดูเดือดร้อนพอควร ทั้งจากการแต่งกาย หรือข้าวของที่ติดตัวมา

      "ใช่คุณนิ่มหลานอาหมีหรือเปล่าคะ" เธอถามต่อ ฉันไม่แปลกใจนักหากใครจะรู้จักฉัน เพราะอาหมีสร้างชื่อเสียงไว้มากมาย และยังเป็นเศรษฐีที่มีคนนับหน้าถือตาอีกด้วย

      "ค่ะ ฉันนิ่มหลานอาหมี แต่ถ้าจะถามหาอาหมี แก..เสียแล้วนะคะ" ทุกครั้งที่ใครพูดถึงอาหมี ฉันแทบจะร้องไห้ทุกครั้ง เพราะอาหมีเป็นคนที่ช่วยเหลือฉันทั้งด้านการเรียน การงาน และหลายๆเรื่อง

      "คือฉันเป็นเพื่อนกับพราว ชื่อแอปเปิ้ลค่ะ จะขอมาสมัครงาน ได้โปรดรับฉันไว้ด้วยเถอะนะคะ" แอปเปิ้ลงั้นเหรอ จะว่าไปหน้าก็กลมเป็นลูกแอปเปิ้ลจริงๆแหละ แต่ที่ทำให้ฉันใจเต้นคือ น้องแอปเปิ้ลคนนี้มาจับมือคุกเข่าขอร้องฉันนี่สิ! อย่างกับจะมาขอแต่งงานเลย

      "อะ เอ่อ คุณแอปเปิ้ลคะ ลุกขึ้นมาก่อนดีกว่าค่ะ" ฉันบอกเธอด้วยเสียงสั่นๆ อยู่ๆมีคนน่ารักมาทำแบบนี้ฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ..

      "ไม่ค่ะ ถ้าคุณนิ่มไม่รับฉัน ฉันจะไม่ลุกขึ้น ตราบชั่วฟ้าดินสลายก็ตาม.." แอปเปิ้ล...ผู้หญิงคนนี้มีความมุ่งมั่นและพยายามจริงๆ ถ้าได้มาเป็นคนรัก เอ้ย ได้มาทำงานด้วยคงดีไม่น้อย

      "ค่ะๆ ตกลงฉันรับคุณแอปเปิ้ลเข้าทำงานแล้ว ลุกได้หรือยังคะ" ฉันตอบตกลงก็ผู้หญิงตรงหน้าที่บัดนี้ลุกขึ้นยืนเป็นปกติแล้ว แถมยังยิ้มกว้าง..น่ารักมาก..น่ารักมากๆ! ระหว่างที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มแสนหวานของแอปเปิ้ล เธอก็เข้ามากอดฉันซะอย่างนั้นแหละ!

      "อะ คุณแอปเปิ้ล ทำอะไรคะ" ฉันถามไปอย่างนั้นเอง เพราะฉันก็กอดตอบเธอแน่นจนรู้สึกได้ถึงไออุ่นแหละหัวใจของเธอที่เต้นแรง..ไม่แพ้ฉัน

      "คุณนิ่มใจดีที่สุดเลยค่ะ แอปขอบคุณมากนะคะ รักคุณนิ่มที่สุดเลย" ตอนนี้ฉันรู้สึกร้อนบนหน้าอย่างรุนแรง คนที่เพิ่งพบกันไม่ถึง 5 นาทีมาบอกรักกัน เข่าฉันก็แทบทรุด!

      "ค่ะๆๆๆ งั้นเริ่มงานได้เลยนะคะ นิ่มขอตัวไปล้างหน้าล้างตาก่อน" ฉันรีบผละจากผู้หญิงร่างสูงคนนั้นไปที่ห้องน้ำ มองตัวเองในกระจก...นี่หน้าฉันแดงขนาดนี้เลยเหรอนี่!

      แล้วนั่นก็เป็นวันที่ฉันได้เจอกับคู่ชีวิตของฉัน...นิ่มแอป
      ผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วที่ฉันมาเฝ้าคุณหนูผู้เป็นดวงใจของฉัน ตั้งแต่วันที่คุณมุกบอกเลิกคุณหนูนั้น คุณหนูก็เอาแต่เพ้อเจ้ออะไรอยู่คนเดียวในสวนของโรงพยาบาล และบางทีก็คุยกับเพื่อนคนบ้าด้วยกันอย่างถูกคอ ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เพียงแค่มาเยี่ยม มาดูแลเท่าที่ทำได้แค่นั้น ฉันคงต้องตัดใจให้ได้สักทีสินะ 

      "ขอโทษนะคะ ใช่คุณใหม่หรือเปล่าคะ" เสียงหวานเสียงหนึ่งดังขึ้น ฉันหันไปหาเจ้าของเสียงนั้น แล้วก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกาวน์...สงสัยจะเป็นหมอล่ะมั้ง

      "ค่ะ ฉันมาเยี่ยมผู้ป่วยน่ะค่ะ่" ฉันตอบไปด้วยใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นนิดๆ ก็คุณจิตแพทย์คนนี้ทั้งน่ารัก เสียงหวาน และยิ้มสวยบาดใจขนาดนี้ ใครเห็นเป็นต้องหวั่นไหว..

      "ค่ะ ฉันเป็นจิตแพทย์คนใหม่ที่จะมาดูแลคุณเมย์ มาพูเล่นะคะ เรียกฉันว่าบุ๊คก็ได้ค่ะ" เธอยิ้มกลับมาให้ฉันอีกครั้ง คราวนี้หวานกว่าเดิมเสียอีก น่ารักเิกินจะทน เกินที่จะไม่สน เร้าใจไร้เหตุผลจริงๆ คุณจิตแพทย์บุ๊ค..

      "ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามรายละเอียดเกี่ยวกับคนไข้หน่อยนะคะ เชิญทางนี้ค่ะ" คุณจิตแพทย์คนนี้เรียกให้ฉันไปคุยด้วยภายในห้องส่วนตัว ถึงจะแค่คุยเรื่องอาการของคุณหนู แต่การได้อยู่สองต่อสองกับคนน่ารักอย่างคุณจิตแพทย์บุ๊คแล้ว ฉันก็หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนกัน!

      "อาการของคุณเมย์ นอกจากบอกว่าคนนู้นคนนี้เป็นแฟนตัวเองแล้ว ยังทำอะไรอีกไหมคะ" คุณจิตแพทย์บุ๊คถามฉันเรื่อยๆ แต่ด้วยท่าทางและน้ำเสียงนั้น ทำให้ฉันแทบไม่ได้มีสมาธิอยู่กับคำถามนั่นเลย

      "เอ่อ อ๋อ ค่ะ คุณเมย์เขามีเพื่อนที่ฉันเห็นว่าค่อนข้างสนิทกัน ที่เล่นตบแปะกันอยู่เมื่อกี้ในสวนน่ะค่ะ ชื่อยูล..ยูริน่ะค่ะ" เพื่อนคนนี้ฉันเห็นคุณหนูสนิทด้วยประมาณ 3 วันหลังย้ายเข้ามา ท่าทางคุณหนูมีความสุขมากเวลาได้อยู่ใกล้กับยูล กินก็ต้องกินด้วยกัน คุณหนูยังย้ายไปนอนห้องเดียวกับยูลอีก คงเพราะคุณมุกกับยูลนิสัยคล้ายกันล่ะมั้ง ถึงทำให้คุณหนูผูกพัน

      "ขอบคุณมากนะคะคุณใหม่ ช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ" หลังจากอยู่กับความคิดเรื่องคุณหนูกับเพื่อนสนิท คำพูดของคุณจิตแพทย์บุ๊คก็เรียกฉันกลับมาู่สู่โลกแห่งความจริง

      "ยินดีเสมอนะคะคุณบุ๊ค" ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะขอตัวกลับ

      ความสัมพันธ์ของฉันและคุณจิตแพทย์เป็นไปได้ด้วยดี เวลาว่างๆฉันก็จะชวนเธอไปกินข้าวดูหนังเดินเล่นร้องเพลงไปเที่ยวต่างๆ...พอเวลาผ่านไป 4 เดือน ฉันจึงขอเธอเป็นแฟน

      "บุ๊คคะ คบกับใหม่นะ" ใจก็กลัว กลัวว่าเธอจะทิ้งกันจากไป กลัวเธอจะไม่รับรัก แต่ก็ดีกว่าเก็บความรู้สึกไว้ไม่บอกไป..ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันนานจังนะ เวลามันผ่านไปช้าเหลือเกิน..

      "ใหม่คะ บุ๊ครักใหม่นะคะ แต่... บุ๊คขอเวลา" หัวใจของฉันกระตุกวูบ รู้สึกเจ็บจุกเล็กๆ ทั้งที่เตรียมใจรับคำตอบไว้แล้วว่าบุ๊คอาจไม่ตกลง แต่ก็ยังเสียใจอยู่ดี

      "ไม่เป็นไรค่ะ ใหม่รอได้นะ ใหม่รอบุ๊คได้เสมอ" ฉันยิ้มออกไป แม้มันจะเป็นยิ้มที่เจ็บปวด  แต่ฉันรอได้ ฉันไม่อยากบังคับใจคนที่ฉันรัก ขอแค่บุ๊คยังต้องการให้ฉันอยู่ข้างๆก็เพียงพอแล้ว..

      "ใหม่คะ บุ๊คตกลงค่ะ" หือ! ตกลงอะไร? ตกลงค่ะ? บุ๊คตกลงไปในค่ะเหรอ? ค่ะเป็นหลุม? อะไรยังไง ฉันงงไปหมดแล้ว..

      "ใหม่ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ บุ๊คบอกว่าตกลง บุ๊คจะคบกับใหม่ค่ะ" นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม บุ๊คบอกว่าจะคบกับฉัน จะเป็นแฟนกับฉัน แต่เมื่อกี้บุ๊ค..

      "ไหนบุ๊คว่าขอเวลาไงคะ ทำไมถึงตกลง.." ฉันก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไรนัก เพราะตอนนี้สิ่งที่ฉันสนใจคือ ฉันกับบุ๊ค เราเป็นแฟนกันแล้ว แต่ก็อดสงสัยไม่ได้..

      "ก็บุ๊คอยากรู้ว่าใหม่จะรอได้ไหม บุ๊คอยากมั่นใจว่าใหม่จะรักบุ๊คจริงๆ เพราะบุ๊คเคยอกหัก บุ๊คกลัวว่าใหม่จะเป็นเหมือนคนๆนั้น.." สีหน้าของบุ๊คที่เปลี่ยนไปทำให้ฉันรู้สึกผิดที่ถามออกไป แต่มันก็ทำให้ฉันรับรู้เรื่องราวในอดีตของบุ๊ค ที่คนชื่อต้นปาล์มได้หลอกบุ๊ค แล้วแอบมีคนใหม่ บุ๊คจึงกลัวกับการคบใครซักคน

      "ใหม่จะรักบุ๊ค แค่บุ๊คคนเดียวนะคะ เชื่อใหม่นะ" ฉันเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจ ฉันสัญญาจะรักและดูแลบุ๊คให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้

      เวลาผ่านไป ความรักของเราเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมถึงคุณหนูกับยูลที่อาการดีขึ้นเรื่อยๆจนทางโรงพยาบาลสั่งให้กลับไปอยู่บ้านได้ เนื่องจากยูลหลงมากับเรือสำเภาขายข้าว จึงไม่มีญาติที่ไหน คุณหนูเลยพายูลไปอยู่ด้วยกัน

      หลังจากนั้นสักพัก ก็ถึงวันที่ฉันกับบุ๊คจะแต่งงานกัน คุณหนูซึ่งหายดีแล้วยอมไม่ได้ถ้าฉันจะแต่งงานตัดหน้า จึงบอกนายท่านจะขอแต่งงานกับยูลด้วยอีกคู่ ซึ่งนายท่านก็เห็นดีเห็นงามทีจะให้จัดงานไปพร้อมกัน

      ถึงฉันจะผ่านเรื่องร้ายๆมามากแค่ไหน แต่วันนี้ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตกับคนที่ฉันรัก และฉันมั่นใจว่าคุณหนูเมย์ก็มีความสุขไม่ต่างจากฉัน
      เหงาเหลือเกิน กับเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ที่ฉันอยู่ตัวคนเดียว นทกับพลอยก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ส่วนจุกก็สะดุดปีกแมลงวันล้มเข้าไปในพุ่่มกุหลาบป่าโดนหนามทิ่มตาย..

      ฉันคิดถึงพราว..วันที่พราวหายไปจากชีวิตฉัน ฉันรู้ฉันทำผิดมากมาย ฉันอยากขอโอกาสสักครั้ง หากมีเวลา ขอให้ดาวช่วยมองลงมา ตรงนี้มีคนหนึ่งที่ภาวนา...ขอ ขอพราวคืนกลับมาได้หรือเปล่า อยู่กับมุกก่อน อย่าเพิ่งหนีมุกไป..

      ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่เคยหยุดที่จะตามหาพราวเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่เคยหาเจอ ทำไมนะ ทำไมโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งฉันด้วย ฉันคงเลวมากจริงๆ ถึงไม่สมหวังเหมือนกับคนอื่นเขา..

      คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ฉันต้องอยู่คนเดียว ตั้งแต่พราวจากไป ฉันก็ไม่เคยมีใครอีกเลย พราวคือคนเดียวที่ฉันรักจริงๆ..เหงา นี่แหละเหงา นี่คือความจริงที่ได้เจอ..ฉันปล่อยความคิดไปเรื่อยๆพลางเดินเรียบชายหาดยามค่ำคืน..แล้วฉันก็ไปสะดุดตาร่างๆหนึ่งที่นั่งกอดเข้าอยู่บนม้านั่งเข้า ทรงผมแบบนั้น..พราวใช่ไหม พราว..

      ฉันเดินด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง..ฉันจะได้เจอพราวแล้ว..ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสที่ไหล่นั่นเบาๆ แต่ด้วยความโหยหาฉันจะคว้าคนตรงหน้าเข้ามากอดอย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึงที่สุด...แต่ เอ่อะ ทำไมถึงสูงกว่าฉัน แล้วก็...แบนขนาดนี้นะ

      "เห้ยยยยยยยยยยยยยยยย" ฉันร้องออกไปสุดเสียงด้วยความตกใจ นะ นี่มัน..

      "ขอโทษนะครับ พี่รู้ว่าพี่เป็นดารา แต่ถ้าน้องชอบพี่ เข้ามาพูดดีๆก็ได้ครับ" พี่เป้ อารักษ์ กล่าวออกมาด้วยสีหน้างงๆ ฉันไม่อยู่ฟังให้อายหรอก รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องน้ำของรีสอร์ทริมทะเลนี่แล้ว

      "เห้อ เราคงคิดถึงพราวมากไป" ฉันล้างหน้าด้วยน้ำที่เย็นจัด หวังจะเรียกสติตัวเองกลับมา ฉันเงยหน้ามองตัวเองในกระจก..

      "พะ พราว" คนที่อยู่ในกระจกไม่ไ่ด้มีแค่ฉัน พราวจริงๆ คราวนี้ไม่ใช่พี่เป้แล้ว มันเ้ป็นห้องน้ำหญิง..พราว! ฉันหันหลังกลับไปเผชิญหน้าคนที่ฉันเฝ้าตามหา

      "คุณมุก" เสียงแผ่วเบาของพราว..ใช่..เสียงนี้ฉันไม่เคยลืม ฉันโผเข้ากอดพราวด้วยความคิดถึงที่ล้นเอ่ออยู่ในหัวใจ

      "พราว กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ ตลอดเวลาที่ไม่มีพราว ทำให้มุกรู้ว่าพราวคือคนสำคัญ คนที่มุกรักมากที่สุดในชีวิต" ทุกคำที่ฉันพูดคือความรู้สึกจริงๆของฉัน ฉันรักพราว

      "พราวก็คิดถึงคุณมุกค่ะ พราวขอโทษที่หนีมา พราวอยากจะลืมคุณมุก แต่พราวก็ทำไม่ได้" ฉันดีใจที่ความรู้สึกของพราวตรงกับฉัน ฉันดีใจที่ได้เจอพราวอีกครั้ง และฉันจะไม่ปล่อยให้พราวต้องเสียใจอยู่ลำพังอีกแล้ว

      "กลับบ้านเราเถอะ นะพราว" ฉันขอร้องอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพียงแค่พราวอยู่กับฉัน ก็พอแล้ว

      "ค่ะ" เรากอดกันด้วยความรักจากใจ แล้วมันก็ทำให้ฉันเกิดความรู้สึก..ต้องการ..พราว

      ฉันล็อคประตูห้องน้ำ พราวตกใจนิดๆแต่ก็ไม่ไ่ด้พูดอะไร..ฉันปลดกระดุมพราวที่ละเม็ด ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของพราวออกอย่างเบามือ ร่างๆนี้ฉันยังจำได้ไม่เคยลืม ทุกสัมผัสที่เคยมอบให้แก่กัน บัดนี้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง..

      มุกรักพราวนะ..




      อืมก็สงสัยกับตัวเองว่าทำไมมันจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งมุกพราว ทั้งที่คิดไว้ให้ไม่สมหวัง 5555 แต่คู่อื่นเนี่ยลงตัวสุดๆเลยนะ แบบว่าเอาใจหลายๆคน และขัดใจหลายๆคน 55555555 ขอย้ำ ไม่เน้นคอมเม้นนะ55 อยากแต่งเฉยๆ ขอบคุณมาก55555

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×