(exo) adorable l chankris - (exo) adorable l chankris นิยาย (exo) adorable l chankris <chanyeol x kris> : Dek-D.com - Writer

    (exo) adorable l chankris <chanyeol x kris>

    ชานยอลก็แค่รู้สึกว่า . . . บางครั้งคุณหนูอี้ฝานก็น่ารักเหมือนกันนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,837

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.83K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ม.ค. 58 / 23:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




          


    #HappyWuYiFanDay




    ขอบคุณธีมจาก 
    SQWEEZ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      Title: Adorable

      Pairing: Chanyeol x Yifan  {Chankris}

      Rating: PG ??

      A/N:  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลุดไปจากพล็อตที่วางไว้มากโข ๕๕๕๕ ตอนแรกว่าจะดราม่าแต่สุดท้ายดันออกมาแนวมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวซะได้ .__.  + จริงๆตั้งใจจะเขียนเป็นฟิควันเกิดของฝานฝาน แต่สุดท้ายก็เลต ฮาาา

      A/N2: เห็นตอนนี้ใครๆก็มีแท็คฟิคกันหมดเลย ขอเอากับเค้าบ้างแล้วกันเนอะ ๕๕๕๕ เผื่อหลายๆคนที่ไม่สะดวกคอมเมนท์ในเด็กดีด้วยครัช .w.  แฮชแท็ค #คุณหนูของชานยอล นะเออ :3

       **********************************************

       
       

      “คุณหนูครับ วันนี้มีนัดกับคุณลู่หานตอนสามโมงนะครับ”

       

      เอ่ยพลางกรีดมือเรียวลงบนกระดาษสมุดเล่มเล็กในมือให้พลิกไปยังหน้าต่อไป ดวงตาคู่โตกวาดมองสิ่งที่เขียนอยู่คร่าวๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายวัยไล่เลี่ยกันที่นั่งจิ้มขนมเข้าปากอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวพลางดูโทรทัศน์อย่างสบายใจเฉิบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณหนูตระกูลอู๋คนนี้ไม่ได้สนใจที่จะฟังอะไรจากปากเขาหรอก ในเมื่อมันเห็นอยู่ชัดๆ ว่าสิ่งเดียวที่อีกคนสนใจก็คือหน้าจอสี่เหลี่ยมที่กำลังฉายซีรีย์เรื่องโปรดส่งตรงจากสหรัฐอเมริกา

       

      ปาร์คชานยอลถอนหายใจ กี่ทีแล้วก็ไม่รู้ที่ต้องมานั่งหนักใจกับท่าทางไม่สนใจโลกของเจ้านาย ท่าทีที่ดูไม่เหมือนคนที่อยากจะทำอะไรสักอย่างนอกจากนั่งอยู่เฉยๆ หน้าโทรทัศน์ทั้งวัน

       

      และอาจจะเพราะคุณหนูเป็นแบบนี้ก็ได้ นายท่านถึงต้องการ “บอดี้การ์ด” มาคอยคุมความประพฤติและความซวยนั้นก็มาตกอยู่ที่เขาแบบเต็มๆ เมื่อนายใหญ่ตระกูลอู๋ เจ้าของบริษัทส่งออกสินค้ารายใหญ่คนนั้นเจาะจงมากับบริษัทจัดหาบอดี้การ์ดของเขาเลยว่า อยากได้ผู้ชายคนนี้ อยากได้ปาร์คชานยอลมาดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

       

      ตอนแรกเขาก็ดีใจหรอกนะที่ได้มาอารักขาให้กับคนวัยไล่เลี่ยกัน จะได้คุยกันง่ายหน่อย แต่ยิ่งทำงานนานวันไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้ว่าจุดประสงค์จริงๆ นายท่านคงไม่ได้ต้องการให้เขามาอารักขาอะไรลูกชายของท่านหรอก

       

      คงต้องการให้มาคุมความประพฤติมากกว่า

       

      “คุณหนูครับ วันนี้มีนัดกับคุณลู่หานนะครับ” ชานยอลเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แล้วนี่ก็บ่ายโมงแล้วนะครับคุณหนู ผมว่าคุณหนูควรจะไป

       

      “ปล่อยลู่หานรอเก้อไปนั่นแหละดี” คำพูดห้วนๆ หลุดออกมาจากปากของคุณหนูอี้ฝานที่ยังคงนั่งไขว่ห้างไม่กระดิกไปไหน มือเรียวจิ้มเอาขนมอีกชิ้นเข้าปากในขณะที่ดวงตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์

       

      แค่เพียงเท่านั้นชานยอลก็รู้ได้แทบจะทันทีว่าต่อให้เอาวัวมาฉุด เอาควายมาลาก อู๋อี้ฝานก็คงไม่มีทางลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อไปแต่งตัว เตรียมไปพบกับคนที่นายท่านพยายามจับคู่ให้อย่างคุณลู่หานเป็นแน่


                  แต่เพราะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนก็พอจะรู้บ้างว่าควรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้

       

      งานนี้ยอมรับเลยว่าถึงปากของเขาจะบอกว่าเหนื่อยใจกับงานนี้ก็เถอะ แต่ชานยอลก็เชื่อว่าคนแบบคุณหนูอี้ฝาน นอกจากเขาแล้วคงหาคนกำราบได้ยาก

       

      ท่าทางต้องใช้ไม้เด็ด

       

      “คุณหนูอี้ฝานครับ ถ้าคุณหนูไม่ยอมไปพบกับคุณลู่หาน ดูท่าว่าผมคงต้องรายงานเรื่องนี้กับคุณพ่อของคุณหนูแล้วนะครับ” พยายามควบคุมเสียงให้นิ่งสงบที่สุดในขณะที่ปล่อยไม้ตายออกไปทั้งหน้านิ่ง

       

      อี้ฝานตวัดสายตาขึ้นมองในทันที

       

      “ขี้ฟ้อง”

       

      “ก็คุณหนูดื้อนี่ครับ จะให้ผมทำยังไงได้ล่ะ” ชานยอลกระตุกยิ้มมุมปาก ยิ้มที่อี้ฝานคิดว่ามันยียวนกวนประสาทที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิตนี้ แต่ก็นั่นแหละ ทำอะไรไม่ได้เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนพูดจริงทำจริงเสมอ คราวที่แล้วก็คาบเรื่องที่เขาเบี้ยวนัดลู่หานไปบอกคุณพ่อจนทำให้เขาโดนดุจนหูชา

       

      แบบนั้นอี้ฝานเลยพูดได้เลยว่าหมั่นไส้บอดี้การ์ดคนนี้ที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าบิดาจะเลือกคนได้เหมาะเหม็งเสียจริงเพราะหมอนี่เหมือนจะรู้จุดอ่อนของเขาในทุกๆ ทาง

       

      รู้วิธีข่มขู่เสียด้วย

       

      และเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอบกลัวคุณพ่อของตัวเองอยู่เหมือนกัน สุดท้ายก็เลยต้องกระฟัดกระเฟียดลุกจากโซฟาแล้วตรงดิ่งเข้าห้องไปแต่งตัวอย่างไม่เต็มใจนัก อี้ฝานออกมาหลังจากนั้นไม่นานด้วยหน้าตาหงิกงอ คนตัวสูงจงใจเดินกระแทกไหล่กว้างของบอดี้การ์ดหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าเขาเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะก้าวขายาวเพื่อเดินนำไปยังรถยนต์คนโปรดที่จอดแน่นิ่งอยู่ภายในโรงจอดในตัวบ้าน เปิดประตูเบาะหลังที่ไม่ได้ล็อคโดยไม่ต้องอาศัยบริการเปิดประตูให้ แล้วกระแทกตัวลงนั่งกับเบาะแรงๆ

       

      ปาร์คชานยอลที่เข้านั่งประจำที่หลังพวงมาลัยหลุดขำออกมาเล็กน้อยเมื่อใบหน้าหงิกงอของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นในทันทีที่เขาเปิดประตูรถ ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งประจำที่ก่อนจะหันมองคนตัวสูงที่นั่งเยื้องไปทางด้านหลังเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม

       

      ในเมื่อหงุดหงิดแบบนี้ เขาคงต้องหยอกให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นสักหน่อย

       

      ก็รู้ๆ อยู่ว่าคุณหนูน่ะหงุดหงิดได้ไม่นานนักหรอก

       

      “ทำหน้ายู่ยี่แบบนั้นไม่น่ารักเลยนะครับคุณหนู”

       

      “แล้วนายมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ” ถามกลับเสียงห้วนตามประสาคนอารมณ์ไม่ดี

       

      “ผมไม่เกี่ยวหรอกครับ ก็แค่ไม่อยากเห็นใครบางคนทำหน้าให้ดูขี้เหร่กว่าเดิมแค่นั้นเอง”

       

      “ปาร์คชานยอล!” อี้ฝานแหวเสียงลั่น มือเรียวเอื้อมมาฟาดแขนของเจ้าของชื่ออย่างเต็มแรง หากชานยอลกลับหัวเราะร่วนกับท่าทางแบบนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขาหันมองคุณหนูตัวสูงที่ทำหน้าขุ่นเคืองอยู่ไม่ไกล ทอดสายตานิ่งที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าอยู่สักพัก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวของอีกคนเบาๆ

       

      “ล้อเล่นครับ คุณหนูอี้ฝานน่ะน่ารักที่สุดแล้ว” เอ่ยพลางก็ส่งยิ้มหวานให้กับคุณหนูที่เบาะหลัง ชานยอลเกลี่ยนิ้วโป้งสัมผัสผิวแก้มเนียนของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา สิ่งที่พูดออกไปไม่ใช่คำโกหก สำหรับเขาคุณหนูอี้ฝานน่ะถึงจะสูง แต่ใบหน้าหล่อๆ นั่นกลับติดออกไปทางหวานจนเขาอดไม่ได้ที่จะบอกว่ามันน่ารัก

       

      จริงๆ ก็บอกคุณหนูหลายทีแล้วแหละว่าแกน่ะน่ารัก แต่ไม่เคยพูดตรงๆ ขนาดนี้มาก่อนเลย

       

      “บ้า” อี้ฝานปัดมือของเขาออก ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธอย่างตะกุกตะกักทั้งที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศ “ใครน่ารัก ฉันไม่ได้น่ารักสักหน่อย”

       

      ชานยอลมองใบหน้าหล่อเหลาติดหวานที่แดงเทือก คุณหนูของเขาดูจะน่ารักยิ่งกว่าเดิมเสียอีกเมื่อหน้าขึ้นสีแบบนี้

       

      น่ารักน่าแกล้ง

       

      บอดี้การ์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้เจ้านายที่เบือนสายตาหนีไปทางอื่นก่อนจะเป่าลมลงบนผิวแก้มขาวนั้นเบาๆ

       

      “คุณหนูหน้าแดงน่ะครับ” กระซิบเสียงแผ่ว ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอีกครั้งกับท่าทางของคนตัวสูงที่สะดุ้งโหยงแล้วหันมาจ้องเขาตาเขียว มือใหญ่เอื้อมไปจับประคองต้นคอของคุณหนูให้โน้มเข้ามาใกล้ แล้วแนบหน้าผากของตัวเองลงบนหน้าผากมนของอีกคน “ให้ผมดูหน่อยสิ เอ มีไข้หรือเปล่านะ

       

      “ไอ้บ้าชานยอล!” เสียงแหวของอี้ฝานดังก้องขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือที่ยื่นมาผลักหน้าของอีกฝ่ายให้ออกไปไกลๆ ชานยอลหัวเราะร่วน คุณหนูของเขาถอยหลังหนีลงไปนั่งพิงเบาะรถยนต์เพื่อหนีจากระยะอันตรายเสียแล้ว “ฉันฉันจะบอกพ่อ! ฉันจะบอกว่านายทำรุ่มร่ามกับฉัน!

       

      ชานยอลยิ้มกับคำขู่ที่ไม่ได้น่ากลัวสักนิด

       

      “แล้วท่านจะทำอะไรผมงั้นหรือครับคุณหนูอี้ฝาน” พูดพลางก็ทอดสายตามองหน้าแดงๆ ของคู่สนทนาผ่านทางกระจกมองหลังของรถยนต์คันหรู “คุณหนูกลัวจะหวั่นไหวก็บอกมาเถอะ”

       

      ฝ่ามืออรหันต์จากคนถูกแซวฟาดลงบนแขนของเขาแรงๆ อีกครั้ง หากชานยอลยังคงหัวเราะ

       

      “หุบปาก! ออกรถไปเลยไป”

                 
                   "แหม... คุณหนูล่ะก้อ..."

                 
                   "ชานยอล!"


       

      “รับบัญชาครับคุณหนู” หันมาทำท่าตะเบ๊ะใส่หนึ่งที ก่อนจะถูกอี้ฝานเอานิ้วจิ้มหน้าผากเพื่อดันหน้ากลับไปด้วยความหมั่นไส้เข้าให้ ชานยอลยกยิ้มเล็กน้อย มือใหญ่เอื้อมไปปรับกระจกมองหลังของรถยนต์ให้เข้าตำแหน่งที่พอเหมาะก่อนจะเริ่มต้นออกรถเพื่อเดินทางไปตามตารางเวลานัดหมาย

      .

      .

      .


                บางทีงานนี้มันอาจจะไม่แย่อย่างที่เคยคิดก็ได้นะ




      .END.   08/11/2014  4.44 PM
      1st Rewrite 08/11/2014 6.37 PM

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×