คืนแห่งความทรงจำในวันอาสาฬหบูชา
ณ ดินแดนที่เงียบสงัด และอุดมสมบูรณ์ มีสิ่งมีชีวิตมากมายที่น่าศึกษาเรียนรู้ เราจะไปดูเจ้าหิ่งห้อยน้อยกันในคืนที่เราไม่อยากลืม...^_^
ผู้เข้าชมรวม
156
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
หิ่งห้อยน้อย เจ้ารอคอยใครเล่าในความมืด
แสงประกายวิบวับนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้า ฉันอยากบินไปหาใครบางคนที่นั้น จะไม่หวั่นต่อสิ่งใด จะฝ่าฟัน ความมุ่งมั่นของฉันจะพาไปสู่แม่ที่จากไป
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คราเมื่อได้ดมดอมกลิ่นหอมหวาน พฤกษาพาเบ่งบานยามเดือนห้า
อันส้มโอนั้นชื่อเจ้าเร้าอุรา ให้ใฝ่หากลิ่นล้ำชู้ผู้จรไกล
การมีชีวิตในแต่ละวันของเรานั้นช่างน้อยนิดเหลือเกิน การอยู่ด้วยกันเพียงชั่วค่ำคืนเดียวเป็นเวลาที่อบอุ่น มันเป็นเวลาที่พวกเราใฝ่หา ถึงเวลาเราก็จะจากกันในวันนั้น
ณ ป่าริมน้ำแห่งหนึ่ง
“แม่จ๋าวันนี้เราจะไปที่ไหนกันเหรอจ้ะ”
“วันนี้แม่จะพาเจ้าไปหาหยาดน้ำค้างที่ยอดเขาตรงโน้น จ้ะ”
“ว้าวๆ น่าสนุกจังคะ วันนี้หนูจะได้ไปเที่ยวกินน้ำค้างที่อื่นแล้ว”
“หิ่งห้อยอย่างพวกเราต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังนะ เจ้าจงบินตามแม่มาลัดเลาะตามใบไม้ ในเวลากลางคืนที่มืดมิดเช่นนี้ เรามีทั้งมิตร และผู้บุกรุกนะ”
“โอ้ โห ที่ยอดเขา ช่างสวยงามจัง มีเพื่อนเรากระพริบแสงอยู่เต็มทุ่งหญ้าเลย”
“ใช่จะ พวกเราจะท่องเที่ยวไป เพื่อการอยู่รอดของพวกเรา พวกหนุ่มๆก็จะตามหาหิ่งห้อยสาว พวกเขาจะดูแสงที่แวววับส่องแสงของสาวน้อย ว่าพวกเธอพร้อมหรือยัง และพวกเธอก็จะดูหิ่งห้อยหนุ่มที่ส่องแสงขาวนวล ชวนให้น่าชมที่สุด พวกเขาก็จะบินไปด้วยกัน”
“แล้วทำไมพวกเราไม่มาอยู่ที่ภูเขาแห่งนี้ละ”
“ที่ริมห้วยนั้นเป็นที่เกิดของพวกเรา เป็นที่ๆพวกเราปลอดภัยที่สุดจ้ะ”
“อีกไม่นานก็จะถึงวันที่พระจันทร์เต็มดวงแล้ว และลูกก็จะโตเป็นสาว ลูกคงเรียนรู้การมีชีวิตมาพอสมควรแล้ว และจะต้องผเชิญกับสิ่งต่างๆ”
“แม่จ๋า วั้นที่พระจันทร์ส่องแสงแรงที่สุด มันสำคัญยังไงหรือคะ ทำไมเห็นพวกมนุษย์เขาตกแต่งสถานที่สวยงามไว้ละ”
“วันนั้นเป็นวันเพ็ญที่พระจันทร์เต็มดวงทอประกาย คืนที่จะถึงนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาจ้ะ”
“เป็นอย่างไรหรือคะแม่ พวกเราจะไปดูได้ไหม”
“อาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนอาสาฬหะหรือเดือน ๘ เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง ที่ชาวพุทธเรียว่า วันอาสาฬหบูชา
เหตุที่ถือว่าวันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ๓ อย่าง คือ
๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรก ชื่อว่าธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ซึ่งเรียกว่าปฐมเทศนา
๒. เป็นวันที่พระสงฆ์เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก คือพระอัญญาโกณฑัญญะได้ฟังธรรมแล้วเกิดดวงตาเห็นธรรมและขอบวชในพระพุทธศาสนา
๓. เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์เป็นครั้งแรกหลังจากพระอัญญาโกณฑัญญะได้บวชแล้ว คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบสาม รัตนะ”
“ถึงเวลาที่เราจะกลับแล้วลูกตามแม่มา เดี๋ยววันนั้นแม่จะพาเจ้าไปดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต”
เวลาผ่านไปพร้อมกับอายุของเรา ปัจจุบันคืออดีต อนาคตคือสิ่งที่เราไม่รู้ ผู้ที่ยังอยู่จึงแสวงหาสิ่งที่ใจตนครวญหา แม้นว่ามันจะอยู่ไกลเกินคว้า ที่มีค่าคือความหวังเป็นพลังใจ
“วันนี้พระจันทร์สวยงามจังคะแม่ ทอแสงประกายเต็มดวงเลย มีดาวดวงเล็กดวงน้อยเป็นประกายระยิบระยับเต็มท้องฟ้าด้วย”
“ถึงแล้วสินะวันที่ผู้ไร้ซึ่งทุกข์ เห็นภัยในวัฏสงสาร ทำกิเลสวะให้สุญสิ้นไป ท่านทรงแสดงธรรมมีกถาครั้งแรกในวันนี้เองหนอ”
“มีด้วยเหรอคะ บุคคลที่ไร้ความทุกข์นะ หนูอยากทำได้เหมือนท่านจังคะ”
“มีสิจ้ะ ก็วันนี้ไงที่ท่านทรงชี้ทางให้ผู้ที่อยากพ้นทุกข์ได้รู้แจ้ง แม่จะพาเจ้าไปลำลึกถึงท่าน ท่านได้เข้าสู่นิพพานแล้ว บินตามแม่มา”
“นะ..หนูไม่เคยเห็นอะไรสวยงามขนาดนี้เลย ผู้คนต่างแต่งตัวสวยงามเรียบร้อย ภายในบริเวณวัดนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้ และประทีป เจิดจรัสสวยงาม ”
“ตอนนี้ผู้คนจะทำการไหว้พระ กล่าวประวัติของเหตุการณ์ในวันอาสาฬหบูชา พวกเขาจะจุดเทียน ถือดอกบัวหรือ ดอกไม้ต่างๆ เดินวนซ้ายรอบพระอุโบสถ สามรอบเพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ไร้กิเลสตัณหา นำพาเหล่าบริษัททั้งสี่ ข้ามโอฆะทำตนให้รู้แจ้งในวัฏสงสาร เหมือนกับบอกทางให้แก่ผู้หลงทาง เดินไปได้ถึงจุดหมายโดยสวัสดี วันนี้แม่จะพาเจ้ามาเวียนเทียนรอบพระอุโบสถระลึกถึงท่าน แต่ตอนนี้รอให้ผู้คนเบาบางลงสักนิดก่อนนะ เพื่อความปลอดภัยของเรา”
“แม่คะตอนนี้มีเพื่อนๆของเราบินมากันเต็มเลยคะ ส่องแสงวิบวับๆไปหมดเลย สงสัยคงจะมาเวียนเทียนด้วยกัน”
“ได้เวลาแล้วตอนนี้ ผู้คนเหลือน้อย ตั้งใจนะลูกจงระลึกถึงท่านกัน บินตามแม่มา”
“แม่ครับดูนั่นสิ! ฝูงหิ่งห้อยจำนวนมากต่างพากันบินวนรอบพระอุโบสถ ดูเหมือนกับพวกเราจุดเทียนเลย เดี๋ยวผมจะจับมันมาเล่นสักตัวนะครับ”
“อย่าลูกหิ่งห้อยเขาคงอาจอยากจะเวียนเทียนเหมือนกับเราก็ได้นะ ใครละที่อยากจะถูกกักขังและเป็นของเล่นของคนอื่นในเวลาที่เหงา”
“ครับแม่ สวยงามมากเลยแสงกระพริบของหิ่งห้อยนับร้อยบินวนไม่ขาดสาย”
“ครบสามรอบแล้วลูก จากนี้ไปเจ้าระวังตัวด้วยนะจงหาคู่ที่มีความจริงใจ และรักเราจริงถึงเวลาเที่ยงคืนนี้แม่จะต้องจากเจ้าไปแล้วนะ แม่มีความสุขมากที่ได้อยู่กับเจ้าในวันและเวลาที่อบอุ่นเช่นนี้ เจ้าจงรับรู้ว่าแม่จะอยู่กับเจ้าเสมอ ไม่มีสัตว์โลกผู้ใดจะเอาชนะมฤตยูคือความตายนี้ได้ ความพลัดพรากจากของรัก ที่น่าปรารถนาย่อมมี เราจะหนีไม่พ้น มันเป็นสัจธรรมนะลูก”
“แม่จ๋าหนูอยากอยู่กับแม่ ไม่อยากให้แม่ไปไหนเลย แล้วหนูจะอยู่กับใครถ้าแม่ไปแล้ว”
“เมื่อเจ้าคิดถึงแม่ ต่อไปเจ้าจงแหงนมองดูดวงดาวระยิบระยับที่อยู่บนท้องฟ้านั่นเถิด แม่จะมองดูเจ้าตลอดเวลา มันจะเป็นตัวแทนของแม่”
“หนูไม่มีอะไรจะพูดไปกว่าคำว่ารักแม่ที่สุดแล้วคะ”
“ชีวิตนี้มันก็เหมือนกับกระแสคลื่นที่โถมกระทบฝั่ง เราจะเป็นนักเดินเรือที่ช่ำชอง หรือเป็นผู้ดูคลื่นลมกระทบฝั่ง เราจงเป็นแค่คนที่เฝ้ามองดูมันเท่านั้น ความทุกข์ความสุข และอื่นๆ เป็นสิ่งประกอบของโลกเราจงยอมรับมัน เข้าใจมันแล้วเราก็จะมีความสุขได้นะลูก”
“แม่ครับ หิ่งห้อยบินกลับเข้าป่าไปหมดแล้ว แต่ทำไมหิ่งห้อยบางตัวถึงตกลงพื้นไม่บินไปต่อ ครับ แล้วมันก็บินกันไปเป็นคู่ๆด้วย”
“อ่อ มันสิ้นอายุแล้วนะตัวที่มีอายุมากก็จะจากไป ส่วนตัวที่เป็นหนุ่มสาวจะหาคู่และบินไปด้วยกัน”
“หิ่งห้อยน้อยเขายังรู้จัก ความดีคืออะไร รู้จักความรักความอบอุ่น เราเป็นคนแท้อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นะลูก เราสามารถที่จะทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นได้มากกว่า จงตั้งใจทำความดี มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายผู้ที่ต้องการสุข ชังความทุกข์เหมือนกัน จงทำสิ่งที่อยากทำในตอนนี้ จงพอใจใสสิ่งที่ตนเองมี เพราะสุดท้ายนั้นเราก็จะจากไปเหมือนกับหิ่งห้อยน้อยเหมือนกัน”
ผลงานอื่นๆ ของ ลิ้นปี่ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ลิ้นปี่
ความคิดเห็น