ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่หมอ มศว เล่าเรื่อง (Ultimate Version)

    ลำดับตอนที่ #20 : บันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "บาปหรือบุญ...นั้นอยู่ที่ใจ" (อัพแล้ว 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 52


    เรื่องโดย ~หมูสนาม~  นิสิตแพทย์ มศว MD20
    เขียน 20 กุมภาพันธ์ 2552

               เรื่องนี้...เป็นเรื่องราวของสำนักง้อไบ้ต่อจากตอนที่แล้ว บ่ายแก่ๆวันหนึ่งหลังจากที่เหล่าศิษย์สำนักง้อไบ้ได้ผลัดกันถ่ายทอดวิชาที่ได้รับมอบหมายให้ไปฝึกกันจนเหน็ดเหนื่อยกันทุกคนแล้ว ทุกคนได้แสดงสีหน้าเป็นนัยๆว่า 

               "ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมากเลย"

               เจ้าสำนักง้อไบ้แม่ชีมิกจ้อหรือว่าที่EXTERNนิดหน่อยจู่ๆก็ลงขึ้นยืนขึ้นมากลางวงที่ทุกคนกำลังนั่งฝึกวิชากัน(วงอ่านหนังสือ) ในตอนแรกทุกคนนึกว่าจะโดนกระบี่อิงฟ้าเชือดคอ โทษฐานผิดกฎเหล็กสำนักโดยการอู้ซะแล้ว แต่กลับผิดคาดที่มิกจ้อกลับพูดขึ้นมาว่า

               "วันนี้ทุกคนเหนื่อยกันมากแล้ว บ่ายนี้เราพักกันแล้วกัน"

               "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนสำคัญที่สุด แต่นอกจากเราจะต้องพึ่งตนเองแล้ว เราก็ควรมีที่เพึ่งทางใจด้วย ฉะนั้นบ่ายนี้เราไปวัดกันเถอะ ได้ข่าวว่ามีวัดดีๆอยู่แถวคลอง 15 ใกล้ๆมหาลัยนี่เอง ปีนี้ยิ่งชงอยู่ พวกเราไปทำบุญกันเถอะ" ว่าแล้วมิกจ้อก็อาสาขับรถพาทุกคนไปที่วัดเอง

               ลึกเข้าไปในตลาดต้นไม้บริเวณคลอง 15 ถนนรังสิต-องครักษ์ ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก เป็นที่ตั้งของวัดประสิทธิเวช วัดเก่าแก่อายุร่วม 300 ปี วัดประสิทธิเวชได้รับการยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่นจากกรมศาสนาในปี 2536 และ 2537 รวมทั้งได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานการศึกษาตามมติมหาเถรสมาคม

               เมื่อไปถึงก็พบว่าวัดนี้เป็นวัดที่บรรยากาศร่มรื่นมาก ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ อากาศที่ปราศจากควันจากท่อไอเสียและมลพิษ สูดเข้าไปช่างสดชื่นนัก ช่างเป็นสถานที่เหมาะแก่การปลดปล่อยอารมณ์เครียดที่สุดในแถบย่านชานเมืองนี้ ทุกคนเริ่มจากไหว้พระ ทำบุญ ขอให้สิ่งไม่ดีในปีนี้จงไป สิ่งดีๆจงมา ที่สำคัญขอให้สอบผ่านทุกคนด้วย ขณะที่จะเดินกลับก็พบว่าวัดนี้อยู่ติดกับแม่น้ำด้วย และมีชาวบ้านเอาปลามาขายสำหรับผู้สนใจทำทานปล่อยปลา ปลาพวกนี้ไม่ใช่ปลาที่ชาวบ้านจับมาเพื่อมาขาย แต่เป็นลูกปลาที่เพาะขึ้นมาสำหรับให้คนมาทำบุญโดยเฉพาะ จึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าปลาที่ปล่อยไปจะถูกจับมาขายอีก

              

             คณะเดินทางจากสำนักง้อไบ้จึกตัดสินใจหยุดทำบุญปล่อยปลากันทุกคน โดยเน้นหลักกระจายรายได้สู่ชุมชน เนื่องจากมีร้านที่ชาวบ้านตั้งขายอยู่หลายร้านมาก ทุกคนจึงแยกย้ายกระจายตัว เข้าซื้อร้านละคนสองคนจนครบทุกร้าน

             ว่าที่EXTERNแบงค์ได้ซื้อปลามาปล่อยทั้งหมด 36 ตัว จำนวนตามที่หมอดูแนะนำให้มาปล่อย ขณะที่กำลังจะเดินไปศาลากลางน้ำอันที่ใกล้ที่สุด คุณป้าคนขายก็พูดขึ้นว่า

             "คุณหมอค่ะ ป้าว่าหมอไปปล่อยศาลาที่สองดีกว่านะ ศาลาแรกไว้ปล่อยปลาเสร็จถ้าอยากให้อาหารปลา ค่อยมาให้อาหารปลาตรงนี้" 

              "???" ว่าที่EXTERNแบงค์งงเล็กน้อยว่าทำไมปล่อยศาลาแรกไม่ได้ล่ะ ไหนๆก็จะซื้อขนมปังมาให้อาหารปลาอยู่แล้ว แต่ว่าที่EXTERNแบงค์ก็สาวความต่อและเดินไปศาลาสองตามที่คุณป้าว่าไว้

              ตูม ซ่าๆๆ เสียงของเหล่าปลาตัวน้อยในถังตกลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ว่าที่EXTERNแบงค์รู้สึกอิ่มบุญอิ่มใจเป็นอันมาก

              "เดี๋ยวก่อน!! แบงค์อย่าเพึ่งไป รอเราด้วย ขอเราปล่อยปลาตรงนี้ด้วยนะ" เสียงอันคุ้นเคยของมิกจ้อเจ้าสำนักง้อไบ้ดังมาแต่ไกล ต้องรอสักพักว่าที่EXTERNแบงค์ถึงได้เห็นเจ้าของต้นเสียงเดินมาถึง พร้อมกับหอบถังน้ำพะรุงพะรังสองถังใหญ่

              "นิดหน่อยนี่เธอหอบปลามากี่ตัวเนี้ย เหมาเขามาหมดเลยเหรอ"

              "เปล่าๆ เราเอามา 36 ตัวเท่าเธอล่ะ แต่อีกถังเราอยากปล่อยแถมอ่ะ "

              ว่าที่EXTERNแบงค์จึงก้มลงไปดูในถังด้วยความสงสัยก็พบว่าในถังนั้นมีกบตัวใหญ่ๆ 2 ตัว นอนอยู่

              "เห็นเขาขังมันไว้น่าสงสารมากเลยล่ะ...ทำไมทำหน้าอย่างนั้น เราอยากปล่อยกบด้วยไม่ได้เหรอ" มิกจ้อเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าว่าที่EXTERNแบงค์ไม่มีคำพูดสนับสนุน

              "ปะปล่อยได้เลย ปล่อยกบก็ทำบุญเหมือนกัน"

              "หึ ดีแล้วเราก็ว่างั้นปล่อยให้ครบชุดไปเลยทีเดียวทั้งกบทั้งปลา^_^" ว่าดังนั้นมิกจ้อก็เริ่มตั้งสมาธิพร้อมกับสวดคำกล่าวปล่อยปลา

            

    คำกล่าว ปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา


    พุทธะบูชา, มหาเตชะวันโต

    ข้าพเจ้า, บูชาพระพุทธเจ้า, ขอให้มีเดช, มีอำนาจ, มีวาสนา

    ธรรมะบูชา, มหาปัญโญ

    ข้าพเจ้า, บูชาพระธรรม, ขอให้มีปัญญา

    สังฆะบูชา, มหาโภคะ, วะโห

    ข้าพเจ้า,บูชาพระสงฆ์, ขอให้มีโภคทรัพย์สมบัติ

    อิมินา สักกาเรนะ, พุทธัง, ธัมมัง, สังฆัง ,ปูเชมิ


    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมถึง, พระพุทธเจ้า, พระธรรมเจ้า ,พระสงฆเจ้า

    อีกทั้งคุณมารดา บิดา, คุณครูอุปฌาย์อาจารย์, คุณทานบารมี, ศีลบารมี ,เนกขัมมะบารมี, ปัญญาบารมี,วิริยะบารมี, ขันติบารมี, สัจจะบารมี,อธิษฐานบารมี, เมตตาบารมี, อุเบกขาบารมี, ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา,ตั้งแต่ร้อยชาติ พันชาติ หมื่นชาติ แสนชาติ ก็ดี, ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา, ในปัจจุบันนี้, ตั้งแต่เล็กแต่น้อย, จะระลึกได้ก็ดี, มิระลึกได้ก็ดี,

    ขอบุญบารมีทั้งหลายเหล่านั้น, จงมาช่วยประคับประคองข้าพเจ้า, ให้สิ้นสรรพทุกข์, ใ ห้สิ้นสรรพโศก,ให้สิ้นสรรพโรค, ให้สิ้นสรรพภัย, ศัตรูใดๆ อย่ามาพ้องพาน,

    สัพเพสัตตา, อะเวรา, อัพยาปัชฌา, สุขีอัตตานัง, ปะริหะรันตุ,


    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง,จงเป็นผู้ไม่มีเวร,จงเป็นผู้ไม่มีภัย, ขอให้พ้นทุกข์พ้นภัย,

    ปลาทั้งหลายเหล่านี้, ถ้าข้าพเจ้าไม่ช่วยชีวิตไว้, ก็จะถึงซึ่งความตาย, ในวันนี้ หรือพรุ่งนี้,

    ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าช่วยให้,สัตว์พ้นจากความตาย, สัตว์พ้นจากที่คุมขัง, ขอบุญบารมีทั้งหลายเหล่านั้น, จงมาช่วยประคับประคองข้าพเจ้า, ให้สิ้นสรรพทุกข์, ให้สิ้นสรรพโศก, ให้สิ้นสรรพโรค, ให้สิ้นสรรพภัย, ศัตรูใดๆอย่ามาพ้องพาน,ให้ได้บรรลุ มรรคผลนิพพาน, ในกาลปัจจุบันนี้เทอญ, นิพพานะปัจจะโย โหตุ


                   และแล้วกบตัวน้อยก็ถูกปล่อยจากที่คุมขัง กบน้อยค่อยๆว่ายออกไปสู่ธรรมชาติ พร้อมๆกับความรู้สึกอิ่มเอิบในบุญกุศลของมิกจ้อเจ้าสำนักง้อไบ้ ที่ตอนนี้กำลังเอ่อท่วมท้นเหมือนรินน้ำเต็มแก้ว

                  "ดูสิแบงค์ เจ้ากบตัวน้อย มันกำลังว่ายออกไปแล้ว ดูสิท่าว่ายมันตลกมากเลย"

                  ตูม!! ซ่าๆ ผืนน้ำที่เงียบสงบแตกกระเซ็นพร้อมกับมีบางอย่างพุ่งขึ้นมาจากใต้ผิวน้ำ พร้อมกับกลืนกินเจ้ากบตัวน้อยหายไปต่อหน้าต่อตา

                  "..." มิกจ้อถึงกับพูดอะไรไม่ออก

                  

                    ตอนนี้มิกจ้อซึมไปเลยอย่างเห็นได้ชัด ว่าที่EXTERNแบงค์ก็ไม่รู้ว่าจะหาคำพูดอะไรดีๆมาปลอบ นอกจากเดินไปคืนถังใส่ปลาให้แม่ค้าเป็นเพื่อน เมื่อคืนถังเสร็จแม่ค้าก็ขึ้นพูดว่า

                    "หมอเป็นไรไปเหรอทำไมปล่อยปลาแล้วเศร้าไปเลยล่ะค่ะ" ว่าที่EXTERNแบงค์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟัง


                    "หมออย่าคิดมากนะค่ะ จะบาปหรือบุญ....มันอยู่ที่ใจ หากเราคิดดีทำดี สิ่งที่เราทำนั้นก็จะเกิดบุญกุศลแก่ตัวเรา หมอคิดซะว่าเป็นเวรกรรมของกบตัวนั้นแล้วกัน" 

                    หลังจากได้ฟังคำพูดของคุณป้าก็ทำให้มิกจ้อเจ้าสำนักง้อไบ้มีกำลังใจกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

                    "รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย แบงค์เราชวนเพื่อนๆไปให้อาหารปลาตรงศาลาแรกกันดีกว่า" 

                    "โอเคได้สิ หายกลุ้มใจก็ดีแล้วล่ะ"

                    เมื่อถึงศาลาริมน้ำศาลาแรกทุกคนก็ได้ซื้อขนมปังเพื่อให้อาหารปลา คราวนี้มิกจ้อเป็นคนนำทีมให้อาหารปลาก่อนเป็นคนแรก

                    ตูม!!! ตูม!!! เสียงนำกระเซ็นพร้อมกับฝูงปลาตัวยักษ์กระโจนมารุมทึ้งเศษขนมปังที่มิกจ้อเพึ่งหย่อนลงไป เหมือนแร้งลง โอ้พระเจ้า....ปลาพวกนี้หน้าตาเหมือนปลาที่กินเจ้ากบน้อยเข้าไปเลย แถมไม่ได้มีแค่ตัวเดียวซะด้วย

                    


                    "..."  ดูเหมือนว่ามิกจ้อเจ้าสำนักง้อไบ้ของเราจะช๊อคไปอีกรอบซะแล้ว คราวนี้ดูท่าทางจะต้องใช้เวลาเรียกสติกลับมานานกว่าเดิม แต่อย่างน้อยว่าที่EXTERNแบงค์ก็ได้คลายข้อสงสัยของคำถามที่ว่าทำไมต้องไปปล่อยปลาที่ศาลาสองด้วย ในเมื่อศาลาแรกก็ใกล้กว่ากันเยอะ ก็คือถ้ามาปล่อยปลาที่ศาลาแรกก็เหมือนหย่อนเนื้อเข้าปากเสือนี่เอง นี่มันรังของเจ้าปลายักษ์เลยนี่หน่าาาา



             THE END

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×