ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่หมอ มศว เล่าเรื่อง (Ultimate Version)

    ลำดับตอนที่ #19 : บันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "ศึกการประลองเจ้ายุทธจักรประจำปี" (อัพแล้ว 100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.3K
      4
      27 พ.ค. 52

    เรื่องโดย ~หมูสนาม~  นิสิตแพทย์ มศว MD20
    เขียน 19 กุมภาพันธ์ 2552


                อีกไม่กี่วัน...ก็จะถึงเวลาที่นิสิตแพทย์แบงค์บอกลาคำว่านิสิตแพทย์และเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็น EXTERNแบงค์แทน ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับโค้งสุดท้ายของการเตรียมตัวสอบประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมขั้นตอนที่ 2 ด้วย คือหลังจากสอบข้อสอบนี้เสร็จปุ๊ปในวันที่ 15 มีนาคม 2552 ที่จะถึงนี้ เมื่อเวลาผ่านไปเพียงช่วงเวลาแค่ข้ามคืน คือวันรุ่งขึ้นวันที่ 16 มีนาคม 2552 นิสิตแพทย์แบงค์ก็จะเปลี่ยนสถานะเป็น EXTERN และเริ่มปฏิบัติงานในฐานะแพทย์ฝึกหัดทันที

                ซึ่งการสอบประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นการสอบที่สำคัญมากดังที่เขียนไว้ในตอนที่แปด คือ เป็นการสอบที่ทางแพทยสภาจัดขึ้นเพื่อประเมินความรู้และรับรองความสามารถของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตร แพทยศาสตร์บัณฑิต ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่าใครก็ตามที่เรียนแพทย์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ มศว, แพทย์จุฬา , แพทย์ศิริราช, แพทย์รามา ก็ต้องสอบข้อสอบนี้ร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ฉะนั้นใครที่อยากเรียนแพทย์ก็ควรรู้ข้อมูลนี้ด้วย)

                 การสอบนี้จะแบ่งการสอบออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่
                 
                 ขั้นตอนที่ 1 จะเป็นการสอบประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน(Basic Medical Sciences) ซึ่งเป็นความรู้ในระดับชั้น Pre-clinic คือ ปี 1-2-3 ทั้งหมด

                 ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการสอบประเมินความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์คลีนิก(Clinical Sciences)  ซึ่งเป็นความรู้ในระดับชั้น clinic ปี 4-5-6 แบ่งการสอบนี้อีกเป็นสองช่วง ช่วงแรกคือตอนจะขึ้น EXTERN จะเป็นข้อสอบ MCQ อีกช่วงคือตอนใกล้เรียนจบ เป็นข้อสอบ MEQ , Long case, OSCE (ใครไม่รู้จักไปดูได้ในตอนที่ 18) โดยสาระของการสอบจะอิงตามเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทยสภาฉบับปี พ.ศ. 2545

                  ความสำคัญของการสอบก็คือ หากสอบผ่านครบทุกขั้นตอนก็จะได้รับใบรับรองประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภามา ซึ่งใบรับรองนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากหากแพทย์คนใดไม่มีใบรับรองนี้ก็จะไม่สามารถไปประกอบกิจการ หรือรักษาคนไข้ได้แม้จะเรียนจบแพทยศาสตร์บัณฑิตมาแล้วมาแล้ว

                 ....และแล้วในที่สุดก็ต้องถึงคราวของว่าที่EXTERNแบงค์ ที่ต้องสอบในส่วนของขั้นตอนที่ 2....

                ขณะนี้ที่หอพักได้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย ห้องอ่านหนังสือรวมที่ปกติไม่ค่อยมีใครใช้ บัดนี้โต๊ะที่นั่งต่างถูกจับจองจนไม่มีที่ว่าง สมาชิกของแก๊งค์เตะบอล แก๊งค์ตีเทนนิสและแก๊งค์วิ่ง joggingตอนเย็น ก็ค่อยๆหายหน้าหายตากันไปทีละคนสองคน ซึ่งหากเปรียบโลกนี้เป็น "ยุทธภพ"  การสอบประเมินความรู้ความสามารถทางเวชกรรมก็คงเป็น "ศึกการประลองเจ้ายุทธจักรประจำปี" และก็บอกได้เลยว่าเหตุที่เพื่อนๆหลายคนหายตัวไปนั้น ก็เพราะไป"ซุ้มฝึกวิชา"กันนั้นเอง(อ่านหนังสือสอบ)

                ต่างคนก็ต่างมีวิธีในการฝึกวิชาเป็นของตนเอง จะขอยกตัวอย่างให้ฟังเพียงเล็กน้อย บางคนใช้วิธีนิ่งสยบความเคลื่อนไหวค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆอย่างใจเย็น พอเหนื่อยหรือง่วงเมื่อไหร่ก็พัก บางคนก็ใช้วิธีเร่งอ่าน เน้นปริมาณจำนวนหน้าที่อ่านได้ต่อวันแบบว่าวันไหนอ่านเยอะวันนั้นยิ่งสุขใจ(เหอๆน่าจะเน้นคุณภาพในการอ่านมากกว่าปริมาณที่อ่านได้นะ) บางคนอ่านชนิดหามรุ่งหามค่ำนอนกันตีสองตีสาม บางคนใช้ยาโด๊บเข้าช่วย เช่น กระทิงแดง ลิโพ ก็มี หรือบางคนที่ไม่เน้นฝึกวิชาด้วยตนเองก็ใช้วิธีรวมกลุ่มกันจัดตั้งสำนักขึ้นมา ซึ่งว่าที่EXTERNแบงค์ก็เป็นหนึ่งในนั้น

                ที่หอพักแพทย์ มศว นี้มีสำนักเกิดขึ้นมากมายแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงแค่สำนักเล็กสำนักน้อยเท่านั้น สำนักใหญ่ๆที่ก่อตั้งสำเร็จมีเพียง 2 สำนัก หนึ่งในนั้นก็คือ "สำนักบู้ตึ้ง" 

                ที่เรียกว่าสำนักบู้ตึ้งก็...เพราะว่าสมาชิกในสำนักนี้เป็นผู้ชายทั้งหมด โดยประกอบไปด้วย เจ็ดคุณชายบู้ตึ้ง โดยมีแกนนำผู้จัดตั้งสำนักอยู่สามคนคือ คุณชายหนึ่ง(ว่าที่EXTERNภัทร) คุณชายสาม(ว่าที่EXTERNฟารุค) และคุณชายห้า(ว่าที่EXTERNโส) ซึ่งก็เขาเหล่านั้นเป็นเพื่อนสนิทของว่าที่EXTERNแบงค์นั้นเอง สำนักบู้ตึ้งนั้นไม่มีเจ้าสำนักมีเพียงรักษาการเจ้าสำนักคือสามคุณชายดังกล่าว โดยจากการสอบถามจึงได้ทราบว่า เจ้าสำนักบู้ตึ้งนั้นจะคัดเลือกกันภายหลังจากเจ็ดคุณชายบู้ตึ้งโดยหนึ่งในเจ็ดคุณชายผู้ใดที่ได้รับคะแนนสูงสุดในการสอบของศึกการประลองยุทธจักรประจำปีก็จะได้รั้งตำแหน่งเจ้าสำนักไป...

                ว่าที่EXTERNแบงค์ก็เคยถูกสามคุณชายบู้ตึ้งทาบทามให้มาเข้าสำนัก แต่ว่าที่EXTERNแบงค์ขอBYE ไม่เอาดีกว่า เนื่องจากวิธีการฝึกวิชาของสำนักนี้รุนแรงมาก ใช้วิธียิงพลังใส่กันเอง คุณชายแต่ละคนจะหาคำถามหรือหาโจทย์ยากๆมา จากนั้นก็จะยิงคำถามใส่กันเองหากคุณชายอีกคนที่ถูกถามตอบไม่ได้ก็จะสะใจ ดีใจที่ชนะแล้วค่อยเฉลยคำตอบของคำถามนั้น ซึ่งวิธีนี้อาจดีสำหรับบางคนแต่สำหรับว่าที่EXTERNแบงค์อาจจะไม่work ฉะนั้นก็ขอคารวะให้ในความหวังดีที่มาชวนเข้าสำนัก แต่ทว่ายุทธภพนี้กว้างใหญ่นัก...อาจมีสำนักที่เหมาะสมกับว่าที่EXTERNแบงค์มากกว่าก็เป็นได้...

                หลังจากออกตะลุยยุทธภพด้วยตัวคนเดียวอยู่นาน ในที่สุดว่าที่EXTERNแบงค์ก็ได้ต้นไม้ไว้เพึ่งพิงเสียที ด้วยการฝากตัวเป็นศิษย์ของสำนักใหญ่อีกสำนักหนึ่ง คือ "สำนักง้อไบ้"



               เหตุที่เรียกสำนักนี้ว่าสำนักง้อไบ้นั้น เนื่องจากศิษย์ในสำนักนี้ส่วนใหญ่เป็นหญิง มีเพียงว่าที่EXTERNแบงค์กับเพื่อนอีกสองคนเท่านั้นที่เป็นผู้ชาย สำนักง้อไบ้นี้ถูกก่อตั้งโดยแม่ชีมิกจ้อ ซึ่งปัจจุบันรั้งตำแหน่งเจ้าสำนักอยู่

               แม่ชีมิกจ้อ(ว่าที่EXTERNนิดหน่อย) ที่เธอได้ชื่อนี้ก็เพราะ เธอเป็นคนช่างพูด ช่างเจรจา(จ้อ 55 ล้อเล่น) เธอมีวิชาแกร่งกล้ามาก มีdegree เป็นถึงที่หนึ่งคณะ หลายๆคนถึงกับกลัวเมื่อได้ยินนามนี้เนื่องจากความเก่งกาจของเธอ บางคนคิดว่าเธอเป็นคนบ้าเรียนเห็นแก่ตัว คิดว่าเธอจะใช้ความเก่งและความสนิทกับอาจารย์ในโรงพยาบาลมาเป็นจุดขายเพื่อกดขี่ข่มเหงตนเองที่ด้อยกว่า ว่าที่EXTERNแบงค์คิดว่าสำหรับคนที่มีความคิดเช่นนั้น เป็นคนที่มองผู้อื่นแต่เปลือกนอกเท่านั้น จากการได้สัมผัสกับหญิงคนนี้ด้วยตนเอง ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้ว หญิงคนนี้ไม่มีอะไรต่างจากคนอื่น แถมเป็นคนที่ดีมีน้ำใจมากคนหนึ่งด้วยซ้ำ

      

                มิกจ้อนั้นมักจะมาคู่กับกระบี่คู่กาย"กระบี่อิงฟ้า" และศิษย์เอกอันดับหนึ่งคือ"จิวจี่เยี้ยก"เสมอ(ว่าที่EXTERNเชอรี่)  PS.ใครอยากเห็นหน้าตาที่แท้จริงของว่าที่EXTERNเชอรี่ไปดูได้ในตอนที่ 17

                สำนักง้อไบ้นั้นมีกฎเหล็กอันเข้มงวดที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

                กฎข้อที่ 1 ศิษย์สำนักง้อไบ้ทุกคนต้องตั้งใจฝึกวิชาทุกวัน ห้ามอู้เด็ดขาด

                กฎข้อที่ 2 ศิษย์สำนักง้อไบ้ทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

                กฎข้อที่ 3 ศิษย์สำนักง้อไบ้ทุกคนต้องพยายามไปถึงฝั่งด้วยกัน สอบผ่านศึกการประลองเจ้ายุทธจักรประจำปีด้วยกันทุกคน

                หากใครฝ่าฝืนกฎของสำนักจะถูกลงทัณฑ์โดยกระบี่อิงฟ้าของแม่ชีมิกจ้อทันที วิธีการฝึกวิชาของสำนักนี้ทำได้อย่างดีเยี่ยม วิธีการคือลูกศิษย์แต่ละคนจะได้รับคำภีร์ไปคนละหนึ่งเล่ม และได้รับมอบหมายให้ฝึกวิชาจากคำภีร์ ซึ่งการจะเลือกฝึกวิชาใดนั้นก็อิงตามตามข้อมูลของแพทยสภาว่าวิชาไหนที่จะต้องใช้ในศึกประลองยุทธจักรประจำปีบ้าง โดยทุกคนต้องสำเร็จวิชาที่ได้รับมอบหมายภายในหนึ่งราตรี จากนั้นเมื่อตะวันยามเช้าสาดแสงมา ศิษย์ง้อไบ้ทุกคนต้องมารวมตัวกันที่สำนัก เพื่อแสดงถ่ายทอดวิทยายุทธที่ตนเองฝึกให้กับศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นโดยทั่วกัน โดยทุกคนในสำนักมีสิทธิที่จะซักถามวิชาหรือกระบวนท่าที่ตนสงสัยได้

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                 สิ่งที่พี่อยากบอกน้องๆในตอนนี้ คือ

    1. อย่าด่วนตัดสินใจผู้อื่นจากภายนอก จนกว่าได้ลองสัมผัสคนนั้นด้วยตนเอง

    2. คนเราต้องอยู่ที่ความพอดี อ่านหนังสือเหนื่อยก็ต้องพักบ้าง อย่าหักโหม หักโหมไปที่อ่านได้ก็ไม่เต็มร้อยหรอก

    3. คนเราหากมีปัญหา ลองตามหาเพื่อนที่ดีช่วยคุณได้ (ชวนกันเรียนดีที่สุด อย่าชวนกันทำสิ่งไม่ดีเลยนะ)


               จบแล้วกับบันทึกไม่ลับนักศึกษาแพทย์ ตอน "ศึกการประลองเจ้ายุทธจักรประจำปี" ตอนหน้าเรามาดูกันต่อครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสำนักง้อไบ้และว่าที่ EXTERNแบงค์กันบ้าง Bye bye ครับ ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×