TeachingLoveStory - นิยาย TeachingLoveStory : Dek-D.com - Writer
×

    TeachingLoveStory

    โดย loongnuead

    เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเราสองคนได้มาพบกัน ซึ่งนั้นเหมือนกับว่ามันได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ แหละนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    97

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    97

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ค. 66 / 15:25 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ 

          เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเราสองคนได้มาพบกัน ซึ่งนั้นเหมือนกับว่ามันได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ แหละนะ  

       มายด์ หนุ่มน้อยนักศึกษาครุศาสตร์ฯ ปี 2 ผู้ที่มีความสดใสรื่นเริงเบิกบาน มีรอยยิ้มที่สาวๆเห็นก็ต้องหลงไหล อยู่นิ่งๆก็มีเสน่ห์ แถมเป็นคนจิตใจดีเสียด้วย ซึ่งแตกต่างกับเพื่อนผู้หญิงของเขาที่สนิทกันที่สุด นั่นคืออร สาวห้าวที่นิสัยนี่คนละขั้วเลยก็ว่าได้ แตกต่างกับมายด์อย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งสองคนก็เข้าขากันได้ดีทั้งเวลาเรียนและเวลาทำกิจกรรม 

       นะ หนุ่มน้อยคณะครุศาสตร์ฯ ปี 2 ผู้มีความขรึมเกือบจะตลอดเวลา นิ่งมากๆเสียจนสาวๆไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ก็เป็นขวัญใจของเพื่อนๆ เพราะนะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเพื่อน ๆ ตลอด ๆ 

       เรื่องราวทั้งหมดได้ดำเนินมาเรื่อย ๆ จนพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่รุ่นพี่ ปี 2 ที่ต้องมาจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่  

       “เย็นนี้ประชุมคุยงานเตรียมรับน้องกันเพื่อน ๆ” ตู่นายกสโมสรนักศึกษา บอกกับเพื่อนที่นั่งกินข้าวกันที่โรงอาหารมื้อเที่ยง 

       “แล้วบอกเพื่อน ๆ ภาคอื่นๆหรือยังวะมึง” นะถามตู่เพื่อความมั่นใจ 

       “ยังเลยหวะ ช่วย ๆ กันบอกต่อด้วยนะเฮ้ย เย็นนี้นะ” ตู่บอกเพื่อน ๆ อีกรอบ 

       “นะมึงไปบอกเพื่อนๆภาคอื่นๆด้วยแล้วกัน โดยเฉพาะภาคเกษตรอะ” เพชรบอกเพื่อนอีกเสียง 

       “ว่าแต่ไอ้เพชร ทำไมต้องเป็นกูวะ” นะหันไปถามเพชรด้วยความสงสัย 

       “ก็มึงน่าจะสนิทกับเด็กภาคเกษตรที่สุดละ กูรู้นะมึงว่ามึงสนิท” นะทำหน้าสงสัยกับคำพูดของเพชร แต่เหมือนนะจะรู้นะว่าเพชรพูดถึงใคร แต่นะก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเรื่องนี้มีคนรู้ด้วยเหรอ นะได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจลึก ๆ  

       แล้วการประชุมและการเตรียมงานต่าง ๆ ก็ได้ดำเนินลุล่วงผ่านมาจนถึงวันที่จะต้องรับน้องแล้ว ซึ่งรุ่นพี่ปี 2 ต่างช่วยกันเตรียมงาน อย่างเหน็จเหนื่อยเมื่อยล้า ชนิดที่ว่าไม่มีเวลากลับบ้านไปหาพ่อแม่พี่น้องกันเลยทีเดียว แต่พี่ ๆ ก็เต็มใจทำให้น้อง ๆ มีความสุขในกิจกรรมที่จะจัดขึ้นกันทุกคน 

     

    เช้าวันรับน้องใหม่ 

          เสียงกลองและเสียงเพลงที่รุ่นพี่ขับร้องกันอย่างสนุกสนานเพื่อต้อนรับรุ่นน้อง บางทีรุ่นพี่คงสนุกมากกว่ารุ่นน้องด้วยซ้ำ แน่นอนอยู่แล้ว รุ่นพี่ปี 2 เตรียมงานมาเป็นปี ๆ ก็เพื่อที่จะให้น้อง ๆ ประทับใจในกิจกรรมที่พี่ ๆ เตรียมให้ ในความสนุกนั้นมายด์ก็ได้แต่เฝ้ามองว่าเมื่อไรเด็ก ปี 1 คณะวิทย์จะมา เมื่อไหร่จะวนมาสักที แล้วก็สมใจมายด์หล่ะกลุ่มเด็กคณะวิทย์มาแล้ว มายด์ได้แต่แอบส่งยิ้มไปให้น้องแม็คผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย  

          แต่สายตาที่มายด์แอบมองน้องแม็คในครั้งนี้ไม่รอดพ้นสายตาไอ้อร เพื่อนรักของมายด์ที่เข้าอกเข้าใจกัน อย่างกับเป็นแฟนกันอย่างนั้นแหละ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะอรนั้นเป็นสาวหล่อที่เท่ห์บาดใจสาว ๆ ในคณะพอสมควร 

       “มายด์กูรู้นะมึงแอบมองใคร น้อย ๆ หน่อยเพื่อน” อรเพื่อนสนิทมายด์กระซิบกระซาบพร้อมทั้งสะกิดเบา ๆ เพื่อเรียกสติเพื่อนกลับบมา 

       “เฮ้ย มึงรู้เหรอวะว่ากูแอบมองใคร มึงมั่วแล้วไอ้อร” มายด์ตอบกลับเพื่อนด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก เหมือนกันคนที่พยายามหลีกเลี่ยงอะไรบางอย่าง 

       “น้องแม็ค ปี 1 คณะวิทย์ ใช่ไหมกูไปสืบมาแล้วมึงอย่าปฏิเสธ กูมองตามึงกูก็รู็ละ ถ้ามึงกินน้องเขาได้กูว่ามึงกินน้องเขาไปหละ” อรพูดไปพร้อมกับสะกิดมายด์เบา ๆ 

       “เชี่ย!!!!!! มึงรู้ได้ไงวะ เออกูว่าน้องเขาน่ารักดี มันแปลกตรงไหนมึงมั่วแล้วไอ้อร” มายด์มีอาการเลิกลักอย่างเห็นได้ชัด 

       “แน่ใจเหรอ ๆ ได้เพื่อนเดี่ยวกูจัดให้” อรพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากเบา ๆ  

       “เฮ้ย! มึงจะทำไรไอ้อร มึงอย่าไปแกล้งน้องเขานะเฮ้ย ไม่ต้องทำไรทั้งนั้น”  

       “เออกูไม่ทำอะไรหรอก แหม ยังไม่ทันไรมึงก็ปกป้องน้องเขาแล้ว แล้วยังจะปฏิเสธอีกนะไอ้มายด์” อรเดินจากไปพร้อมกับบ่นพึมพำไปทางกลุ่มสตาฟเชียร์ 

          แล้วไอ้อรก็ไม่รอช้า แอบซุบซิบกับเพื่อน ๆ สตาฟเชียร์ ปล่อยให้มายด์ที่มีทีท่าอาการวิตกกังวลอยู่เบื้องหลัง โดยที่ไม่อาจคาดเดาเลยว่าเพื่อนจะแกล้ง หรือจะทำอะไร เท่าที่รู้จักกับไอ้อรมานาน มายด์ก็พอจะเดาออกแหละว่าคงเป็นเรื่องที่พิลึกพิลั่น หรือเรื่องแผลง ๆ แน่นอนถ้าเป็นความคิดของไอ้อร แล้วก็เป็นอย่างที่มายด์คิด  

       “น้องแม็ค น้องคนไหนชื่อแม็คจากคณะวิทย์ ยกมือขึ้นค่ะ” อรไม่รอช้าดำเนินการตามแผนทันที มายด์ผู้ที่นั่งอยู่ไกล ๆ ก็แอบตกใจและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย 

       “ผมเองครับ” แม็คยกมือขึ้นพร้อมกับขานรับอย่างเคร่งขรึม 

       “รายงานตัวเสียงดังฟังชัดให้เพื่อน ๆ ฟังด้วยค่ะ” อรรีบดำเนินการตามแผนทันที 

       “ผมชื่อนายชีววิทย์ คงสุรีย์ ชื่อเล่นชื่อแม็ค ภาควิชาชีวิทยา สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ครับผม” 

       “ดีมากเสียงดังฟังชัดดีมากค่ะ นั่งลงได้ค่ะ อ้าว ! ทุกคนปรบมือให้เพื่อนด้วยค่ะ” อรพูดพร้อมกับปรบมือไปกับรุ่นน้องด้วย  

       “ดีมาก ๆ พี่มีเรื่องให้น้องทำด้วยเป็นกิจกรรมสนุกๆก่อนที่น้อง ๆ จะได้ไปทำกิจกรรมอื่นมันเป็นกิจกรรมง่าย ๆ ไม่ยากเลยถือซะว่าน้องแม็คคือตัวแทนเพื่อน ๆ ในการทำกิจกรรมนี้นะคะ คือพี่มีดอกกุหลาบดอกหนึ่ง ให้น้องเอาไปให้รุ่นพี่ที่ชื่อมายด์ แล้วตะโกนบอกรักพี่เขาดัง ๆ ให้พี่ได้ยินด้วย ทำได้ไหมค่ะ”   

       แม็คก็ได้แต่ครุ่นคิดในใจเบา ๆ ว่าทำไมรุ่นพี่ต้องแกล้งเขามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่ที่ชื่อมายด์คือใครหว่า แต่ก็ต้องทำสินะ “ครับผม ทำได้ครับ”  

       “เสียงเบาจัง ทำได้ไหมคะ”  

       “ทำได้ครับ”  

         มายด์ได้แต่ตกใจและเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อรทำ เพราะมันเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะผู้ชายจะกล้าบอกรักกับผู้ชายได้อย่างไร มันไม่แปลกเหรอ แล้วแม็คจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ขณะที่มายด์กำลังคิดเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้น ทันใดนั้น มายด์ก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่นอยู่ตรงหน้า 

       “พี่มายด์ครับผมรักพี่ครับ” 

         เหมือนทุกอย่างบนโลกใบนี้มันเงียบสงบไปชั่วขณะ มายด์ไม่ได้ยินเสียงอะไรภายนอกเลย ทั้ง ๆ ที่รุ่นพี่และรุ่นน้องต่างปรบมือกันเสียงดังประสานกับเสียงรัวกลองดังกึกก้อง แต่เหมือนกับมายด์กับแม็ค ต่างก็ตกตะลึงอยู่ในโลกอีกใบ มายด์ค่อย ๆ ได้สติพร้อมกับค่อยยื่นมือไปรับดอกกุหลาบที่รุ่นน้องให้มาพร้อมทั้งยิ้มเบา ๆ  

       “ครับ ๆ ขอบคุณนะครับน้องแม็ค” 

         แล้วทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ รุ่นพี่รุ่นน้องก็ร้องรำทำเพลงกันต่ออย่างสนุกสนาน แล้ววันนั้นก็ผ่านพ้นไปอย่างสนุกสนานจนถึงตอนเย็น 

       “ไอ้อรมึงทำเกินไปป่าววะ ไม่ปรึกษากูเลยนะมึงจะทำอะไร” มายด์ก็ได้บ่นเพื่อนไปตามประสา 

       “อ้าว ! ถ้ากูบอกมึงมันก็ไม่ตื่นเต้นดิวะ” อรพูดไปพลางยิ้มไปพลาง 

       “แต่ตื่นเต้นแบบนี้ไม่ดีมั้งมึง แล้วน้องเขาจะคิดยังไงกับกูวะกูจะมีหน้าไปมองหน้าน้องเขาอีกป่าววะเนี่ย”   

    กิจกรรมต่างๆก็ยังดำเนินไปหมุนเวียนไปจนพบปะน้อง ๆ ทุกคณะในมหาวิทยาลัย ดูเหมือนทุกคนจะสนุกสนานและมีความสุขแต่ใจในมายด์นั้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไป ช่างเป็นเรื่องที่ทำให้เขาตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยหัวใจแถมด้วยความกระวนกระวายใจกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่รู้เลยว่าวันข้างหน้าของเขาทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร 

    วันเวลายังหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มายด์ก็ยังคงหวังจะได้พบเจอน้องแม็ค สิ่งเดียวที่จะได้เจอก็คือชวนเพื่อนตัวแสบไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะวิทย์ซะเลย 

       “อรเที่ยงนี้ไปกินข้าวคณะวิทกันป่ะเพื่อน นะนะ มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย”  

       “ไปทำไมวะโรงอาหารที่คณะอาหารการกินเยอะแยะ กูขี้เกียจไปหว่ะมึง” 

       “อ้าว! มึงนี่แม่งไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่มึงทำลงไปตอนงานรับน้องนี่หว่า ใจร้ายหว่ะ” 

       “เออก็ได้ ๆ เดี่ยวกูไปเป็นเพื่อนนะ กูถามจริงนะไอ้มายด์นี่มึงชอบน้องเขาจริงเหรอวะ” อรถามคำถามเพื่อนไปเพื่อความมั่นใจกับสิ่งที่เพื่อนกำลังเป็นอยู่ 

       “ก็เออดิ มึงก็น่าจะรู้นี่หว่า ว่ากูชอบน้องเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่กูสะดุดตา บนรถไฟอะ” 

       “กูก็คิดว่ามึงพูดเล่นนี่หว่า แล้วไอ้นะเด็กครุวิศวะมึงเอามันไปไว้ไหนแล้ววะ”  

       “เดี่ยวนะไอ้อร มึงบ้าไปแล้วนั่นเพื่อนโว้ย ไม่มีอะไรเพื่อนกันเฉย ๆ” 

       “อ้าวก็ตอนรับน้องปี 1 พวกมึงโดนจับคู่เป็นคู่รักกันไม่ใช่เหรอวะ กูก็นึกว่าพวกมึงสองคนเป็นแฟนกันจริง ๆ นี่กูเผลอคิดไปนะว่ามึงกับไอ้นะเป็นแฟนเป็นคู่จิ้นแบบที่เขาว่ากันอะ” อรพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงกับเรื่องนี้มากทีเดียว 

       “เชี่ย! มึงก็รู้ว่ารุ่นพี่แกล้งเล่นไม่ใช่เหรอวะไอ้อร” 

       “อ้าว! กูก็คิดว่าเป็นเรื่องจริงนี่หว่า เห็นมึงทำงานสโมสรนักศึกษาด้วยกันเข้าขากันดี ใคร ๆ เขาก็คิดแบบนั้นปะวะ”  

       “ไม่มีอะไรทั้งนั้นอะมึง คิดมากไปแล้ว” มายด์รีบพูดตัดบทเพื่อนก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่ 

       “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว พวกกูก็นึกว่าพวกมึงเป็นแฟนกันจริง ๆ นะเนี่ย” 

       “แต่กูก็แอบได้ยินเด็กครุวิศวะเขาก็แซวไอ้นะมันแบบนี้นะเฮ้ย กูว่างานนี้มีกลิ่นแปลก ๆ นะเนี่ย กูว่าต้องมีแน่ ๆ” ก้องเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่ฟังอยู่ก็พูดเสริมทัพขึ้นมาทันที 

       “มึงคิดเยอะไปแล้วไอ้ก้อง ว่าแต่ มึงจะไปกับกูป่าว ไปเหล่สาวคณะวิทย์ด้วยกันป่าว”  

       “ไปๆ กูไปด้วยเขาว่าสาวคณะวิทย์น่ารักทั้งนั้นเลย” 

       “ไอ้ก้องมึงนี่แม่ง พูดถึงสาว ๆ ไม่ได้เลยนะมึง เร็วเชียวนะมึง” อรหันไปพูดกับก้องที่กำลังตื่นเต้นกับการไปเหล่สาวคณะวิทย์ 

       “ไปกันยังเนี่ย ไป ๆ กันได้แล้วเดี่ยวไม่มีโต๊ะนะพวกมึง”  มายด์รีบตัดบทเพื่อนๆทุกคน 

     

    -โรงอาหารคณะวิทย์- 

         นักศึกษามากหน้าหลายตา ต่างก็แวะมาเติมพลังในตอนเที่ยง เป็นเวลาที่คึกคักมากเป็นเวลาที่ทุกต่างต้องแวะมาเติมพลัง แว่นก็คือหนึ่งในนั้นที่ต้องแวะมาเติมพลังแน่นอน เขาทั้งสองจะได้เจอกันไหมนะ มายด์ก็ได้แต่หวังว่าจะได้เจอหน้าแว่นที่นี่เช่นกัน 

       “ไอ้แคล มึงเข้าใจไหมวะ เคมีที่อาจารย์สอนวันนี้ มันไม่ได้เข้าหัวกูเลย” แม็คคุยกับเพื่อนสนิทหลังจากที่เพิ่งเรียนเคมีมาด้วยกัน  

       “เข้าใจดิ มึงไม่ตั้งใจเองป่าววะไอ้เพื่อน มัวแต่คิดเรื่องอะไรของมึงเนี่ย” แคลพูดกับเพื่อนเหมือนเตือนสติไปพร้อม  ๆ  กัน 

       “ไม่ได้คิดอะไรนะเฮ้ย แต่กูไม่เข้าใจจริงๆ กูต้องตั้งใจมากกว่านี้แล้วหว่ะ” แม็คพูดเบาๆกับเพื่อนสนิทที่กำลังมองไปรอบ ๆ โรงอาหาร 

       “แม็ค กูเห็นพี่คณะครุที่เคยแกล้งมึงตอนรับน้องด้วยหว่ะ มากินข้าวที่โรงอาหารคณะเราทั้งแก๊งเลย จัดการแกล้งคืนเลยไหมมึง”  

       “อย่าเลย อย่าไปยุ่งกับพวกพี่เขาเลยหว่ะ เราก็กินข้าวกันปกตินี่แหละมึง พวกเราคงไม่ได้เจอพวกพี่เขาบ่อยๆหรอกน่า เราก็กินข้าวของเราพวกพี่เขาก็กินข้าวของพวกพี่เขาไป แบบนี้ดีแล้ว” แม็คพูดกับเพื่อนด้วยท่าทีที่เรียบเฉย 

       “มึงแน่ใจนะเฮ้ย”  

       “เออ! กูแน่ใจเอาแบบนี้แหละ เราอย่าไปสนใจอะไรพวกพี่เขาเลย มึงอะกินข้าวไปเลยอย่ามัวแต่สนใจอะไรไม่เข้าเรื่องเลยมึงอะ”  

     

        รุ่นพี่และรุ่นน้องต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือเติมพลังในตอนเที่ยงที่แสนจะเหนื่อยล้าจากการเล่าเรียน มายด์รุ่นพี่ที่แอบมีใจมีหรือที่จะไม่คาดหวังที่จะได้เจอกับน้องแม็คที่น่ารักสำหรับมายด์ในตอนนี้ ทันใดนั้น... 

       “เฮ้ย! มายด์มึงดูโน่นดิใครมา นั่นน้องแม็คสุดหล่อของมึงป่าววะ” อรกล่าวทักเพื่อนด้วยความตกใจ  

       “เชี่ยยยย! จริงด้วยๆ ไอ้มายด์มึงไปทักทายน้องเขาหน่อยดิ หลังจากวันนั้นพวกมึงก็ไม่เคยได้คุยกันเลยไม่ใช่เหรอวะ” ก้องรีบนำเสนอแผนการให้เพื่อนไปหวังให้เพื่อนได้คุยกัน 

       “ก็พวกมึงทำเรื่องไว้แสบขนาดนั้นใครจะกล้าคุยวะ เป็นมึง มึงกล้าคุยป่าวหล่ะไอ้ก้อง” 

       “แต่ว่าเรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากความคิดกู เดี่ยวกูรับผิดชอบเองเพื่อน” 

         อรพูดเสร็จก็ลุกจากที่นั่งโดยไม่ปรึกษาใคร แล้วเดินไปที่กลุ่มรุ่นน้อง ที่น้องแม็คนั่งอยู่ด้วย มายด์ก็ได้แต่มองตามเพื่อนไปด้วยความกังวลว่าเพื่อนจะทำอะไรแผลงๆอีกหรือปล่าว  

       “น้องแม็คจ้ะ เพื่อนพี่ฝากโน้ตมาให้น้องอะ เขาอยากจะขอโทษที่แกล้งน้องไปตอนกิจกรรมรับน้อง” 

       “ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ มันเป็นกิจกรรมนี่ครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับฝากบอกพี่เขาด้วย อีกอย่างเรื่องมันผ่านมาแล้วนะครับ ผมไม่ได้ว่าอะไรคัรบ” แม็คตอบรุ่นพี่ไปด้วยท่าทีเรียบเฉย  

       “งั้นน้องแม็ครับโน้ตที่เพื่อนพี่ส่งมาให้น้องด้วยแล้วกันอย่าลืมเปิดอ่านด้วยหละ” อรกำชับรุ่นน้องต่างคณะอย่างใจเย็น  

       “ฝากขอบคุณเพื่อนพี่ด้วยนะครับ”  แม็คตอบพร้อมกับหันไปยิ้มมุมปากให้กับมายด์ที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ 

       “อ้อ! เพื่อนพี่ชื่อมายด์นะจ้ะ” 

       “ครับผม” 

         อรเดินผละจากกลุ่มน้องแม็คด้วยรอยยิ้มอันมีเลศนัย พร้อมกับส่งยิ้มมุมปากไปให้มายด์ ผูกปมสงสัยให้กับกลุ่มเพื่อนของตัวเองรวมทั้งมายด์ที่ดูจะมีสีหน้าตื่นเต้นบวกกับความกังวลใจลึกๆ เมื่อถึงโต๊ะที่ตัวเองนั่ง ยังไม่ทันที่จะหย่อนตูดถึงพื้นเก้าอี้ คำถามต่างๆก็พรั่งพรูมากมายมายจากปากของเพื่อนๆรวมทั้งมายด์ด้วย 

       “ไอ้อรมึงไปทำอะไรมา บอกกูมานะ” มายด์รีบเอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย 

       “เออมึงไปทำอะไรวะ มึงยื่นกระดาษโน้ตอะไรให้น้องเขาวะ” ก้องก็สังสัยไม่แพ้กัน 

       “นั่นสิมึงทำอะไรไม่ปรึกษากูเลยนะ ตลอดเลยนะมึงเนี่ยไอ้อร” มายด์บ่นพึมพำเบาๆ 

       “ไม่มีอะไรหรอก กูแค่เขียนโน้ตขอโทษเขาตอนกิจกรรมรับน้องไง อ้อ!กูลงชื่อท้ายโน้ตเป็นชื่อมึงนะไอ้มายด์” อรพูดไปยิ้มไป ดูภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป  

       “อ้าว ไม่ถามกูอีกแล้วนะมึงอะ” 

       “สุดยอดเลยเพื่อน มึงทำดีๆที่สุดเลย” ก้องพูดเสริมขึ้นมา พร้อมกับยิ้มให้กับสิ่งที่อรได้ทำลงไป 

       “ดีกับผีอะไร น้องเขาจะว่ายังไงทีนี้ เขาจะไม่คิดว่ากูตบหัวแล้วลูบหลังเขาเหรอวะ เออ! แล้วน้องเขาคุยกับมึงว่าไง” มายด์คะยั้นคะยอจะเอาคำตอบจากเพื่อนให้ได้ 

       “นั่นแน่ แคร์ความรู้สึกเขานี่หว่ามึงอะไอ้มายด์ ชอบน้องเขาแล้วหล่ะสิ น้องแม็คของพี่มายด์ ฮิ้วววววววว!” ก้องพูดไปพร้อมกับยิ้มหวานเพื่อแซวเพื่อนตัวเอง 

       “น้องเขาก็พูดดีนะเฮ้ย เขาไม่ได้โกรธอะไรเลย เขาเข้าใจว่าเป็นกิจกรรมรับน้อง กูว่านะน้องเขาน่ารักดีนะเฮ้ยมายด์” อรพูดไปพร้อมกับมองไปบนฟ้าโดยที่ไม่สนจเพื่อนๆที่อยู่ตรงหน้าเลย 

       “เอออันนั้นกูรู้แล้ว น้องเขาน่ารักอยู่แล้วหละ” 

       “มายด์ทำไมมึงหน้าแดงว่ะ เขินปะเนี่ย” ก้องจับสังเกตุสีหน้าเพื่อนที่แดงระเรื่อ 

       “เขินเชี่ยไรของมึง ไอ้ก้องกินข้าวไปๆ เดี่ยวคนอื่นเขาจะได้นั่งกินต่อ” 

        ในขณะที่การพูดคุยกันยังดำเนินไปฝั่งรุ่นน้องก็มีการพูดคุยเหมือนกัน 

       “มึงไม่โกรธพี่เขาจริงๆเหรอไอ้แม็ค”  แคลเอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย 

       “ก็เออดิกูเข้าใจ มันเป็นกิจกรรมรับน้องป่าววะ มึงจะคิดอะไรมาก” แม็คตอบคำถามเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

       “เป็นกูกูโกรธนะ แกล้งกูแบบนี้ อายนะเว้ย” กันย์เพื่อนอีกคนพูดสมทบขึ้นมาทันที 

       “มึงก็คิดมากไปไอ้กันย์ เจ้าตัวเขายังไม่ได้คิดไรเลย อะไรของมึงๆ” เอกรีบเอ่ยตอบแทนแม็ค 

       “พวกมึงอย่าเถียงกัน ไม่มีอะไรทั้งนั้น กูไม่ได้โกรธพวกพี่เขาหรอก กินข้าวกันเถอะพวกมึงเดี่ยวกูว่าจะไปหอสมุดกลางอะ ไปด้วยกันป่าวพวกมึง” แม็ครีบตัดบทสทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที 

       “เออกูไปด้วย ว่าจะไปหาข้อมูลทำรายงานอยู่” เอกตอบรับคนแรก 

       “กูไปด้วย ๆ  แอร์หอสมุดเย็นดีกูชอบ” กันย์ตอบรับตามมาติดๆ 

       “มึงนี่ตลอดเลยนะไอ้กันย์ อย่าให้กูเห็นมึงนอนน้ำลายไหลในหอสมุดอีกนะมึง” แคลบ่นพึมพำกันย์เบา ๆ  

       “กินข้าว ๆ กันได้แล้ว มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ” แม็คบ่นเพื่อน ๆ ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ 

         ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวกันต่อไป แต่แม็คกินข้าวไปแล้วแอบมองไปที่กลุ่มของรุ่นพี่ มายด์เองก็เหมือนกันแอบมองไปที่รุ่นน้องเหมือนกัน เมื่อสายตาทั้งคู่มาประสานกัน ทั้งสองคนกลับหลบตาซึ่งกันและกัน ไม่ยอมมองตากัน โดยที่มายด์ไม่ทันสังเกตว่านะหนุ่มน้อยที่เป็นเพื่อนของมายด์ก็ได้แอบมองแอบสังเกตอยู่ เหมือนนะจะรู้ถึงความในใจของมายด์   

       “อ้าว! มายด์มากินข้าวไกลนะเนี่ย” นะกล่าวทักทายมายด์ที่กำลังกินข้าวอย่างอร่อย 

       “อ้าวนะ มากินข้าวด้วยกันสิ ว่าแต่มาทำไรที่คณะวิทย์” มายด์ตอบกลับนะ 

       “มีธุระนิดหน่อยเพื่อน แต่เสร็จละ ขอนั่งกินข้าวด้วยคนดิ ได้ปล่าว” นะทำตาอ้อนวอนขอนั่งกินข้าวกับเพื่อน ๆ ร่วมคณะ 

       “ได้ดิ ๆ มามานั่งกินด้วยกันนี่แหละ กินหลายๆคนสนุกดี” มายด์รีบชวนนะให้มานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน 

       “ไอ้มายด์ ไหนว่าไม่มีอะไรกันวะพวกมึงนี่แม่งดูสนิทกันเกินกว่าเพื่อนจริง ๆ ด้วย” ก้องแอบกระซิบเบาที่ข้างหูเพื่อน 

       “มึงอะคิดมากไปแล้ว ไม่มีอะไรอย่าคิดไปเองดิวะ” มายด์กระซิบกลับก้องเบาๆเช่นกัน 

       “เออ ไอ้ก้องมึงอะคิดมาก ใจไอ้มายด์มันอยู่ที่น้องแม็คโน่น มึงเห็นไหมเขาจ้องกันอยู่อะ มึงแหกตาดูเลยแล้วมึงจะรู้” อรพูดขึ้นพร้อมสะกิดให้ก้องดูสายตาของมายด์ที่มองไปทางแม็คบ่อยๆ 

       “พวกมึงสองคนกินข้าวเงียบ ๆ กันไป รีบ ๆ เลยเดี่ยวเรียนบ่ายไม่ทันนะพวกมึงอะ” มายด์รีบดุเพื่อนที่มัวแต่คุย 

       “เรียบร้อย ๆ ได้มาละเราขอนั่งด้วยคนนะเพื่อน ๆ” นะรีบขอเพื่อน ๆ เพื่อนั่งกินข้าวด้วยกัน 

       “ได้ดิ ตามสบายๆเลยเพื่อน” ทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน 

       “มายด์ตอนเย็นหลังเลิกเรียน เราขอคุยด้วยดิ เรื่องงานทำค่ายอาสาของคณะเรา นายพอมีเวลาไหม” นะเอ่ยขึ้นกลางวงกินข้าว ทำเอาทุกคนะลงกับคำถามนี้อยู่ไมใช่น้อย โดยเฉพาะก้องที่สงสัยกับความสัมพันธ์นี้อยู่แล้ว 

       “ได้ดิ เราเลิกเรียนบ่ายสามครึ่งนะ มีอะไรโทรหาเราได้เลย ยินดีๆเพื่อน”  มายด์ตอบรับเบา ๆ 

       “อะแฮ่ม......” ก้องกระแอมเบาๆ  

       “อะไรติดคอมึงวะไอ้ก้อง กูช่วยไหม” มายด์หันไปถามก้องเบา ๆ 

       “ไม่เป็นไรเพื่อน ขอบใจมาก ๆ” ก้องกระซิบตอบกลับแบบเบา ๆ 

       “เรารีบกินกันเถอะ คนเริ่มมาเยอะละคนอื่นเขาจะได้กินกันบ้าง” อรรีบตัดบทสนทนาทุกอย่าง 

         การกินข้าวก็ดำเนินต่อไป โดยที่มายด์กับแม็คก็แอบสบตากันบ้างเป็นระยะ มายด์ก็ได้แต่ครุ่นคิดในใจขณะที่ปากก็กินข้าวไปด้วย การกระทำนั้นนะก็แอบสังเกตอยู่เช่นกัน หรือนะจะแอบชอบมายด์แบบที่ก้องว่ากันนะเนี่ย 

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น