คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno Series 5 part 1 : เรื่องในสถานี
Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno
Series 5 part 1 : เรื่องในสถานี
“สถานีต่อไปสถานีคานางาวะขอให้ผู้โดยสารทุกท่านเตรียมตัวด้วยค่ะ”
“A … Arrive!” (ถึงแล้ว)
สิ้นคำประกาศของเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าเด็กสาวเรือนผมสีครีมทองก็สะดุ้งโหยงแล้วรีบเด้งตัวลุกขึ้นทันที มือบางกอดซองเอกสารสีน้ำตาลไว้แนบอกก่อนกระชับกระเป๋าเป้บนหลังแล้วรีบกุลีกุจอไปที่หน้าประตูรถไฟฟ้าอย่างเร่งรีบ
ครืด
เมื่อประตูรถไฟฟ้าถูกเปิดออกเด็กสาวก็ก้าวออกมาทันใด ร่างผอมบางสูดอากาศบริสุทธิ์ของเขตชนบทเต็มปอดอย่างชื่นใจ … ‘ไม่ได้สัมผัสอากาศแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย’ เธอคิดก่อนเผยยิ้มบางออกมาอย่างอดไม่ได้
ตึก ตึก ตึก
เรียวขาสวยก้าวเดินตามหลังเด็กหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนอย่างไม่ตั้งใจเนื่องจากเส้นทางที่จะไปเป็นที่เดียวกัน แววตาสีเขียวมรกตเหลียวมองแผ่นหลังกว้างนั่นเล็กน้อยอย่างฉงนใจกับกระเป๋าแร็กเก็ตเทนนิสใบใหญ่ที่เขาสะพายไว้ที่ไหล่ขวา
กึก โครม !
“โอ้ย ache.. T^T” (โอ้ย เจ็บ)
จู่ๆเด็กหนุ่มร่างสูงตรงหน้าก็หยุดชะงักราวกับพึ่งนึกอะไรออกแต่มันทำให้เด็กสาวที่เดินตามหลังเขามาชนเข้ากับแผ่นหลังแกร่งนั่นอย่างจัง ร่างบางล้มลงด้วยเพราะเธอถอยหลังออกมากะทันหันจึงทำให้เป้ใบใหญ่ดึงหลังของเธอให้ล้มลงกระแทกพื้นอย่างจังจนเผลออุทานภาษาต่างชาติออกมา ซองเอกสารหล่นลงพื้นกระจัดกระจาย
“ขอโทษครับ.. เป็นอะไรรึเปล่า ?”
เด็กหนุ่มร่างสูงหันกลับมาทางต้นเสียงภาษาอังกฤษเมื่อกี้ เขาดูตกใจไม่น้อยจึงพลั้งปากถามภาษาญี่ปุ่นออกมาก่อนจะรีบเก็บกระดาษเอกสารสีซีทให้เข้าซองสีน้ำตาลตามเดิมแล้วส่งคืนให้เด็กสาว
“Am sorry … Are you ok lady ?” (ขอโทษครับ คุณโอเคมั้ยคุณผู้หญิง?)
ร่างสูงเรือนผมสีม่วง สวมแว่นสายตา ผิวขาวแบบเชื้อชาติของตนเอ่ยถามเด็กสาวอย่างรู้สึกเป็นห่วงเนื่องด้วยเพราะนิสัยความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งติดตัวเขามาตั้งแต่เด็ก หากแต่เด็กสาวกลับส่ายหน้าเบาๆแล้วเผยยิ้มบางให้ก่อนจะรับซองเอกสารสีน้ำตาลมาจากมือใหญ่ตรงหน้า
“Am fine. Thank you. And I can speak Japanese” (ฉันไม่เป็นไรขอบคุณค่ะและฉันสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้นะคะ)
“งั้นหรอครับ …”
เด็กหนุ่มดันแว่นขึ้นสันจมูก … รู้สึกเสียหน้านิดๆหากแต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากนัก ก่อนที่จะตกเป็นเป้าสายตาผู้คนมากกว่านี้ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นตามก่อนเขาจะหยิบกระเป๋าเป้ของเธอมาแล้วส่งยื่นคืนให้เจ้าของของมัน
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ..ผมขอตัวก่อน”
เด็กสาวเอ่ยขอบคุณเด็กหนุ่มตามมารยาทซึ่งเขาก็พยักหน้ารับก่อนทำท่าจะเดินออกไปหากแต่ร่างบางกลับดึงแขนของร่างสูงเอาไว้ก่อน ใบหน้าคมคายจึงหันมามองด้วยความสงสัย
“ด .. เดี๋ยวค่ะ !! เอ่อ … คุณ … รู้จักทางไปโรงเรียนสาธิตริคไคมั้ยคะ”
“รู้ครับ ผมเรียนอยู่ที่นั่นพอดี”
คำตอบของร่างสูงทำเอาเด็กสาวเผยยิ้มดีใจออกมา
“ง … งั้น ! รบกวนพาไปหน่อยได้มั้ยคะ?”
“ด้วยความยินดีครับ”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับแล้วเดินนำเด็กสาวออกมาซึ่งเธอก็เดินตามไปแต่โดยดี
“กระเป๋านั่น … ผมจะถือให้”
“อ๊ะ ไม่เป็นไรค่ะ!มันค่อนข้างหนักน่ะฉันถือเองดีกว่า”
“ไม่เป็นไร เอามาให้ผมเถอะ”
“เอ่อ … ข .. ขอบคุณนะคะ”
เมื่อเห็นว่ายังไงร่างสูงข้างๆยังคงยืนกรานจะถือให้ เด็กสาวจึงค่อยๆดึงกระเป๋าเป้ออกมาจากไหล่ตนแล้วส่งให้เด็กหนุ่มแทนซึ่งเขาก็รับมาแล้วสะพายมันเข้าที่ไหล่ซ้ายอีกข้าง … เป็นนักกีฬาซะอย่างของแค่นี้สบายมากอยู่แล้ว
“….. ฉัน … ฉันชื่อฮาคุ ฮาคุโนะค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ยางิว ฮิโรชิครับ .. ผมนึกว่าคุณเป็นคนต่างชาติซะอีก”
เด็กสาวแนะนำตัวให้กับเด็กหนุ่มข้างๆเมื่อไม่รู้จะพูดอะไร ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับแล้วเอ่ยแนะนำตัวเช่นกัน ยางิวทอดสายตามองเด็กสาวที่ไม่ว่ามองยังไงก็เป็นชาวยุโรปชัดๆถึงแม้รูปร่างจะผอมบางก็ตามที
“แม่ของฉันเป็นชาวญี่ปุ่นน่ะค่ะเลยตั้งชื่อฉันเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ว่าพ่อเป็นชาวอังกฤษพอแม่แต่งงานเลยต้องไปอยู่กับพ่อที่ลอนดอน … ฉันก็เลยเกิดที่นั่นแทนแต่ฉันใช้นามสกุลแม่ …”
“งั้นหรอครับ …”
“ค่ะ แต่ว่าพอแม่ตรอมใจตายไปเพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้มากแล้วฉันก็ทะเลาะกับพ่อทุกวัน ฉันเลยหนีพ่อมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแทน ที่กระเป๋าใบนั้นหนักก็เพราะแบบนั้นแหละค่ะ แฮ่ะๆ”
“… อืม .. งั้นหรอครับ…”
“ค .. ค่ะ ..”
ยางิวไม่รู้จะตอบอะไรกับปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นของฮาคุโนะ เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงเอ่ยตอบซ้ำๆพลางพยักหน้ารับอย่างเดียวเท่านั้น เด็กสาวเริ่มรู้สึกว่าตนเองพูดมากเกินไปจึงเริ่มเงียบ … พลางน้ำตาใสก็คลอเบ้าตาของเธออย่างอดไม่ได้กับเรื่องในอดีต ยางิวที่เห็นว่าเด็กสาวแปลกไปจึงหันไปมอง
“… อย่าร้องไห้สิ ผมน่ะไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้หรอกนะ”
“ข … ขอโทษค่ะ …”
เด็กหนุ่มหยุดชะงักการเดินก่อนเอื้อมมือไปยีเส้นผมสีครีมทองของเด็กสาวอย่างอ่อนโยนพลันมือใหญ่ก็ไล้เกลี่ยน้ำตาที่แก้มใสเบาๆเป็นการปลอบใจ
“เธอมาที่นี่คนเดียว … งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อน”
“อ .. เอ๋ ? …”
เมื่อเห็นว่าคำแทนตนเปลี่ยนไป เด็กสาวจึงเงยหน้ามองเด็กหนุ่มร่างสูง
“ตั้งแต่นี้ไปเราสนิทกันแล้วนะ ฮาคุโนะ”
ยางิวเผยยิ้มบางให้เด็กสาวทำเอาน้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม … ฮาคุโนะพยักหน้ารับก่อนเผยยิ้มบางตอบให้ยางิว … วันนี้ยางิวทำหน้าที่สุภาพบุรุษได้ดีมากกว่าทุกวันเลยนะ
…………………………………………………………………………………………………………………
ตอนเที่ยง
“ยางิวคุงมีคนฝากนี่ให้แน่ะ”
ผู้จัดการสาวหน้าตาน่ารักเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของทุกคนในชมรมเทนนิสชายซึ่งอยู่ห้องเดียวกับซานาดะและเขาเดินเข้ามาหายางิวก่อนยื่นซองจดหมายสีขาวซึ่งติดโบว์สีแดงเล็กๆที่มุมซองให้เด็กหนุ่ม
“ขอบใจนะอากุ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปก่อนนะ”
พิงกุเผยยิ้มให้ยางิวหลังจากเขาขอบคุณเธอก่อนเด็กสาวจะบอกลาแล้วเดินออกไปจากโต๊ะของเด็กหนุ่มซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับเป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์หนุ่มมีอายุเดินเข้ามาในห้องเรียนหลังจากหมดคาบพักเที่ยงไปแล้วกว่า 5 นาที ยางิวจึงเก็บจดหมายน้อยเข้ากระเป๋ากางเกงนักเรียนโดยไม่ได้เปิดอ่านแม้แต่จ่าหน้าซอง
‘ค่อยอ่านละกัน … คงไม่มีอะไรหรอก’
เด็กหนุ่มครุ่นคิดกับตนเองเบาๆแล้วจึงหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา
…………………………………………………………………………………………………………………
ตกเย็น ที่ชมรมเทนนิสชายของโรงเรียนสาธิตริคไค
“นี่เก็นอิจิโร่นายจะบ้าหรอทำแบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?!”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วจะทำไม”
“เอาน่าซานาดะ ยอมผู้หญิงหน่อยเถอะ”
หลังจากคิริฮาระถูกผู้จัดการสาวของชมรมอาละวาดใส่ซานาดะก็สั่งให้น้องเล็กไปวิ่งรอบสนามเพื่อเป็นการทำโทษ พิงกุที่ไม่เห็นด้วยจึงเปิดศึกกับซานาดะ ยางิวจึงต้องห้ามทัพอีกครั้งก่อนเดินลี้ภัยมาสนใจจดหมายที่พึ่งนึกขึ้นได้แทน มือใหญ่เปิดกระเป๋าแร็กเก็ตแล้วหยิบมันออกมาดูอีกครั้ง
“ถึงฮิโรชิคุง …”
ยางิวอ่านจ่าหน้าซองเบาๆอย่างสนใจ .. ใครกันนะกล้าเรียกชื่อจริงเขาทั้งที่น้อยคนจะเรียกแท้ๆ
“ปุริ ~ จดหมายรักหรอยางิว”
“…!! … นิโอคุง!จะมาก็ให้ซุ่มให้เสียงหน่อยได้มั้ย!”
“อะไรเล่าแค่นี้ต้องปิดบังกันด้วย แสดงว่าใช่ล่ะซี่ ~”
จอมหลอกลวงที่ตอนแรกยังเห็นไปทวงแร็กเก็ตจากผู้จัดการสาวไม่รู้โผล่พรวดมาจากไหนทำเอายางิวแทบจะยกขาถีบด้วยเพราะสุดจะทน หากแต่เพราะเขาเป็นคนใจเย็นเลยข่มอารมณ์นี้ได้ไม่งั้นจะเป็นคู่หูกันได้ไงกับเจ้าของรอยยิ้มกวนประสาทนั่น …
“นี่ไม่ใช่เรื่องของนายนะนิโอคุงไปซ้อมกันได้แล้ว”
ยางิวดันแว่นขึ้นก่อนเดินไปเก็บจดหมายปริศนาใส่กระเป๋าแร็กเก็ตของตนซึ่งก็มีนิโอเดินตามมาด้วยติดๆ หากแต่แก้มด้านซ้ายของจอมหลอกลวงกลับมีรอยมือเล็กๆแดงจางๆประทับอยู่ ถ้าไม่สังเกตดีๆไม่มีทางมองเห็นแน่
“ก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะนายน่ะ …”
“นี่ไม่ใช่เรื่องของนายนะยางิวไปซ้อมกันได้แล้ว ~”
หากแต่เมื่อเอ่ยถามไปกลับโดนเด็กหนุ่มเรือนผมสีฟ้าออกเงินกวนประสาทกลับมาพร้อมรอยยิ้มชวนหงุดหงิด ยางิวขมวดคิ้วนิ่งกับท่าทีของคู่หูตน … ‘หมั่นไส้จริงๆกับคนพรรค์นี้เนี่ย’
“โห … หกโมงครึ่งแล้วหรอเนี่ยสงสัยฉันต้องกลับแล้วล่ะ”
“งั้นหรอ ให้ซานาดะไปส่งมั้ย”
น้ำเสียงใสของผู้จัดการสาวดังขึ้นอีกครั้ง ยูคิมูระที่ออกความเห็นให้ซานาดะไปส่งจึงทำให้ยางิวต้องพยักหน้าเห็นด้วย ก็พิงกุเป็นผู้หญิงนี่นากลับบ้านคนเดียวได้ไงกัน
“ไม่เป็นไรหรอกยูคิมูระคุงฉันยอมให้ฮายะไปส่งยังจะดีกว่าอีก” พิงกุ
“ฉันจะไปส่งอากิโมโตะ ฝากดูคิริฮาระด้วยล่ะยูคิมูระ” ซานาดะ
“โอ๊ะ … ได้สิ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว” ยูคิมูระ
“ซานาดะ … อากุไม่อยู่แล้วนะ” ยางิว
“หืม ?… เฮ้ย!!หยุดเดี๋ยวนี้นะอากิโมโตะ!!!” ซานาดะ
“ทั้งสองคนนี่น้า …” ยูคิมูระ
ยางิวมองตามซานาดะที่วิ่งตามพิงกุไปก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนคู่หูของตนแทน
“กลับกันเถอะนิโอคุง”
…………………………………………………………………………………………………………………
ต่อมา …
“กลับมาแล้วครับ”
เมื่อการซ้อมในชมรมสิ้นสุดลง เด็กหนุ่มร่างสูงก็ตรงกลับบ้านทันใดและเหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อถึงบ้านได้ไม่นานฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาทันทีทันใด ยางิวจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง
‘ป่านนี้ซานาดะกับอากุยังวิ่งไล่กันอยู่รึเปล่านะ …’
เขาคิดพลางก้มเก็บรองเท้าของตนขึ้นบนชั้นแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านทันที
“กลับมาแล้วหรอฮิโรชิ จะทานข้าวเย็นเลยมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะขึ้นไปอาบน้ำก่อน”
คนเป็นแม่เดินออกมาจากห้องครัวก่อนเผยยิ้มบางเอ่ยทักทายลูกชายของตน ยางิวดันแว่นขึ้นก่อนส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน หญิงสาวมองตามร่างสูงของลูกชายก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารต่อ
“อ๊ะ! พี่ฮิโรชิ”
“ไงฮิโรโกะ”
“วันนี้พี่ช่วยสอนการบ้านให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ”
“..อืม … ได้สิ”
เมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้นสองก็พบกับน้องสาวของตนกำลังเผยยิ้มให้พลางเอ่ยขอร้องพี่ชายสุดเก่งของตนให้สอนการบ้านซึ่งยางิวก็พยักหน้าตอบเบาๆผู้เป็นน้องสาวจึงเผยยิ้มน่ารักให้อีกคราแล้วเดินลงไปชั้นล่างแทน
แอ๊ด …
เด็กหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตนก่อนวางกระเป๋าแร็กเก็ตบนเตียง มือใหญ่ดึงเนคไทที่คอออกก่อนวางมันลงบนโต๊ะไม้ตัวเล็ก
‘จดหมายนั่น … ค่อยอ่านละกัน’
คิดพลางถอดเสื้อผ้าของตนไปด้วย มือใหญ่คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวตนแล้วหอบเสื้อผ้านักเรียนไปแขวนไว้ที่เดิมก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
ต่อมา …. เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จยางิวก็เปิดประเป๋าแร็กเก็ตควานหาซองจดหมายน้อยทันที และเมื่อหาเจอเขาก็ไม่รอช้าจะเปิดมันอ่าน
แซ่ก … ฟึ่บ
‘ถึงฮิโรชิคุง ฉันเองนะฮาคุโนะน่ะจ้ะ ตอนนี้ฉันมาสมัครเรียนเข้าที่สาธิตริคไคได้แล้วนะแต่ไม่รู้จะได้เจอฮิโรชิคุงมั้ย อีกอย่างตอนนี้ฉันไม่รู้จะไปพักที่ไหนดีเพราะฉันถูกนักเลงในโรงเรียนไถ่เงินไปหมดเลยจ้ะ ตอนนี้ฉันหมดหนทางแล้วถ้าไม่รบกวนจะขอพักที่บ้านฮิโรชิคุงได้มั้ย ฉันจะรออยู่ที่สวนสาธารณะที่ฮิโรชิคุงพาฉันเดินผ่านเมื่อตอนเช้านะ จาก ฮาคุ ฮาคุโนะ’
“ฮาคุโนะ …!”
เมื่ออ่านจบแววตาใต้กระจกแว่นสีใสก็เบิกกว้างทันใด .. ยางิววางจดหมายน้อยบนเตียงก่อนคว้าร่มสีเขียวของตนแล้ววิ่งลงไปชั้นสองทันที
“อ้าว จะไปไหนล่ะนั่นน่ะไอ้หนุ่ม”
ยางิวได้ยินเสียงของพ่อตนที่เดินสวนกันที่บันได … หากแต่เขาไม่ได้ตอบอะไร จิตใจห่วงแต่ฮาคุโนะที่กำลังรอเขาอย่างไร้จุดหมายเท่านั้น
แอ๊ด ปัง !!
“ไอ้บ้าฮิโรชิ .. โถ่เอ้ย!”
ยางิวได้แต่ต่อว่าตนเอง … ร่างสูงกางร่มขึ้นแล้ววิ่งฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำไม่ยั้งออกไปทันที
ตอนนี้ยางิวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วโว้ย ลุยอย่างเดียวแล้ว!
To be continued
.......................…………………………………………………………………………………………………………………
น้องสาวของรุ่นพี่ยางิวเนี่ยไรเตอร์ตู่มั่วเอาเองนะคะเห็นในประวัติบอกมี T^T
แต่น้องสาวรุ่นพี่ยางิวมีคู่แน่นอนจ้าแต่ไม่ใช่โรงเรียนริคไคก็เท่านั้นเอง xD
ความคิดเห็น