[Fanfic]The Reason why (Thai version) - [Fanfic]The Reason why (Thai version) นิยาย [Fanfic]The Reason why (Thai version) : Dek-D.com - Writer

    [Fanfic]The Reason why (Thai version)

    ไทยเวอร์ชั่น Summary: จินกับคาเมะคุยกันถึงเรื่องที่จินไม่เคยถามตลอดหลายปีที่ผ่านมา

    ผู้เข้าชมรวม

    388

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    388

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ม.ค. 54 / 23:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    Pairing: Kamepi,Pin(?)

    คาเมะกับยามะพี, จิน กับ ยามะพี

    Disclaim: I wish I own them.

    Warning: - English is not my mother language, therell be a lot of errors.

                    - this fic is the first one that I let other people (than myself) read it.
                    -
    written months ago (
    เขียนเมื่อต้นปี 2010)



    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      ....เฮ้อ....

       

      “จิน ชั้นสาบานเลยนะว่าถ้าแกถอนหายใจอีกแม้แต่ครั้งเดียว แกจะไม่มีปอดเอาไว้หายใจอีก” โคคิ (ที่พยายามเขียนเพลงใหม่ของตัวเองอยู่ แต่ต้องถูกขัดโดยเสียงถอนหายใจอันดังของจินตลอด 5 นาทีที่ผ่านมา) พูดขึ้นด้วยความรำคาญสุดๆ

       

      พวกเค้าอยู่กันที่ห้องพักของ KAT-TUN  ทั้งห้องตอนนี้มีกันอยู่ 3 คน

      จิน ที่นั่งถอนหายใจและเอาแต่จ้องโทรศัพท์ของตัวเอง

      คาเมะ นั่งอ่านนิตสารอยู่และพยายามไม่สนใจอีก 2 คนในห้อง

      โคคิ ที่พยายามอย่างหนักในการทำเป็นไม่ได้ยินเสียงถอนหายใจของจิน เพื่อที่จะเขียนเพลงให้เสร็จ

       

      พวกเค้ากำลังรอสามชิกที่เหลืออีก 3 คน เพื่อที่จะได้เริ่มประชุมกับผู้จัดการ

       

      “มีอะไร  ไปทำอะไรมาอีกล่ะ คราวนี้” คาเมะพูดขึ้น หลังจากตัดสินใจแล้วว่า ถ้าเค้ายังทำเป็นไม่สนใจทั้ง 2 คนต่อไป โคคิอาจจะฆ่าจินตายจริงๆ แล้วทำให้ข่าวลือที่ว่า จินจะไม่อยู่ใน KAT-TUN อีกแล้ว กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา

       

      “อะไร  ทำไมนายถึงคิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แล้วชั้น เป็นคนทำด้วย”

       

      “ก็เพราะว่า นายเอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์เหมือนอย่างกับว่านายอยากจะโทรหาใคร แต่ไม่กล้า เพราะกลัวคนๆ นั้นจะไม่พูดด้วย หรือไม่ก็ไม่แม้แต่จะกดรับ  แล้วทำไมนายถึงอยากคุยกับคนๆ นั้น ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายเป็นคนผิด”

       

      “...เอ่อ...คือ...พีไม่พูดกับชั้นน่ะ  ไม่ตอบทั้งโทรศัพท์หรือเมลล์ที่ชั้นส่งไปเลย เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว”

       

      “ไปทำอะไรเข้าหล่ะ”

       

      “เปล่า ไม่ได้ทำจริงๆ นะ”

       

      โคคิกับคาเมะจ้องมองจินด้วยสายตาที่ตีความหมายได้ว่า ชั้นไม่เชื่อแก บอกมาซะดีๆ จะดีกว่า

       

      “คือมัน...เราแค่เถียงกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตามปกตอน่ะ แบบ กับข้าวอันนี้อร่อยกว่าอันนั้น  ชั้นจะดูทีวีช่องนี้ แต่พีอยากดูอีกช่อง อะไรพวกนั้น  ชั้นอาจจะพูดอะไรที่ทำให้พีโกรธก็ได้คืนนั้น  แล้วตั้งแต่นั้นมา พีก็ไม่ยอมพูดกับชั้นเลย”

       

      คาเมะถอนหายใจแล้วพึมพำออกมาเบาๆ ว่า “ทั้ง 2 คนเลย....” ก่อนที่จะพูดว่า “จิน นายน่ารู้ดีที่สุดนะว่าพีน่ะ ขี้งอนขนาดไหน โดยเฉพาะกับนายด้วยแล้ว จิน”

       

      “ชั้นรู้น่า  นายรู้มั้ยว่า ชั้นต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการง้อแต่ละครั้ง เพื่อให้พียกโทษให้  แล้วพีน่ะ โกรธชั้นบ่อยจะตาย”

       

      “เหมือนที่นายเคยพูดใน โชเนน คลับ เมื่อหลายปีก่อนใช่ม๊ะ ที่ว่ายามะพีไม่ยอดพูดกับนายตั้ง 3 เดือน ชั้นจำได้เพราะชั้นคิดว่ามันโครตแปลกเลยที่คน 2 คนที่ไม่ยอมพูดกัน แต่กลับนอนอยู่ข้างๆ กันเป็นเดือนๆ” โคคิที่ตอนนี้หยุดเขียนเพลงแล้ว หันมาถามจิน

       

      “ใช่ อย่างงั้นแหละ  แล้วหลังจากนั้นอยู่ๆ พีก็กลับมาคุยกับชั้นอย่างกับ 3 เดือนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น”

       

      “นั่นนายก็มีส่วนผิดด้วยนะ  นายตามใจพียิ่งกว่าทักกี้กับโทมะรวมกันซะอีก  นายพีทำทุกอย่างที่เค้าอยากทำ แล้วนายก็ทำทุกอย่างที่เค้าอยากให้นายทำด้วย เป็นอย่างงี้ตั้งแต่นาย 2 คนเจอกัน”

       

      “ไม่อ่ะ ชั้นไม่ได้ทำอย่างงั้น”

       

      “นายทำ! และคราวนี้นายไม่มีเวลา 3 เดือนทีจะรอให้พีเริ่มพูดกับนายอีกครั้งนะ จิน”

       

      “............................”

       

      “นายอยากใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์สุดท้ายแบบนี้หรอ โกรธกัน งอน ไม่พูดไม่จากัน แล้วไปนั่งเสียใจตอนที่นายอยู่แอลเอหรอ?”

       

      “............................”

       

      “จิน แอลเอมันไกลมากนะ และนายก็รู้ดีนี่ ว่าคราวที่แล้วสภาพพีเป็นยังไง”

       

      “............................” จินเอาแต่ก้มมองที่มือของตัวเอง

       

      “............................”

       

      “รู้มั้ย บางครั้งชั้นคิดถึงตินที่พวกเราเจอพีครั้งแรกน่ะ  ถ้าเป็นนาย คาเมะ เป็นคนที่เป็นเพื่อนสนิทของพี เป็นคนที่อยู่ข้างๆ พีตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายจะทำให้พีเสียใจเหมือนอย่างที่ชั้นทำมั้ย  เราก็รู้กันดีนี่ว่าตอนเจอกันครั้งแรกพีชอบนายแค่ไหนแล้วไม่ชอบชั้นขนาดไหน”

       

      “พูดอะไรน่ะจิน ชั้นเนี่ยนะ  ดูเหมือนนายจะลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปนะ เหตุผลที่ว่าทำไมชั้นถึงไม่อยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของยามะพี  นายพูดว่า ถ้าเป็นชั้น พีจะไม่ต้องเจ็บแบบนั้นหรอ ชั้นเคยทำพีเสียใจจิน จำไม่ได้หรอ?”

       

      “............................”

       

      “............................”

       

      โคคิได้แต่มองสับไปสับมาระหว่าง 2 คนที่อยู่ตรงหน้าเค้า  โคคิรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองไม่ควรอยู่ฟังเรื่องนี้ยังไงก็ไม่รู้

       

      “ที่ทะเลาะกันคราวนั้น มันเพราะอะไรกัน  ทำไมนาย 2 คนไม่ปรับความเข้าใจกับแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิม” จินถามขึ้น ทั้งๆ ที่ยังก้มหน้ามองมือของตัวเอง

       

      “นายไม่รู้หรอ? พีไม่เคยบอกอะไรนายเลยหรอ?” คาเมะมองจินด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

       

      “ไม่ ชั้นไม่รู้อะไรเลย  พีไม่เคยพูดอะไรเรื่องนี้เลย  คืนนั้นทั้งคืน พีเอาแต่ร้องไห้ แล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย”

       

      ร้องไห้จริงๆ ด้วยซินะคาเมะคิด

       

      “แล้วตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา นายไม่เคยถามเลยหรอ?”

       

      “ไม่อ่ะ ชั้นไม่อยากให้พีไม่สบายใจด้วยการทำให้เค้านึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น”

       

      “แต่ตอนนี้ นายมาถามชั้น?”

       

      “ชั้นแค่อยากจะรู้ว่าอะไรทำให้คน 2 คนที่เข้ากันได้ดีอย่างกับเข็มนาฬิกา เลิกพูดกันไปเป็นปีๆ  แล้วอย่ามาว่าชั้น ก็นายเองที่เป็นคนเริ่มพูดเรื่องนี้” จินเงยหน้าขึ้นแล้วชี้ไปที่คาเมะ

       

      “............................” คราวนี้กลายเป็นคาเมะที่ก้มลงมองที่มือของตัวเองแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

       

      “นายไม่ต้องบอกชั้นก็ได้ ถ้านา.....”

       

      “เรื่องมันเริ่มประมาณเดือนนึงก่อนหน้านั้น” คาเมะพูดขึ้น ก่อนที่จินจะพูดจบ “พีมาที่บ้านเล่นชั้นวันก่อนหน้านั้น แล้วก็นอนค้างด้วย  ตอนที่ชั้นตื่นขึ้นมาเช้าวันถัดมา  สิ่งแรกที่ชั้นเห็นคือ หน้าของพี อยู่ใกล้กับหน้าชั้นมากๆ”

       

      “ไรวะ อย่าบอกนะว่านายตกใจกลัวหน้าพีตอนนอนน่ะ”

       

      “ไอ้บ้า ไม่ใช่โว้ย รู้มั้ยจินที่นายเคยพูด มันถูกนะ พีน่ะน่ารักมากๆ เช้าวันนั้นทำให้ชั้นตระหนักว่า ชั้นไม่ต้องการให้ช่วงเวลานั้นจบลง  ช่วงเวลาที่ชั้นมีพีอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ ได้ยินเสียงพีหายใจ ชั้นไม่อยากให้มันจบลงเลย....แล้ว ชั้นก็เกิดกลัวขึ้นมา นี่ชั้นคิดอะไรเนี่ย!’ ชั้นพยายามที่จะเลิกคิด แต่มันกลับยากขึ้นทุกทีๆ ......... ชั้นเลยพยายามทำตัวห่างเหินกับพี  แต่ก็นะ ยามะพีก็คือยามะพี เค้าคอยถามชั้นอยู่ตลอดว่าเป็นอะไรไป ทำไมชั้นถึงไม่อยู่กับเค้า เล่นกับเค้าเหมือนแต่ก่อน”

       

      “งั้น...นายก็ตัดสินใจที่จะทำให้ทุกอย่างจบ โดยนายทำให้พีเกลียดนาย  แล้วนายก็พยายามบอกตัวเองว่าเกลียดพี งั้นซิ”

       

      “.....ก็ประมาณนั้น  ถ้าเรา 2 คนใกล้กันมากว่านี้ สนิทกันกว่านี้ มันจะทำลายทั้งชีวิตของเรา 2 คนแล้วก็อาชีพของเราด้วย”

       

      “นายเลือกที่จะเป็นดารามากกว่าเลือกพีงั้นหรอ?”

       

      “ไม่ใช่ ชั้นเปล่านะ ....ระหว่างแฟนเซอร์วิสกับเรื่องจริงน่ะ มันต่างกันมากนะจิน  มันไม่ง่ายเลย มันจะมีแต่เรื่องเจ็บปวด  แล้วอีกอย่าง นายก็รู้ว่าพีรักงานนี้แค่ไหน”

       

      แล้วทั้ง 2 คนก็เงียบกันไป ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก จนกระทั่งจินทำลายความเงียบนั้นลง

       

      “งั้น นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงดูมีความสุขนักพอนายรู้เกี่ยวกับเรื่องโนบุตะ”

       

      “...หือ?...”

       

      “ละครเรื่องนั้นน่ะ Nobuta wo Produce นายดูมีความสุขมากพอนายรู้ว่าจะได้เล่นเรื่องนั้นกับพี ถึงแม้ว่าพวกนายจะไม่ได้พูดกันมาเป็นปีๆ ก็เหอะ”

       

      “นั่น....”  แต่ก่อนที่คาเมะจะได้พูดอะไร เค้าก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงโทรศัพท์ของจิน

       

      ….Tuuuuu…..   …..Tuuuuu……

       

      “มีไรหรอ เรียวจัง”

       

      อาคานิชิ แกทำอะไรลงไปวะเสียงของเรียวดังมาก จนอีก 2 คนในห้องได้ยิน

       

      “อะไร...เรียวจัง พูดเรื่องอะไรน่ะ”

       

      ยามะพีไง มันมาถึงก็ไม่ทำอะไรเลย เอาแต่นั่งหน้างออยู่เนี่ย แล้วพวกชั้นจะทำงานกันได้ยังไงถ้าพียังทำหน้าอย่างงั้นอยู่ ชั้นอยากได้หัวหน้าวงชั้นคืน  เพราะงั้น แกต้องมาจัดการเดี๋ยวนี้เลย!’

       

      “พีมาถึงแล้วหรอ? เดี๋ยวชั้นไปนะ เรียวจัง” พูดแค่นั้นจินก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับพูดว่า “เดี๋ยวชั้นกลับมา” โดยไม่อยู่รอฟังคำตอบจากอีก 2 คนในห้อง

       

      ตอนนี้ภายในห้องเหลืออยู่เพียงแค่โคคิกับคาเมะเท่านั้น

       

      “เค้าว่ากันว่า คนเราจะไม่มีวันลืมรักครั้งแรก” โคคิพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบๆ มาตลอด

       

      “อะไร” คาเมะหันไปมองโคคิ

       

      “นายดูมีความสุขจริงๆ นะคาเมะ ตอนที่เล่นโนบุตะน่ะ  จนทุกวันนี้นายยังชอบเล่นมุข ชูจิกับอาคิระอยู่เลย”

       

      “............................”

       

      “ก็นะ.... ยามะพีเนี่ย บางทีก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเนอะ? จินก็ด้วย มิน่ามันถึงได้เป็นเพื่อนสนิทกัน”

       

      “ไม่รู้เรื่อง?”

       

      “ก็ที่ไม่รู้ว่านายรู้สึกยังไงกับตัวเองไง  แล้วยามะพีกับจินก็ไม่ได้รู้ตัวเองเลยว่ารู้สึกต่อกันยังไง” โคคิอธิบาย

       

      “บางที...เป็นแบบนี้ก็อาจจะดีกว่า  จอห์นนี่ซังไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่พวกนั้นสนิทกัน แบบเนี้ย”

       

      บางทีน่ะนะ  แต่ชั้นแปลกใจมากกว่าที่นายพูดถึงเรื่องนี้  นายแถบไม่เคยพูดถึงความรู้สึกของนายเลย

       

      ไม่รูซิ คงแค่อยากเอามันออกมาจากอกมั้ง

       

      แล้วอยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก พร้อมด้วยมีคน 3 คนเดินเข้ามาในห้อง

       

      “อรุณสวัสดิ์ ทุกๆ คน” เป้นจุนโนะที่ร้องทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส ตามมาด้วยอุเอดะและนากามารุ

       

      “..จินอยู่ไหนเนี่ย...” อุเอดะถามหลังจากที่สังเกตุเห็นว่าใครหายไป

       

      “ที่เดิม ในห้อง NEWS” โคคิตอบ

       

      “อีกแล้วหรอ?  มันแน่ใจนะว่าไม่ได้อยากอยู่ NEWS น่ะ”

       

      “อย่าโมโหน่า  มันอาจจะแค่อยากใช้เวลาอยู่กับยามะพีกับเรียวให้มากที่สุดก็ได้ก่อนมันไป  หรือนายอยากให้เรียวมาที่นี่?”

       

      “ชาติหน้าแน่ะ!!

       

      “ชั้นก็คิดว่างั้น”

       

      .

      .

      .

      The End

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×