ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Vote For Die - โหวตเพื่อตาย!!

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 : เรื่องยุ่งยาก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 71
      2
      8 มิ.ย. 63

    หลังจากที่นาครจัดหาที่พักให้เหล่าคนที่รอดชีวิตจากการตามล่าของเกมโหวตตายได้เรียบร้อยแล้ว ในตอนนั้นเองนาครก็เรียกพวกเขามารวมตัวกันที่ห้องใต้ดินด้านล่าง เพื่อมาประชุมหารือกันถึงเรื่องที่ว่าใครเป็นคนสั่งเก็บพวกเขาผ่านเกมโหวตตาย ในตอนนั้นนาครก็ได้ข้อมูลจาก Vegus เพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการโอนเงินเข้าสู่เกมโหวตตาย และเมื่อทุกคนมารวมตัวกันสำเร็จ ในตอนนั้นเอง นาครก็ยิงคำถามใส่กับคนอื่นๆในทันทีเมื่อพวกเขามาอยู่รวมกัน

    “เอาหล่ะ พวกคุณพอจะบอกผมได้หรือเปล่า ว่าใครที่มีความเป็นไปได้ในการจะลอบฆ่าพวกคุณ??” นาครถามไป

    “ของฉันน่าจะพอเดาได้อยู่ น่าจะเป็นกลุ่มนักวิทย์ที่เคยทำงานกับฉัน มันนั้นต้องการผลงานของฉันไงหล่ะ” วาเลเรียพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง นาครก็เอาข้อมูลเส้นทางการเงินให้กับเธอดูในทันที

    “มีเงินจำนวน 5 ล้านบาทไทยถูกโอนเข้าบัญชีของเกมโหวตตาย ต้นทางมาจากบัญชีลับหนึ่ง แต่ผมแกะรอยมาได้ พบว่าเจ้าของบัญชี มันชื่ออเล็กซ์ ซาคอฟ” นาครพูดขึ้น ทำเอาวาเลเรียถึงกับร้องอ้อในทันที

    “ฉันว่าแล้วต้องเป็นมัน ไอ้ระยำเอ้ย!!”

    “ส่วนของคุณ ซีอาร่า มีบัญชีกระแสรายวันที่ชื่อว่า AC โอนเงินเข้าไป 3 ล้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นการบริจาคให้คนอื่นๆโอนเงินเข้ามาในบัญชีนี้ก่อน แล้วค่อยโอนเป็นก้อนใหญ่ให้เกมอีกที” นาครพูดขึ้น จากนั้นซีอาร่าก็นึกอะไรออกแล้วพูดขึ้นในทันที

    “ฉันนึกออกแล้ว มันเป็นชื่อย่อของกลุ่ม Anti ฉันหน่ะ แต่พวกเขารวบรวมเงินได้ขนาดนี้เลยเหรอ??” ซีอาร่าถามอย่างสงสัย

    “ก็นะ ความเกลียดของคนมันมีราคาให้ต้องจ่ายเสมอนั่นแหละ”

    “ถ้าคุณช่วยสืบคนพวกนี้ให้ฉันได้นะ คุณอยากได้เท่าไหร่ฉันจ่ายคุณไม่อั้นเลย” ซีอาร่าพูดขึ้น

    “ต่อไป คุณจอห์น เวสลี่ย์ มีคนสืบมาว่ามีชื่อบัญชีสถานกักกัน X-Ray จ่ายเงินเพื่อจ้างฆ่าคุณ ไม่รู้ว่าคุณพอรู้จักมันหรือเปล่า??” นาครถามเขาไป

    “อ้อ ฉันเคยถูกจองจำที่นั่น พวกมันคงจะลงขันกันจ้างฆ่าฉัน ไอ้ระยำเอ้ย!! ถ้าฉันออกไปลุยได้ ฉันฆ่าพวกมันหมดแน่” จอห์นพูดขึ้น

    “นายได้ทำแน่ แล้วของเรานะ มันเป็นบัญชีของคนธรรมดาๆคนหนึ่ง เราลองดูให้หน่อยสิ!!” นาครพูดไปยังเอบิต้า จากนั้นก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับเธอ เธอเห็นแล้วถึงกับร้องอ๋อในทันที

    “นี่มันชื่อนายเก่ง หัวโจกประจำโรงเรียนนี่พี่ พี่จำได้เปล่า??”

    “ไอ้เก่ง ไอ้คนที่มันมีเรื่องกับพี่เหรอ ไม่แน่ มันอาจจะจ้างฆ่าพี่ด้วยก็ได้” นาครพูดขึ้น

    “อ้าวนี่ แล้วของฉันหล่ะ??” เฮนรี่ถามนาครไป

    “อ้อ ของนายอ่านเองแล้วกัน มันเป็นบัญชีแก๊งค์มาเฟียหน่ะ” นาครพูดขึ้นจากนั้นก็เอากระดาษแผ่นหนึ่งให้เฮนรี่ ทำเอาเฮนรี่ถึงกับร้องอ๋อในทันที

    “ไอ้พวกห่านี่เอง ฉันรู้ด้วยพวกมันอยู่ที่ไหนกันบ้าง”

    “เอาหล่ะ วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อกวาดล้างเครือข่ายนี้ แล้วถ้าเราเล่นงานเครือข่ายมันได้ จะเล่นงานพวกที่จ้างฆ่าคุณไม่ยากหรอก คืนนี้พวกคุณพักผ่อนกันก่อนแล้วกัน แล้วก็อย่าเพิ่งออกไปไหน ผมจะไปจัดการอะไรหน่อยหน่ะ” นาครพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เข้าห้องอาบน้ำของเขา ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนในทันที

     

    ณ ตึกสำนักงานแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ ชายคนหนึ่งในชุดสูทราคาแพง กำลังนั่งจิบไวน์และอ่านรายงานอะไรยางอย่างอยู่บนโต๊ะของเขา จากนั้นเขาก็หันไปเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วดูรายการเกมโหวตตาย และเช็คผู้รอดชีวิตตามที่ได้รับรายงานมา ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง

    “มันรอดกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ??”

    เขาเริ่มจะคิดมาก ในตอนนี้เรทติ้งรายการก็กำลังลดลงอย่างหนักเนื่องจากว่ามีผู้รอดชีวิตในเกมด้วย จากนั้นเขาก็กดสวิทซ์อะไรบางอย่างบนโต๊ะของเขา

    “นี่ คุณเลขา เรียกเซเฟอร์มาหาฉันหน่อยสิ!!” และเมื่อเขาเรียก หลังจากนั้นไม่นาน ชายในหน้ากากสีขาวพร้อมดาบในมือก็มาหาเขาในทันที

    “เรียกผมเหรอครับคุณเดเมี่ยน??”

    “ใช่ ตอนนี้มีไอ้หน้าใหม่คนหนึ่งกับอีกหลายคนมันรอดจากเกมโหวตตายมา 2 วันแล้ว ตอนนี้คนดูกำลังด่ารายการยับเลย”

    “แปลกแหะ ไอ้หมอนี่มันเป็นใครกัน??”

    “เป็นหน้าที่นายที่จะไปสืบ เซเฟอร์ หาตัวพวกมันแล้วฆ่ามันซะ ถ้าเรทติ้งรายการตกลง เราจบเห่แน่”

    “แต่เรายังไม่รู้ตำแหน่งของมันเลยนะครับ??”

    “ก็ลองตามหามันสิ เพิ่มเงินเข้าไป เด็กมัธยมคนเดียวคงหาไม่ยากหรอก” เดเมี่ยนพูดขึ้น

    “ได้ครับ แล้วผมจะลองดู!!” เซเฟอร์พูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินออกจากห้องไปในทันทีเพื่อไปทำงานตามที่นายของเขาสั่ง

     

    กลับมาที่คอนโดของเหล่าแฮ็คเกอร์ ซึ่งพวกเขาพยายามอย่างหนักในการหาตำแหน่งที่ตั้งของนาครและคนอื่นๆที่รอดจากเกมโหวตตาย แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็แทบไม่ได้เบาะแสอะไรเลย ทำเอาพวกเขาถึงกับต้องเกาหัวสงสัยกันหมด

    “เฮ้ยนี่ รอนนี่ เจอตำแหน่งได้เด็กนั่นหรือเปล่า??”

    “ไม่เจอเลยลุงลาซ ลองเช็คที่อยู่หมอนี่ มันก็ที่อยู่เก่าหน่ะ” รอนนี่ตอบกลับ

    “สงสัย หมอนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ” ดาเบรียพูดขึ้น

    “นั่นดิ ไม่แน่หมอนี่อาจจะเป็นเซียนคอมด้วย” วาเลียพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็เห็นสัญญาณเตือนสีแดงมาจากจอคอมของพวกเขา ทำเอารอนนี่ต้องรีบไปดูในทันที

    “แย่แล้ว มีธงแดงขึ้นมา มีคนเจาะระบบเรา!!”

    “ไหน ลองค้นหาต้นทางของมันสิ!!” ลาซพูดขึ้น จากนั้นดาเบรียก็พยายามหาต้นทางของเซิฟเวอร์ แต่ว่าเธอก็หาไม่เจอเลย

    “หาไม่เจอเลย มันพรางสัญญาณหน่ะ!!”

    “ปิดระบบเราก่อน ก่อนที่มันได้ข้อมูลเราไป” วาเลนพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็พยายามปิดระบบชั่วคราวเพื่อป้องกันคนที่เจาะระบบของพวกเขา และในตอนนั้นเอง ลาซหมดความอดทนจึงหยิบแฟรชไดร์ฟของเขามา แล้วคีย์ระบบไปซักพัก จากนั้นทุกอย่างก็สงบลงในทันที

    “มันคงไปแล้วหล่ะ” ลาซพูดขึ้น

    “นี่มันได้อะไรพวกเราไปบ้างหล่ะเนี่ย??” วาเลนถามไป

    “ไม่รู้เหมือนกัน อย่าเพิ่งหัวเสียไปสิ!!” รอนนี่พูดไป

    “เดี๋ยวเราก็ตรวจสอบความเสียหายอีกทีก็ได้ ลุยเลยๆ” ดาเบรียพูดขึ้นจากนั้นก็ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของเธอไปในทันที

     

    ณ บ้านพักย่านมีนบุรีของจินเจอร์ หลังจากที่เขาจัดการหอบข้อมูลที่ได้มาจากกรมตำรวจไทยและหน่วยพิเศษที่เขาหามาได้ งานของเขาคือตรวจสอบเครือข่ายเกมโหวตตายที่มาตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย และตามจับตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังนี้ด้วย ในระหว่างที่เขากำลังโยงใยถึงเครือข่ายนี้ จู่ๆก็มีโทรศัพท์ดังมายังเครื่องเขา เขารีบรับสายในทันที

    “คุณจินเจอร์ ผมเองนะ พิทักษ์!!”

    “อ้าว คุณมีอะไรหรือเปล่า??” จินเจอร์ถามไป

    “แน่ใจนะว่าคุณตัดกระดาษแล้ว??” จินเจอร์ในตอนนั้นก็นึกออกในทันที ตัดกระดาษ คือคำลับที่แปลว่าพรางสัญญาณในการโทรศัพท์

    “เรียบร้อย สายปลอดภัย!!”

    “งานที่คุณมาเกี่ยวเนี่ย เกี่ยวข้องกับคนมีตำแหน่งหลายคนในประเทศ ทั้งนักการเมือง ทหารใหญ่ ข้าราชการบางส่วน เอาเป็นว่าคุณต้องระวังตัวไว้หล่ะ”

    “เฮ้อ มีเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกหรือเปล่า??” จินเจอร์ถามไป

    “พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า ผมจะพาเที่ยวรัชดาหน่ะ??”

    “ได้ แต่คราวนี้คุณเลี้ยงผมนะ หายกันกับที่แคลิฟอร์เนียหน่ะ”

    “ได้เลย แล้วเจอกัน!!” พิทักษ์พูดแล้ววางสายไป จากนั้นจินเจอร์ก็ทำงานของเขาต่อไปในทันที

     

    ณ สตูดิโอแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกจัดเป็นสตูดิโอเกมโหวตตาย หลังจากที่รายการจบไปแล้วเนื่องจากว่าประกาศยอดผู้เสียชีวิตหมดแล้ว พาช่าเธอก็กลับบ้านเธอไปตามปกติ ซึ่งในวันนี้เธอก็ขึ้นรถแล้วขับออกมาที่ด้านนอก แต่ในขณะที่เธอกำลังขับรถอยู่ จู่ๆเธอก็รู้สึกถึงอะไรแปลกๆที่อยู่ด้านหลังเธอ แต่เธอก็ยังไม่สนใจอะไรนักเนื่องจากว่าเธอเหนื่อยมาทั้งวัน และเมื่อเธอขับรถเข้ามาในคอนโดของเธอ เธอจอดรถไว้ที่ลาน และในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีปืนมาจ่อที่ด้านหลังของเธอ

    “กิ๋ก!!”

    “สวัสดีคุณพาช่า อยู่เฉยๆดีกว่า”

    “นี่แกเป็นใคร อยากได้อะไรเอาไปเลย แต่อย่าทำฉัน!!”

    “ทำงานที่นั่นเป็นไงหล่ะ เกมโหวตตายหน่ะ คุณสุรีนา??” เธอได้ยินเขาถามแบบนั้นก็ถึงกับตกใจมาก

    “นี่คุณเป็นใคร??”

    “ผมคือหนึ่งในคนที่คุณประกาศในเกมโหวตตายไงหล่ะ ไม่ต้องถามนะว่าคนไหน เดินลงไป แล้วอย่าตุกติก ไม่งั้นผมยิงคุณแน่” นาครพูดขึ้น จากนั้นเขาก็พาเธอลงจากรถ แล้วโอบเธอไว้แล้วโอบกอดเธอให้กล้องวงจรปิดเข้าใจผิดว่ามาด้วยกัน จากนั้นก็ให้พาช่ากดลิฟท์ เพื่อขึ้นไปที่ห้องของเธอ เมื่อมาถึงห้อง นาครก็จับเธอมัดไว้ในทันทีด้วยกุญแจมือพลาสติกที่เขาพกมา จากนั้นก็จับเธอกดคว่ำไว้

    “อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจอยากจะฆ่าคุณ!!”

    “ไม่ต้องร้องหรอก บอกผมทุกอย่างเกี่ยวกับเกมโหวตตาย เดี๋ยวนี้??” นาครพูดขึ้น

    “แล้วทำไมคุณไม่ระเบิดตึกนั่นเลยหล่ะ ที่นั่นเป็นที่ถ่ายทำนะ??”

    “ผมมีสายข่าวของผมหน่ะ ตึกนั่นเป็นแค่สถานที่ถ่ายทำ ขอยืมใช้ 2 ปี ผมต้องการรู้ตึกที่ใช้ดำเนินการทั้งหมด!!”

    “ถ้าคุณรู้เยอะขนาดนั้นทำไมถึงต้องมาถามฉันหล่ะ??” พาช่าถามนาครไป

    “ผมแค่ไม่อยากเสียเวลามาสืบเอง ผมอยากให้เกมนี้มันจบเร็วๆ เอาเป็นว่า บอกผมมา แล้วผมจะลืมทุกอย่างที่คุณทำ!!” นาครพูดขึ้น

    “ได้ๆๆ ทุกอย่างอยู่ในคอมฉัน นายเอาไปให้หมดเลย!!” พาช่าพูดขึ้น จากนั้นนาครก็ไปที่คอมของเธอ แล้วใช้ฮาร์ดดิสก์พกพาเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เขาจะเอาไปได้ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ไปหาพาช่าต่อในทันที

    “รู้แล้วใช่หรือเปล่า ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสัญญาว่าฉันจะเลิกเป็นพิธีกรรายการนี้แล้ว ฉันจะเลิกทุกอย่าง ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง!!” พาช่าพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน นาครก็เอายาอะไรบางอย่างออกมา จากนั้นก็จับยัดปากเธอในทันที จากนั้นก็ทิ้งกระดาษอะไรบางอย่างที่เตียงของเธอ แล้วเขาก็ออกไปจากห้อง ลงไปที่ชั้นล่างในทันที จากน้นก็ใช้โทรศัพท์ส่งข้อความหาใครบางคน

    “จัดการหรือยัง??”

    “เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าสะอาด”

    “แล้วเจอกัน!!”

    นาครเก็บโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินออกไปจากคอนโดของพาช่าในทันที และในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง โทรหา 191 และใส่หูฟังพิเศษที่เขามีเพื่อใช้ในการแปลงเสียง จากนั้นก็สนทนาไปในทันที

    “191 แจ้งเรื่องอะไรคะ??”

    “มีคนโดนจับเป็นตัวประกัน มาที่คอนโดสการ์ล่า ชั้น 9 ห้อง 504 ด่วน”

    เมื่อนาวินพูดจบ จากนั้นเขาก็เขวี้ยงโทรศัพท์ลงไปในน้ำ จากนั้นก็เดินหายไปในทันที

     

    เช้าวันต่อมา

    ในวันนั้นเอง หลังจากที่ทุกคนทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยกันหมดแล้ว พวกเขาก็มารวมตัวกันที่ห้องของนาคร ซึ่งในตอนนั้นเอง นาครก็กำลังรออยู่ก่อนเรียบร้อยแล้ว และเขาก็เอาอาหารมาให้กับทุกคนด้วย

    "เอาหล่ะ ทุกคน มากินอะไรกันก่อนเร็ว!!"

    หลังจากนั้นเอง พวกเขาก็รีบทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่แต่ละคนก็คุยกับนาครไปด้วย

    "พี่นาคร พี่ไม่กินหน่อยเหรอคะ??" เอบิต้าถามไป

    "ไม่หล่ะ พี่กินมาแล้ว"

    "แล้วนี่ คุณได้พักบ้างหรือยังคะ??" ซีอาร่าถามไป

    "ก็นิดหน่อย แต่ถ้าผมทำงานเสร็จแล้วผมจะนอนหน่อย" นาครพูดขึ้น

    "เฮ้ยนี่ แล้วเมื่อคืนนายไปไหนมาหล่ะ??" จอห์นถามอย่างสงสัย

    "นั่นดิ กว่าจะกลับมาก็เกือบตีสามแล้วนะ" เฮนรี่ถามเสริม

    "ทำงานนิดหน่อยหน่ะ เดี๋ยวเปิดข่าวให้ดู" นาครพูดขึ้น

    "อยากเห็นข่าวจริงๆ เปิดให้ดูหน่อยสิ!!" วาเลเรียพูดขึ้น จากนั้นนาครก็ไปเปิดโทรทัศน์ให้คนอื่นๆดูในทันที และปรากฎข่าวที่กำลังมาแรงอยู่ในช่วงนี้

    "มีรายงานจากเน้าหน้าที่รายงานมาว่า พบร่างของนาวสาว สุรีนา ไปรสุข อดีตนักข่าวชื่อดังนอนหมดสติอยู่ในห้องนอนของเธอ โดยมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้ที่ข้างหัวนอนของเธอ เจ้าหน้าที่เก็บกระดาษมาอ่าน พบคำว่า "เกมโหวตตายจงระวัง!!" ซึ่งเจ้าหน้าที่ในตอนนี้กำลังสืบสวนเพิ่มเติมว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้.."

    "เป็นยังไงหล่ะผลงานของผม??" นาครถามทุกคนในนั้นไป

    "โห เฉียบขาดมากเลยค่ะพี่" เอบิต้าพูดขึ้น

    "แล้วนี่ นายได้อะไรมาอีกหรือเปล่า??" เฮนรี่ถามอย่างสงสัย

    "อ้อ ผมได้ข้อมูลมาบางส่วนหน่ะ แต่ตอนนี้ผมสแกนไวรัสและมัลแวร์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังให้เพื่อนผมดูอยู่ว่ามีอะไรสำคัญบ้าง" นาครพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ซีอาร่าก็เอาโทรศัพท์มือถือของเธอมาอ่านทวิตเตอร์ และเมื่อเธอเช็ค ผมว่า #เกมโหวตตาย ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมของผู้ชมเป็นอย่างมาก เธอรีบบอกกับคนอื่นๆในทันที

    "นี่ ทุกคนดูสิ ตอนนี้ในทวิตกำลังเล่นเรื่องนี้กันใหญ่เลย"

    "โห แบบนี้เรื่องมันก็ไม่เงียบแล้วสินะ" จอห์นพูดขึ้น

    "ดีแล้วหล่ะ ตอนนี้พวกมันคงพยายามจะเก็บตัวซักพัก แล้วผมจะใช้จังหวะนี้เล่นงานพวกมันทุกคนเลย" นาครพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆก็มีข้อความแจ้งมาจากเครื่องคอมของเขา ในตอนนั้นเองนาครก็รีบไปดูคอมในทันที

    "มีอะไรอย่างงั้นเหรอ??" วาเลเรียถามอย่างสงสัย

    "น่าจะมีข้อมูลใหม่หน่ะครับ" นาครพูดขึ้น จากนั้นเขาก็อ่านข้อความไปในทันที

    "เฮ้ย ข้อมูลที่นายได้มามีประโยชน์มากเลยนะเว้ย หลังจากที่ฉันสังเคราะห์และสแกนไวรัส ฉันเลยเอาข้อมูลส่วนที่นายต้องการใช้เอามาให้นาย แล้วอีกอย่าง ช่วงนี้นายต้องระวังนะเว้ย กลุ่ม Hacker ที่ฉันไปป่วนเมื่อวาน มันต้องการจะเก็บนายด้วย ฉันทำอะไรไม่ได้มากเพราะกลัวตำแหน่งฉันจะเปิดเผย เอาเป็นว่า เอาข้อมูลไปดูแล้วกัน Vegus"

    นาครเห็นดังนั้น จึงเปิดไฟล์ PDF ที่เพื่อนของเขาทำขึ้นมา จากนั้นก็เปิดหน้าจอดูในทันที

    "เดเมี่ยน ฮิวจ์ ประธานบริษัท เดเมี่ยน กรุ๊ปงั้นเหรอ??"

    "สถานที่ต้องสงสัย....."

    "รายชื่อผู้บริจาคเงินช่วยเหลือเกมโหวตตาย!!"

    นาวินเห็นข้อมูลพวกนี้ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับเขามากๆ จากนั้นเขาไม่รอช้ารีบปริ้นมันออกมา แล้วเอามาติดที่ฝาห้องของเขาในทันที

    "นี่นายเอาข้อมูลอะไรมาเหรอ??" วาเลเรียถามอย่างสงสัย

    "คนที่อยู่เบื้องหลังเกมนี้ทั้งหมด คิดว่านะ" นาครพูดขึ้น

    "ฉันรู้จักเขานะ เดเมี่ยน ฮิวจ์ เขารวยมาก เขาเคยจ้างฉันไปฉลองวันเกิดเขาด้วย แต่ไม่ได้นอนด้วยกันนะคะ" ซีอาร่าพูดกับนาคร

    "นึกว่าตอนนี้เขาอยู่ LA ซะอีก" จอห์นพูดขึ้น

    "ดูเหมือนมันจะมาที่ไทยนะ แต่ฉันจะทำเป็นเป้าหมายหลักไว้ก่อน เพราะฉันอยากจะขุดรากถอนโคนทุกอย่าง ให้มันล่มจมไปเลย" นาครพูดขึ้น

    "แจ่ม ถ้าอย่างงั้นฉันเอาด้วยคนแล้วกัน" นาครพูดขึ้น

    "ถ้าเราเอาข้อมูลนี้ไปให้สื่อมวลชน รับรองว่าดังทั้งประเทศแน่ๆ" นาครพูดขึ้น

    "นั่นสิพี่ พวกมันเสร็จเราแน่ๆ" เอบิต้าพูดเสริม จากนั้นพวกเขาก็รีบทำงานแข่งกับเวลาในทันทีเพื่อสืบหาเครือข่ายเพิ่มเติม

     

    ณ บ้านของเก่ง ในวันนั้นเองที่เขาต้องไปโรงเรียนเหมือนเดิม และในวันนี้เขาก็ได้เปิดไอแพดของเขาในระหว่างที่กำลังกินข้าวไปด้วย และได้เข้าเว็บไซต์เกมโหวตตายเช่นเดิมเพื่อดูความเคลื่อนไหว แต่จนแล้วจนรอด นาครก็ยังอยู่ในลิสต์ผู้รอดชีวิตอยู่ ในเอาเขาถึงกับทุบโต๊ะกินข้าวในทันที

    "ไอ้บัดซบเอ้ย!!" เขาทุบโต๊ะกินข้าว ทำเอาน้องสาวที่นั่งกับเขาตกใจไปด้วย

    "อะไรกันเนี่ยพี่ มีเรื่องอะไร??" น้องสาวเขาถามไป

    "ไม่ต้องมายุ่งหรอก" เก่งพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง เขาก็ยังไปเปิดทวิตเตอร์อ่านด้วยเพื่อดูข่าวเพิ่มเติม พบว่า #เกมโหวตตาย กำลังขึ้นอันดับหนึ่งในเทรนทวิต และเขาก็ยังรู้ว่าพิธีกรที่เขารู้จักในตอนนี้โดนตำรวจคุมตัวไปแล้ว

    "ระยำเอ้ย นี่มันอะไรเนี่ย แล้วเงินฉันหล่ะ??" เก่งนึกในใจ จากนั้นเขาก็ Inbox ไปคุยกับ Admin ของเว็บไซต์เกมในทันที

    "นี่ มันเกิดอะไรขึ้น??"

    "Admin : ตอนนี้สถานการณ์ยังควบคุมได้ เรายังเปิดรับเงินในการสังหารค่ะ"

    "บ้าเอ้ย ทั้งๆที่พิธีกรโดนจับแล้วเนี่ยนะ??"

    "Admin : เราหาคนใหม่ได้แล้วค่ะ รับรองว่าเธอสาวไม่ถึงเราแน่ๆ"

    "แล้วนี่ ทำไมไอ้นาครมันยังไม่ตายซะที??"

    "Admin : เราพยายามตามล่าเขาอยู่ แต่มันต้องใช้เงินเพิ่มอีกหน่อย" เก่งหัวเสียเมื่อได้เห็นข้อความนั้น ทำเอาเขาถึงกับจนตรอก ในตอนนั้นเองเขาก็เข้าไปในห้องนอนของพ่อ แล้วเขาก็ไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง แล้วก็เข้าหน้าแอพพลิเคชั่นธนาคารและใส่รหัสไป

    "คงเหลือ 20 ล้านบาท!!"

    ในตอนนั้นเองเขารีบโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีของเขา แต่ในตอนนั้นเอง น้องสาวของเขาก็วิ่งขึ้นมาดูว่าพี่ของเธอทำอะไร และเมื่อเธอเห็น เธอก็รีบไปห้ามเขาในทันที

    "นี่พี่ คิดจะทำอะไรเนี่ย??"

    "อย่ามายุ่ง ฉันจะเอาเงินหน่อยหน่ะ"

    "แต่นั่นเป็นเงินเก็บจนกว่าพ่อแม่เราจะกลับมานะคะ"

    "ฉันหามาคืนได้น่า ออกไป!!" เก่งพูดขึ้น จากนั้นเขาก็โอนเงิน 10 ล้านบาทเข้าบัญชีของเขา แล้วก็กลับเข้าไปคุยกับแอดมินในเกมโหวตตายในทันที

    "ผมให้ 10 ล้านบาทสุดท้าย ฆ่ามันให้ได้!!"

    "Admin : กำลังตรวจสอบข้อมูล..."

    "Admin : รับเงินเรียบร้อย ขอบคุณที่ร่วมเกมโหวตตายค่ะ"

    "มึงอย่าคิดว่าจะหนีกูพ้นได้นะไอ้ระยำ!!" เก่งคิดในใจไป

     

    กลับมายังห้องทำงานของจินเจอร์ ในวันนี้เองเขาก็ได้รับข่าวใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้เกี่ยวกับเกมโหวตตาย ซึ่งนั่นก็คือข่าวการถูกจับตัวของพิธีกรรายการนี้ จินเจอร์ตื่นเต้นมากๆที่ได้ยินข่าวนี้ และในขณะเดียวกัน จู่ๆก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเขา ซึ่งนั่นก็คือพิทักษ์นั่นเอง จินเจอร์รีบรับสายในทันที

    "อ้าว พิทักษ์ มีอะไรงั้นเหรอ??"

    "จินเจอร์ คุณได้ดูข่าวหรือเปล่า วันนี้มีผู้หญิงถูกวางยาในห้อง แต่เราสืบทราบมา เธอเกี่ยวข้องกับเกมโหวตตายแน่นอน!!" พิทักษ์พูดขึ้น

    "นายพูดจริงเหรอ??"

    "พูดจริง ตอนนี้หน่วยของฉันรับหน้าที่คุ้มกันเธออยู่" พิทักษ์พูดขึ้น

    "ได้ ถ้าอย่างงั้นฉันจะไปถามเธอ ห้ามใครแตะต้องเธอเด็ดขาด ไม่ว่าใคร" จินเจอร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็วางสายในทันที แล้วรีบไปแต่งตัวในชุดตัวเก่งของเขา และรีบออกจากบ้านพักในทันทีเพื่อสอบสวนเธอคนนั้น

    ===================================================================

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×