คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : EP 22 : แขกใหม่ที่มาเยือน
กลุ่มของนาเตรียมพร้อมที่จะรอรับหน่วยรบพิเศษที่กำลังจะมาที่นี่ในไม่ช้า
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเอง วายุก็ไม่ได้เห็นภพมาซักพักแล้ว
เพราะภพกับวิคเตอร์นอนอยู่ในห้องด้วยกันไม่ยอมไปไหน ซึ่งคนอื่นๆก็เป็นห่วงกลัวว่าทั้งคู่จะเป็นอะไรไป
วายุไม่กล้าไปเคาะประตูเรียกภพ ได้แต่เดินออกมาอย่างเซงๆ
โดยที่ยูกิและคนอื่นๆก็มาอยู่ที่หน้าห้องเพื่อมาดูภพกับวิคเตอร์ด้วย
“วายุ เป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้” ยูกิถามอย่างสงสัย
“ภพยังไม่ยอมออกมาเลย” วายุตอบกลับไป
“อ้อ
ตกลงเรื่องของทั้งคู่นี่เรื่องจริงใช่หรือเปล่า” ไผ่ถามอย่างสงสัย
“ใช่ๆ เรื่องจริงซะยิ่งกว่านิยายเลยแหละ” มีร์ตอบไป
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงหล่ะ จะให้วิคเตอร์เธอไปเหรอ” อาซามิถามอย่างสงสัย
“ก็พ่อของเธออยากให้เธอกลับไปนี่หน่า” เอกพูดขึ้น
“แต่ว่าเรายังติดต่อพ่อของเธอไม่ได้เลย
จะรู้ได้ยังไงหล่ะ” เชนพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องรอให้พวกเขามาก่อนหล่ะนะ” รันพูดขึ้น
“ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมาถึงตอนไหนด้วยสิ” นาโอมิตอบกลับเด็กๆไป
และในขณะเดียวกันพวกของฮันเตอร์ก็เดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะเรียบเฉย
“อ้าวพี่ ข้างนอกเป็นยังไงบ้างอ่ะตอนนี้” นาถามเขาไป
“ยังไม่มีอะไรเลยตอนนี้ ไม่เห็นใครมาซักคน” ฮันเตอร์ตอบไป
“ก็คงกำลังเดินทางมานั่นแหละ จะยังไงหล่ะ” ชิตพูดขึ้น
“เออนี่ ฉันถามพวกนายจริงๆเถอะ
จะเอายังไงเรื่องของวิคเตอร์เขาหล่ะ” เซนถามทุกคนในกลุ่มอย่างสงสัย
“ก็คงต้องติดต่อพ่อของเธอให้ได้ก่อนหล่ะนะ
แล้วค่อยว่ากัน” จินตอบเซนไป
“แต่ผมว่า เราจะทำอะไรควรจะคิดถึงใจทั้งคู่ให้ดีนะ” ชิโระตอบคนในกลุ่มไป
“สถานการณ์ในตอนนี้
แม่ว่าเราควรใจเย็นๆไว้ก่อนนะจ๊ะ” เอลิซ่าพยายามพูดกับทุกคน
“แล้วซิสเตอร์ว่าทางนั้นจะใจเย็นกับเราหรือเปล่าครับ” จอห์นบอกไป
“เฮ้ย เย็นไว้สิ เรายังไม่รู้สถานการณ์แน่ๆเลยนะ” เอ็ดเวิร์ดตอบไป
“ว่าแต่ พี่วิคเตอร์จะเป็นยังไงบ้างคะเนี่ย” ออโรร่าตอบไป
ในขณะที่คนอื่นๆยังคงเงียบและไม่ยอมพูดอะไรเลยในห้อง
บรรยากาศด้านในดูช่างเงียบเหงาเหลือเกิน
“ให้ผมเคาะประตูเรียกพวกเขามั้ยครับ” ปกรณ์ถามคนในกลุ่ม
แต่คนในกลุ่มไม่ยอมตอบอะไร
จากนั้นปกรณ์ก็ไปเคาะประตูหน้าห้องที่ภพและวิคเตอร์อยู่ในทันที
“ก๊อกๆๆ”
ปกรณ์พยายามเคาะเรียกแต่ทั้งคู่ไม่ยอมตอบอะไร
“อืม ไม่มีใครตอบเลยครับ” ปกรณ์พูดขึ้น
ในขณะเดียวกัน วายุก็ไปเปิดประตู เขาก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค
วายุจึงเข้าไปดูในห้องทันที แต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลย
ทำเอาพวกเขาสงสัยกันมากกว่าเกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ย ไอ้ภพ อยู่ข้างในหรือเปล่าวะเฮ้ย”
วายุตะโกนถามหาภพ
แต่จู่ๆ พวกเขาก็เห็นหน้าต่างที่โดนเปิดออก พวกเขารีบไปดูในทันที
“แย่แล้ว หน้าต่างเปิด มีผ้าผูกไว้ด้วย” ยูกิพูดขึ้น
“หรือว่าสองคนนั้นจะหนีไปแล้วหล่ะ” อาซามิถามอย่างสงสัย
“ผมจะออกไปตามหาเอง สองคนนั้นคงยังออกไปได้ไม่ไกล” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“เฮ้ย ฉันไปด้วยเว้ย” ชิตพูดขึ้น
จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็รีบออกจากห้องไปในทันที
โดยที่คนอื่นๆยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย” เอกถามอย่างสงสัย
“ระดับสองคนนั้นคงไปไม่ได้ไกลหรอก” มีร์พูดขึ้น
“แล้วนี่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่ในป่าหรือเปล่า” ไผ่พูดขึ้น
โดยที่เชนก็ตีไหล่ไผ่ไปด้วย
“จะบ้าเหรอ ในป่าอย่าพูดอะไรแบบนี้สิ”
“เฮ้อ ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอเรื่องใหญ่อีกแล้วสินะ” เอลิซ่าพูดขึ้น
“อย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะ พวกเขาอาจจะไปไม่ไกลก็ได้” นาโอมิพูดปลอบใจ
“ผมจะออกไปช่วยเองถ้าพวกเขายังไม่กลับมา” นาพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ชิตกับฮันเตอร์เอาอยู่ๆแล้ว” จินพูดขึ้น
“ว่าแต่ พวกเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ” เซนถามอย่างสงสัย
“เราควรจะปักหลักรอพวกเขาที่นี่
แล้วค่อยเจรจากันว่าจะเอายังไงต่อ” ชิโระพูดขึ้น
“ก็ดีนะ เดี๋ยวฉันจะไปทำงานก่อนก็แล้วกัน” จอห์นพูดขึ้นจากนั้นก็เดินปลีกตัวออกไป
“เฮ้ย ไม่รอกันเลยนะเว้ย” เอ็ดเวิร์ดตะโกนไล่หลังจากนั้นก็เดินตามไปด้วย
“จะรอดกันหรือเปล่าคะเนี่ยงานนี้” ออโรร่าถามไป
โดยที่รันก็ปรามออโรร่าไว้
“แหม่ ทำเป็นรู้ดีนะเราเนี่ย”
และที่ด้านนอกป่า
ภพกับวิคเตอร์จับมือกันหนีออกมาจากบ้าน โดยที่ในตอนนั้นเองภพเป็นคนนำทางเธอไป แต่พวกเขาออกไปได้ไม่นานนัก
พวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มเหนื่อยล้า จากนั้นก็นั่งพักกันที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
และพยายามซ่อนตัวจากกลุ่มของนาที่พยายามจะตามตัวเขากลับไปด้วย
“หวังว่าเราจะมาได้ไกลพอแล้วนะ” วิคเตอร์บอกไป
“เธอแน่ใจแล้วนะที่มาแบบนี้” ภพถามวิคเตอร์ไป
“แน่ใจสิ ขอแค่มีนายฉันไม่กลัวหรอก” วิคเตอร์ตอบไป
“เฮ้อ ฉันยังไม่ได้บอกลาเพื่อนฉันเลย”
“เหมือนกับฉันนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นห่วงเราหรือเปล่านะ”
“ฉันว่าป่านนี้คงให้คนออกตามหาเราแล้วหล่ะ” ภพตอบไป
“แต่ว่าเราก็มาไกลกันมากแล้วนี่”
ในระหว่างที่พวกเขาทั้งคู่กำลังคุยกัน
จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาใกล้ๆพวกเขา
ภพและวิคเตอร์ชักปืนออกมาจากนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ต้นทางของเสียง
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็พบกับกลุ่มคนติดอาวุธอยู่ประมาณ 6
คนกำลังเตรียมการก่อกองไฟเพื่อทำอาหารและนั่งพัก ภพและวิคเตอร์ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“พวกนั้นเป็นใครกันงั้นเหรอ” วิคเตอร์ถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฟังที่พวกมันพูดดีกว่า”
ทั้งคู่พยายามดักฟังที่พวกมันพูดกัน
โดยที่ได้ใจความดังนี้
“เฮ้ย แน่ใจนะว่าพวกมันจะมาทางนี้”
“แน่ใจสิวะ ฮอของทางการมาตกแถวนครสวรรค์
หมู่บ้านแถวนั้นส่งข่าวมาว่ามันอาจจะมาพิษณุโลกที่นี่ก็ได้”
“ก็แค่ข่าวลือหน่ะ
ป่านนี้พวกมันคงส่งคนมาช่วยแล้วหล่ะ”
“เอาน่า เขาสั่งให้มาก็มาสิวะ”
“บ้าเอ้ย จะได้พักก็ไม่ได้พักเลย ขอบุหรี่ตัวดิวะ” คนข้างๆยื่นซองบุหรี่ให้ไป
ภพกับวิคเตอร์ได้ดักฟังกันซักพัก
จู่ๆก็มีชายสองคนเอาปืนมาจ่อหลังพวกเขาเอาไว้
“ลุกขึ้นมาไอ้หนู”
ภพกับวิคเตอร์ลุกขึ้นมาอย่างตกใจ
โดยที่พวกมันสองคนก็เล็งปืนใส่ทั้งคู่
“เอ็ย พวกมึงเป็นใคร มีปืนด้วยเนี่ย” ชายคนหนึ่งถามภพไป
“เราเป็นแค่ผู้รอดชีวิตแถวนี้หน่ะครับ
แล้วนี่ก็แฟนผม” ภพบอกพวกเขาไป
“แล้วมาดักฟังอะไรพวกกูวะ”
“พวกเราแค่ผ่านทางมาเฉยๆหน่ะ” วิคเตอร์ตอบไป
“เอ๊ะ แต่อิหนูนี่น่ารักดี
น่าเอาไปให้ลูกพี่เราดูหว่ะ”
“ไม่ อย่าทำอะไรเธอนะเว้ย” ภพตะโกนห้ามแต่พวกมันก็ต่อยหน้าภพไปหนึ่งทีจนภพร่วงลงกับพื้น
จากนั้นมันพยายามจะฉุดเอาตัววิคเตอร์ไป
“เฮ้ย ปล่อยนะเว้ยพวกแก”
วิคเตอร์พยายามยื้อ
แต่พวกมันพยายามจะเอาตัวเธอไปให้ได้ ในขณะเดียวกัน
ก็มีคนมาล็อคคอชายสองคนนั้นเอาไว้
“ปล่อยเด็กไปซะ”
ชายสองคนปล่อยตัววิคเตอร์ไป
โดยที่วิคเตอร์ก็ไปดูอาการของภพที่เพิ่งจะโดนต่อย
“ภพ ไม่เป็นไรนะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก” ภพไปกอดวิคเตอร์เอาไว้ในทันที
“มึงกล้าดียังไงมาทำกับกูแบบนี้” พวกมันพูดกับคนที่มาล็อคคอเขาไว้
“ฉันสิต้องถามพวกแก แกมาทำอะไรที่นี่วะ”
“กูไม่บอก ทำไมต้องบอกวะ”
“ไม่เป็นไร ยังไงกูก็ได้รู้อยู่ดี”
เขาหักคอชายสองคนนั้นแล้วทิ้งศพเอาไว้
จากนั้นก็เดินไปหาวิคเตอร์และภพในทันที
“ไง จะไปไหนกันงั้นเหรอ”
“น้าชิต น้าฮันเตอร์ ตามพวกเรามาได้ยังไงกันครับ” ภพถามอย่างตื่นเต้น
“ทีหลังก็หัดอำพรางรอยเท้าด้วยหล่ะ” ชิตพูดกับทั้งคู่ไป
“น้าคะ พวกมันพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ทางการด้วย
ท่าทางจะหมายถึงคนที่จะมาตามหาหนูนะคะ” วิคเตอร์บอกกับทั้งคู่ไป
“จริงเหรอ ถ้าอย่างงั้นก็กลับไปกับฉันเถอะ
ที่นี่มันอันตราย” วิคเตอร์ยังคงทำหน้าลังเลอยู่
“เถอะน่า อย่างน้อยก็ไม่ตายเพราะพวกมันนะ”
“วิคเตอร์ ฉันว่าเรากลับไปกันก่อนดีกว่า
เรื่องพ่อเธอหน่ะ ฉันจะช่วยพูดให้เองนะ” ภพพยายามขอวิคเตอร์
จนวิคเตอร์พยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็รีบกลับไปยังค่ายของพวกเขาในทันที
กลับมายังบ้านของพวกนา
ซึ่งในตอนนั้นเองพวกเขาก็กำลังรอให้ชิตและฮันเตอร์พาตัวภพและวิคเตอร์กลับมา
แต่พวกเขาก็รออยู่นานจนเริ่มจะเป็นห่วงพวกเขาแล้ว
“พวกนั้นไปกันนานมากแล้วนะ” นาบอกกับคนในกลุ่มไป
“ไม่รู้หล่ะ ถ้าพวกเขาไม่กลับมา ฉันจะไปช่วยเอง” เซนพูดขึ้น
“ใจเย็นๆก่อนนะเซน พวกเขาอาจกำลังมาก็ได้” จินพยายามปรามเซนไว้
“เฮ้อ นี่ก็ใกล้จะเย็นแล้วนะเนี่ย” วายุพูดขึ้นพลางถอนหายใจ
“นั่นสิ ถ้าพวกเขาไม่มาจะทำยังไงหล่ะ” ยูกิพูดเสริม
แต่ในขณะเดียวกัน ปัดที่เพิ่งจะหายดีก็ประคองร่างของตัวเองออกมาจากห้องนอน
โดยที่ชิโระเห็นก็ไปประคองเธอมาในทันที
“ปัด เธอเป็นยังไงบ้างเนี่ย”
“ฉันไม่เป็นไรแล้วหล่ะ ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นหล่ะ” ปัดถามอย่างสงสัย
“ก็ภพกับวิคเตอร์หายตัวไปหน่ะสิเจ๊” ไผ่พูดขึ้น
“หือ หายไปไหน หายไปได้ไงอ่ะ”
“เรื่องมันยาวหน่ะค่ะ เดี๋ยวหนูเล่าให้ฟังนะคะ” อาซามิพูดขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ชิตและฮันเตอร์ก็พาตัวภพและวิคเตอร์กลับมาได้สำเร็จ โดยที่พวกเขาช่วยเปิดประตูรอต้อนรับ
จากนั้นพวกเขาก็ปิดประตูไว้เพื่อป้องกันตัว
“ปลอดภัยแล้วนะพวก เป็นยังไงบ้างหล่ะ” เอกถามไป
“ดูเหมือนพวกเราจะมีปัญหาแล้วหล่ะ” ฮันเตอร์บอกกับทุกคนไป
“หือ เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอ” เชนถามอย่างสงสัย
“ดูเหมือนมีคนกำลังตามพวกเรา พวกมันจะเอาตัวภพกับวิคเตอร์ไป
ดีพวกเราไปช่วยมาได้ก่อน”
ชิตพูดขึ้น
ทำเอาทุกคนในกลุ่มถึงกับตกใจ
“พวกมันเป็นใครกันหล่ะคะที่ทำแบบนี้” มีร์ถามอย่างสงสัย
“ไม่แน่ อาจจะพวกกุ๊ย หรือชาวบ้านในท้องที่ก็ได้” เอ็ดเวิร์ดออกความเห็น
“แล้วถ้าพวกมันมาเอที่นี่จะทำยังไงดีหล่ะ” จอห์นถามอย่างกังวล
“ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับทหารที่จะมาพาตัววิคเตอร์ไปนะครับ” ภพพูดขึ้น
“ใช่ค่ะ
หนูกับภพได้ยินที่พวกมันคุยกันด้วยเรื่องนี้” วิคเตอร์พูดเสริม
“งั้นแปลว่าพวกมันอาจตามเรามาอยู่ก็ได้” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นเราอาจต้องเจอศึกใหญ่แล้วหล่ะแบบนี้” จอห์นพูดเสริม
“อย่ารอช้าเลย ฉันว่าเราเตรียมรับมือพวกมันดีกว่า” นาโอมิพูดขึ้น
“ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีเยอะกว่าเราหรือเปล่านะคะ”
ออโรร่าพูดขึ้น
“ไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะ พวกพี่ๆเขาจัดการได้อยู่แล้ว”
รันพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามนั้นแล้วกันนะจ๊ะ”
เอลิซ่าบอกกับทุกคนในกลุ่มอีกครั้ง
กลับมายังสำนักงานทดลองของแบท
ซึ่งในตอนนั้นเองการทดลองใกล้จะสัมฤทธิ์ผลเต็มที หลังจากที่แบทกลับมา
ทางหน่วยก็มีภารกิจใหม่ให้กับแบท
ซึ่งให้เขาเตรียมการปล่อยยาให้รัศมีกระจายไปไกลครอบคลุมตัวโลก
เพื่อกำจัดเชื้อไวรัสที่มีอยู่ในตัวสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในทันทีเพื่อช่วยโลกใบนี้เอาไว้
หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ของแบทลงจอด
เขาก็เดินลงมาจากฮอ แล้วเดินเข้าไปในสำนักงานที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่
“แบท มาพอดี เขากำลังรอพบนายอยู่เลย”
“ได้เลย เดี๋ยวฉันไป”
แบทเดินเข้าไปด้านในห้องในสำนักงานซึ่งเป็นห้องทำงานของ
ผอ.หน่วยใหญ่ ซึ่งกำลังรอให้แบทกลับมาพอดี เมื่อแบทมาถึง
แบทก็รายงานตัวกับเขาทันที
“คุณแบท กลับมาจนได้นะ”
“ครับท่าน” แบทวันทยหัตถ์ใส่เขา
“อืม ตอนนี้ตัวยาของเรากำลังเสร็จสมบูรณ์หล่ะ
เหลือแค่เอามันไปปล่อยผสมกับอากาศ ซึ่งมันจะหยุดเรื่องทุกอย่างได้ทั้งหมดเลยหล่ะ”
“ครับท่าน”
“เพราะฉะนั้น ผมจะให้คุณทำงานนี้ยังไงหล่ะ”
หัวหน้าของเขาบอกไป
“ได้ครับท่าน ท่านจะให้ผมไปปล่อยที่ไหนครับ”
“ที่ไหนก็ได้ งานนี้ต้องทำอย่างลับๆ
เพราะผมเชื่อว่ามีบางกลุ่มพยายามจะชิงยาตัวนี้ไปขายในตลาดมืดอยู่”
“ท่านคิดว่ามีเกลือเป็นหนอนเหรอครับ”
แบทถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่ได้คิด แต่มั่นใจเลยหล่ะ
แต่เราต้องอย่าเพิ่งเปิดเผยตัวว่าเรารู้ ไม่งั้นมันอาจจะเอายาไปก็ได้ เพราะฉะนั้น
ฉันจะส่งมอบยาให้นายอย่างลับๆ รู้กันแค่เราสองคน นายรู้นะว่าต้องทำยังไง”
“ทราบครับท่าน” แบทตอบไป
“อืม ไปจัดการตามนั้นก็แล้วกัน”
ณ
บนทางหลวงเส้นหนึ่ง
ซึ่งหน่วยรบพิเศษกำลังขับรถมาเรื่อยๆเพื่อไปยังเป้าหมายที่พวกเขาต้องไป
พวกเขาขับมาเรื่อยๆเพื่อหลบหนีจากกลุ่มชาวบ้านท้องถิ่นที่ตามล่าตัวพวกเขาอยู่
โดยที่มีการใช้ GPS นำทางไปยังเป้าหมายด้วยเพื่อความแม่นยำในการนำทาง
โดยที่หัวหน้าหน่วยก็รีบโทรติดต่อหน่วยแม่ในทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
“เรียกศูนย์ๆ จากสตาร์วัน ตอบด้วย”
“ว่ายังไงครับผู้กอง”
“ตอนนี้เรากำลังโดนหนักเลย
กองกำลังท้องถิ่นกำลังตามล่าเรา ตอนนี้ผมขับรถที่ขโมยมาไปตามเป้าหมายอยู่
ผมไม่รู้ว่าจะมีกำลังเสริมมาช่วยหรือเปล่า”
“ตอนนี้เรากำลังหากองกำลังใกล้เคียงเพื่อช่วยเหลือคุณอยู่
ไม่ต้องห่วงไป”
“วันก่อนคุณก็พูดแบบนี้นั่นแหละ”
“อย่าห่วงเลย เราจับตามองพวกคุณอยู่”
“เอาที่สบายใจเลยพวก ถ้าได้เรื่องยังไงก็อย่าลืมติดต่อมาก็แล้วกัน”
“ได้ครับ เราจะรีบประสานงานให้ด่วนเลย”
จากนั้นสายก็ตัดไป
“หมายความว่าเขาจะลอยแพพวกเราอย่างงั้นเหรอครับ”
ลูกน้องคนหนึ่งถามไป
“อาจจะเป็นอย่างงั้น”
ผู้กองตอบกลับไป แต่จู่ๆ ก็มีรถมอไซค์และรถกระบะบางส่วนไล่ตามพวกเขามา
ซึ่งพวกนั้นพกปืนมาด้วย แล้วพยายามจะไล่ยิงพวกเขา
“ปังๆๆ”
พวกเขารีบหาที่หลบกันให้วุ่น
จากนั้นก็ยิงตอบโต้ไป
“บ้าเอ้ย พวกมันมาจากไหนกันเนี่ย”
“คงจะพวกกองกำลังท้องถิ่นนั่นแหละ”
“แล้วพวกมันร็ได้ไงเราจะมาที่นี่”
“เสียงรถดังขนาดนั้น ไม่รู้ก็หูหนวกแล้วหล่ะ”
พวกเขาแซวกันจากนั้นก็ยิงสู้กับพวกมันไป
พวกมันมอไซค์ล้มบางส่วนเนื่องจากโดนยิงเข้าอย่างจัง
แต่พวกมันยังคงไล่ตามพวกเขาอย่างไม่ลดละ
“บ้าเอ้ย เราตายกันหมดแน่เลย”
“เออๆ แล้วเมื่อไหร่จะถึงหล่ะเนี่ย”
ผู้กองได้ถามลูกน้องของเขา
“อีก 30 กิโลเมตรครับผม”
“รีบไปจากที่นี่เถอะ ไม่งั้นเราตายแน่”
พวกเขารีบยิงสกัดพวกมันไม่ให้เข้ามา
แต่จู่ๆพวกมันก็ยิงโดนไหล่ของทหารคนหนึ่งจนล้มลงคากระบะ
พวกเขาต้องรีบมาช่วยดูในทันที
“ช่วยด้วย แพตตันถูกยิง”
“ฉันพอไหวน่าดราโก้ สู้กับพวกมันสิ”
ดราโก้ยิงสกัดกับพวกมันอย่างดุเดือด
เขาเล็งไปที่หน้ากระจกรถของพวกมัน จากนั้นก็ยิงเข้ากระจกไปอย่างจังๆ
ทำเอารถกระบะเสียหลักแล้วคล่ำกลางถนน
ส่วนรถคันอื่นๆก็โดนลูกหลงไปด้วยจนพวกมันตามมาไม่ทันแล้ว
เมื่อพวกเขาหนีพ้นจากพวกมัน พวกเขารีบจอดรถลงข้างทางเพื่อมาดูคนเจ็บในทันที
“เฮ้ย แพตตัน ทำใจดีๆไว้นะเว้ย”
พวกเขาช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนเจ็บอย่างเร่งด่วน
“ดีนะเนี่ยที่โดนแค่เฉี่ยวๆหน่ะ”
“แค่นี้ผมไหวครับหัวหน้า”
“ว่าแต่ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนแล้วเนี่ย อีกไกลมั้ย”
ผู้กองคนนั้นถามลูกน้องของเขาอีกครั้ง
“อีกแค่ 5 กิโล เราเดินไปก็ได้นะครับ”
“ขับรถต่อไป แพตตันเดินไม่ไหวหรอก”
ผู้กองคนนั้นบอกไป จากนั้นพวกเขาก็รีบไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทางกันต่อไป
ณ
หมู่บ้านแห่งหนึ่งในป่าตีนภูเขา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของพวกของนาพอสมควร
ซึ่งหมู่บ้านแถวนั้นดูค่อนข้างจะอดุมสมบูรณ์ แต่ชาวบ้านขาดแคลนเชื้อเพลิงอาวุธ
ซึ่งพวกเขาต้องหาจากด้านนอกซึ่งก็หายากในช่วงเวลาแบบนี้ ในขณะเดียวกัน
หัวหน้าหมู่บ้านคนหนึ่งก็เดินมาตรวจตราว่าพวกลูกบ้านทำงานกันเป็นยังไงบ้าง
“เอ้าๆ เป็นยังไงบ้างหล่ะ เก็บข้าวไปถึงไหนแล้ว”
“จ้า ตอนนี้กำลังเก็บอยู่จ้า น่าจะได้เยอะนะคะ”
“เออๆ ถ้าได้เนื้อมาก็เอามาตากแห้งด้วยหล่ะ
จะได้เก็บได้นานๆ”
“จ้าหัวหน้า”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่
จู่ๆชาย 5 คนก็แบกร่างของคน 2 คนที่เพิ่งจะโดนหักคอมา
แบกมาให้กับหัวหน้าหมู่บ้านได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวหน้าหมู่บ้านคนนั้นเห็นก็รีบมาถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที
“อ้าว ไอ้สองตัวนี้มันเป็นอะไรไปวะ”
“มันตายแล้วครับหัวหน้า มันโดนหักคอตาย”
“อ้าว มันไปทำอะไรมาถึงโดนหักคอหล่ะวะ”
“ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่น่าจะโดนใครฆ่าตายก็ได้”
“แล้วใครจะไปฆ่ามันหล่ะวะ”
“ก็อาจจะได้ผู้รอดชีวิตแถวๆนั้นก็ได้จ้ะ
ในตอนนั้นฉันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากในป่า พอไปดูก็เห็นมันสองคนตายห่าแล้วจ้ะ”
“งั้นเหรอ พวกมันเป็นใครกันวะ ถ้าอย่างงั้นให้พรานเส้งแกะรอยพวกมันไป
แล้วจัดการพวกมัน ไปเรียกพวกมาให้เยอะๆเลยนะเว้ย”
“จ้ะนาย”
พวกลูกบ้านแถวนั้นพอได้ยิน
ก็เตรียมอาวุธเพื่อออกตามล่ากลุ่มคนที่ฆ่าลูกบ้านสองคนนี้ตายในทันที
กลับมายังบ้านหลังใหญ่ของกลุ่มของนา
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับวิคเตอร์และภพ พวกเขาก็เตรียมการเสริมแนวป้องกันกำแพงรั้วของพวกเขา
เพื่อรับมือกับกลุ่มคนที่จะมาตามไล่ล่าพวกเขา หลังจากที่เสร็จงานเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาก็มานั่งปรึกษาหารือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที
“เอาหล่ะ ตอนนี้กำแพงเราเป็นยังไงบ้างหล่ะ”
ชิโระถามฮันเตอร์ไป
“ตอนนี้เราเสริมได้บางส่วน แต่ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มหน่ะ”
ฮันเตอร์พูดขึ้น
“แล้วชิต เรื่องอาวุธเราเป็นยังไงบ้างหล่ะ”
ชิโระถามชิตต่อ
“พวกเราเสียกระสุนไปเยอะตอนไล่ต้อนซอมบี้พวกนั้น
แต่ก็พอสู้กับพวกมันอยู่นะ”
ชิตพูดขึ้น
“เอาหล่ะ ฉันว่าดูทรงแล้ว
พวกนั้นคงไม่มีอาวุธอะไรมากหรอก” จินพูดขึ้น
“อาจจะใช่ 2 คนที่พวกเราฆ่าพกแค่ปืนยาวเฉยๆหน่ะ”
ชิตพูดขึ้น
“แบบนี้เราอาจจะสู้พวกมันได้ก็ได้”
ฮันเตอร์ออกความเห็น
“แต่ว่า ถ้าพวกมันมีมากกว่านั้นหล่ะครับ”
วายุถามขึ้น
“จะกลัวอะไรล่ะ พวกมันจะเก่งซักแค่ไหนกันเชียว” เอกพูดขึ้น
“เรื่องนี้เราต้องคิดอะไรรัดกุมนิดนึงนะครับ
ผมว่าชาวบ้านแถวนี้อาจจะมีเยอะก็ได้ ถ้าพวกเขาล้อมที่นี่ไว้
พวกเราอาจจะไม่รอดก็ได้” นาบอกกับคนในกลุ่ม
“นั่นสิ ไม่แน่เราอาจต้องไปจากที่นี่ก็ได้” จินพูดขึ้น
“ไปจากที่นี่ก็ดีนะครับ จะได้เริ่มอะไรใหม่ซะที” ภพพูดขึ้น
“ใช่ๆ หนูว่าเราหนีไปจากที่นี่ดีกว่า
ไม่งั้นเราอาจไม่รอดนะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“แล้วเราจะไปที่ไหนหล่ะ
ป่านนี้พวกนั้นไม่ล้อมเราไว้แล้วเหรอ” เซนออกความเห็น
“ความจริงเราน่าจะติดต่อชายคนนั้น
ให้มาช่วยรับเราไปนะครับ”
ปกรณ์ออกความเห็นขึ้น
“อย่าไปรบกวนพี่เขาเลยครับตอนนี้” ภพพูดแย้งไป
“แล้วชาวบ้านพวกนี้มันจะแค่ไหนเชียวหล่ะ” เอกพูดขึ้น
“นั่นดิ เราน่าจะรับมือได้สบายนะ”
วายุพูดเสริม
“แต่เราก็ไม่ควรประมาทนะคะ
เพราะเรายังไม่รู้พวกมันมีเยอะหรือเปล่า” อาซามิออกความเห็น
“นั่นสิ ไม่รู้พวกนั้นจะมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า” มีร์ออกความเห็นเสริม
“ตอนนี้เสบียงของเราพอจะขนไปจากที่นี่ได้หรือเปล่าคะ”
ยูกิถามไป
“ตอนนี้อาจจะเอาไปได้ไม่หมดนะจ๊ะ”
เอลิซ่าพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้น เราควรจะทำลายเสบียงบางส่วน
ไม่ให้พวกมันเอาไปใช้นะ” นาโอมิออกความเห็น
“ความคิดดีนะครับ น่าจะเอามารวมกันแล้วจุดไฟเผาเลย” ไผ่พูดขึ้น
“แล้วนี่ พวกนั้นจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่หล่ะ”
เชนถามคนในกลุ่ม
“อ้อ คาดว่าถ้าโชคดี อาจจะพรุ่งนี้นะครับ”
นาพูดขึ้น
“เฮ้อ สุดท้ายก็ต้องส็กับพวกมันอีกแล้วสินะ”
ปัดพูดขึ้น
“ชีวิตมันก็คือการต่อสู้ที่ไม่มีสิ้นสุดหน่ะสิ”
ชิโระพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นก็เอาเถอะ
เราเตรียมไปรับมือพวกมันดีกว่า” จอห์นพูดขึ้น
จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปเตรียมรับมือศัตรูใหม่ที่กำลังจะบุกมาถึงที่นี่
=====================================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
อย่าลืมไปซับแนลผมเน้อ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber
ความคิดเห็น