ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #29 : EP 23 : เวลาแห่งความมืดมิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 91
      3
      22 เม.ย. 62

    ตกเย็น พวกของนอร์รีนที่ตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นคนออกไปด้านนอก พวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆจนมาถึงโกดังของมาร์คที่กำลังวุ่นวาย เนื่องจากความเสียหายมันมากเกินจะคาด แล้วทหารส่วนใหญ่ของเวร่าที่มาเฝ้าโกดังของมาร์คก็ยังถูกย้ายไปคุ้มกันเวร่าอีก เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็ใช้กล้องส่องทางไกลดูในความเคลื่อนไหวด้านในทันที

    นอร์รีน : มองเห็นอะไรกันมั้ยครับทุกคน

    คีธ : เห็นครับ เห็นยามติดอาวุธสิบกว่าคน แต่ดูท่าจะเป็นพวกมือใหม่หน่ะครับ

    ทาเคชิ : ดูท่านะครับ พวกมันคงจะโอนคนส่วนใหญ่ไว้ที่ไหนนี่หล่ะ

    อัลเบิร์ต : หรือว่า มันจะส่งคนมาจัดการเราที่บ้านเราหล่ะ

    ซีโร่ : ถ้าแบบนั้นคงต้องรีบกลับแล้วหล่ะครับ พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

    ในขณะเดียวกันที่ยูจีนส่องกล้องอยู่ ยูจีนก็เห็นมาร์คที่กำลังคุยกับลูกน้อง เธอเห็นเขาทำให้เธอจำได้ในทันทีว่ามันเป็นใคร ยูจีนถึงกับกำหมัดแน่น มินโฮสงสัยจึงได้ถามเธอ

    มินโฮ : ยูจีน นี่เธอรู้จักไอ้หมอนั่นอย่างงั้นเหรอ

    ยูจีน : ยิ่งกว่ารู้จักอีก ไอ้หมอนี่มันเคยมาโกงของๆเรา ลูกน้องมันคนนั้นฆ่าแฟนเก่าฉันตายหน่ะ

    อลัน : แล้วแบบนี้คุณจะเอายังไงต่อดีหล่ะครับ
    ยูจีน
    : ฉันจะไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้เลย

    แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น พวกเขาหาที่หลบกันให้วุ่น

    สไนเปอร์ หาที่หลบเร็ว

    นอร์รีนตะโกนออกไป แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาดันเห็นซีโร่ถูกยิงที่หน้าอก โดยที่ซีโร่ก็ล้มลงไปในทันที

    มินโฮ : ซีโร่ ทำใจดีๆเอาไว้นะ

    ซีโร่ : พี่ครับผม….

    ยูจีน : ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ ฉันจะพาเธอกลับบ้านเอง

    ทาเคชิ : อัลเบิร์ต วอบอกซุนฮยอนให้หน่อยว่ามีคนโดนยิง // อัลเบิร์ตวอหาซุนฮยอน

    อัลเบิร์ต : ซุนฮยอน มีคนถูกยิง รีบเอาเครื่องมือของนายมาด่วนเลย

    แต่ไม่ทันไร วิทยุของพวกเขาก็โดนยิงจนพัง ทำเอาพวกเขาต้องทุลักทุเลหามซีโร่กลับไป แต่ในตอนนั้นเองคีธก็โดนยิงเข้าที่กลางหลังอีกคน ทำเอาอลันต้องไปช่วยเขา

    อลัน : ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะพาคุณไป

    คีธ : ระวังครับ // คีธผลักอลันหนีออกไป กระสุนโดนเข้าอีกทีที่ไหล่ขวา แต่คีธยังประคองตัวไหว จากนั้นเขาก็แย่งปืน M4A1 ของคนอื่นมาในทันทีเพื่อทำอะไรบางอย่าง

    คีธ : ผมรู้ตำแหน่งของมัน ทุกคนหนีไป ผมจะยิงล่อมันให้เอง ไปเร็ว

    คีธยิงปืนใส่ไปยังเป้าหมาย จากนั้นคนอื่นๆก็รีบวิ่งออกมา โดยที่พวกเขาต้องรีบแบกซีโร่ไปรักษาด้วย

    ยูจีน : อยู่กับพี่ไว้นะซีโร่ พี่ขอโทษ

    ซีโร่ : ฝากบอกบารีร่า ผมรักเธอมาก เอาของนี่ไปให้เธอด้วย

    จากนั้นไม่นานซีโร่ก็ขาดใจตายในอ้อมกอดของยูจีน แต่เธอยังคงแบกร่างของซีโร่เอาไว้เพื่อเอากลับไปฝังไว้ที่บ้านของนอร์รีน

    และทางด้านโกดังของมาร์ค มาร์คได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา เขาจึงสั่งให้คนไปคุ้มกันโกดังของเขาอย่างหนาแน่น

    มาร์ค : นี่มันอะไรกัน ใครมาบุกที่ของฉันเนี่ย

    ผมก็ไม่รู้ครับนาย

    มาร์ค : สั่งคนของเราไปคุ้มกันไว้ด้วย

    และในขณะเดียวกัน เวร่าและทหารของเธอก็เคลื่อนพลมาถึงโกดังของมาร์ค จากนั้นเธอก็รีบมาหามาร์คในทันที

    เวร่า : มาร์ค ฉันคิดถึงคุณจังเลยที่รัก

    มาร์ค : อ้าว ไหนว่าคุณจะไปคุ้มกันค่ายของคุณไง

    เวร่า : เซบาสเตียนตีค่ายของเราจนแตก ฉันกับพวกที่เหลือหนีมาได้หน่ะ

    มาร์ค : เห็นทีจะไม่ได้การซะหล่ะ

    เวร่า : เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะมาร์ค

    มาร์ค : พวกมันกลับมาอีกแล้ว เราต้องรีบไปจากประเทศนี้ด่วนเลย

    เวร่า : เราจะหนีไปได้ยังไงหล่ะคะ

    มาร์ค : ผมมีเครื่องบินส่วนตัวอยู่ รอเดี๋ยวนะ // มาร์คเรียกลูกน้องของเขามาพบ

    มาร์ค : เฮ้ย เครื่องบินของฉันจะมาถึงเมื่อไหร่วะ

    เร็วที่สุดคงจะพรุ่งนี้ช่วงเย็นครับ

    เวร่า : ดีมาก แล้วเราจะไปขึ้นเครื่องที่ไหนหล่ะ

    สนามบินดอกซาร์ครับ

    มาร์ค : ใช่ ที่นั่นเป็นสนามบินร้าง ผมสั่งให้คนไปเคลียร์รันเวย์แล้วหล่ะ

    เวร่า : ฉันจะจัดคนไปคุ้มกันสนามบินเอง

    มาร์ค : ครับ ยังไงก็ฝากคุณด้วยนะครับ

     

    และที่ห้องของซุนฮยอน ในตอนนั้นเองที่ซุนฮยอนรับสายจากอัลเบิร์ต แต่สายก็ถูกตัดไป ทำเอาคนอื่นๆสงสัยกันมาก

    มีกัส : เฮ้ย ซุน ทางนั้นพูดอะไรมาบ้างหล่ะวะ

    ซุนฮยอน : เขาบอกว่ามีคนโดนยิงมา ให้เราเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือหล่ะ

    ยู่อี๋ : ถ้างั้นฉันจะไปเตรียมของให้นะคะ

    จียอน : ฉันไปด้วย ฉันพอจะรู้เรื่องยาอยู่นะ

    ไซม่อน : แล้วใครโดนยิงกันหล่ะฮะ พอรู้มั้ย

    ซุนฮยอน : ทางนั้นตัดสายไป ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหน่ะ

    ริกโก้ : หรือว่าทางนั้นจะโดนยิงวิทยุหน่ะ

    ชิสา : ขอร้องหล่ะ อย่าให้มีคนตายอีกเลยนะคะ

    ไคล่า : ใช่ค่ะ เราไม่อยากเห็นใครตายอีกแล้ว

    จูซม : คีธ คีธจะเป็นอะไรหรือเปล่า บอกฉันมานะ // เธอไปกระชากแขนซุนฮยอน

    อามินะ : นี่ ใจเย็นๆสิ อาจจะไม่ใช่เขาก็ได้

    ซนแซ : แล้วตอนนี้สองคนนั้นเตรียมยาไปถึงไหนแล้วเนี่ย // ซึ่งจากนั้นไม่นาน ยู่อี๋และจียอนก็เอายามาให้ซุนฮยอน

    จียอน : ยาที่เหลือมีแค่นี้ ยังไงก็ใช้ประหยัดๆนะคะ

    ยู่อี๋ : เอาน่า ตอนนี้ก็ใช้ๆไปก่อนเถอะ ให้รักษาคนได้ก็พอ

    ไซม่อน : ฉันว่าฉันจะออกไปดูพวกเขาซักหน่อยนะฮะ

    ชิสา : อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวจะมีใครเป็นอะไรไปอีก

    ริกโก้ : พวกเขาติดต่อกลับมาไม่ได้ ท่าจะลำบากแล้วหล่ะครับ

    มีกัส : แล้วเราจะรอแบบนี้เฉยๆอย่างงั้นเหรอ

    ไคล่า : ใจเย็นๆสิคะ พวกเขาอาจกำลังกลับมาก็ได้

    จูซม : ถ้างั้นฉันจะไปเฝ้าที่ประตูหน้าเองนะ

    อามินะ : ฉันขอไปด้วย เธอไปคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ

    ซนแซ : เฮ้อ ขออย่าให้มีใครเป็นอะไรไปนะ

    และที่ด้านนอก ในตอนนั้นเองบารีร่าเผลอทำตุ๊กตาที่ซีโร่ให้ตกลงไปในเตาผิงไฟ เธอพยายามจะเอากลับออกมาแต่ไม่ทันซะแล้ว มิเชลลากเธอออกมาก่อนที่เธอจะไปหยิบต่อ

    มิเชล : ล่างมันเถอะบารีร่า เดี๋ยวเราก็มีตัวใหม่เองนะ

    และในตอนนั้นเอง ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดที่ด้านหน้าบ้าน จากนั้นอนูวาก็พาตะวันเข้ามาในบ้านโดยที่คนอื่นๆก็มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น

    อลิซ : อ้าว คุณตะวัน นึกว่าคุณกลับไปแล้วซะอีกนะเนี่ย

    อนูวา : อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย เอาวิทยุของฉันมาทางนี้หน่อยสิ

    อลิซวิ่งไปหยิบวิทยุสื่อสารของอนูวาที่เธอเพิ่งจะซ่อมเสร็จมาให้ จากนั้นเธอก็เอามาให้กับตะวันในทันที ตะวันจูนคลื่นสัญญาณเล็กน้อยเพื่อติดต่อกลับไปยังหน่วยของเขา

    หมีดำเรียกอินทรีย์ ตอบด้วย

    อินทรีย์รับทราบเปลี่ยน ว่าไงครับผู้พัน

    มีคนดักซุ่มโจมตีพวกเรา พวกของผู้กองอรุณตายหมดเลย

    แล้วคุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า เปลี่ยน

    ผมไม่เป็นไร

    อ้อ เราก็เพิ่งได้รับแจ้งมา ตอนนี้เราไปเก็บร่างของพวกเขามาแล้ว

    ขอบคุณมาก หมีดำเลิกกันจากนั้นสัญญาณก็ดับไป

    มิสซึ : พวกไหนกันที่มันมาโจมตีคุณเนี่ย

    ฮาน่า : ก็คงจะเป็นพวกรัฐบาลที่จะสร้างสถานการณ์นั่นแหละ

    ไลฟ์ : แล้วแบบนี้คุณตะวันจะทำยังไงต่อหล่ะเนี่ย

    เอจิ : ผมว่า คุณตะวันคงต้องอยู่ที่นี่ซักพักแล้วหล่ะ

    บารีร่า : แย่จังเลยนะคะพี่ตะวันแบบนี้

    และในขณะเดียวกัน พวกของนอร์รีนก็แบกร่างของซีโร่กลับมา ทุกคนที่อยู่ด้านในมาดูสถานการณ์ นอร์รีนถึงกับพูดออกมา

    ซีโร่ตายแล้ว

    บารีร่าได้ยินถึงกับร้องไห้ ยูจีนพยายามไปปลอบใจเธอ แต่โดนบารีร่าตบหน้าจากนั้นก็เข้าไปในห้อง

    อลิซ : บารีร่า กลับมาขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้เลยนะ

    ยูจีน : ไม่เป็นไรหรอก ฉันสมควรโดนแล้วหล่ะ

    จูซม : แล้วคุณคีธไปไหนหล่ะคะ // พวกของนอร์รีนทุกคนทำหน้าเศร้า เรื่องนี้ทำเอาจูซมถึงกับคุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงนั้น บรรยากาศข้างในช่างหดหู่เหลือเกิน

    อลัน : คีธเสียสละตัวเองช่วยให้เราหนีหน่ะครับ

    เอจิ : แล้วรู้มั้ยครับว่าพวกมันเป็นใครกัน

    มินโฮ : คุณยูจีนบอกว่ามันเคยเป็นโจรมาที่นี่หน่ะครับ

    ไลฟ์ : แหม่ โลกมันกลมจริงๆ ทำไมกันเนี่ย

    มิสซึ : แล้วแบบนี้พวกมันจะกลับมาหรือเปล่าหล่ะ

    ทาเคชิ : ไม่หรอกครับ ผมรับรองได้เลย

    ฮาน่า : แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะเนี่ย

    มิเชล : ฉันว่าเราพาซีโร่ไปฝังไว้ดีกว่าค่ะ

    ยูจีน : ฉันขุดหลุมเอง เขาต้องตายเพราะฉัน

    ยูจีนแบกร่างของซีโร่ไปหลังบ้าน จากนั้นก็ขุดหลุมอยู่คนเดียว แล้ววางร่างของซีโร่แล้วกลบฝังเอาไว้

     

    ในห้องของบารีร่า เธอร้องไห้อย่างหนักเนื่องจากการตายของซีโร่ จนกระทั่งเธอเหลืออด เธอแอบขึ้นไปบนชั้นสามของอพาร์ทเม้นท์ เธอปีนไปบนยอดที่สูงที่สุด จากนั้นเธอก็กระโดลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอตกลงมาต่อหน้ายูจีน ยูจีนถึงกับตกใจมาก ยูจีนนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงนั้นในทันที

    บารีร่า พี่ขอโทษ

    ยูจีนขุดหลุมให้บารีร่าอีกครั้ง โดยคราวนี้เธอฝังร่างของบารีร่าไว้พร้อมกับซีโร่ เพื่อที่จะให้พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดไป จากนั้นเธอก็เอากำไลข้อมือของเธอมาไว้บนหลุมศพเธอด้วย คนอื่นๆตามออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก

    อลิซ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นยูจีน

    ยูจีนไม่พูดอะไรเดินเข้าไปในห้องของเธอ ปล่อยให้พวกเขามองดูหลุมศพของซีโร่ที่มีกำไลข้อมือสุดหวงของบารีร่าอยู่บนนั้นด้วย พวกเขาเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

    และในห้องเปลี่ยวๆของจูซม เธอเสียใจร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอตัดสินใจเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ และในตอนนั้นเอง เพื่อนๆของเธอก็จะเอาน้ำมาให้เธอกินเนื่องจากกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป

    ชิสา : จูซม ฉันไปเอาน้ำมาให้เธอ น้ำมะนาวที่เธอชอบด้วยนะ

    แต่ในตอนนั้นเอง พวกเธอก็เห็นร่างของจูซมที่ถูกแขวน เธอแขวนคอตัวเองตาย เพื่อนๆของเธอทั้งตกใจและเสียใจกันมาก เธอต้องเรียกพวกผู้ชายให้เอาตัวเธอลงมา จากนั้นเธอก็ให้พวกผู้ชายช่วยฝังร่างของจูซมไว้แถวนั้นด้วย และในตอนนั้นเอง ไคล่าก็เอาจดหมายลาตายที่จูซมเขียนมาอ่านให้คนอื่นๆฟังด้วย

    ทุกคน ถ้าพวกเธอได้อ่านข้อความนี้ พวกเธอคงรู้ว่าฉันคงไม่อยู่กับพวกเธอแล้ว ฉันไม่รู้จะทำยังไง ความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน ถูกทำลายย่อยยับเพราะสงครามบ้าๆนี่ ฉันรักคีธมาก จนไม่อยากเสียเขาไป แล้วอีกอย่าง ฉันคิดว่าฉันท้องกับเขาแล้ว ฉันจะมีหน้าไปบอกลูกของฉันได้ยังไง พวกเธอคงเข้าใจฉันนะ ถึงยังไง ฉันก็ขอให้พวกเธอกลับบ้านให้ได้นะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้เสมอ

    ยู่อี๋ : จูซม อโหสิกรรมให้ฉันด้วยเถอะนะ

     

    กลับมายังกระท่อมลึกลับแห่งหนึ่งในตัวเมือง เอสเมอรันด้าพาประธานาธิบดีมาหลบภัยที่นั่น จากนั้นเธอก็เช็คกระสุนและวางแผนป้องกันบ้านของเธอเผื่อมีใครตามมา

    เอสเมอรันด้า : อยู่ที่นี่เราคงจะปลอดภัยนะ

    อดัมส์ : นี่ฉันไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆเหรอเนี่ย

    เอสเมอรันด้า : ใครว่าหล่ะ คุณยังมีฉัน มีลูกที่ยังรอคุณอยู่นะ

    อดัมส์ : ผมมันโง่เอง ผมคิดว่ามีทุกอย่างแล้วมันจะปกป้องผมได้

    เอสเมอรันด้า : อย่าโทษตัวเองแบบนั้นเลยนะคะ

    และในขณะเดียวกัน จู่ๆก็มีชายกลุ่มหนึ่งติดอาวุธบุกเข้ามา เอสเมอรันด้าเล็งปืนใส่พวกมัน

    เอสเมอรันด้า : พวกแกเป็นใครกันแน่

    นั่นประธานาธิบดีอดัมส์นี่ เราเป็นคนของโจเซฟ เราต้องพาคุณไปที่ค่ายของนายเรา

    เอสเมอรันด้า : นี่แกจะพาเขาไปทำไมกันหล่ะ

    อดัมส์ : เอาเลย พาฉันไปเลย

    พวกมันเอาตัวอดัมส์กลับไปยังค่ายของโจเซฟ ซึ่งคนของโจเซฟแต่ละคนล้วนแต่รังเกียจเขามาก ตะโกนด่าทออดัมส์อย่างไม่มีชิ้นดี จากนั้นพวกมันก็พาเขาไปหาโจเซฟที่กำลังนอนเจ็บอยู่ โจเซฟเจอกับอดัมส์อีกครั้ง เขาลุกขึ้นมาพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่ง

    มากิ : คุณออกไปรอข้างนอกดีกว่านะคะ // มากิเชิญเอสเมอรันด้าออกไปด้านนอก จากนั้นโจเซฟกับอดัมส์ก็อยู่คุยกันลำพัง

    โจเซฟ : สวัสดี ไอ้เพื่อนทรยศ วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะ

    อดัมส์ : แกอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะวะ

    โจเซฟ : อ้อ เข้าใจแล้วหล่ะ อำนาจที่แกมีมันกลับมาเล่นงานแกใช่หรือเปล่าหล่ะ

    อดัมส์ : เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก

    โจเซฟ : งั้นเหรอ แล้วเรื่องที่แกกวาดล้างชาวเซิร์บตามชายแดนหล่ะ

    อดัมส์ : มันเป็นกฎหมาย ฉันต้องจัดการเรื่องนี้นี่หว่า

    โจเซฟ : งั้นเหรอ กฎหมายที่พวกลิ่วล้อแกคิดค้นแต่แกต้องมารับกรรม เราเคยซี้กันรู้ใช่ไหม แม้ว่าแกจะโลภมากขายพวกเราก็ตาม ภารกิจของเรา

    อดัมส์ : ฉันไม่มีทางเลือกถึงต้องทิ้งพวกแก

    โจเซฟ : งั้นเหรอ งั้นก็ไปคุยกับเพื่อนๆเราในนรกก็แล้วกัน // โจเซฟเล็งปืนจ่อหัวอดัมส์

    อดัมส์ : ก็ลองดูสิ ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่

    ทั้งคู่จ้องมองตากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน บรรยากาศด้านในช่างกดดันเข้าไปทุกที และที่ด้านนอก มากิก็พาเอสเมอรันด้าไปที่ห้องรับรองแขกก่อน ในระหว่างที่มากิกำลังจะออกจากห้อง เอสเมอรันด้าก็ตะโกนถามมากิทันที

    เอสเมอรันด้า : แล้วเขาจะเป็นอะไรไหม

    มากิ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนค่ะ ยังไงก็รอดูก่อนดีกว่านะ

     

    และที่กระท่อมแห่งหนึ่ง ซึ่งหน่วยดอว์นซอร์ดเอารถมาจอดไว้ จากนั้นก็รีบแบกเควินลงจากรถ ในตอนนั้นเองอเล็กซ่าก็รีบจัดการผ่าตัดช่วยเหลือเขาในทันที

    อเล็กซ่า : อดทนไว้นะ นายต้องไม่เป็นอะไร

    เควิน : ช่างมันเถอะอเล็กซ่า ฉันคงไม่รอดแล้ว

    อเล็กซ่า : ไม่ นายอดทนไว้ก่อนนะ เดี๋ยวนายก็หายแล้ว

    อเล็กซ่าพยายามจะช่วยชีวิตเขาไว้ แต่เควินจับมืออเล็กซานเดอร์เอาไว้

    เควิน : หัวหน้า ผมรู้ว่าหัวหน้าไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ แต่ผมขอได้ไหมครับ ช่วยดูแลอเล็กซ่าและลูกทีมเราด้วย อย่าให้พวกเราต้องตายฟรีเลยครับ

    อเล็กซานเดอร์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก จากนั้นเองเควินก็สิ้นลมไปต่อหน้าอเล็กซ่า อเล็กซ่าถึงกับร้องไห้ออกมาในทันที

    อเล็กซ่า : เควิน ฉันขอโทษ!!

    คาสเตอร์ : ไอ้บ้าเอ้ย หัวหน้า รีบไปฆ่าพวกมันเลยดีกว่า // ในตอนนั้นเองอีริคลากตัวคาสเตอร์ไปติดกำแพง

    อีริค : นายจะบ้าเหรอ พวกมันมีกันมากกว่าเรานะเว้ย

    คาสเตอร์ : แล้วจะให้ฉันรอแบบนี้ต่อไปอย่างงั้นเหรอ

    อีริค : ฉันแค่อยากให้นายคิดให้มันเยอะๆนะเว้ย ใช้สมองบ้างสิ

    คาสเตอร์ : ใช้สมองเหรอ แล้วคนต่อไปจะเป็นใครหล่ะ อเล็กซ่า แก ฉัน หรือว่าหัวหน้าหล่ะวะ

    อีริค : โธ่เว้ย ไอ้บ้านี่

    ซิลเวสเตอร์ : พอซะทีได้ไหม ถ้าพวกแกยังเป็นแบบนี้ เควินนอนตาไม่หลับแน่

    อเล็กซานเดอร์ : เซบาสเตียนต้องมีคำตอบกับเรื่องนี้

    ซิลเวสเตอร์ : แล้วเราจะทำยังไง ตอนนี้เขาคงกุมอำนาจการทหารไว้ทั้งหมดแล้วหล่ะ

    อเล็กซานเดอร์ : ฉันจะโจมตีเร็ว ไม่ให้มันตั้งตัวได้เลย

    ซิลเวสเตอร์ : ถ้างั้นก็แล้วแต่นาย แต่ถ้านายจะทำ นายต้องลงมือเดี๋ยวนี้เลย

    อเล็กซานเดอร์ : อเล็กซ่า เธอดูแลเควินซะ เรื่องนี้พวกเราจะจัดการเอง

    อเล็กซานเดอร์ถือปืนกลของเขาเดินออกไป โดยที่คนอื่นๆก็ตามเขาออกไปด้วย

     

    ณ ค่ายทหารของเซบาสเตียน หลังจากที่เขาได้รับการรักษาแขน เขาก็ลุกขึ้นมาจากเตียงอีกครั้งเพื่อบัญชาการรบ ในคราวนี้เขาสั่งให้หน่วยทหารของเขาทั้งหมดเตรียมพร้อมบดขยี้ข้าศึกครั้งสุดท้าย และในตอนนั้นเอง เขาก็เรียกลูกน้องของเขามาเพื่อถามสถานการณ์โดยรวมในตอนนี้

    ท่านครับ แขนหายดีแล้วนะครับ

    เซบาสเตียน : ไม่เป็นไรหรอก ฉันเตรียมเงินไว้ทำแขนเทียมหล่ะ รายงานสถานการณ์ให้ฉันฟังหน่อยสิ

    ครับ ตอนนี้เราเข้าประชิดโซนในของเมืองแล้ว คาดว่าถ้าไม่มีอะไรพลาด มะรืนนี้เราน่าจะยึดได้เบ็ดเสร็จครับ

    เซบาสเตียน : ดีมาก แล้วตัวประธานาธิบดีหล่ะ

    ตอนนี้เรากำลังหาตัวเขาอยู่ครับ เอสเมอรันด้าน่าจะพาไปซ่อนตัวที่ไหนซักแห่ง

    เซบาสเตียน : ยัยบ้านี่ น่าจะฆ่ามันตั้งนานแล้ว แล้วพวกดอว์นซอร์ดกับยัยเวร่าหล่ะ

    ตอนนี้พวกมันหนีไปแล้วครับ

    เซบาสเตียน : ยังไว้ใจไม่ได้ มันต้องมาแก้แค้นฉันแน่ ส่วนเวร่าคงไม่เป็นไรหรอก แล้วมีอะไรอีกมั้ย

    อ่า.. ไม่มีแล้วครับท่าน

    เซบาสเตียน : ดีมาก ไปจัดการตามนั้นเลย

     

    ณ เขตของกลุ่มกบฏ พวกเขาได้รับข่าวกรองที่สำคัญมาใหม่ ซึ่งก็คือ กองทัพภาคตะวันออกเตรียมก่อการยึดอำนาจโดยมีสหประชาชาติคอยหนุนหลัง ส่วนทางสหประชาชาติเองก็มีมติให้ส่งกำลังมาฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในโซราติก อันเนื่องมาจากการโจมตีด้วยแก๊สพิษ หลังจากที่หัวหน้าของกลุ่มกบฏได้รับข่าวสำคัญข่าวนี้ พวกเขาเรียกประชุมทุกคนที่พอจะเรียกตัวได้ในทันที พวกของเอ็ดเวิร์ดเป็นพวกแรกที่หัวหน้าเรียกตัวไปประชุม

    เอ็ดเวิร์ด เป็นยังไงบ้างหล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ก็ดีครับ ว่าแต่คุณมีอะไรจะพูดกับผมหล่ะครับ

    ตอนนี้เรามีข่าวดีอยู่สองข่าว ข่าวแรก แม่ทัพภาคตะวันออก จะส่งกำลังพลมาช่วยเราแล้ว แล้วอีกอย่าง สหประชาชาติกำลังจะมาแล้ว

    เทเรซ่า : ดีจังเลยค่ะ แสดงว่ามันจะจบแล้วใช่หรือเปล่าคะ

    ใช่ครับ ไม่น่าจะเกิน 2 วันครับ

    และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานหัวหน้าของกลุ่มกบฏอย่างเร่งด่วน

    ท่านครับ ทหารของเซบาสเตียนบุกเข้ามาแล้วครับ

    จริงเหรอ แล้วเราจะต้านมันได้นานแค่ไหน

    อ่าคือ….”

    บอกผมมาสิเขาตะโกนใส่

    ไม่เกินพรุ่งนี้ครับ

    ลูลู่ : ห่ะ จริงเหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย

    เดม่อน : เห็นทีเราคงจะแพ้แน่ๆครับผม

    เอ็ดเวิร์ด : ท่านครับ ผมจะนำคนของเราไปสกัดพวกมันเองครับ

    เทเรซ่า : อย่าเลย ตอนนี้เรามีทางเดียว คือยันพวกมันให้ได้จนนาทีสุดท้ายค่ะ

    ลูลู่ : ตอนนี้เราเหลือกำลังพลเท่าไหร่หล่ะ

    เดม่อน : ที่ได้ข่าวมา ไม่น่าจะถึง 10000 นะ

    ถึงยังไงเราก็ต้องยันไว้ให้ได้ บอกคนของเราห้ามยอมจำนน ไปประจำการอยู่ในทุกตึกที่พอจะหาได้ สู้ให้ถึงที่สุด              

     

    ทางด้านของเร็น หลังจากที่เขาได้จัดการเรื่องพาสปอร์ตและอันนา เขาก็นัดแนะแผนการกับอันนาในทันที

    เร็น : คุณอันนาครับ เราจะต้องไปที่ท่าเรือ ผมพอจะมีคนรู้จักอยู่ครับ

    อันนา : แล้วที่นั่นจะปลอดภัยจริงๆเหรอคะ

    เร็น : ยังไงก็ต้องลองเสี่ยงครับ ผมจะล่องเรือไปที่เซอร์เบีย ติดต่อสถานทูตอังกฤษ ให้พาเราไปจากที่นี่ครับ

    อเล็กซ์ : แล้วผมต้องทำยังไงบ้างหล่ะครับพ่อ

    เร็น : ทำตามที่พ่อบอก แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยนะ

    อันนา : ถ้างั้นฉันจะไปช่วยเก็บของเองนะคะ

    อันนากับอเล็กซ์ไปช่วยกันเก็บของๆเร็นใส่กระเป๋า ในขณะที่เร็นเตรียมอาวุธของเขาที่ยังเหลืออยู่เพื่อคุ้มกันตัวพวกเขา ในตอนนั้นเองอันนาก็เดินเข้ามาในห้องของเขา

    อันนา : คุณคะ ฉันเก็บของๆเราหมดแล้วหล่ะค่ะ

    เร็น : ครับ พรุ่งนี้เช้า ผมจะรีบไปติดต่อเพื่อนผมทันทีเลย

    อันนา : คุณว่าพวกเราจะหนีไปได้เหรอคะ

    เร็น : ถึงยังไงก็ต้องเสี่ยง ผมไม่ยอมตายที่นี่หรอกครับ

    อันนา : แล้วคุณไม่มีงานอะไรค้างที่นี่เหรอคะ

    เร็น : ตอนนี้ผมไม่สนอะไรแล้วหล่ะครับ ตอนนี้ผมมีแค่คุณเท่านั้น

    อันนา : คุณ.. ถ้างั้นฉันจะไปบอกอเล็กซ์ให้เตรียมตัวไว้นะคะ

     

    ทางด้านของเทโจและชินเฮ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เดินทางมาเรื่อยๆเพื่อตามหาเพื่อนๆของเธอ จนกระทั่งพวกเขามาถึงอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ชินเฮก็เตรียมจะไปเคาะประตูเพื่อเรียกคนด้านใน

    เทโจ : หวังว่าจะมีคนอยู่นะครับตอนนี้

    ชินเฮ : อ้อค่ะ ฉันว่ามันต้องมีแน่ๆค่ะ

    ชินเฮเคาะประตู ในขณะที่มีคนมาเปิดประตูให้ทั้งคู่ ซึ่งนั่นก็คือทาเคชินั่นเอง

    ชินเฮ : คุณคะ เพื่อนเราอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะ

    ทาเคชิไปเรียกเพื่อนๆของเธอมาหาชินเฮ ทุกคนรีบมาทักทายชินเฮในทันที แต่ชินเฮสงสัยว่าจูซมและซาซอนหายไปไหน เธอเลยถามไป

    ชินเฮ : นี่ จูซมกับซาซอนหายไปไหนงั้นเหรอ // ทุกคนทำหน้าเศร้าใส่ชินเฮ

    อามินะ : เธอตายแล้วหล่ะ ซาซอนโดนยิงตาย ส่วนจูซมผูกคอตายหน่ะ

    ชินเฮได้ยินถึงกับนั่งกอดเข่าร้องไห้ เทโจต้องไปคอยปลอบใจเธออยู่ข้างๆ

    ชินเฮ : จูซม ซาซอน ไม่น่าเลย

    เทโจ : ใจเย็นๆก่อนนะครับ

    ชินเฮ : ฉันเป็นหัวหน้าแท้ๆ แต่กลับปกป้องพวกเขาไม่ได้

    เทโจ : มันไม่ใช่ความผิดของคุณนะครับ

    ชินเฮ : แต่ฉันช่วยพวกเขาไม่ได้

    เทโจ : เราช่วยคนทุกคนไว้ไม่ได้ตลอดเวลาหรอกครับนะ

    ชินเฮได้ยินจึงร้องไห้และกอดเทโจแน่นขึ้น จากนั้นเทโจก็พาชินเฮไปพักผ่อนที่ห้องส่วนตัว

    เทโจ : ยังไงผมฝากทางนี้ด้วยนะครับ

    เทโจพาชินเฮไปพักผ่อนในห้องๆหนึ่ง จากนั้นก็ปิดประตูห้องไป

     

    กลับมายังกลุ่มของดีซ หลังจากที่พวกเขาลอบยิงเซบาสเตียนได้สำเร็จ พวกเขาก็หาทางกลับไปรวมกำลังกับพรรคพวกที่เหลือที่ทำการป้องกันเมือง ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้พบกับทหารบางส่วนที่เริ่มการโจมตีเมือง พวกของดีซรีบหาที่หลบก่อนที่จะวางแผนฝ่ากลุ่มทหารเข้าไปในตัวเมืองให้ได้

    เดอร์ริก : ดูเหมือนว่าพวกมันจะเริ่มการกวาดล้างแล้วนะครับ

    จอห์นนี่ : แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันต่อดีหล่ะ

    ดีซ : พวกนายเห็นซอยนั่นหรือเปล่า มันมีรั้วเตี้ย พอให้เราข้ามไปได้หน่ะ

    เอิร์ล : ทุกคนไปก่อนเลยครับ ผมจะคุ้มกันให้

    พวกเขาวิ่งฝ่าพวกทหารที่กำลังยิงปะทะกับกลุ่มกบฏ คนแล้วคนเล่า เหลือเอิร์ลคนสุดท้าย เขาวิ่งมาอย่างทุลักทุเล แต่สุดท้ายก็ข้ามรั้วมาได้ จากนั้นเขาก็รีบเข้าไปด้านในเขตของพวกเขาในทันที และในระหว่างนั้นเอง เขาก็เจอกับชายคนหนึ่งในกลุ่มกบฏมาคุยกับเขา

    คุณดีซ ใช่พวกคุณจริงๆด้วย

    เดอร์ริก : อะไรเนี่ย นายมีอะไรจะพูดกับพวกเราเหรอ

    ตอนนี้หัวหน้าสั่งระดมพลทุกคนเพื่อป้องกันเมืองครั้งสุดท้าย ตอนนี้สหประชาชาติกำลังจะมา กำลังพลภาคตะวันออกกำลังจะมาช่วยเรา แต่ว่าเราคงอยู่รอดได้ไม่เกินพรุ่งนี้แน่ครับ คนของเราน้อยเกินไป

    จอห์นนี่ : จริงเหรอ ท่าไม่ดีแล้วนะครับหัวหน้า

    เอิร์ล : ผมว่า เราปักหลักสู้กับพวกมันดีกว่านะครับ

    และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เห็นรถถังของกองพันเซบาสเตียนยิงถล่มตึกจนกระทั่งมันถล่มลงมา กลุ่มกบฏที่อยู่ด้านในตายกันหมด พวกเขาก็เกือบจะโดนซากตึกถล่มใส่

    ดีซ : ไอ้เซบาสเตียนมันไม่เคยสนเรื่องนี้เลยจริง

    รีบไปจากที่นี่ดีกว่านะครับ

    ดีซ : ก็ดีเหมือนกัน รีบไปกันดีกว่า

    กลุ่มกบฏแถวนั้นรีบถอนกำลังเป็นการด่วน เพื่อป้องกันการถูกกวาดล้างยกกอง

     

    ทางด้านของซีวิล ในช่วงที่กองทัพกำลังกวาดล้างกลุ่มกบฏ เขาพาฮาหนีเข้าไปในตัวเมือง แต่ทุกๆที่ก็มีแต่เสียงปืน กระสุนที่ลอยไปทั่ว ไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับพวกเขาแล้ว ในตอนนั้นเองซีวิลเห็นฮาจะไปหยิบขนมปังก้อนหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นวางขาย ซีวิลจะหยิบไปกินเองแต่ดันโดนกระสุนซัดเข้าไปที่แขนขวา

    ฮา : ซีวิล นาย ทำใจดีๆไว้นะ

    ฮาลากตัวเขาเข้าไปหลบในตึกๆหนึ่ง ซึ่งดูเป็นที่ลับตาคน เธอรีบถอดเสื้อของเธอเหลือแต่ยกทรงพันแขนเขาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลหมดตัว

    ซีวิล : โอ้ย เจ็บ เบาๆหน่อยสิ

    ฮา : ใจเย็นๆไว้นะ ฉันจะไปหายามาช่วย

    ซีวิล : ไม่อยากเชื่อว่าฉันต้องมาโดนยิงเพราะเธอเนี่ย

    ฮา : อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย

    ฮารีบไปหายาให้กับซีวิลเพื่อทำแผล เธอเจอแอลกอฮอล์ขวดหนึ่ง เธอรีบราดมันลงบนแผลของซีวิลในทันที ซีวิลร้องด้วยความเจ็บปวด

    ซีวิล : อ๊ากก เจ็บโว้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย

    ฮา : อดทนหน่อยสิ เดี๋ยวก็หายแล้ว // ในขณะเดียวกันซีวิลก็ถอกเสื้อฮู้ดของตัวเองให้ฮาใส่ เนื่องจากฮาไม่ได้ใส่เสื้ออะไรเลยซักตัว

    ซีวิล : เอาไปใส่ซะ ฉันมีให้แค่นี้หล่ะ

    ฮาหยิบเสื้อฮู้ดของซีวิลมาใส่ในทันที

    ฮา : ไม่ต้องห่วงนะ อีกไม่กี่วันแผลก็หายแล้ว

    ซีวิลทนพิษบาดแผลไม่ได้จึงสลบไป ส่วนฮาก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง

     

    กลับมายังบ้านของเจซซิน หลังจากที่พวกเขาได้ข่าวจากโลกภายนอกกำลังจะมาช่วยพวกเขา ในตอนนั้นเองเวสต์ก็กำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างในห้องอยู่คนเดียว ในขณะเดียวกันอนาตาเซียก็เข้ามาในห้องมาดูพ่อของเขาที่นั่งเงียบอยู่

    อนาตาเซีย : พ่อครับ พ่อคิดอะไรอยู่เหรอครับ

    เวสต์มองหน้าลูกชายของเขา จากนั้นก็ลูบหัวเขาไปหนึ่งที

    เวสต์ : พ่อว่า พ่อจะพาลูกไปจากที่นี่ เราจะกลับอเมริกากันหน่ะ

    อนาตาเซีย : จริงเหรอครับ แล้วร้านกาแฟของพ่อหล่ะ

    เวสต์ : ชีวิตลูกสำคัญกว่าหน่ะ เรื่องร้านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูก

    อนาตาเซีย : พ่อครับ ผมว่าน่าจะพาน้าเจซซินไปด้วยนะครับ // เวสต์คิดในใจอยู่ซักพัก จากนั้นเจซซินก็เข้ามาในห้อง

    เจซซิน : อ่า รบกวนคุณหรือเปล่าคะ

    เวสต์ : อ้อ ไม่มีอะไรหน่ะครับ ก็แค่

    อนาตาเซีย : พ่อเราจะกลับอเมริกา ไปกับฉันมั้ยอดอลล่า

    อดอลล่า : ห่ะ จริงเหรอ แม่คะ ว่ายังไงดีหล่ะคะ // เจซซินถึงกับตกใจ โดยที่เวสต์ก็พูดต่อ

    เวสต์ : แหม่ เร็วจริงๆนะลูก ก็ผม อยากจะถามคุณอยู่พอดีเลย

    เจซซิน : อ่า จะดีเหรอคะ แบบว่า

    อดอลล่า : แม่ หนูว่าเราไปจากที่นี่ก็ดีนะคะ

    เจซซินใช้เวลาตัดสินใจอยู่ซักพัก จากนั้นเธอก็พูดว่า

    เจซซิน : ถ้างั้นฉันขอไปด้วยนะคะ

    เด็กสองคนกระโดดโลดเต้นด้วยกัน จากนั้นเวสต์ก็เดินเข้ามาหาเจซซิน

    เวสต์ : ถ้างั้นไปด้วยกันกับผมนะครับ ผมจะดูแลคุณเอง

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ยูจีนนั่งร้องไห้อยู่ในห้อง โดยที่ไม่ยอมพูดจาอะไรกับใครเลย ในตอนนั้นเองมินโฮก็เอาอะมาให้เธอกิน เนื่องจากว่ายูจีนยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าแล้ว

    ยูจีน : ฉันไม่หิวหรอก ขอบใจนะ

    มินโฮ : กินหน่อยสิ เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ

    ยูจีน : ฉันมันเลว ฉันทำให้ซีโร่กับบารีร่าตาย

    มินโฮ : มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะ อย่าร้องไห้ไปเลย // มินโฮไปเช็ดน้ำตาให้กับยูจีน

    ยูจีน : ทำไมฉันไม่เจอผู้ชายแบบนี้ก่อนเลยนะ

    มินโฮ : ฉัน ฉันรักเธอนะยูจีน ฉันยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อเธอ // มินโฮยื่นหน้าจะไปจูบยูจีน แต่ยูจีนล็อคคอเขาแล้วก็ทุบตีเขา

    ยูจีน : นี่แนะ คิดจะแต๊ะอั๋งฉันอย่างงั้นเหรอ

    ทั้งคู่หัวเราะชอบใจ แต่มินโฮจับเธอกดลง ยูจีนถึงกับหน้าแดงก่ำ จากนั้นมินโฮก็จูบยูจีนอย่างอ่อนโยน และทั้งคู่ก็ต่างมอบกายและใจให้แก่กัน

    หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่พลอดรักกันอย่างหวานชื่น ยูจีนกอดมินโฮเอาไว้ จากนั้นเธอก็นึกอะไรได้บางอย่าง

    ยูจีน : ทุกคนจะไม่ต้องตายอีกแล้ว ฉันจะไปจัดการมันด้วยตัวฉันเอง

    มินโฮ : เธอเอาจริงเหรอ

    ยูจีน : แน่นอน ฉันเริ่มเรื่องนี้ฉันต้องจบเรื่องนี้เอง

    มินโฮ : ให้ฉันไปกับเธอด้วยนะยูจีน

    ยูจีน : นายจะไปกับฉันจริงๆเหรอ

    มินโฮ : ใช่ ฉันไม่ปล่อยให้เธอไปคนเดียวหรอก แล้วจะไปตอนไหนดีหล่ะ

    ยูจีน : พรุ่งนี้เช้ามืด ตอนทุกคนกำลังนอนหลับกันอยู่หน่ะ

    ======================================================================

    สถานการณ์เริ่มดีขึ้นและร้ายลงไปทุกที ยูจีนจะทำอะไรของเธอกันแน่ แล้วสงครามในครั้งนี้จะจบลงแบบไหน ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ

    ใกล้จะจบแล้วนะทุกคน เม้นท์กันเยอะๆหล่ะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×