ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #28 : EP 22 : ยูจีนล้างแค้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 70
      2
      13 เม.ย. 62

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในตอนนั้นเองตะวันก็มาร่ำราคนอื่นๆ ก่อนที่หน่วยรบพิเศษไทยจะพาตัวเขาไป โดยที่อนูวาจะเป็นคนอาสาไปส่งเขาด้วย ซึ่งเธอก็นัดแนะคนของเธอให้เอารถมาพาตัวเขาไป ตะวันให้สัญญากับคนอื่นๆว่าจะกลับมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา จากนั้นตะวันก็โบกมือลาทุกคนพร้อมกับขึ้นรถไป และในตอนนั้นเอง ยูจีนก็เตรียมปืนพร้อมบรรจุกระสุน เตรียมจะออกไปสำรวจโกดังที่โทนี่ตายที่นั่น โดยที่คนอื่นๆต้องเข้ามาหายูจีน

    ไลฟ์ : คุณยูจีน คุณคิดดีแล้วเหรอคะที่ทำแบบนี้

    ยูจีน : ใช่ พวกคุณจะไม่ไปก็ได้นะ ฉันจะไปเอง

    มินโฮ : ผมจะไปกับเธอด้วย ผมไม่ปล่อยเธอไปหรอก

    นอร์รีน : แล้วคุณจะไปกันแค่นี้เหรอครับเนี่ย

    บารีร่า : ใช่ค่ะ ป่านนี้พวกมันคงจะเอาคนมาป้องกันที่นั่นแล้ว

    มินโฮ : คงไม่ต้องหรอกครับ ผมแค่จะไปสอดแนมที่นั่นหน่ะครับ

    ซีโร่ : ผมไปด้วยครับ ผมจะไปนำทางพวกคุณเอง

    ในขณะเดียวกัน มิเชลก็กลับเข้ามาในอพาร์ทเม้นท์ หลังจากที่เธอทำภารกิจใหญ่เสร็จ เธอเข้ามากอดนอร์รีนในทันทีหลังจากที่เธอถ่ายรูปเสร็จ

    นอร์รีน : มิเชล คุณปลอดภัยนะ

    มิเชล : ปลอดภัยดีค่ะ ฉันส่งรูปการโจมตีแก๊สพิษแพร่ไปยังโลกภายนอกแล้วค่ะ

    อลิซ : แบบนี้ก็ดีสิคะ ข้างนอกจะได้มาช่วยเราแล้ว

    มิสซึ : แต่ว่ารูปพวกนั้นมันจะออกไปข้างนอกได้อย่างงั้นเหรอ

    ฮาน่า : นั่นสิคะ ฉันก็เป็นห่วงตรงนี้อยู่

    อลัน : แต่ยังไงเราก็ต้องลองดูก่อนนะครับ

    อลิซ : แล้วเรื่องวันนี้คุณยูจีนจะไปจริงๆเหรอคะ

    มิสซึ : เอาน่า อย่าห้ามเธอเลย เธอต้องเอาคืนให้น้องเธอหน่ะ

    อลัน : ถ้าอย่างงั้น ผมขอไปเป็นเพื่อนคุณด้วยก็แล้วกัน

    ฮาน่า : ยังไงคุณต้องระวังหน่อยนะคะ

    บารีร่า : แล้วพวกคุณจะไปเมื่อไหร่กันหล่ะคะเนี่ย

    ซีโร่ : คืนนี้ ตอนกลางคืนปลอดภัยที่สุดแล้วครับ

    เอจิ : ผมขอไปด้วยคน ผมจะเอาคืนให้ฮาจิ

    ไลฟ์ : อย่าเลย มีคนไปเยอะแล้ว นายอยู่กับเราที่นี่เถอะนะ

    เอจิ : แต่ว่าพวกมัน... // ไลฟ์กุมมือเอจิไว้ เอจิจึงไม่พูดอะไรต่อ

    มิเชล : แล้วคุณจะไปด้วยหรือเปล่าคะนอร์รีน

    นอร์รีน : ผมไปด้วย เผื่อว่าจะช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง

     

    อีกด้านหนึ่งของอพาร์ทเม้นท์ ทาเคชิได้ยินพวกของนอร์รีนคุยกัน ทาเคชิก็กลับมาเพื่อที่จะบอกเพื่อนคนอื่นๆในทันทีเกี่ยวกับแผนการในคืนนี้

    ริกโก้ : เจ้ามินโฮเนี่ย ตั้งแต่มีแฟนก็ติดแฟนใหญ่เลยนะ

    ซนแซ : นี่นาย ไปแซวเพื่อนแบบนั้นได้ไงกันหล่ะ

    ทาเคชิ : ฉันได้ยินพวกเขาพูดกัน พวกเขาจะไปตามล่าคนที่ฆ่าเพื่อนเขาหน่ะ

    อามินะ : อ้อ พวกที่ฆ่าซาซอนใช่หรือเปล่าคะ

    อัลเบิร์ต : ฉันจะตามพวกเขาไป ใครจะไปกับฉันบ้าง

    มีกัส : ฉันไปด้วย ฉันจะไปล้างแค้นให้ดราก้อน

    ไคล่า : ใจเย็นๆก่อนสิ มันอันตรายนะคะ

    จียอน : นั่นสิคะ ฉันไม่รู้ว่าพวกมันจะมีแผนอะไรอีกนะคะ

    ไซม่อน : ฉันว่า ถ้าจะทำอะไรต้องคิดให้หนักนะ

    ชิสา : ใช่ๆ ฉันก็ชักจะเป็นห่วงเหมือนกัน เราเสียเพื่อนไปคนนึงแล้ว

    ซุนฮยอน : ถ้าพวกนายจะไป ฉันขอไปด้วยนะ

    ยู่อี๋ : อย่านะซุน มันอันตรายมากนะ // เธอเกี่ยวแขนเขาไว้

    ทาเคชิ : แต่ผมจะไปนะ ผมจะไปช่วยพวกเขา ใครจะไปบ้าง

    อัลเบิร์ต : ฉันไป ใครจะไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ว่า ฉันเข้าใจ

    อามินะ : ถ้าคุณจะไป คุณต้องระวังตัวด้วยนะคะ

    ไคล่า : ใช่ๆ ฉันกลัวว่าพวกนี้จะไม่ธรรมดานะคะ

    ริกโก้ : ถ้างั้นก็โชคดีนะเพื่อน ฉันจะไปเตรียมของให้

    ไซม่อน : เฮ้อ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะจบหล่ะเนี่ย

    ชิสา : จบเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นต่อ ไม่มีสิ้นสุดจริงๆ

    ซนแซ : ถ้างั้นฉันไปเตรียมของให้พวกคุณดีกว่านะคะ

    มีกัส : ทาเคชิ นายเอา M4A1 ของฉันไปใช้ก็ได้นะ // มีกัสยื่นปืนให้กับทาเคชิ

    ซุนฮยอน : ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกนายรีบกลับมาที่นี่เลยนะ

    จียอน : ความจริงฉันอยากไปด้วย แต่คงทำอะไรไม่ได้มากนะคะ

    ยู่อี๋ : ซาซอนคงดีใจนะคะ ที่รู้ว่าพวกคุณไม่ถอดทิ้งเธอหน่ะ

     

    และที่ด้านนอก คีธนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่แถวนั้นโดยที่จูซมต้องคอยปลอบใจเขา เนื่องจากว่าโทนี่ซึ่งเปรียบเสมือนพี่น้องของเขาได้จากไป โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย

    จูซม : ใจเย็นๆนะคะคุณคีธ เขาไปดีแล้ว

    คีธ : เพราะผมไม่ดีเอง ผมปกป้องพวกเขาไม่ได้

    จูซม : เราปกป้องทุกคนบนโลกไม่ได้หรอกนะคะ

    คีธ : ผมรู้ แต่ผมเจ็บใจ

    จูซม : ฉันเข้าใจค่ะ ฉันเองก็เพิ่งจะเสียเพื่อนไปเหมือนกัน

    คีธ : ผมได้ยินว่าพี่ยูจีนจะออกไปข้างนอกหน่ะ

    จูซม : แล้วยังไงเหรอคะ

    คีธ : ผมว่าจะตามพวกเขาไปหน่ะครับ

    จูซม : คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ

    คีธ : ผมแน่ใจครับ

     

    กลับมายังทำเนียบประธานาธิบดี หลังจากที่หน่วยดอว์นซอร์ดยิงโจเซฟได้แล้ว เขาก็รีบกลับไปรายงานประธานาธิบดีเกี่ยวกับข่าวของพวกเขา ในตอนนั้นเองอดัมส์ก็รอพวกเขาอยู่พอดี

    อดัมส์ : อ้าว พวกคุณมาที่นี่มีอะไรอย่างงั้นเหรอ

    อเล็กซานเดอร์ : เรายิงโจเซฟได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเขาตายหรือเปล่าครับ

    อีริค : แต่ผมว่าคงไม่รอดหรอกครับ ผมยิงโดนจังๆเลยนะ

    อดัมส์ : ไม่ต้องถึงกับตายหรอก แค่นี้มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

    เควิน : แต่ผมว่าโจเซฟคงไม่หยุดแค่นี้หรอกครับ

    อเล็กซ่า : แล้วท่านจะให้เราไปกำจัดเขาอีกมั้ยคะ

    อดัมส์ : ไม่ต้องหรอก ผมมีงานให้พวกคุณทำอีกชิ้นหน่ะ

    ซิลเวสเตอร์ : จะให้เราไปไหนอีกครับท่าน

    อดัมส์ : ผมต้องการพบเซบาสเตียน พาเขามาพบผมเดี๋ยวนี้

    แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆมีชายคนหนึ่งถือปืนกลเข้ามายิงประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ยิงปืนกลใส่เขาจนตายคาที่ จากนั้นก็มีชายติดอาวุธอีกนับสิบเข้ามาจัดการพวกเขา หน่วยดอว์นซอร์ดพยายามจะยิงสกัดแล้วพาประธานาธิบดีหนี แต่พวกมันก็มีเยอะเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว

    อดัมส์ : นี่มันอะไรกันวะเนี่ย พาฉันไปจากที่นี่ที

    อเล็กซานเดอร์พยายามจะไปช่วยอดัมส์แต่ก็โดนยิงสกัดไว้  จากนั้นเอง เอสเมอรันด้าก็บุกเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วฉุดเอาอดัมส์หนีไป

    อดัมส์ : นี่เธอ มาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย

    เอสเมอรันด้า : ก็ไม่อยากให้คุณโดนฆ่าตายยังไงหล่ะ

    อดัมส์ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันหล่ะเนี่ย

    เอสเมอรันด้า : ไม่รู้ว่าใครจะรัฐประหารคุณหรือเปล่าหน่ะสิ

    อดัมส์ : คุณพอจะมีปืนหรือเปล่าหล่ะ

    เอสเมอรันด้ายื่นปืนให้อดัมส์ จากนั้นอดัมส์ก็ยิงต่อสู้กับพวกชายฉกรรจ์นับสิบ โดยที่เอสเมอรันด้าพาเขาหนีไปที่รถคันหนึ่ง จากนั้นเธอก็ขับรถบึ้งออกไปด้านนอก

    อดัมส์ : ขอบใจมากนะที่มาช่วยฉัน

    เอสเมอรันด้า : คุณพอจะรู้มั้ยใครทำกับคุณแบบนี้

    อดัมส์ : ผมก็ไม่รู้ ตึคาดว่าน่าจะเป็นคนในแน่ๆ

    เอสเมอรันด้า : ตอนนี้คุณไปซ่อนตัวไว้ก่อนดีกว่านะ

    อดัมส์ : ผมก็ว่าอย่างงั้นนะ

    กลับมาที่หน่วยดอว์นซอร์ด ในตอนนั้นเองพวกเขาก็โดนตามฆ่าเหมือนกัน กลุ่มคนติดอาวุธนับสิบตามล่าพวกเขาแต่พวกเขายังคงจัดการพวกมันได้อย่างเข้มแข็ง

    อีริค : เราต้องออกไปจากที่นี่ด่วนเลย

    คาสเตอร์ : รถของเราอยู่ด้านหลัง รีบไปกันดีกว่า

    ในขณะเดียวกัน เควินก็โดนยิงเข้าที่ด้านหลัง ซิลเวสเตอร์ลากตัวเขาเข้ามาหลบอยู่ด้านหลัง จากนั้นอเล็กซ่าก็ทำแผลช่วยเขาในทันที

    อเล็กซ่า : ต้องรีบพาเขาไปผ่าตัดด่วนเลยค่ะ

    ซิลเวสเตอร์ : พวกนายช่วยแบกเควินไปที ฉันจะคุ้มกันให้

    พวกเขายิงสกัดพวกมัน จากนั้นก็แบกเควินไปที่รถ จนกระทั่งอเล็กซานเดอร์ก็ไปสตาร์ทรถเพื่อหนีไปจากที่นี่

    อเล็กซานเดอร์ : ทุกคน รีบขึ้นรถมา ด่วนเลย

    พวกเขาแบกสังขารของเควินขึ้นรถ จากนั้นก็รีบขับรถออกไปจากค่ายในทันที

    คาสเตอร์ : ให้ตายเถอะเควิน อดทนไว้นะเว้ย

    เควิน : บ้าเอ้ย ฉันไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อนเลย

    อีริค : รีบพาเขาไปหาที่ผ่าตัดเถอะ เดี๋ยวเขาได้ตายแน่

    อเล็กซ่า : เควิน นายต้องตั้งสติ มองตาฉันไว้นะ // อเล็กซ่ากุมมือของเควินไว้

    ซิลเวสเตอร์ : ใครมันทำแบบนี้กับเรากันเนี่ย

    อเล็กซานเดอร์ : ฉันก็ไม่รู้ แต่ก่อนอื่นต้องหาตัวประธานาธิบดีก่อนเลย

    พวกเขาขับรถมาเรื่อยๆ หวังเพียงอย่างเดียวเพื่อช่วยเควินให้ได้

    และที่ค่ายของโจเซฟ มากิตามหมอมาช่วยรักษาเขา หมอของโจเซฟทำการผ่าตัดอยู่นานจนกระทั่งเขาพ้นขีดอันตราย จากนั้นเองมากิก็เข้ามาเยี่ยมเขาข้างใน ซึ่งโจเซฟพบว่าเขาไม่มีแขนอีกแล้ว

    มากิ : พ่อคะ หมอบอกว่าพ่อต้องตัดแขน ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้

    โจเซฟ : พ่อเข้าใจ พ่อแค่ทำใจไม่ได้หน่ะ

    มากิ : ไม่ต้องห่วงนะคะพ่อ ตอนนี้หนูสั่งคนคุ้มกันพ่อแล้ว

    โจเซฟ : อย่างน้อยอดัมส์ก็ยังล้มเหลวเหมือนเคยหล่ะ

    แต่ในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งเข้ามารายงานข่าวกับเขา

    คุณโจเซฟครับ แย่แล้วครับ

    โจเซฟ : มีอะไรเหรอ ว่ามาสิ

    มีข่าวมาว่าประธานาธิบดีถูกรัฐประหารครับ

    มากิ : หะ จริงเหรอ ฝีมือใครกันหล่ะ

    ตอนนี้เรายังไม่ทราบครับจากนั้นชายคนนั้นก็เดินออกไป

    มากิ : ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่ามันจะเกิดขึ้น

    โจเซฟ : แต่เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำหน่ะสิ

    มากิ : แบบนี้เราจะทำยังไงกันต่อดีคะ

    โจเซฟ : รอดูสถานการณ์ไปก่อนก็แล้วกันถ้างั้น

     

    ณ ค่ายทหารของเซบาสเตียน เขาเรียกลูกน้องของเขามาคุยในระหว่างที่เขากำลังวางแผนการรบในขั้นถัดไป เมื่อลูกน้องของเขามาถึง เขาก็เริ่มถามลูกน้องของเขาในทันที

    เซบาสเตียน : เออนี่ เรื่องการรัฐประหารเป็นยังไงบ้าง

    ตอนนี้ประธานาธิบดีหนีไปได้ครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับท่าน กองทัพจะสนับสนุนท่านครับ

    เซบาสเตียน : มันไม่ใช่แค่นั้น แต่เราต้องจัดการเรื่องพวกกบฏให้จบ ไม่อย่างงั้นเราจบแน่

    ตอนนี้ทหารของเราพยายามรุกคืบเข้าไปหลังจากที่ยิงอาวุธเคมีไปครับ

    เซบาสเตียน : พวกแกมีเวลา 3 วัน 3 วันเท่านั้น

    ครับท่าน เราจะพยายามครับ

    เซบาสเตียน : แล้วก็อย่าลืมเรื่องพวกกบฏเซิร์บด้วย ตามล่าพวกมันให้หมด

    ได้ครับท่าน

     

    ณ เขตชายแดน จุดนัดพบของหน่วยรบพิเศษไทย หลังจากที่อนูวาพาตะวันและคนอื่นๆมาส่ง จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เตรียมจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปจากโซราติก

    ผู้พันครับ อีก 1 นาทีเครื่องจะบินขึ้นครับ

    ตะวัน : คุณอนูวาครับ รักษาตัวด้วยนะครับ

    อนูวา : คุณก็เช่นกันนะคะ

    ตะวัน : แล้วผมจะกลับมาหาคุณ รักษาตัวด้วยนะครับ // ตะวันจูบปากกับอนูวาในทันที

    อนูวา : แล้วฉันจะรอคุณนะคะ

    แต่ในขณะเดียวกัน จู่ๆก็มี RPG ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ ่ๆก็มี ัวด้วยนะครับ // ตะวันจูบปากกับอนูวาในทันที

    มาส่ง รับรรบในขั้นถัดไป เมื่อลูกน้อขายังคงจัดการจากนั้นก็มีพวกของอรุณกระโดดลงจากฮอได้ทันการ จากนั้นพวกเขาก็โดนระดมยิงจากริมชายแดน ทำเอาพวกเขาต้องหาที่หลบกัน

    เดชา : ผู้พันครับ หลบไปด้านหลังก่อนดีกว่าครับ

    พวกเขาช่วยกันยิงสกัดพวกมัน ส่วนจินตโลก็พยายามวอเรียกให้กำลังเสริมมาช่วย แต่เขาดันโดนยิงเข้าซะก่อนจนล้มลง

    เจตนา : เฮ้ย อย่าเป็นอะไรไปนะโว้ย อดทนไว้ // พวกเขาลากตัวจินตโลมา แต่โดนยิงกดอย่างหนัก เนตรวิ่งออกไปยิงสกัดพวกนั้นเพื่อให้คนอื่นๆไปช่วยจินตโล

    เนตร : เฮ้ย รีบพามันเข้าไปหลบเร็วสิ

    เนตรยิงสกัดพวกมันเอาไว้ ทำให้เขาโดนกระหน่ำยิงจนตายคาที่ เดชาเดือดจัดถึงกับไล่ยิงพวกมันอย่างบ้าคลั่ง

    เดชา : ไอ้พวกบ้าเอ้ย แน่จริงมึงเข้ามาเลยไอ้สัส

    อรุณ : เฮ้ย ใจเย็นๆ เข้ามาหลบด้านในก่อน

    และในตอนนั้นเองอรุณก็โดนส่องจากระยะไกล ทำให้เขาล้มลงในทันที

    จินตโล : หัวหน้า รีบไปช่วยหัวหน้าเร็วสิโว้ย

    อรุณ : ผู้พัน คุณกับคุณอนูวารีบหนีกลับไปก่อนดีกว่า

    ตะวัน : ไม่ทหาร ผมกับคุณอนูวารีบหนีกลับไปก่อนดีกว่า

    ไม่ยอมทิ้งพวกคุณหรอก

    เดชา : คุณอนูวา พาผู้พันของเราหนีไปครับ

    อนูวารีบกระชากตัวของตะวันมาขึ้นรถ จากนั้นเธอก็รีบสตาร์ทรถแล้วหนีไป ส่วนพวกหน่วยรบพิเศษไทยก็โดนกระหน่ำยิงจนพวกเขาตายในหน้าที่กันหมด ตะวันถึงกับคลั่งเมื่อเขาได้เจอเหตุการณ์นี้

    ตะวัน : ทุกคนตายเพราะผม ผมช่วยพวกเขาไม่ได้

    อนูวา : พวกเขาทำดีที่สุดแล้ว อย่าเสียใจเลยค่ะ

    ตะวัน : ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ

    อนูวา : คุณต้องรู้แน่ ไม่ต้องห่วงค่ะ่าใครอย่าเสียใจเลยค่ะ

    ี้

    ตะวัน : รีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่าครับ ผมกลัวพวกมันจะตามมา

    และในขณะเดียวกัน กำลังเสริมของหน่วยรบพิเศษไทยก็นั่งฮอมาจัดการสถานการณ์ตรงนั้น พวกเขาไล่ต้อนพวกมันให้กลับเข้าไปในป่า จากนั้นก็เคลียร์พื้นที่ในทันที

    ท่านครับ พวกของผู้กองอรุณตายหมดเลยครับ แต่เราไม่เจอตัวผู้พันครับชายคนหนึ่งรายงานหวหน้าของเขา

    หาตัวผู้พันให้เจอ พาเขากลับบ้าน ถ้าจับเชลยได้ เอามันมาสอบสวนด้วย

    ครับท่าน

     

    กลับมายังเขตของกล่มกบฏ ในตอนนั้นเองเอ็ดเวิร์ดและคนอื่นๆก็มาถึงที่มั่นของกลุ่มกบฏ ซึ่งหัวหน้าของเขากำลังรอเขามา หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดมาถึง หัวหน้าของเขาก็เริ่มเปิดประเด็นกับเอ็ดเวิร์ดในทันที

    ดีใจที่คุณมานะเอ็ดเวิร์ด ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

    เอ็ดเวิร์ด : สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับท่าน

    เฮ้อ ตอนนี้พวกมันเริ่มจะเล่นยาแรงแล้ว เหลือเวลาแค่ 3 วันเท่านั้นเองตอนนี้

    เทเรซ่า : แต่ว่า ถ้าโลกภายนอกรู้เรื่อง ฉันว่าพวกเขาอาจจะมาพรุ่งนี้เลยก็ได้นะคะ

    ผมถึงได้มีงานให้พวกคุณไง มีนักข่าวคนหนึ่งถ่ายรูปมาให้ผม รูปพวกนี้ควรจะเผยไปยังโลกภายนอกโดยด่วน

    ลูลู่ : อ้อ แค่นี้เองเหรอคะ สบายจะตายค่ะ

    เดม่อน : แต่ว่าถ้ามีเป็นวีดีโอ น่าจะดีกว่านี้นะครับ

    เทเรซ่า : ฉันพอจะรู้วิธีส่งรูปออกไปหน่ะ ฉันจะส่งไปที่สำนักพิมพ์ลับ ใพวกเขาเอาไปเผยแพร่หน่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : เยี่ยมเลย แบบนี้ค่อยดีหน่อย

    ผมฝากพวกคุณด้วยหล่ะ ถ้าไม่งั้น พวกเราอาจต้องลงหลุมกันหมด

    เดม่อน : ได้ครับหัวหน้า พวกผมจะจัดการให้เร็วเลยครับ

     

    ทางด้านของเร็นและอันนา พวกเขาพากันเข้ามาในตัวเมือง จากนั้นเร็นก็เดินเข้าไปในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเร็นเปิดห้องๆหนึ่งแล้วพาอันนาเข้ามาด้านในห้อง

    อเล็กซ์ : โหพี่ พี่อยู่ที่ห้องนี้เหรอครับ

    เร็น : อ้อใช่ พี่พักที่นี่ก่อนจะเกิดเรื่องหน่ะ

    อันนา : แล้วคุณทำงานอะไรอย่างงั้นเหรอคะ

    เร็น : อ้อ งานของผมมันต้องไปโน่นไปนี่บ่อยหน่ะครับ

    อันนา : ท่าทางจะดีนะคะเนี่ย

    เร็น : เอาเป็นว่าตามสบายนะครับ คิดซะว่าเป็นบ้านของพวกคุณเลย

    เร็นไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นเขาก็หยิบพาสปอร์ตอังกฤษขึ้นมาดู จากนั้นเขาก็คิดในใจ

    หรือว่าฉันจะถอนตัวออกมา แล้วจะพาคุณอันนาไปอังกฤษด้วยกัน

    แต่ในขณะเดียวกัน อันนาก็เดินเข้ามาในห้องของเร็น จากนั้นเธอก็มายืนข้างๆเขา

    อันนา : คุณมาจากที่ไหนกันแน่คะ // เร็นตกใจหันมาหาอันนาทันที

    เร็น : คือว่า...

    อันนา : บอกฉันมาเถอะค่ะ

    เร็น : ผมเป็นเจ้าหน้าที่ MI 6 ของอังกฤษหน่ะครับ

    อันนา : อ้อ คุณมาทำภารกิจนี่เอง

    เร็น : แต่ผมจะถอนตัวจากงานนี้ แล้วผมจะพาคุณกับอเล็กซ์หนีไปอังกฤษด้วยกัน

    อันนา : พาฉันไปอย่างงั้นเหรอคะ

    เร็น : ผมรักคุณไงครับคุณอันนา

    อันนา : คุณเร็น ไม่รังเกียจแม่ม่ายลูกติดอย่างฉันเหรอคะ

    เร็น : ไม่หรอกครับ แล้วอีกอย่าง ผมก็เห็นอเล็กซ์เหมือนลูกของผมหน่ะครับ

    และในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ก็แอบฟังอยู่ด้านนอก จากนั้นเขาก็วิ่งเข้ามาข้างในห้องของเร็น

    อเล็กซ์ : พี่ครับ จะพาผมไปอังกฤษจริงๆเหรอครับ

    เร็น : แน่นอน ฉันจะพาเราไปเที่ยวเมืองสวยๆทั้งวันเลย

    อเล็กซ์ : ขอผมเรียกคุณว่าพ่อได้หรือเปล่าครับ // อเล็กซ์วิ่งเข้าไปกอดเร็นในทันที

    อันนา : ยังไงฉันก็ฝากลูกฉันด้วยนะคะ

    เร็น : ได้สิครับ // เร็นลูบหัวอเล็กซ์อย่างเอ็นดู

     

    และในตึกหลังหนึ่งในเขตของกลุ่มกบฏ หลังจากที่เทโจพาชินเฮไปหลบอย่างปลอดภัย เขาก็เตรียมพาเธอออกไปด้านนอกเพื่อไปหาเพื่อนของเธอที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน

    เทโจ : เอาหล่ะ เตรียมพร้อมแล้วใช่หรือเปล่าครับ

    ชินเฮ : แน่นอนค่ะ รีบไปกันดีกว่าค่ะ

    แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทาง จู่ๆพวกเขาก็พบกับกลุ่มคนกำลังลำเลียงศพที่อยู่บนพื้นไปเก็บรวมไว้ในเมือง สภาพศพมีน้ำลายฟูมปากและตายอย่างเวทนา ชินเฮเห็นถึงกับปล่อยโฮแล้วไปกอดกับเทโจในทันที

    เทโจ : ไม่เป็นไรนะครับคุณชินเฮ

    ชินเฮ : ฮือๆๆ ทำไมพวกเขาเป็นแบบนี้

    เทโจ : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวได้รู้แน่

    ชินเฮ : อย่าเลยค่ะ พาฉันไปจากที่นี่ดีกว่า

    เทโจ : ดูท่าพวกเขามีโรคระบาดที่นี่ คุณต้องระวังตัวหน่อยนะ

    ชินเฮ : ฉันไม่กลัวโรคระบาดอะไรหรอก ฉันฉีดวัคซีนแล้ว

    เทโจ : ถ้างั้นรอเดี๋ยวนะครับ

    เทโจเอาผ้าเช็ดหน้าของเขามาชุบน้ำ จากนั้นก็เอามาปิดปากเธอในทันที

    เทโจ : นี่น่าจะช่วยคุณได้หน่อยนะครับ

    ชินเฮ : ขอบคุณมากนะคะ

    พวกเขาทั้งคู่เดินทางกันต่อ โดยที่ต้องเจอสภาพศพที่ตายอย่างเวทนามากมาย

     

    กลับมายังกลุ่มของดีซ พวกเขาลงความเห็นกันได้ว่าจะไปจัดการกับผู้พันเซบาสเตียน เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเซบาสเตียนเป็นคนใช้ระเบิดเคมีจัดการ พวกเขาพากันไปยังค่ายของเซบาสเตียนเพื่อจัดการกับเขา เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาก็พบกับทหารยามที่มีกันมากมาย ทำเอาพวกเขาเริ่มจะลังเลกับงานนี้

    เดอร์ริก : ดูเหมือนผู้พันจะกลัวมือสังหารแล้วหว่ะ

    เอิร์ล : เออนั่นสิ แล้วเราจะเอายังไงต่อล่ะ

    ดีซ : เรามีโอกาสครั้งนี้แค่ครั้งเดียว ที่พักของมันต้องเปิดกระจกแน่ๆ

    จอห์นนี่ : มีกระจกปิดอยู่ประมาณ 8 ที่ เราต้องใช้ปืนเก็บเสียงแล้วลงมือเร็วนะครับ

    พวกเขาเล็งเป้าหมายไปยังหน้าต่างที่ปิดกระจกเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เห็นเซบาสเตียนเดินออกมาตรวจการณ์ที่ด้านนอก ในตอนนั้นพวกเขาก็ส่งสัญญาณให้เปลี่ยนแผนในทันที

    เอิร์ล : ทุกคน ผู้พันมันออกมาข้างนอกแล้วหว่ะ

    จอห์นนี่ : ถ้าอย่างเปลี่ยนแผน ระดมยิงใส่เลย

    ดีซ : พวกนายสามคนจัดการบอดี้การ์ด ส่วนฉันจะเล่นงานตัวมันเอง

    เดอร์ริก : จัดให้เลยครับลูกพี่

    เมื่อพวกเขาได้จังหวะ พวกเขาก็จัดการกระหน่ำยิงใส่เซบาสเตียน เซบาสเตียนโดนยิงเข้าที่แขนจนล้ม แต่บอดี้การ์ดนับสิบก็มาบังตัวเขาเอาไว้ จากนั้นพวกเขาก็ส่งสัญญาณเตือนกันทั้งค่าย เพื่อออกตามล่าตัวมือปืน

    เดอร์ริก : รีบหนีกันก่อนดีกว่าครับ

    เอิร์ล : จอห์นนี่ เตรียมทางหนีเอาไว้หรือยัง

    จอห์นนี่ : ผมมีรถอยู่ หัวหน้าเก่งมากเลยครับ แขนมันกระจุยเลย

    ดีซ : ความจริงฉันอยากยิงให้โดนหัวมันมากกว่าหว่ะ

     

    กลับมายังเขตชานเมือง หลังจากที่ฮาและซีวิลป้องกันตัวเองจากแก๊สพิษมาได้ พวกเขาก็ออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาทั้งคู่ถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เจอ พวกเขาพบแต่ศพที่ตายจากแก๊สพิษ สภาพศพตายอย่างทรมาน ฮาถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อได้เจอ

    ซีวิล : นี่เธอ เป็นอะไรหรือเปล่า

    ฮา : ใครมันกล้าทำแบบนี้กัน

    ซีวิล : ก็คงจะเป็นพวกรัฐบาลนั่นแหละ จะใครหล่ะ

    ฮา : เด็กคนนั่น ฉันว่าฉันเคยเห็นนะ

    ฮาไปดูร่างของเด็กคนหนึ่งที่เธอรู้จัก เธอร้องไห้ออกมาหนักมากเมื่อได้รู้ว่าเขาตายอย่างทรมาน เธอไปกอดศพเด็กคนนั้นแต่ซีวิลลากตัวฮาออกมาก่อน

    ซีวิล : นี่ เธออยากตายที่นี่หรือไงเนี่ย

    ฮา : ฉันรู้จักเด็กคนนี้นี่หน่า

    ซีวิล : เขาตายแล้ว ปล่อยให้เขาไปสบายๆเถอะ

    ฮา : ฉันจะต้องแก้แค้นให้เธอแน่ๆเด็กน้อย

    ซีวิลยังคงลากตัวเธอออกมา เพื่อหลบหนีจากอันตรายที่กำลังตามล่าพวกเขา

     

    ณ ค่ายทหารของเวร่า หลังจากที่เธอมาถึงได้ไม่นาน เธอก็พบว่าค่ายของเธอกำลังถูกถล่มจากทหารอีกกองพลหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลจะมาจับตัวเธอไปลงโทษ เธอรีบไปบัญชาการรบด้วยตัวเองในทันที แต่ทหารของรัฐบาลก็บุกเข้ามามากมายเกินกว่าที่ทหารของเธอจะรับมือ

    ท่านครับ พวกนั้นฝ่าแนวของเรามาแล้วครับ

    เวร่า : ทำไมพวกมันถึงบุกเข้ามาได้ หน่วยไหนมันบุกเข้ามา

    เวร่าส่องกล้องไปดูด้านนอก เธอพบกับสัญลักษณ์ของเซบาสเตียน เธอรู้ทันทีว่าใครเป็นทหารของใคร

    เวร่า : เซบาสเตียน มันนี่เอง

    แล้วแบบนี้จะเอายังไต่อดีครับ

    เวร่า : ถอนกำลังด่วน สำรองข้อมูลทุกอย่าง แล้วเตรียมรถให้ฉันด้วย

    แล้วคุณเวร่าจะไปที่ไหนเหรอครับ

    เวร่า : ที่พักของคุณมาร์ค สั่งให้ทหารที่เหลือถอนกำลังไปที่นั่นด่วนเลย

    ได้ครับ

    ทหารของเธอรีบเก็บเสียงและอาวุธ รวมถึงรถหุ้มเกราะคันอื่นๆถอนกำลังเข้าไปในเมือง ก่อนที่ทหารของเซบาสเตียนจะมาจับตัวเธอไปลงโทษ

    และที่โกดังของมาร์ค ในตอนนั้นเองมาร์คก็เริ่มเก็บของของเขาเพื่อที่จะหนีออกจากประเทศ เนื่องจากเขาได้ข่าวมาว่าสงครามใกล้จะจบลงแล้ว เขาเรียกลูกน้องของเขามาเพื่อที่จะมาคุยถึงเรื่องเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของเขา

    มาร์ค : เครื่องบินของเราจะมาถึงเมื่อไหร่กันหล่ะ

    คาดว่าไม่เกิน 2 วันครับ

    มาร์ค : เออ พวกแกเก็บของกันหมดหรือยัง

    เก็บหมดแล้วครับผม

    มาร์ค : ดีมาก เราต้องรีบเตรียมของก่อนที่สหประชาชาติจะบุกเข้ามา

    ว่าแต่คุณเวร่าหล่ะครับ

    มาร์ค : รอให้เธอมาที่นี่ก่อน เธอคงมาในไม่กี่วันหล่ะ หรือไม่ แกก็ไปส่งข่าวให้เธอก็แล้วกัน

     

    กลับมายังบ้านพักของเจซซิน ในตอนนั้นเองเวสต์ก็เปิดวิทยุฟังข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ในตอนนั้นเองที่เขาได้ข่าวว่าสหประชาชาติจะบุกเข้ามาในอีกไม่กี่วันหากทางโซราติกไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องที่เขาต้องการรู้ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ข่าว พวกเขาก็คุยกันในทันที

    เจซซิน : ได้ข่าวอะไรบ้างมั้ยคะ

    เวสต์ : ทางสหประชาชาติจะบุกมาในไม่กี่วันนี้ครับ

    เจซซิน : จริงเหรอคะ แปลว่าสงครามก็ใกล้จะจบแล้วสินะคะ

    เวสต์ : ผมก็ว่าแบบนั้นหล่ะครับ

    อนาตาเซีย : เย้ๆ ดีจังเลย กลับบ้านเรานะครับพ่อ

    อดอลล่า : เดี๋ยวเธอก็ได้กลับบ้านเองแหละ

    อนาตาเซีย : บ้านฉันอยู่ที่อเมริกานะ เธอรู้หรือเปล่า

    เจซซิน : จริงเหรอคะคุณ แล้วคุณจะเอายังไงต่อหล่ะ

    เวสต์ : ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมต้องปกป้องอนาตาเซียให้ได้

    เจซซิน : ฉันเข้าใจนะคะ

    เวสต์ : ผมว่า เสบียงที่เรามีคงพอกินได้สามวัน เราคงไม่ต้องออกไปไหนแล้วหล่ะ

    เจซซิน : จริงด้วยค่ะ อยู่ดูแลเด็กๆกันดีกว่านะ

    อดอลล่า : เย้ๆ คุณแม่จะมาอยู่กับหนูแล้ว

    อนาตาเซีย : แหม่ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ตกเย็น ยูจีนเตรียมปืนของเธอพร้อมกับกระสุนเตรียมจะออกไปข้างนอก ในตอนนั้นเองมินโฮก็เดินเอาของมาให้กับเธอ ซึ่งเป็นเสื้อเกราะตัวหนึ่ง เอามาให้เธอใส่

    มินโฮ : เอานี่ไปใส่ซะสิ มันช่วยได้นะ

    ยูจีน : นายไปเอามาจากไหนหน่ะ

    มินโฮ : มีกัสให้ฉันยืมหน่ะ แต่ฉันคงไม่ต้องใช้มันหรอก

    ยูจีนหยิบเสื้อเกราะมาใส่ จากนั้นเองคนอื่นๆก็เดินเข้ามาในห้องของยูจีนเพื่อนัดแนะแผนการในการสำรวจในคืนนี้

    ทาเคชิ : ทุกคนครับ งานของเราคือสอดแนมพวกนั้นอย่างเดียว อย่ายิงถามไม่จำเป็นนะครับ

    ซีโร่ : แล้วยามของพวกมันที่นั่นไม่ป้องกันกันให้วุ่นแล้วเหรอครับ

    อัลเบิร์ต : เรื่องยามข้างนอกเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง

    ในขณะเดียวกัน คีธก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับปืนพกของเขาด้วย

    อลัน : อ้าว นี่คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย

    คีธ : ผมขอไปลุยกับพวกคุณด้วย ผมอยากล้างแค้นให้โทนี่หน่ะ

    นอร์รีน : นี่คุณจูซมรู้เรื่องนี้หรือเปล่าเนี่ยครับ

    คีธ : รู้ครับ แต่เธอยอมให้ผมมา

    ยูจีน : คืนนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครฆ่าโทนี่
    ==================================================================
    ยูจีนกำลังจะตามล่าตัวคนที่ฆ่าโทนี่ตาย เธอจะทำอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×