คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ยุทธการบาร์บารอสซ่า
ทหารเยอรมันหน่วยแล้วหน่วยเล่า
บุกเข้าไปยังใจกลางสหภาพโซเวียตโดยผ่านพรมแดนโปแลนด์ หน่วยของมิลเลอร์เป็นหัวหอกในการบุกจู่โจม
และฮิมมาร์คก็มาอยู่กับหน่วยรถถังด้วย เพราะต้องการรบด้วยตัวเอง
มิลเลอร์ : ตอนนี้พวกโซเวียตกำลังถอยร่นกลับไปครับ
ฮิมมาร์ค : ดีมาก จัดการพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือ
รถถังของหน่วยแพนเซอร์บดขยี้แนวหน้าของโซเวียตอย่างไม่มีชิ้นดี
ทหารโซเวียตพยายามตอบโต้แต่ก็ไม่เป็นผล
รถถังของมิลเลอร์โดนปืนยิงรถถังยิงใส่แต่ก็ยังไม่เป็นไร
"ลองนี่หน่อยไอ้หอก"
มิลเลอร์ยิงสวนด้วยปืนรถถัง ทำเอาพวกมันแตกกระเจิง ในตอนนั้นเอง
ฮิมมาร์คก็ลงจากรถถังแล้วออกไปยิงศัตรูด้วยตัวเอง เขาคว้าปืนกล mp40 ออกมากราดยิงอย่างไม่ยั้งมือ
ฮิมมาร์ค : มาสนุกแบบนี้หน่อยมั้ยพวก
มิลเลอร์โดดออกจากรถถังเพื่ออกไปคุ้มกันฮิมมาร์ค
เขาใช้ปืนพกกระบอกหนึ่งซึ่งเขาดัดแปลงเอง ตอนนั้นทหารโซเวียตคนหนึ่งพยายามจะใช้พลั่วสนามเข้าตี
แต่มิลเลอร์หลบได้และยิงมันจนมันล้มลง จากนั้นเขาก็เดินเข้าหาศพของมัน
"ด้วยความเมตตาจากพระเจ้า แกได้รับสิทธิ์ให้ตายจากฉัน"
จากนั้นมิลเลอร์ก็ยิงหัวมันอีกนัด
ในขณะที่กองทัพนาซีก็เคลื่อนพลเข้าสู่สหภาพโซเวียตทุกขณะ
กลับมายังลอนดอน
สถานทูตสหรัฐ หลังจากที่พวกเด็กๆได้ข่าวว่าแคทเทอรีนกำลังจะแต่งงาน
พวกเด็กก็ยินดีกันมาก และอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันแต่งงานของพวกเขาทั้งคู่
ในระหว่างที่พวกเขากำลังหารือกันถึงเรื่องงานแต่ง พวกเขาก็ได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์
ทำเอาพวกเขาตกใจกันมาก
ธิน : ทุกคน ฉันไปเจอข่าวนี้มา เยอรมันประกาศสงครามกับโซเวียตแล้ว
เอม : ตายแล้ว มันทำขนาดนี้เลยเหรอคะ แบบนี้ท่าไม่ดีแล้ว
อเล็กซ์ : นายคิดอะไรอยู่เหรอแซค ดูไม่ตกใจอะไรเลยเนี่ย
แซค : ฉันเดาไว้หล่ะ พวกนาซีต้องการน้ำมันในดินแดนของโซเวียตหน่ะ
แต่ไม่ต้องห่วง เราปลอดภัยแล้ว
โซเซีย : ใช่ โซเวียตกว้างใหญ่จะตาย
พวกมันคงจะติดล่มแล้วตายตรงนั้นหล่ะ
โอ๊ค : มิน่า นายถึงได้บอกว่าพวกเราปลอดภัยแล้ว พวกมันคงแพ้ที่นั่น
ออย : แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะคะ เราจะร่วมกับเขามั้ย
นาวิน : อีกไม่นานหรอก แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งสนใจเลย คุยเรื่องงานแต่งน้าแคทก่อนดีกว่า
โจส : 555 แต่ว่า เอาจริงๆนะ
งานนี้ผมจะเชิญแขกจากอเมริกามาด้วย
แคทเทอรีน : แล้วเขาจะมาได้เหรอคะ อยู่ตั้งไกลแถมยังมีสงครามอีก
โจส : ไม่ต้องห่วงครับ ยังไงเขาก็มาได้แน่ๆ
อเล็กซ์ : น้าแคทคะ ได้ข่าวว่าน้าต้องไปอเมริกานี่คะ
แคทเทอรีน : ใช่จ้ะ คุณโจสจะพาน้าไปจดทะเบียนสมรสที่นั่น
โจส : พวกเธอคงไม่ว่าอะไรน้าหรอกนะ
แซค : ไม่หรอกครับ ผมรู้ว่ายังไงพวกน้าก็ต้องไปอยู่แล้ว
โอ๊ค : ว่าแต่ นายคิดว่างานนี้จะเหมือนกับงานของจูเลียสเขาหรือเปล่า
โซเซีย : ไม่รู้สิ มันคนละส่วนกันนะ เอามาปนกันได้เหรอ
เอม : หนูต้องเตรียมชุดรอเอาไว้แล้วใช่หรือเปล่าคะเนี่ย
ออย : โธ่ ชุดเธอมีตั้งเยอะตั้งแยะ เลือกใส่ซักตัวสิ
ธิน : ยังไงก็ขออวยพรน้าทั้งสองคนมากๆเลยนะครับ
นาวิน : ใช่ครับ ยังไงก็ขอให้มีความสุขที่อเมริกานะครับ
โจส : ขอบใจมากๆนะ
กลับมายังเบอร์ลิน
เยอรมนี ฮัมบูร์กได้วางแผนอย่างลับๆด้วยการซ่องซุมคนที่ภักดีกับเธอและอาวุธอีกจำนวนหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง เธอได้รู้จักกีบนักเรือทัพเรือจากญี่ปุ่นที่มาเรียนที่เยอรมัน
เธอชื่ออิสุซุ ฮัมบูร์กรู้จักกับเธอมาได้ 3
อาทิตย์แล้ว วันหนึ่งฮัมบูร์กชวนเธอมาเยี่ยมบ้าน
จากนั้นก็นั่งคุยกัน
อิสุซุ : ขอบใจมากนะฮัมบูร์กจังที่ต้อนรับฉัน
ฮัมบูร์ก : ตอนนี้ฉันกำลังซ่องสุมกำลังพลอย่างเงียบๆอยู่หน่ะ
อิสุซุ : ห่ะ นี่เธอจะก่อกบฎงั้นเหรอ
ฮัมบูร์ก : ไม่หรอก ฉันแค่จะยึดอังกฤษให้ได้หน่ะ
อิสุซุ : แล้วท่านผู้นำของเธอไม่สั่งให้โจมตีงั้นเหรอ
ฮัมบูร์ก : ท่านคิดว่าจะให้อังกฤษยอมแพ้ง่ายๆหน่ะ
แต่คงไม่รู้ว่าพวกนั้นไม่ยอมหรอก
อิสุซุ : ว่าแต่ กองเรือของเธอตอนนี้มีมากแค่ไหนหล่ะ
ฮัมบูร์ก : ก็ไม่มากเท่าไหร่
ตอนนี้ฉันกำลังสะสมเรือกับเครื่องบินเพิ่มอยู่หน่ะ อีกอย่าง
ฉันอยากให้เธอช่วยฉันก่อการครั้งนี้ด้วย
อิสุซุ : ว้าว น่าสนุกจัง ยังไงฉันก็ขอร่วมด้วยคนนะ
ที่บ้านของจูเลียส
หลังจากที่แต่งงานกันได้ไม่กี่เดือน
พวกเขาทั้งคู่ก็ฮันนีมูนกันเหมือนคู่แต่งงานใหม่
โดยที่จูเลียสรุกหนักมากไม่ให้เคทตั้งตัวเลย
จูเลียส : เรามามีลูกกันเถอะนะที่รัก
เคท : โธ่คุณ มีลูกตอนกำลังออกรบเนี่ยนะคะ
จูเลียส : คุณก็ไม่ต้องรบอีกสิ เลี้ยงลูกให้ผมหน่อย
เคท : บ้า คุณหน่ะ
จากนั้นจูเลียสก็พาเธอขึ้นเตียง แล้วก็เริ่มการมีลูกด้วยกัน
บรรยากาศในห้องดูจะเป็นใจดี แต่จากนั้นไม่นาน พ่อบ้านของตระกูลก็มาตามตัวเขาด่วน
จูเลียส : มีอะไรครับคุณพ่อบ้าน
"แย่แล้วครับคุณชาย ตอนนี้คุณท่านอยู่โรงพยาบาล
ท่านคงจะ.."
จูเลียส : ห่ะ จริงเหรอ งั้นผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ
เคท : มีอะไรเหรอคะคุณ
จูเลียส : พ่อผมอยู่โรงพยาบาล ผมต้องรีบไปเยี่ยมท่าน
เคท : จริงเหรอคะ งั้นฉันไปด้วยนะคะ
และอีกด้านหนึ่งของกรุงลอนดอน
เมอร์ลินถูกจับกุมได้และถูกนำตัวไปยังเรือนจำทหารในเมือง
โดยที่เขาถูกนำตัวไปขึ้นรถ เพื่อเอาตัวไป
โดยที่มีนักบินเยอรมันบางส่วนที่ถูกจับกุมมาพร้อมกับเขา
"ท่านครับ ไม่เป็นไรนะครับ"
เมอร์ลิน : อ้อ ฉันประมาทมันนิดหน่อย ถึงได้มาอยู่ที่นี่หน่ะ
"แล้วเราจะเอายังไงต่อดีครับ"
เมอร์ลิน : ตอนนี้เราต้องใจเย็น เรากำลังตกเป็นเชลย
ทำอะไรไม่ได้หรอก
"คอยดูนะ ออกไปได้เมื่อไหร่จะถล่มที่นี่ให้ราบเลย"
เมอร์ลิน : เมื่อเวลานั้นมาถึง นายได้ทำแน่
ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะมาจากด้านหน้ารถ
"โอ๊ย เงียบกันหน่อย ไอ้พวกหมูเยอรมันเอ้ย"
"เฮ้ย คิดว่ากำลังพูดกับใครวะ"
เมอร์ลิน : ใจเย็น รอออกไปได้ก่อน ฉันจัดการพวกมันแน่
กลับมายังสนามบินแถบชายแดน
โอแลนยังคงหาทางพัฒนาเครื่องบินกับเจ้านายของเขา เซอร์แฟรงค์ ต่อไป
คราวนี้งานของพวกเขาจะง่ายขึ้นเนื่องจากพวกเขาได้ยึดเครื่องบินขับไล่ของข้าศึกมาได้ด้วย
โอแลน : ท่านครับ ดูนี่สิครับ ผมว่าเครื่องยนต์ของมันเยี่ยมมากเลยนะครับ
แฟรงค์ : นั่นสินะ
ฉันได้ยินข่าวว่าตอนนี้มันโจมตีสหภาพโซเวียตอยู่หน่ะ
โอแลน : ห่ะ จริงเหรอครับ เป็นพันธมิตรกันอยู่แท้ๆเลย
แฟรงค์ : พวกมันคงต้องการน้ำมันบนแผ่นดินโซเวียตหน่ะ
โอแลน : อ้อครับ มันยึดรองเราไม่ได้เลยพยายามจะหาทรัพยากรเพิ่มสินะ
แฟรงค์ : แต่อย่าเพิ่งดีใจไป มันมีเครื่องบินแบบนี้
มันอาจชนะโซเวียตก็ได้
โอแลน : ท่านครับ โซเวียตกว้างใหญ่จะตาย แถมหนาวขนาดนั้น
คิดว่ามันจะรอดเหรอครับ
แฟรงค์ : ก็จริงของคุณนะ แต่ช่างก่อนเถอะ ทำงานของเราก่อนดีกว่า
กลับมายังลอนดอน
สมาคมนักเรียนไทย เจลามี่คอยรับคอยส่งพิมทุกวัน จนคนที่สมาคมเริ่มเอะใจกันแล้ว
และวันนี้เป็นวันที่พิมจะไปส่งจดหมายให้แก้ว เพื่อนของเธอ เธอก็ไปส่งตามปกติ
ต่างกันตรงที่เจลามี่คอยไปส่งเธอตลอด
เจลามี่ : คุณส่งจดหมายไปหาใครเหรอครับ
พิม : ถึงเพื่อนฉันที่เมืองไทยหน่ะค่ะ เราทั้งคู่สนิทกันมากเลยนะ
เจลามี่ : ผมก็มีเพื่อนสนิทอยู่นะครับ
เขาคงกำลังทำงานที่โปแลนด์อยู่หน่ะครับ
พิม : อ้อค่ะ ก็ขอให้เพื่อนคุณปลอดภัยนะคะ
เจลามี่ : อ้อครับ ก็ขอให้จดหมายส่งถึงเพื่อนคุณไวๆนะครับ
พิม : ว่าแต่ คุณไม่ทำงานเหรอคะวันนี้
เจลามี่ : วันนี้ทางหน่วยยังไม่เรียกผมหน่ะครับ
พิม : อ้อค่ะ ดีจังเลยนะคะ
เจลามี่ : วันนี้ไปทานอะไรกันหน่อยดีมั้ยครับ
พิม : อุ๊ย จะดีเหรอคะ
เจลามี่ : ดีสิครับ ไหนๆคุณกับผมก็ว่างด้วยกันทั้งคู่หล่ะ
พิม : อ้อค่ะ ได้สิคะ
จากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นรถกัน แล้วก็ขับออกไปที่ย่านดาวน์ทาวน์
เพื่อไปนั่งหาอะไรทานกัน
กลับมายังเบอร์ลิน
เยอรมนี ในขณะนั้นเองซาบอนกำลังนั่งทำงานของเขาอยู่
จู่ๆก็มีนายทหารเยอรมันคนหนึ่งเจ้ามาหาเขา พร้อมกับนำเรื่องสำคัญมาคุยกับเขา
ซาบอน : อ้าว สวัสดีครับท่านนายพล มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ
"ผมอยากให้คุณช่วยสืบหาตัวคนหน่อย"
ซาบอน : ใครกันเหรอครับ
"มันเป็นคนสำคัญของสมาชิกของคอมมิวนิสต์ที่เบลเยี่ยม"
ซาบอน : ผมรู้จักมัน มันยังอยู่ในเบลเยี่ยมอีกเหรอครับ
"ตอนนี้มันหนีไปสหภาพโซเวียตหล่ะ"
ซาบอน : ถ้าท่านให้ผมช่วยตามตัว จะมีค่าตอบแทนดีๆให้ผมหรือเปล่าหล่ะ
"ค่าตอบแทนดีแน่นอน แล้วผมจะบอกรายละเอียดคุณอีกทีก็แล้วกัน"
จากนั้นซาบอนก็รับรูปมาจากเขา
และอีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่นูโวร่าซื้อบริการทางเพศจากสาวเยอรมัน เธอก็ออกจากห้องมาแล้ว
เธอรีบไปยังสถานทูตอิตาลีในเยอรมันทันที
"ท่านนูโวร่าครับ สภาพไม่ค่อยดีเลยครับ"
นูโวร่า : ใครว่า ความจริงฉันยังไหวอยู่ต่างหาก
"ว่าแต่ไอ้ซาบอนนั่น จะเอายังไงกับมันดีครับ"
นูโวร่า : อดทนไว้ก่อน ตอนนี้เราต้องพึ่งมัน
"ครับ แต่ถ้าอยากให้ผมเก็บมันก็สั่งมาเลยนะครับ"
นูโวร่า : ว่าแต่ ตอนนี้ทางเยอรมันส่งอะไรมาช่วยเราหรือยัง
"พวกเขาส่งเสบียงและอาวุธเพิ่มเติมให้เราแล้วครับ"
นูโวร่า : ดีมาก งานของเราจะได้สำเร็จซะที
กลับมายังกรุงลอนดอน
สำนักงานหน่วยข่าวกรอง
พวกเขาพยายามดักฟังและถอดรหัสเส้นทางการเดินเรือดำน้ำของเยอรมัน ในตอนนั้นเอง
พวกเขาก็ได้ข่าวมาใหม่ โดยมีคนในหน่วยคนหนึ่งวิ่งมาบอก
"ทุกคน ได้ข่าวหรือยัง เยอรมันบุกสหภาพโซเวียตแล้ว"
คาริน่า : จริงเหรอ พวกเขาทำได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ
อลัน : ว่าแต่ ตอนนี้พวกเยอรมันบุกไปถึงไหนแล้วเหรอ
"ตอนนี้กำลังรุกคืบผ่านโปแลนด์แล้วครับ"
คาริน่า : แบบนี้สงครามก็อาจจะเปลี่ยนมือก็ได้นะคะ
อลัน : ทำไมคุณถึงเชื่อแบบนั้นหล่ะ
คาริน่า : บางทีการจู่โจมของสหภาพโซเวียต อาจจะทำให้พวกเยอรมันถอยร่นก็ได้
"ผมว่าใช่นะครับ โซเวียตกว้างใหญ่ซะขนาดนั้น
แถมยังมีฤดูหนาวอีกต่างหาก"
อลัน : อาจจะจริงก็ได้ แต่ตอนนี้เรามาดูสถานการณ์ที่นี่ก่อนดีกว่า
กลับมายังรัฐแอริโซน่า
สหรัฐอเมริกา วันนี้เป็นวันที่โคเวอร์ต้องกลับไปประจำการยังค่ายของตน
เขาเตรียมบอกลาแม่ของเขาเพื่อที่จะกลับไปฝึกต่อ
"เอาของอะไรไปหมดหรือยังลูก"
โคเวอร์ : น่าจะหมดแล้วนะครับแม่ ผมเช็คหล่ะ
"จ้ะลูก เอาอะไรไปกินด้วยนะถ้าเผื่อลูกหิว"
โคเวอร์ : ครับแม่ ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ครับ
"กลับไปแล้วลูกต้องดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ"
โคเวอร์ : ครับแม่ ผมจะรีบฝึกแล้วไปสู้รบให้ได้
"นี่ลูก อย่ารบกับใครเลยนะถ้าไม่จำเป็นหน่ะ"
โคเวอร์ : ครับแม่ ผมเข้าใจ แม่รักษาตัวให้ดีด้วยนะครับ //
จากนั้นเขาก็กอดแม่ของเขา แล้วก็เดินขึ้นรถบัสของเมืองออกไป
กลับมายังสหภาพโซเวียต
ในขณะนั้นเองออก้าก็ได้ข่าวการโจมตีของพวกเยอรมันแล้ว เขาจึงรีบปรึกษากับแม่ตัวเองว่าจะทำอย่างไรต่อ
ออก้า : แม่ครับ พวกนาซีบุกมาแล้ว เราต้องหนีไปก่อนนะครับ
"ไม่ต้องหนีไปไหนหรอกลูก ที่มอสโควปลอดภัยดี"
ออก้า : แม่ไม่รู้หรอกว่าพวกนาซีมันเก่งกาจขนาดไหน
"งั้นเราจะหนีไปไหนหล่ะ ไซบีเรียเหรอ"
ออก้า : ก็ไม่ใช่อีกอ่ะแม่ ถ้าจะหนี เราคงต้องไปให้ไกลเลยหล่ะ
และในขณะนั้นเอง ก็มีการระดมชายหนุ่มทั่วประเทศ
เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก หน่วยจเรทหารเข้ามาในบ้านของออก้าจากนั้นก็พูดว่า
"ออก้า มีคำสั่งระดมพล รีบไปรายงานตัวด่วนเลย"
ออก้า : ได้สิ แต่ขอเวลาเดี๋ยวนึงนะ
ออก้าไปกอดแม่ของเขา จากนั้นก็พูดว่า
"แม่ครับ รักษาตัวด้วยนะครับ แล้วผมจะกลับมา"
"รักษาตัวด้วยนะลูกแม่"
จากนั้นเอง ออก้าก็ออกไปด้านนอกกับทหารคนนั้น
เพื่อทำการรายงานตัวแล้วเข้ากองทัพเพื่อป้องกันประเทศ
ทางด้านของรัต
ในขณะนั้นเองแม่ของเขาล้มป่วยลงเรื่อยๆ รัตคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง ซึ่งตอนนั้นแม่ของเขารู้ดีว่ากำลังจะจากไป
สุดท้ายเขาและพ่อต้องมาดูใจแม่เขาเป็นครั้งสุดท้าย
รัต : แม่ครับ เชื่อผมเถอะครับ ผมจะพาแม่ไปหาหมอเอง
"ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่รู้ตัวดีว่าแม่เป็นยังไง"
"โธ่คุณ เชื่อลูกเขาหน่อยสิ"
"ฉันรู้ดี ว่าฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานค่ะคุณ"
รัต : แม่ครับ อย่าพูดแบบนี้สิครับ
"ลูกแม่ ยังไงก็ดูแลแม่เขาแทนพ่อหน่อยนะ"
รัต : ครับแม่ // รัตพูดออกมาทั้งน้ำตา
"คุณไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วนะ"
"ขอบคุณค่ะ ฉันรักคุณกับลูกมากๆนะคะ"
จากนั้นแม่ของรัตก็จากไปด้วยอาการป่วยอย่างหนัก
รัตร้องไห้ออกมาโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว พ่อของเขาต้องมาปลอบใจเขา
"ไม่เป็นไรนะลูก แม่เขาไปดีแล้วนะ"
รัต : ผมผิดเองที่ไม่กลับมาก่อนที่แม่จะเป็นอะไรไป
"อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิลูก ลูกต้องสู้ต่อไปนะ"
รัต : ครับพ่อ
กลับมายังค่ายกักกันของวิคเตอร์
ในตอนนั้นทั้งวิคเตอร์และเทราน์เนอร์ได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวในเบอร์ลิน
ทำเอาทั้งคู่ตื่นเต้นมากเพราะทั้งคู่ไม่ได้เข้าเมืองมานานแล้ว
วิคเตอร์ : เอ้ย นี่ กลับไปคราวนี้นายจะซื้ออะไรหรือเปล่า
เทราน์เนอร์ : อยากซื้อไวน์ซักขวด ฉันอยากดื่มมากๆ
วิคเตอร์ : เยี่ยม ฉันรู้จักร้านหนึ่ง เดี๋ยวฉันพานายไป
เทราน์เนอร์ : ว่าแต่ นายจะไม่กลับไปหาเมียนายหน่อยเหรอ
วิคเตอร์ : กลับก็ดี อยากจะนอนกับเธอแก้เบื่อซะหน่อย
เทราน์เนอร์ : เอาเถอะ ว่าแต่
นายได้ข่าวค่ายกักกันใหม่ที่โซเวียตหรือเปล่า
วิคเตอร์ : ได้ข่าวสิ มีแต่พวกหมารัสเซียเต็มไปหมด
เทราน์เนอร์ : อย่าไปรัสเซียมานานแล้วหว่ะ
วิคเตอร์ : ฉันจะลองทำเรื่องไปคุมที่นั่นดู จะได้ไปเที่ยวด้วย
เทราน์เนอร์ : เอาดิ แต่ตอนนี้รีบเก็บของกลับบ้านกันก่อนดีกว่า
ว่าแล้วทั้งคู่ก็ขนของขึ้นรถ
จากนั้นรถไฟขบวนนั้นก็ค่อยๆแล่นออกไปสู่กรุงเบอร์ลิน
กลับมาที่บ้านของดอร์ชมันต์
ทั้งคู่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กันอย่างหวานซึ้ง
ดอร์ชมันต์ดูแลกัสเป็นอย่างดีส่วนกัสก็ช่วยเหลือเขาทุกอย่าง
แลดูจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกันดี
กัส : วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอคะ
ดอร์ชมันต์ : ผมบอกพวกเขาว่ากำลังจะแต่งงาน เขาเลยให้วันหยุดผมหน่ะ
กัส : จริงเหรอคะ เราจะแต่งงานกันเหรอคะ
ดอร์ชมันต์ : แน่นอนครับ เหล่าคนใหญ่คนโตก็ร่วมแสดงความยินดีกันด้วยนะครับ
กัส : ขอบคุณมากนะคะ
ดอร์ชมันต์ : จากนั้นผมจะพาคุณไปอยู่ที่รัสเซียนะครับ
กัส : รัสเซียอย่างงั้นเหรอคะ
ดอร์ชมันต์ : ใช่ครับ ผมต้องไปควบคุมความสงบที่นั่น
แล้วเขามีบ้านพักให้ผมแล้วครับ
กัส : ได้สิคะ คุณไปไหนฉันก็ไปด้วยนั่นแหละค่ะ
ดอร์ชมันต์ : ครับผม!!
กลับมาที่เบอร์ลิน
อลิสกันรินได้รับคำสั่งให้ไปสืบราชการลับให้กับหน่วยข่าวกรอง เมื่อพวกเธอมาถึง
เขาก็ยื่นคำสั่งให้กับเธอทันที
"สวัสดีคุณผู้หญิง ในที่สุดพวกคุณก็มา"
อลิส : ค่ะ ดิฉันยินดีรับใช้ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ
"ผมจะให้พวกคุณไปสืบข่าวที่อังกฤษหน่ะ"
ริน : จริงเหรอคะ ท่านจะให้พวกเราไปสืบเรื่องอะไรเหรอคะ
"ตอนนี้พวกอเมริกาเริ่มจะให้ความช่วยเหลืออังกฤษมากเกินไป
ผมอยากให้พวกคุณสืบว่าพวกเขาจะทำอะไรกันต่อ"
อลิส : ว่าแต่ ท่านจะให้ดิฉันติดตามตัวใครคะ
"ผมจะบอกคุณอีกครั้ง ตอนนี้เราเปลี่ยนพาสปอร์ต
เปลี่ยนชื่อพวกคุณก่อนเข้าอังกฤษ ไม่ต้องห่วงหล่ะ"
ริน : แล้วเราจะต้องออกเดินทางเมื่อไหร่หล่ะคะ
"อาทิตย์หน้าหน่ะ"
อลิส : จะให้เราส่งข้อมูลไปให้ท่านยังไงกันหล่ะคะ
"เรามีสายให้คุณที่ลอนดอน พยายามติดต่อเขาแล้วกัน
ชื่อรหัสเขาคือ 703"
ริน : ได้ค่ะท่าน ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ
ทางด้านโยชิตะ
เมื่อเขากลับมายังค่ายยุวชนนาซี เพื่อนๆของเขาต่างก็มาต้อนรับเขาที่กลับมา
"ว่าไงเพื่อน เป็นยังไงบ้างที่เบอร์ลินหน่ะ"
โยชิตะ : ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ไปเยี่ยมพี่สาวฉันหน่ะ
"ว่าแต่ พี่สาวนายเป็นยังไงบ้างอ่ะ"
โยชิตะ : คนไหนหล่ะ ถ้าเป็นพี่ใหญ่ก็กำลังจะไปแอฟริกา
ส่วนอีกคนก็ไปอังกฤษหน่ะ
"แต่ฉันเสียดายมากเลยอ่ะ
พี่สาวนายน่าจะยึดอังกฤษได้แล้วแต่ดันมีคนไม่พอ"
โยชิตะ : ไม่ต้องห่วง พี่ฉันมีแผนการเสมอหล่ะ
"โอเค ยังไงนายก็มานั่งพักเหนื่อยกับเราก่อนสิ"
โยชิตะ : ขอบใจมากนะ
กลับมาที่เบอร์ลิน
ในขณะนั้นเอง ลูก้าก็ได้ไปเข้าพบจอมพลรอมเมลเป็นการด่วน ในตอนนั้นรูดอฟก็อยู่ด้วย
เมื่อลูก้ามาถึง เขาก็รายงานตัวทันที
ลูก้า : ท่านจอมพลครับ
รอมเมล : เอาหล่ะ ไม่ต้องรีบหรอก ท่าทางคุณจะเพิ่งพักร้อนมานะ
ลูก้า : ว่าแต่ ท่านเรียกพบผมมีอะไรหรือเปล่าครับ
รอมเมล : ตอนนี้เราประกาศสงครามกับสหภาพโซเวียตแล้ว
ลูก้า : ห่ะ จริงเหรอครับ เป็นไปไม่ได้
รูดอฟ : มันเป็นไปแล้วหล่ะ ตอนนี้พวกเขากำลังข้ามพรมแดนโปแลนด์อยูุ่
ลูก้า : พวกเขาไม่รู้เหรอครับ ว่ารัสเซียกว้างใหญ่ขนาดไหน
รอมเมล : ความจริงผมไม่อยากส่งคุณไปที่นั่นหรอก ผมอยากให้คุณควบคุมทางแอฟริกามากกว่า
ลูก้า : ครับท่าน ตอนนี้ทางอังกฤษคงจะส่งคนไปเสริมที่นั่นแล้ว
รอมเมล : อีกไม่นานผมคงจะต้องไปที่นั่นหล่ะ
ลูก้า : ทำไมหล่ะครับท่าน
รอมเมล : การรบที่นั่นดุเดือดและติดพัน ผมคงต้องไปด้วยตัวเองหล่ะ
ลูก้า : ครับท่าน
กลับมาที่แอฟริกา
ค่ายทหารของชาวอาหรับ
เทเรซ่าก็ได้รับหน้าที่ให้รักษาชาวอาหรับที่ขาดแคลนหมอทั้งหลาย
ซึ่งพวกเขาบาดเจ็บจากสงครามแถมยังติดโรคร้ายมาอีก
เทเรซ่า : นี่ ราซัค คนป่วยเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ราซัค : ครับ แถมยังมีเพิ่มขึ่นเยอะทุกวันอีกครับ
เทเรซ่า : ทางอังกฤษไม่คิดจะช่วยเหลือพวกเขาหน่อยเหรอ
ราซัค : ทางนั้นก็มีสงครามที่กำลังติดพัน ก็ช่วยได้เท่าที่มีครับ
เทเรซ่า : เฮ้อ ตอนนี้ยาของที่นี่มีพอหรือเปล่า
ราซัค : ยาเราพอจะมีอยู่ครับ
เทเรซ่า : โอเค ยังไงก็ไปขนมาให้หมด คงต้องรักษากันยาวหล่ะ
จากนั้นไม่นานราซัคก็รีบไปขนยามาให้เธอ
พร้อมกับคนป่วยอีกนับสิบ
เธอต้องรักษาพวกเขาทุกคนโดยเร็วก่อนที่จะมีคนอื่นมาเพิ่มอีก
กลับมายังพรมแดนของโปแลนด์
หลังจากที่กองพลของเยอรมันข้ามพรมแดนมาได้ พวกเขาจัดการกำราบทหารโซเวียตจนมันถอยไปไกล
จากนั้นพวกเขาเตรียมวางแผนออกเดินทางเพื่อโจมตีต่อไป
มิลเลอร์
: ท่านครับ แผนการของเราดีเกินคาด
ตอนนี้พวกโซเวียตถอยไปตั้งหลักที่ชายแดนรัสเซียแล้วครับ
ฮิมมาร์ค
: ดีมาก เตรียมกองพลรถถังของเราให้พร้อม
เราจะโจมตีมันทั้งวันทั้งคืนเลย
มิลเลอร์
: แต่ว่า พวกเขายังไม่ทันจะได้พักเลย
ท่านจะบุกพวกมันต่องั้นเหรอ
ฮิมมาร์ค
: แน่นอน
เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีระลอกต่อไป
มิลเลอร์
: ครับผม
กองพลแพนเซอร์ของมิลเลอร์เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีระลอกต่อไป
เพื่อบุกเข้าใจกลางสหภาพโซเวียตก่อนฤดูหนาว
==============================================================
กองทัพนาซีกำลังรุกคืบเข้าสู่ใจกลางสหภาพโซเวียต แล้วยุทธการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยจ้า!!
ความคิดเห็น