คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : เตรียมข้ามพรมแดน
หลังจากที่กองทัพเยอรมันยอมจำนนที่ชายฝั่งอังกฤษ
บรรดาทหารสัมพันธมิตรก็เคลียร์พื้นที่โดยรอบ
จากนั้นก็จับเชลยเป็นตัวประกันได้มากมาย
นาวิน : เฮ้ย ดูสิ จับพวกมันได้เป็นร้อยเลยอ่ะ
มันกะยึดลอนดอนเลยแหงะๆ
แซค : ว่าแต่ ตอนนี้กองเรือของฮัมบูร์กเขาไปไหนซะหล่ะ
ธิน : ป่านนี้คงจะหนีเตลิดไปไหนแล้วหล่ะ กองเรืออังกฤษมาแล้วนี่
โอ๊ค : โอ้ย การรบครั้งนี้ทำเอาหิวข้าวอย่างแรงเลยเนี่ย
อเล็กซ์ : ไม่ต้องห่วง น้าแคทเทอรีนจะทำอะไรให้พวกเรากินเองหล่ะ
โซเซีย : ว่าแต่ พวกนายไม่สงสัยกันเหรอ
ว่าทำไมพวกมันถึงถอยไปง่ายๆแบบนั้นหล่ะ
นาวิน : ฉันก็คิดอยู่ ปกติฮัมบูร์กไม่ยอมแพ้ง่ายๆนี่
เอม : โธ่พี่ ไม่แน่กำลังสนับสนุนของพี่เขาอาจจะไม่มาก็ได้
ออย : หนูเห็นด้วยกับเอมนะ พวกมันคงจะส่งกำลังพลไปที่อื่นหน่ะ
แซค : ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฮัมบูร์กจะหยุดแค่นั้น
ธิน : แหม่ รู้นิสัยกันดีเลยนะ คิดถึงยัยนั้นใช่ป่าว
โอ๊ค : แหม่ ไปแซวแบบนั้นแซคก็เขินแย่เลยดิ
และในตอนนั้นเอง เคทกับจูเลียสที่เพิ่งจะไปที่หาดอื่น
ก็กลับมาหาพวกเขาทันที
จูเลียส : เย้ พวกเราเล่นงานมันจนตกทะเลไปเลยวันนี้
เคท : ว่าแต่ เหตุการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้าง มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า
อเล็กซ์ : ทางนี้คุมสถานการณ์อยู่แล้วหล่ะ
เคท : ทำไมพวกมันถึงแพ้ง่ายๆแบบนี้หล่ะ
จูเลียส : นั่นสิ อยู่ดีๆก็ถอยทัพไปดื้อๆ แบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
โซเซีย : ไม่แน่นะ พวกมันอาจจะส่งกำลังไปที่อื่น เช่นแอฟริกาไงหล่ะ
นาวิน : เอาเป็นว่า เรารีบเคลียร์พื้นที่ตรงนี้
แล้วกลับบ้านกันดีกว่า
และที่สนามบินกองทัพ
ชายฝั่งอังกฤษ หลังจากที่พวกเขาได้ชัยอย่างงดงาม ทำให้พวกเริ่มดื่มฉลองกันทันที
ทั้งนักบินและวิศวกร ราวกับไม่เคยฉลองอะไรแบบนี้มาก่อน
โอแลน : 555 ป่านนี้พวกเยอรมันกลับไปนอนเลียแผลกันใหญ่หล่ะมั้ง
"นั่นสิ วันนี้เรายิงพวกมันตกไปมากมาย จับนักบินมันมาได้ก็เยอะเหมือนกัน"
โอแลน : ว่าแต่ ทำไมพวกมันถึงแพ้ง่ายๆแบบนี้หล่ะ
"สงสัยคงไม่มีงบทำสงครามแล้วหล่ะ"
โอแลน : แต่ฉันว่า พวกมันคงไม่หยุดแค่นี้หรอก
"แล้วนายคิดว่า พวกมันจะไปที่ไหนกันต่อหล่ะ"
โอแลน : ฉันว่า คงจะเป็นแอฟริกานั่นแหละ ตอนนี้กำลังเดือดเลยนี่
"เดี๋ยวอีกไม่นาน เราก็จะส่งคนไปช่วยแล้วหล่ะ"
โอแลน : มันคงไม่รู้สินะ ว่ามันกำลังจะขึ้นเขียงแล้วหล่ะ
และที่ทะเลแห่งหนึ่งแถวช่องแคบอังกฤษ
เมอร์ลินลากสังขารตัวเองออกมาจากเครื่องบิน
จากนั้นก็พยายามว่ายน้ำกลับไปยังฝั่งเยอรมัน เขาว่ายไปทั่วพยายามร้องให้คนอื่นช่วย
"เฮ้ย มีใครอยู่มั้ย ช่วยด้วยโว้ย"
ระหว่างที่กำลังว่ายน้ำ อยู่ดีๆก็มีเรือกู้ภัยลำหนึ่งขับมาใกล้เขา
เขาคิดว่าพวกเยอรมันคงจะมาช่วยเหลือนักบินที่ถูกยิงตก แต่ที่ไหนได้
นั่นคือทหารอังกฤษที่กำลังตามล่านักบินเยอรมัน
เมื่อเขาเห็นเมอร์ลินใส่ชุดนักบินเยอรมัน เขาจึงเล็งปืนใส่เมอร์ลินทันที
"หยุด อย่าขยับเด็ดขาด"
เมอร์ลิน : อย่า ฉันยอมแล้ว อย่ายิงนะโว้ย
จากนั้นเอง พวกเขาก็โยนห่วงยางให้เมอร์ลิน
จากนั้นก็ลากเขามาขึ้นเรือ แล้วก็จับกุมตัวเอาไว้ทันที
"เจอแต่นักบินเยอรมันเนี่ย ไม่เจอพวกเราบ้างเลย"
เมอร์ลิน : แม่ง โคตรซวยเลยกูวันนี้
กลับมายังเบอร์ลิน
เยอรมนี ฮัมบูร์กเร่งให้ทหารขับรถมายังฐานบัญชาการใหญ่
เพื่อหาสาเหตุที่เธอเจอโดยเร็ว เมื่อเธอเข้าไปในห้อง
เธอก็เจอนายทหารระดับสูงมากมายมาประชุมกัน ทำเอาเธอตกใจมาก
ฮิตเลอร์ : อ้าว ฮัมบูร์ก ดีใจนะที่รอดมาจากอังกฤษได้นะ
ฮัมบูร์ก : ท่านคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงต้องสั่งถอยหล่ะคะ
ฮิมม์เลอร์ : คุณก็รู้นี่ ว่าจะชนะอังกฤษได้
ต้องมีกองเรือและเครื่องบินที่ดีกว่านี้
ฮัมบูร์ก : แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้เครื่องบินกับฉันหล่ะ มิลเลอร์
นายถอนกำลังกลับมาง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
มิลเลอร์ : ฉันขอโทษนะ มันเป็นคำสั่งจากศูนย์บัญชาการใหญ่หน่ะ
ฉันเลยต้องกลับมา
ฮัมบูร์ก : พวกท่านทำอะไรกันอยู่ ถึงได้ถอนทัพจากอังกฤษแบบนั้น
ฮิตเลอร์ : ผมมีสมรภูมิที่ดีกว่านั้น รัสเซียยังไงหล่ะ
มิลเลอร์ : ใช่แล้วฮัมบูร์ก ฉันได้ทำการรบจริงๆจังๆซะทีแล้ว
ดีใจมั้ย
ฮัมบูร์ก : ห่ะ ฉันขอคัดค้าน การบุกโซเวียตเป็นอะไรที่แย่มาก
มิลเลอร์ : ฮัมบูร์ก ทำไมเธอคิดแบบนั้นหล่ะ เธอกลัวพวกมันเหรอ
ฮัมบูร์ก : พวกคุณไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรอยู่
โซเวียตกว้างใหญ่จะตาย
ฮิตเลอร์ : หน่วยข่าวกรองของผมแจ้งมาแล้ว กำลังของพวกมันอ่อนแอ
เราจะโจมตีสายฟ้าแลบใส่พวกมัน จอมพลวัลเทอร์จะเป็นผู้นำการรบในครั้งนี้
แล้วผมอยากแนะนำให้ผมรู้จักใครคนหนึ่ง มาทางนี้หน่อยสิ
"ครับท่านพ่อ"
ชายที่มีน้ำเสียงดูน่ากลัวเดินออกมาแนะนำตัวให้ฮัมบูร์ก
"ผมชื่อ ฮิมมาร์ค แวร์ นายพลที่จะมาปฏิบัติภารกิจนี้
ฝากตัวด้วยครับ" ฮิมมาร์คจูบมือของฮัมบูร์ก
ฮิตเลอร์ : เขาเป็นเด็กจากการทดลองโปรเจค X ที่ผมรับเลี้ยงไว้
ต่อไปนี้คุณมิลเลอร์ต้องขึ้นตรงกับเขา ส่วนคุณฮัมบูร์ก
คุณเตรียมกองเรือของคุณเตรียมไปแอฟริกาด่วนเลย
มิลเลอร์ : ครับผม ผมรับคำสั่งครับ
ฮิมมาร์ค : เมื่อไหร่ผมจะได้ลุยซักทีเนี่ยครับ
ฮัมบูร์ก : หวังว่าพวกท่านจะรู้นะว่าทำอะไรกันอยู่ //
จากนั้นฮัมบูร์กก็หัวเสียเดินออกจากห้องไป
กลับมายังสถานทูตอเมริกาที่ลอนดอน
ในตอนนั้นเอง พวกเขาทั้งคู่กำลังรอต้อนรับพวกเด็กๆที่เพิ่งจะชนะศึกกลับมา
โดยที่เจ้าหน้าที่สถานทูตก็จะมาต้อนรับเหมือนกัน
โจส : ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกันนะเนี่ย
แคทเทอรีน : สงสัยคงกำลังจะกลับมาหล่ะมั้งคะ
โจส : ถ้าพวกเขามา ผมจะบอกเรื่องที่ผมจะบอกให้พวกเขาฟังเอง
แคทเทอรีน : เดี๋ยวคุณก็ได้บอกเองหล่ะค่ะ
โจส : ว่าแต่ พวกเด็กๆจะไปกับผมหรือเปล่าเนี่ย
แคทเทอรีน : ฉันว่าคงไม่หรอก พวกเขาคงอยากสู้กับพวกนาซีที่นี่หล่ะ
โจส : นั่นไง พวกเขามาแล้ว
พวกเขาต้อนรับพวกเด็กๆที่เดินทางมาถึง ด้วยการโบกธงสหรัฐให้พวกเขา
จากนั้นก็ปรบมือแสดงความยินดีให้พวกเขากันยกใหญ่
และในลอนดอน
เจลามี่ชวนพิมขึ้นรถ เพื่อจะไปส่งเธอที่สมาคมนักเรียนไทย
สภาพรอบข้างในเมืองมีแต่ซากความเสียหาย ผู้คนหวาดผวา ทำเอาพิมตกใจมาก
พิม : แย่จังเลยนะคะ โดนระเบิดถล่มซะขนาดนี้
เจลามี่ : ที่โปแลนด์บ้านผมคงไม่ต่างกันหล่ะครับ
พิม : จริงด้วยสิ สงครามที่นั่นเป็นยังไงบ้างคะ
เจลามี่ : ก็มีการปะทะกันบ้าง แต่เป็นกลุ่มเล็กๆหน่ะครับ
พิม : ว่าแต่ คุณหนีออกมาได้ยังไงกัน แล้วคุณมาทำอะไรที่อังกฤษหล่ะ
เจลามี่ : ผมมาทำงานแทนพี่สาวของผมที่ตายไปแล้วหน่ะ
พิม : เสียใจด้วยนะคะ ขอให้งานของคุณสำเร็จนะคะ
จากนั้นไม่นาน รถของเขาก็มาถึงที่สมาคมนักเรียนไทย
จากนั้นเจลามี่ก็ส่งพิมลงจากรถ
พิม : ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งฉัน
เจลามี่ : แล้วผมจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่ครับ
พิม : คุณมาหาฉันที่นี่ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะ
และกลับมาที่เยอรมัน
หลังจากที่เยอรมันมีมติส่งความช่วยเหลือให้ทางอิตาลี
ซาบอนก็พานูโวร่าไปที่ห้องของเขาทันที
นูโวร่า : พาฉันมาที่นี่ทำไมหล่ะเนี่ย
ซาบอน :
ก็วันนี้ทางเยอรมันมีมติให้ส่งความช่วยเหลือแก่ประเทศของคุณยังไงหล่ะ
นูโวร่า : แล้วคุณจะเอายังไงกับฉัน
ซาบอน : คุณก็น่าจะรู้นี่ //
จากนั้นซาบอนก็ตบหน้านูโวร่าเข้าอย่างจัง จนเธอโมโหต่อยหน้าเขาคืน
ซาบอน : เยี่ยม แบบนี้ผมชอบ // จากนั้นเขาก็เหวี่ยงตัวเธอขึ้นเตียง
นูโวร่า : ถ้านายแน่จริง นายก็เข้ามาเลยสิ
ซาบอน : ถึงตอนนั้นก็อย่าร้องขอชีวิตผมก็แล้วกัน
จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็บรรเลงเพลงรักกันอย่างเมามันส์และดูดดื่ม
ดูเหมือนว่าซาบอนจะเจอคู่ขาที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้วหล่ะ
หลังจากที่การถอดรหัสของคาริน่าเป็นผลสำเร็จ
พวกเขาก็เริ่มการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งความจริงเป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆ ที่พวกเขาดื่มด่ำกันอย่างเต็มที่
"สุดยอดไปเลยคาริน่า ที่ถอดรหัสของพวกมันได้"
คาริน่า : ความจริงเพราะทุกคนช่วยเหลือกันอย่างจริงจังต่างหากหล่ะ
อลัน : ผมยินดีด้วยนะครับ คุณเหมาะสมสำหรับคำชมเชยนี้จริงๆ
คาริน่า : แต่อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลนะคะ ตอนนี้กองเรือของพวกมันยังอยู่
"นั่นสินะ ได้ยินว่าแม่ทัพเรือคนนี้เป็นผู้หญิง
และเก่งมากด้วย"
"เหลือเชื่อ ผู้หญิงเนี่ยนะได้เป็นผบ.ทัพเรือหน่ะ"
คาริน่า : อย่าดูถูกเด็ดขาด เธอเกือบจะทำลายอังกฤษได้ทั้งหมดเลยนะ
อลัน : ผมว่า
เรารีบพัฒนาขีดความสามารถของเราให้ทันพวกมันดีกว่านะครับ
คาริน่า : แต่ถึงยังไง แก้วนี้ฉันขอดื่มให้กับทุกคนนะคะ
จากนั้นพวกเขาก็ชนแก้วไวน์ แล้วดื่มด่ำกันอย่าสนุกสนาน
เพลงเต้นรำก็เปิดเป็นระยะๆ ทำให้พวกเขามีความสุขกันมาก
กลับมายังสหรัฐอเมริกา
โคเวอร์นั่งอ่านจดหมายที่พ่อของเขาส่งมา เนื้อความประมาณว่าพ่อของเขากำลังนั่งซ่อมเครื่องยนต์ทั้งวัน
แต่ก็มีเวลาไปเที่ยวทะเลบ้าง และยังส่งรูปอะไรอีกหลายอย่างมาให้เขา
แต่มีจดหมายฉบับหนึ่งที่พ่อเขาเขียนเป็นทำนองว่าสหรัฐอาจจะเข้าร่วมสงครามได้ทุกเมื่อ
เขาไม่รอช้าเอาจดหมายนั่นไปอ่านให้แม่ของเขาฟังทันที
โคเวอร์ : แม่ครับ ลองอ่านนี้ดูสิครับ //
แม่ของโคเวอร์หยิบจดหมายมาอ่าน
"นี่ เราอาจจะต้องเข้าร่วมสงครามจริงๆเหรอเนี่ย"
โคเวอร์ : แล้วแม่ว่า มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าหล่ะครับ
"ก็มีสิทธิ์นะ ตอนนี้เยอรมันกำลังกำแหงหนักเลยหล่ะ"
โคเวอร์ : ผมได้ข่าวว่ามันแพ้อังกฤษด้วย สมน้ำหน้ามัน
"แต่แม่ว่า ยังไงเราก็ไม่ควรประมาทนะ
ยังไงพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าอังกฤษอยู่ดี"
โคเวอร์ : ว่าแต่ เย็นนี้แม่ทำอะไรกินครับ
"ของโปรดลูกเลยหล่ะ เตรียมท้องไว้รอเลยจ้า"
โคเวอร์ : เยี่ยมเลยครับแม่ อยู่ค่ายทหารกินแต่อะไรก็ไม่รู้
ไม่ถูกปากเลย
ที่โซเวียต
ในขณะที่ออก้ากำลังทำนาของเขาไปเรื่อย ตอนนั้นเองแม่ของเขาก็เอาของมาให้เขา
เพื่อให้เขาหายเหนื่อยจากการทำงาน
"ออก้าลูก พักก่อนดีมั้ยจ๊ะ"
ออก้า : ก็ดีครับแม่ วันนี้ผมเหนื่อยมากเลยครับ
"นี่ กินก่อนสิ แม่ทำมาให้ลูกหน่ะ"
ออก้ากัดกินขนมปังในมือเขาอย่างเอร็ดอร่อย
ทำให้เขาหายเหนื่อยไปได้ในชั่วพริบตา
ออก้า : เฮ้อ แม่ครับ ช่วงนี้มีข่าวอะไรจากชายแดนบ้างครับ
"แหม่ ถามทุกวันเลยลูกคนนี้
ก็ไม่มีไรมากนอกจากชายแดนโซเวียตกับเยอรมันกำลังมีปัญหากันอย่างหนักเลนหล่ะ"
ออก้า : อีกไม่นาน ก็คงต้องทำสงครามกัน
"คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกลูก แม่ว่า"
ออก้า : ทำไมจะไม่ได้หล่ะครับ ฮิตเลอร์กำลังหาทรัพยากรจากทุกที่เพื่อทำสงครามนี่ครับ
"เฮ้อ ศึกนั้นยังไม่จบดี ต้องมากังวลกับศึกใหม่แล้วเหรอ"
ออก้า : กลัวอะไรครับแม่ มีผมอยู่ทั้งคนหน่ะ
"แหม่ ปากหวานนะลูกคนนี้"
กลับมายังประเทศไทย
ในตอนนั้นเอง หลังจากที่รัตกลับมา รัตก็ดูแลแม่ของเขาอยู่ตลอดเวลา
เพราะแม่ของเขาป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ด้วยโรคชรา
"นี่ลูก วันนี้ลูกไม่ต้องอาบน้ำให้แม่ก็ได้
แม่อาบเองได้หน่ะ"
รัต : โธ่ แม่ครับ แม่หน่ะให้ผมช่วยดีกว่าตอนนี้
"คุณนี่นะ ยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย"
"ก็ฉันไม่เป็นไรจริงๆนี่คะคุณ"
รัต : เดี๋ยววันนี้ผมจะทำอะไรให้แม่กินด้วย
"ห่ะ นี่ลูกจะไหวเหรอลูก"
รัต : โธ่แม่ ผมซะอย่าง ไม่ทำให้เสียชื่อหรอกครับ
"ว่าแต่ ลูกไม่ไปราชการงั้นเหรอ"
รัต : ช่วงนี้ผมได้หยุดราชการครับ เลยมาเยี่ยมแม่ได้นี่แหละ
"ตอนนี้ก็เพิ่งจะรบชนะฝรั่งเศส
คงต้องรอเวลาฟื้นตัวซักพักสินะ"
รัต : ก็ใช่ครับ แต่สู้กับฝรั่งเศสก็เหนื่อยใช่ย่อยเลยครับ
"อืม ยังไงก็เถอะ ไม่แน่อาจไม่จะมีอีกก็ได้"
"เอ๊ะนี่คุณ พูดอะไรแบบนี้หล่ะ"
รัต : แต่ที่พ่อพูดก็ถูกนะครับ
ตอนนี้เอเชียกำลังลุกเป็นไฟไม่ต่างจากยุโรปเลยนะครับ
กลับมายังค่ายกักกันของวิคเตอร์
ซึ่งวันนี้วิคเตอร์ต้องไปต้อนรับจอมพลท่านหนึ่ง ซึ่งจะมาเยี่ยมที่ค่าย
ในตอนนั้นทหารของวิคเตอร์ก็ไปตั้งแถวรอรับอยู่พอดี
เทราน์เนอร์ : จอมพลคนนี้เป็นใครงั้นเหรอ
วิคเตอร์ : ฉันก็ไม่รู้ อยากเห็นหน้าพวกมันอยู่เหมือนกัน
หลังจากที่รถไฟเทียบชานชาลา
ร่างของชายหนุ่มที่หน้าตาดูมีอายุแต่ร่างของเขาค่อนข้างเล็ก จากนั้นเอง
จอมพลคนนั้นก็ไปทักทายวิคเตอร์และเทราน์เนอร์ทันที
"สวัสดี ผมจอมพลฮิมมาร์ค แวร์
เป็นเกียรติที่ได้พบทุกท่าน"
วิคเตอร์ : ผมร้อยเอกวิคเตอร์ และนี่ก็ร้อยเอกเทราน์เนอร์
รายงานตัวครับ
เทราน์เนอร์ : ว่าแต่ ท่านมาที่นี่มีธุระอะไรเหรอครับ
ฮิมมาร์ค : ผมแค่อยากเยี่ยมชมค่ายที่ผมสร้างขึ้นมาหน่อย
พาผมไปเดินดูหน่อยสิ
วิคเตอร์และเทราน์เนอร์พาจอมพลฮิมมาร์คไปเดินดูรอบๆค่าย
ซึ่งมีทั้งโซนแรงงาน โซนเผาศพ และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ เตารมแก๊ส
ซึ่งใช้เป็นที่ประหารคนยิว
ฮิมมาร์ค : ผมอยากเห็นการประหาร ไปพานักโทษมาให้ผมหน่อย
วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ไปนำคนยิวนับสิบมาอัดรวมกันที่ห้องรมแก๊ส
จากนั้นก็ปิดประตูห้อง
ฮิมมาร์ค : ตอนนี้แหละ ปล่อยแก๊สได้เลย
แก๊สซารินถูกปล่อยเข้าไปในห้องที่บรรดานักโทษอัดกันอยู่ในนั้น
ทำเอานักโทษทรมานและดิ้นทุรนทุราย จากนั้นก็ค่อยๆขาดใจตายทีละคน ฮิมมาร์คยืนมองราวกับมันเป็นแค่หนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง
ฮิมมาร์ค : เยี่ยมมาก ถ้ามีโอกาสผมจะสร้างค่ายแบบนี้อีกที่รัสเซีย
วิคเตอร์ : ยินดีครับท่าน
กลับมาที่บ้านของดอร์ชมันต์
ซึ่งตอนนี้กัสมาพักฟื้นและอยู่กับเขาได้เต็มตัวแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของเขากัสจึงหายดีมากขึ้น และงดงามขึ้นเหมือนแต่ก่อน
กัส : ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นทุกวันเลย ที่อยู่กับคุณ
ดอร์ชมันต์ : ครับ ผมยินดี
แล้วคุณจะกลับไปบ้านเจ้าวิคเตอร์ดีมั้ยครับ
กัส : ทำไมฉันต้องกลับไปหล่ะ แล้วอีกอย่าง อย่าพูดถึงเขาเลยค่ะ
ดอร์ชมันต์ : หมายความว่ายังไงครับ
กัส : หมายความว่าฉันจะมาอยู่กับคุณไงหล่ะ ฉันรู้ว่าคุณชอบฉัน
อย่าปฏิเสธเลย
ดอร์ชมันต์ : ผมรู้ แต่คุณมีสามีแล้วนี่ครับ
กัส : ฉันมันก็แค่อีตัวสำหรับเขา แต่สำหรับคุณ ฉันจะเป็นฉัน
ดอร์ชมันต์ : ก็ได้ครับ ผมจะดูแลคุณเอง ไม่ต้องห่วงนะ
กัส : ขอบคุณมากนะคะ // กัสจูบปากดอร์ชมันต์จากนั้นเขาทั้งคู่ก็..
ทางด้านของอลิส
รินและโยชิตะ ทั้งสามคนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านของฮัมบูร์ก
เพื่อรอฮัมบูร์กกลับมา และทันใดนั้นเธอก็กลับมาพอดี
โยชิตะ : พี่ฮัมบูร์ก เป็นยังไงบ้างครับที่ไปพบท่านผู้นำ
ฮัมบูร์ก : ทุกคนกำลังทำให้งานนี้พัง ฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก
อลิส : พัง อะไรจะพังคะพี่ เกิดอะไรขึ้นคะ
ฮัมบูร์ก : ท่านผู้นำกำลังจะเตรียมบุกโซเวียตหน่ะ
ริน : ห่ะ โซเวียตรัสเซียเหรอคะ ก็เหมือนในประวัติศาสตร์สิ
อลิส : แต่ก็ไม่เห็นแปลกนี่ สองประเทศนี้ไม่ถูกกันอยู่แล้วนี่
โยชิตะ : แต่พี่แซคเคยบอกผมว่า สาเหตุหลักที่เยอรมันแพ้ เพราะบุกโซเวียตนะคะ
ฮัมบูร์ก : เลิกพูดถึงเขาซะทีได้ไหม
ริน : ทำไมคะพี่ หรือว่าพี่ยังคิดถึงเขาอยู่หล่ะ
อลิส : นี่ อย่าไปยั่วโมโหพี่เขาแบบนั้นสิ พี่เขากำลังโกรธนะ
ฮัมบูร์ก : แถมท่านผู้นำยังสั่งให้ฉันไปประจำการที่แอฟริกาอีก
โยชิตะ : ห่ะ พี่กลัวที่แอฟริกางั้นเหรอครับ
ฮัมบูร์ก : พี่ไม่กลัวหรอก แต่การที่บุกโซเวียตแบบนั้น เราแพ้แน่ๆ
อลิส : แล้วพี่จะทำยังไงต่อหล่ะ
ริน : นั่นสิ หนูก็อยากรู้นะ
ฮัมบูร์ก : เห็นที พี่ต้องขัดคำสั่งท่านผู้นำแล้วหล่ะ
กลับมายังเบอร์ลิน
เยอรมนี ในขณะนั้นลูก้าที่กำลังหาเรือของเพื่อนเขาเพื่อล่องไปอังกฤษ
แต่อยู่ดีๆมีทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา ราวกับว่าเขารู้จักกับลูก้า
"คุณลูก้าครับ"
ลูก้า : ห่ะ ไดช์ นี่นายมาได้ยังไงหล่ะเนี่ย
ไดช์ : ผมเห็นท่านดูคถ้นเลยตามมาครับ
ลูก้า : มีอะไร ไม่รู้เหรอว่าฉันพักร้อนอยู่
ไดช์ : ท่านรอมเมลเรียกหาด่วนหน่ะครับ
ลูก้า : ห่ะ เรียกฉันงั้นเหรอ
ไดช์ : ใช่ครับ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญด้วยครับ
ลูก้า : ก็ได้ ฉันจะลองไปดูแล้วกัน
และที่แอฟริกา
แนวหน้าของทหารอิตาลี ในขณะที่เทเรซ่ากำลังรักษาคนไข้
จู่ๆก็มีกลุ่มทหารม้าจู่โจมของชาวอาหรับ ก็บุกเข้าจู่โจมสายฟ้าแลบ
ทำเอาพวกเขาล่าถอยกันแทบไม่ทัน
"พวกเรา ถอยไปที่แนวหลังก่อน เร็ว"
ทหารอิตาลีหนีตายจากแนวหน้า เทเรซ่าก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องหนี
แต่เธอหนีไม่ทันโดนทหารม้าล้อมเอาไว้
เทเรซ่า : อย่า ฉันยอมแพ้แล้ว
ในตอนนั้นเอง ทหารม้าคนหนึ่งลงจากม้า จากนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอ
พร้อมกับเปิดผ้าปิดหน้าของพวกเขา
"คุณหมอเทรครับ จำผมได้มั้ยครับ"
เทเรซ่า : ราซัค นายเป็นคนของบราฮัมนี่
ราซัค : ใช่ครับ ผมเอง ปลอดภัยนะครับหมอ
เทเรซ่า : ให้ฉันเดานะ ที่นั่นต้องการหมออยู่พอดีใช่หรือเปล่า
ราซัค : ถูกเผงเลยครับ ต้องการด่วนเลย หมอไปกับพวกเราหน่อยครับ
เทเรซ่า : เอาเถอะจ้ะ รีบไปจากที่นี่เถอะ
กลับมายังชายแดนเยอรมัน โซเวียต วันที่ 22
กรกฎาคม 1941 ทหารเยอรมันหลายล้านนายเตรียมพร้อมอยู่ที่แนวหน้า
กำลังรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของพวกเขา
"ท่านจอมพลครับ เรากำลังรอคำสั่งของท่านครับ"
"เอาหล่ะ ทหารทุกนาย บุกได้"
เมื่อสิ้นเสียง ทหารเยอรมันนับล้านบุกข้ามชายแดนโซเวียตทันที
==============================================================
ปฏิบัติการบาร์บารอสซ่าอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช
ความคิดเห็น