ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #29 : เตรียมข้ามพรมแดน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 170
      3
      9 ก.ย. 61

    หลังจากที่กองทัพเยอรมันยอมจำนนที่ชายฝั่งอังกฤษ บรรดาทหารสัมพันธมิตรก็เคลียร์พื้นที่โดยรอบ จากนั้นก็จับเชลยเป็นตัวประกันได้มากมาย
    นาวิน : เฮ้ย ดูสิ จับพวกมันได้เป็นร้อยเลยอ่ะ มันกะยึดลอนดอนเลยแหงะๆ
    แซค : ว่าแต่ ตอนนี้กองเรือของฮัมบูร์กเขาไปไหนซะหล่ะ
    ธิน : ป่านนี้คงจะหนีเตลิดไปไหนแล้วหล่ะ กองเรืออังกฤษมาแล้วนี่
    โอ๊ค : โอ้ย การรบครั้งนี้ทำเอาหิวข้าวอย่างแรงเลยเนี่ย
    อเล็กซ์ : ไม่ต้องห่วง น้าแคทเทอรีนจะทำอะไรให้พวกเรากินเองหล่ะ
    โซเซีย : ว่าแต่ พวกนายไม่สงสัยกันเหรอ ว่าทำไมพวกมันถึงถอยไปง่ายๆแบบนั้นหล่ะ
    นาวิน : ฉันก็คิดอยู่ ปกติฮัมบูร์กไม่ยอมแพ้ง่ายๆนี่
    เอม : โธ่พี่ ไม่แน่กำลังสนับสนุนของพี่เขาอาจจะไม่มาก็ได้
    ออย : หนูเห็นด้วยกับเอมนะ พวกมันคงจะส่งกำลังพลไปที่อื่นหน่ะ
    แซค : ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฮัมบูร์กจะหยุดแค่นั้น
    ธิน : แหม่ รู้นิสัยกันดีเลยนะ คิดถึงยัยนั้นใช่ป่าว
    โอ๊ค : แหม่ ไปแซวแบบนั้นแซคก็เขินแย่เลยดิ
    และในตอนนั้นเอง เคทกับจูเลียสที่เพิ่งจะไปที่หาดอื่น ก็กลับมาหาพวกเขาทันที
    จูเลียส : เย้ พวกเราเล่นงานมันจนตกทะเลไปเลยวันนี้
    เคท : ว่าแต่ เหตุการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้าง มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า
    อเล็กซ์ : ทางนี้คุมสถานการณ์อยู่แล้วหล่ะ
    เคท : ทำไมพวกมันถึงแพ้ง่ายๆแบบนี้หล่ะ
    จูเลียส : นั่นสิ อยู่ดีๆก็ถอยทัพไปดื้อๆ แบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
    โซเซีย : ไม่แน่นะ พวกมันอาจจะส่งกำลังไปที่อื่น เช่นแอฟริกาไงหล่ะ
    นาวิน : เอาเป็นว่า เรารีบเคลียร์พื้นที่ตรงนี้ แล้วกลับบ้านกันดีกว่า

     

    และที่สนามบินกองทัพ ชายฝั่งอังกฤษ หลังจากที่พวกเขาได้ชัยอย่างงดงาม ทำให้พวกเริ่มดื่มฉลองกันทันที ทั้งนักบินและวิศวกร ราวกับไม่เคยฉลองอะไรแบบนี้มาก่อน
    โอแลน : 555 ป่านนี้พวกเยอรมันกลับไปนอนเลียแผลกันใหญ่หล่ะมั้ง
    "นั่นสิ วันนี้เรายิงพวกมันตกไปมากมาย จับนักบินมันมาได้ก็เยอะเหมือนกัน"
    โอแลน : ว่าแต่ ทำไมพวกมันถึงแพ้ง่ายๆแบบนี้หล่ะ
    "สงสัยคงไม่มีงบทำสงครามแล้วหล่ะ"
    โอแลน : แต่ฉันว่า พวกมันคงไม่หยุดแค่นี้หรอก
    "แล้วนายคิดว่า พวกมันจะไปที่ไหนกันต่อหล่ะ"
    โอแลน : ฉันว่า คงจะเป็นแอฟริกานั่นแหละ ตอนนี้กำลังเดือดเลยนี่
    "เดี๋ยวอีกไม่นาน เราก็จะส่งคนไปช่วยแล้วหล่ะ"
    โอแลน : มันคงไม่รู้สินะ ว่ามันกำลังจะขึ้นเขียงแล้วหล่ะ

     

    และที่ทะเลแห่งหนึ่งแถวช่องแคบอังกฤษ เมอร์ลินลากสังขารตัวเองออกมาจากเครื่องบิน จากนั้นก็พยายามว่ายน้ำกลับไปยังฝั่งเยอรมัน เขาว่ายไปทั่วพยายามร้องให้คนอื่นช่วย
    "เฮ้ย มีใครอยู่มั้ย ช่วยด้วยโว้ย"
    ระหว่างที่กำลังว่ายน้ำ อยู่ดีๆก็มีเรือกู้ภัยลำหนึ่งขับมาใกล้เขา เขาคิดว่าพวกเยอรมันคงจะมาช่วยเหลือนักบินที่ถูกยิงตก แต่ที่ไหนได้ นั่นคือทหารอังกฤษที่กำลังตามล่านักบินเยอรมัน เมื่อเขาเห็นเมอร์ลินใส่ชุดนักบินเยอรมัน เขาจึงเล็งปืนใส่เมอร์ลินทันที
    "หยุด อย่าขยับเด็ดขาด"
    เมอร์ลิน : อย่า ฉันยอมแล้ว อย่ายิงนะโว้ย
    จากนั้นเอง พวกเขาก็โยนห่วงยางให้เมอร์ลิน จากนั้นก็ลากเขามาขึ้นเรือ แล้วก็จับกุมตัวเอาไว้ทันที
    "เจอแต่นักบินเยอรมันเนี่ย ไม่เจอพวกเราบ้างเลย"
    เมอร์ลิน : แม่ง โคตรซวยเลยกูวันนี้

     

    กลับมายังเบอร์ลิน เยอรมนี ฮัมบูร์กเร่งให้ทหารขับรถมายังฐานบัญชาการใหญ่ เพื่อหาสาเหตุที่เธอเจอโดยเร็ว เมื่อเธอเข้าไปในห้อง เธอก็เจอนายทหารระดับสูงมากมายมาประชุมกัน ทำเอาเธอตกใจมาก
    ฮิตเลอร์ : อ้าว ฮัมบูร์ก ดีใจนะที่รอดมาจากอังกฤษได้นะ
    ฮัมบูร์ก : ท่านคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงต้องสั่งถอยหล่ะคะ
    ฮิมม์เลอร์ : คุณก็รู้นี่ ว่าจะชนะอังกฤษได้ ต้องมีกองเรือและเครื่องบินที่ดีกว่านี้
    ฮัมบูร์ก : แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้เครื่องบินกับฉันหล่ะ มิลเลอร์ นายถอนกำลังกลับมาง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
    มิลเลอร์ : ฉันขอโทษนะ มันเป็นคำสั่งจากศูนย์บัญชาการใหญ่หน่ะ ฉันเลยต้องกลับมา
    ฮัมบูร์ก : พวกท่านทำอะไรกันอยู่ ถึงได้ถอนทัพจากอังกฤษแบบนั้น
    ฮิตเลอร์ : ผมมีสมรภูมิที่ดีกว่านั้น รัสเซียยังไงหล่ะ
    มิลเลอร์ : ใช่แล้วฮัมบูร์ก ฉันได้ทำการรบจริงๆจังๆซะทีแล้ว ดีใจมั้ย
    ฮัมบูร์ก : ห่ะ ฉันขอคัดค้าน การบุกโซเวียตเป็นอะไรที่แย่มาก
    มิลเลอร์ : ฮัมบูร์ก ทำไมเธอคิดแบบนั้นหล่ะ เธอกลัวพวกมันเหรอ
    ฮัมบูร์ก : พวกคุณไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรอยู่ โซเวียตกว้างใหญ่จะตาย
    ฮิตเลอร์ : หน่วยข่าวกรองของผมแจ้งมาแล้ว กำลังของพวกมันอ่อนแอ เราจะโจมตีสายฟ้าแลบใส่พวกมัน จอมพลวัลเทอร์จะเป็นผู้นำการรบในครั้งนี้ แล้วผมอยากแนะนำให้ผมรู้จักใครคนหนึ่ง มาทางนี้หน่อยสิ
    "ครับท่านพ่อ" ชายที่มีน้ำเสียงดูน่ากลัวเดินออกมาแนะนำตัวให้ฮัมบูร์ก
    "ผมชื่อ ฮิมมาร์ค แวร์ นายพลที่จะมาปฏิบัติภารกิจนี้ ฝากตัวด้วยครับ" ฮิมมาร์คจูบมือของฮัมบูร์ก
    ฮิตเลอร์ : เขาเป็นเด็กจากการทดลองโปรเจค X ที่ผมรับเลี้ยงไว้ ต่อไปนี้คุณมิลเลอร์ต้องขึ้นตรงกับเขา ส่วนคุณฮัมบูร์ก คุณเตรียมกองเรือของคุณเตรียมไปแอฟริกาด่วนเลย
    มิลเลอร์ : ครับผม ผมรับคำสั่งครับ
    ฮิมมาร์ค : เมื่อไหร่ผมจะได้ลุยซักทีเนี่ยครับ 
    ฮัมบูร์ก : หวังว่าพวกท่านจะรู้นะว่าทำอะไรกันอยู่ // จากนั้นฮัมบูร์กก็หัวเสียเดินออกจากห้องไป

     

    กลับมายังสถานทูตอเมริกาที่ลอนดอน ในตอนนั้นเอง พวกเขาทั้งคู่กำลังรอต้อนรับพวกเด็กๆที่เพิ่งจะชนะศึกกลับมา โดยที่เจ้าหน้าที่สถานทูตก็จะมาต้อนรับเหมือนกัน
    โจส : ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกันนะเนี่ย
    แคทเทอรีน : สงสัยคงกำลังจะกลับมาหล่ะมั้งคะ
    โจส : ถ้าพวกเขามา ผมจะบอกเรื่องที่ผมจะบอกให้พวกเขาฟังเอง
    แคทเทอรีน : เดี๋ยวคุณก็ได้บอกเองหล่ะค่ะ
    โจส : ว่าแต่ พวกเด็กๆจะไปกับผมหรือเปล่าเนี่ย
    แคทเทอรีน : ฉันว่าคงไม่หรอก พวกเขาคงอยากสู้กับพวกนาซีที่นี่หล่ะ
    โจส : นั่นไง พวกเขามาแล้ว 
    พวกเขาต้อนรับพวกเด็กๆที่เดินทางมาถึง ด้วยการโบกธงสหรัฐให้พวกเขา จากนั้นก็ปรบมือแสดงความยินดีให้พวกเขากันยกใหญ่

     

    และในลอนดอน เจลามี่ชวนพิมขึ้นรถ เพื่อจะไปส่งเธอที่สมาคมนักเรียนไทย สภาพรอบข้างในเมืองมีแต่ซากความเสียหาย ผู้คนหวาดผวา ทำเอาพิมตกใจมาก
    พิม : แย่จังเลยนะคะ โดนระเบิดถล่มซะขนาดนี้
    เจลามี่ : ที่โปแลนด์บ้านผมคงไม่ต่างกันหล่ะครับ
    พิม : จริงด้วยสิ สงครามที่นั่นเป็นยังไงบ้างคะ
    เจลามี่ : ก็มีการปะทะกันบ้าง แต่เป็นกลุ่มเล็กๆหน่ะครับ
    พิม : ว่าแต่ คุณหนีออกมาได้ยังไงกัน แล้วคุณมาทำอะไรที่อังกฤษหล่ะ
    เจลามี่ : ผมมาทำงานแทนพี่สาวของผมที่ตายไปแล้วหน่ะ
    พิม : เสียใจด้วยนะคะ ขอให้งานของคุณสำเร็จนะคะ
    จากนั้นไม่นาน รถของเขาก็มาถึงที่สมาคมนักเรียนไทย จากนั้นเจลามี่ก็ส่งพิมลงจากรถ
    พิม : ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งฉัน
    เจลามี่ : แล้วผมจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่ครับ
    พิม : คุณมาหาฉันที่นี่ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะ

     

    และกลับมาที่เยอรมัน หลังจากที่เยอรมันมีมติส่งความช่วยเหลือให้ทางอิตาลี ซาบอนก็พานูโวร่าไปที่ห้องของเขาทันที
    นูโวร่า : พาฉันมาที่นี่ทำไมหล่ะเนี่ย
    ซาบอน : ก็วันนี้ทางเยอรมันมีมติให้ส่งความช่วยเหลือแก่ประเทศของคุณยังไงหล่ะ
    นูโวร่า : แล้วคุณจะเอายังไงกับฉัน
    ซาบอน : คุณก็น่าจะรู้นี่ // จากนั้นซาบอนก็ตบหน้านูโวร่าเข้าอย่างจัง จนเธอโมโหต่อยหน้าเขาคืน
    ซาบอน : เยี่ยม แบบนี้ผมชอบ // จากนั้นเขาก็เหวี่ยงตัวเธอขึ้นเตียง
    นูโวร่า : ถ้านายแน่จริง นายก็เข้ามาเลยสิ
    ซาบอน : ถึงตอนนั้นก็อย่าร้องขอชีวิตผมก็แล้วกัน
    จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็บรรเลงเพลงรักกันอย่างเมามันส์และดูดดื่ม ดูเหมือนว่าซาบอนจะเจอคู่ขาที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้วหล่ะ

     

    หลังจากที่การถอดรหัสของคาริน่าเป็นผลสำเร็จ พวกเขาก็เริ่มการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งความจริงเป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆ ที่พวกเขาดื่มด่ำกันอย่างเต็มที่
    "สุดยอดไปเลยคาริน่า ที่ถอดรหัสของพวกมันได้"
    คาริน่า : ความจริงเพราะทุกคนช่วยเหลือกันอย่างจริงจังต่างหากหล่ะ
    อลัน : ผมยินดีด้วยนะครับ คุณเหมาะสมสำหรับคำชมเชยนี้จริงๆ
    คาริน่า : แต่อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลนะคะ ตอนนี้กองเรือของพวกมันยังอยู่
    "นั่นสินะ ได้ยินว่าแม่ทัพเรือคนนี้เป็นผู้หญิง และเก่งมากด้วย"
    "เหลือเชื่อ ผู้หญิงเนี่ยนะได้เป็นผบ.ทัพเรือหน่ะ"
    คาริน่า : อย่าดูถูกเด็ดขาด เธอเกือบจะทำลายอังกฤษได้ทั้งหมดเลยนะ
    อลัน : ผมว่า เรารีบพัฒนาขีดความสามารถของเราให้ทันพวกมันดีกว่านะครับ
    คาริน่า : แต่ถึงยังไง แก้วนี้ฉันขอดื่มให้กับทุกคนนะคะ
    จากนั้นพวกเขาก็ชนแก้วไวน์ แล้วดื่มด่ำกันอย่าสนุกสนาน เพลงเต้นรำก็เปิดเป็นระยะๆ ทำให้พวกเขามีความสุขกันมาก

     

    กลับมายังสหรัฐอเมริกา โคเวอร์นั่งอ่านจดหมายที่พ่อของเขาส่งมา เนื้อความประมาณว่าพ่อของเขากำลังนั่งซ่อมเครื่องยนต์ทั้งวัน แต่ก็มีเวลาไปเที่ยวทะเลบ้าง และยังส่งรูปอะไรอีกหลายอย่างมาให้เขา แต่มีจดหมายฉบับหนึ่งที่พ่อเขาเขียนเป็นทำนองว่าสหรัฐอาจจะเข้าร่วมสงครามได้ทุกเมื่อ เขาไม่รอช้าเอาจดหมายนั่นไปอ่านให้แม่ของเขาฟังทันที
    โคเวอร์ : แม่ครับ ลองอ่านนี้ดูสิครับ // แม่ของโคเวอร์หยิบจดหมายมาอ่าน
    "นี่ เราอาจจะต้องเข้าร่วมสงครามจริงๆเหรอเนี่ย"
    โคเวอร์ : แล้วแม่ว่า มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าหล่ะครับ
    "ก็มีสิทธิ์นะ ตอนนี้เยอรมันกำลังกำแหงหนักเลยหล่ะ"
    โคเวอร์ : ผมได้ข่าวว่ามันแพ้อังกฤษด้วย สมน้ำหน้ามัน
    "แต่แม่ว่า ยังไงเราก็ไม่ควรประมาทนะ ยังไงพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าอังกฤษอยู่ดี"
    โคเวอร์ : ว่าแต่ เย็นนี้แม่ทำอะไรกินครับ
    "ของโปรดลูกเลยหล่ะ เตรียมท้องไว้รอเลยจ้า"
    โคเวอร์ : เยี่ยมเลยครับแม่ อยู่ค่ายทหารกินแต่อะไรก็ไม่รู้ ไม่ถูกปากเลย

     

    ที่โซเวียต ในขณะที่ออก้ากำลังทำนาของเขาไปเรื่อย ตอนนั้นเองแม่ของเขาก็เอาของมาให้เขา เพื่อให้เขาหายเหนื่อยจากการทำงาน
    "ออก้าลูก พักก่อนดีมั้ยจ๊ะ"
    ออก้า : ก็ดีครับแม่ วันนี้ผมเหนื่อยมากเลยครับ
    "นี่ กินก่อนสิ แม่ทำมาให้ลูกหน่ะ"
    ออก้ากัดกินขนมปังในมือเขาอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้เขาหายเหนื่อยไปได้ในชั่วพริบตา
    ออก้า : เฮ้อ แม่ครับ ช่วงนี้มีข่าวอะไรจากชายแดนบ้างครับ
    "แหม่ ถามทุกวันเลยลูกคนนี้ ก็ไม่มีไรมากนอกจากชายแดนโซเวียตกับเยอรมันกำลังมีปัญหากันอย่างหนักเลนหล่ะ"
    ออก้า : อีกไม่นาน ก็คงต้องทำสงครามกัน
    "คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกลูก แม่ว่า"
    ออก้า : ทำไมจะไม่ได้หล่ะครับ ฮิตเลอร์กำลังหาทรัพยากรจากทุกที่เพื่อทำสงครามนี่ครับ
    "เฮ้อ ศึกนั้นยังไม่จบดี ต้องมากังวลกับศึกใหม่แล้วเหรอ"
    ออก้า : กลัวอะไรครับแม่ มีผมอยู่ทั้งคนหน่ะ
    "แหม่ ปากหวานนะลูกคนนี้"

     

    กลับมายังประเทศไทย ในตอนนั้นเอง หลังจากที่รัตกลับมา รัตก็ดูแลแม่ของเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะแม่ของเขาป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ด้วยโรคชรา 
    "นี่ลูก วันนี้ลูกไม่ต้องอาบน้ำให้แม่ก็ได้ แม่อาบเองได้หน่ะ"
    รัต : โธ่ แม่ครับ แม่หน่ะให้ผมช่วยดีกว่าตอนนี้
    "คุณนี่นะ ยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย"
    "ก็ฉันไม่เป็นไรจริงๆนี่คะคุณ"
    รัต : เดี๋ยววันนี้ผมจะทำอะไรให้แม่กินด้วย
    "ห่ะ นี่ลูกจะไหวเหรอลูก"
    รัต : โธ่แม่ ผมซะอย่าง ไม่ทำให้เสียชื่อหรอกครับ
    "ว่าแต่ ลูกไม่ไปราชการงั้นเหรอ"
    รัต : ช่วงนี้ผมได้หยุดราชการครับ เลยมาเยี่ยมแม่ได้นี่แหละ
    "ตอนนี้ก็เพิ่งจะรบชนะฝรั่งเศส คงต้องรอเวลาฟื้นตัวซักพักสินะ"
    รัต : ก็ใช่ครับ แต่สู้กับฝรั่งเศสก็เหนื่อยใช่ย่อยเลยครับ
    "อืม ยังไงก็เถอะ ไม่แน่อาจไม่จะมีอีกก็ได้"
    "เอ๊ะนี่คุณ พูดอะไรแบบนี้หล่ะ"
    รัต : แต่ที่พ่อพูดก็ถูกนะครับ ตอนนี้เอเชียกำลังลุกเป็นไฟไม่ต่างจากยุโรปเลยนะครับ

     

    กลับมายังค่ายกักกันของวิคเตอร์ ซึ่งวันนี้วิคเตอร์ต้องไปต้อนรับจอมพลท่านหนึ่ง ซึ่งจะมาเยี่ยมที่ค่าย ในตอนนั้นทหารของวิคเตอร์ก็ไปตั้งแถวรอรับอยู่พอดี
    เทราน์เนอร์ : จอมพลคนนี้เป็นใครงั้นเหรอ
    วิคเตอร์ : ฉันก็ไม่รู้ อยากเห็นหน้าพวกมันอยู่เหมือนกัน
    หลังจากที่รถไฟเทียบชานชาลา ร่างของชายหนุ่มที่หน้าตาดูมีอายุแต่ร่างของเขาค่อนข้างเล็ก จากนั้นเอง จอมพลคนนั้นก็ไปทักทายวิคเตอร์และเทราน์เนอร์ทันที
    "สวัสดี ผมจอมพลฮิมมาร์ค แวร์ เป็นเกียรติที่ได้พบทุกท่าน"
    วิคเตอร์ : ผมร้อยเอกวิคเตอร์ และนี่ก็ร้อยเอกเทราน์เนอร์ รายงานตัวครับ
    เทราน์เนอร์ : ว่าแต่ ท่านมาที่นี่มีธุระอะไรเหรอครับ
    ฮิมมาร์ค : ผมแค่อยากเยี่ยมชมค่ายที่ผมสร้างขึ้นมาหน่อย พาผมไปเดินดูหน่อยสิ
    วิคเตอร์และเทราน์เนอร์พาจอมพลฮิมมาร์คไปเดินดูรอบๆค่าย ซึ่งมีทั้งโซนแรงงาน โซนเผาศพ และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ เตารมแก๊ส ซึ่งใช้เป็นที่ประหารคนยิว
    ฮิมมาร์ค : ผมอยากเห็นการประหาร ไปพานักโทษมาให้ผมหน่อย
    วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ไปนำคนยิวนับสิบมาอัดรวมกันที่ห้องรมแก๊ส จากนั้นก็ปิดประตูห้อง 
    ฮิมมาร์ค : ตอนนี้แหละ ปล่อยแก๊สได้เลย
    แก๊สซารินถูกปล่อยเข้าไปในห้องที่บรรดานักโทษอัดกันอยู่ในนั้น ทำเอานักโทษทรมานและดิ้นทุรนทุราย จากนั้นก็ค่อยๆขาดใจตายทีละคน ฮิมมาร์คยืนมองราวกับมันเป็นแค่หนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง
    ฮิมมาร์ค : เยี่ยมมาก ถ้ามีโอกาสผมจะสร้างค่ายแบบนี้อีกที่รัสเซีย
    วิคเตอร์ : ยินดีครับท่าน

     

    กลับมาที่บ้านของดอร์ชมันต์ ซึ่งตอนนี้กัสมาพักฟื้นและอยู่กับเขาได้เต็มตัวแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของเขากัสจึงหายดีมากขึ้น และงดงามขึ้นเหมือนแต่ก่อน
    กัส : ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นทุกวันเลย ที่อยู่กับคุณ
    ดอร์ชมันต์ : ครับ ผมยินดี แล้วคุณจะกลับไปบ้านเจ้าวิคเตอร์ดีมั้ยครับ
    กัส : ทำไมฉันต้องกลับไปหล่ะ แล้วอีกอย่าง อย่าพูดถึงเขาเลยค่ะ
    ดอร์ชมันต์ : หมายความว่ายังไงครับ
    กัส : หมายความว่าฉันจะมาอยู่กับคุณไงหล่ะ ฉันรู้ว่าคุณชอบฉัน อย่าปฏิเสธเลย
    ดอร์ชมันต์ : ผมรู้ แต่คุณมีสามีแล้วนี่ครับ
    กัส : ฉันมันก็แค่อีตัวสำหรับเขา แต่สำหรับคุณ ฉันจะเป็นฉัน
    ดอร์ชมันต์ : ก็ได้ครับ ผมจะดูแลคุณเอง ไม่ต้องห่วงนะ
    กัส : ขอบคุณมากนะคะ // กัสจูบปากดอร์ชมันต์จากนั้นเขาทั้งคู่ก็..

     

    ทางด้านของอลิส รินและโยชิตะ ทั้งสามคนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านของฮัมบูร์ก เพื่อรอฮัมบูร์กกลับมา และทันใดนั้นเธอก็กลับมาพอดี
    โยชิตะ : พี่ฮัมบูร์ก เป็นยังไงบ้างครับที่ไปพบท่านผู้นำ
    ฮัมบูร์ก : ทุกคนกำลังทำให้งานนี้พัง ฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก
    อลิส : พัง อะไรจะพังคะพี่ เกิดอะไรขึ้นคะ
    ฮัมบูร์ก : ท่านผู้นำกำลังจะเตรียมบุกโซเวียตหน่ะ
    ริน : ห่ะ โซเวียตรัสเซียเหรอคะ ก็เหมือนในประวัติศาสตร์สิ
    อลิส : แต่ก็ไม่เห็นแปลกนี่ สองประเทศนี้ไม่ถูกกันอยู่แล้วนี่
    โยชิตะ : แต่พี่แซคเคยบอกผมว่า สาเหตุหลักที่เยอรมันแพ้ เพราะบุกโซเวียตนะคะ
    ฮัมบูร์ก : เลิกพูดถึงเขาซะทีได้ไหม
    ริน : ทำไมคะพี่ หรือว่าพี่ยังคิดถึงเขาอยู่หล่ะ
    อลิส : นี่ อย่าไปยั่วโมโหพี่เขาแบบนั้นสิ พี่เขากำลังโกรธนะ
    ฮัมบูร์ก : แถมท่านผู้นำยังสั่งให้ฉันไปประจำการที่แอฟริกาอีก
    โยชิตะ : ห่ะ พี่กลัวที่แอฟริกางั้นเหรอครับ
    ฮัมบูร์ก : พี่ไม่กลัวหรอก แต่การที่บุกโซเวียตแบบนั้น เราแพ้แน่ๆ
    อลิส : แล้วพี่จะทำยังไงต่อหล่ะ
    ริน : นั่นสิ หนูก็อยากรู้นะ
    ฮัมบูร์ก : เห็นที พี่ต้องขัดคำสั่งท่านผู้นำแล้วหล่ะ

     

    กลับมายังเบอร์ลิน เยอรมนี ในขณะนั้นลูก้าที่กำลังหาเรือของเพื่อนเขาเพื่อล่องไปอังกฤษ แต่อยู่ดีๆมีทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา ราวกับว่าเขารู้จักกับลูก้า
    "คุณลูก้าครับ"
    ลูก้า : ห่ะ ไดช์ นี่นายมาได้ยังไงหล่ะเนี่ย
    ไดช์ : ผมเห็นท่านดูคถ้นเลยตามมาครับ
    ลูก้า : มีอะไร ไม่รู้เหรอว่าฉันพักร้อนอยู่
    ไดช์ : ท่านรอมเมลเรียกหาด่วนหน่ะครับ
    ลูก้า : ห่ะ เรียกฉันงั้นเหรอ
    ไดช์ : ใช่ครับ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญด้วยครับ
    ลูก้า : ก็ได้ ฉันจะลองไปดูแล้วกัน

     

    และที่แอฟริกา แนวหน้าของทหารอิตาลี ในขณะที่เทเรซ่ากำลังรักษาคนไข้ จู่ๆก็มีกลุ่มทหารม้าจู่โจมของชาวอาหรับ ก็บุกเข้าจู่โจมสายฟ้าแลบ ทำเอาพวกเขาล่าถอยกันแทบไม่ทัน
    "พวกเรา ถอยไปที่แนวหลังก่อน เร็ว"
    ทหารอิตาลีหนีตายจากแนวหน้า เทเรซ่าก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องหนี แต่เธอหนีไม่ทันโดนทหารม้าล้อมเอาไว้
    เทเรซ่า : อย่า ฉันยอมแพ้แล้ว
    ในตอนนั้นเอง ทหารม้าคนหนึ่งลงจากม้า จากนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับเปิดผ้าปิดหน้าของพวกเขา
    "คุณหมอเทรครับ จำผมได้มั้ยครับ"
    เทเรซ่า : ราซัค นายเป็นคนของบราฮัมนี่
    ราซัค : ใช่ครับ ผมเอง ปลอดภัยนะครับหมอ
    เทเรซ่า : ให้ฉันเดานะ ที่นั่นต้องการหมออยู่พอดีใช่หรือเปล่า
    ราซัค : ถูกเผงเลยครับ ต้องการด่วนเลย หมอไปกับพวกเราหน่อยครับ
    เทเรซ่า : เอาเถอะจ้ะ รีบไปจากที่นี่เถอะ

     

    กลับมายังชายแดนเยอรมัน โซเวียต วันที่ 22 กรกฎาคม 1941 ทหารเยอรมันหลายล้านนายเตรียมพร้อมอยู่ที่แนวหน้า กำลังรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของพวกเขา
    "ท่านจอมพลครับ เรากำลังรอคำสั่งของท่านครับ"
    "เอาหล่ะ ทหารทุกนาย บุกได้"
    เมื่อสิ้นเสียง ทหารเยอรมันนับล้านบุกข้ามชายแดนโซเวียตทันที

    ==============================================================

    ปฏิบัติการบาร์บารอสซ่าอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×