ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mask Land - สมรภูมิแยกแผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #9 : เข้าที่กำบัง

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 60


    3 เดือนผ่านไป พวกเขาต่อสู้ป้องกันกองทัพจีนที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง พวกเขาใช้ชีวิตด้วยความลำบากแต่ก็ยังสู้กับพวกมันต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกเขาได้รับคำสั่งใหม่ ซึ่งเป็นคำสั่ง จอมยุทธ์สั่งลูกน้องของเขาทุกคนมาประชุมกันที่เต้นท์ของจอมยุทธ์

    จอมยุทธ์ : เอาหล่ะทุกคน ผมมีข่าวมาใหม่ ข่าวนี้ทุกคนอาจจะดีใจที่ได้ยินนะ

    เงา : ข่าวอะไรครับหัวหน้า

    จอมยุทธ์ : เมื่อเช้านี้ ทางสหประชาชาติได้ประกาศว่า จะมีการสงบศึกกันหน่ะ ซึ่งนั้นก็หมายถึง สงครามกำลังจะจบแล้ว

    โซ่ตวง : งั้นก็ดีสิครับหัวหน้า เราอยากกลับบ้านแล้วสิ

    จอมยุทธ์ : แต่ว่า สัญญาหยุดยิงเนี่ย จะมีผลในวันนี้ เวลาสี่ทุ่ม

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : สี่ทุ่ม ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองนะหัวหน้า งั้นก็หมายความว่า

    จอมยุทธ์ : ใช่แล้วหล่ะ เรามีเวลา 15 ชั่วโมงก่อนที่สัญญาหยุดยิงจะมีผลหน่ะ

    หมาป่าดำ : ซึ่งนั้นก็หมายถึง พวกมันคงจะเตรียมกำลังบุกเราอย่างเต็มที่ในอีกไม่นานนี่แน่ๆ

    จอมยุทธ์ : เอาหล่ะทุกคน ไปกระจายข่าวให้ทหารทุกคนในค่ายรู้นะ แล้วก็เตรียมการป้องกันให้หนาแน่นที่สุด อดทนหน่อยนะ อีกไม่นานพวกมันคงจะมาแน่ๆ

    จากนั้นทุกคนรับคำสั่ง แล้วไปกระจายข่าวให้ทหารที่เหลือสร้างแนวป้องกัน เสริมกำลังบังเกอร์รอบด้าน พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรต่อไป และสงครามครั้งนี้ อาจจะเป็นสงครามที่ดุเดือดที่สุดที่เขาเคยเจอมา

    ณ สหรัฐอเมริกา

    หลังจากที่ถูกโจมตีเมื่อคืน หลังจากที่พวกเขาซ่อมแซมความเสียหายในบ้านเรียบร้อย หลังจากที่กลับมาจากห้างสรรพสินค้า พวกเขาก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน เนสซีคิดถึงจดหมายที่ตัวเองส่งไปให้ผ้าฝ้าย ความมืดและกระดาษเพื่อนเขามาเห็นก็แซวกลับไป

    ความมืด : อมยิ้มอะไรคนเดียวเหรอพวก

    เนสซี : เปล่าหรอก ไม่มีไรหรอก

    กระดาษ : สงสัยคงนึกถึงแฟนเขาที่ Mask Land หล่ะม้างแบบนี้

    เนสซี : ยังไม่ใช่แฟนเว้ย แค่ส่งไปถึงเขาเฉยๆ

    ความมืด : เอาเถอะๆๆ นี่กระดาษ นายพอรู้มั้ยว่าพวกที่เล่นเราเมื่อคืนมันพวกไหน

    กระดาษ : ก็จะพวกไหนหล่ะ พวกคอมมิวนิสต์เจ้าเก่าหน่ะสิ

    ความมืด : งานนี้พวกมันเล่นแรงกว่าเดิมอีกหว่ะ

    เนสซี : แล้วเราจะทำยังไงต่อหล่ะ

    กระดาษ : ไม่ต้องห่วง เพื่อนฉันที่เป็นตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ อีกไม่นานคงจับพวกมันได้แล้วหล่ะ

    ความมืด : ระหว่างนี้ เราป้องกันตัวไว้ก่อนแล้วกัน แล้วนี่เนสซี วันหลังอย่าไปไหนคนเดียวหล่ะ

    เนสซี : ไม่ต้องห่วงน่า ฉันก็ระวังตัวเป็นนี่

    ณ ร้านขายเสื้อของผ้าฝ้าย หลังจากที่ผ้าฝ้ายไปเที่ยวกับแฮมเตอร์กลับมา จากนั้นเธอก็เห็นจดหมายอยู่ในตู้หน้าบ้านของเธอ

    แฮมเตอร์ : นั้นจดหมายเธอของเธอนี่ มันส่งมาจากไหนหน่ะ

    ผ้าฝ้ายหยิบเอาจดหมายฉบับนั้นมาดู เขียนว่ามาจากอเมริกา ผ้าฝ้ายงงว่าเอ๊ะ นี่ฉันมีเพื่อนที่อเมริกาด้วยเหรอ จากนั้นเธอก็เปิดอ่านจดหมายฉบับนั้น ก็พบว่าเป็นนายเนสซีคนนั้นที่เธอเคยช่วยทำแผลให้เขา

    แฮมเตอร์ : ใครส่งมาถึงเธองั้นเหรอ

    ผ้าฝ้าย : อ้อ คือ คนที่ฉันเคยทำแผลให้วันนั้นอ่ะ

    แฮมเตอร์ : อ้อๆ เข้าใจหล่ะ แล้วเขาเขียนมาว่าไงหล่ะ

    ผ้าฝ้าย : ไม่มีไรมากหรอก ก็คงแค่ขอบคุณที่ฉันทำแผลให้เขาหน่ะ

    แฮมเตอร์ : แหม่ๆๆๆๆ เอาเถอะจ้ะ ยังไงฉันกลับก่อนนะ จีบกันตามสบายนะจ๊ะ

    จากนั้นแฮมเตอร์ก็หัวเราะแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผ้าฝ้ายเดินเข้าไปอ่านจดหมายต่อในบ้าน

    เนื้อความของจดหมายไม่มีอะไรมาก เขาส่งมาขอบคุณผ้าฝ้ายที่ทำแผลให้ แล้วถามสารทุกข์สุกดิบต่างๆ แต่ที่เขาไม่ลืมถามเลย ว่าเธอมีแฟนหรือยัง ทำเอาผ้าฝ้ายนั่งอมยิ้มอยู่อย่างนั้น

    ว่าแล้วผ้าฝ้ายก็ไปหากระดาษกับปากกามาเขียนจดหมายตอบกลับนายคนนี้ดีกว่า แต่เอ๊ะ จะเขียนอะไรถึงนายคนนั้นดีหล่ะ ว่าแล้วเธอก็เขียนอะไรดีๆลงไปในกระดาษแผ่นนั้น

    สวัสดีจ้ะเนสซี ฉันดีใจที่คุณเขียนมาหาฉันนะ ตอนนี้ฉันสบายดี ฉันก็หวังว่าเธอจะสบายดีนะ การงานของเธอเป็นไงบ้าง ฉันอยากไปเที่ยวอเมริกาอีกนะ แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาหน่ะ ฉันเห็นรูปที่นายส่งมาแล้วนะ ชอบมากเลยหล่ะ ยังไงก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่มีแฟนหรอก

    ผ้าฝ้ายอมยิ้มแล้วเก็บจดหมายนั้นไว้ รอเวลาที่จะเก็บใส่ซองแล้วส่งไปให้เขา

    ณ พระราชวัง Mask Land คิงอีกาดำได้เรียกประชุมเหล่าขุนนาง

    คิงอีกาดำ : เอาหล่ะทุกท่าน วันนี้ที่ผมเรียกทุกท่านมาประชุมกัน เพราะเห็นว่าวันนี้เหตุการณ์ไม่สงบได้คลี่คลายแล้ว

    แมวตาเดียว : นั้นสิครับท่าน พวกมันก็เงียบหายไปเลยหลังจากการกวาดล้างอย่างหนัก

    นกอินทรี : แต่ผมมองว่าเรายังไม่ควรไว้ใจอะไรง่ายๆ ไม่แน่พวกมันอาจกำลังมีแผนอะไรอยู่ก็ได้ครับ

    วัว : คุณแมวตาเดียวครับ คุณว่าสถานการณ์ภายในประเทศก่อนที่วันชาติของเราจะมาถึงคุณจะจัดการได้หรือเปล่า

    แมวตาเดียว : กำลังพลของเราเตรียมพร้อมอยู่นะครับ ตอนนี้ก็รอดูทางผู้พันจอมยุทธ์ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่หน่ะครับ

    ระหว่างนั้นระฆังก็เดินเข้ามาในห้องประชุม

    ระฆัง : ทุกๆท่าน เรามีข่าวจะมาแจ้งใหม่ครับ

    คิงอีกาดำ : มีอะไรเหรอระฆัง

    ระฆัง : ตอนนี้สงครามที่เกาหลีนั้นกำลังจะสงบแล้วครับ ทางสหประชาชาติได้มีมติตกลงให้หยุดยิงในวันนี้แล้วครับ แต่ปัญหาก็คือ สัญญานี้จะมีผลเวลาสามทุ่มของประเทศนี้ครับ

    นกอินทรีมองดูนาฬิกาตัวเองแล้วบอกไปว่า นี่ใกล้จะเที่ยงเองนะ

    วัว : นั้นก็หมายถึง ทหารของเรามีเวลาแปดชั่วโมงในการรบครั้งสุดท้ายสินะ

    แมงตาเดียว : ทุกอย่าง คงต้องฝากไว้กับผู้พันจอมยุทธ์แล้วสินะ

    หลังจากที่ประชุมเสร็จ คิงอีกาดำก็กลับไปยังวังของตน ก็พบจิงโจ้และทุเรียนที่กลับมาจากการเยี่ยมเพื่อนของเขาแล้ว

    คิงอีกาดำ : อ้าวลูก กลับมากันแล้วเหรอ

    จิงโจ้ : ครับพ่อ วันนี้เหนื่อยมากเลย

    ควีนมังกร : แล้วหนูโพนี่เป็นไงบ้างจ๊ะลูก

    ทุเรียน : เธอปลอดภัยดีครับแม่

    ควีนมังกร : ดีแล้วจ้ะลูก แม่ว่าช่วงนี้เราประเทศเราดูสงบแล้วนะ พ่อว่าไง

    คิงอีกาดำ : เรายังไว้ใจตอนนี้ไม่ได้นะแม่ ยังไงเราก็ต้องรอดูไปก่อน ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่หน่ะ

    จิงโจ้ : นั่นสิครับพ่อ

    ที่ร้านอาหาร ฟินิกซ์แลนด์  ซึ่งหมูป่าก็ได้มาเยี่ยมฟินิกซ์แล้วนั่งกินอะไรที่ร้านนี้ จากนั้นฟินิกซ์ก็มานั่งคุยกับหมูป่าด้วย

    หมูป่า : นี่ เธอเป็นอะไรมากมั้ย หลังจากวันนั้นอ่ะ

    ฟินิกซ์ : ก็โอเคแล้วจ้ะ แล้วเธอหล่ะ

    หมูป่า : ฉันก็เหมือนกัน วันนี้ไปเยี่ยมโพนี่แล้วก็คนอื่นๆมาด้วยหล่ะ

    ฟินิกซ์ : ก็ดีแล้วหล่ะ เออนี่ ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย

    หมูป่า : ว่ามาเลยจ้า

    ฟินิกซ์ : นี่เธอเป็นอะไรกับนายตำรวจคนนั้นหน่ะ ที่เคยช่วยเธอที่ร้านหน่ะ

    หมูป่า : คุณยุทธ์หน่ะเหรอ เขาเป็นทหาร

    ฟินิกซ์ : นั้นแหละ เธอไม่สนใจเขาหน่อยเหรอ เขาดูหล่อมากเลยนะ

    หมูป่า : ก็ ไม่รู้สินะ // แก้มแดงไปด้วย

    ฟินิกซ์ : ถ้าเธอไม่เอาฉันเอา 55555

    หมูป่า : หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ข้ามศพฉันไปก่อนเลยย่ะ

    ฟินิกซ์ : อ่ะจ้ะๆๆๆๆๆ แหม่ หยอกเล่นนิดหน่อยเอง

    ระหว่างที่พวกเธอสองคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานในร้าน ก็มีอีกชีวิตหนึ่งอยู่นอกร้าน ไม่ใช่ใครที่ไหน ราชินีนั้นเอง เธอมารอที่ร้านทุกวันหวังว่าโซ่ตวงจะกลับมาไวๆ

    นักเลง : นี่เธอ เราจะปล้นร้านนี้เลยมั้ย

    ราชินี : อย่าเสี่ยงเลย ตอนนี้คนของเราก็ไม่มาก แถมพี่ฉันก็ติดคุกอีก

    นักเลง : เฮ้อ คิดแล้วยังแค้นไม่หาย ไอ้หน้ากากโซ่พันหน้านั้นหน่ะ มันอัดฉันซะเละเลย คอยดูฉันเอาคืนแน่

    ราชินีได้ยินดังนั้นจึงกระชากคอเสื้อเขามาแล้วผลักเขาพิงกำแพง จากนั้นก็พูดว่า

    อย่าพูดถึงเขาแบบนั้นนะ ถ้าแกไม่อยากตายจากนั้นก็เหวี่ยงเขาออก จากนั้นราชินีก็ไล่นักเลงคนนั้นไปไกล นักเลงคนนั้นหัวเสียแถมไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะราชินีเป็นน้องของลูกพี่ตัวเอง จากนั้นราชินีก็นั่งอยู่ข้างร้าน พลางหยิบใบขับขี่ที่จิ๊กมาจากโซ่ตวงเอามาดู ทำไงได้หล่ะ เธออยากมีรูปเขาเก็บไว้นี่

    ระหว่างนั้น แฮมเตอร์ที่กำลังเอาขยะมาทิ้งที่ข้างร้าน ก็เห็นราชินีนั่งอยู่ข้างร้าน เธอคิดว่าเป็นขอทานจึงเข้าไปคุยด้วย

    แฮมเตอร์ : นี่เธอ เธอหิวเหรอ ที่ร้านฉันมีอาหารเหลืออยู่หน่ะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ

    ราชินี : เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้มาเอาอาหารหรอก เออนี่คุณ คุณรู้จักคนในรูปนี้มั้ยคะ // ราชินีพูดพลางยื่นใบขับขี่ของโซ่ตวงให้ดู แฮมเตอร์เห็นจึงร้องอ้อทันที

    แฮมเตอร์ : คนนี้เหรอ เขาเป็นทหารหน่ะ ฉันรู้จักเขา เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนฉันอีกทีหน่ะ

    ราชินี : แล้วคุณรู้มั้ยคะว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่

    แฮมเตอร์ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ติดตามข่าวเท่าไหร่หน่ะ

    ราชินี : นั่นสิ ฉันก็ไม่รู้นะว่าสงครามจะจบลงตอนไหน

    แฮมเตอร์ : งั้นฉันถามอะไรหน่อยสิ

    ราชินี : ว่าไงเหรอ

    แฮมเตอร์ : เธอเป็นอะไรกับโซ่ตวงเขาหน่ะ

    ราชินี : ฉันเอิ่ม ไม่สำคัญหรอกหน่ะ เขาแค่เคยช่วยฉันไว้หน่ะ เออนี่เธอ ฉันขอโทษนะเรื่องวันนั้นหน่ะ

    แฮมเตอร์ : ไม่เป็นไรหรอกจ้า เอางี้นะ เดี๋ยวตอนช่วงเย็นนี้มาเจอฉันที่หลังร้านนี้นะ

    ราชินี : ได้สิๆ

    จากนั้นราชินีก็เดินจากไป ปล่อยให้แฮมเตอร์มองข้างหลัง แล้วกลับเข้าไปทำงานต่อ

    ณ สหรัฐอเมริกา ในระหว่างกระดาษกับความมืดกำลังสืบเบาะแสพวกที่บุกบ้านพวกเขาเมื่อคืน เนสซีก็ตรงดุ่มเข้ามาในบ้าน ทำเอาสองคนนั้นตกใจ

    เนสซี : เฮ้ยนี่พวกนาย

    ความมืด : มีอะไรเหรอ ดูท่าทางแต๊วแตกมาเลย

    กระดาษ : แต๊วแตกหน่ะมันนายแล้วเพื่อน

    เนสซี : เดือนหน้าฉันจะได้กลับไปพักผ่อนต่อที่ Mask Land แล้ว

    กระดาษ : งั้นเหรอ ดีใจด้วย เราขอไปด้วยสิ อยากกลับไปเยี่ยมที่นั่นเหมือนกัน นายว่าไงหล่ะความมืด

    ความมืด : ฉันว่าฉันต้องสะสางอะไรบางอย่างก่อนหน่ะ

    กระดาษ : นี่นายยังลืมมันไม่ได้อีกเหรอ

    เนสซี : ขอโทษนะ สะสางเรื่องอะไรหน่ะ

    กระดาษ : ก็แฟนความมืดเคยโดนพวกคอมมิวนิสต์ยิงตาย อุ๊บส์

    ความมืด : มึงจะพูดทำไมวะ // กระดาษรีบขอโทษในสิ่งที่เขาพูดออกไป

    พวกนายจะไม่ร่วมมือด้วยก็ได้นะ เรื่องนี้ฉันจัดการคนเดียวได้ความมืดพูดพลางน้อยใจ

    เนสซี : ฉันเอาด้วยคน ยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่

    กระดาษ : ฉันก็เหมือนกัน ยังไงนายก็เพื่อนฉันนี่

    ความมืด : ขอบใจพวกนายมากเลยนะ

    กลับมาที่เนินเขายังเกอร์ ประเทศเกาหลีใต้ เวลาประมาณสี่โมงเย็น จอมยุทธ์สั่งให้ทหารทานอาหารเย็นเร็วกว่าปกติ ซึ่งจอมยุทธ์ก็นั่งกินร่วมกับพรรคพวกของเขาอยู่ในเต้นท์นั้น

    จอมยุทธ์ : เอาหล่ะ รีบๆกินกันนะ พวกมันคงจะบุกอีกไม่นาน

    โซ่ตวง : หายห่วงหัวหน้า ตอนนี้แนวป้องกันเราหนาแน่นพอที่จะรับมือพวกมันแล้วนะ

    หมาป่าดำ : แต่พวกนายจะประมาทไม่ได้นะ

    เงา : เรามีปืนกลดีๆตั้งเยอะ แถมปืนใหญ่ก็มีสนับสนุนอีก เธอกังวลอะไรเหรอ

    หมาป่าดำ : พวกนายรู้มั้ยว่าเผิงเต๋อหวาย(นายพลจีนในสงครามเกาหลี)เป็นใคร ฉันจะบอกให้นะ ทหารของเขามีจำนวนมากกว่ากระสุนเราซะอีกนะ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : เธอกำลังจะบอกว่าอะไรหล่ะ หมาป่าดำ

    หมาป่าดำ : ฉันคิดว่า ถ้าเราต้านไม่ไหว ให้เราหนีออกไปยังทางลับหลังเขา รอกำลังสนับสนุนจากอากาศยานหรือปืนใหญ่ดีกว่า

    เงา : แต่เราจะถอยง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ

    โซ่ตวง : นั่นสิ แบบนี้กลับไปไม่โดนหัวเราะเยาะแย่เลยเหรอ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : เอาน่าพวกนาย ยังไงหมาป่าดำก็อยู่มาก่อนเรานะ ยังไงเธอก็คงรู้อะไรมากกว่าเราแหละ

    หมาป่าดำ : อย่าว่าแบบนั้นแบบนี้เลยนะหัวหน้า หัวหน้ารู้มั้ย เขาแห่งนี้เปลี่ยนมือมากี่ครั้งแล้ว

    จอมยุทธ์ : ไม่รู้สิ กี่ครั้งกันหล่ะ

    หมาป่าดำ : นับไม่ถ้วนค่ะหัวหน้า แต่ที่ฉันนับได้คือ 40 ครั้ง

    เงา : ห่ะ จริงเหรอ ทำไมเยอะขนาดนั้นหล่ะ

    หมาป่าดำ : ต่างฝ่ายต่างอ่อนแรงหน่ะ อีกอย่างอาวุธก็มีพอๆกัน เลยไม่กล้าแลกกันตรงๆ

    จอมยุทธ์ : เอาหล่ะ งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเราต้านไม่ไหวจริงๆเราจะถอย ยังไงเราก็ต้องรักษาชีวิตคนของเราไว้เพื่อกลับบ้านเรา นี่เงา นายคิดว่ากระสุนของเราจะพอต้านมันได้นานแค่ไหน

    เงา : ก็คงจะพอจนจบสงครามนะครับ ถ้าไม่โดนระเบิดซะก่อน

    โซ่ตวง : ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด เป็นไงเป็นกันหล่ะวันนี้

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ฉันเอาด้วย ฉันไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ยังไงฉันก็สู้ตายหล่ะ

    หมาป่าดำ : นี่ทุกคน อย่าลืมพกดาบปลายปืนติดด้วยนะ ฉันว่ายังไงก็ต้องสู้แบบประชิดด้วยหล่ะ

    ระหว่างที่กำลังคุยกันนั้น ก็มีสัญญาณแจ้งเตือนจากในค่าย พวกเขาทั้งห้าคนเลยออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบกองทัพข้าศึกกำลังเคลื่อนเข้ามา จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นมาแต่ไกล จอมยุทธ์เลยตะโกนบอกทุกคน

    ปืนใหญ่ รีบเข้าที่กำบัง เร็ว

    ==========================================

    กองทัพจีนบุกโจมตีพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรอดกลับบ้านได้หรือไม่ ติดตามต่อตอนหน้าจ้า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×