คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เข้าที่กำบัง
3 เดือนผ่านไป
พวกเขาต่อสู้ป้องกันกองทัพจีนที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
พวกเขาใช้ชีวิตด้วยความลำบากแต่ก็ยังสู้กับพวกมันต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่ง
พวกเขาได้รับคำสั่งใหม่ ซึ่งเป็นคำสั่ง จอมยุทธ์สั่งลูกน้องของเขาทุกคนมาประชุมกันที่เต้นท์ของจอมยุทธ์
จอมยุทธ์ : เอาหล่ะทุกคน
ผมมีข่าวมาใหม่ ข่าวนี้ทุกคนอาจจะดีใจที่ได้ยินนะ
เงา : ข่าวอะไรครับหัวหน้า
จอมยุทธ์ : เมื่อเช้านี้
ทางสหประชาชาติได้ประกาศว่า จะมีการสงบศึกกันหน่ะ ซึ่งนั้นก็หมายถึง สงครามกำลังจะจบแล้ว
โซ่ตวง : งั้นก็ดีสิครับหัวหน้า
เราอยากกลับบ้านแล้วสิ
จอมยุทธ์ : แต่ว่า
สัญญาหยุดยิงเนี่ย จะมีผลในวันนี้ เวลาสี่ทุ่ม
แมงมุมแม่ม่ายดำ : สี่ทุ่ม ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองนะหัวหน้า งั้นก็หมายความว่า
จอมยุทธ์ : ใช่แล้วหล่ะ
เรามีเวลา 15 ชั่วโมงก่อนที่สัญญาหยุดยิงจะมีผลหน่ะ
หมาป่าดำ : ซึ่งนั้นก็หมายถึง
พวกมันคงจะเตรียมกำลังบุกเราอย่างเต็มที่ในอีกไม่นานนี่แน่ๆ
จอมยุทธ์ : เอาหล่ะทุกคน
ไปกระจายข่าวให้ทหารทุกคนในค่ายรู้นะ แล้วก็เตรียมการป้องกันให้หนาแน่นที่สุด
อดทนหน่อยนะ อีกไม่นานพวกมันคงจะมาแน่ๆ
จากนั้นทุกคนรับคำสั่ง
แล้วไปกระจายข่าวให้ทหารที่เหลือสร้างแนวป้องกัน เสริมกำลังบังเกอร์รอบด้าน
พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรต่อไป และสงครามครั้งนี้
อาจจะเป็นสงครามที่ดุเดือดที่สุดที่เขาเคยเจอมา
ณ สหรัฐอเมริกา
หลังจากที่ถูกโจมตีเมื่อคืน หลังจากที่พวกเขาซ่อมแซมความเสียหายในบ้านเรียบร้อย
หลังจากที่กลับมาจากห้างสรรพสินค้า พวกเขาก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน
เนสซีคิดถึงจดหมายที่ตัวเองส่งไปให้ผ้าฝ้าย
ความมืดและกระดาษเพื่อนเขามาเห็นก็แซวกลับไป
ความมืด : อมยิ้มอะไรคนเดียวเหรอพวก
เนสซี : เปล่าหรอก
ไม่มีไรหรอก
กระดาษ : สงสัยคงนึกถึงแฟนเขาที่
Mask Land หล่ะม้างแบบนี้
เนสซี : ยังไม่ใช่แฟนเว้ย
แค่ส่งไปถึงเขาเฉยๆ
ความมืด : เอาเถอะๆๆ
นี่กระดาษ นายพอรู้มั้ยว่าพวกที่เล่นเราเมื่อคืนมันพวกไหน
กระดาษ : ก็จะพวกไหนหล่ะ
พวกคอมมิวนิสต์เจ้าเก่าหน่ะสิ
ความมืด : งานนี้พวกมันเล่นแรงกว่าเดิมอีกหว่ะ
เนสซี : แล้วเราจะทำยังไงต่อหล่ะ
กระดาษ : ไม่ต้องห่วง
เพื่อนฉันที่เป็นตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ อีกไม่นานคงจับพวกมันได้แล้วหล่ะ
ความมืด : ระหว่างนี้
เราป้องกันตัวไว้ก่อนแล้วกัน แล้วนี่เนสซี วันหลังอย่าไปไหนคนเดียวหล่ะ
เนสซี : ไม่ต้องห่วงน่า
ฉันก็ระวังตัวเป็นนี่
ณ ร้านขายเสื้อของผ้าฝ้าย
หลังจากที่ผ้าฝ้ายไปเที่ยวกับแฮมเตอร์กลับมา
จากนั้นเธอก็เห็นจดหมายอยู่ในตู้หน้าบ้านของเธอ
แฮมเตอร์ : นั้นจดหมายเธอของเธอนี่
มันส่งมาจากไหนหน่ะ
ผ้าฝ้ายหยิบเอาจดหมายฉบับนั้นมาดู
เขียนว่ามาจากอเมริกา ผ้าฝ้ายงงว่าเอ๊ะ นี่ฉันมีเพื่อนที่อเมริกาด้วยเหรอ จากนั้นเธอก็เปิดอ่านจดหมายฉบับนั้น
ก็พบว่าเป็นนายเนสซีคนนั้นที่เธอเคยช่วยทำแผลให้เขา
แฮมเตอร์ : ใครส่งมาถึงเธองั้นเหรอ
ผ้าฝ้าย : อ้อ
คือ คนที่ฉันเคยทำแผลให้วันนั้นอ่ะ
แฮมเตอร์ : อ้อๆ
เข้าใจหล่ะ แล้วเขาเขียนมาว่าไงหล่ะ
ผ้าฝ้าย : ไม่มีไรมากหรอก
ก็คงแค่ขอบคุณที่ฉันทำแผลให้เขาหน่ะ
แฮมเตอร์ : แหม่ๆๆๆๆ
เอาเถอะจ้ะ ยังไงฉันกลับก่อนนะ จีบกันตามสบายนะจ๊ะ
จากนั้นแฮมเตอร์ก็หัวเราะแล้วเดินจากไป
ปล่อยให้ผ้าฝ้ายเดินเข้าไปอ่านจดหมายต่อในบ้าน
เนื้อความของจดหมายไม่มีอะไรมาก
เขาส่งมาขอบคุณผ้าฝ้ายที่ทำแผลให้ แล้วถามสารทุกข์สุกดิบต่างๆ
แต่ที่เขาไม่ลืมถามเลย ว่าเธอมีแฟนหรือยัง ทำเอาผ้าฝ้ายนั่งอมยิ้มอยู่อย่างนั้น
ว่าแล้วผ้าฝ้ายก็ไปหากระดาษกับปากกามาเขียนจดหมายตอบกลับนายคนนี้ดีกว่า แต่เอ๊ะ จะเขียนอะไรถึงนายคนนั้นดีหล่ะ
ว่าแล้วเธอก็เขียนอะไรดีๆลงไปในกระดาษแผ่นนั้น
“สวัสดีจ้ะเนสซี ฉันดีใจที่คุณเขียนมาหาฉันนะ
ตอนนี้ฉันสบายดี ฉันก็หวังว่าเธอจะสบายดีนะ การงานของเธอเป็นไงบ้าง
ฉันอยากไปเที่ยวอเมริกาอีกนะ แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาหน่ะ ฉันเห็นรูปที่นายส่งมาแล้วนะ
ชอบมากเลยหล่ะ ยังไงก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่มีแฟนหรอก”
ผ้าฝ้ายอมยิ้มแล้วเก็บจดหมายนั้นไว้
รอเวลาที่จะเก็บใส่ซองแล้วส่งไปให้เขา
ณ พระราชวัง Mask Land คิงอีกาดำได้เรียกประชุมเหล่าขุนนาง
คิงอีกาดำ : เอาหล่ะทุกท่าน
วันนี้ที่ผมเรียกทุกท่านมาประชุมกัน เพราะเห็นว่าวันนี้เหตุการณ์ไม่สงบได้คลี่คลายแล้ว
แมวตาเดียว : นั้นสิครับท่าน
พวกมันก็เงียบหายไปเลยหลังจากการกวาดล้างอย่างหนัก
นกอินทรี : แต่ผมมองว่าเรายังไม่ควรไว้ใจอะไรง่ายๆ
ไม่แน่พวกมันอาจกำลังมีแผนอะไรอยู่ก็ได้ครับ
วัว : คุณแมวตาเดียวครับ
คุณว่าสถานการณ์ภายในประเทศก่อนที่วันชาติของเราจะมาถึงคุณจะจัดการได้หรือเปล่า
แมวตาเดียว : กำลังพลของเราเตรียมพร้อมอยู่นะครับ
ตอนนี้ก็รอดูทางผู้พันจอมยุทธ์ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่หน่ะครับ
ระหว่างนั้นระฆังก็เดินเข้ามาในห้องประชุม
ระฆัง : ทุกๆท่าน
เรามีข่าวจะมาแจ้งใหม่ครับ
คิงอีกาดำ : มีอะไรเหรอระฆัง
ระฆัง : ตอนนี้สงครามที่เกาหลีนั้นกำลังจะสงบแล้วครับ
ทางสหประชาชาติได้มีมติตกลงให้หยุดยิงในวันนี้แล้วครับ แต่ปัญหาก็คือ
สัญญานี้จะมีผลเวลาสามทุ่มของประเทศนี้ครับ
นกอินทรีมองดูนาฬิกาตัวเองแล้วบอกไปว่า “ นี่ใกล้จะเที่ยงเองนะ”
วัว : นั้นก็หมายถึง
ทหารของเรามีเวลาแปดชั่วโมงในการรบครั้งสุดท้ายสินะ
แมงตาเดียว : ทุกอย่าง
คงต้องฝากไว้กับผู้พันจอมยุทธ์แล้วสินะ
หลังจากที่ประชุมเสร็จ
คิงอีกาดำก็กลับไปยังวังของตน
ก็พบจิงโจ้และทุเรียนที่กลับมาจากการเยี่ยมเพื่อนของเขาแล้ว
คิงอีกาดำ : อ้าวลูก
กลับมากันแล้วเหรอ
จิงโจ้ : ครับพ่อ
วันนี้เหนื่อยมากเลย
ควีนมังกร : แล้วหนูโพนี่เป็นไงบ้างจ๊ะลูก
ทุเรียน : เธอปลอดภัยดีครับแม่
ควีนมังกร : ดีแล้วจ้ะลูก
แม่ว่าช่วงนี้เราประเทศเราดูสงบแล้วนะ พ่อว่าไง
คิงอีกาดำ : เรายังไว้ใจตอนนี้ไม่ได้นะแม่
ยังไงเราก็ต้องรอดูไปก่อน ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่หน่ะ
จิงโจ้ : นั่นสิครับพ่อ
ที่ร้านอาหาร ฟินิกซ์แลนด์ ซึ่งหมูป่าก็ได้มาเยี่ยมฟินิกซ์แล้วนั่งกินอะไรที่ร้านนี้
จากนั้นฟินิกซ์ก็มานั่งคุยกับหมูป่าด้วย
หมูป่า : นี่
เธอเป็นอะไรมากมั้ย หลังจากวันนั้นอ่ะ
ฟินิกซ์ : ก็โอเคแล้วจ้ะ
แล้วเธอหล่ะ
หมูป่า : ฉันก็เหมือนกัน
วันนี้ไปเยี่ยมโพนี่แล้วก็คนอื่นๆมาด้วยหล่ะ
ฟินิกซ์ : ก็ดีแล้วหล่ะ
เออนี่ ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย
หมูป่า : ว่ามาเลยจ้า
ฟินิกซ์ : นี่เธอเป็นอะไรกับนายตำรวจคนนั้นหน่ะ
ที่เคยช่วยเธอที่ร้านหน่ะ
หมูป่า : คุณยุทธ์หน่ะเหรอ
เขาเป็นทหาร
ฟินิกซ์ : นั้นแหละ
เธอไม่สนใจเขาหน่อยเหรอ เขาดูหล่อมากเลยนะ
หมูป่า : ก็
ไม่รู้สินะ // แก้มแดงไปด้วย
ฟินิกซ์ : ถ้าเธอไม่เอาฉันเอา
55555
หมูป่า : หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ
ข้ามศพฉันไปก่อนเลยย่ะ
ฟินิกซ์ : อ่ะจ้ะๆๆๆๆๆ
แหม่ หยอกเล่นนิดหน่อยเอง
ระหว่างที่พวกเธอสองคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานในร้าน
ก็มีอีกชีวิตหนึ่งอยู่นอกร้าน ไม่ใช่ใครที่ไหน ราชินีนั้นเอง
เธอมารอที่ร้านทุกวันหวังว่าโซ่ตวงจะกลับมาไวๆ
นักเลง : นี่เธอ
เราจะปล้นร้านนี้เลยมั้ย
ราชินี : อย่าเสี่ยงเลย
ตอนนี้คนของเราก็ไม่มาก แถมพี่ฉันก็ติดคุกอีก
นักเลง : เฮ้อ
คิดแล้วยังแค้นไม่หาย ไอ้หน้ากากโซ่พันหน้านั้นหน่ะ มันอัดฉันซะเละเลย
คอยดูฉันเอาคืนแน่
ราชินีได้ยินดังนั้นจึงกระชากคอเสื้อเขามาแล้วผลักเขาพิงกำแพง
จากนั้นก็พูดว่า
“อย่าพูดถึงเขาแบบนั้นนะ ถ้าแกไม่อยากตาย” จากนั้นก็เหวี่ยงเขาออก
จากนั้นราชินีก็ไล่นักเลงคนนั้นไปไกล นักเลงคนนั้นหัวเสียแถมไม่เข้าใจว่าทำไม
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะราชินีเป็นน้องของลูกพี่ตัวเอง จากนั้นราชินีก็นั่งอยู่ข้างร้าน
พลางหยิบใบขับขี่ที่จิ๊กมาจากโซ่ตวงเอามาดู ทำไงได้หล่ะ เธออยากมีรูปเขาเก็บไว้นี่
ระหว่างนั้น แฮมเตอร์ที่กำลังเอาขยะมาทิ้งที่ข้างร้าน
ก็เห็นราชินีนั่งอยู่ข้างร้าน เธอคิดว่าเป็นขอทานจึงเข้าไปคุยด้วย
แฮมเตอร์ : นี่เธอ
เธอหิวเหรอ ที่ร้านฉันมีอาหารเหลืออยู่หน่ะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ
ราชินี : เปล่าค่ะ
ฉันไม่ได้มาเอาอาหารหรอก เออนี่คุณ คุณรู้จักคนในรูปนี้มั้ยคะ // ราชินีพูดพลางยื่นใบขับขี่ของโซ่ตวงให้ดู
แฮมเตอร์เห็นจึงร้องอ้อทันที
แฮมเตอร์ : คนนี้เหรอ
เขาเป็นทหารหน่ะ ฉันรู้จักเขา เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนฉันอีกทีหน่ะ
ราชินี : แล้วคุณรู้มั้ยคะว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่
แฮมเตอร์ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันไม่ได้ติดตามข่าวเท่าไหร่หน่ะ
ราชินี : นั่นสิ
ฉันก็ไม่รู้นะว่าสงครามจะจบลงตอนไหน
แฮมเตอร์ : งั้นฉันถามอะไรหน่อยสิ
ราชินี : ว่าไงเหรอ
แฮมเตอร์ : เธอเป็นอะไรกับโซ่ตวงเขาหน่ะ
ราชินี : ฉัน…เอิ่ม ไม่สำคัญหรอกหน่ะ เขาแค่เคยช่วยฉันไว้หน่ะ
เออนี่เธอ ฉันขอโทษนะเรื่องวันนั้นหน่ะ
แฮมเตอร์ : ไม่เป็นไรหรอกจ้า
เอางี้นะ เดี๋ยวตอนช่วงเย็นนี้มาเจอฉันที่หลังร้านนี้นะ
ราชินี : ได้สิๆ
จากนั้นราชินีก็เดินจากไป
ปล่อยให้แฮมเตอร์มองข้างหลัง แล้วกลับเข้าไปทำงานต่อ
ณ สหรัฐอเมริกา ในระหว่างกระดาษกับความมืดกำลังสืบเบาะแสพวกที่บุกบ้านพวกเขาเมื่อคืน
เนสซีก็ตรงดุ่มเข้ามาในบ้าน ทำเอาสองคนนั้นตกใจ
เนสซี : เฮ้ยนี่พวกนาย
ความมืด : มีอะไรเหรอ
ดูท่าทางแต๊วแตกมาเลย
กระดาษ : แต๊วแตกหน่ะมันนายแล้วเพื่อน
เนสซี : เดือนหน้าฉันจะได้กลับไปพักผ่อนต่อที่
Mask Land แล้ว
กระดาษ : งั้นเหรอ
ดีใจด้วย เราขอไปด้วยสิ อยากกลับไปเยี่ยมที่นั่นเหมือนกัน นายว่าไงหล่ะความมืด
ความมืด : ฉันว่าฉันต้องสะสางอะไรบางอย่างก่อนหน่ะ
กระดาษ : นี่นายยังลืมมันไม่ได้อีกเหรอ
เนสซี : ขอโทษนะ
สะสางเรื่องอะไรหน่ะ
กระดาษ : ก็แฟนความมืดเคยโดนพวกคอมมิวนิสต์ยิงตาย
อุ๊บส์
ความมืด : มึงจะพูดทำไมวะ
// กระดาษรีบขอโทษในสิ่งที่เขาพูดออกไป
“พวกนายจะไม่ร่วมมือด้วยก็ได้นะ
เรื่องนี้ฉันจัดการคนเดียวได้” ความมืดพูดพลางน้อยใจ
เนสซี : ฉันเอาด้วยคน
ยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่
กระดาษ : ฉันก็เหมือนกัน
ยังไงนายก็เพื่อนฉันนี่
ความมืด : ขอบใจพวกนายมากเลยนะ
กลับมาที่เนินเขายังเกอร์ ประเทศเกาหลีใต้
เวลาประมาณสี่โมงเย็น จอมยุทธ์สั่งให้ทหารทานอาหารเย็นเร็วกว่าปกติ
ซึ่งจอมยุทธ์ก็นั่งกินร่วมกับพรรคพวกของเขาอยู่ในเต้นท์นั้น
จอมยุทธ์ : เอาหล่ะ
รีบๆกินกันนะ พวกมันคงจะบุกอีกไม่นาน
โซ่ตวง : หายห่วงหัวหน้า
ตอนนี้แนวป้องกันเราหนาแน่นพอที่จะรับมือพวกมันแล้วนะ
หมาป่าดำ : แต่พวกนายจะประมาทไม่ได้นะ
เงา : เรามีปืนกลดีๆตั้งเยอะ
แถมปืนใหญ่ก็มีสนับสนุนอีก เธอกังวลอะไรเหรอ
หมาป่าดำ : พวกนายรู้มั้ยว่าเผิงเต๋อหวาย(นายพลจีนในสงครามเกาหลี)เป็นใคร
ฉันจะบอกให้นะ ทหารของเขามีจำนวนมากกว่ากระสุนเราซะอีกนะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : เธอกำลังจะบอกว่าอะไรหล่ะ หมาป่าดำ
หมาป่าดำ : ฉันคิดว่า
ถ้าเราต้านไม่ไหว ให้เราหนีออกไปยังทางลับหลังเขา
รอกำลังสนับสนุนจากอากาศยานหรือปืนใหญ่ดีกว่า
เงา : แต่เราจะถอยง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
โซ่ตวง : นั่นสิ
แบบนี้กลับไปไม่โดนหัวเราะเยาะแย่เลยเหรอ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : เอาน่าพวกนาย ยังไงหมาป่าดำก็อยู่มาก่อนเรานะ
ยังไงเธอก็คงรู้อะไรมากกว่าเราแหละ
หมาป่าดำ : อย่าว่าแบบนั้นแบบนี้เลยนะหัวหน้า
หัวหน้ารู้มั้ย เขาแห่งนี้เปลี่ยนมือมากี่ครั้งแล้ว
จอมยุทธ์ : ไม่รู้สิ
กี่ครั้งกันหล่ะ
หมาป่าดำ : นับไม่ถ้วนค่ะหัวหน้า
แต่ที่ฉันนับได้คือ 40 ครั้ง
เงา : ห่ะ
จริงเหรอ ทำไมเยอะขนาดนั้นหล่ะ
หมาป่าดำ : ต่างฝ่ายต่างอ่อนแรงหน่ะ
อีกอย่างอาวุธก็มีพอๆกัน เลยไม่กล้าแลกกันตรงๆ
จอมยุทธ์ : เอาหล่ะ
งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเราต้านไม่ไหวจริงๆเราจะถอย
ยังไงเราก็ต้องรักษาชีวิตคนของเราไว้เพื่อกลับบ้านเรา นี่เงา
นายคิดว่ากระสุนของเราจะพอต้านมันได้นานแค่ไหน
เงา : ก็คงจะพอจนจบสงครามนะครับ
ถ้าไม่โดนระเบิดซะก่อน
โซ่ตวง : ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด
เป็นไงเป็นกันหล่ะวันนี้
แมงมุมแม่ม่ายดำ : ฉันเอาด้วย ฉันไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ยังไงฉันก็สู้ตายหล่ะ
หมาป่าดำ : นี่ทุกคน
อย่าลืมพกดาบปลายปืนติดด้วยนะ ฉันว่ายังไงก็ต้องสู้แบบประชิดด้วยหล่ะ
ระหว่างที่กำลังคุยกันนั้น ก็มีสัญญาณแจ้งเตือนจากในค่าย
พวกเขาทั้งห้าคนเลยออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบกองทัพข้าศึกกำลังเคลื่อนเข้ามา
จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นมาแต่ไกล จอมยุทธ์เลยตะโกนบอกทุกคน
“ปืนใหญ่ รีบเข้าที่กำบัง เร็ว”
==========================================
กองทัพจีนบุกโจมตีพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรอดกลับบ้านได้หรือไม่ ติดตามต่อตอนหน้าจ้า
ความคิดเห็น