ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mask Land - สมรภูมิแยกแผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #10 : เสียงปืนบนภูเขา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 68
      1
      18 พ.ย. 60

    ในขณะที่หมูป่ากำลังนั่งทานอาหารอยู่นั่น หมูป่าเผลอเอามือปัดไปโดนแก้วไวน์ของเธอจนตกพื้น ทำเอาฟินิกซ์ตกใจ

    ฟินิกซ์ : หมูป่า เธอเป็นอะไรมั้ยอ่ะ

    หมูป่ารู้สึกไม่ดีแต่ก็ฝืนตอบไปว่า ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ

    ฟินิกซ์ : นี่เธอ ท่าทางดูเหม่อๆนะ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า

    หมูป่า : ไม่มีอะไรจ้ะๆ

    แต่ระหว่างนั้น วิทยุที่ฟินิกซ์เปิดอยู่ก็มีเสียงประกาศข่าวแทรกเข้ามา

    สถานีวิทยุ Mask Land โปรดทราบ ขณะนี้ สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในเกาหลีนั้น ทางสหประชาชาติได้มีข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายจีนและโซเวียตแล้ว

    หมูป่า : สงครามจบแล้ว คุณยุทธ์จะกลับมาแล้ว

    ฟินิกซ์ : ดีใจกับเธอด้วยนะยะคนสวย แหะๆ // แต่ทันใดนั้นวิทยุก็ประกาศต่อ

    สัญญาหยุดยิงจะมีผลเวลาประมาณ 21:00 ตามเวลาของ Mask Land จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

    ฟินิกซ์มองดูนาฬิกาที่ร้าน เป็นเวลา ห้าโมงเย็น

    ฟินิกซ์ : งั้นก็เหลือเวลาอีกแค่ 4 ชั่วโมงหน่ะสิ

    หมูป่า : แล้วคุณยุทธ์จะเป็นอะไรมั้ยอ่ะเธอ

    ฟินิกซ์ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สาธุ ขออย่าให้เขาเป็นอะไรไปเลยนะ

    หมูป่ามองดูวิทยุน้ำตาไหลออกมา เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ

    เวลาประมาณห้าโมงเย็นเนินเขายังเกอร์ เกาหลีใต้

    ปืนใหญ่ยิงลงมาลูกแล้วลูกเล่า ปืนใหญ่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าบนภูเขา พวกเขาหลบอยู่ในโพรงถ้ำใต้ดินที่จอมยุทธ์ออกแบบให้เป็นที่หลบภัยแล้วติดตั้งอาวุธทุกชนิดเพื่อตอบโต้ศัตรู ทหารของเขาไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เพียงแต่รอให้พวกมันบุกเข้ามา แล้วพวกตนจะสู้อย่างถวายชีวิตเพื่อให้สงครามจบลง

    จอมยุทธ์ : ไม่ต้องกลัวนะทุกคน ยังไงพวกมันก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : โอ้ย เมื่อไหร่จะเลิกยิงซะทีวะ แน่จริงก็บุกมาเลยเส่

    หมาป่าดำ : นั่นสิ เอาแต่กวนประสาทอยู่ได้ มาเมื่อไหร่แม่จะยิงให้

    โซ่ตวง : นายคิดว่าพวกมันจะมีปืนใหญ่กี่กระบอกวะ

    เงา : ไม่รู้สิ อย่างน้อยๆฉันว่า น่าจะ 400 กระบอกได้หน่ะ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : สงสัยมันคิดจะถล่มเขาลูกนี้แหงะๆเลยหว่ะ

    หมาป่าดำ : ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันว่าอุโมงค์นี้เอาอยู่นะ

    โซ่ตวง : นี่ๆ คิดว่าพวกมันจะมีกำลังพลซักเท่าไหร่หน่ะ

    เงา : ไม่น่าจะถึง 30000 หรอกน่า

    โซ่ตวง : เออนี่ ฉันปวดฉี่หว่ะ

    เงา : เหรอ นายคงต้องไปบนเขาแล้วหล่ะ ถ้าไปในถ้ำเดี๋ยวโรคบิดแดกตายห่า

    โซ่ตวง : โอเคๆๆ ฝากอาวุธฉันด้วยนะ

    จากนั้นโซ่ตวงก็ขึ้นไปบนยอดเขา จากนั้นก็หาต้นไม้แถวนั้นเพื่อยิงกระต่าย แต่เสียงปืนใหญ่ก็ทำให้โซ่ตวงตกใจเหมือนกัน

    แต่หลังที่ยิงกระต่ายเสร็จ โซ่ตวงมองไปเห็นอีกด้านหนึ่งของภูเขา เห็นกองทัพขนาดใหญ่พร้อมรถถังและรถหุ้มเกราะอีกมากมาย โซ่ตวงเห็นจึงต้องรีบไปบอกหัวหน้าแล้วหล่ะ แต่ระหว่างนั้น ลูกปืนใหญ่ลูกหนึ่งได้ตกมาใกล้โซ่ตวง ทำให้โซ่ตวงกระเด็นลงไปในอุโมงค์ โซ่ตวงมีอาการหูอื้อเนื่องจากเสียงปืนใหญ่ แต่ก็ยังกลับไปที่อุโมงค์ของตัวเองได้

    เงา : โซ่ตวง กลับมาแล้วเหรอ

    โซ่ตวง : ฉันว่าเราเจอศึกหนักแล้วหล่ะเพื่อน

    หมาป่าดำ : เธอไปเจออะไรมาเหรอ

    โซ่ตวง : อะไรนะ พูดดังๆหน่อยสิ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : เขาถามว่านายไปเจออะไรมา นายไม่ได้ยินเหรอ

    โซ่ตวง : อะไรนะ // เงาเดินไปดูอาการของโซ่ตวง จึงบอกคนอื่นๆว่า

    สงสัยหูจะดับหน่ะ คงเจอเสียงปืนใหญ่เข้าไปหน่ะ

    หมาป่าดำเอาที่อุดหูของตนใส่ให้โซ่ตวง แล้วโซ่ตวงก็พูดไป

    ฉันไปดูด้านบนมา พวกมันคงมีประมาณ 100000 ได้หล่ะ มีรถถังกับรถหุ้มเกราะด้วย

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ตายหล่ะ งั้นฉันจะไปบอกหัวหน้านะ

    จากนั้นพวกเขาก็เตรียมตัวเข้าประจำที่เนื่องจากเสียงปืนใหญ่หยุดลง พวกมันคงต้องส่งทหารราบเข้าโจมตีแน่ๆ

    ณ ร้านขายเสื้อของผ้าฝ้าย ในขณะที่ผ้าฝ้ายกำลังตัดเสื้อแบบใหม่อยู่นั้น แฮมเตอร์ก็พาราชินีมาเยี่ยมเธอ

    ผ้าฝ้าย : อ้าว แฮมเตอร์ แล้วนี่เพื่อนเธอเหรอ

    แฮมเตอร์ : อ้อจ้ะ นี่ราชินี เพื่อนของโซ่ตวงอีกทีหน่ะจ้ะ

    ราชินี : หวัดดีค่ะ

    ผ้าฝ้าย : ดีจ้า แล้วนี่เธอมีอะไรเหรอถึงมาวันนี้

    แฮมเตอร์ : นี่เธอได้ข่าวยัง สงครามที่เพื่อนเราไปหน่ะ

    ผ้าฝ้าย : ที่เกาหลีหน่ะเหรอ เป็นไงมั้งอ่ะ

    ราชินี : ได้ยินว่าสงครามจะหยุดเวลาสามทุ่ม วันนี้หน่ะจ้ะ

    ผ้าฝ้าย : นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ยังไงก็ต้องสวดมนต์ให้เพื่อนเราด้วยหล่ะ

    ราชินี : แล้วโซ่ตวงเขาจะกลับมาได้มั้ย

    แฮมเตอร์ : ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเขามีฝีมือทุกคนหน่ะจ้ะ

    ผ้าฝ้าย : ดูท่าเธอจะเป็นห่วงโซ่ตวงมากเลยนะ

    ราชินี : ก็ไม่มีไรหรอก เขาเคยช่วยฉันไว้หน่ะ // ราชินีตอบพลางอมยิ้มแต่ในใจรู้สึกร้อนรุ่ม

    ณ สหรัฐอเมริกา

    หลังจากที่กระดาษสืบทราบว่าพวกที่มาโจมตีพวกเขาที่บ้านมีแหล่งกบดานอยู่ที่ไหน เขารีบบอกให้เนสซีและความมืดรู้ทันที จากนั้น ความมืดตัดสินใจบุกไปถล่มพวกมัน พวกเขาพากันขึ้นรถไปยังสถานที่ๆพวกมันใช้เป็นแหล่งกบดาน

    ระหว่างที่ความมืดขับรถอยู่นั้น ก็คุยกับเนสซีและกระดาษ

    ความมืด : กระดาษ นายแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นั่น

    กระดาษ : แน่ใจสิ ครั้งนี้ฉันเอาหัวเป็นประกันเลยอ่ะ

    เนสซี : แล้วนี่ นายรู้ได้ไงหล่ะ

    กระดาษ : ฉันรู้แล้วกัน ยังไงก็ไปกันก่อนดีกว่า

    ความมืด : แล้วอีกไกลมั้ยเนี่ยเพื่อน

    กระดาษ : ไม่กี่ไมล์หรอก ไปเรื่อยๆสิ

    จากนั้นรถของพวกเขามาหยุด ณ ท่าเรือที่ใช้สำหรับต่อเรือและซ่อมแซมเรือ ซึ่งในนั้นดูเหมือนจะร้างมานาน แต่ก็ยังได้ยินเสียงคนซ่อมแซมเรือกันอยู่

    กระดาษ : ที่นี่แหละ

    ความมืด : ฉันว่าแล้ว มิน่าหล่ะทำไมพวกลักลอบเข้าประเทศเยอะจัง พวกมันใช้ท่าเรือที่นี่บังหน้าในการค้ามนุษย์นี่เอง

    เนสซี : งั้นเราต้องรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนทราบนะ

    กระดาษ : ไม่ต้องห่วง ฉันส่งหลักฐานไปให้ทางกรมตำรวจแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานพวกเขาจะมากวาดล้างที่นี่

    ความมืด : ถึงตอนนั้น ฉันขอสะสางอะไรก่อนนะ พวกนายพร้อมมั้ย

    ทุกคนพยักหน้าจากนั้นก็บุกเข้าไปในท่าเรือ ยามในนั้นพยายามห้ามแต่ความมืดก็ต่อยหน้ายามจนสลบ จากนั้นก็ควักปืนออกมายิงพวกที่อยู่ในนั้น พวกเขายิงกับพวกสายลับคอมมิวนิสต์อย่างดุเดือด จากนั้นทุกคนก็บุกเข้าไปในตึกๆหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะดัดแปลงเป็นเซฟเฮ้าส์ของมาเฟียรัสเซียคนหนึ่ง

    หัวหน้ามาเฟียคนนั้นพยายามจะหนีออกจากตึก โดยให้ลูกน้องของเขาขวางทางความมืดและเพื่อนๆไว้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดความมืดและเพื่อนได้ มาเฟียคนนั้นพยายามจะหนีขึ้นรถ แต่ความมืดก็ยิงใส่ยางรถยนต์จนไปไหนไม่ได้ จนความมืดวิ่งตามเขาและจับตัวเขาได้

    ความมืด : มึงจำกูได้มั้ย

    มาเฟีย : นายเป็นใคร ฉันไม่รู้จักนาย

    ความมืด : งั้นเหรอ งั้นมึงคงต้องรู้จักผู้หญิงคนนี้แน่ๆ // จากนั้นความมืดก็โยนรูปให้มาเฟียคนนั้นดู

    มาเฟีย : ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ยัยนั่นมาขวางทางปืนเองนะ

    ความมืดต่อยหน้ามันเข้าทีนึง จากนั่นก็พูดต่อว่า

    ความมืด : มึงรู้มั้ยว่ากูทรมานแค่ไหน

    มาเฟีย : ใจเย็นๆน่า นายอยากได้เท่าไหร่ฉันจะจ่ายให้ ปล่อยฉันไปเถอะ

    ความมืด : งั้นเหรอ แต่ที่ฉันจะต้องการนี่คือ // จากนั้นความมืดก็ยิงขาทั้งสองข้างของมาเฟียคนนั้น แล้วก็วางมันลงพื้น จากนั้นก็พูดต่อว่า จำหน้ากูไว้ให้ดี แล้วชาติหน้าค่อยมาแก้แค้นจากนั้นก็กระหน่ำยิงจนหมดแม็ก มาเฟียคนนั้นตายคาที่ จากนั้นเนสซีและกระดาษที่ดูอยู่ในเหตุการณ์ก็พากันแตะไหล่ความมืด

    กระดาษ : หวังว่าจะไม่มีอะไรติดค้างในใจนายแล้วนะ

    เนสซี : เอาหล่ะ ไหนๆมันก็ตายแล้ว เรากลับบ้านกันดีกว่า

    จากนั้นพวกเขาก็พากันขึ้นรถ แล้วตรงกลับบ้านของเนสซีทันที

    กลับมายังพระราชวัง Mask Land จิงโจ้กับทุเรียนกำลังคุยกันอยู่ในห้องนอนสุดหรู

    ทุเรียน : พี่โจ้

    จิงโจ้ : มีอะไรเหรอ

    ทุเรียน : ผมอยากถามอะไรหน่อยสิ

    จิงโจ้ : ว่าอะไรหล่ะ

    ทุเรียน : พี่เคยแอบรักใครซักคนมั้ย

    จิงโจ้ : ก็มีนะ พี่จีบใครไปเยอะแยะ ถามทำไมหล่ะ

    ทุเรียน : ผมว่า ช่างมันเถอะพี่

    จิงโจ้ : เอ้า ยังไงของนายเนี่ย เอาเถอะๆๆๆๆ รู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ก็มาบอกแล้วกัน

    ทุเรียน : นั่นสิพี่ เออนี่พี่โจ้ พี่ได้ข่าวหรือเปล่า เรื่องสงครามเกาหลีหน่ะ

    จิงโจ้ : รู้สิ เห็นว่ามันกำลังจะจบนี่

    ทุเรียน : เออนี่ เห็นว่าพ่อกากำลังฟังวิทยุนี่ เราไปฟังด้วยดีกว่าพี่

    จิงโจ้ : โอเค ไปกันเลย

    จิงโจ้พาทุเรียนไปยังห้องนอนของคิงอีกาดำและควีนมังกร จากนั้นก็เข้าไปในห้อง

    คิงอีกาดำ : อ้าวลูก ว่าไงเหรอ

    ทุเรียน : ได้ยินว่าพ่อกาฟังวิทยุอยู่ ใช่หรือเปล่าครับ

    คิงอีกาดำ : ใช่สิลูก พ่อกำลังฟังข่าวสงครามที่เกาหลีหน่ะ

    ควีนมังกร : นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ที่เวลาหยุดยิงกำลังจะมาแล้วนะลูก

    จิงโจ้ : งั้นเราสองคนขอฟังด้วยคนได้มั้ยครับ

    ควีนมังกร : ได้สิจ๊ะลูก // จากนั้นลูกๆทั้งสองก็มานั่งฟังผลของสงครามอย่างใจจดใจจ่อ

    ณ ร้านของผ้าฝ้าย ราชินีนั่งฟังแต่วิทยุเครื่องนั้นไม่ยอมไปไหน รอข่าวสงครามตรงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

    ผ้าฝ้าย : นี่ราชินีจ๊ะ ไม่กินอะไรหรอกเหรอ

    ราชินี : ฉันยังไม่หิวหรอก

    ระหว่างนั้นแฮมเตอร์ก็มาพร้อมกับอาหารที่ทำเองที่ร้านฟินิกซ์แลนด์เอามาให้ทั้งสองคน

    แฮมเตอร์ : โอเคเพื่อนๆ ฉันเอาอะไรมาให้กินหน่ะ

    ผ้าฝ้าย : ขอบใจมากนะ ราชินี มากินด้วยกันสิ

    ราชินี : ฉันขอฟังต่ออีกหน่อยนะ

    แฮมเตอร์ : เอาน่า ราชินี อีกตั้งนานกว่าข่าวจะมา มากินไปฟังไปก็ได้

    ราชินี : ก็ได้จ้ะ

    ผ้าฝ้าย : บ้านเธออยู่ไหนอ่ะ

    ราชินี : ฉันเหรอ บ้านฉันโดนยึดไปแล้ว ตอนนี้ฉันก็นอนข้างถนนหล่ะ

    แฮมเตอร์ : อ้าวเหรอ น่าสงสารจัง

    ผ้าฝ้าย : งั้นเธอมาอยู่กับฉันที่นี่สิ ฉันยังขาดคนช่วยงานอยู่เลย

    ราชินี : จะดีเหรอ

    ผ้าฝ้าย : ดีสิ เดี๋ยวฉันสอนงานเธอเอง ไม่ต้องห่วงหรอก

    ราชินี : ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ

    กลับมายังเนินเขายังเกอร์ ประเทศเกาหลีใต้

    หลังจากที่ปืนใหญ่หยุดยิง จอมยุทธ์ก็สั่งให้คนไปประจำตำแหน่งปืนของตน  จากนั้นเขาก็ถือกล้องส่องทางไกลไปยืนอยู่บนยอดเขา จอมยุทธ์เห็นพวกมันกำลังวิ่งมาบนภูเขา พร้อมกับรถถัง T-34 ยิงเข้ามาทุกแนวของภูเขา

    เงา : เราจะทำไงต่อดีครับ

    จอมยุทธ์ : รอให้พวกมันอยู่ในระยะยิงก่อน

    โซ่ตวง : รถถังพวกมันยิงไม่หยุดเลย ผมว่าเราต้องยิงสกัดก่อนนะหัวหน้า

    จอมยุทธ์ : ในโพรงถ้ำนี้ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรอก

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : หัวหน้า ให้ฉันสั่งยิงปืนใหญ่ก่อนมั้ย

    หมาป่าดำ : นั่นสิหัวหน้า พวกเราไม่อยากรอแล้วนะ

    จอมยุทธ์มองเห็นพวกมันใกล้จะล้ำเขามาในสัญญาณของตน จากนั้นก็สั่งทุกคนให้ไปประจำตำแหน่ง

    จอมยุทธ์ : ทุกคนพร้อมนะ

    โซ่ตวง : พร้อมครับ

    เงา : ครับหัวหน้า

    แมงมุมแม่มายดำ : ค่ะ

    หมาป่าดำ : พร้อมค่ะหัวหน้า

    จากนั้นจอมยุทธ์ก็สั่งผ่านวิทยุ

    เอาหล่ะทุกคน ยิงได้

    ==========================================

    ความมันส์กำลังจะบังเกิดแล้ว ตอนต่อไปรอชมจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×