ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time Mercenary Hunter - ข้ามเวลารับจ้างเชือด

    ลำดับตอนที่ #5 : Mission 1 : สงครามเวียดนาม : EP.1 หุบเขาลาตรัง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 62


    หลังจากที่นาวินหาอะไรกินและทำธุระส่วนตัวของเขาเสร็จ เขากลับมาเปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเอง คอมพิวเตอร์รันเครื่อง จากนั้นนาวินก็เปิดดูกระทู้ที่เขาส่งไปในทันที แต่ในตอนนั้นเอง สิ่งที่เขาเห็นมันทำให้นาวินต้องตะลึง

    คอมเม้น1 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : กับข้าวครับกับข้าว

    คอมเม้น2 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน

    คอมเม้น3 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : เงินดี! ขอเพียงมีเวลา 3-10 ชั่วโมง

    คอมเม้น4 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : ยาบ้าครับยาบ้า

    คอมเม้น5 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : รับจ้างสารพัดตั่งแต่ตัดหญ้ายันฆ่าปาดคอ

    คอมเม้น6 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : lolololololololololol

    คอมเม้น7 กระทู้ หาลูกทีมข้ามเวลาไปทำงาน : ขอลาเดือนนึงครับหัวหน้า

     

    บ้าเอ้ย นี่ฉันจริงจังนะเฟ้ย ดันมาเจออะไรแบบนี้ นาวินรีบลบคอมเม้นท์ขยะนั้นทิ้งทั้งหมดในทันที แม้เขาจะเบื่อๆ แต่ก็ต้องลบหล่ะนะ เพราะมันคงดีกว่าที่เขาต้องตามหาที่อยู่คนพวกนั้น แล้วตามไปเก็บทีละคน

    หลังจากที่ลบคอมเม้นท์ขยะเสร็จ นาวินก็มาเจอคอมเม้นท์น่าสนใจทันที

    ผมสนใจรับจ้าง ส่งโปรไฟล์ไปแล้วในกล่องข้อความ

    นาวินไม่รอช้า เขารีบเปิดอีเมล์ของเขา จากนั้นก็เช็คกล่องข้อความ ก็พบว่ามีอีเมล์ส่งมาถึงเขามานับสิบ นาวินเลือกเปิดดูโปรไฟล์ของทีละคน เขาก็เริ่มสนใจ จากนั้นก็ส่งเมล์ตอบกลับหาทุกคนว่า

    สวัสดีครับทุกคน ผมอ่านเมล์ของคุณแล้ว ถ้าพวกคุณสนใจมาร่วมงานกับผม มาเจอกับผมที่ประเทศไทย ที่อยู่ตามที่ส่งโลเคชั่นไปแล้ว เจอกันในอีก 1 อาทิตย์ ขอบคุณมากนะครับ

    นาวินส่งเมล์กลับไป แล้วหวังว่าพวกเขาจะมาที่คอนโดของเขานะ และในตอนนั้นเอง วงกลมลึกลับสีฟ้าก็โผล่มาอีกรอบ คราวนี้นาตาชาเดินออกมา เอาปืนจ่อหัวของนาวินไว้

    อยู่เฉยๆ อย่าขยับ

    นาวินจับปืนของเธออย่างใจเย็น จากนั้นก็เอาปืนในมือเธอมาเก็บไว้

    นาวิน : คุณทำผมเกือบจะฆ่าคุณแล้วรู้มั้ย

    นาตาชา : นี่ ทำเป็นตกใจไปได้ตาทึ่มเอ้ย

    นาวิน : ใครตาทึ่มห่ะ ว่าแต่  มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า

    นาตาชา : จะมาดูว่านายหาคนได้หรือยังหน่ะ

    นาวิน : ผมเรียกพวกเขามาแล้ว ตอนนี้กำลังจะมาที่นี่ในหนึ่งอาทิตย์ครับ

    นาตาชา : ก็คงต้องเร็วหน่อยนะ ตอนนี้กลุ่มก่อการร้ายกำลังเริ่มจะเดินเกมแล้ว

    นาวิน : ผมรู้ ยังไงก็ขอเวลาผมหน่อยก็แล้วกัน

    นาตาชา : ก็นะ เดี๋ยวอีกหนึ่งอาทิตย์ฉันจะมาดูหน้าลูกทีมของคุณก็แล้วกันนะ ฉันไปหล่ะ ดูแลตัวเองด้วยหล่ะ // นาตาชากลับเข้าไปในวงกลมสีฟ้า ทำเอานาวินโล่งใจ นาวินคิดว่าตัวเองต้องเริ่มฟิตร่างกายเต็มที่แล้วหล่ะ
    1 อาทิตย์ต่อมา หลังจากที่นาวินเตรียมพร้อมที่จะทำงานออกสู่สมรภูมิรบตามที่เขาได้รับการว่างจ้าง ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงออดดังมาจากหน้าห้องของเขา
    ออด!!”

    นาวินคิดว่าพวกนั้นคงจะมาแล้ว นาวินไปที่ประตู ทำท่าเกร็งๆเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เปิดประตู
    หลังจากที่เปิดประตู บรรดานักฆ่าและทหารรับจ้างนับสิบกว่าชีวิตก็พากันกรูเข้ามาในห้องของนาวิน ในตอนนั้นพวกเขารีบไปที่ห้องนั่งเล่นของห้องคอนโดเนื่องจากมันเป็นที่ๆกว้างที่สุดแล้วในบ้าน

    โอ๊ย อยากดื่มอะไรเย็นๆจังเลยเนี่ย หญิงสาวที่ดูห้าวๆคนหนึ่งบ่นกับตัวเองท่ามกลางความวุ่นวายกลางห้อง

    เออนี่ ว่าแต่ เมื่อไหร่เราจะได้เริ่มงานหล่ะเนี่ยชายหนุ่มในชุดเกราะทหารมองโกลโบราณพูดขึ้น

    นั่นสิ ถ้าฉันจับเป้าหมายได้ ฉันจะโยนมันลงบ่อจระเข้เลย คอยดูชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา ท่ามกลางความสยองของเพื่อนคนอื่นที่อยู่รอบห้อง

    นี่ โรคจิตขนาดนี้ไปอยู่โรงบาลบ้าดีกว่ามั้ยชายหนุ่มรูปงามท่าทางเคร่งขรึมบ่นขึ้น

    นี่แกว่ายังไงห่ะทั้งคู่เกือบจะแลกหมัดกัน ทำเอาคนอื่นๆต้องมาช่วยกันแยกทั้งคู่ออกไป

    สงสัยงานจะพังก่อนที่จะได้เริ่มหล่ะมั้งหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น จนตอนนั้นนาวินต้องตัดบททุกคน

    นาวิน : เอาหล่ะครับ ใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมเป็นคนที่ส่งข้อความถึงพวกคุณเอง ก่อนอื่นนะครับ ผมขอเช็คประวัติทุกคนก่อนนะ ส่วนใครที่หิวน้ำ ไปหยิบในตู้เย็นได้นะครับ พอผมเรียกชื่อใคร คนนั้นเดินมาคุยกับผมนะครับ // พวกเขาต่างแยกย้ายแต่ก็ยังไม่ออกจากห้องโถง รอนาวินเรียกชื่อเพื่อเช็คว่าใครเป็นใครบ้าง

    นาวิน : คนแรก คูลุก ผมเรียกถูกหรือเปล่านะ // ชายหนุ่มในลุดมองโกลโบราณเดินมาหานาวิน

    คูลุก : ผมคูลุก หรือเรียกสั้นๆ หวู่ก็ได้ครับ ผมมาจากมองโกลหน่ะ

    โห นึกว่ามาจากยุคโบราณนะเนี่ย โรงบาลบ้าไม่จับมันไปหรือไงเนี่ยมีเสียงคนแซวตัวเขา

    คูลุก : พวกนายล้อชุดเกราะฉัน บอกให้นะ มันกันได้แม้แต่กระสุนปืนกลหนักนะเฟ้ย แล้วอีกอย่าง ฉันใช้ธนูเก่งกว่าใช้ปืนอีกหว่ะ พวกนายอยากลองมั้ยหล่ะ เอาแอปเปิ้ลไว้บนหัวพวกนายสิ ฉันจะยิงให้ร่วงเลย

    นาวิน : ประวัติคุณก็เก่งใช่ย่อยนะครับ คนที่สอง อมตะ เวเตอร์ // ชายหนุ่มปิดหน้าปิดตาคนหนึ่งเดินเข้ามาหานาวิน

    อมตะ : ผมอมตะ ฉายามัจจุราชไร้ตัวตนหน่ะ ถ้าใครรู้จักนะ

    นายหน่ะเหรอ ที่เขาว่ากันว่าไม่มีกล้องวงจรปิดตัวไหนจับหน้านายได้ เปิดหน้านายให้ดูหน่อยสิ” // อมตะเปิดหน้าให้พวกเขาดู จากนั้นก็มีคนแซวว่า

    เข้าใจแล้วหล่ะว่าทำไมกล้องถึงไม่จับนาย กล้องคงแตกเป็นเสี่ยงๆแน่

    อมตะ : แกว่าไงนะ อยากตายคาห้องนี้มั้ยหล่ะ

    นาวิน : เอาหล่ะครับ คนต่อไป ปักษา // หลังจากที่พูดชื่อ ชายหนุ่มที่เกือบจะต่อยกับชายอีกคนหนึ่งก็เดินมาหานาวิน

    ปักษา : หวัดดีเพื่อน ปักษา วายุพัคฆ์ ยินดีรับใช้พวกนาย

    นาวิน : นายนี่ เหมือนว่าฉันเคยได้ยินชื่อนายที่ไหนนะ นายที่ไปฆ่าตัดหัวรัฐมนตรีที่คาซัคสถาน 

    ปักษา : ก็ เมียเขามาแซงแถวซื้อกาแฟฉัน ฉันเลยไปนอนกับเขา ก่อนตัดหัวมันส่งไปให้เมียเขาที่บ้าน

    โห นี่มันฆาตกรชัดๆ จ้างมันจะคุ้มมั้ยเนี่ยชายหนุ่มที่เพิ่งจะมีเรื่องกับปักษาพูดขึ้น

    ปักษา : ฉันหน่ะรบแบบทหารก็เป็น รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน // จากนั้นเขาก็ยื่นมือแล้วจับมือกับนาวิน

    นาวิน : เอาหล่ะ คนต่อไป เซเบอรัส // และแล้ว ชายหนุ่มที่เพิ่งจะมีเรื่องกับปักษาก็มาพบกับนาวิน

    เซเบอรัส : หวัดดีนาวิน ฉันเซเบอรัส ฮาวน์ ฉายาฮาเดส เจ้าแห่งความตาย

    ปักษา : ใช่ แล้วก็คงใกล้จะตาย

    เซเบอรัส : ฉันหน่ะทหารอาชีพ ไม่ใช่ฆาตกรแบบนายนี่หน่าพวก

    นาวิน : อืม ฉันอ่านประวัตินายแล้ว ยินดีที่ได้เจอกับทหารด้วยกัน

    เซเบอรัส : ฉันก็รู้จักนาย รอดมาได้จากซีเรียนี่ถือว่าเก่งมากเลยนะ

    นาวิน : เอาหล่ะ คนต่อไป ฟอนเบิร์ก เวสเปอร์นาร์ด // ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ปืนไรเฟิลซุ่มยิง

    เรย์นอร์ฟ : เรียกฉันว่าเรย์นอร์ฟก็ได้ ฉายาของฉันคือ Winter Sniper หน่ะ

    นายใช่หรือเปล่า ที่ทำสถิติยิงไกลที่ 5 ไมล์หน่ะชายหนุ่มคนหนึ่งถามเขา

    เรย์นอร์ฟ : ความจริง 5.03 หน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจยิงด้วย แต่ถ้าระยะ 3 กิโลเมตร ไม่มีใครรอดจากฉัน

    นาวิน : ยินดีที่ได้เจอคนเก่งแบบคุณนะ คนต่อไป คุณนิโคลัส คลินตัน // ชายแก่วัยดึกคนหนึ่งเดินมาในชุดทหารอเมริกันเดินไปหานาวินท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆในกลุ่ม

    นาวิน : โห ผมต้องเรียกคุณปู่หรือเปล่าเนี่ย

    ปู่ครับ บ้านพักคนชราอยู่ถัดไป 2 ป้ายรถเมล์นะครับชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

    เราไม่มีประกันให้คุณปู่นะครับชายหนุ่มอีกคนพูดผสมโรง

    นิโคลัส : นี่ ไอ้หนู อยากลองมั้ยหล่ะ ฉันจะกรีดหน้าอกพวกแกแล้วควักหัวใจออกมา ฉันขับรถถังบี้คนครั้งแรกพวกแกยังหัดดูดนมแม่ ไม่ก็กำลังโดนตบก้นเพื่อให้หายใจ

    นาวิน : คุณลุงครับ ลุงจะไหวเหรอครับเนี่ย

    นิโคลัส : ฉันอายุ 80 มาถึงจุดนี้แล้วคงไม่คิดอะไรแล้วหล่ะ

    นาวิน : เอาหล่ะ คนต่อไปครับ วาเลเรีย เอลเฟรย์อา ชื่อยาวจังเลย // จากนั้นหญิงสาวคนหนึ่งก็ไปคุยกับนาวิน

    วาเลเรีย : ฉันวาเลเรีย อดีตหน่วยรบพิเศษ Frozen Nightmare หน่ะ

    คูลุก : ว้าว จากหน่วย Frozen ซะด้วย ทำไมคุณถึงออกมารับงานอิสระหล่ะ

    วาเลเรีย : ก็ฉันอยากจะมาทำงานแบบนี้หน่ะ เสียหายตรงไหนกัน

    นาวิน : ครับผม คนต่อไป เออ ไดโยวเซย์ เออ เธออยู่ที่ไหนเนี่ย // จากนั้นไม่นาน เธอก็โดดลงมาจากเพดาน ทำเอาคนอื่นๆถึงกับตกใจ

    ไดโยวเซย์ : ไฮ สวัสดีค่ะเจ้านาย

    โห ไม่น่าเชื่อว่ายังมีนินจาเหลืออยู่นะเนี่ยหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น

    ไดโยวเซย์ : รู้อะไรมั้ย ถ้าฉันได้ทำงาน ไม่มีใครจับตัวฉันได้แน่นอน
    นาวิน
    : โอเคครับ ผมเข้าใจหล่ะ แล้วก็คนต่อไป มากาโตะ ยู // จากนั้นไม่นาน หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินมาหานาวินในทันที

    มากาโตะ : สวัสดี ฉันมากาโตะ ฉันเป็นแพทย์สนามที่ไม่เหมือนใคร

    อมตะ : ไม่เหมือนใคร ยังไงงั้นเหรอ

    มากาโตะ : ก็ไม่เหมือนตรงที่ น้ำที่นายดื่ม ฉันแอบวางยาไว้หน่ะ // อมตะถึงกับบ้วนน้ำออกมา

    มากาโตะ : หลอกง่ายชะมัด แต่ฉันทำยาพิษที่ไร้สี กลิ่น รส และฆ่านายได้ภายในหนึ่งวินาทีได้แน่นอน

    นาวิน : โอเคครับ ยินดีที่ได้หมอมาแล้ว คนต่อไป โอสึคิโตะ คางุยะ // หลังจากที่เรียกชื่อจบ หญิงสาวคนหนึ่งก็ลากชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาหานาวิน

    คางุยะ : หวัดดีจ้ะ ฉันคางุยะ ส่วนนี่ก็เพื่อนร่วมรบฉัน อานาอิ อิโอ

    นาวิน : พวกคุณสองคนเป็นแฟนกันงั้นเหรอ

    อิโอ : เปล่าหรอกครับ ไม่ใช่แฟน แต่สนิทกันยิ่งกว่านั้นอีกครับ

    นาวิน : คางุยะ ได้ยินว่าในประวัติคุณสามารถฆ่าคนได้ด้วยกรรไกร

    คางุยะ : ก็ประมาณนั้นหน่ะ จะเอาแบบตายทันทีหรือทรมานก็ได้หมดนะ แล้วเรื่องอาวุธระยะประชิดนี่ไม่ต้องพูดถึง

    อิโอ : ส่วนผมจะเป็นพวกหน่วยสนับสนุนหน่ะ ผมทำได้ทุกอย่าง คอมพิวเตอร์ ช่างสนาม เรียกว่าเอนกประสงค์หน่ะครับ

    นาวิน : อ้อครับ แล้วก็คนต่อไป เซนโนว่า ซากาชิมะ แล้วก็โทไบอัส // ชายหญิงคู่ที่ได้รับการเรียกชื่อเดินเข้ามาหานาวินในตอนนั้น

    เซน : สวัสดีค่ะ เรียกฉันว่าเซนก็ได้ ฉันเป็นทหารรับจ้าง เคยรบที่ซีเรีย แล้วนี่ก็เพื่อนฉัน โทบี้หน่ะ

    โทไบอัส : คุณคงจะเป็นนาวินที่เคยรบในตะวันออกกลาง ชื่อของคุณดังมาก // จากนั้นเขาก็ขอจับมือนาวิน

    โทไบอัส : เราทั้งคู่เป็นหน่วยเดนตายเหมือนกันหน่ะครับ

    เซน : ใช่แล้วหล่ะ งานเป็นแบบไหนยังไงก็บอกฉันด้วยก็แล้วกัน

    นาวิน : แน่นอนครับ แล้วก็คนต่อไป เอิ่ม ซัลดัลฟอน เวเรียไนท์ โอเมก้า // หญิงสาวคนหนึ่งหลังจากได้ยินชื่อของเธอ ก็เดินออกมาหานาวินในทันที

    เวเรียไนท์ : สวัสดี เรียกฉันว่าไนท์ก็ได้ ถึงฉันไม่ใช่ทหารรับจ้าง แต่ก็เคยฝึกทหารเหมือนกันนะ

    นาวิน : หวังว่าผมคงจะได้เห็นฝีมือคุณนะครับ แล้วก็คนต่อไป อูลริค ฮาร์ตมัน // หลังจากที่เรียกชื่อเขา เขาก็เดินออกมาโดยที่เหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจจะเดินมาเท่าไหร่

    อูลริค : อะไรกันเนี่ย นี่ฉันต้องทำงานกับพวกลิงเหลืองเหรอเนี่ย น่าเพิ่มค่าแรงหน่อยหล่ะ

    เซน : แกว่าใครลิงเหลืองห่ะ สงสัยไม่เคยโดนลิงเหลืองเชือดคอไอ้นาซี

    อูลริค : โธ่ แม่สาวน้อย พนันกันเลยมั้ยเธอเสร็จฉันแน่ // ทั้งคู่เกือบปะทะกัน แต่โทไบอัสห้ามทั้งคู่เอาไว้ก่อน อูลริคเอามือของโทบอัสออกไป

    นาวิน : ถ้าคุณไม่พอใจ คุณไม่ต้องทำงานนี้ก็ได้นะครับ

    อูลริค : ฉันทำได้น่า ขอแค่จ่ายเงินฉันก็พอ ฉันเคยเป็น Swiss Guard มาก่อนหน่ะ

    นาวิน : โอเคครับ คนต่อไป ไลโอเนล ครูส // ชายคนนั้นเดินมายืนต่อหน้านาวิน

    ครูส : ผมเป็นคนส่งสาสน์หน่ะครับ แต่ผมลาดตระเวนก็ได้ ลอบเร้นก็ได้นะครับ

    เรย์นอร์ฟ : ฉันเคยได้ยินชื่อนายนะ ได้ยินว่าเคยหลงทางไปเจอข้อมูลลับเข้านี่หน่า

    ครูส : ตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจ จะบอกให้นะฉันวิ่งไวกว่าพวกนายเป็นร้อยเท่าเลย

    นาวิน : เข้าใจหล่ะ คนต่อไป วาเนสซ่า โจนแฮนเนสต้า // จากนั้นเอง เธอก็เดินมาอยู่ตรงหน้านาวิน

    วาเนสซ่า : สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบกับพยัคฆ์ในเงามืด ฉันคือลูกสาวของนายพลวิคเตอร์หน่ะ

    นาวิน : อ้อครับ พ่อคุณสบายดีนะครับ ว่าแต่คุณทำอะไรได้หล่ะ

    วาเนสซ่า : พ่อฉันสบายดีค่ะ ฉันเป็นมือระเบิด แล้วนี่ขอแนะนำ ระเบิดโฟมเคมี สีชมพูหวานไปหน่อย แค่รับรองว่าระเบิดรถถังได้ 2 คันเลยหล่ะ

    นาวิน : ว้าว น่าสนใจนี่ครับ แล้วก็คนต่อไป เออ รา นี่ชื่อจริงหรือเปล่าเนี่ย // หลังจากที่ได้ยิน เด็กสาวลึกลับท่าทางมอมแมมก็เดินเข้าอยู่ตรงหน้านาวิน

    นาวิน : อ่า ได้ยินว่าเธอชื่อรา แล้วก็เคยเป็นผู้ก่อการร้ายด้วย

    รา : ฉันเกิดมาก็ได้ชื่อนี้แล้ว ฉันเคยอยู่กับไอซิสมาพักหนึ่งหน่ะ

    ครูส : แล้วทำไมถึงออกมาหล่ะ

    รา : รับงานแบบนี้มันเงินดีกว่าเยอะ ฉันเป็นพวกมือระเบิดหน่ะ โดยเฉพาะระเบิด C4 รับรองไม่มีพลาดแน่ๆ

    นาวิน : อ่าครับ แล้วก็คนต่อไป คุณโคลวิส การ์เซีย // ชายหนุ่มค่อนข้างอายุน้อยเดินออกมาพบกับนาวิน

    โคลวิส : สวัสดีครับ ผมโคลวิส ผมเคยเป็นนักสู้ มือเปล่าหน่ะครับ

    นาวิน : จริงหรือเปล่าครับ // ในตอนนั้นเอง โคลวิสสาวหมัดต่อยนาวิน แต่นาวินจับหมัดได้แล้วก็สวนกลับ โคลวิสตีลังกากลับหลังหลบได้แล้วก็เตะนาวินไปอีกที นาวินจับขาเขามาแล้วก็ผลักขาเขาออกไป

    นาวิน : ฝีมือดีนี่ครับ แล้วก็คนสุดท้าย เออ คุณทีฆทัศน์ เรียกชื่อถูกหรือเปล่านะ // ชายหนุ่มคนหนึ่งที่แบกเป้ใส่ปืนเดินออกมาหาเขา
    ทีฆทัศน์
    : หวัดดี ฉันเป็นมือปืนหน่ะ นายจะต้องชอบปืนของฉันแน่ๆ

    เรย์นอร์ฟ : นายหรือเปล่าที่ว่าเป็นมือใหม่หน่ะ
    ทีฆทัศน์
    : ความจริงถ้านับระยะเวลาตามปฏิทิน ก็ไม่ใหม่หรอกนะพวก

    นาวิน : เข้าใจหล่ะ แล้วอีกอย่าง ผมจะบอกว่า ผมไม่ใช่คนจ้างงานพวกคุณโดยตรงหรอก จะมีคนมาเป็นนายจ้างคุณอีกทีหน่ะ // ในตอนนั้นนาวินพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีประตูวาร์ปวงกลมสีฟ้ามาที่กลางห้อง จากนั้นนาตาชาก็ออกมาพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งและหุ่นดรอยอีกหนึ่งตัว หลังจากที่พวกเขาออกมา เซนก็เจอหน้ากับชายคนนั้น เป็นชายที่เซนรู้จักเป็นอย่างดี

    เซน : พี่ชิโร่ // เซนรีบวิ่งเข้าไปกอดเขาในทันที

    ชิโร่ : นี่เซน เธอก็มาทำงานนี้ด้วยงั้นเหรอเนี่ย

    นาวิน : นี่คือนายจ้างของเรา คุณนาตาชาหน่ะ

    อูลริค : นี่ คุณผู้หญิงครับ ให้ผมทำงานกับพวกลิงเหลืองนี่ต้องเพิ่มเงินให้ผมหน่อยนะ // เขารีบเสนิหน้าเข้าไปคุยกับนาตาชาในทันที

    นาตาชา : ที่นี่เราได้ค่าแรงเท่ากันค่ะ แล้วอีกอย่าง กรุณาอย่าพูดว่าลิงเหลืองนะคะ ที่นี่เราไม่นิยมพวกเหยียดเชื้อชาติ รู้มั้ยบรรพบุรุษฉันเคยยิงพวกนาซีแบบคุณตายมานักต่อนักแล้ว

    อูลริค : คือ ผมไม่ใช่พวกสวะนั่นนะครับ // ทุกคนหัวเราะใส่อูลริคทำเอาเขาถึงกับหน้าชา

    นาตาชา : ก่อนอื่นเลยค่ะ ฉันอยากจะแนะนำหุ่นผู้ช่วยของพวกคุณ TARS

    TARS : สวัสดีตอนบ่ายครับทุกคน เห็นผมแบบนี้ผมมีความสามารถมากมายนะครับ ผมกลิ้งให้คุณดูได้ด้วย

    ปักษา : ไม่ได้ต้องการเลยไอ้หุ่นกระป๋องเอ๋ย

    เซเบอรัส : ว่าแต่ งานของพวกเราจะเป็นยังไงกันหล่ะครับ

    นาตาชา : ตามฉันเข้ามาในวงกลมนี้เลยค่ะ // ทุกคนเรียงแถวตามนาตาชาเข้าไปในวงกลมสีฟ้า เมื่อทุกคนมาถึง พวกเขาก็พบกับห้องทดลองที่มีนักวิทยาศาสตร์มากมาย มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย และที่โดดเด่นนั่นก็คือ เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสารข้ามเวลา ทำเอาทุกคนในนั้นถึงกับตกตะลึง

    ปักษา : ว้าว เราจะได้ทำงานที่นี่งั้นเหรอเนี่ย

    เซเบอรัส : นั่นสิ ย้อนเวลากลับไปยุคอดีตด้วย น่าสนุกนะ

    นาวิน : ว่าแต่ เรื่องค่าตอบแทนของพวกเราหล่ะครับ

    นาตาชา : หน้าเงินจริงๆนะนาย เราจะจ่ายงานหล่ะ50000 ดอลล่าห์หน่ะ แต่มีกฎที่พวกนายต้องรู้นะ ง่ายๆ พวกนายสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เรากำหนด แล้วก็อีกอย่างนะ // นาตาเปิดโฮโลแกรมให้กับทุกคนดู

    สำหรับใครก็ตามที่มีออร่าสีแดงแบบนี้ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด

    เซน : อ้าว ทำไมถึงห้ามฆ่าเขาหล่ะ ไม่เข้าใจเลย

    อมตะ : เท่าที่ดูนะ อาจจะเป็นการข้ามไปโลกคู่ขนานก็ได้ ไม่ได้ถึงกับย้อนเวลาจริงๆหรอก

    นาตาชา : ฉลาดดีนี่คะ กลุ่มก่อการร้ายข้ามเวลาไปโลกคู่ขนานต่างๆเพื่อไปวางประจุระเบิดเวลา ถ้ามันระเบิดพร้อมกัน โลกใบนี้แต่แตกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ

    เรย์นอร์ฟ : ถ้าเป็นแบบนี้ก็ออกแนวกู้โลกสินะครับเนี่ย

    คูลุก : ว่าแต่ ตอนนี้กลุ่มก่อการร้ายดำเนินการไปได้มากแค่ไหนแล้วครับ

    นาตาชา : ตอนนี้พวกมันเพิ่งจะเริ่ม เราต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลมค่ะ

    วาเลเรีย : เออนี่ ว่าแต่ แบบว่า เราสามารถเก็บของในยุคอดีตมาได้หรือเปล่าคะ

    คางุยะ : นี่เธอ เรามาทำงานไม่ได้มาขโมยของนะจ๊ะ

    นาตาชา : ก็เอามาได้เท่าที่เอามาไหวก็แล้วกัน

    ไดโยวเซย์ : ดิฉันมิสนใจของอันใดหรอกนะคะนายท่าน

    อานาอิ : นี่ ไม่ต้องพูดภาษาโบราณก็ได้นะแม่นินจา // เขาสะกิดนินจาสาวคนนั้น

    มากาโตะ : คือว่า แนอยากถามเรื่องอาวุธของยุคปัจจุบันหน่ะ เราพกไปได้ด้วยหรือเปล่า

    เวเรียไนท์ : เออใช่ เราอยากถามเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ

    นาตาชา : เอาไปได้เท่าที่ทางองค์กรกำหนดค่ะ แล้วก็อีกอย่าง เมื่อทางองค์กรสั่งถอย ต้องถอยทันที ถ้าฝ่าฝืน จะถูกดึงตัวกลับในทันทีแล้วพวกคุณก็ไม่ได้เงินด้วย

    อูลริค : ห่ะ มีไม่ได้เงินด้วย มายก๊อด // อูลริคถึงกับหน้ามืดไปโดยโทไบอัส โทไบอัสผลักหัวเขาออกไป

    โทไบอัส : นี่ นายร้อนเงินมากขนาดนั้นหรือไงห่ะ

    ทีฆทัศน์ : พวกนายก็แค่อย่าทำพลาดก็เท่านั้นเอง จะไปยากตรงไหนวะ // ทีฆทัศน์พูดเชิงเหน็บแนม

    วาเนสซ่า : ว่าแต่ เรามีคนตั้งเยอะ จะมีเงินพอจ่ายเราเหรอคะ

    นาตาชา : เราได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศทั่วโลก พวกเขาสนับสนุนเงินทุนให้พวกคุณค่ะ

    จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งรีบวิ่งมารายงานสถานการณ์กับนาตาชา

    คุณนาตาชาครับ แย่แล้วครับ ระเบิดเวลากำลังจะทำงานในไม่ 6 ชั่วโมงครับ

    นาตาชา : แย่หล่ะ ถ้ามันระเบิด เส้นทางกาลเวลาได้ปั่นป่วนแน่ๆ แล้วมันที่ไหนกันหล่ะเนี่ย

    เส้นทางในปี 1965 ลาตรัง เวียดนามครับ

    นาตาชา : ถ้าอย่างงั้น ต้องส่งพวกเขาไปในยุคสงครามเวียดนามสิคะ

    นิโคลัส : ลาตรัง เวียดนามงั้นเหรอ ฉันจะเป็นไกด์ให้ทุกคนเอง

    ครูส : เออใช่ ลุงเคยรบที่เวียดนามนี่หน่า ลุงเป็นคนนำเลยนะ

    เซน : พี่คะ พี่ขับเฮลิคอปเตอร์เป็นหรือเปล่าคะ

    ทาเคชิ : ง่ายยิ่งกว่าเครื่องบินขับไล่อีกน้องเอ้ย เดี๋ยวพี่พาไปเอง

    นาตาชา : เอาหล่ะค่ะ ทุกคนรีบตามฉันมาเลยนะคะ เราจะไปที่ห้องแต่งตัวกัน // และในตอนนั้นเอง มีชายนักบินคนหนึ่งเดินมาหานาตาชาอย่างเร่งรีบ
    นาตาชา ได้ยินว่าเรียกตัวฉันอยู่นี่

    นาตาชา : โอเคทุกคน นี่คือแบล็ก สเตล่า นักบินของฉัน เขาจะเป็นสมาชิกของพวกเราด้วย

    แบล็ก : ยินดีที่ได้รู้จักกันนะครับทุกคน

    หลังจากที่ได้แนะนำตัวกันแล้ว นาตาชาพาทุกคนไปที่ห้องแต่งตัว สำหรับยุคสงครามเวียดนาม ทุกคนรีบใส่เครื่องแบบทหารอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็มารวมตัวกันที่ประตูมิติ โดยที่มีนักวิทยาศาสตร์บางส่วนกำลังเตรียมเดินเครื่อง

    รา : ในที่สุดก็จะได้เริ่มงานซะทีนะเนี่ย

    โคลวิส : ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกน่า แค่นี้ยังสบายๆสำหรับฉัน

    และในตอนนั้นเอง นาตาชาก็ใส่ชุดทหารมาด้วย ทำเอาทุกคนถึงกับตกใจเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่านาตาชาจะใส่ทำไม

    นาวิน : คุณแต่งเครื่องแบบทำไมหล่ะ

    นาตาชา : ก็หน้าที่ฉันคือต้องไปกับพวกคุณด้วย

    นาวิน : ห่ะ นี่เธอจะไปทำไมหล่ะ อันตรายเปล่าๆ

    นาตาชา : นี่ อย่าเถียงมาก ฉันจ่ายเงินนายนะ

    เริ่มเดินเครื่องใน 10 วินาทีครับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งตะโกนบอกพวกเขา

    นาตาชา : เอาหล่ะ สูดหายใจลึกๆ แล้วก็หลับตาไว้

    เริ่มเดินเครื่องใน 3 2 1” หลังจากที่สิ้นสุดสัญญาณ พวกเขาก็ถูกดึงดูดไปยังอีกมิติหนึ่งในทันที

     

    เวียดนาม 1965 พวกเขาข้ามเวลามายังค่ายทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งรอบด้านมีเฮลิคอปเตอร์ UH-1 เตรียมพร้อมเต็มไปหมด ส่วนทหารอเมริกันก็เริ่มจะขึ้นฮอแล้วออกตัวไปแล้ว พวกเขายังสับสนเล็กน้อยที่ได้ข้ามเวลามาในยุคนี้
    นาวิน
    : ที่นี่คือค่ายทหารสหรัฐหรือเปล่าหล่ะเนี่ย

    นาตาชา : ใช่แล้วหล่ะ // จากนั้นซักพัก ก็มีโฮโลแกรมจากข้อมือของนาตาชาขึ้นมา ปรากฏหน้าตาของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งความจริงเธอคือหุ่นยนต์
    สวัสดีตอนเย็นค่ะคุณนาตาชาซัง

    นาตาชา : โรโบโกะ มีอะไรอัพเดทให้ฉันหรือเปล่า

    โรโบโกะ : มีค่ะ งานของคุณคือต้องพาลูกทีมของคุณขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปยังสมรภูมิ แล้วฉันจะอัพเดทความคืบหน้าอีกทีค่ะ

    เซเบอรัส : เออนี่ เธอใช้เด็กมาทำงานแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย

    นาตาชา : คือ เรื่องมันยาวหน่ะค่ะ เดี๋ยวฉันเล่าประวัติเธอให้ฟังทีหลัง

    ปักษา : โอเค ตอนนี้เรามีฮอสามลำ ว่าแต่ใครจะขับหล่ะ

    ทาเคชิ : ผมจะขับลำนี้เอง มีใครจะไปกับผมบ้าง // พวกเขาตกลงกันว่าใครจะขึ้นลำไหน ส่วนนิโคลัสและแบล็คจะไปขับอีกสองลำ
    นาวิน
    : เอาหล่ะ รีบไปกันดีกว่าครับ

    เฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำเหินเวหาจากค่าย มุ่งตรงไปยังใจกลางถิ่นของศัตรู เพื่อร่วมสมรภูมิที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สงครามเวียดนามครั้งนี้

    ==================================================================

    เป็นไงบ้างครับกับตอนแรก 
    เอามาแซมเปิ้ลดูก่อน
    ที่เขียนมาก็เพื่อที่ว่าจะเอามาให้ดูคร่าวๆก่อนนะครับ จะเขียนจริงๆจังๆตอนเรื่อง descendent war จบแล้วนะครับ 
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×