ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #4 : EP 1 : จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 61


    ตึ๋ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสียงดังมาจากนาฬิกาปลุกที่ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็มีมือของชายคนหนึ่งพยายามจะเอื้อมมาปิดมัน แต่เขาโยกตัวมามากเกินไปจนเขาตกจากเตียง เสียงดังไปทั่วห้อง

    โอ๊ย นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย

    เขารีบไปคว้านาฬิกาปลุกเจ้าปัญหา จากนั้นก็มองเข็มนาฬิกาอย่างใจจดใจจ่อ

    ชิบหาย จะแปดโมงแล้ว บ้าเอ้ย ต้องรีบไปทำงานหล่ะ

    เขารีบไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ทำไมเขาถึงตื่นสายหน่ะเหรอ ก็เมื่อคืนเขาปั่นงานหนักไปหน่อย ทำเอาเขานอนดึกมากๆ วันนี้ตื่นสายไม่รู้ว่าเจ้านายจะว่าเขาหรือเปล่า

    เขารีบยกหูโทรศัพท์ไปหาเจ้านายของเขา เพื่อขอเข้างานช้าหน่อยเพราะกลัวว่าจะไปไม่ทัน ทันทีที่เจ้านายของเขารับสาย เขาก็รีบพูดกับเจ้านายเขาทันที

    บอสครับ วันนี้ผมไปช้าหน่อยนะครับ ผมไปหาหมอมา เดี๋ยวผมจะเอางานไปส่งให้ รับรองเจ้านายต้องชอบแน่ๆ

    คุณไม่ต้องมาทำงานแล้วนอร์รีนเจ้านายของเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้โมโห แต่เป็นเสียงที่เขาดูเหมือนจะกลัวอะไรบางอย่าง

    บอสครับ ผมขอร้องหล่ะครับ ขอโอกาสผมหน่อย รับรองว่าโปรเจ็กค์นี้ไปได้สวยแน่ๆครับ

    ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น บริษัทเราต้องปิดตัวแล้ว ผมก็ต้องรีบไปจากเมืองนี้ คุณเองก็ต้องไปด้วย ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เปิดทีวีดูข่าวก็แล้วกัน โชคดีนะนอร์รีนจากนั้นสายก็ถูกตัดไป นอร์รีนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะว่าไปวันนี้น้ำประปาก็ไหลอ่อนๆอยู่เหมือนกัน เขาไม่รอช้ารีบไปเปิดทีวีดูว่าเกิดอะไรขึ้นทันที

    ในขณะนี้ความตึงเครียดที่ก่อตัวในโซราติกได้ปะทุขึ้นแล้ว เมื่อประธานาธิบดีอดัมได้มีคำสั่งให้ปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างหนัก ส่งผลให้ผู้ชุมนุมบางส่วนก่อกบฏไปทั่วประเทศ รัฐบาลประกาศปิดล้อมเมืองที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มกบฏ ประชาชนบางส่วนก็พยายามจะหนีออกจากเมือง สหประชาชาติยังไม่มีความเห็นใดๆกับเรื่องนี้ แต่ล่าสุดมีการแจ้งมาว่า คณะทูตแต่และประเทศในตอนนี้ได้อพยพออกจากโซราติกแล้วจากนั้นไม่นาน สัญญาณโทรทัศน์ก็ดับไป ต่อด้วยเสียงปืนใหญ่ที่ดังไปทั่วเมือง ทำเอานอร์รีนต้องหาที่หลบแถวๆนั้น หลังจากที่เสียงปืนใหญ่สงบลง นอร์รีนออกไปสำรวจด้านนอก ก็พบว่าทั้งเมืองมีแต่เศษซากปรักหักพัง ศพของผู้คนนอนตายกันมากมาย ผู้คนบางส่วนก็รีบหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น นอร์รีนรู้สึกตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น

    โอ๊ย หิวจังเลย ฉันต้องไปดูหน่อยดีกว่าว่ายังมีอะไรขายบ้างนอร์รีบพูดกับตัวเองจากนั้นก็ออกสำรวจร้านค้าแถวนั้นทันที

     

    ณ ฐานบัญชาการของกองทัพรัฐบาล ประธานาธิบดีอดัมมาพบกับหน่วยดอว์นซอร์ดตามที่เขาได้เรียกมาในทันที โดยที่หัวหน้าหน่วยนี้กำลังรอพบอยู่พอดี

    ท่านประธานาธิบดีครับ

    สวัสดีอเล็กซานเดอร์ ผมกำลังรอพบคุณอยู่พอดีเลย

    อเล็กซ์ซานเดอร์ : ว่าแต่ ท่านเรียกพวกเรามาวันนี้ ท่านมีอะไรหรือเปล่าครับ

    ผมอยากให้พวกคุณทำภารกิจให้ผมอย่างหนึ่งหน่ะ

    ซิลเวสเตอร์ : ภารกิจแบบไหนครับท่าน ขอรายละเอียดด้วยครับ // หนึ่งในทีมดอว์นซอร์ดได้ถามขึ้น

    เป็นภารกิจลับ พวกคุณต้องแทรกซึมเข้าไปในเมือง เพื่อทำลายกลุ่มกบฎที่คนหน่วยหน่ะ

    อีริค : อยากถามเกี่ยวกับกฎการปะทะหน่อยครับท่าน

    ฆ่าให้หมด ไม่ต้องเหลือใครไว้แม้แต่คนเดียว

    คาสเตอร์ : เฮ้อ แบบนี้ค่อยสนุกหน่อย ฉันอยากทำงานแบบนี้มานานแล้ว

    เควิน : นี่ นายเองก็อย่าให้มันเวอร์นักเลย ฉันอยากให้นายออมมือไว้บ้าง

    อเล็กซ่า : ว่าแต่ท่านคะ เรามีกำลังหนุนให้หรือเปล่าคะ

    กำลังสนับสนุนจะช่วยเหลือคุณได้แค่บางส่วน เราให้ความช่วยเหลือเต็มกำลังไม่ได้หรอกนะ

    คาสเตอร์ : จะสนอะไรหล่ะ ก็แค่ฆ่าพวกมันให้หมด แค่นี้เราทำได้สบายอยู่แล้ว

    เควิน : นี่ ฉันพูดไปไม่ได้เข้าหูนายเลยใช่หรือเปล่าเนี่ย

    อีริค : ใจเย็นน่าทุกคน งานนี้ต้องทำอย่างใจเย็นหน่อย

    อเล็กซานเดอร์ : พวกเราจะจัดการงานนี้เองครับท่าน ท่านอย่าห่วงไปเลยครับ

    อเล็กซ่า : ถ้าอย่างงั้นดิฉันจะไปเตรียมของสำหรับพวกเรานะคะ

    ซิลเวสเตอร์ : ได้เลย ยังไงฉันฝากเธอจัดการด้วยนะ // หลังจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีก็เดินกลับออกไปด้านนอก

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในทะเลบอลติก เรือบรรทุกเครื่องบินของสหประชาชาติกำลังจอดลอยลำอยู่ท่ามกลางคลื่นลมที่สงบนิ่ง ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการเรียกนักบินคนหนึ่งมารายงานตัวในทันทีหลังจากที่ทราบสถานการณ์ในโซราติก

    สวัสดีครับท่าน

    สวัสดี คุณตะวัน ผมเรียกชื่อคุณถูกนะ

    ครับท่าน ท่านเรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ

    ตอนนี้ทางคณะทูตของประเทศต่างๆกำลังอพยพออกจากโซราติก เมืองนี้กำลังจะลุกเป็นไฟแล้ว ผมอยากให้คุณนำเครื่องบินขับไล่ไปตรวจตราและคุ้มกันน่านฟ้าในระหว่างที่มีการอพยพหน่ะ

    มีกฎการปะทะหรือเปล่าครับท่าน

    คุณปกป้องตัวเองได้ แต่ห้ามยิงใครก่อนเด็ดขาด

    แล้วผมจะได้เริ่มงานเมื่อไหร่ครับ

    อีก 2 ชั่วโมงคุณขึ้นบินได้เลย ตอนนี้นักบินกำลังเติมน้ำมันกับกระสุนให้ โชคดีนะ

    ครับท่านเขาวันทยหัตถ์ผู้บังคับบัญชาก่อนที่จะไปเตรียมความพร้อมเพื่อขึ้นบินสำรวจน่านฟ้า

     

    ณ เขตทางเหนือของโซราติก มีกองกำลังรัฐบาลปักหลักเพื่อเตรียมจัดการกลุ่มกบฏ แต่ในระหว่างนั้นพวกเขาก็ช่วยเหลือชาวบ้านที่หนีมาจากด้านในเมือง ทหารเหล่านั้นคอยให้อาหารและรักษาคนเจ็บที่มีมากมาย ระหว่างที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังตรวจสอบผู้อพยพที่หนีมา ผู้บังคับบัญชาของเธอเรียกเธอเข้าไปพบเป็นการด่วน

    คุณพ่อคะ เรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ

    อนูวา ลูกมาพอดีเลย ตอนนี้มีผู้อพยพเยอะแค่ไหนกันหล่ะ

    ตอนนี้ที่หนูประเมิน ไม่ต่ำกว่าเจ็ดร้อยค่ะ

    ตอนนี้ทางรัฐบาลกดดันให้พ่อฆ่าผู้อพยพ ทั้งๆที่เป็นประชาชนตาดำๆทั้งนั้น

    แล้วทางนั้นไม่คิดว่าพวกเขาเป็นประชาชนงั้นเหรอคะ

    ตอนนี้รัฐบาลสนใจแต่เรื่องการกวาดล้างพวกกบฏนั้นแหละ พ่อถึงมีแผน พ่ออยากให้เราทำงานให้พ่อหน่อยหน่ะ

    หนูพร้อมค่ะ เป็นงานแบบไหนกันอย่างงั้นเหรอคะ

    เอาไว้พ่อจะบอกลูกทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้ไปดูชาวบ้านที่อพยพมาก่อนดีกว่า

     

    กลับมาในเมืองหลวงของโซราติก ในขณะที่ถนนในเมืองแทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใดๆเลย มีชายคนหนึ่งกำลังขับรถไปตามท้องถนนเพื่อกลับเข้าไปยังที่พักของเขา ซึ่งเป็นคอนโดหรูห้องหนึ่งที่เขาจองเอาไว้แล้ว หลังจากที่กลับมาถึง เขาก็ส่งข้อความไปยังหน่วยของเขาผ่านทางโน้ตบุ๊คของเขา

    “MI6 Agent Login”

    สวัสดีคุณเร็น ที่โซราติกเป็นยังไงบ้าง

    ตอนนี้สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ รัฐบาลย้ายที่อยู่ไปที่ชานเมืองเพื่อทำการปิดล้อมกลุ่มกบฏ ผมออกไปไหนไม่ได้เลย

    แล้วตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยดีนะ

    ผมปลอดภัยดีครับ กำลังทำภารกิจอยู่

    ถ้าคุณต้องการถอนตัว ผมจะส่งคนไปรับคุณก็แล้วกันนะ

    ตอนนี้ผมยังทำงานไม่เสร็จ คุณไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ

    ยังเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะ ยังไงนายต้องเอาตัวเองออกมาจากที่นั้นให้ได้นะ

    ได้เลย แล้วเจอกันใหม่นะจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป

     

    ณ ตึกร้างแห่งหนึ่งในเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ๆกลุ่มกบฏพากันหลบซ่อนตัวและรักษาคนเจ็บไปเบื้องต้น แต่เนื่องจากอุปกรณ์ที่ขาดแคลนแถมคนเจ็บก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย และในห้องปิดห้องหนึ่งที่หมอสาวกำลังรักษาคนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียง ในระหว่างนั้นเอง มีชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาเพื่อเรียกหาเธอเป็นการด่วน

    นี่ เทเรซ่า หัวหน้ากำลังเรียกหาเธออยู่หน่ะ

    แป๊ปนึงสิ ฉันกำลังยุ่งอยู่เลย นายไปรอด้านนอกก่อนไปเธอพันแผลให้กับคนเจ็บไปมา จนกระทั่งอาการของเขาดีขึ้น จากนั้นเธอก็รีบออกจากห้องเพื่อไปพบหัวหน้าของเธอ ในขณะที่เธอมาถึง คนอื่นๆก็กำลังรอเธออยู่ก่อนแล้ว

    อ้าว เทเรซ่า มาพอดีเลยนะชายคนที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มได้พูดกับเธอทันที

    ค่ะหัวหน้า เรียกฉันมามีอะไรคะ

    ตอนนี้เดม่อนเขาถอดรหัสการสื่อสารของรัฐบาลได้แล้ว เดม่อน อ่านให้ทุกคนฟังหน่อยสิ

    ได้ครับ ตอนนี้รัฐบาลได้เตรียมการปิดล้อมเมืองนี้ และตัดความช่วยเหลือสาธารณูปโภคต่างๆ น้ำ ไฟฟ้า แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่เหลือเลย

    นี่มันอะไรกันเนี่ย กะจะฆ่ากันให้ตายเลยใช่หรือเปล่าเนี่ยหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกของกลุ่มพูดขึ้น

    ก็แหงะหล่ะลูลู่ งานนี้เราคงตายกันหมดแน่ๆ

    แต่เราจะยอมแพ้ไม่ได้ ถ้าอย่างงั้นรัฐบาลก็จะทำชั่วแบบนี้ต่อไปไม่สิ้นสุดหน่ะสิ

    แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันต่อดีหล่ะครับหัวหน้าเดม่อนพูดขึ้น

    เราจะพยายามเสาะหาความช่วยเหลือจากด้านนอก แล้วต้องหาเสบียงในเมืองไปด้วย

    แต่ว่า พวกเขาจะเหลือของให้พวกเราอย่างงั้นเหรอคะลูลู่ถามด้วยความสงสัย

    มันก็ต้องลองดูก่อนหน่ะ ตอนนี้ขอให้ทุกคนเข้มแข็งไว้ ยังไงมันต้องมีทางสินะ

    ฉันก็หวังไว้แบบนั้น ขอให้มันมีทางจริงๆเถอะนะเทเรซ่าพูดขึ้นอย่างสิ้นหวัง

     

    กลับมายังร้านค้าละแวกหนึ่ง นอร์รีนเปิดประตูร้านไปหวังจะซื้ออะไรในร้านกิน แต่ของในร้านก็โดนฉกไปแทบจะไม่มีเหลือ นอร์รีนจึงต้องเดินทั่วห้างเพื่อหาของกินประทังชีวิต นอร์รีนเดินไปเรื่อยๆจนเห็นขนมปังสองก้อนกันน้ำส้มหนึ่งขวด เขารีบหยิบมากินโดยที่ไม่รีรอ ในระหว่างที่เขากำลังนั่งกินอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างๆร้านค้า นอร์รีนรู้สึกสงสัยจึงแอบย่องไปดูแถวนั้น เมื่อนอร์รีนมาถึง สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือ ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังประหารประชาชนในซอยแคบๆ โดยที่ประชาชนแทบจะไม่มีอาวุธอะไรเลยซึ่งพยายามร้องขอชีวิต แต่ทหารพวกนั้นก็ยิงประชาชนทิ้งอย่างไม่ใยดี

    ได้โปรด อย่าทำอะไรพวกเราเลย

    ถ้าพวกแกยังไม่อยากตาย บอกที่ซ่อนของพวกกบฎมาเดี๋ยวนี้

    พวกเราไม่รู้จริงๆ เราเป็นแค่ชาวบ้านที่กำลังจะอพยพหน่ะ

    จากนั้นทหารคนหนึ่งไม่พูดพร่ำทำเพลง ชักมีดออกมาปาดคอชายคนนั้นให้ตายอย่างช้าๆ จากนั้นก็โยนศพทิ้งไป นอร์รีนพยายามจะไปจากที่นั้นแต่เขาเผลอไปเตะกระป๋องน้ำอัดลมแถวนั้น ทำเอาพวกมันสงสัยจากนั้นก็เล็งปืนไปยังนอร์รีน

    "เฮ้ย แกเป็นใคร แสดงตัวออกมา"

    ด้วยความกลัว นอร์รีนจึงวิ่งหนีสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอดจากทหารกลุ่มนั้น ในขณะที่พวกมันบางคนพยายามไล่ตามนอร์รีนไป นอร์รีนพยายามหนีกลับบ้านตัวเองอย่างสุดชีวิต แต่พวกมันก็ตามไล่ยิงอย่างไม่หยุดหย่อน ในระหว่างที่เขากำลังหนี ก็มีมือที่มองไม่เห็นกระชากเขาเข้าไปด้านในบ้านหลังหนึ่ง และทหารพวกนั้นก็วิ่งผ่านเขาไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ดูท่าทางพวกมันจะไม่รู้ตัวว่านอร์รีนหายไปไหน

    นี่นาย ไม่เป็นไรนะ

    ขอบใจมากนะที่ช่วยฉัน ถ้าไม่งั้นฉันโดนยิงไปแล้ว

    ว่าแต่ ทำไมทหารพวกนั้นต้องตามล่าคุณด้วยหล่ะหญิงสาวคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย

    ผมไปรู้ความลับบางอย่างของพวกมัน มันยิงประชาชนตายในซอยหน่ะ

    แม่งโคตรระยำเลย ว่าแต่ นายชื่ออะไรงั้นเหรอ

    ผมชื่อนอร์รีน ปีเตอร์สัน พวกคุณหล่ะ

    ฉันยูจีน ซายามะ ส่วนนี่ก็ซิลเวีย นั่นก็ไลฟ์ เธอชื่อนี้จริงๆหน่ะ

    ยินดีที่ได้รู้จักนะ ว่าแต่นายพักอยู่ที่ไหนหล่ะหญิงสาวที่ชื่อไลฟ์ได้ถามเขา

    ผมพักอยู่อพาร์ทเม้นต์แถวนี้ พวกคุณจะไปด้วยกันหรือเปล่าหล่ะนอร์รีนถามทุกคนที่อยู่ด้านใน

    ก็ดีเหมือนกัน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปกันดีกว่ายูจีนพูดขึ้น จากนั้นก็ชวนทุกคนไปยังอพาร์ทเม้นต์ของนอร์รีนเพื่อไปพักผ่อน

     

    และอีกฝากหนึ่งของเมือง ในร้านขายของที่ปิดตายอย่างสนิทเนื่องจากกลัวว่าจะมีการปล้นชิงของในยามสงคราม แต่ด้านในร้าน มีชายคนหนึ่งกำลังเช็คของในร้านของตัวเองว่ามีอะไรบ้างที่พอจะใช้ได้ จากนั้นเขาก็เก็บของเอาไว้อย่างดีในเซฟของเขา โดยที่มียามคุ้มกันอย่างแน่นหนา

    เฮ้ย พวกแกเฝ้าไว้ให้ดี อย่าให้ของฉันหายไปไหนนะเขาสั่งลูกน้องของเขาที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ด้านใน

    ครับนาย ว่าแต่ นายจะเก็บตุนของพวกนี้ไว้ทำไมครับ

    นั่นสิครับ ทำไมถึงไม่เอาออกไปจากเมืองหล่ะครับ

    ฉันว่าจะลงทุนทำธุรกิจใหม่ในยามสงครามแบบนี้หน่ะ คนอย่างมาร์คนนี้ไม่มีวันพลาดอยู่แล้ว

    แต่นายครับ พวกผู้อพยพด้านในจะมีอะไรให้เราหล่ะครับ

    เดี๋ยวพวกนายดูเอาก็แล้วกัน ฉันจะแสดงเองระหว่างที่มาร์คพูดกับลูกน้องของเขา พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก ลูกน้องของเขาไม่รีรอรีบวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาไปถึง เขาพบเด็กชายคนหนึ่งกำลังหาของในลังกระดาษใบหนึ่ง พวกนั้นเล็งปืนใส่เขาทันที

    ห่ะ ไอ้ซีโร่ วันนี้มึงเสร็จกูแน่พวกมันยิงปืนกลใส่เขา แต่เขาก็หลบออกไปได้พร้อมกับเอาของใส่กระเป๋าออกไปด้วย

    มึงจะไปไหนวะพวกมันพยายามไล่ตามอย่างไม่ลดละ ในขณะที่ซีโร่ก็วิ่งไปหลบอยู่ที่ซอยแห่งหนึ่ง โดยที่พวกมันสองคนไม่เห็นเขาแล้ว

    บ้าเอ้ย แม่งหนีไปอีกจนได้ อย่าให้กูเจอนะ กูจะลากไส้มันออกให้ดู

    กลับดีกว่าหว่ะ ยังดีที่มันได้ไปแค่นิดเดียว ไปเถอะพวกมันทั้งคู่เดินออกไป จากนั้นเด็กหนุ่มซีโร่ก็ตรวจสอบว่าได้อะไรมากินบ้าง เขามองด้านในกระเป๋าก็พบว่ามีแค่อาหารกระป๋องไม่กี่กระป๋องพร้อมน้ำดื่ม และยาอีกจำนวนหนึ่ง

    เฮ้อ ได้มาแค่นี้เองเหรอ แต่ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยขโมยใหม่ก็ได้เด็กหนุ่มคนนั้นเก็บของใส่กระเป๋าจากนั้นก็ออกเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อหาที่นอนของเขา

     

    กลับมายังถนนเส้นหลัก ซึ่งนอร์รีนกำลังพาสมาชิกใหม่ไปยังที่พักของเขาเพื่อพักผ่อน ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทาง มีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งหนีมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ มาเดินชนกับพวกพระเอกเข้า

    โอ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ยไลฟ์อุทานออกมาด้วยความโมโห

    ขอโทษทีค่ะ ช่วยหนูด้วย อย่าให้พวกมันจับหนูได้นะคะเด็กสาวปริศนาพูดออกมาด้วยความกลัว

    ใจเย็นนะครับ ว่าแต่เธอเป็นใครเหรอ ทำไมถึงมาที่นี่หล่ะนอร์รีนถามเธอกลับไป

    หนูชื่อบารีร่า หนูหนีออกมาจากค่ายทหารค่ะ พวกมัน…”

    ใจเย็นๆก่อนนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอหรอกยูจีนพยายามปลอบใจเธอ

    เอางี้นะจ๊ะ ไปกับพวกฉันก่อนดีกว่านะซิลเวียชักชวนเธอให้มากับพวกเขา บารีร่าก็ไปด้วยอย่างไม่ลังเล จากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็มาถึงอพาร์ทเม้นต์ของนอร์รีนจนได้

    ที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูให้นะ

    ระหว่างที่นอร์รีนไปเปิดประตู นอร์รีนก็เจอกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมารวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้างของอพาร์ทเม้นต์ ซึ่งคนอื่นๆต่างก็แปลกใจว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นใคร แต่ในขณะเดียวกัน หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มก็เดินมาหานอร์รีน เหมือนกับว่าเธอจะรู้จักนอร์รีนเป็นอย่างดียังไงอย่างงั้น

    นอร์รีน นั่นเธอใช่หรือเปล่า ฉันมิเชลไง เธอสบายดีนะ

    อะไรเนี่ย รู้จักกันงั้นเหรอยูจีนถามเขาแบบงงๆ และทันใดนั้นนอร์รีนก็เข้าไปกอดกับมิเชลในทันที

    ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วนะ ว่าแต่ เธอกับคนพวกนี้มาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอนอร์รีนถามกลับไปทันที

    ตอนฉันมาถึงที่นี่ก็เจอพวกเขาก่อนแล้ว พวกเขาแค่มาหาที่หลบภัยกันหน่ะ

    ในขณะเดียวกัน เด็กชายคนหนึ่งเมื่อเห็นหน้ายูจีน เขาก็รู้เลยทันทีว่ายูจีนเป็นใคร จึงรีบวิ่งเข้าไปหายูจีนทันที

    พี่ยูจีน พี่ยูจีนครับ คิดว่าจะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว

    อะไรกันเนี่ย โทนี่ นี่นายยังไม่ตายอีกเหรอยูจีนวิ่งไปถามน้องชายเขา

    ใช่ครับพี่ แล้วนี่พวกเขาก็เป็นพรรคพวกที่เพิ่งเจอกันของผมครับ แนะนำตัวหน่อยสิโทนี่ตะโกนให้พวกเขาแนะนำตัวเองกัน

    สวัสดีครับ ผมชื่อมิสซึ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

    มิสซึ ฉันจำนายได้นะ นายอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นนี่ ฉันชื่ออลิซนะทุกคนหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มก็พูดขึ้นทันที

    ส่วนฉันเอสเทอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกคน

    ว่าแต่ ทุกคนหนีมาจากที่ไหนกันบ้างคะบารีร่าถามอย่างซื่อๆ

    ฉันหนีมาจากค่ายทหารหน่ะ พวกมันจะฆ่าพวกเราเพราะคิดว่าเราเป็นพวกกบฎหน่ะเอสเทอร์ตอบแบบเซงๆ

    ส่วนฉันเหรอ ฉันหนีออกจากบ้านมาหน่ะอลิซก็พูดขึ้นมาบ้าง

    ของผมพวกมันยิงปืนใหญ่ใส่ร้านพ่อผมจนยับ ผมหนีมาได้หน่ะมิสซึพูดขึ้นมาอีก

    ดูเหมือนว่าทุกคนจะเหนื่อยกันมากเลยนะคะซิลเวียพยายามจะปลอบใจทุกคนในนั้น

    ว่าแต่ ตอนนี้เราจะเอายังไงต่อดีหล่ะไลฟ์ถามขึ้นมา

    ผมว่านะ ตอนนี้เราควรจะไปหาของจำเป็นเพื่อเอาชีวิตรอดกันก่อนดีกว่านะนอร์รีนพูดขึ้น

    ฉันเห็นด้วยนะ ที่นี่น่าจะมีอะไรให้เราเก็บได้อยู่นะมิเชลช่วยเสริมเขา

    โอเค ถ้างั้น ฉันว่าเราแยกกันไปหาของ แล้วมารวมตัวกันที่นี่ดีกว่านะหลังจากที่ยูจีนพูดจบ ทุกคนก็แยกย้ายไปคนละทางเพื่อตามหาของที่จำเป็น เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับพวกเขาบ้าง  

    =====================================================================

    ดูเหมือนว่าชะตาชีวิตของพวกเขาจะต้องมาบรรจบกัน ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก พวกเขาจะเอาชีวิตรอดไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
    ตอนแรก หวังว่าตัวละครจะมากันครบนะครับ แหะๆ

    ขอคนละเม้นท์หน่อยนะครับทุกคน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×