คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : EP 21 : แผนการล้างแค้น
ที่สวนหลังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน พวกของนอร์รีนได้ทำการฝังศพโทนี่และเอสเทอร์ข้างๆกับหลุมศพของซิลเวียร์และสตอร์ม
รวมทั้งขุดหลุมเล็กๆเพื่อฝังร่างของฮาจิด้วย
ในตอนนั้นเองเอจิก็นั่งลงข้างๆหลุมศพของฮาจิ
จากนั้นเขาก็วางปลอกคอของมันไว้บนหลุมศพด้วย ไลฟ์ต้องมาคอยอยู่ข้างๆเขาเพื่อที่จะไม่ให้เขาเป็นอะไร
ไลฟ์ : ไม่เป็นไรนะเอจิ ฮาจิไปดีแล้วนะ
เอจิ : เพราะผมไม่ดีเอง ผมปกป้องมันไม่ได้
ไลฟ์ : เธอทำดีที่สุดแล้วนะ ฉันรู้
ฮาจิคงดีใจที่ได้รู้ว่าคุณห่วงมันมาก
เอจิ : ผมก็หวังไว้แบบนั้นหล่ะครับ
และคนอื่นๆที่อยู่รอบๆหลุมศพก็เสียใจไม่แพ้กัน
พวกเขาเริ่มจะรับกับความสูญเสียไม่ไหวแล้ว
อลัน : จะต้องเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันนะเนี่ย
ฮาน่า : อย่ากังวลไปเลยค่ะ อีกไม่นานมันก็ผ่านไป
อลัน : ผมรู้ แต่ผมว่ามันเกินจะรับพอแล้วสำหรับผม
อลัน : ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นไงต่อไปนะครับ
ยูจีน : ซีโร่ ใครมันทำกับโทนี่แบบนี้
พาฉันไปดูหน้ามันหน่อยสิ
ซีโร่ : จะดีเหรอครับพี่ พวกมันน่ากลัวมากนะครับ
ยูจีน : พี่ไม่กลัวหรอก
พี่กลัวไม่ได้แก้แค้นพวกมันมากกว่า
มินโฮ : ฉันจะไปกับเธอด้วยนะ เธอไปคนเดียวไม่ไหวหรอก
ซีโร่ : ผมรู้แค่ว่าหัวหน้าของมันชื่อมาร์ค มันมีเอี่ยวกับของเถื่อนในเมืองทั้งหมดครับ
มินโฮ : เข้าใจหล่ะ งานนี้ฉันจะตามไปสืบเรื่องของมันเอง
อลิซ : พวกคุณทำอะไรต้องคิดให้หนักนะคะ
เราเสียเพื่อนเราไปเยอะแล้วนะ
มิสซึ : นั่นสิครับ ผมไม่อยากให้พวกคุณต้องตายไปด้วยหน่ะ
บารีร่า : หนูเห็นด้วยกับพวกพี่เขานะคะ หนูไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว
มิเชล : แต่ฉันว่า ถึงยังไงเราก็หลีกเลี่ยงมันไม่ได้หรอก
บารีร่า : แต่ว่า หนูก็แค่กลัวหน่ะค่ะ
มิเชล : เธอต้องเข้มแข็งนะ แล้วมันจะผ่านไปด้วยดีเอง
อลิซ : ไม่รู้ว่าพวกมันจะตามมาฆ่าพวกเราหรือเปล่านะ
นอร์รีน : ถ้าพวกมันมา เราก็แค่จัดการพวกมันสิครับ
มิสซึ : ผมก็หวังว่าเราจะไม่ตายซะก่อนนะครับ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน
จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องและเสียงโวยวายมาแต่ไกล และในตอนนั้นเอง
พวกของทาเคชิก็รีบวิ่งมาบอกพวกนอร์รีนด้วยความเร่งรีบ
ทาเคชิ : มีอาวุธแก๊สพิษ ทุกคนรีบเข้าไปในตึกด่วนครับ
พวกของนอร์รีนได้ยินจึงรีบวิ่งเข้าไปในตึกอย่างทุลักทุเล
ในระหว่างที่พวกเขากำลังวิ่งเข้าไปในตึก จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น
ลูกปืนยิงเข้าที่ด้านหลังของดราก้อน ทำเอาดราก้อนล้มลงในทันที
ซาซอน : คุณดราก้อน ทำใจดีๆเอาไว้นะคะ
แต่ไม่ทันไร ซาซอนก็โดนลูกหลงเข้ากลางหลังด้วยอีกคน
ทำเอาเพื่อนๆคนอื่นๆต้องมาคอยแบกเธอเข้าไปด้านใน
ดราก้อน : คุณซาซอน ทำใจดีๆไว้นะครับ
ดราก้อนพยายามคลานไปเพื่อปกป้องเธอเอาไว้
ส่วนคนอื่นๆก็ยิงต่อสู้กับกลุ่มโจรที่ยิงพวกเขา
อัลเบิร์ตโกรธจัดวิ่งถือปืนพกไปยิงกับพวกมันที่ด้านข้าง
พวกมันพยายามหันมายิงอัลเบิร์ตแต่ทาเคชิก็พาพวกไปจัดการมัน พวกมันถูกยิงไปสามคน
อีกคนหนึ่งพยายามจะหนีแต่อัลเบิร์ตก็วิ่งไปจับตัวมันไว้ได้
หลังจากที่พวกโจรตายกันหมดพวกเขาก็ไปดูอาการของดราก้อนในทันที
ไซม่อน : ดราก้อน ทำใจดีๆไว้นะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ
ซนแซ : คุณหมอคะ ช่วยเพื่อนเราด้วย ช่วยซาซอนด้วย
ซุนฮยอน : ทำใจดีๆเอาไว้นะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ //
ซุนฮยอนหาผ้าพันแผลมาคุยปิดแผลให้เขาส่วนดราก้อนเอามือไปกุมมือของซาซอนไว้
ยู่อี๋ : อย่าเป็นอะไรไปนะคะ ช่วยเพื่อนเราให้ได้นะ //
เธอเขย่าตัวซุนฮยอน
ดราก้อน : ฉันคงไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันรู้ตัวฉันเองดี
ซาซอน : ไม่ต้องห่วงฉันนะทุกคน ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
ริกโก้ : อย่าพูดแบบนั้นสิวะ แกต้องไม่เป็นอะไร
มีกัส : ใช่แล้ว นายอดทนไว้นะ ฉันจะไปหามาเพิ่มเอง
จียอน : ฉันขอไปด้วย ฉันไม่ยอมให้เพื่อนฉันตายหรอก
ชิสา : ทำใจดีๆไว้นะ อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ
แต่ในตอนนั้นเอง ดราก้อนและซาซอนก็สิ้นลมอยู่ข้างๆกัน
ซุนฮยอนพยายามจะปั๊มหัวใจทั้งคู่แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งคู่ไม่ตอบสนองอะไรอีกแล้ว
ไคล่า : ไม่ ซาซอน อย่าทำแบบนี้สิ ซาซอน
อามินะ : ฮือๆๆ ฉันไม่เอาแล้ว ฉันอยากกลับบ้าน
และในขณะเดียวกัน อัลเบิร์ตก็ลากตัวคนร้ายที่ยิงทั้งคู่มาได้
อัลเบิร์ตซ้อมมันไปหลายหมัด หวังจะให้มันยอมเปิดปากว่าใครเป็นคนจ้างมันมา
ริกโก้ : ไอ้บ้านี่ใช่มั้ยที่มันฆ่าเพื่อนเราหน่ะ
ไซม่อน : แกรู้อะไรบ้าง บอกพวกเรามาให้หมดเดี๋ยวนี้ //
ในขณะเดียวกัน อัลเบิร์ตใช้วิธีการของตำรวจซ้อมมันให้มันยอมเปิดปากพูด
“ท่านเวร่าและคุณมาร์คสั่งให้ฉันให้มาแกะรอยพวกที่ไปขโมยของเธอเมื่อคืน
พวกแกไม่มีทางหนีรอดไปได้หรอก” พวกเขาถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อมาร์ค
ในตอนนั้นเองอัลเบิร์ตถึงกับโกรธมาก เขาหยิบมีดมาเชือดคอมันจนมันแน่นิ่งไป
ทาเคชิ : มาร์ค คนๆเดียวกับที่เราเพิ่งไปปล้นเสบียงมานี่
มีกัส : ฉันเคยได้ยินชื่อเวร่านะ ผู้บัญชาการในเขตตะวันตก
เธอค้าของเถื่อนด้วย
อามินะ : ท่าทางงานนี้เราลำบากแล้วหล่ะนะคะ
ซุนฮยอน : ตอนนี้ผมว่าพวกเรามาช่วยกันฝังดราก้อนกับซาซอนเขาก่อนดีกว่านะครับ
และในขณะเดียวกัน นอร์รีนก็มาดูเหตุการณ์ด้วย จากนั้นเขาก็พูดขึ้น
นอร์รีน : ผมขอโทษพวกคุณทุกคนด้วยนะครับ
ทั้งหมดเป็นเพราะพวกผมแท้ๆ
ชิสา : มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ
ไคล่า : นั่นสิคะ อย่าโทษตัวเองไปเลยนะคะตอนนี้
นอร์รีน : ผมสัญญาว่าพวกมันต้องชดใช้ทั้งหมดแน่
และอีกด้านหนึ่ง ตะวันและอนูวาที่ได้เห็นเหตุการณ์ก็ถึงกับเศร้าใจ
อนูวาร้องไห้ต่อหน้าตะวันทำให้ตะวันต้องคอยปลอบใจเธอ แต่ในขณะเดียวกัน
อรุณหัวหน้าหน่วยรบพิเศษไทยก็เข้ามาพบกับตะวันในทันทีหลังจากนั้น
ตะวัน : คุณอรุณ หนีจากแก๊สพิษมาได้นะ คุณมีอะไรหรือเปล่า
อรุณ : เราได้รับคำสั่งให้พาคุณไปในสองวันครับ
ตะวัน : พวกคุณจะให้ผมไปตอนนี้เนี่ยนะ
เดชา : นั่นสิ ผมก็ว่ามันฆ่าตัวตายชัดๆ
จินตโล : พวกมันใช้อาวุธเคมีแถมยังล้อมเราไว้อีก
เจตนา : แล้วคิดจะให้เราฝ่าออกไป มันบ้าชัดๆนะครับ
อนูวา : ถ้าพวกคุณจะไป ฉันจะนำทางพวกคุณไปเอง
เนตร : คุณอนูวาจะช่วยพวกเราอย่างงั้นเหรอครับ
อนูวา : ใช่แล้วหล่ะ คุณตะวัน
ไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะคะ //
เธอกุมมือของตะวันเอาไว้
อรุณ : นี่ ติดต่อไปทางหน่วย ขอฮอมารับผู้พันด่วนเลย
เนตร : ได้ครับ แล้วผมจะลองติดต่อดู
เดชา : งานนี้ผมว่าคงจะลำบากแน่ๆ
เจตนา : แต่อย่ากังวลไปเลยนะ ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอก
จินตโล : เฮ้อ สงสัยเราคงจะเจองานหนักแล้วสินะ
กลับมายังทำเนียบประธานาธิบดี
หลังจากที่หน่วยดอว์นซอร์ดช่วยเหลือประธานาธิบดีได้สำเร็จ
พวกเขาก็ได้รับภารกิจใหม่ขากประธานาธิบดี ให้เสริมกำลังออกตามล่าโจเซฟ
หัวหน้าหน่วยของกบฏเซิร์บ พวกเขาตามรอยโจเซฟไปยังค่ายใหม่ของโจเซฟ
จากนั้นก็ซุ่มดูการเคลื่อนไหวของกองกำลังของโจเซฟ ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
เควิน : ท่านครับ กองกำลังของพวกมันมีมากขึ้นนะครับ
ซิลเวสเตอร์ :
ดูเหมือนว่าพวกมันคงจะเสริมกำลังมาซักพักนึงแล้วหล่ะ
คาสเตอร์ : ผมว่า เราบุกไปฆ่ามันในห้องนอนเลยดีกว่า
อเล็กซ่า : จะบ้าเหรอ
บอดี้การ์ดของมันทุกคนฝีมือฉกาจทั้งนั้น
อีริค : ผมซุ่มยิงมันจากระยะไกลได้ ถ้าคุณต้องการ
อเล็กซานเดอร์ : รอดูสถานการณ์ไปก่อนก็แล้วกันในตอนนี้
และในขณะเดียวกัน ในค่ายของโจเซฟ โจเซฟก็ออกสำรวจค่ายของเขา จากนั้นก็เช็คกำลังทหารเพื่อเตรียมก่อการยึดอำนาจ
เขาพูดกับลูกสาวของเขาเกี่ยวกับแผนการรบของเขา
โจเซฟ : ตอนนี้เรามีทหารอยู่เท่าไหร่กัน
มากิ : ราว 30000 ได้ค่ะ พ่อว่าไงคะ
โจเซฟ : ก็พอได้ งานนี้เราต้องชิงลงมืออย่างรวดเร็ว
มากิ : เข้าใจแล้วค่ะพ่อ
ในตอนนั้นเอง พวกดอว์นซอร์ดก็มองเห็นโจเซฟแล้ว
คาสเตอร์สะกิดให้อีริคมอง
อิรีคเห็นดังนั้นจึงใช้สไนเปอร์ของเขาเล็งไปยังโจเซฟในทันที
คาสเตอร์ : แน่ใจนะว่านายจัดการได้หน่ะ
อีริค : แน่นอน เดี๋ยวฉันจะแสดงให้พวกนายดูเอง
เควิน : เราแค่โอกาสนี้โอกาสเดียว
ไม่งั้นเราไม่มีทางอื่นอีกแล้ว
อีริคเล็งไปยังขั้วหัวใจของโจเซฟ
แต่ในตอนนั้นเองก็เกิดลมแรงทำให้อีริคยิงพลาดไปโดนแขนของโจเซฟ ประกอบกับมีหน่วยลาดตระเวนของโจเซฟไปเจอพวกเขาเข้า
ซิลเวสเตอร์และอเล็กซานเดอร์ก็ยิงสกัดพวกนั้นเอาไว้
อเล็กซ่า : แย่หล่ะ พวกมันคงจะเห็นเราแล้ว
ซิลเวสเตอร์ :
รีบไปจากที่นี่ดีกว่า ไม่งั้นพวกมันคงจะมาฆ่าเรา
อเล็กซานเดอร์ : โอเค
ไปจากที่นี่กันดีกว่า
และทางด้านของโจเซฟ มากิรีบพาโจเซฟไปหลบที่ด้านใน
จากนั้นก็รีบพาหมอมาดูอาการของพ่อเธอในทันที
มากิ : พ่อคะ ทำใจดีๆเอาไว้นะคะ
โจเซฟ : อดัมส์คงส่งพวกดอว์นซอร์ดมายิงพ่อแน่ๆ
มากิ : หนูจะสั่งคนให้ตามล่าพวกมันเองค่ะ
โจเซฟ : ช่างมันก่อนเถอะ
ทหารธรรมดาทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอก
ทางด้านจูซมและคีธ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ขี่รถกลับมายังอพาร์ทเม้นท์
แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็เจอมินโฮที่เดินมาจากสวนหลังอพาร์ทเม้นท์โดยบังเอิญ ในตอนนั้นเอง
คีธก็เข้าไปถามมินโฮในทันที
คีธ : พี่มินโฮครับ เกิดอะไรขึ้นครับ
มินโฮ : ดราก้อนกับคุณซาซอนตายแล้ว
แล้วก็โทนี่แล้วแฟนเขาอีก
คีธไม่รอช้ารีบพาจูซมไปยังหลุมศพของพวกเขาในทันที
โดยที่มินโฮตามไปด้วย จูซมเมื่อรู้ว่าเพื่อนเธอตายแล้ว เธอร้องไห้อยู่ตรงนั้น
แล้วเข้าไปกอดกับคีธในทันที
มินโฮ : พวกเขาโดนลูกหลงหน่ะ ฉันรู้แค่นี้
จูซม : ซาซอน ไม่น่าเลย ฮือๆๆ
คีธ : อย่าเสียใจไปเลยครับ เธอไปดีแล้ว
จูซม : ฉันอยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
คีธ : ไม่ต้องห่วงครับ คุณจะต้องไม่เป็นอะไร
จูซม : ใครมันทำกับเพื่อนฉันแบบนี้
คีธ : ผมต้องได้รู้แน่ แล้วถ้าผมรู้ ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่
จูซม : ฮือๆๆๆ คุณคีธ
คีธ : ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะปกป้องคุณเอง
คีธกอดจูซมเอาไว้ตรงนั้น ส่วนมินโฮก็ปล่อยให้ทั้งคู่กอดกันตรงนั้น
ณ เขตของกลุ่มกบฏ
ในตอนนั้นเองกลุ่มของเอ็ดเวิร์ดก็กลับมารายงานความคืบหน้าของกำลังเสริม แต่ในตอนนั้นเอง
พวกเขาก็เจอกับกองศพมากมายทั้งจากชาวบ้านและกองกำลังกบฏด้วย
สภาพศพของพวกเขามีน้ำลายฟูมปากและตัวซีดอย่างทรมาน
ภาพในตอนนั้นทำเอาเทเรซ่าถึงกับร้องไห้ออกมา เอ็ดเวิร์ดรีบไปถามสถานการณ์ตอนนั้นกับพวกชาวบ้านในทันที
เอ็ดเวิร์ด :
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นครับเนี่ย
“ดูเหมือนว่าทางรัฐบาลใช้อาวุธเคมีกับเราครับ”
เทเรซ่า : แล้วยังไงต่อคะ เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
“มันน่ากลัวมาก
จู่ๆมันก็ลงมาในกลุ่มของเรา ทุกคนเริ่มหายใจติดขัด จากนั้นก็ชัก น้ำลายฟูมปาก
แล้วพวกเขาก็ตายครับ”
ลูลู่ : บ้าเอ้ย นึกไม่ถึงว่าจะอำมหิตขนาดนี้
เดม่อน : เซบาสเตียนคงต้องการจบศึกนี้เร็วๆสินะ
เทเรซ่า : ขอโทษนะทุกคนที่ฉันร้องไห้ออกมาแบบนี้
เอ็ดเวิร์ด :
ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
ลูลู่ : ฉันว่ารีบกลับไปที่ฐานของเราดีกว่าค่ะ
เดม่อน : นั่นสิ ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมีแผนอะไรต่อหรือเปล่านะ
ทางด้านของเร็นและอันนา
ในตอนนั้นเองพวกเขาขับรถกระบะเดินทางเข้าไปในตัวเมือง
เพื่อที่จะกลับไปยังเขตของกลุ่มกบฏ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็คุยกันในรถด้วย
อเล็กซ์ : น้าเร็นครับ น้าชอบแม่ผมมั้ยครับ
อันนา : เอ๊ะ ยังไงกันเนี่ยเด็กคนนี้
อเล็กซ์ : แหม่ ไม่ต้องอายหรอกครับคุณแม่
เร็น : แหม่ ตัวแค่นี้รู้จักเรื่องพวกนี้แล้วเหรอเรา //
ลูบหัวอเล็กซ์ไปด้วย
อันนา : ว่าแต่คุณจะไปไหนต่อหล่ะคะ
เร็น : ไปหาเสบียงเพิ่มในเขตกบฏหน่ะครับ
อเล็กซ์ : เฮ้อ ต้องกลับเข้าไปในเมืองอีกแล้วสินะ
อันนา : เอาน่าลูก มันน่าจะปลอดภัยนะ
ในขณะที่เขาขับรถกลับเข้ามาในเขตของพวกกบฏ
พวกเขาก็เห็นชาวบ้านช่วยกันแบกศพของคนตายมากองรวมกันไว้
ทำเอาเร็นแปลกใจมากกับเรื่องนี้ เร็นลงไปถามชาวบ้านแถวนั้นทันที
เร็น : นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ
“รัฐบาลใช้อาวุธแก๊สพิษกับพวกเราหน่ะครับ”
เร็นรีบกลับเข้าไปในรถทันที จากนั้นก็ฉีกเสื้อของเขา
เอาชุบน้ำจากนั้นก็ปิดปากให้กับอเล็กซ์
อันนา : เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ
เร็น : มีการใช้อาวุธแก๊สพิษหน่ะ
ผมต้องปกป้องอเล็กซ์หน่ะ
อันนา : ตายแล้ว นี่มันอะไรกันคะเนี่ย
เร็น : ผมว่าไม่มีเวลาแล้วหล่ะครับ
เร็นขับรถพาพวกเขาเข้าไปดูสถานการณ์ด้านใน
และในตึกแห่งหนึ่งในเขตกบฏ หลังจากที่เทโจพาชินเฮไปหลบระเบิดด้านใน
เขาให้ชินเฮนอนอยู่บนเตียงตัวหนึ่ง จากนั้นก็คอยดูแลเธอเป็นอย่างดี
จนกระทั่งชินเฮก็เริ่มจะตกหลุมรักเทโจเข้าให้แล้ว
เทโจ : คุณคงต้องพักผ่อนเยอะๆหน่อยหล่ะครับ
ชินเฮ : ขอบคุณมากนะคะที่คอยดูแลฉันหน่ะ
เทโจ : ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ
ชินเฮ : ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนๆฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ
เทโจ : ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะพาคุณไปให้ได้
ชินเฮ : ฉันว่า เรื่องที่ฉันจะบอกคุณ ฉันคงจะ
เทโจ : ผมก็อยากจะบอกเหมือนกัน คือว่า ผมรักคุณนะ
ชินเฮ : คุณเทโจ นี่คุณ....
เทโจ : ผมว่าผมไม่กลัวที่จะบอกคุณแล้วหล่ะ
ชินเฮ : ฉันเอง ก็รักคุณเหมือนกันนะคะ
เทโจ : คุณชินเฮ.....
ชินเฮ : ฉันไม่เคยมีความรักแบบนี้มาก่อนหน่ะ
เทโจ : จริงเหรอครับ คุณชินเฮ....
ชินเฮ : ใช่ ฉันกล้าพูดตรงนี้กับคุณเลย
เทโจ : เราจะต้องปลอดภัยแน่ ผมสัญญาครับ
ณ ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวของอดัมส์
ในขณะที่เขากำลังนั่งตรวจสอบเอกสารและแผนการรบของเขา แต่ในตอนนั้นเอง
เอสเมอรันด้าก็เข้ามาทางหน้าต่างห้อง
จากนั้นก็ตบหน้าของอดัมส์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
อดัมส์ : นี่มันอะไรกันคุณเมอรันด้า
เอสเมอรันด้า :
คุณมันปีศาจ ทำแบบนี้ได้ยังไง
อดัมส์ : คุณพอจะบอกผมได้หรือเปลา มันเกิดอะไรขึ้น
เอสเมอรันด้า :
คุณอย่าบอกนะ
ว่าคุณไม่รู้เรื่องอาวุธแก๊สพิษที่เกิดขึ้นหน่ะ
อดัมส์ : คุณว่ายังไงนะ ผมไม่เคยสั่งเลยนะ
เอสเมอรันด้า :
ชาวบ้านตายไปมากมาย แล้วถ้าทางสหประชาชาติสอบสวนเรื่องนี้ขึ้นมาคุณจะทำยังไง
อดัมส์ : เซบาสเตียนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่
ผมจะเรียกเขามาสอบสวนเอง
เอสเมอรันด้า :
จะทำยังไงก็ทำเถอะนะ //
เอสเมอรันด้ากระโดดออกจากหน้าต่างไป หลังจากนั้นอดัมส์ก็เรียกเลขาของเขามาหาเขา
“ท่านครับ
เรียกผมมามีอะไรเหรอครับ”
“เรียกตัวเซบาสเตียนมาหาผมที”
กลับมายังกลุ่มของดีซ
ในตอนนั้นเองเขาและพรรคพวกกำลังพักผ่อนกันอยู่ในตึกหลังหนึ่งหลังจากที่เดินทางมาซักพัก
และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งในกลุ่มมากระซิบที่ข้างหูของดีซ
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดีซถึงกับมือสั่นไปหมด
จอห์นนี่ : ดีซ มันเกิดอะไรขึ้นครับ
ดีซ : พวกรัฐบาลใช้อาวุธแก๊สพิษในเขตเราหน่ะ
เอิร์ล : อาวุธแก๊สพิษเนี่ยนะครับ
ทำไมพวกมันถึงโหดร้ายแบบนี้
เดอร์ริก : อำมหิตชะมัด แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ
จอห์นนี่ : ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด ใครจะไปกับฉันบ้าง
ดีซ : ไม่มีใครต้องไปไหนทั้งนั้น ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้
เราต้องอดทนไว้ก่อน
เอิร์ล : ถ้าฉันเจอประธานาธิบดี ฉันจะฉีกหนังหัวมันออกมา
เดอร์ริก : เออ ขอให้ถึงวันนั้นเถอะ นายได้ทำแน่ๆ
กลับมายังเขตชานเมือง ในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งซีวิลกับฮาได้เข้าพักด้วยกัน
ในตอนนั้นเองซีวิลก็นอนพักของเขาไป แต่จู่ๆ ฮาก็ปลุกเขาขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำเอาซีวิลถึงกับหงุดหงิดเล็กน้อย
ซีวิล : ปลุกฉันทำไม มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย
ฮา : ฉันหายใจไม่ค่อยออกเลย ไม่รู้ทำไม
ซีวิล : เอ้า ฉันจะไปรู้เหรอ แต่ผมก๋รู้สกเหมือนคุณนะ
ฮา : แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ
ซีวิล : ยังมีน้ำเหลือในถึง รอแป๊ปนะ
ซีวิลฉีกเสื้อของเขามาเป็นสองส่วน จากนั้นก็เอาเสื้อไปชุบน้ำ
จากนั้นก็ยื่นให้กับฮาด้วย
ซีวิล : เอ้านี่ เอาไปปิดปากซะ เผื่อจะดีขึ้น
ทั้งคู่เอาไปปิดปาก จากนั้นก็หาที่หลบอยู่ในห้องที่ปิดแคบ
จากนั้นพวกเขาก็ไปอยู่ข้างในด้วยกันซักพัก
ซีวิล : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
ฮา : ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันหายใจไม่ค่อยออกหน่ะ
ซีวิล : เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะจบซะทีหล่ะเนี่ย
ฮา : ก็รอดูอยู่ว่ามันจะจบตอนไหนหน่ะสิ
กลับมายังโกดังของมาร์ค ซึ่งในตอนนั้นเองอาร์คก็ได้จัดการความเสียหายที่เกิดขึ้น
รวมถึงสั่งเตรียมเครื่องบินเพื่อหนีไปจากที่เมืองแห่งนี้
ในตอนนั้นเองเขากับเวร่าก็ปรึกษากันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วย
มาร์ค : ไม่น่าเชื่อว่าพวกมันจะมาปล้นที่นี่ด้วย
เวร่า : คุณไม่ต้องห่วงนะ
ฉันจะส่งคนมาคุ้มกันที่นี่เป็นสองเท่าเลย
มาร์ค : แล้วที่เธอส่งคนไปตามรอยมันหล่ะ
เวร่า : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคนของฉันก็ส่งข่าวมาเองหล่ะ
มาร์ค : ฉันก็อยากรู้ว่าพวกมันเป็นใครเหมือนกัน
เวร่า : ไม่ต้องห่วง คุณต้องได้รู้แน่
และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งก็มารายงานข่าวกับเวร่า
จากนั้นเธอก็ไล่ให้เขาออกไปก่อน
มาร์ค : ทำไมเหรอ มีอะไรหรือเปล่า
เวร่า : คนที่ฉันส่งไปตายกันหมดเลย
แต่ฉันก็รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร
มาร์ค : แล้วพวกมันเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ
เวร่า : พวกมันเป็นพวกชาวบ้านธรรมดาหน่ะ
มาร์ค : ก็แค่ชาวบ้านธรรมดา ส่งคนไปฆ่ามันก็พอแล้วนี่
เวร่า : ฉันก็ว่าอย่างงั้นหล่ะ
และในขณะเดียวกัน ทหารของเวร่าก็มารายงานข่าวให้เธอฟัง
เธอได้ฟังแล้วก็พูดกับมาร์คในทันที
มาร์ค : มีอะไรอีกหล่ะ
เวร่า : ตอนนี้รัฐบาลสั่งจับกุมฉันแล้ว
มาร์ค : จริงเหรอ แล้วคุณจะทำยังไงต่อหล่ะ
เวร่า : ฉันจะกลับไปที่ค่าย รับมือกับทหารของรัฐบาลหน่ะ
มาร์ค : แล้วแบบนี้คุณจะไม่เป็นไรเหรอ
เวร่า : ถ้าฉันเพลี่ยงพล้ำ ก็แค่หนีมาที่นี่หน่ะสิ
มาร์ค : โอเค ผมเตรียมรถไปสนามบินเรียบร้อยแล้วหล่ะ
เวร่า : เยี่ยม ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ
เวร่าจูบปากมาร์คจากนั้นเธอก็ใส่เครื่องแบบออกไปขึ้นรถของเธอ
จากนั้นรถของเธอก็เคลื่อนออกไป
กลับมายังบ้านของเจซซิน
หลังจากที่เจซซินและเวสต์ออกไปหาเสบียงเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกๆของเขา
และในตอนนั้นเองพวกเขาก็มานั่งพักและลูกๆของพวกเขาก็กลับมาหาพวกเขาในทันที
อดอลล่า : คุณแม่ เป็นยังไงบ้างคะออกไปหาของ
เจซซิน : ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่ได้มาเยอะเลย
เวสต์ : ตอนนี้เสบียงที่เรามีน่าจะพอเลี้ยงเราไปได้จนจบสงครามเลยนะ
อนาตาเซีย : ก็ดีสินะพ่อ จะได้ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว
เจซซิน : เฮ้อ ช่วงนี้เราไม่ได้ข่าวจากโลกภายนอกเลยนะ
เวสต์ : บางทีเราน่าจะมีวิทยุซักเครื่องนะ
อดอลล่า : แม่ จำไมได้เหรอในบ้านเราก็มีวิทยุนะคะ
เจซซิน : แต่ว่าวิทยุนั่นใช่ไม่ได้แล้วนะ
อนาตาเซีย : ตายหล่ะแบบนี้ พ่อเวสต์พอจะซ่อมได้หรือเปล่าครับ
เวสต์ : เดี๋ยวขอลองไปดูก่อนนะ
เวสต์ไปดูสภาพวิทยุเก่าๆเครื่องหนึ่ง
จากนั้นเขาก็พบว่าไม่มีถ่านใส่นั่นเอง
เวสต์ : อ้อ ไม่มีถ่านใส่หน่ะ เลยใช้ไม่ได้
เจซซิน : แล้วเราจะหาถ่านที่ไหนกันหล่ะคะเนี่ย
อนาตาเซีย : ไม่รู้ว่าอันนี้จะใช้ได้หรือเปล่านะครับพ่อ //
อนาตาเซียวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ไปหยิบถ่านไฟฉายสองก้อนมาให้กับเวสต์
เวสต์ : โห นี่ลูกไปหามาจากไหนกันหล่ะเนี่ย
อนาตาเซีย : ผมไปเจอมาตั้งแต่ที่ไปหาของครั้งแรกหน่ะครับ
เวสต์รีบใส่ถ่านไฟฉายในวิทยุในทันที
จากนั้นเขาก็เตรียมวิทยุเพื่อใช้งาน
กลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ยูจีนรู้สึกเสียใจที่สูญเสียคนสำคัญ
ทั้งโทนี่และซิลเวียร์ ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนว่า สำหรับเธอมันเกินจะรับพอแล้ว เธอฉีกผ้าพันแผลที่ข้อเท้าของเธอออกมา
และในตอนนั้นเองมินโฮก็เดินมาหายูจีนพอดี
มินโฮ : นี่คุณยูจีน คุณฉีกผ้าพันแผลออกทำไมเหรอ
ยูจีน : คืนนี้ฉันจะไปที่โกดังนั่น
แล้วอย่าคิดจะขวางฉันด้วย
มินโฮ : ถ้าอย่างงั้น ฉันจะไปกับเธอเอง
ฉันไม่ปล่อยเธอให้ไปคนเดียวหรอก
และในขณะเดียวกัน คนอื่นๆก็เข้ามาในห้องของยูจีนด้วยโดยบังเอิญ
เพราะทุกคนต่างก็เป็นห่วงยูจีนกัน
นอร์รีน : คุณจะไปข้างนอกอย่างงั้นเหรอครับ
ยูจีน : ฉันต้องไปค่ะคุณนอร์รีน ฉันอยากจะเห็นหน้าพวกมัน
เอจิ : ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องวางแผนดีๆหน่อยนะ
พวกมันคงจะหาคนมาเพิ่มแล้วหล่ะ
ไลฟ์ : นั่นสิ ดูท่าทางพวกมันจะมีเยอะกว่าเรานะ
บารีร่า : แต่ว่าเราแค่ไปสอดแนมนี่คะ ใช่หรือเปล่าคะ
ซีโร่ : ใช่ครับ คงไม่ต้องปะทะอะไรมากหรอกครับ
บารีร่า : ถ้านายจะไป นายต้องระวังตัวด้วยนะ
ซีโร่ : แน่นอน แล้วฉันจะรีบกลับมาก็แล้วกันนะ
อลัน : พวกเธอแน่ใจแล้วเหรอว่าจะไปกันหน่ะ
เอจิ : มาถึงขนาดนี้ก็คงต้องแน่ใจหล่ะครับ
ฮาน่า : สถานการณ์ข้างนอกก็ยังไม่น่าไว้ใจนะคะ
อลัน : ใช่ ผมได้ยินว่ารัฐบาลเริ่มแผนการใหม่แล้วนี่
ไลฟ์ : พี่ก็อย่าขัดศรัทธาคุณเอจิเขาสิพี่
อลิซ : เออนี่ ว่าแต่คุณมิเชลหายไปไหนเหรอคะ
มิสซึ : ใช่ คุณตะวันกับอนูวาก็ด้วยนี่ครับ
นอร์รีน : มิเชลออกไปข้างนอกหน่ะครับ
ส่วนคุณอนูวาคงไปส่งคุณตะวันเพื่อเตรียมพร้อมออกไปจากเมืองหน่ะครับ
มิสซึ : หะ นี่คุณตะวันจะไปแล้วเหรอครับเนี่ย
อลิซ : เฮ้อ ยังไม่ทันจะได้ล่ำลากันเลยเนี่ย
และที่เขตของกลุ่มกบฏ มิเชลออกมาข้างนอกพร้อมกับกล้องถ่ายรูปชนิดที่มีรูปออกมาเลยที่เธอพกมาก่อนสงคราม
เธอถ่ายรูปเหตุการณ์ต่างๆในเมือง เช่นศพที่เพิ่งจะโดนแก๊สพิษ กับเมืองที่โดนทำลาย
เธอเก็บทุกๆภาพเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเธอก็เก็บรูปนั้นๆไว้
จากนั้นเธอก็ไปติดต่อกับหัวหน้าของกลุ่มกบฏในเมือง เพื่อให้พวกเขาส่งต่อรูปออกไปยังโลกภายนอก
ประกาศให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ไปพบกับหัวหน้าในเขตของกลุ่มกบฏ
จากนั้นเธอก็ส่งรูปภาพให้กับเขา
มิเชล : ประกาศให้โลกนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ //
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เดินออกไป ส่วนหัวหน้าของกลุ่มกบฏก็ประชุมกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“พวกมันทำแบบนี้
เราต้องตอบโต้พวกมันบ้างแล้วนะครับ”
“ใจเย็นๆก่อนสิ
พอจะรู้หรือเปล่าคนของเราตายเท่าไหร่”
“เราไม่แน่ใจ
แต่ไม่น่าต่ำกว่าหมื่นคนครับ”
“เฮ้อ
พวกเขาไม่ควรตายแบบนี้เลย”
“ผมว่าผู้พันเซบาสเตียนต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆครับ เราควรจะเล่นงานมันตอนนี้เลยครับ”
“ว่าแต่
เหลือเวลาอีกกี่วันหล่ะที่ทางสหประชาชาติจะบุกมา”
“ไม่น่าจะเกิน
4 วันครับ แต่ถ้าเหตุการณ์นี้แพร่งพรายออกไป
ทางนั้นอาจจะเข้ามาในทันทีพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ”
“ก็ได้
ถ้างั้นรีบกระจายข่าวไปให้โลกภายนอกรู้ แล้วก็คิดค่อดีซ
สั่งให้เขาฆ่าเซบาสเตียนให้ได้”
“ครับผม”
ชายคนนั้นรับคำสั่งแล้วเดินออกจากห้องไป
=====================================================================
ยูจีนคิดอะไรของเธออยู่กันแน่ แล้วพวกกบฏจะมีแผนการอะไรกันต่อไป แล้วสงครามจะจบลงไปไหน อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น