ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #27 : EP 21 : แผนการล้างแค้น

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 62


    ที่สวนหลังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน พวกของนอร์รีนได้ทำการฝังศพโทนี่และเอสเทอร์ข้างๆกับหลุมศพของซิลเวียร์และสตอร์ม รวมทั้งขุดหลุมเล็กๆเพื่อฝังร่างของฮาจิด้วย ในตอนนั้นเองเอจิก็นั่งลงข้างๆหลุมศพของฮาจิ จากนั้นเขาก็วางปลอกคอของมันไว้บนหลุมศพด้วย ไลฟ์ต้องมาคอยอยู่ข้างๆเขาเพื่อที่จะไม่ให้เขาเป็นอะไร

    ไลฟ์ : ไม่เป็นไรนะเอจิ ฮาจิไปดีแล้วนะ

    เอจิ : เพราะผมไม่ดีเอง ผมปกป้องมันไม่ได้

    ไลฟ์ : เธอทำดีที่สุดแล้วนะ ฉันรู้ ฮาจิคงดีใจที่ได้รู้ว่าคุณห่วงมันมาก

    เอจิ : ผมก็หวังไว้แบบนั้นหล่ะครับ

    และคนอื่นๆที่อยู่รอบๆหลุมศพก็เสียใจไม่แพ้กัน พวกเขาเริ่มจะรับกับความสูญเสียไม่ไหวแล้ว

    อลัน : จะต้องเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันนะเนี่ย

    ฮาน่า : อย่ากังวลไปเลยค่ะ อีกไม่นานมันก็ผ่านไป

    อลัน : ผมรู้ แต่ผมว่ามันเกินจะรับพอแล้วสำหรับผม

    อลัน : ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นไงต่อไปนะครับ

    ยูจีน : ซีโร่ ใครมันทำกับโทนี่แบบนี้ พาฉันไปดูหน้ามันหน่อยสิ

    ซีโร่ : จะดีเหรอครับพี่ พวกมันน่ากลัวมากนะครับ

    ยูจีน : พี่ไม่กลัวหรอก พี่กลัวไม่ได้แก้แค้นพวกมันมากกว่า

    มินโฮ : ฉันจะไปกับเธอด้วยนะ เธอไปคนเดียวไม่ไหวหรอก

    ซีโร่ : ผมรู้แค่ว่าหัวหน้าของมันชื่อมาร์ค มันมีเอี่ยวกับของเถื่อนในเมืองทั้งหมดครับ

    มินโฮ : เข้าใจหล่ะ งานนี้ฉันจะตามไปสืบเรื่องของมันเอง

    อลิซ : พวกคุณทำอะไรต้องคิดให้หนักนะคะ เราเสียเพื่อนเราไปเยอะแล้วนะ

    มิสซึ : นั่นสิครับ ผมไม่อยากให้พวกคุณต้องตายไปด้วยหน่ะ

    บารีร่า : หนูเห็นด้วยกับพวกพี่เขานะคะ หนูไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว

    มิเชล : แต่ฉันว่า ถึงยังไงเราก็หลีกเลี่ยงมันไม่ได้หรอก

    บารีร่า : แต่ว่า หนูก็แค่กลัวหน่ะค่ะ

    มิเชล : เธอต้องเข้มแข็งนะ แล้วมันจะผ่านไปด้วยดีเอง

    อลิซ : ไม่รู้ว่าพวกมันจะตามมาฆ่าพวกเราหรือเปล่านะ

    นอร์รีน : ถ้าพวกมันมา เราก็แค่จัดการพวกมันสิครับ

    มิสซึ : ผมก็หวังว่าเราจะไม่ตายซะก่อนนะครับ

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องและเสียงโวยวายมาแต่ไกล และในตอนนั้นเอง พวกของทาเคชิก็รีบวิ่งมาบอกพวกนอร์รีนด้วยความเร่งรีบ

    ทาเคชิ : มีอาวุธแก๊สพิษ ทุกคนรีบเข้าไปในตึกด่วนครับ

    พวกของนอร์รีนได้ยินจึงรีบวิ่งเข้าไปในตึกอย่างทุลักทุเล ในระหว่างที่พวกเขากำลังวิ่งเข้าไปในตึก จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น ลูกปืนยิงเข้าที่ด้านหลังของดราก้อน ทำเอาดราก้อนล้มลงในทันที

    ซาซอน : คุณดราก้อน ทำใจดีๆเอาไว้นะคะ

    แต่ไม่ทันไร ซาซอนก็โดนลูกหลงเข้ากลางหลังด้วยอีกคน ทำเอาเพื่อนๆคนอื่นๆต้องมาคอยแบกเธอเข้าไปด้านใน

    ดราก้อน : คุณซาซอน ทำใจดีๆไว้นะครับ

    ดราก้อนพยายามคลานไปเพื่อปกป้องเธอเอาไว้ ส่วนคนอื่นๆก็ยิงต่อสู้กับกลุ่มโจรที่ยิงพวกเขา อัลเบิร์ตโกรธจัดวิ่งถือปืนพกไปยิงกับพวกมันที่ด้านข้าง พวกมันพยายามหันมายิงอัลเบิร์ตแต่ทาเคชิก็พาพวกไปจัดการมัน พวกมันถูกยิงไปสามคน อีกคนหนึ่งพยายามจะหนีแต่อัลเบิร์ตก็วิ่งไปจับตัวมันไว้ได้ หลังจากที่พวกโจรตายกันหมดพวกเขาก็ไปดูอาการของดราก้อนในทันที

    ไซม่อน : ดราก้อน ทำใจดีๆไว้นะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ

    ซนแซ : คุณหมอคะ ช่วยเพื่อนเราด้วย ช่วยซาซอนด้วย

    ซุนฮยอน : ทำใจดีๆเอาไว้นะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ // ซุนฮยอนหาผ้าพันแผลมาคุยปิดแผลให้เขาส่วนดราก้อนเอามือไปกุมมือของซาซอนไว้

    ยู่อี๋ : อย่าเป็นอะไรไปนะคะ ช่วยเพื่อนเราให้ได้นะ // เธอเขย่าตัวซุนฮยอน

    ดราก้อน : ฉันคงไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันรู้ตัวฉันเองดี

    ซาซอน : ไม่ต้องห่วงฉันนะทุกคน ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

    ริกโก้ : อย่าพูดแบบนั้นสิวะ แกต้องไม่เป็นอะไร

    มีกัส : ใช่แล้ว นายอดทนไว้นะ ฉันจะไปหามาเพิ่มเอง

    จียอน : ฉันขอไปด้วย ฉันไม่ยอมให้เพื่อนฉันตายหรอก

    ชิสา : ทำใจดีๆไว้นะ อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ

    แต่ในตอนนั้นเอง ดราก้อนและซาซอนก็สิ้นลมอยู่ข้างๆกัน ซุนฮยอนพยายามจะปั๊มหัวใจทั้งคู่แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งคู่ไม่ตอบสนองอะไรอีกแล้ว

    ไคล่า : ไม่ ซาซอน อย่าทำแบบนี้สิ ซาซอน

    อามินะ : ฮือๆๆ ฉันไม่เอาแล้ว ฉันอยากกลับบ้าน

    และในขณะเดียวกัน อัลเบิร์ตก็ลากตัวคนร้ายที่ยิงทั้งคู่มาได้ อัลเบิร์ตซ้อมมันไปหลายหมัด หวังจะให้มันยอมเปิดปากว่าใครเป็นคนจ้างมันมา

    ริกโก้ : ไอ้บ้านี่ใช่มั้ยที่มันฆ่าเพื่อนเราหน่ะ

    ไซม่อน : แกรู้อะไรบ้าง บอกพวกเรามาให้หมดเดี๋ยวนี้ // ในขณะเดียวกัน อัลเบิร์ตใช้วิธีการของตำรวจซ้อมมันให้มันยอมเปิดปากพูด

    ท่านเวร่าและคุณมาร์คสั่งให้ฉันให้มาแกะรอยพวกที่ไปขโมยของเธอเมื่อคืน พวกแกไม่มีทางหนีรอดไปได้หรอกพวกเขาถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อมาร์ค ในตอนนั้นเองอัลเบิร์ตถึงกับโกรธมาก เขาหยิบมีดมาเชือดคอมันจนมันแน่นิ่งไป

    ทาเคชิ : มาร์ค คนๆเดียวกับที่เราเพิ่งไปปล้นเสบียงมานี่

    มีกัส : ฉันเคยได้ยินชื่อเวร่านะ ผู้บัญชาการในเขตตะวันตก เธอค้าของเถื่อนด้วย

    อามินะ : ท่าทางงานนี้เราลำบากแล้วหล่ะนะคะ

    ซุนฮยอน : ตอนนี้ผมว่าพวกเรามาช่วยกันฝังดราก้อนกับซาซอนเขาก่อนดีกว่านะครับ

    และในขณะเดียวกัน นอร์รีนก็มาดูเหตุการณ์ด้วย จากนั้นเขาก็พูดขึ้น

    นอร์รีน : ผมขอโทษพวกคุณทุกคนด้วยนะครับ ทั้งหมดเป็นเพราะพวกผมแท้ๆ

    ชิสา : มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ

    ไคล่า : นั่นสิคะ อย่าโทษตัวเองไปเลยนะคะตอนนี้

    นอร์รีน : ผมสัญญาว่าพวกมันต้องชดใช้ทั้งหมดแน่

    และอีกด้านหนึ่ง ตะวันและอนูวาที่ได้เห็นเหตุการณ์ก็ถึงกับเศร้าใจ อนูวาร้องไห้ต่อหน้าตะวันทำให้ตะวันต้องคอยปลอบใจเธอ แต่ในขณะเดียวกัน อรุณหัวหน้าหน่วยรบพิเศษไทยก็เข้ามาพบกับตะวันในทันทีหลังจากนั้น

    ตะวัน : คุณอรุณ หนีจากแก๊สพิษมาได้นะ คุณมีอะไรหรือเปล่า

    อรุณ : เราได้รับคำสั่งให้พาคุณไปในสองวันครับ

    ตะวัน : พวกคุณจะให้ผมไปตอนนี้เนี่ยนะ

    เดชา : นั่นสิ ผมก็ว่ามันฆ่าตัวตายชัดๆ

    จินตโล : พวกมันใช้อาวุธเคมีแถมยังล้อมเราไว้อีก

    เจตนา : แล้วคิดจะให้เราฝ่าออกไป มันบ้าชัดๆนะครับ

    อนูวา : ถ้าพวกคุณจะไป ฉันจะนำทางพวกคุณไปเอง

    เนตร : คุณอนูวาจะช่วยพวกเราอย่างงั้นเหรอครับ

    อนูวา : ใช่แล้วหล่ะ คุณตะวัน ไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะคะ  // เธอกุมมือของตะวันเอาไว้

    อรุณ : นี่ ติดต่อไปทางหน่วย ขอฮอมารับผู้พันด่วนเลย

    เนตร : ได้ครับ แล้วผมจะลองติดต่อดู

    เดชา : งานนี้ผมว่าคงจะลำบากแน่ๆ

    เจตนา : แต่อย่ากังวลไปเลยนะ ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอก

    จินตโล : เฮ้อ สงสัยเราคงจะเจองานหนักแล้วสินะ

     

    กลับมายังทำเนียบประธานาธิบดี หลังจากที่หน่วยดอว์นซอร์ดช่วยเหลือประธานาธิบดีได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้รับภารกิจใหม่ขากประธานาธิบดี ให้เสริมกำลังออกตามล่าโจเซฟ หัวหน้าหน่วยของกบฏเซิร์บ พวกเขาตามรอยโจเซฟไปยังค่ายใหม่ของโจเซฟ จากนั้นก็ซุ่มดูการเคลื่อนไหวของกองกำลังของโจเซฟ ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่

    เควิน : ท่านครับ กองกำลังของพวกมันมีมากขึ้นนะครับ

    ซิลเวสเตอร์ : ดูเหมือนว่าพวกมันคงจะเสริมกำลังมาซักพักนึงแล้วหล่ะ

    คาสเตอร์ : ผมว่า เราบุกไปฆ่ามันในห้องนอนเลยดีกว่า

    อเล็กซ่า : จะบ้าเหรอ บอดี้การ์ดของมันทุกคนฝีมือฉกาจทั้งนั้น

    อีริค : ผมซุ่มยิงมันจากระยะไกลได้ ถ้าคุณต้องการ

    อเล็กซานเดอร์ : รอดูสถานการณ์ไปก่อนก็แล้วกันในตอนนี้

    และในขณะเดียวกัน ในค่ายของโจเซฟ โจเซฟก็ออกสำรวจค่ายของเขา จากนั้นก็เช็คกำลังทหารเพื่อเตรียมก่อการยึดอำนาจ เขาพูดกับลูกสาวของเขาเกี่ยวกับแผนการรบของเขา

    โจเซฟ : ตอนนี้เรามีทหารอยู่เท่าไหร่กัน

    มากิ : ราว 30000 ได้ค่ะ พ่อว่าไงคะ

    โจเซฟ : ก็พอได้ งานนี้เราต้องชิงลงมืออย่างรวดเร็ว

    มากิ : เข้าใจแล้วค่ะพ่อ

    ในตอนนั้นเอง พวกดอว์นซอร์ดก็มองเห็นโจเซฟแล้ว คาสเตอร์สะกิดให้อีริคมอง อิรีคเห็นดังนั้นจึงใช้สไนเปอร์ของเขาเล็งไปยังโจเซฟในทันที

    คาสเตอร์ : แน่ใจนะว่านายจัดการได้หน่ะ

    อีริค : แน่นอน เดี๋ยวฉันจะแสดงให้พวกนายดูเอง

    เควิน : เราแค่โอกาสนี้โอกาสเดียว ไม่งั้นเราไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

    อีริคเล็งไปยังขั้วหัวใจของโจเซฟ แต่ในตอนนั้นเองก็เกิดลมแรงทำให้อีริคยิงพลาดไปโดนแขนของโจเซฟ ประกอบกับมีหน่วยลาดตระเวนของโจเซฟไปเจอพวกเขาเข้า ซิลเวสเตอร์และอเล็กซานเดอร์ก็ยิงสกัดพวกนั้นเอาไว้

    อเล็กซ่า : แย่หล่ะ พวกมันคงจะเห็นเราแล้ว

    ซิลเวสเตอร์ : รีบไปจากที่นี่ดีกว่า ไม่งั้นพวกมันคงจะมาฆ่าเรา

    อเล็กซานเดอร์ : โอเค ไปจากที่นี่กันดีกว่า

    และทางด้านของโจเซฟ มากิรีบพาโจเซฟไปหลบที่ด้านใน จากนั้นก็รีบพาหมอมาดูอาการของพ่อเธอในทันที

    มากิ : พ่อคะ ทำใจดีๆเอาไว้นะคะ

    โจเซฟ : อดัมส์คงส่งพวกดอว์นซอร์ดมายิงพ่อแน่ๆ

    มากิ : หนูจะสั่งคนให้ตามล่าพวกมันเองค่ะ

    โจเซฟ : ช่างมันก่อนเถอะ ทหารธรรมดาทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอก

     

    ทางด้านจูซมและคีธ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ขี่รถกลับมายังอพาร์ทเม้นท์ แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็เจอมินโฮที่เดินมาจากสวนหลังอพาร์ทเม้นท์โดยบังเอิญ ในตอนนั้นเอง คีธก็เข้าไปถามมินโฮในทันที

    คีธ : พี่มินโฮครับ เกิดอะไรขึ้นครับ

    มินโฮ : ดราก้อนกับคุณซาซอนตายแล้ว แล้วก็โทนี่แล้วแฟนเขาอีก

    คีธไม่รอช้ารีบพาจูซมไปยังหลุมศพของพวกเขาในทันที โดยที่มินโฮตามไปด้วย จูซมเมื่อรู้ว่าเพื่อนเธอตายแล้ว เธอร้องไห้อยู่ตรงนั้น แล้วเข้าไปกอดกับคีธในทันที

    มินโฮ : พวกเขาโดนลูกหลงหน่ะ ฉันรู้แค่นี้

    จูซม : ซาซอน ไม่น่าเลย ฮือๆๆ

    คีธ : อย่าเสียใจไปเลยครับ เธอไปดีแล้ว

    จูซม : ฉันอยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว

    คีธ : ไม่ต้องห่วงครับ คุณจะต้องไม่เป็นอะไร

    จูซม : ใครมันทำกับเพื่อนฉันแบบนี้

    คีธ : ผมต้องได้รู้แน่ แล้วถ้าผมรู้ ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่

    จูซม : ฮือๆๆๆ คุณคีธ

    คีธ : ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะปกป้องคุณเอง

    คีธกอดจูซมเอาไว้ตรงนั้น ส่วนมินโฮก็ปล่อยให้ทั้งคู่กอดกันตรงนั้น

     

    ณ เขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองกลุ่มของเอ็ดเวิร์ดก็กลับมารายงานความคืบหน้าของกำลังเสริม แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เจอกับกองศพมากมายทั้งจากชาวบ้านและกองกำลังกบฏด้วย สภาพศพของพวกเขามีน้ำลายฟูมปากและตัวซีดอย่างทรมาน ภาพในตอนนั้นทำเอาเทเรซ่าถึงกับร้องไห้ออกมา เอ็ดเวิร์ดรีบไปถามสถานการณ์ตอนนั้นกับพวกชาวบ้านในทันที

    เอ็ดเวิร์ด : นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นครับเนี่ย

    ดูเหมือนว่าทางรัฐบาลใช้อาวุธเคมีกับเราครับ

    เทเรซ่า : แล้วยังไงต่อคะ เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ

    มันน่ากลัวมาก จู่ๆมันก็ลงมาในกลุ่มของเรา ทุกคนเริ่มหายใจติดขัด จากนั้นก็ชัก น้ำลายฟูมปาก แล้วพวกเขาก็ตายครับ

    ลูลู่ : บ้าเอ้ย นึกไม่ถึงว่าจะอำมหิตขนาดนี้

    เดม่อน : เซบาสเตียนคงต้องการจบศึกนี้เร็วๆสินะ

    เทเรซ่า : ขอโทษนะทุกคนที่ฉันร้องไห้ออกมาแบบนี้

    เอ็ดเวิร์ด : ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน

    ลูลู่ : ฉันว่ารีบกลับไปที่ฐานของเราดีกว่าค่ะ

    เดม่อน : นั่นสิ ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมีแผนอะไรต่อหรือเปล่านะ

     

    ทางด้านของเร็นและอันนา ในตอนนั้นเองพวกเขาขับรถกระบะเดินทางเข้าไปในตัวเมือง เพื่อที่จะกลับไปยังเขตของกลุ่มกบฏ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็คุยกันในรถด้วย

    อเล็กซ์ : น้าเร็นครับ น้าชอบแม่ผมมั้ยครับ

    อันนา : เอ๊ะ ยังไงกันเนี่ยเด็กคนนี้

    อเล็กซ์ : แหม่ ไม่ต้องอายหรอกครับคุณแม่

    เร็น : แหม่ ตัวแค่นี้รู้จักเรื่องพวกนี้แล้วเหรอเรา // ลูบหัวอเล็กซ์ไปด้วย

    อันนา : ว่าแต่คุณจะไปไหนต่อหล่ะคะ

    เร็น : ไปหาเสบียงเพิ่มในเขตกบฏหน่ะครับ

    อเล็กซ์ : เฮ้อ ต้องกลับเข้าไปในเมืองอีกแล้วสินะ

    อันนา : เอาน่าลูก มันน่าจะปลอดภัยนะ

    ในขณะที่เขาขับรถกลับเข้ามาในเขตของพวกกบฏ พวกเขาก็เห็นชาวบ้านช่วยกันแบกศพของคนตายมากองรวมกันไว้ ทำเอาเร็นแปลกใจมากกับเรื่องนี้ เร็นลงไปถามชาวบ้านแถวนั้นทันที

    เร็น : นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ

    รัฐบาลใช้อาวุธแก๊สพิษกับพวกเราหน่ะครับ

    เร็นรีบกลับเข้าไปในรถทันที จากนั้นก็ฉีกเสื้อของเขา เอาชุบน้ำจากนั้นก็ปิดปากให้กับอเล็กซ์

    อันนา : เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ

    เร็น : มีการใช้อาวุธแก๊สพิษหน่ะ ผมต้องปกป้องอเล็กซ์หน่ะ

    อันนา : ตายแล้ว นี่มันอะไรกันคะเนี่ย

    เร็น : ผมว่าไม่มีเวลาแล้วหล่ะครับ

    เร็นขับรถพาพวกเขาเข้าไปดูสถานการณ์ด้านใน

     

    และในตึกแห่งหนึ่งในเขตกบฏ หลังจากที่เทโจพาชินเฮไปหลบระเบิดด้านใน เขาให้ชินเฮนอนอยู่บนเตียงตัวหนึ่ง จากนั้นก็คอยดูแลเธอเป็นอย่างดี จนกระทั่งชินเฮก็เริ่มจะตกหลุมรักเทโจเข้าให้แล้ว

    เทโจ : คุณคงต้องพักผ่อนเยอะๆหน่อยหล่ะครับ

    ชินเฮ : ขอบคุณมากนะคะที่คอยดูแลฉันหน่ะ

    เทโจ : ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ

    ชินเฮ : ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนๆฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ

    เทโจ : ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะพาคุณไปให้ได้

    ชินเฮ : ฉันว่า เรื่องที่ฉันจะบอกคุณ ฉันคงจะ

    เทโจ : ผมก็อยากจะบอกเหมือนกัน คือว่า ผมรักคุณนะ

    ชินเฮ : คุณเทโจ นี่คุณ....

    เทโจ : ผมว่าผมไม่กลัวที่จะบอกคุณแล้วหล่ะ

    ชินเฮ : ฉันเอง ก็รักคุณเหมือนกันนะคะ

    เทโจ : คุณชินเฮ.....

    ชินเฮ : ฉันไม่เคยมีความรักแบบนี้มาก่อนหน่ะ

    เทโจ : จริงเหรอครับ คุณชินเฮ....

    ชินเฮ : ใช่ ฉันกล้าพูดตรงนี้กับคุณเลย

    เทโจ : เราจะต้องปลอดภัยแน่ ผมสัญญาครับ

     

    ณ ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวของอดัมส์ ในขณะที่เขากำลังนั่งตรวจสอบเอกสารและแผนการรบของเขา แต่ในตอนนั้นเอง เอสเมอรันด้าก็เข้ามาทางหน้าต่างห้อง จากนั้นก็ตบหน้าของอดัมส์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

    อดัมส์ : นี่มันอะไรกันคุณเมอรันด้า

    เอสเมอรันด้า : คุณมันปีศาจ ทำแบบนี้ได้ยังไง

    อดัมส์ : คุณพอจะบอกผมได้หรือเปลา มันเกิดอะไรขึ้น

    เอสเมอรันด้า : คุณอย่าบอกนะ ว่าคุณไม่รู้เรื่องอาวุธแก๊สพิษที่เกิดขึ้นหน่ะ

    อดัมส์ : คุณว่ายังไงนะ ผมไม่เคยสั่งเลยนะ

    เอสเมอรันด้า : ชาวบ้านตายไปมากมาย แล้วถ้าทางสหประชาชาติสอบสวนเรื่องนี้ขึ้นมาคุณจะทำยังไง

    อดัมส์ : เซบาสเตียนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ ผมจะเรียกเขามาสอบสวนเอง

    เอสเมอรันด้า : จะทำยังไงก็ทำเถอะนะ // เอสเมอรันด้ากระโดดออกจากหน้าต่างไป หลังจากนั้นอดัมส์ก็เรียกเลขาของเขามาหาเขา

    ท่านครับ เรียกผมมามีอะไรเหรอครับ

    เรียกตัวเซบาสเตียนมาหาผมที

     

    กลับมายังกลุ่มของดีซ ในตอนนั้นเองเขาและพรรคพวกกำลังพักผ่อนกันอยู่ในตึกหลังหนึ่งหลังจากที่เดินทางมาซักพัก และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งในกลุ่มมากระซิบที่ข้างหูของดีซ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดีซถึงกับมือสั่นไปหมด

    จอห์นนี่ : ดีซ มันเกิดอะไรขึ้นครับ

    ดีซ : พวกรัฐบาลใช้อาวุธแก๊สพิษในเขตเราหน่ะ

    เอิร์ล : อาวุธแก๊สพิษเนี่ยนะครับ ทำไมพวกมันถึงโหดร้ายแบบนี้

    เดอร์ริก : อำมหิตชะมัด แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ

    จอห์นนี่ : ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด ใครจะไปกับฉันบ้าง

    ดีซ : ไม่มีใครต้องไปไหนทั้งนั้น ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้ เราต้องอดทนไว้ก่อน

    เอิร์ล : ถ้าฉันเจอประธานาธิบดี ฉันจะฉีกหนังหัวมันออกมา

    เดอร์ริก : เออ ขอให้ถึงวันนั้นเถอะ นายได้ทำแน่ๆ

     

    กลับมายังเขตชานเมือง ในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งซีวิลกับฮาได้เข้าพักด้วยกัน ในตอนนั้นเองซีวิลก็นอนพักของเขาไป แต่จู่ๆ ฮาก็ปลุกเขาขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาซีวิลถึงกับหงุดหงิดเล็กน้อย

    ซีวิล : ปลุกฉันทำไม มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย

    ฮา : ฉันหายใจไม่ค่อยออกเลย ไม่รู้ทำไม

    ซีวิล : เอ้า ฉันจะไปรู้เหรอ แต่ผมก๋รู้สกเหมือนคุณนะ

    ฮา : แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ

    ซีวิล : ยังมีน้ำเหลือในถึง รอแป๊ปนะ

    ซีวิลฉีกเสื้อของเขามาเป็นสองส่วน จากนั้นก็เอาเสื้อไปชุบน้ำ จากนั้นก็ยื่นให้กับฮาด้วย

    ซีวิล : เอ้านี่ เอาไปปิดปากซะ เผื่อจะดีขึ้น

    ทั้งคู่เอาไปปิดปาก จากนั้นก็หาที่หลบอยู่ในห้องที่ปิดแคบ จากนั้นพวกเขาก็ไปอยู่ข้างในด้วยกันซักพัก

    ซีวิล : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย

    ฮา : ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันหายใจไม่ค่อยออกหน่ะ

    ซีวิล : เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะจบซะทีหล่ะเนี่ย

    ฮา : ก็รอดูอยู่ว่ามันจะจบตอนไหนหน่ะสิ

     

    กลับมายังโกดังของมาร์ค ซึ่งในตอนนั้นเองอาร์คก็ได้จัดการความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงสั่งเตรียมเครื่องบินเพื่อหนีไปจากที่เมืองแห่งนี้ ในตอนนั้นเองเขากับเวร่าก็ปรึกษากันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วย

    มาร์ค : ไม่น่าเชื่อว่าพวกมันจะมาปล้นที่นี่ด้วย

    เวร่า : คุณไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะส่งคนมาคุ้มกันที่นี่เป็นสองเท่าเลย

    มาร์ค : แล้วที่เธอส่งคนไปตามรอยมันหล่ะ

    เวร่า : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคนของฉันก็ส่งข่าวมาเองหล่ะ

    มาร์ค : ฉันก็อยากรู้ว่าพวกมันเป็นใครเหมือนกัน

    เวร่า : ไม่ต้องห่วง คุณต้องได้รู้แน่

    และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งก็มารายงานข่าวกับเวร่า จากนั้นเธอก็ไล่ให้เขาออกไปก่อน

    มาร์ค : ทำไมเหรอ มีอะไรหรือเปล่า

    เวร่า : คนที่ฉันส่งไปตายกันหมดเลย แต่ฉันก็รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร

    มาร์ค : แล้วพวกมันเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ

    เวร่า : พวกมันเป็นพวกชาวบ้านธรรมดาหน่ะ

    มาร์ค : ก็แค่ชาวบ้านธรรมดา ส่งคนไปฆ่ามันก็พอแล้วนี่

    เวร่า : ฉันก็ว่าอย่างงั้นหล่ะ

    และในขณะเดียวกัน ทหารของเวร่าก็มารายงานข่าวให้เธอฟัง เธอได้ฟังแล้วก็พูดกับมาร์คในทันที

    มาร์ค : มีอะไรอีกหล่ะ

    เวร่า : ตอนนี้รัฐบาลสั่งจับกุมฉันแล้ว

    มาร์ค : จริงเหรอ แล้วคุณจะทำยังไงต่อหล่ะ

    เวร่า : ฉันจะกลับไปที่ค่าย รับมือกับทหารของรัฐบาลหน่ะ

    มาร์ค : แล้วแบบนี้คุณจะไม่เป็นไรเหรอ

    เวร่า : ถ้าฉันเพลี่ยงพล้ำ ก็แค่หนีมาที่นี่หน่ะสิ

    มาร์ค : โอเค ผมเตรียมรถไปสนามบินเรียบร้อยแล้วหล่ะ

    เวร่า : เยี่ยม ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ

    เวร่าจูบปากมาร์คจากนั้นเธอก็ใส่เครื่องแบบออกไปขึ้นรถของเธอ จากนั้นรถของเธอก็เคลื่อนออกไป

     

    กลับมายังบ้านของเจซซิน หลังจากที่เจซซินและเวสต์ออกไปหาเสบียงเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกๆของเขา และในตอนนั้นเองพวกเขาก็มานั่งพักและลูกๆของพวกเขาก็กลับมาหาพวกเขาในทันที

    อดอลล่า : คุณแม่ เป็นยังไงบ้างคะออกไปหาของ

    เจซซิน : ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่ได้มาเยอะเลย

    เวสต์ : ตอนนี้เสบียงที่เรามีน่าจะพอเลี้ยงเราไปได้จนจบสงครามเลยนะ

    อนาตาเซีย : ก็ดีสินะพ่อ จะได้ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว

    เจซซิน : เฮ้อ ช่วงนี้เราไม่ได้ข่าวจากโลกภายนอกเลยนะ

    เวสต์ : บางทีเราน่าจะมีวิทยุซักเครื่องนะ

    อดอลล่า : แม่ จำไมได้เหรอในบ้านเราก็มีวิทยุนะคะ

    เจซซิน : แต่ว่าวิทยุนั่นใช่ไม่ได้แล้วนะ

    อนาตาเซีย : ตายหล่ะแบบนี้ พ่อเวสต์พอจะซ่อมได้หรือเปล่าครับ

    เวสต์ : เดี๋ยวขอลองไปดูก่อนนะ

    เวสต์ไปดูสภาพวิทยุเก่าๆเครื่องหนึ่ง จากนั้นเขาก็พบว่าไม่มีถ่านใส่นั่นเอง

    เวสต์ : อ้อ ไม่มีถ่านใส่หน่ะ เลยใช้ไม่ได้

    เจซซิน : แล้วเราจะหาถ่านที่ไหนกันหล่ะคะเนี่ย

    อนาตาเซีย : ไม่รู้ว่าอันนี้จะใช้ได้หรือเปล่านะครับพ่อ // อนาตาเซียวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ไปหยิบถ่านไฟฉายสองก้อนมาให้กับเวสต์

    เวสต์ : โห นี่ลูกไปหามาจากไหนกันหล่ะเนี่ย

    อนาตาเซีย : ผมไปเจอมาตั้งแต่ที่ไปหาของครั้งแรกหน่ะครับ

    เวสต์รีบใส่ถ่านไฟฉายในวิทยุในทันที จากนั้นเขาก็เตรียมวิทยุเพื่อใช้งาน

     

    กลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ยูจีนรู้สึกเสียใจที่สูญเสียคนสำคัญ ทั้งโทนี่และซิลเวียร์ ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนว่า สำหรับเธอมันเกินจะรับพอแล้ว เธอฉีกผ้าพันแผลที่ข้อเท้าของเธอออกมา และในตอนนั้นเองมินโฮก็เดินมาหายูจีนพอดี

    มินโฮ : นี่คุณยูจีน คุณฉีกผ้าพันแผลออกทำไมเหรอ

    ยูจีน : คืนนี้ฉันจะไปที่โกดังนั่น แล้วอย่าคิดจะขวางฉันด้วย

    มินโฮ : ถ้าอย่างงั้น ฉันจะไปกับเธอเอง ฉันไม่ปล่อยเธอให้ไปคนเดียวหรอก

    และในขณะเดียวกัน คนอื่นๆก็เข้ามาในห้องของยูจีนด้วยโดยบังเอิญ เพราะทุกคนต่างก็เป็นห่วงยูจีนกัน

    นอร์รีน : คุณจะไปข้างนอกอย่างงั้นเหรอครับ

    ยูจีน : ฉันต้องไปค่ะคุณนอร์รีน ฉันอยากจะเห็นหน้าพวกมัน

    เอจิ : ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องวางแผนดีๆหน่อยนะ พวกมันคงจะหาคนมาเพิ่มแล้วหล่ะ

    ไลฟ์ : นั่นสิ ดูท่าทางพวกมันจะมีเยอะกว่าเรานะ

    บารีร่า : แต่ว่าเราแค่ไปสอดแนมนี่คะ ใช่หรือเปล่าคะ

    ซีโร่ : ใช่ครับ คงไม่ต้องปะทะอะไรมากหรอกครับ

    บารีร่า : ถ้านายจะไป นายต้องระวังตัวด้วยนะ

    ซีโร่ : แน่นอน แล้วฉันจะรีบกลับมาก็แล้วกันนะ

    อลัน : พวกเธอแน่ใจแล้วเหรอว่าจะไปกันหน่ะ

    เอจิ : มาถึงขนาดนี้ก็คงต้องแน่ใจหล่ะครับ

    ฮาน่า : สถานการณ์ข้างนอกก็ยังไม่น่าไว้ใจนะคะ

    อลัน : ใช่ ผมได้ยินว่ารัฐบาลเริ่มแผนการใหม่แล้วนี่

    ไลฟ์ : พี่ก็อย่าขัดศรัทธาคุณเอจิเขาสิพี่

    อลิซ : เออนี่ ว่าแต่คุณมิเชลหายไปไหนเหรอคะ

    มิสซึ : ใช่ คุณตะวันกับอนูวาก็ด้วยนี่ครับ

    นอร์รีน : มิเชลออกไปข้างนอกหน่ะครับ ส่วนคุณอนูวาคงไปส่งคุณตะวันเพื่อเตรียมพร้อมออกไปจากเมืองหน่ะครับ

    มิสซึ : หะ นี่คุณตะวันจะไปแล้วเหรอครับเนี่ย

    อลิซ : เฮ้อ ยังไม่ทันจะได้ล่ำลากันเลยเนี่ย

     

    และที่เขตของกลุ่มกบฏ มิเชลออกมาข้างนอกพร้อมกับกล้องถ่ายรูปชนิดที่มีรูปออกมาเลยที่เธอพกมาก่อนสงคราม เธอถ่ายรูปเหตุการณ์ต่างๆในเมือง เช่นศพที่เพิ่งจะโดนแก๊สพิษ กับเมืองที่โดนทำลาย เธอเก็บทุกๆภาพเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเธอก็เก็บรูปนั้นๆไว้ จากนั้นเธอก็ไปติดต่อกับหัวหน้าของกลุ่มกบฏในเมือง เพื่อให้พวกเขาส่งต่อรูปออกไปยังโลกภายนอก ประกาศให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ไปพบกับหัวหน้าในเขตของกลุ่มกบฏ จากนั้นเธอก็ส่งรูปภาพให้กับเขา

    มิเชล : ประกาศให้โลกนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ // หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เดินออกไป ส่วนหัวหน้าของกลุ่มกบฏก็ประชุมกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

    พวกมันทำแบบนี้ เราต้องตอบโต้พวกมันบ้างแล้วนะครับ

    ใจเย็นๆก่อนสิ พอจะรู้หรือเปล่าคนของเราตายเท่าไหร่

    เราไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าต่ำกว่าหมื่นคนครับ

    เฮ้อ พวกเขาไม่ควรตายแบบนี้เลย

    ผมว่าผู้พันเซบาสเตียนต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆครับ เราควรจะเล่นงานมันตอนนี้เลยครับ

    ว่าแต่ เหลือเวลาอีกกี่วันหล่ะที่ทางสหประชาชาติจะบุกมา

    ไม่น่าจะเกิน 4 วันครับ แต่ถ้าเหตุการณ์นี้แพร่งพรายออกไป ทางนั้นอาจจะเข้ามาในทันทีพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ

    ก็ได้ ถ้างั้นรีบกระจายข่าวไปให้โลกภายนอกรู้ แล้วก็คิดค่อดีซ สั่งให้เขาฆ่าเซบาสเตียนให้ได้

    ครับผม

    ชายคนนั้นรับคำสั่งแล้วเดินออกจากห้องไป

    =====================================================================

    ยูจีนคิดอะไรของเธออยู่กันแน่ แล้วพวกกบฏจะมีแผนการอะไรกันต่อไป แล้วสงครามจะจบลงไปไหน อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×