ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 11 : นอร์ดิกเตรียมจัดทัพ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 61


    นายพลอาร์เธอร์พานอร์ดิกเยี่ยมประชาชนชาวริงก้าที่กำลังรอชมผู้สืบบังลังค์ของริงก้า ดูท่าทางประชาชนชื่นชอบนอร์ดิกเป็นอย่างมาก มีแต่เสียงต้อนรับดังกึกก้องไปทั่ว หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็กลับมายังพระราชวังตามเดิม

    ซอล : นี่ งานนี้เหมือนพวกเราเป็นคนสำคัญเลย นายว่ามั้ยอ่ะ

    นิโคลัส : เออ นั่นสิ มีเพื่อนเป็นผู้นำแคว้นมันดีอย่างงี้นี่เอง

    เอ็น : นี่ ไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้นะ น้อยๆหน่อยสิ

    จากนั้นไม่นาน เซเลนส์มารายงานนายพลอาร์เธอร์ว่ามีแขกผู้ทรงเกียรติมาเยี่ยม

    เซเลนส์ : ท่านนายพลครับ เลดี้อาร์เทมิสกับเอลิซ่ามาขอเข้าพบครับ

    อาร์เธอร์ : ให้เข้ามาได้ // ทหารคนนั้นพาเลดี้อาร์เทมิสกับเอลิซ่าเข้ามา แต่เมื่อเอลิซ่ามาเจอนอร์ดิกในชุดผู้นำแคว้นก็แปลกใจมาก ส่วนอาร์เทมิส เมื่อเธอเจอนอร์ดิก เธอกลับตกหลุมรักเขาแต่แรกเห็น ในขณะเดียวกันนิโคลัสก็แอบเล็งเอลิซ่าเอาไว้เหมือนกัน

    เอลิซ่า : คุณนอร์ดิก ไม่เจอกันนานเลยนะคะ

    นอร์ดิก : คุณเอลิซ่า สบายดีนะครับ

    เมเทอร์ : ว่าแต่ ทำไมนายถึงได้แต่งตัวชุดผู้นำแบบนั้นหล่ะ

    ไซโซ : ตอนนี้เขาคือผู้นำแคว้นริงก้าอย่างเป็นทางการแล้วครับ // พวกเธอทุกคนต่างแปลกใจ จากนั้นก็ถวายคำนับนอร์ดิกกันยกใหญ่

    นอร์ดิก : ไม่เป็นไรครับ ลุกขึ้นเถอะครับ

    เคจา : ว่าแต่ พวกคุณไปไงมาไงคะถึงได้มาอยู่ที่นี่เนี่ย

    เฟรย์อา : เรามาประชุมสมาชิกองค์กรของเราที่ริงก้าหน่ะค่ะ // ในตอนนั้นเอง อาร์เทมิสเดินเข้ามาใกล้นอร์ดิก เพื่อแนะนำตัวกับเขา

    อาร์เทมิส : ดิฉันอาร์เทมิส ผู้นำแคว้นเดลล์ค่ะ // เอลิซ่าเขม้นอาร์เทมิสหนักมาก เอลิซ่าจึงพยายามแทรกตัว เพื่อไม่ให้เธอเข้าใกล้นอร์ดิกมากกว่านี้

    เนม่า : เออ พวกพี่เพิ่งจะมาถึง เราไปคุยกันด้านในดีกว่าค่ะ // เนม่ารีบพูดตัดบทก่อนที่จะพาทุกคนเข้าไปประชุมกันด้านใน นิโคลัสคุยกับเอ็นเกี่ยวกับเอลิซ่าทันทีในตอนนั้น

    นิโคลัส : นี่เหรอ เลดี้เอลิซ่าที่เขาว่าสวยหน่ะ เธอสวยมากจริงๆนะ ฉันชอบอ่ะ

    เอ็น : ว่าแต่ เขาจะชอบนายอย่างงั้นเหรอเพื่อน

    ซอล : เฮ้อ หื่นจริงๆเลยนายเนี่ย ตามพวกเขาไปดีกว่า

    ที่ห้องโถงประชุมด้านใน พวกเขาก็มานั่งคุยกันโดยที่มีการเลี้ยงรับรองแขกเป็นอย่างดี เนื่องจากทั้งเอลิซ่าและอาร์เทมิสเป็นแขกคนสำคัญของริงก้า

    เอลิซ่า : คุณนอร์ดิกคะ แผนของคุณจะมีอะไรต่อไปมั้ยคะ

    นอร์ดิก : ผมจะรวบรวมแผ่นดินนี้เป็นปึกแผ่น แล้วจบสงครามนี้ซะ แต่ก่อนอื่น เราต้องจัดการพวกโซราบอลก่อนหน่ะครับ

    ไซโซ : จริงด้วย ได้ยินว่าตอนนี้มันเพิ่งผ่านแคว้นมอร็อคแล้วนี่

    เมเทอร์ : ใช่ค่ะ พวกมันยึดเมืองได้อย่างรวดเร็วมากค่ะ

    เอ็น : นี่ ซอล นายคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ มีอะไรพูดมาได้นะ // เอ็นเห็นซอลท่าทางจริงจังกับเรื่องนี้ ซอลไม่รอช้าประกาศออกไปทันที

    ซอล : เราน่าจะก่อตั้งสาธารณรัฐหลังจากรวมประเทศนี้ได้ครับ

    อาร์เธอร์ : สาธารณรัฐ มันคืออะไรงั้นเหรอ

    เนม่า : หนูเคยรู้มา มันเป็นการแบ่งรัฐให้ปกครองกันเอง ไม่รู้ใช่หรือเปล่านะ

    ซอล : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ความจริงคือรัฐอื่นๆต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐแม่ด้วยครับ

    เซเลนส์ : ห่ะ แล้วแบบนี้จะปกครองกันยังไงหล่ะครับเนี่ย

    นิโคลัส : ก็ให้อำนาจส่วนภูมิภาคได้ดูแลตัวเอง โดยที่มีรัฐแม่คอยดูแลไงหล่ะ

    เคจา : ความคิดนี้ดีนะ บางทีน่าจะลองเอามาใช้ได้นี่

    อาร์เทมิส : นี่พูดมามันก็แค่ทฤษฎีนะ เราต้องปฏิบัติให้ได้จริงด้วยสิ

    เนม่า : ว่าแต่ พี่นอร์ดิกจะว่ายังไงคะ

    นอร์ดิก : ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่ตอนนี้แผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ เราต้องหยุดสงครามนี้ ไม่งั้นลูกหลานเราจะลำบากแน่ ผมจะสู้กับเนโรให้ถึงที่สุดครับ

    เอลิซ่า : ค่ะ ดิฉัน ในนามของกลุ่มสมาคมลับ ทั่วทั้งนอลโวร่า ขอสนับสนุนคุณค่ะ

    อาร์เทมิส : เช่นเดียวกันกับดิฉัน ทหารของฉันพร้อมจะรับคำสั่งจากคุณค่ะ

    ซอล : ฉันขอตัวสักครู่นะ ขอไปทำอะไรข้างนอกก่อน // ซอลรีบเดินออกไปจากห้อง ก่อนที่ในตอนนั้นเฟรย์อาก็เดินตามเขาไปด้วย

    เฟรย์อา : เดี๋ยวฉันมานะ ไปทำธุระหน่อย // เธอเดินตามซอลไปติดๆ

    ไซโซ : เอ๊ะ สองคนนั้นไปไหนของเขากันนะ

    เคจา : คงจะอยู่แถวนี้หล่ะนะ ไม่เป็นไรหรอก

    ซอลเดินออกไปด้านนอก พยายามจะเขียนจดหมายฉบับหนึ่งเพื่อดำเนินการอะไรบางอย่าง แต่อยู่ดีๆเฟรย์อาก็เดินมาดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

    เฟรย์อา : นี่นาย ทำอะไรอยู่งั้นเหรอ

    ซอล : ฉันเขียนจดหมายหาเพื่อนฉันให้เขามาที่นี่หน่ะ

    เฟรย์อา : ฉันได้ยินว่านายสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่าสาธารณรัฐหน่ะ ฉันว่าเราคงคิดเหมือนกันแล้วหล่ะ

    ซอล : ครับ ยินดีครับ ผมชื่อซอล ยินดีที่ได้รู้จักครับ

    เฟรย์อา : ดิฉันเฟรย์อาค่ะ // ทั้งคู่จับมือกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกบางอย่างที่พวกเขาจะมีร่วมกันได้

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ หลังจากที่นายพลบลูกลับมาจากการปล้นทัพของตาร์ก นายพลบลูก็แจกเสบียงให้ชาวบ้าน แล้วก็เริ่มจัดระเบียบกองทัพของเขาใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ทหารของเขารีบควบม้ามารายงานเรื่องๆหนึ่งกับเขา ซึ่งท่าทางเป็นเรื่องด่วนมาก

    ท่านนายพลครับ ตอนนี้เราแย่แล้วครับ

    บลู : เกิดอะไรขึ้น ว่ามาสิ

    ตอนนี้ผู้เฒ่าตาร์กเตรียมกองทัพกำลังเดินทางมาโจมตีเราครับ

    บลู : นึกแล้วว่ามันต้องมา จัดแนวป้องกันไว้ที่รอบเมือง แล้วให้ทหารไปสกัดมันไว้

    ครับท่าน แต่พวกมันมีมากกว่าเราหลายเท่านะครับ

    บลู : ตอนนี้พวกมันใหญ่แค่กองทัพ แต่อาวุธยังเป็นรอง เราต้องอาศัยความได้เปรียบตรงนี้เอาชนะมัน

    ครับท่าน ผมจะไปเตรียมกองทัพครับ

    บลู : ใช้แผนการตามที่ฉันบอกนะ รับรองพวกมันถอยกลับไปแน่

    ครับท่าน เข้าใจแล้วครับ

     

    และที่ชายแดนแคว้นเดลล์ ขบวนคาราวานของสี่พี่น้องจอมซนก็เดินทางมาถึงจนได้ แต่พวกเขาต้องเบียดเสียดร่วมกับผู้อพยพนับพันที่รายล้อม ทำให้ขบวนพวกเขาแทบจะไปไหนไม่ได้เลย

    เอเทอร์ : พี่ ดูสิ คนเยอะขนาดนี้เราเข้าไปไม่ได้แน่ๆ

    เลออน : ใจเย็นๆสิ ผู้อพยพที่นี่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเราหรอก

    แมทธิว : นี่พี่ แล้วที่พี่ติดต่อกับทหารของริงก้านี่ไปถึงไหนแล้วเนี่ย

    มาร์ธิว : ใจเย็นๆสิ พี่เชื่อว่าเขาต้องมาแน่ๆ

    และในตอนนั้นเอง มีนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาทำความเคารพพวกเขา

    สวัสดีครับ คุณมาร์ธิว เชิญทางนี้ครับ

    จากนั้นขบวนคาราวานของมาร์ธิวก็เคลื่อนไปตามที่นายทหารคนนั้นบอก เพื่อเข้าสู่ริงก้าอย่างปลอดภัย
    เอเทอร์
    : เย้ ในที่สุดก็มาถึงริงก้าซะทีนะครับพี่

    เลออน : นั่นสิ หวังว่าจะมีสาวสวยๆให้หลีหน่อยนะ

    แมทธิว : เจริญพรเถอะพ่อหนุ่ม คิดแต่เรื่องพรรค์นี้เนี่ยนะ

    มาร์ธิว : เอาเถอะๆ ก่อนอื่นเราต้องไปเจอกับเมเทอร์เขาก่อนนะ ไม่รู้ตอนนี้เธอกำลังรอเราอยู่หรือเปล่า

     

    มาถึงชายแดนแคว้นเดลล์ โอลลี่กับอราชก็นำคนของพวกเขามาถึงจนได้ แต่สภาพของแคว้นเดลล์ในตอนนั้นไม่ค่อยมีเสถียรภาพเท่าไหร่ บรรดาเหล่าคนใหญ่คนโตต่างก็พากันแย่งชิงอำนาจ ทำให้ทั้งแคว้นอ่อนแอนลงมาก
    โอลลี่
    : ห่ะ นี่แคว้นเดลล์เป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

    อราช : แบบนี้เข้าไปในเมืองตรงๆไม่ได้แล้วหล่ะ คงต้องเลาะผ่านป่าไป

    โอลลี่ : แล้วนายพอจะรู้ทางไปหรือเปล่าหล่ะ

    อราช : ผมไม่แน่ใจ แต่ผมว่ายังไงมันก็ปลอดภัยกว่าในเมืองตอนนี้แน่นอน
    โอลลี่
    : ก็แล้วแต่คุณนะ ฉันให้คุณนำทางไปแล้วนี่

    ทั้งคู่เดินลัดเลาะผ่านป่าลึกเข้าไป เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมืองที่กำลังเกิดขึ้น ในป่าที่ดูจะสงบ แต่มันในตอนนี้ดูท่าจะกลับมาคึกคักเพราะมีคนเดินผ่านทางไปเยอะมาก
    โอลลี่
    : ป่าที่นี่ดูเหมือนจะมีคนผ่านไปแล้วนะ

    อราช : คงใช่หล่ะ หลายคนลงจะลัดเลาะเข้าไปที่นี่หน่ะ
    โอลลี่
    : ก็ใช่นะ ท่าทางจะผ่านไปไม่นานด้วย ฉันอยากเดินเที่ยวที่นี่อีกหน่อยจัง
    อราช
    : ผมว่าเราคงมีเวลาไม่มากนะ เดี๋ยววันหลังค่อยมาก็แล้วกัน

    โอลลี่ : ได้เลย ฉันจะรอนะ
    และอีกด้านหนึ่ง ทหารของฟีนด์เดินทัพเข้าสู่แคว้นเดลล์ จากนั้นเขาก็เดินทัพลัดเลาะผ่านป่าเพื่อป้องกันไม่ให้หองทัพอื่นมาโจมตีพวกเขา เพราะสถานะของเขาในตอนนี้เสียเปรียบมากหากเกิดการปะทะ

    ฟีนด์ : เราต้องเดินทัพไปอีกหน่อย จนถึงชายแดนริงก้า ที่นั้นเราจะปลอดภัย
    ท่านครับ เราจะเหลือทหารกี่นายครับกว่าจะไปถึงที่นั่น

    ฟีนด์ : ผมก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เรามีแค่พันกว่าๆ ต้องระวังตัวเอาไว้ // แต่ระหว่างนั้นเอง ทหารบางส่วนพยายามจะหนีเข้าป่า ทำเอานายทหารที่คุมแถวต้องเรียกให้กลับมา
    เฮ้ย พวกแก จะหนีทัพเหรอนายทหารคนนั้นไล่ยิงทหารที่หนีเข้าป่าอย่างโกรธแค้น

    ฟีนด์ : หยุดยิง ปล่อยพวกเขาไปซะ
    แต่พวกมันจะหนีทัพนะครับท่าน

    ฟีนด์ : เขาอยากจะไปก็ปล่อยเขา เขาอยากจะมีชีวิตรอดก็ปล่อยเขาเถอะ

    ครับท่าน

     

    กลับมายังกองทัพของโซราบอล ในระหว่างที่นายพลเนโรกำลังรักษาตัว ซิลเวียร์ดูอาการของนายพลเนโรอยู่นาน จากนั้นก็แจ้งอาการของท่านนายพลกับคูเปอร์

    ซิลเวียร์ : ท่านนายพลเป็นไข้ป่า ตอนนี้ฉันสั่งยาให้ท่านแล้วค่ะ

    คูเปอร์ : แล้วท่านนายพลจะหายเมื่อไหร่หล่ะครับ

    ซิลเวียร์ : มีทางเดียว ต้องพาท่านกลับเมือง ออกจากป่าโดยเร็วค่ะ
    คูเปอร์
    : ท่านนายพลไม่ยอมแน่ๆ ถ้าท่านออกจากป่า ทหารจะหมดกำลังใจนะครับ

    ซิลเวียร์ : ถ้าอาการท่านทรุดลง ทหารจะหมดกำลังใจนะครับ

    โซรอน : ใช่แล้วหล่ะ เราต้องคิดถึงท่านนายพลไว้ก่อนนะ
    คูเปอร์
    : แล้วแบบนี้ ใครจะดูแลกองทัพแทนหล่ะครับ
    โซรอน
    : ผมเอง ผมมีประสบการณ์การรบมาก่อน แล้วตอนนี้เรากำลังเป็นต่อพวกมัน น่าจะไม่มีอะไรมาก
    ซิลเวียร์
    : ฉันจะพาท่านนายพลกลับไปรักษาก่อน ยังไงพวกคุณก็ดูแลที่นี่ด้วยนะคะ // ซิลเวียร์พานายพลเนโรขึ้นรถม้า จากนั้นก็เคลื่อนรถม้าออกไปจากค่ายทหารแห่งนั้น
    โซรอน
    : ตอนนี้ผมคงต้องดูแลกองทัพแทนท่านนายพลสินะ
    คูเปอร์
    : ครับ ท่านต้องการอะไรสั่งมาได้เลยครับ
    โซรอน
    : ตอนนี้เราต้องรีบจบสงครามนี้โดยเร็ว สั่งทหารที่เดินทัพได้เตรียมเคลื่อนทัพ

    คูเปอร์ : ท่านแน่ใจแล้วเหรอครับ

    โซรอน : แน่นอน ไปจัดเตรียมกองทัพได้
    และอีกฝากหนึ่ง เอ็ดเวิร์ดที่เพิ่งจะนำกองพลของเขาเดินทัพเข้าแทรกซึมที่ชายแดนแคว้นเดลล์ พวกเขาเดินเท้าเข้าป่าไปเรื่อยๆ เพื่อสำรวจเส้นทางก่อนที่ทหารกลุ่มอื่นๆจะบุกเข้าไปยังแคว้นเดลล์ แต่ในตอนนั้นสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ทหารของเขาเริ่มจะป่วยด้วยอาการไข้ป่า
    เอ็ดเวิร์ด
    : พวกคุณเป็นยังไงบ้าง พอไหวหรือเปล่า
    พอไหวครับท่านแต่ยังไม่ทันไร ทหารคนนั้นก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นซะแล้ว

    เอ็ดเวิร์ด : แย่แล้ว รีบหายาให้เขาด่วนเลยครับ

    พวกเขาตัดสินใจว่าจะหยุดพัก เพื่อปรุงยารักษาทหารในทัพ
    ท่านครับ ท่านก็อยู่ในป่ามานาน ทำไมดูท่านไม่เห็นเป็นไรเลยครับ

    เอ็ดเวิร์ด : ผมเคยอยู่เกาะวอลล์พีมาก่อนหน่ะ ไข้ป่าพวกนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก
    ครับท่าน นายพลโซรอนบ้าจริงๆที่ให้เรามาอยู่ที่นี่

    เอ็ดเวิร์ด : เอาน่า มันเป็นหน้าที่ของเรา ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

    กลับมายังฟิลล์บอน พอลลี่พาสการ์เล็ตและทหารของเธอฝ่าวงล้อมออกมา กลับเมืองได้อย่างปลอดภัย แต่เธอกลับโดนนายพลนอร์ทต่อว่าอย่างหนักที่ทหารของเขาตายไปมากมาย เรื่องนี้ทำเอาสการ์เล็ตร้องไห้ออกมา พอลลี่วิ่งเข้าไปกอดสการ์เล็ตทันทีเมื่อเห็นเธอร้องไห้

    พอลลี่ : ดิฉันขอโทษนะคะที่ทำให้ท่านเดือดร้อน

    สการ์เล็ต : ไม่เป็นไรหรอก เธอทำดีที่สุดแล้วนะ

    พอลลี่ : ท่านนายพลนี่คิดจะฆ่าลูกสาวตัวเองหรือไง

    สการ์เล็ต : อย่าพูดถึงท่านแบบนี้นะ

    พอลลี่ : ค่ะ ขอโทษค่ะ ว่าแต่เราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ

    สการ์เล็ต : ตอนนี้เราต้องวางแผนให้รัดกุมกว่านี้ ไม่งั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งคนไปตายหรอก
    พอลลี่
    : นั่นสิคะ ว่าแต่ท่านมีแผนอะไรหรือเปล่าคะ
    สการ์เล็ต
    : เราต้องแบ่งกำลังออกเป็นหน่วยย่อยๆ จัดการพวกมันไปทีละค่ายหน่ะ
    พอลลี่
    : ดิฉันอาสาจัดการเองค่ะ
    สการ์เล็ต
    : ไม่ต้องฝืนใจหรอกนะพอลลี่

    พอลลี่ : ไม่ต้องห่วงค่ะ ดิฉันจะจัดการเองค่ะ
    อีกด้านหนึ่งของทะเลทหาร ซิกนัสก็นำกองโจรของเขาเตรียมบุกค่ายย่อยของโซราบอล เพื่อโจมตีตัดกำลังข้าศึก กองทหารม้าของซิกนัสควบเข้าไปยังที่มั่นของทหารโซราบอล จากนั้นก็โจมตีอย่างรวดเร็ว ทหารโซราบอลที่เหนื่อยล้าก็พากันล้มตายเป้นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะพยายามยิงสกัดก็ไม่ได้ผลมากนัก ทหารของซิกนัสโจมตีอย่างหนักหน่วง
    ซิกนัส
    : ฆ่าพวกมันให้หมด ฆ่ามัน
    ทหารโซราบอลถูกตีจนถอยร่นออกจากค่าย จากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เคลียร์พื้นที่กัน
    ท่านครับ การโจมตีครั้งนี้ดีเกินคาด เรายึดอาวุธและเครื่องแบบมาได้เยอะแยะเลยครับ
    ซิกนัส : เยี่ยมมาก ตอนนี้รีบพาคนเจ็บไปรักษาด่วน
    ท่านว่าพวกมันจะกลับมาหรือเปล่าครับ
    ซิกนัส : ไม่หรอก ถ้ามันกลับมา เราก็หนีเข้าทะเลทราย พอมันเหนื่อย เราก็ตามไปฆ่าพวกมัน
    ครับท่าน

    กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า ในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งพักผ่อนกัน ก็มีนกตัวหนึ่งบินมาหามาร์ธ่า มาร์ธ่าเอานกตัวนั้นมา หยิบจดหมายที่สอดอยู่ในเท้าของนก จากนั้นเธอก็เอาจดหมายฉบับนั้นมาอ่านทันที
    มาร์ธ่า
    : ซาร่า ดูนี่สิ นอร์ดิกไปถึงริงก้าแล้ว
    ซาร่า
    : จริงเหรอคะแม่ แบบนี้นอร์ดิกก็ปลอดภัยแล้วสินะคะ
    มาร์ธ่า
    : แต่นอร์ดิกได้เป็นผู้สืบทอดของแคว้นริงก้าแล้วหน่ะสิ
    ซาร่า
    : จริงเหรอคะ แล้วแบบนี้เนโรก็คง
    มาร์ธ่า
    : ฉันไม่อยากให้เขาทำอะไรเนโรเลย ฉันคงต้องทำอะไรซักอย่าง
    ซาร่า
    : สำหรับตอนนี้หนูว่าคงจะหยุดนอร์ดิกยากแล้วหล่ะ

    กลับมายังสถานทูตเยอรมัน แอนตาร์กติกกำลังเขียนเอกสารฉบับหนึ่งเพื่อส่งเรื่องไปยังเบอร์ลิน ในขณะนั้นเอง มีหญิงสาวคนหนึ่งจากสถานทูตอังกฤษมาขอเข้าพบเธอ เพื่อคุยเรื่องสำคัญระหว่างประเทศบางอย่าง
    สวัสดีค่ะ ดิฉันแพททริเซีย อาร์สตัน จากสถานทูตอังกฤษค่ะ

    แอนตาร์กติก : สวัสดีค่ะ ว่าแต่ คุณมีธุระอะไรกับฉันหล่ะ

    แพททรีเซีย : ค่ะ หลังจากที่มีการปราบโจรสลัด ทางเรามีสนธิสัญญาจัดการกับพวกมัน

    แอนตาร์กติก : หมายความว่า ทางคุณได้รับหน้าที่ให้จัดการพวกโจรทุกคนอย่างงั้นเหรอคะ
    แพททรีเซีย
    : ใช่ค่ะ เรามีสนธิสัญญาอย่างที่คุณว่ามาให้คุณได้
    แอนตาร์กติก
    : คุณช้าไปแล้วหล่ะ มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นผู้แทนจากแคว้นนี้เอาตัวนักโทษไปแล้ว

    แพททรีเซีย : คุณพอจะรู้มั้ยว่าพวกมันเป็นใคร

    แอนตาร์กติก : ฉันไม่แน่ใจ เห็นว่าเขาชื่ออิริคเนี่ยหล่ะ
    แพททรีเซีย
    : ฉันว่าเรามีปัญาหแล้วหล่ะ ฉันขอตัวนะ

    แอนตาร์กติก : ตอนนี้คนของฉันกำลังจับตาดูมันอยู่ เธอจับเขาให้ได้ก่อนฉันก็แล้วกัน
    กลับมายังสถานทูตรัสเซีย ในตอนนั้นเองโทมารอฟเตรียมนำคนของเขาเพื่อออกตามหาตัวอเล็กซ์สกี้กับอาวุธของพวกมัน เนื่องจากเขารอไม่ไหวแล้วที่จะตามหามัน

    ท่านครับ ตอนนี้คนของเราเตรียมพร้อมแล้วครับ

    โทมารอฟ : อ้อ เตรียมอาวุธให้พร้อม เราจะออกตามล่ามันกัน

    ว่าแต่ ท่านจะตามหาตัวมันจริงๆเหรอครับ

    โทมารอฟ : แน่นอน มีสายข่าวของฉันรายงานมาว่าพวกมันอยู่ที่ไหน

    ครับ แบบนี้มันเสร็จเราแน่ๆครับ

    โทมารอฟ : โอเค ตอนนี้ทุกคนมากันหมดแล้วนะ

    ตอนนี้นาวิกของเราก็มากันทุกคนแล้วครับ

    โทมารอฟ : ดีมาก อีก 10 นาทีออกเดินทางได้ // ระหว่างที่กำลังเตรียมพร้อม มีทหารคนหนึ่งท่าทางลึกลับเขียนจดหมายฉบับหนึ่งแล้วส่งไปกับเด็กคนหนึ่ง เอาจดหมายฉบับนั้นไปส่งใครบางคน

    กลับมายังบ้านพักของนายพลจอร์จ เขากลับบ้านมาโดยสภาพหัวเสียมาก ในระหว่างนั้นเองทหารของเขาก็มารายงานเรื่องของเขาให้ท่านนายพลฟัง

    ท่านครับ คุณแมทธิวมาถึงแล้วครับ

    ในระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ถือกระเป๋าเดินเข้ามาหาพ่อของเขาในบ้าน นายพลจอร์จไปรอรับเขาในทันที
    จอร์จ
    : แมทธิว เดินทางปลอดภัยดีนะ

    แมทธิว : ก็โอเคครับ แต่ผมว่า ที่นี่ไม่ค่อยต้อนรับผมเท่าไหร่

    จอร์จ : ดีที่แกมา ตอนนี้พ่อต้องการให้แกช่วยพอดีเลย

    แมทธิว : ผมมายังไม่ทันไรพ่อก็หางานให้ผมซะแล้วเหรอ

    จอร์จ : เอาน่า แกช่วยพ่อซักหน่อยไม่ได้งั้นเหรอ

    แมทธิว : ว่าแต่ มีเรื่องอะไรให้ผมช่วยงั้นเหรอ

    จอร์จ : ก็ไม่มีอะไรมาก พ่อโดนหลอกให้โจมตีชาวบ้านบนเกาะแห่งหนึ่ง พ่อว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลัง พ่ออยากให้แกไปสืบเรื่องนี้ให้หน่อย
    แมทธิว
    : นึกว่าจะยากอะไร งั้นเดี๋ยวผมไปเก็บของก่อนแล้วกัน อย่าลืมให้เงินผมด้วยหล่ะ // แมทธิวเดินเซงขึ้นห้องนอนของเขาไป

    กลับมายังทะเลแห่งหนึ่งแถบแคว้นบาส์ก กองเรือของลอเรนซ์ตามล่าเรือของอเมริกันที่จับลูกน้องของเธอไป เรือของเธอแล่นมาเรื่อยๆ จนเห็นเรือกลไฟของอเมริกาลำหนึ่งและเรือรบกำลังแล่นผ่านหน้าเธอ
    นายหญิงครับ เรือลำนั้นไงครับที่จับพวกเราไป

    ลอเรนซ์ : งั้นเหรอ กางใบเรือ และเตรียมพร้อมจู่โจมได้
    เรือของเธอแล่นเข้าไปเทียบข้างเรือรบของอเมริกา ทำเอาพวกเขาต้องเตรียมประจำสถานีรบ

    ลอเรนซ์ : ใช้ปืนใหญ่ยิงกระสุนควัน // เรือโจรสลัดยิงควันใส่พวกมัน ทำเอาพวกมันยิงปืนใหญ่ไม่ถูก จากนั้นเองเรือของลอเรนซ์ ก็แล่นไปเทียบเรือมัน จากนั้นก็กระโจนเข้าเรือแล้วสังหารทหารอเมริกาที่อยู่บนเรือ

    ลอเรนซ์ : ฆ่าพวกมันให้หมด ช่วยลูกน้องเราออกมา
    พวกเขาจัดการทหารอเมริกา จากนั้นก็เข้าไปยังห้องเรือ ที่กลุ่มโจรสลัดโดนขังอยู่ด้านในนั้น
    นายหญิง ช่วยพวกเราด้วยครับ

    ลอเรนซ์ : ห่ะ นี่มีชาวบ้านกับทาสด้วยงั้นเหรอเนี่ย
    จะเอายังไงต่อดีครับ

    ลอเรนซ์ : ปล่อยพวกเขาออกมา ยึดเรือลำนี้ไป ฆ่าพวกมันให้เหี้ยน
    กลุ่มโจรสลัดจัดการยึดเรือรบของอเมริกา ส่วนทหารอเมริกาที่เหลือถ้าไม่ตายก็โดดน้ำหนีกันหมด จากนั้นเรือของพวกเขาก็กลับไปยังเกาะเพื่อหลบหนี

    กลับมาที่ชายแดนแคว้นริงก้า หลังจากที่ขบวนคาราวานของคาเนสมาถึง คาเนสพยายามติดต่อนายพลอาร์เธอร์เพื่อนของเขา เพื่อที่จะให้การรับรองครอบครัวของเขา และในตอนนั้นเอง นายพลอาร์เธอร์ก็มารับตัวพวกเขาในทันที
    คาเนส
    : หวัดดี อาร์เทอร์เพื่อนยาก เป็นยังไงบ้าง

    อาร์เทอร์ : ฉันสบายดี คิดถึงนายจริงๆเลยหว่ะเพื่อน

    ดราโก้ : ขอบคุณมากนะที่คอยต้อนรับพวกเราหน่ะครับ

    อาร์เทอร์ : ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจอยู่แล้วครับ

    อาร่า : ว่าแต่ เราจะต้องไปแนะนำตัวกับใครหรือเปล่าหล่ะเนี่ย

    อาร์เทอร์ : ก็พวกคุณควรจะไปพบผู้นำคนใหม่ ทายาทของนายพลเตเวียสหน่ะครับ
    โคน่า
    : ห่ะ ท่านนายพลเตเวียสมีทายาทด้วยเหรอคะ

    อาเรียส : นั่นสิ ฉันรู้จักแค่เนม่าเขาแค่นั้นเองนะ
    อาร์เทอร์
    : เขาเป็นทายาทที่จากไปนาน ชื่อนอร์ดิกครับ
    อาเรีย
    : ว้าว ฉันชักอยากจะเห็นหน้าเขาแล้วจัง

    คาลิมบ่า : นี่ ฉันว่าเราเข้าไปที่พักของเราก่อนดีกว่านะ

    อาร์เทอร์ : อ้อครับ พวกคุณเชิญไปพักที่คฤหาสน์ของพวกคุณก่อนก็แล้วกันนะครับ

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก เกาะของโรส ซึ่งเธอและเพื่อนพานายทหารสองคนมาเที่ยวที่เกาะของพวกเธอเมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากกับทะเลแห่งนี้

    อาร์มเมอร์ : โห เพื่อน ดูที่นี่สิ โคตรน่าอยู่เลย นายว่ามั้ย
    สกาย
    : นั่นดิ มีน้ำจืดตรงสันเขานั้นด้วย แบบนี้ค่อยดีหน่อย

    โรส : เกาะนี้เป็นเกาะของชาวประมงหน่ะค่ะ

    เมด : น่าปล่อยให้สองคนนี้ติดเกาะแถวนี้นะว่ามั้ย

    แพท : นั่นสิ จะไม่ยอมให้กลับไปไหนเลยเนี่ย

    อาร์มเมอร์ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันอยากเล่นน้ำทะเลหน่ะ

    เมด : นี่ พวกนายไม่เคยเห็นทะเลกันหรือไงเนี่ย

    สกาย : เราไม่ได้มากันตั้งนานแล้ว เลยอยากเล่นกันหน่อย ไปกันเถอะ // ทั้งคู่ถอดเสื้อทำเอาพวกผู้หญิงพร้อมใจกันปิดหน้ากัน
    โรส
    : ยังไงก็ตามสบายกันนะคะ // โรสรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้แพทกับเมดดูสองหนุ่มเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน

     

    กลับมายังริงก้า หลังจากที่นอร์ดิกได้รับตำแหน่ง เขาต้องเตรียมทหารเพื่อป้องกันริงก้าจากการรุกรานจากหลายที่ ในตอนนั้นเองไซโซ เคจาและอาบาตูก็มาคอยเป็นผู้ช่วยเขาอีกทีหนึ่ง

    นอร์ดิก : ตอนนี้เรามีคนอยู่เท่าไหร่กันครับ

    เคจา : เท่าที่รู้มา น่าจะราวๆสองแสนคนได้นะ
    ไซโซ
    : แต่ว่า ก็ยังน้อยกว่าพวกโซราบอลอยู่ดีนี่นะ // ระหว่างนั้นเอง เอลิซ่ากับอาร์เทมิสซึ่งตามหานอร์ดิกอยู่ เมื่อเธอเจอเขาก็รีบเข้ามาคุยทันที

    อาร์เทมิส : คุณนอร์ดิกคะ ฉันมีเรื่องให้คุณช่วยหน่อย
    นอร์ดิก
    : เรื่องอะไรครับ

    อาร์เทมิส : ตอนนี้กลุ่มกบฏที่แคว้นเดลล์กำลังก่อการครั้งใหม่ ฉันอยากให้คุณจัดการพวกเขาหน่ะค่ะ

    เอลิซ่า : ฉันก็เห็นด้วยกับเธอนะ คุณนอร์ดิก ตอนนี้พวกโซราบอลกำลังบุกมา คุณต้องทำอะไรซักอย่างนะคะ
    อาบาตู
    : คุณหนูจะว่ายังไงดีครับ

    นอร์ดิก : ผมจะสั่งสอนไอ้เนโร ที่มันทำกับผมมาสิบปี สั่งทหารทุกคน ถ้าได้ตัวมันเมื่อไหร่อย่าเพิ่งฆ่ามัน เอาตัวมันมาอยู่ต่อหน้าผมให้ได้
    จากนั้นเองนอร์ดิกก็เตรียมทหารเพื่อทำสงครามรวมดินแดนในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าโซราบอลจะเจอศัตรูที่สมน้ำนมเนื้อกันแล้ว 
    =====================================================================
    ผู้นำคนใหม่เริ่มการเคลื่อนไหวแล้ว ในขณะที่สงครามกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้า
    ขอคนละเม้นท์เหมือนเดิมนะครัช



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×