ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 9 : เดินทางสู่ที่หมาย

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 61


    กลุ่มโจรได้เข้าโจมตีพวกของนอร์ดิกอย่างเหี้ยมกระหาย แต่พวกเขารวมทั้งเหล่านักศึกษาได้ป้องกันตัวเองอย่างแข็งขัน เนื่องจากพวกมันเป็นแค่โจรชาวบ้านธรรมดาจึงไม่มีฝีมือในการต่อสู้มากนัก ทำให้แพ้พวกของนอร์ดิกอย่างง่ายดาย

    อย่า อย่าทำอะไรพวกเราเลย เราแค่อยากได้เงินเลี้ยงครอบครัวหน่ะ

    นอร์ดิก : กลับไปซะ อย่าคิดทำอะไรแบบนี้อีก เอานี่ไปซะ // นอร์ดิกโยนเงินให้จำนวนหนึ่ง ทำให้พวกมันเอาเงินและรีบหนีไป

    เคจา : ให้เงินไปมันตั้งเยอะเลยนะ มันจะดีงั้นเหรอ

    นอร์ดิก : ไม่เป็นไรหรอกพี่ อีกอย่างเราใกล้จะถึงริงก้าแล้วหล่ะ

    นิโคลัส : ขอบใจมากนะที่ช่วยฉัน ความจริงมันต้องการแค่เงินของฉันหน่ะ

    ไซโซ : ว่าแต่ เงินพวกเนี่ย นายไปเอามันมาจากไหนหล่ะ

    เอ็น : เราเป็นแค่พ่อค้าหน่ะ เรากำลังจะไปทำการค้าที่ริงก้า

    นิโคลัส : ฉันสาบานได้ เงินส่วนนี้ฉันไม่ได้ไปโกงใครที่ไหนมาเลยนะ

    อาบาตู : ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะครับ พวกคุณปลอดภัยก็ดีแล้ว

    ซอล : เฮ้อ ความจริงฉันไม่ค่อยถูกกับพวกพ่อค้าเท่าไหร่ แต่ช่างเถอะ นายคงจะดูไม่มีพิษภัยอะไรเท่าไหร่

    เอ็น : นี่ เห็นพวกเราเป็นอะไรเนี่ยห่ะ

    นอร์ดิก : ใจเย็นน่า ว่าแต่ตอนนี้มีใครบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

    ซอล : เพื่อนฉันเจ็บไปห้าคน แต่คนอื่นๆยังปลอดภัยดีหน่ะ

    ไซโซ : ฉันว่านะ ตอนนี้เรารีบทำแผลแล้วเก็บของไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่า

    เคจา : นั่นสิ เดี๋ยวพวกมันจะกลับมีอีก คราวนี้เราอาจไม่รอดแน่

    นอร์ดิก : คุณอาบาตูครับ อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงริงก้าครับ

    อาบาตู : อีกไม่กี่ไมล์เราก็จะถึงแล้วครับ

    ซอล : ว่าแต่ พวกนายจะเอายังไงต่อ จะไปด้วยกันหรือเปล่าหล่ะ

    นิโคลัส : ก็ต้องไปสิ ว่าแต่นายเนี่ย ท่าทางจะเรียนมาสูงนะ

    ซอล : ก็ใช่ ฉันมีอาจารย์คนหนึ่ง เคยไปเรียนที่ฝรั่งเศสมาสอนฉันหน่ะ

    เอ็น : อ้อ ถ้านายอยากไปเที่ยวที่นั่น ฉันจะพานายไปเอาป่าว

    ซอล : ฉันว่า นายรักษาแผลให้หายก่อนดีกว่านะพวก

    นอร์ดิก : เอาหล่ะครับทุกคน ผมว่ารีบไปจากที่นี่กันเถอะ

    พวกเขารีบทำแผลให้คนเจ็บ จากนั้นก็เก็บของไปเพื่อเดินทางกันต่อไปยังเมืองริงก้า

     

    กลับมาที่แคว้นเดลล์ ในตอนนั้นเองเขากำลังเตรียมกำลังพลของเขาเพื่อบุกเข้าโจมที่มั่นของผู้เฒ่าตาร์ก พวกเขาปรึกษากับทหารของเขาเพื่อวางแผนทำการโจมตีในครั้งนี้

    ท่านครับ พวกของตาร์กมันมีกำลังมากกว่าเราถึง 5 เท่าเลยนะครับ

    บลู : ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าจะจัดการพวกมันยังไง

    จัดการ ยังไงเหรอครับ

    บลู : พวกของไอ้แก่นั้น มันเอาแต่หดหัวอยู่แต่ในที่มั่นของมั่น แต่ที่มั่นของมันมีช่องโหว่อยู่

    ช่องโหว่ ตรงไหนเหรอครับท่าน

    บลู : เส้นทางขึ้นเขาตรงนี้เป็นเส้นทางลับ ที่ฉันส่งคนไปสำรวจแล้ว พวกมันไม่มาสำรวจเส้นทางนี้เลย แต่เส้นทางนี้ขึ้นลงและถอนตัวได้ง่าย เราน่าจะโจมตีพวกมันโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

    ว่าแต่ คนของเราจะทำได้เหรอครับ

    บลู : ได้สิ ฉันให้ทหารม้าเตรียมพร้อมขึ้นเขาเรียบร้อยแล้วหล่ะ

    ได้ครับท่าน ผมจะรีบไปสั่งการเดี๋ยวนี้เลยครับ

    บลู : ดี ตอนนี้เราต้องจัดการพวกมันแบบไม่ทันตั้งตัว เป็นทางเดียวที่จะสู้กับพวกมันได้ เอาหล่ะ ไปกันดีกว่า

     

    กลับมายังเมืองแห่งหนึ่งที่แคว้นเดลล์ ในตอนนั้นเองเอลิซ่าได้ข่าวจากสี่พี่น้องของเมเทอร์ ซึ่งมีม้าเร็วมาส่งข่าวถึงเธอในตอนเช้า เธอเปิดจดหมายอ่านทันที โดยที่เพื่อนของเธอสองคนนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย

    เอลิซ่า : พวกโซราบอล มันกำลังจะยึดครองโมโรวินในไม่ช้านี่แล้ว

    เมเทอร์ : ห่ะ จริงเหรอ แล้วพวกพี่น้องฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ

    เฟรย์อา : นั่นสิ หวังว่าพวกเขาจะหนีออกมาได้ทันเวลานะ

    เอลิซ่า : พวกเขาหนีออกมาได้ ฉันอยากรู้ว่าที่นั่นจะเป็นยังไงกันบ้าง

    เมเทอร์ : เราก็ไม่รู้ เราอยู่ในสถานะที่ยังทำอะไรไม่ได้นะ

    เฟรย์อา : ว่าแต่ สมาชิกของเราที่นั่นหล่ะ จะทำยังไงกันต่อหล่ะ

    เอลิซ่า : ตอนนี้ฉันประกาศไปแล้ว ให้สมาชิกที่เหลือหนีไปที่ริงก้าด่วนเลย

    เฟรย์อา : ฉันว่าตอนนี้เรารีบไปที่ริงก้ากันก่อนดีกว่า

    เอลิซ่า : นั่นสิ พูดถึงก็อยากไปพอดี รีบบอกคนของเราให้ไปกันดีกว่า

    เมเทอร์ : แหม่ ท่าทางจะรีบเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย

    พวกเธอกับคนของเธอรีบเก็บของ จากนั้นก็รีบเดินทางไปยังริงก้าโดยทันที

     

    และอีกด้านหนึ่ง คาราวานของชายทั้งสี่คนก็เคลื่อนมาถึงชายแดนของแคว้นเดลล์ ในขณะนั้นเองพวกเขาก็ตื่นเต้นมากที่ได้มาถึงที่นี่

    เลออน : พี่ครับ เรามาถึงแคว้นเดลล์แล้วครับ สดชื่นจังเลย

    เอเทอร์ : นั่นดิ แต่ฉันว่านะ เสียงปืนมันแลดูจะดังไปหน่อยนะเนี่ย

    แมทธิว : อ้อ ดูท่าสงครามกลางเมืองที่นี่จะรุนแรงมากเลยนะ

    มาร์ธิว : พี่ว่า เรารีบผ่านแถวนี้ไปก่อนดีกว่า ไม่งั้นอาจจะเจออะไรก็ได้ // ในตอนนั้นเอง เสียงปืนก็ดังใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาพวกเขาเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย

    เลออน : พี่ ผมว่ามันมาแล้ว ให้ผมไปหยิบปืนเลยมั้ย

    แมทธิว : เก็บปืนนายไว้เถอะ นายไม่อยากตายก่อนไปถึงริงก้าใช่ไหม

    เอเทอร์ : นี่ไม่ใช่สงครามของเรา บอกคนของเราห้ามยิงเด็ดขาด ไม่ว่าเจออะไร

    มาร์ธิว : รีบไปจากที่นี่ ทุกคนขึ้นรถม้า เร็ว // ขบวนของเขารีบขึ้นรถม้าจากนั้นก้รีบหนีไปจากที่นั่น ก่อนที่พวกเขาจะตกเป็นเป้ากระสุนปืน

     

    อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่โอลลี่ปล้นกองทัพของโซราบอลมาได้ พวกเธอก็เอาของที่ปล้นมาได้มาแบ่งกันเองบางส่วน บางส่วนก็เอาไปบริจาคให้กับชาวบ้าน ในตอนนั้นเอง มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งมาบอกข่าวกับเธอที่กำลังแบ่งของกันอยู่

    โอลลี่ แย่แล้ว ตอนนี้โมโรวินแตกแล้วนะ

    โอลลี่ : ห่ะ จริงเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าเมืองหลวงจะแตกเร็วขนาดนี้

    ใช่ครับ ผฃนายพลของเราก็โดนยิงตายกลางเมืองด้วยครับผม

    โอลลี่ : ระยำจริงๆ ปกติผู้นำจะไม่ฆ่าผู้นำด้วยกันนี่

    ว่าแต่ตอนนี้จะเอายังไงต่อครับ พวกมันเกือบจะได้มอร็อคทั้งแคว้นแล้วนะครับ

    โอลลี่ : ตอนนี้เราคงปล้นไม่ได้แล้วหล่ะ สั่งคนของเราให้หนีไปที่แคว้นเดลล์ก่อน

    ได้ครับ

     

    ทางด้านของกองทัพโซราบอล หลังจากที่กองทัพของนายพลเนโรพิชิตเมืองโมโรวินได้สิ้นแล้ว แต่เขาก็ต้องแลกกับทหารที่ล้มตายไปมากมาย รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีแบบกองโจร ทำเอานายพลเนโรเริ่มจะกังวลใจเกี่ยวกับทหารของเขา

    คูเปอร์ : ท่านนายพลครับ ตอนนี้เราเสียทหารไปกว่าแสนนายแล้วนะครับ

    เนโร : ห่ะ อะไรนะ เป็นไปได้ยังไง ทั้งๆที่อาวุธและเสบียงของเราก็ดีกว่า

    คูเปอร์ : ทหารส่วนใหญ่ล้มตายจากโรคไข้ป่าครับ แถวยังเจอสงครามกองโจรอีก ตอนนี้เราเหลือแค่เกือบๆเจ็ดแสนเองนะครับ

    โซรอน : ถ้างั้น เราต้องรีบพิชิตศึกนี้โดยเร็วนะครับ ตอนนี้เราได้เมืองโมโรวินแล้ว อีกไม่นานเราก็จะไปเหยียบแคว้นเดลล์แล้วนะครับ

    นอสต้าร์ : นั่นสิครับ เราควรจะโจมตีมัน แล้วผลักดันมันไปให้ถึงแคว้นเดลล์เลยนะครับ // ตอนนั้นเอง นายพลเนโรก็เริ่มไอบ่อยมากขึ้น จนทหารต้องนำน้ำร้อนมาให้ดื่ม

    เนโร : ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็อยากจะรีบจบสงครามนี้ซะที

    คูเปอร์ : ท่านครับ ผมว่าท่านควรจะพักผ่อนนะครับ ผมจะไปเรียกหมอมาให้

    เนโร : ฉันไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้สั่งให้ทหารตามล่าพวกที่เหลือให้หมด

    ครับผมนายพลเนโรกลับเข้าไปในกระท่อมโดยที่มีคูเปอร์ประคองเขาไปด้วย ในตอนนั้นเอง โซรอนก็คุยกับนอสต้าร์ทันที

    นอสต้าร์ : ผมว่าเนโรคงจะไม่ไหวแล้วนะครับ

    โซรอน : ไม่ต้องห่วง ทางอเมริกาแจ้งมาแล้ว ยึดได้ทั้งดินแดนเมื่อไหร่ ให้จัดการได้เลย

    นอสต้าร์ : ครับผม

     

    ทางด้านกองพันของฟีนด์ หลังจากที่พวกเขาได้ข่าวว่าโมโรวินเมืองหลวงของเขาถูกยึดครองแล้ว เขาแทบจะเศร้าเพราะกองทัพที่เหลือของเขาถูกละลายหมดทั้งกอง แถมตอนนี้ที่เขามีเหลือก็แค่ไม่กี่หมื่นนาย

    ฟีนด์ : ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองเป็นยังไงบ้าง

    กำลังวุ่นวายหนักเลยครับ พวกเราตายกันไปหลายหมื่น ตอนนี้ที่เหลือรอดก็มาอยู่กับเราแค่ไม่กี่พันเองครับ

    ฟีนด์ : แล้วท่านนายพลหล่ะ เป็นยังไงบ้างหล่ะ

    เสียชีวิตกลางสมรภูมิครับผม

    ฟีนด์ : เฮ้อ น่าเสียดาย ความจริงฉันน่าจะไปพบท่านนายพลเป็นครั้งสุดท้ายนะ

    ว่าแต่ ตอนนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ

    ฟีนด์ : เราควรจะสู้กับพวกมันต่อไป ถอนกำลังไปที่แคว้นเดลล์ พยายามโจมตีพวกมันให้ได้มากที่สุด

    ได้ครับท่าน

    ฟีนด์ : เตรียมเสบียงและอาวุธหนัก ขนข้ามชายแดนไปก่อน หวังว่าคงจะยังมีฐานที่มั่นให้พวกเราสู้นะ

    แต่ว่าท่านครับ เราจะต้องหนีจากบ้านไปจริงๆเหรอครับ

    ฟีนด์ : ที่เราต้องหนี ก็เพราะเพื่อจะกลับมากู้บ้านเราได้ยังไงหล่ะ

    อีกด้านหนึ่งของป่า อราชยังคงทำการปล้นเสบียงของโซราบอลแบบเดิม แต่คราวนี้หลังจากที่พวกเขาโจมตีทหารได้จนหมด แต่คาราวานของโซราบอลกลับไม่มีอะไรเลย มีแต่กล่องอะไรซักอย่าง ในตอนนั้นเองโจรคนหนึ่งพยายามไปเปิดกล่องดู

    ท่านครับ นี่มันดินปืนนี่ครับ

    หลังจากที่มันพูดจบ อราชก็ยิงธนูไฟใส่รถม้าที่บรรทุกดินระเบิด ทำให้รถม้าคันนั้นระเบิดไปพร้อมกับทหารโซราบอลพวกนั้น ทหารโซราบอลแตกตื่นไปทั่ว จากนั้นเองกองโจรกองอราชก็ระดมยิงธนูใส่ทหารของโซราบอลจนปั่นป่วน

    แย่หล่ะ นั้นมันพวกโจรรูดิวนี่หว่า

    มันจะแย่ซักแค่ไหนเองวะ

    ระหว่างนั้นเอง เอ็ดเวิร์ดที่นำกำลังพลมาเสริมพอดี ก็เข้ามาช่วยยิงสกัดกองโจรของอราชเอาไว้ ทำเอาพวกมันเริ่มจะถอยเข้าไปในป่าเพราะกำลังมีน้อยกว่า

    อย่าปล่อยให้พวกมันหนีรอดไปได้

    ทหารโซราบอลไล่ตามพวกโจรนั่นไปทุกที่ เอ็ดเวิร์ดก็วิ่งตามล่าพวกโจรเข้าไปในป่า เขากับพวกอีกหนึ่งหมู่วิ่งตามพวกโจรไปทางด้านตะวันตก แต่ตอนนั้นเองพวกมันก็ยิงธนูใส่พวกของเอ็ดเวิร์ด แต่เอ็ดเวิร์ดรอดมาได้ จากนั้นก็ยิงสวนกับพวกมัน และในตอนนั้นเอง อราชก็เตรียมง้างคันธนูใส่เอ็ดเวิร์ด เหมือนกับที่เอ็ดเวิร์ดกำลังเล็งปืนไปที่เขา

    เอ็ดเวิร์ด : อย่าแม้แต่จะขยับเลยนะ

    อราช : งั้นเหรอ ถ้านายต้องการอย่างงั้น ก็ออกไปจากแผ่นดินนี้ซะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันไม่มีทางเลือกเท่าไหร่ ฉันเป็นทหาร นายก็น่าจะรู้

    อราช : นายดูไม่เหมือนทหารทั่วไปเลยนะ นายมาจากไหนกันแน่

    เอ็ดเวิร์ด : นายจะถามไปทำไม จะสนใจอะไรกัน

    อราช : ก็ไม่มีอะไร ฉันคิดว่าคนอย่างนายไม่น่ามาอยู่ที่นี่เลยหว่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันมาเพื่อปราบพวกโจร นั่นคือหน้าที่ของฉัน

    อราช : ถ้าฉันเป็นโจร ก็ถือว่านายมาปล้นบ้านโจรหล่ะ เรามันก็ไม่ต่างกันหรอก

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันเข้าใจนะ นายก็ต้องปกป้องบ้านนายอยู่แล้ว แต่ฉันมีหน้าที่ของฉัน หวังว่านายจะเข้าใจนะ

    ระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน ทหารโซราบอลอีกส่วนหนึ่งก็ยิงไล่พวกเขามา ทำเอาอราชต้องหนีไปอีกทางหนึ่ง อราชหนีเข้าไปในป่าในขณะที่ทหารคนอื่นๆก็มาคุ้มกันเอ็ดเวิร์ด

    ผู้กองครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันไม่เป็นอะไรหรอก รีบพาทหารที่บาดเจ็บไปรักษาก่อนเถอะ

     

    กลับมายังแคว้นฟิลล์บอน ซึ่งในขณะนั้นนายพลนอร์ทกำลังระดมกำลังทหารใหม่เพื่อเตรียมบุกเข้ายึดดินแดนส่วนอื่นของมอร็อคต่อไป ทหารนับแสนของนายพลนอร์ทเตรียมเดินทัพเข้าสู่ใจกลางทะเลทรายอันร้อนระอุแล้ว

    สการ์เล็ต : ท่านพ่อ ท่านกำลังจะเดินทัพผ่านทะเลทหารเหรอคะ

    นอร์ท : แน่นอน พ่อสั่งให้คนสำรวจโอเอซิสแถวนี้แล้วหล่ะ

    สการ์เล็ต : หนูเกรงว่า งานนี้อาจจะไม่ง่ายเหมือนเก่าสิคะ

    นอร์ท : อย่าไปคิดมากเลยลูก ทหารของเรามีมากมาย เราจะพิชิตมอร็อคได้ในเร็ววัน

    สการ์เล็ต : แต่น้ำของเราที่เตรียมไปจะเพียงพอเหรอคะ

    นอร์ท : นี่ พ่อเป็นผู้บัญชาการนะ พ่อรู้ว่าควรทำอะไร ลูกไปเตรียมทหารไว้ดีกว่า

    สการ์เล็ต : ค่ะท่านพ่อ // สการ์เล็ตควบม้าไปสั่งการอีกกองพลหนึ่ง ซึ่งเป็นกองพลหญิงล้วนที่เข้ารับราชการทหารกับโซราบอล

    ท่านคะ มีอะไรให้รับใช้คะ

    สการ์เล็ต : ฉันสังหรณ์ใจว่าพวกมันต้องทำอะไรบางอย่าง เฝ้าระวังที่โอเอซิสทุกที่ที่เจอเอาไว้

    ได้ค่ะ

    และอีกด้านหนึ่งของทะเลทราย ซิกนัสกำลังส่องกล้องทางไกลเพื่อดูความเคลื่อนไหวของทหารโวราบอลที่กำลังเดินทัพเข้ามายังใจกลางฟิลล์บอน

    ท่านครับ ดูเหมือนว่าพวกมันจะมาทางนี้ด้วยครับ

    ซิกนัส : เป็นไปตามแผน พวกมันต้องควานหาแหล่งโอเอซิสแน่นอน

    นั่นสิครับท่าน ดูท่าพวกมันจะไม่พกน้ำดื่มมามากเท่าไร่

    ซิกนัส : โอเอซิสหลอกที่ฉันให้ทำเป็นยังไงบ้าง

    ตอนนี้เตรียมพร้อมจะใช้งานแล้วครับ ว่าแต่ท่านจะทำอะไรเหรอครับ

    ซิกนัส : เดี๋ยวนายรอดูก็แล้วกัน เมื่อพวกมันหิวน้ำ ฉันจะให้มันกินน้ำให้หน่ำใจเลย

    ครับท่าน

     

    กลับมาที่เมืองซอร์ม แคว้นริงก้า หลังจากที่นายพลอาร์เทอร์ขับไล่พวกกบฏออกไปได้สำเร็จ พวกเขาก็กลับมาที่เมืองเพื่อให้ทหารพักผ่อน เพราะทหารเหนื่อยล้าจากสมรภูมิมามากพอแล้ว

    เนม่า : ท่านพี่คะ แล้วเราจะไม่จัดการพวกมันให้หมดเหรอคะ

    อาร์เธอร์ : ไม่ต้องหรอก เสียทัพซะขนาดนั้น พวกมันคงต้องซ่อนตัวไปอีกนานหล่ะ

    เซเลนส์ : นั่นสิครับ แล้วที่นี่ เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ

    อาร์เธอร์ : ตอนนี้ก็แค่ฟื้นตัวหน่ะ ทหารของเราบาดเจ็บหนัก คงยังทำอะไรไม่ได้มาก

    เนม่า : เออนี่พี่ หนูได้รับข่าวจากคนของหนูมา มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินทางมายังริงก้าหน่ะ

    อาร์เธอร์ : พอรู้มั้ยว่าพวกนั้นเป็นใครกัน

    เนม่า : หนูก็ไม่รู้ พวกเขามีกันเป็นสิบ มีคนผิวดำและก็ชายคนหนึ่ง พกอาวุธมาครบมือเลย

    เซเลนส์ : ให้ผมส่งคนไปจัดการเลยดีหรือเปล่าครับ

    อาร์เธอร์ : ฉันว่า นั่นคือคนที่เรากำลังรออยู่แน่ๆ

    เนม่า : พี่หมายถึง นอร์ดิก ลูกของพ่อหนูอย่างงั้นเหรอคะ

    อาร์เธอร์ : อาจจะใช่ แล้วคนดำที่ว่าอาจจะเป็นอาบาตูก็ได้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนหล่ะ

    เนม่า : คนของหนูบอกว่าพวกเขาใกล้จะถึงชายแดนแล้วค่ะ

    อาร์เธอร์ : เซเลนส์ นายพาคนของเราไปรับเขามาที่นี่ อย่าให้เขาเป้นอะไรไปเด็ดขาด

    เซเลนส์ : ทราบแล้วครับ // เซเลนส์เดินออกไปด้านนอกทันที

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า วันนั้นเอง วิเวียนก็ดันโผล่มาเยี่ยมมาร์ธ่าจนได้ เธอได้นำของจำนวนหนึ่งมาเยี่ยมเธอหลังจากที่ไม่ได้เยี่ยมมานานมาก

    วิเวียน : คุณแม่ คุณพี่ขา สวัสดีค่า

    มาร์ธ่า : สวัสดีจ้ะ วันนี้นึกยังไงมาเยี่ยมฉันหล่ะเนี่ย

    วิเวียน : แหม่ ก็เห็นแม่โดนโจรปล้น หนูก็เลยมาเยี่ยมหน่อยหน่ะค่ะ

    ซิลเวียร์ : ตอนนี้คุณท่านสบายดีแล้วค่ะ ไม่เป็นไรมากแล้ว

    วิเวียน : จริงด้วยสินะ เธอเองก็ดูแลแม่ฉันดีมากนี่ ขอบคุณจริงๆนะ

    ซิลเวียร์ : มันเป็นหน้าที่ของฉันค่ะ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว

    ซาร่า : ว่าแต่ เธอได้เจอกับเนโรเขาบางหรือเปล่าหล่ะ

    วิเวียน : ก็ ช่วงนี้เขาไปรบบ่อย ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ค่ะ

    มาร์ธ่า : เฮ้อ เมื่อไหร่เจ้าลูกคนนี้จะกลับมาบ้านซะทีนะเนี่ย

    วิเวียน : โธ่ คุณแม่ขา คุณพี่ก็มีหน้าที่ของคุณพี่เขานะคะ เอ๊ะ หนูต้องไปทำธุระข้างนอก ขอตัวก่อนนะคะคุณแม่ // จากนั้นเธอก็เดินออกไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

    ซิลเวียร์ : คุณท่านคะ ให้ฉันเอาของพวกนี้ไปเก็บที่ห้องมั้ยคะ

    มาร์ธ่า : ไม่เป็นไรหรอก พาฉันไปเดินเล่นข้างนอกก่อนดีกว่า ของพวกนี้ให้คนเอาไปเก็บก็ได้จ้ะ

    วิลเวียร์พามาร์ธ่าออกไปสูดอากาศด้านนอก และขณะเดียวกันเธอก็สงสัยในพฤติกรรมของวิเวียนด้วย

     

    กลับมายังชายฝั่งของแคว้นเดลล์ หลังจากที่แอนตาร์กติกนำกำลังทหารของเธอออกล่าโจรสลัด วีรกรรมครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก เธอกลับมายังสถานทูตพร้อมด้วยอาวุธและเชลยที่เธอจับมาได้

    ท่านครับ จะเอายังไงกับเชลยพวกนี้ดีครับ

    แอนตาร์กติก : ส่งให้ทางการแคว้นเดลล์ดำเนินการกับพวกมัน

    แต่ว่า ที่เดลล์เนี่ยมีเจ้าของตั้งหลายคน จะส่งไปให้ใครหล่ะครับ

    แอนตาร์กติก : ส่งไปให้เลดี้อาร์เทมิส เธอน่าจะจัดการได้ เธอเป็นลูกเจ้าเมืองเก่าด้วย

    แต่ท่านครับ เลดี้อาร์เทมิส เพิ่งจะโดนกลุ่มกบฎถล่มจนถอยไปริงก้านะครับ

    แอนตาร์กติก : ห่ะ เป็นไปไม่ได้ เธอไม่มีทางจะแพ้ง่ายขนาดนั้นนี่

    ซารานิส อดีตเสนาธิการของพ่อเธอเป็นคนทำครับผม

    แอนตาร์กติก : ถ้างั้นก็ไม่มีทางเลือก จับพวกมันไปขังไว้ที่คุกของพวกเราก่อน

    ได้เลยครับ

    และอีกด้านหนึ่ง ของทะเลแคว้นเดลล์ ในระหว่างที่โทมารอฟกำลังขนอาวุธที่ยึดมาได้กลับมายังสถานทูตรัสเซีย ในตอนนั้นเองเรือบรรทุกอาวุธดันหันหัวเรือแล่นออกไปนอกเส้นทาง ทำเอาพวกเขาแปลกใจและงงเป็นไก่ตาแตก

    โทมารอฟ : เฮ้ย เรือพวกนั้นจะไปไหนของมัน สั่งให้พวกเขากลับมาเดี๋ยวนี้

    แต่ในระหว่างนั้นเอง กลุ่มเรือโจรสลัดก็แล่นเข้ามาใกล้กับกองเรือของเขา โทมารอฟต้องสั่งระดมพลเพื่อต่อต้านกลุ่มโจรสลัดเหล่านั้น

    โทมารอฟ : พวกมันมาแล้ว เตรียมปืนใหญ่ให้พร้อม ยิงได้ทันทีที่เจอ

    ปืนใหญ่ของกองเรือรัสเซียยิงใส่พวกมัน แต่พวกมันก็ยิงตอบโต้ และแล่นเรือมาใกล้กองเรือของพวกเขา ทหารของโทมารอฟได้ต่อต้านอย่างสุดกำลัง เสียงปืนดังไปทั่วน่านน้ำ

    ท่านครับ เรือขนอาวุธกำลังจะหนีไปแล้วครับ

    โทมารอฟ : ช่างมันก่อนเถอะน่า รีบหนีออกไปจากที่นี่ก่อน เร็ว

    กองเรือของโทมารอฟแล่นฝ่ากลุ่มโจรสลัดออกมาได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ต้องเสียเรือขนอาวุธให้กับพวกโจรสลัดทั้งหมด เรื่องนี้ทำเอาโทมารอฟแทบจะเป็นบ้าไปเลย

    โทมารอฟ : นี่มันเกิดบ้าอะไรกันขึ้นเนี่ย

    ผมว่า ต้องมีคนทรยศในหมู่พวกเราแน่นอนครับ

    โทมารอฟ : ฉันก็ว่างั้น แต่มันเป็นใครกันแน่

    ผมว่า อเล็กซ์สกี้มันต้องมีคำตอบแน่นอนครับ

    โทมารอฟ : ถ้ามันอยู่ที่รัสเซีย มันติดคุกตายที่ไซบีเรียไปแล้ว ไอ้สารเลวเอ้ย

    เราจะทำยังไงต่อดีครับท่าน

    โทมารอฟ : สั่งกองเรือของเราให้ติดตามไปทั่วทุกที่ ที่เรือขนอาวุธไป ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าอเล็กซ์สกี้มันกำลังจะทำอะไรกันแน่

    และทางด้านของนายพลจอร์จ หลังจากที่กองเรือของเขามาเทียบท่าที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง เขารีบเรียกรถม้าเพื่อไปยังสถานทูตอังกฤษทันที เพื่อสืบหาว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังกันแน่ รถม้าของเขาขับไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีทหารม้าอังกฤาคนหนึ่งถือจดหมายหยุดที่หน้ารถม้าของเขาทันที

    ท่านนายพลจอร์จครับ มีจดหมายจากสถานทูตส่งมาถึงท่านครับ

    จอร์จ : นี่มันอะไรกันเนี่ย ทหาร ไปหยิบจดหมายนั่นมาสิ

    ทหารของเขาไปหยิบจดหมายมา จากนั้นนายพลจอร์จก็ไม่รอช้า หยิบมันขึ้นมาอ่านทันที

    มีอะไรหรือเปล่าครับท่าน

    จอร์จ : นึกแล้วไม่มีผิด เขาต้องถามถึงความเคลื่อนไหวของโจรสลัดที่ผมออกล่า

    ท่านว่ามันจะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าครับ

    จอร์จ : แน่นอน รีบกลับสถานทูตทันที ฉันอยากจะรู้ว่าใครมันเล่นกับฉันแบบนี้ ทหาร เอาชามาให้ฉันดื่มที // ทหารคนหนึ่งถือกระติกน้ำที่มีชาร้อนให้นายพลจอร์จ จากนั้นรถม้าก็ออกเดินทางต่อ

     

    กลับมายังฟิลล์บอน ขบวนคาราวานของดราโก้กำลังเคลื่อนที่เพื่อไปยังริงก้า ในตอนนั้นเองเขากับบริวารก็ต้องคอยคุ้มกันตัวเองจากกลุ่มชาวบ้านผู้อพยพคนอื่นๆด้วย เพราะหลายครอบครัวในฟิลล์บอนก็หนีทหารโซราบอลมาเหมือนกัน

    อาร่า : คุณคะ ชาวบ้านเริ่มจะออกมาเบียดเสียดกันเยอะแล้วนะคะ

    ดราโก้ : นั่นสิคุณ ตอนนี้ขบวนของเราแทบไม่ขยับเลยเนี่ย

    อาเรียส : คุณแม่คะ แล้วโคน่าเมื่อไหร่เขาจะมาหล่ะคะแม่

    อาร่า : ใจเย็นสิลูก เดี๋ยวเขาคงจะมาเร็วๆนี้หล่ะ

    และในตอนนั้นเอง ขบวนคาราวานของโคน่าก็โผล่มาพอดี พวกเขากลับมาพร้อมกับงานวิจัยบางส่วนที่คว้าเอามาได้

    อาเรีย : ดูสิคะ พวกเขามาแล้ว โคน่า เราอยู่ทางนี้

    คาเนส : ว่าไง ปลอดภัยกันดีนะพวกเธอ

    โคน่า : ก็โอเคค่ะพี่ เอาของที่จำเป็นมาได้หมดแล้ว

    คาลิมบ่า : ว่าแต่ ผู้อพยพเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย

    ดราโก้ : ใช่สิลูก พ่อมาถึงคนก็มากันเยอะขนาดนี้แล้ว

    อาเรียส : ว่าแต่ เราหน่ะ เจอซิกนัสเขาบ้างหรือเปล่าหล่ะ

    โคน่า : ตอนนี้เขาทำศึกอยู่แถบชานเมืองหลวงอยู่หน่ะค่ะ

    คาลิมบ่า : ตอนนี้ได้ยินว่าพวกโซราบอลกำลังเดินทัพมาใกล้เรื่อยๆแล้วครับ

    อาเรีย : ตอนนี้ฉันเพิ่งจะได้ข่าวมาจากริงก้า นายพลอาร์เธอร์จัดการกลุ่มกบฏได้หมดแล้วนะคะ

    คาเนส : เยี่ยมไปเลย ฉันรู้จักนายพลอาร์เธอร์ อย่างน้อยเขาก็น่าจะคุ้มครองเราได้ ไปกันต่อเถอะ

    คาราวานของพวกเขาเดินทางไปกันต่อ ท่ามกลางประชาชนชาวฟิลล์บอนที่กำลังเดินทางอพยพไปเรื่อยๆ

     

    กลับมายังชายแดนของแคว้นเดลล์ กองทัพของอาร์เทมิสเดินทางผ่านป่ามาเรื่อยๆจนมาถึงชายแดนแคว้นริงก้า ในขณะนั้นเอง ทหารยามชายแดนก็เดินเข้ามาหาเธอในทันทีที่ได้เจอเธอ

    สวัสดีครับ พวกคุณเป็นใครกัน

    อาร์เทมิส : ฉันเลดี้อาร์เทมิส ฉันอยากคุยกับนายพลอาร์เธอร์หน่อย

    อ้อ ท่านเลดี้ครับ เชิญด้านในก่อนครับ

    เธอกับทหารของเธอเดินทัพเข้าไปยังเขตของริงก้า ในตอนนั้นเองก็มีนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับเธอในทันที

    สวัสดีครับคุณอาร์เทมิส

    อาร์เทมิส : อ้าว ผู้กองยูจีน สบายดีนะคะ

    ยูจีน : ครับ ผมสบายดี ว่าแต่ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ

    อาร์เทมิส : ฉันโดนหักหลัง จนโดนยึดเมืองไปได้ ฉันเลยมาหานายพลอาร์เธอร์ตามที่ฉันเคยส่งจดหมายไปหน่ะ

    ยูจีน : ครับ ท่านเลดี้ ผมจะพาคุณไปเจอกับท่านนายพล ส่วนทหารของคุณให้ไปอยู่ที่ค่ายของคุณก่อนก็แล้วกัน

    อาร์เทมิส : ขอบคุณมากนะ ฉันอยากไปเยี่ยมไปนายพลอาร์เธอร์อยู่พอดีเลย

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก หลังจากที่สกายและอาร์มเมอร์ทำงานของเขาที่แคว้นบาส์ก วันหนึ่งเขาไปเดินตลาดเพื่อหาอะไรกิน ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็บังเอิญมาเจอกับสามสาวเข้าพอดี เขาจึงเดินเข้าไปทักทายในทันที

    โรส : อ้าว คุณทหารสองคนนั้นนี่ สบายดีนะคะ

    เมด : ห่ะ นี่นาย ยังมาตามราวีพวกเราไม่เลิกอีกเหรอ

    สกาย : อะไรกัน ผมแค่มาเดินตลาดเฉยๆ มาเจอคุณก็เลยมาดูหน่ะ

    แพท : มาดูอะไร มาดูว่าพวกเราขายอะไรอย่างงั้นเหรอ

    อาร์เมอร์ : ก็ทำนองนั้นหน่ะ ฉันอยากรู้เฉยๆว่าพวกเธอขายดีด้วยหรือเปล่า

    ในระหว่างนั้นเอง มีกลุ่มทหารต่างชาติที่เคยมาหารเองเธอ มาเดินโวยวายที่ตลาด พวกเธอไม่รอช้ารีบเอาผ้าปิดหน้าทันที

    อาร์มเมอร์ : พวกเธอจะปิดหน้าปิดตากันทำไมหล่ะ

    แพท : ก็ป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อนหน่ะสิ

    เมด : ได้ยินว่าพวกต่างชาติพวกนี้ เมื่อมันเจอผู้หญิงมันจะฉุดไปย่ำยีหน่ะ

    โรส : ใช่ พวกเราเลยต้องพรางตัวเอาไว้หน่ะ

    สกาย : โธ่ แค่นี้เอง เดี๋ยวฉันจัดการเอง // ในตอนนั้นเอง พวกมันมาที่แผลขายปลาของพวกเธอ สกาบกัยอาร์มเมอร์ก็มาคอยกันท่าพวกมันไว้

    เฮ้ย หลีกไป เรามาตามหาพวกโจร

    สกาย : โจรอะไรของพวกนาย ที่นี่ไม่มีโจรให้พวกนายตามหาหรอก

    ไอ้พวกคนป่าเอ้ย แกจะหลีกไปดีๆมั้ย

    อาร์มเมอร์ : แกว่าใครคนป่า บ้านนี้เมืองนี้มีกฎหมาย ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนนะเว้ย

    หรือพวกแกอยากจะมีปัญหาวะพวกมันหยิบปืนขึ้นมา ในขณะที่ทั้งคู่ก็ชักปืนออกมาด้วย

    สกาย : ที่นี่เป็นแผ่นดินนอลโวร่า พวกแกไม่มีทำอะไรตามใจ เราไม่ใช่เมืองขึ้นของพวกแก

    อาร์มเมอร์ : ถ้ายังไม่อยากโดนยิงตายในต่างแดน ก็รีบไปไกลๆซะ

    ก็ได้ อย่าให้ฉันเจอแกอีกนะ พวกเรา ไปได้พวกมันรีบถอยกลับออกไป ในขณะที่พวกสาวๆก็โล่งใจขึ้นมา

    โรส : พวกมันไปแล้ว ไม่ต้องปิดหน้าแล้วหล่ะนะ

    เมด : นี่ ยังไงก็ขอบใจพวกนายมากเลยนะที่ช่วย

    สกาย : ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่ ที่พวกมันมาตามหาโจรนี่คืออะไรกัน

    แพท : ฉันก็ไม่รู้ สงสัยมีคนไปขโมยของมันหล่ะมั้ง

    อาร์มเมอร์ : ช่างมันเถอะ ยังไงคราวหลังพวกเธอก็ระวังตัวให้มากๆก็แล้วกัน

     

    กลับมายังชายแดนแคว้นริงก้า พวกของนอร์ดิกได้เคลื่อนพลมาเรื่อยๆ จนมาถึงชายแดนด่านตรวจของริงก้า ในตอนนั้นเองมีทหารนายหนึ่งมาหยุดขบวนของเขาไว้

    หยุดก่อนครับ พวกคุณจะไปไหนกันครับ

    นอร์ดิก : เรามาตามหาท่านนายพลอาร์เธอร์ที่ริงก้าครับ

    ระหว่างนั้นเอง เซเลนส์ก็ควบม้าพร้อมกับทหารบางส่วนมาพอดี ทหารที่ด่านตรวจต่างมาแสดงความเคารพกัน

    ท่านเซเลนส์ครับ

    เซเลนส์ : ทางนี้ฉันจัดการเอง พวกนายคอยดูเอาไว้ก็พอ // เซเลนส์เดินไปหาพวกของนอร์ดิกในทันที

    เซเลนส์ : สวัสดีครับ คุณพอจะพกของที่เราต้องการมาหรือเปล่า // นอร์ดิกหยิบจดหมายฉบับหนึ่งให้กับเซเลนส์ เซเลนส์หยิบจดหมายขึ้นมาดู จากนั้นก็ถามเขาต่อ

    เซเลนส์ : นายพลเตเวียสเขาสูงเท่าผมหรือเปล่า // นอร์ดิกมองเซเลนส์ตั้งแต่หัวจรดเท้า

    นอร์ดิก : ตอนผมยังเด็ก คุณยังตัวเล็กเท่าผมอยู่เลย

    เซเลนส์ : ผมเข้าใจแล้ว ได้โปรดมากับเราด้วยครับ // นอร์ดิกรับทราบจากนั้นก็เคลื่อนขบวนตามเซเลนส์ไป

    ======================================================================

    พวกเขาเดินทางมาริงก้าโดยสวัสดิภาพ แต่พวกเขาจะต้องเจอกับอะไรต่อไป แล้วสงครามจะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×