คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : เจอพวกนักเลง
ผ่านไปถึงช่วงต้นปี 1940 ฮัมบูร์ก
มิลเลอร์และเมอร์ลินได้เข้ารายงานตัวกับท่านผู้นำ
เธอได้รับการเลื่อนยศและฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่
และท่านผู้นำดูเหมือนจะปลื้มใจในตัวฮัมบูร์กมาก
ฮิตเลอร์ : ผมยินดีมากที่ได้ยินข่าวชัยชนะของคุณ
ฮัมบูร์ก : ขอบคุณค่ะท่านผู้นำ
ดิฉันยินดี
ฮิตเลอร์ : คุณอยากได้อะไรตอบแทนดีหล่ะ
ฮัมบูร์ก : ดิฉันอยากไปอยู่กองทัพเรือค่ะ
ฉันคิดว่าฉันจะทำได้ดีถ้าฉันได้อยู่ทัพเรือค่ะ
ฮิตเลอร์ : งั้นเหรอ
อืม งั้นเธออยากได้อะไรผู้การเอริชก็แล้วกันนะ แล้วพวกเธอทั้งสองคน มิลเลอร์
เมอร์ลินพวกนายอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า
มิลเลอร์ : ไม่ครับท่าน
พวกเรายังอยากอยู่ทัพบกต่อไปครับ
เมอร์ลิน : และผมชอบทัพอากาศด้วยครับ
ผมจะบุกอังกฤษให้ได้
ฮิตเลอร์ : เข้าใจหล่ะ
แล้วพวกคุณมีแผนยังไงกันหล่ะ
ฮัมบูร์ก : การที่เราจะพิชิตอังกฤษได้
เราควรจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินมากกว่านี้ แล้วก็เรือรบ
เรือลาดตระเวนและเรือดำน้ำมากกว่านี้ค่ะ
เมอร์ลิน : ทำไมต้องมีเรือบรรทุกเครื่องบินหล่ะ
ช่องแคบอังกฤษใกล้จะตาย
ฮัมบูร์ก : พวกเธอไม่รู้งั้นเหรอ
ว่าเรดาร์ของพวกอังกฤษน่ากลัวแค่ไหน
มิลเลอร์ : อืม
นั่นสิ ฉันก็เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน
ฮิตเลอร์ : เอาหล่ะ
ผมเข้าใจหล่ะ แล้วเดี๋ยวผมจะลองคิดดูอีกทีก็แล้วกัน
ที่เนเธอร์แลนด์
อ๊อตโต้พาแคทเทอรีนมายังเซฟเฮ้าส์ของเธอ
ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่อยู่ของอ๊อตโต้เท่าไหร่
เมื่อแคทเทอรีนมาถึงก็ขอบคุณอ๊อตโต้ทันที
แคทเทอรีน : ขอบใจมากนะอ๊อตโต้
แล้วว่างๆฉันจะไปเยี่ยมนะ
อ๊อตโต้ : ยินดีครับ
ว่างๆให้พวกเด็กๆเขาไปเล่นกับลูกฉันบ้างนะ แกอยากมีเพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยหน่ะ
แคทเทอรีน : ไม่ต้องห่วง
ฉันยินดี // แคทเทอรีนพาเด็กๆเข้าไปยังบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง
ซึ่งตอนแรกเด็กๆคิดว่าจะอยู่กันพองั้นเหรอ แต่เมื่อพวกเขาลงไปยังชั้นใต้ดิน
พวกเขาก็เห็นพื้นที่กว้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงอาวุธมากมาย
ทำเอาพวกเด็กๆต้องอึ้งกันเป็นแถว
อเล็กซ์ : โหว
คุณน้า มีอาวุธอยู่ในบ้านนี้เยอะแยะเลยเหรอคะ
นาวิน : แบบนี้ตั้งเป็นกองกำลังขนาดย่อมได้เลยนะเนี่ย
แคทเทอรีน : น้าพาพวกเธอมาที่นี่
ก็เพื่อที่จะฝึกอาวุธพวกเธอให้สู้กับพวกนาซีนั่นแหละ ตอนนี้พวกเธอไปเลือกอาวุธกันก่อนสิ
// พวกเด็กๆแกย้ายกันไปดูอาวุธที่ตัวเองชื่นชอบ
ซึ่งพวกเขาดูตื่นเต้นกันมาก
แซค : นี่
ฉันชอบปืนไรเฟิลแบบนี้อ่ะ ยิงไกลๆแบบนี้ฉันชอบ // แซคชอบปืนไรเฟิล Lee enfield ของอังกฤษ
โอ๊ค : โหว
คุณน้ามีดาบซามูไรด้วยเหรอครับเนี่ย // โอ๊คคว้าเอาดาบซามูไรมาแล้วก็ปืนกลอีกกระบอกหนึ่ง
ธิน : ฉันขอลองกระบอกนี้ก็แล้วกัน
เห็นในเกมแล้วเยี่ยมมาก //
เขาไปดูปืนกลขนาดกลางกระบอกหนึ่ง
โซเซีย : เฮ้ยนี่
ปืนกลมือแบบนี้ฉันชอบอ่ะ ขออันนี้แล้วกัน // โซเซียเลือกปืนกล
sten ของอังกฤษ
เอม : ฉันไม่ค่อยถนัดใช้อาวุธอ่ะ
แล้วเธอหล่ะออย
ออย : ฉันขอแค่ปืนธรรมดาก็พอ
ฉันไม่เรียกร้องอะไรมากหรอก
แคทเทอรีน : หนูเอม
หนูออย งั้นน้าจะสอนการปฐมพยาบาลในสนามรบเบื้องต้นให้ก็แล้วกันนะ
อยู่ที่นี่พวกเธอคงต้องฝึกกันหนักหน่อยนะทุกคน
“รับทราบครับ//ค่ะ” พวกเด็กๆพูดพร้อมกัน
ที่แนวรบด้านตะวันออกฝั่งโซเวียต
ออก้าถูกเรียกตัวโดยผู้บังคับบัญชาของเขา
“ออก้า
ที่คุณไปวุ่นวายในเขตเยอรมันนี่จริงหรือเปล่า”
ออก้า : ท่านครับ
ผมไม่ได้เข้าไปวุ่นวายครับ ผมแค่ไปหาเพื่อนครับ
“งั้นเหรอ ทางเยอรมันเขาเขียนจดหมายมาเตือนฉันหน่ะ”
ออก้า : ผมเสียใจครับท่าน
“แต่ช่างเถอะ ฉันมีงานให้นายทำหน่ะ”
ออก้า : งานอะไรครับท่าน
“ตอนนี้ที่ฟินแลนด์กำลังรบกันหนักเลยหล่ะ
ฉันอยากให้นายไปที่นั่น”
ออก้า : ได้เลยครับท่าน
ผมจะทำให้ดีที่สุดเลยครับ //
ออก้าขึ้นรถบรรทุกเตรียตัวเดินทางไปฟินแลนด์
ซึ่งตอนนั้นสงครามกำลังปะทุอย่างหนัก
ปลายเดือนมกราคม ณ
ท่าเรือแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ เจลามี่ได้มาถึงท่าเทียบเรือ
โดยที่มีรถคันหนึ่งมารอรับเขา
เขารีบไปขึ้นรถคันนั้นทันทีเพื่ออกเดินทางไปทำหน้าที่ของเขา
“เสียใจด้วยนะเรื่องเจเลมี่หน่ะ”
เจลามี่ : นี่นายรู้เรื่องได้ยังไงกันหล่ะ
“ก็ฉันมีสายอยู่บนเรือหน่ะ
ว่าแต่นายเตรียมพร้อมกับงานของนายนะ”
เจลามี่ : ฉันพร้อมแล้วหล่ะ
พาฉันไปที่พักของฉันเลยสิ
“พี่ครับ พี่ไม่ต้องห่วง
ผมจะตามล่าพวกที่มันทำกับพี่ให้ได้”
เจลามี่มองดูรูปของพี่สาวของเขาที่เพิ่งตายไป
เขาสาบานจะต้องตามสืบเรื่องนี้ให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
รวมถึงทำงานของพี่สาวเขาให้สำเร็จอีกด้วย
ณ มหาสมุทรแห่งหนึ่ง
ซึ่งกัสกำลังนั่งเรือกลับไปเยอรมัน
เพื่อไปตามหาวิคเตอร์คนที่ทำให้เธอเป็นข่าวในประเทศ
เธอมองท้องฟ้าอยู่แถวนั้นเพื่อผ่อนคลาย ระหว่างนั้นเองก็มีคนมาชวนเธอไปนั่งดื่มด้วยคน
“คุณครับ เจ้าของห้อง 334 อยากชวนคุณไปดื่มกับเขาหน่ะครับ”
กัส : ขอโทษนะ
ฉันยังไม่มีอารมณ์ตอนนี้หน่ะ
“อ้อครับ”
กัส : ว่าแต่
ใครกันหน่ะที่ชวนฉันหน่ะ
“เป็นนายทหารเยอรมันคนหนึ่งครับ
เขาบอกเขาสนใจในตัวคุณ”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอไปหานายทหารเยอรมันคนนั้นที่นั่งรอเธออยู่
เมื่อเขาเห็นเธอเขาได้รินไวน์ต้อนรับเธอทันที
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง
จะรังเกียจมั้ยถ้าผมจะเลี้ยงคุณหน่ะ”
กัส : ยินดีค่ะ
ว่าแต่ฉันถามอะไรคุณหน่อยได้หรือเปล่าคะ คุณรู้จักนายทหารคนหนึ่งที่ชื่อ
วิคเตอร์มั้ยคะ
“วิคเตอร์ อ้อ ผมรู้จัก คุณรู้จักเขางั้นเหรอ”
กัส : ยิ่งกว่ารู้จักซะอีกค่ะ
“อ้าว งั้นเหรอ งั้นผมจะพาคุณไปหาเขาเอง
แต่คุณช่วยดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยก็แล้วกันนะ”
กัส : ยินดีค่ะ
ณ ชายแดนกัมพูชา
เขาต้องปลอมตัวเข้าไปสืบข่าวเรื่องของพวกฝรั่งเศสในแถบอินโดจีน เขาต้องปลอมตัวอยู่กับพวกชาวเขาที่เร่รอนอยู่ตามชายแดน
จากนั้นก็หาทางส่งข่าวไปยังคนที่เขาไว้ใจได้
“ดูเหมือนว่าพวกฝรั่งเศสกำลังเตรียมสะสมอาวุธกันอยู่
ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะรายงานต่อไป” เขาส่งโทรเลขของเขาในกระท่อมแห่งหนึ่งส่งกลับไปยังกรุงเทพ
หลังจากที่เขาส่งเสร็จ เขาก็กลับมาพักผ่อน โดยที่ดูสร้อยเส้นเดิม
ที่โอ๊คเคยให้เขาไว้ก่อนที่จะจากมา มันเป็นของชิ้นเดียวที่เขาได้มาจากเขา
ทำไมฉันต้องคิดถึงเขาทุกวันเลยนะ
“โอ๊ค ทำไมฉันต้องคิดถึงนายทุกวันเลยนะ
นี่ฉันกำลังคิดอะไรกับนายหล่ะเนี่ย”
เขาถามตัวเองแบบนี้ทั้งวัน แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้
เพราะรัตก็มีหน้าที่ของเขาที่จะต้องทำเหมือนกัน
“คูณราต ม่ายทางาเหรอครับ” ชาวเขาคนหนึ่งมาหาเขา
“ทำเสร็จแล้วหล่ะ ผมมาพักผ่อนหน่ะ”
“สร้อยเส้งนี่สวยจางเลยคับ คุงได้มาจากที่ไหน”
“ของเพื่อนผมเองหล่ะลอซู”
“มางสวยมากเลยนาครับ”
ณ บ้านพักของโยชิตะ หลังจากที่โยชิตะเสร็จภารกิจของเขามาหลายวัน
เขาก็กลับมานั่งพักที่ค่าย แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ ซึ่งเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์
อลิสและรินกลับมาเยอรมันเพื่อมาเยี่ยมเขา โยชิตะดีใจมากที่พี่สาวและรินของเขามา
โยชิตะ : สวัสดีครับพี่
แล้วก็รินด้วย ทำไมพี่ผ่านแดนฝรั่งเศสมาได้หล่ะครับ
อลิส : พี่มาเส้นทางพิเศษหน่ะ เธออยู่ที่นี่สบายดีนะ
โยชิตะ : สบายดีครับพี่
แล้วรินหล่ะ สบายดีนะ
ริน : ฉันสบายดีจ้ะ
ไม่ต้องห่วงหรอก
โยชิตะ : พี่กินอะไรกันมาหรือยังครับ
เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้กิน
อลิส : พี่ว่าพี่ทำให้เธอดีกว่า
// ระหว่างนั้นเอง อลิสก็ไปเข้าครัว เพื่อทำอะไรให้น้องชายเธอกิน
ส่วนโยชิตะก็นั่งคุยกับรินอยู่ตรงนั้น
โยชิตะ : ไม่ตามพี่อลิสเข้าไปงั้นเหรอ
ริน : ไม่ดีกว่า
ฉันไม่อยากไปรบกวนพี่เธอหน่ะ
โยชิตะ : งานของเธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ
คงจะสบายดีนะ
ริน : ก็ไม่สบายขนาดนั้นหรอก
พูดตรงๆนะ ฉันคิดถึงพวกพี่ๆทุกคนที่จากมาหน่ะ
โยชิตะ : นั่สิพี่
ป่านนี้พี่นาวิน พี่อเล็กซ์จะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
ระหว่างนั้นเอง
อลิสก็กลับมาพร้อมกับอาหารที่เธอทำ จากนั้นเธอก็เสริฟมันให้กับน้องคนอื่นๆ
อลิส : คุยอะไรกันอยู่งั้นเหรอ
เสียงดังเชียว
โยชิตะ : คิดถึงพวกพี่นาวินหน่ะครับ
ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
อลิส : พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่คงไม่เป็นไรหรอก
โยชิตะ : นั่นสิ
ถ้าพี่ธินยังอยู่คงได้ทะเลาะกับพี่แน่ๆ
อลิส : แน่
กินไปเถอะหนูน้อย
ณ เส้นทางลับแห่งหนึ่งที่ชายแดนเยอรมัน ฝรั่งเศส
พวกเขาต้องพักรถกันก่อนเนื่องจากมืดค่ำแล้ว
พวกเขาตกลงกันว่าจะนอนที่โรงนาแห่งหนึ่ง
“เออนี่ นายนอนตรงนั้นไปก่อนก็แล้วกัน
เดี๋ยวฉันจะดูรถหน่อย ไม่รู้มันเป็นอะไร”
จูเลียส : ได้ครับ
ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ
เขาไปซุกหัวนอนในโรงนาแห่งหนึ่ง
ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็แหงะหล่ะ ถ้าเขากลับไปอังกฤษ
เขาก็ต้องไปเข้าร่วมกับกองทัพอีก เขาอยากเป็นอิสระมากกว่า
ระหว่างที่เขากำลังซุกหัวนอนอยู่ ก็มีรถอีกคันหนึ่งมาจอดแถวนั้นเหมือนกัน
จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาที่นอนในโรงนาเดียวกับเขา
ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือเคทนั่นเอง จูเลียสรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก
เคท : นึกว่าที่นี่จะไม่มีคนมานอนซะอีก
จูเลียส : ผมก็นึกอยู่เหมือนกัน
แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่หน่ะ
เคท : ฉันมีงานของฉันที่ต้องมาทำ
แล้วนายหล่ะ
จูเลียส : ผม
ไม่รู้สิ แค่อยากไปเรื่อยๆหน่ะ แล้วคุณเป็นใครหล่ะ
เคท : เรียกฉันว่าเคทก็ได้
แล้วนายหล่ะ
จูเลียส : ผมจูเลียส
มาจากลอนดอน อังกฤษหน่ะ
เคท : นายจะไปทำบ้าอะไรที่เยอรมัน
ฆ่าตัวตายชัดๆ
จูเลียส : ผมไม่บอกใครหรอกว่าผมมาจากอังกฤษหน่ะ
// ระหว่างนั้นเอง เจ้าของรถก็เข้ามาหาจูเลียส
เพื่อบอกความคืบหน้าเรื่องรถของเขา
“อ้าว รบกวนหรือเปล่าอ่ะ รถเสร็จแล้วนะ
แต่คงต้องไปกันต่อพรุ่งนี้เช้า นอนที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน” จูเลียสพยักหน้า จากนั้นก็ซุกหัวนอนที่เดียวกับเคท
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ในขณะที่โจสกำลังขับรถกลับไปยังบ้านพักของเขา ระหว่างนั้นเอง
รถของเขาก็เสียแล้วหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ทำเอาเขาต้องเรียกช่างมาช่วย
ระหว่างนั้นเอง เขารู้สึกแปลกๆหมือนมีใครไล่ตามเขามา เขาชักปืนออกมา
ระหว่างนั้นเอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่งพกอาวุธจะมาจัดการเขา โจสพยายามยิงสกัดไว้แล้วก็หลบหนีเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง
เขาได้พบเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งมีผ้าปิดปาก ซึ่งถือปืนเตรียมจัดการกับเขา
โจส : พวกแกเป็นใคร
ใครส่งแกมา
“ไม่ต้องรู้ว่าใครส่งเรามา
เพียงแต่ให้รู้ว่าวันนี้ฉันจะมาจับตัวคุณ”
โจส : งั้นเหรอ
ฉันว่าคงไม่มีทางหรอก
โจสยิงใส่มันจากนั้นก็หนีไปอีกทางหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง เขาก็พบเจ้าหน้าที่ทางสถานทูตที่มาช่วยเขาพอดี
พวกมันเห็นว่ามีคนมาช่วยโจสเลยวิ่งหนีไป
“โจส ปลอดภัยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า”
โจส : ฉันไม่เป็นไรหรอก
ฉันอยากรู้ว่าพวกมันเป็นใคร
“นายต้องรู้แน่ แต่ตอนนี้กลับบ้านก่อนดีกว่า”
โจส : ก็ดีเหมือนกัน
อีกด้านหนึ่ง
พวกที่จะมาชิงตัวโจสนั้นคือนูโวร่านั่นเอง เธอโกรธมากที่จับตัวเขาไม่ได้
นูโวร่า : นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย
พวกมันมาจากไหนกัน
“ผมก็ไม่ทราบครับท่าน”
นูโวร่า : คงต้องหลบซ่อนตัวกันซักพักก่อนก็แล้วกันงานนี้
ที่แนวรบแถบแอฟริกา
หลังจากที่ลูก้าเพิ่งจะมาถึงได้ไม่นาน
แต่เนื่องจากจอมพลรอมเมลไม่มาเพราะกำลังเตรียมพร้อมกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น
ลูก้าเตรียมสมุดไว้จดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เขาเจอแล้วส่งกลับไปยังเยอรมัน
“วันแรกของการเดินทาง ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่
อากาศร้อนมาก ผมแทบอยากจะโดดลงคลองแถวๆนั้น ทหารที่นี่ก็ดูเข้มแข็ง มีกำลังใจ
ผมอยากจะลองไปดูพื้นที่ของสนามรบด้วยตัวเองดู แต่ตอนนี้ผมร้อนและเหนื่อยมากจริงๆ”
อีกด้านหนึ่ง
วิคเตอร์ก็ยังพยายามจะจีบเทเรซ่าให้ได้ เขาตื้อเธอทุกอย่าง
ตามติดเธอไปทุกที่ไม่ว่าเธอจะไปไหน ทำเอาเทเรซ่าปวดหัวทั้งวัน
เทเรซ่า : นี่คุณ
จะตามติดฉันไปถึงไหนหล่ะเนี่ย
วิคเตอร์ : โธ่คุณ
ผมชวนไปทานอะไรกันตั้งหลายครั้งแล้วแต่คุณยังไม่ยอมไปซะที
เทเรซ่า : ฉันมีงานเยอะแยะที่ต้องทำ
คนป่วยก็ตั้งเยอะนะ
เทราน์เนอร์ : ฉันว่าก็ถูกของเธอนะ
เรามีทำงานนะไม่ใช่มาเดินเล่นเนี่ย
วิคเตอร์ : ช่างหัวมันเถอะ
ตอนนี้ฉันอยากคุยกับเธอนะ เทเรซ่า
เทเรซ่า : นี่
เลิกตามฉันซะทีได้ไหมห่ะ
ระหว่างนั้นเอง
ลูก้าก็เดินเข้ามาหยุดสถานการณ์นี้ทันที เพราะเสียงพูดของพวกเขาดังมาก
ลูก้า : นี่มันอะไรกันเนี่ย
พวกคุณ
วิคเตอร์ : เรากำลังคุยธุระส่วนตัวกันอยู่หน่ะ
เทราน์เนอร์ : ความจริงพวกเขากำลังจีบกันอยู่หน่ะครับ
เทเรซ่า : ดิฉันขอตัวนะคะ
// จากนั้นเองเทเรซ่าก็เดินจากไป
วิคเตอร์พยายามจะตามไปแต่ถูกห้ามไว้ก่อน
วิคเตอร์ : แกห้ามฉันไว้ทำไม
แกเป็นใครห่ะ
ลูก้า : ผม
พันตรีลูก้า ฮอฟฟ์แมน เป็นหัวหน้าหน่วยสังเกตการณ์ที่นี่หน่ะ // วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ต่างยกมือทำความเคารพ
เทราน์เนอร์ : ท่านครับ
ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ
ลูก้า : พวกคุณ
นี่เรามาช่วยเขานะไม่ใช่มาหาเรื่อง ผมว่าคุณอย่าไปรบกวนเขาอีกเลย
สนใจเรื่องงานดีกว่า // จากนั้นลูก้าก็เดินจากไป
วิคเตอร์ : โธ่เอ้ย
คิดว่ามึงเป็นใครวะมาสั่งกู
เทราน์เนอร์ : ใจเย็นๆสิ
เดี๋ยวก็โดนยิงเป้าหรอก
กลับมายังเนเธอร์แลนด์ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
พวกเด็กๆกับครอบครัวแอนน์ก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น
จนถึงขนาดที่พวกเขาเริ่มฝากให้พวกเด็กๆดูแลแอนน์ให้ด้วย
วันนี้พวกเขาไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกัน และวันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากๆ
เหมาะกับการเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง
แอนน์ : ขอบคุณมากๆนะคะพี่มาเป็นเพื่อน
วันนี้อากาศดีมากเลย
อเล็กซ์ : ยินดีจ้า
แล้วนี่ แอนน์ เธอออกจากเยอรมันตอนไหนงั้นเหรอ
แอนน์ : พวกเธอรู้ได้ไงเหรอว่าฉันมาจากเยอรมัน
แซค : ก็ไม่ยากเกินเดาเท่าไหร่
ความจริงน้าแคทเทอรีนบอกฉันแล้วหน่ะ
แอนน์ : ก็ตั้งแต่ปี
1933 โน่นหน่ะจ้ะ เท่าที่จำความได้นะ
โอ๊ค : ได้ยินว่า
พวกนาซีตอนนั้นครองอำนาจกันนี่นะ
ระหว่างนั้นเอง
ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเกเรกลุ่มหนึ่งอยู่แถวนั้น
มันเห็นพวกของนาวินมันเลยเข้าไปหาเรื่องทันที
“เฮ้ย พวกแก มาแถวนี้ต้องมีค่าคุ้มครองนะเว้ย”
โซเซีย : คุ้มครองอะไรของพวกแก
ฉันคุ้มครองตัวเองได้โว้ย
“เฮ้ย เด็กนั่น ลูกพวกคนรวยนี่หน่า”
“ใช่ พวกยิวที่มันร่ำรวยจากการกดขี่นี่หน่า” คำพูดนี่ทำให้แอนน์ตกใจเข้าไปหลบอยู่หลังอเล็กซ์
เอม : อะไรของพวกแก
พวกแกเป็นนาซีหรือยังไงห่ะ
ออย : นั่นสิ
เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร เขาไปขโมยเงินแกตอนไหน
“คอยดูเถอะ
ถ้าพวกเยอรมันมาฉันจะบอกให้เขาจับเธอไปเลย
แต่ตอนนี้เธอต้องส่งเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
ธิน : เรื่องอะไรหล่ะวะ
พวกมึงคิดว่าแน่นักหรือยังไง
นาวิน : ก็ได้
งั้นเรามาลองกันซักตั้งดีกว่า
======================================================================
โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะทุกคน
เป็นกำลังใจให้คนเรียนทุกคนนะครัช
ความคิดเห็น