ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 8 : โจรปล้น

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 61


    ขบวนของนอร์ดิกเดินทางกันต่อไปยังเมืองริงก้า ในตอนนั้นเอง นอร์ดิกก็คุยกับซอล เพื่อนใหม่ของเขาไประหว่างทาง

    นอร์ดิก : นี่ ฉันถามอะไรนายหน่อย นายชุมนุมเรียกร้องอะไรกันอยู่เหรอ

    ซอล : เราเรียกร้องประชาธิปไตยและสาธารณรัฐหน่ะ

    ไซโซ : ประชาธิปไตย สาธารณรัฐ?? มันเป็นยังไงเหรอ

    ซอล : ประชาธิปไตย คือประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายหน่ะ

    เคจา : โหว ทุกคนเท่าเทียมกัน ก็น่าสนใจอยู่นะ ว่าแต่ทำไมต้องเป็นสาธารณรัฐหล่ะ

    ซอล : ระบอบศักดินาที่มีอยู่ทุกวันนี้ ทำให้ประเทศล้าหลัง

    นอร์ดิก : ว่าแต่ ถ้าเป็นแบบนี้ ใครจะมาเป็นผู้นำหล่ะ

    ซอล : ประชาชน จะเป็นคนเลือกผู้นำเองหน่ะ

    ระหว่างที่กำลังเคลื่อนขบวนมา ในตอนนั้นเองมีชายสองคนท่าทางบาดเจ็บ และถือกระเป๋าใบใหญ่มา จากนั้นพวกเขาก็มาหมดแรงอยู่ข้างหน้าพวกเขา ศึ่งสองคนนั้นก็คือนิโคลัสกับเอ็นนั้นเอง

    เคจา : เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่าพวกนาย

    นิโคลัส : ฉันเจ็บ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ฉันจะไม่ไหวแล้ว

    อาบาตู : คุณหนูครับ ผมว่าเรารักษาเขาทั้งคู่ก่อนดีกว่าครับ

    พวกเขาแบกทั้งคู่ไปข้างป่า จากนั้นก็ช่วยกันรักษาทั้งคู่เท่าที่จะทำได้

     ไซโซ : โห พวกนายสองคนนี่ไปโดนอะไรกันมาหล่ะเนี่ย

    เอ็น : พวกโจรมันปล้นเราหน่ะ กว่าจะหนีมันได้แทบตายเลย

    นอร์ดิก : ไม่ต้องห่วงนะ พวกนายปลอดภัยแล้ว ว่าแต่พวกนายจะไปไหนหล่ะ

    นิโคลัส : เราจะไปที่ริงก้าหน่ะ เรามีงานต้องทำที่นั่น

    อาบาตู : นี่ครับ กินอะไรก่อนสิครับ กระเป๋าของคุณผมเก็บไว้ให้แล้ว // อาบาตูยื่นขนมปังให้กับพวกเขาทั้งคู่

    ซอล : ว่าแต่ พวกนายจะไปยังไงต่อกันหล่ะเนี่ย

    เอ็น : ความจริงเรามีรถม้าหน่ะ แต่รถม้าก็ตกลงไปน้ำตกแล้วหน่ะ

    นอร์ดิก : ถ้างั้น นายจะไปกับพวกเราหรือเปล่าหล่ะ เรากำลังจะไปริงก้าพอดีเลย

    นิโคลัส : ขอบใจพวกนายมากเลยนะ

    ซอล : แต่ก่อนอื่น ฉันว่าเราหาที่พักกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวพวกนายเจ็บหนักกันพอดี

    พวกเขาหามทั้งคู่ขึ้นรถม้าไป จากนั้นพวกเขาก็เดินทางหาที่พักสำหรับค้างแรมต่อไป

     

    มาที่แคว้นเดลล์ หลังจากนายพลบลูจัดการยึดครองเมืองได้สำเร็จแล้ว เขาเริ่มจัดการเกณฑ์ชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดมาเป็นทหาร ส่วนพวกเชลยบางส่วน นายพลบลูก็สั่งประหารซะจนเหี้ยน

    ท่านนายพลครับ เราจะฆ่าพวกมันทั้งหมดจริงๆเหรอครับ

    บลู : ไม่ต้องห่วง ฉันฆ่าพวกที่คิดต่อต้านฉันเท่านั้นแหละ

    ว่าแต่ ตอนนี้พวกมันบางส่วนก็หนีหายไปแล้ว ท่านจะตามล่าพวกมันดีมั้ยครับ

    บลู : พยายามตามล่ามันให้ได้ ว่าแต่ มีข่าวอะไรใหม่บางหล่ะตอนนี้

    ตอนนี้เลดี้อาร์เทมิสถูกพวกของซารานิสตีจนแตกพ่ายหนีไปริงก้าครับ

    บลู : ก็ดี ที่กำจัดศัตรูได้ไปหนึ่ง แล้วตาแก่ตาร์กนั้นหล่ะ

    กำลังของพวกมันกำลังกล้าแข็ง แต่มันคงกำลังปะทะกับพวกของซารานิสอยู่ครับ

    บลู : ดีมาก ปล่อยให้พวกมันรบกันไป ส่วนเราจะตั้งมั่นอยู่ที่นี่

    ได้ครับท่าน

    ทางด้านที่มั่นของผู้เฒ่าตาร์ก บนเขาสูงชันแห่งแคว้นเดลล์ ทหารของเขารีบมารายงานข่าวกับเขาอย่างเร่งรีบ

    ท่านครับ ตอนนี้พวกของอาร์เทมิสโดนซารานิสตีแตกแล้วครับ

    ไม่น่าเชื่อว่าเลดี้อาร์เทมิสจะแพ้เร็วขนาดนี้ ตอนนี้พวกซารานิสคงกำลังเหนื่อยล้า ตอนนี้หล่ะ เราจะจัดการพวกมันอย่างไม่ทันตั้งตัว

    ได้ครับท่าน ผมจะเตรียมทหารของเราทันทีครับ ว่าแต่ พวกของนายพลบลูหล่ะครับ

    ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น ฉันจะจัดการมันเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก

     

    และที่แคว้นเดลล์ ในตอนนั้นเอง เอลิซ่าและคาราวานของเธอมาถึงยังคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอได้นัดพบกับคณะของเธอในแคว้นเดลล์ หลังจากที่เธอมาถึง ก็มีคนมาต้อนรับเธอกับพวก จากนั้นก็มายังห้องโถงที่มีสมาชิกใหม่มารวมตัวกันอย่างหนาแน่น เมื่อเอลิซ่ามาถึง พวกเขาก็เปิดการประชุมทันที

    คุณเอลิซ่า เดินทางมาถึงที่นี่ คงต้องมีอะไรสำคัญแน่ๆ

    เอลิซ่า : อ้อ ฉันอยากจะมาหารือกับพวกคุณ ตอนนี้นายพลเนโรคงจะยึดครองมอร็อคได้อีกไม่นาน

    เมเทอร์ : ใช่แล้วหล่ะ อีกไม่นานคงจะยึดเมืองหลวงได้ ตอนนี้ได้ข่าวว่าพี่น้องของฉันกำลังเดินทางมาแล้ว

    ถ้าพวกมันมาถึงแคว้นเดลล์ เราจะป้องกันแคว้นยังไงหล่ะครับ

    ใช่ครับ ที่นี่ก็มีแต่พวกกองกำลังกิ๊กก๊อกทั้งนั้นนะครับ

    เฟรย์อา : ใจเย็นก่อนสิ ตอนนี้พวกของนายพลเนโรก็เริ่มจะระส่ำระส่ายอยู่นะ

    เอลิซ่า : ตอนนี้มีแต่นายพลอาร์เธอร์เท่านั้นที่จะพอสู้กับพวกมันได้หน่ะ

    เมเทอร์ : แล้วนี่ก็เป็นเหตุผลที่เราต้องไปริงก้ายังไงหล่ะ

    ความคิดดีครับ นายพลเนโรคงจะลำบากแน่ๆ

    เฟรย์อา : ดิฉันอยากให้พวกคุณจัดการต่อต้านพวกเขาเท่าที่จะทำได้ แล้วเราจะสนับสนุนเงินทุนพวกเราเอง

    เอลิซ่า : ฉันจะพักผ่อนหน่อย พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางแต่เช้าหน่ะ

     

    และอีกด้านหนึ่ง ชายสี่พี่น้องและคาราวานของเขากำลังเตรียมพร้อมเพื่อที่จะหนีออกจากเมืองโมโรวิน เขาและขบวนเตรียมพร้อมจะออกจากเมืองทุกเมื่อ

    มาร์ธิว : ว่าแต่ เธอจะไม่ไปกับพวกเราจริงๆอย่างงั้นเหรอ

    โอลลี่ : ฉันมีงานที่ต้องทำนิดหน่อยหน่ะ

    เลออน : แต่ยังไง เธอก็ต้องตามพวกเรามาที่แคว้นเดลล์นะครับ

    โอลลี่ : ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไรง่ายๆหรอก โชคดีนะ // โอลลี่ขี่ม้าออกจากเมืองไป

    เอเทอร์ : ว่าแต่ โอลลี่เขาจะไหวเหรอแบบนั้นหน่ะ

    แมทธิว : ไม่ต้องห่วงหรอก นายก็รู้นี่ว่าโอลลี่เขาเป็นยังไง

    เลออน : ว่าแต่ ตอนนี้เรารีบไปจากที่นี่กันดีกว่ามั้ยพี่

    เอเทอร์ : ความจริงแนอยากสู้กับพวกมันที่นี่มากกว่า

    แมทธิว : ใจเย็น ถ้าเรายังไม่ตาย ยังไงเราก็ได้กลับมาแน่

    มาร์ธิว : ใช่แล้วหล่ะ ตอนนี้รีบไปกันก่อนดีกว่า // จากนั้นไม่นาน ขบวนของเขาก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากเมืองโดยทันที

     

    ทางด้านกองทัพของโซราบอล ในตอนนั้นเอง หลังจากที่นายพลเนโรบุกยึดเมืองเดสต้าร์ได้ไม่นาน นายพลเนโรก็ระดมกองทัพต่อรอบที่สอง แต่ในตอนนั้นเองทหารของเขาอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้าเต็มที่ แทบจะไม่มีแรงเหลือจะบุกกันต่อเลย

    คูเปอร์ : ท่านครับ กระผมว่าอย่าเพิ่งโจมตีตอนนี้เลยครับท่าน

    เนโร : เหตุผลหล่ะท่านแม่ทัพ

    คูเปอร์ : ตอนนี้ทหารของเราเหนื่อยล้ามาก แถมโมโรวินก็อยู่อีกไกลครับ

    เนโร : แต่ว่าถ้าเราไปช้า พวกมันอาจจะตั้งกองกำลังป้องกันเมืองเอาไว้ได้นะ

    โซรอน : ใช่ครับ เราควรจะยึดโมโรวิน ก่อนที่พวกมันจะตั้งตัวได้

    คูเปอร์ : แต่ตอนนี้ท่านดูสิครับ พวกทหารตอนนี้เหนื่อยล้ากันมากนะครับ

    นอสต้า : จะกลัวอะไรหล่ะท่านพี่ ทหารของเรามีตั้งเยอะนะ // ในตอนนั้นเอง เอ็ดเวิร์ดได้รับคำสั่งให้มารายงานตัวกับนายพลเนโร

    เอ็ดเวิร์ด : ท่านครับ เรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ

    เนโร : นายต้องทหารนำทหารของเราส่วนหนึ่งไปลาดตระเวนและทำลายกลุ่มของพวกมัน

    เอ็ดเวิร์ด : ท่านจะให้กระผมกวาดล้างกองโจรของพวกมันอย่างงั้นเหรอครับ

    โซรอน : ใช่แล้วหล่ะ ยังไงก็ฝากจัดการด้วยหล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ครับท่าน // จากนั้นเอ็ดเวิร์ดนำทหารของเขาออกลาดตระเวนเข้าไปในป่าทึบแห่งมอร็อค

     

    ที่ชายป่าอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งกองกำลังย่อยตั้งค่ายกันอยู่ที่นั้น ฟีนด์นำกำลังพลของเขาแอบลัดเลาะเข้าไปในป่า จากนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะโจมตี

    ฆ่ามัน

    พลปืนของฟีนด์ยิงพวกมันในป่า ทำเอาพวกโซราบอลในค่ายล้มตายกันมากมาย จากนั้นฟีนด์ก็ชักดาบวิ่งเข้าชาร์จใส่พวกมัน เกิดเป็นการรบตะลุมบอน กองทัพทั้งสองฝ่ายโจมตีกันไปกันมา แต่พวกของโซราบอลน้อยกว่าจึงพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย พวกมันบางส่วนรีบทิ้งอาวุธยอมแพ้ไม่ก็หนีหายเข้าไปในป่าแถวนั้น

    ท่านครับ ตอนนี้เราคุมพื้นที่ในค่ายได้หมดแล้วครับ

    ฟีนด์ : ดีมาก ยึดอาวุธและของมีค่าพวกมันไปให้หมด

    แล้วเชลยพวกนี้หล่ะครับ

    ฟีนด์ : เก็บเอาไว้ก่อน ยังพอต่อรองกับมันได้

    อีกด้านหนึ่งของป่า ในตอนนั้นขบวนรถม้าขนเสบียงของโซราบอลกำลังขนของไปยังค่ายหลักเพื่อทำการสนับสนุนทหาร แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ถูกลูกธนูนับร้อยยิงใส่ ทำเอาพวกเขาไปไม่เป็น พวกมันพยายามจะชักปืนยิงสู้แต่พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย จากนั้นกลุ่มโจรปิดหน้าก็วิ่งกรูเข้ามาจัดการทหารโซราบอล จนพวกเขายอมแพ้ในทันที

    อราช : พวกแก เสบียงพวกนี้จะเอาไปที่ไหน // อราชทำการสอบถามนายทหารคนหนึ่ง

    ฉันจะเอาไปส่งที่ค่ายหลักหน่ะ

    อราช : ขอบพวกนี้จะใช้สนับสนุนนายพลเนโรเพื่อรุกรานชาวบ้านสินะ

    แล้วแกยุ่งอะไรด้วย ไอ้พวกโจรกระจอก

    อราช : ฉันไม่อยากจะเสวนากับแกหรอก เอาตัวพวกมันไป ส่วนเสบียงพวกนี้เอากลับค่ายของเรา

    กลุ่มโจรได้จัดการนำตัวทหารโซราบอลเข้าไปในป่า จากนั้นก็นำเกวียนเสบียงไปเก็บยังค่ายของพวกเขา

     

    กลับมายังกรุงมอร็อค หลังจากที่พวกเขายึดเมืองราดาสเรียบร้อยแล้ว นายพลนอร์ทก็สั่งให้ทหารพักผ่อนในเมืองอย่างสบายใจ จากนั้นก็ทำการฉลองกันอย่างสนุกสนาน กับชัยชนะในครั้งนี้

    นอร์ท : แค่ทหารไม่กี่นายก็ยังชนะได้เร็วขนาดนี้ ฟิลล์บอนต้องตกเป็นของเราในเร็ววันแน่ๆ

    สการ์เล็ต : แต่ท่านพ่อคะ กองโจรของพวกมันยังอยู่นะคะ

    นอร์ท : พวกโจรกระจอกนั่นจะทำอะไรได้หล่ะ

    สการ์เล็ต : หนูแค่ไม่อยากให้พ่อประมาทพวกมันหน่ะ

    นอร์ท : จะทำการรบทั้งทีมันต้องมีกล้าได้กล้าเสียสิ เข้าใจมั้ย

    สการ์เล็ต : งานนี้ไม่ง่ายแน่ๆ ทะเลทหารคืออาวุธที่จะฆ่าเรา

    นอร์ท : ลูกคงกังวลมากเกินไป ไปนอนได้แล้วไป

    และอีกด้านหนึ่ง ซิกนัสนำทหารของเขาเคลื่อนพลมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางของทะเลทราย ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ปรึกษากับทหารของเขาเกี่ยวกับการรบ

    ผู้กองครับ งานนี้เราอาจจะเสียแคว้นฟิลล์บอนก็ได้นะครับ

    ซิกนัส : ไม่ต้องห่วงหรอก แค่เมืองเดียวเอง ให้พวกมันดีใจไปก่อน

    ทำไมท่านถึงมั่นใจขนาดนั้นหล่ะครับ

    ซิกนัส : ตอนนี้เส้นทางทะเลทหารเริ่มกันดารมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันไม่คุ้นชินกับสภาพหรอก

    นั่นสิครับ ตอนนี้พายุทรายกำลังโหมหนัก แถมกลางวันก็ร้อนมากด้วย

    ซิกนัส : พวกมันไม่รู้หรอกว่าโอเอซิสอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าพวกมันเข้าใกล้โอเอซิสเมื่อไหร่ เราจะตัดกำลังพวกมัน จนพวกมันอ่อนแรงไปเอง

    ผู้กองฉลาดจริงๆครับ

     

    ที่แคว้นริงก้า หลังจากที่กลุ่มกบฏยิงปืนใหญ่ถล่มแนวรับของเซเลนส์ ทหารราบของพวกมันก็บุกโจมตีแนวรับของเซเลนส์ทันที พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เซเลนส์ไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ยังป้องกันแนวรับได้อย่างเข้มแข็ง ดูเหมือนว่าพวกของเซเลนส์กำลังเสียเปรียบ หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพของนายพลอาร์เธอร์ก็รุดเข้ามาช่วยเซเลนส์ได้อย่างทันควัน ทหารนับแสนของนายพลอาร์เธอร์จัดการผลักดันพวกมันให้ถอยออกไปยังป่าแนวชายแดน จากนั้นอาร์เทอร์ก็รีบตามหาเซเลนส์ทันที

    อาร์เธอร์ : ปลอดภัยนะ

    เซเลนส์ : ครับท่าน ว่าแต่ คุณหนูเนม่าหล่ะครับ

    ในตอนนั้นเอง เนม่าก็ขี่ม้าตามนายพลอาร์เทอร์มาติดๆ ทำเอาทั้งคู่อดเป็นห่วงไม่ได้

    อาร์เทอร์ : นี่ เนม่า เธอตามพี่มาทำไมหล่ะเนี่ย

    เนม่า : โธ่พี่ หนูก็รบเป็นเหมือนกันนะคะ ทำเป็น

    เซเลนส์ : โธ่ คุณเนม่าครับ แถวนี้มันอันตรายมากนะครับ

    เนม่า : คนเรามันก็ต้องมีครั้งแรกสินะ ใช่ป่าวหล่ะ

    อาร์เธอร์ : ตอนที่ผมไปสงครามครั้งแรก ผมไม่เคยคิดอยากไปอีกเลย

    เซเลนส์ : ตอนนี้ถึงเวลาแล้วนะครับ ที่จะรุกไล่พวกมันบ้างหน่ะครับ

    อาร์เทอร์ : แน่นอน ฉันเตรียมกำลังพลไว้เรียบร้อยแล้วหล่ะ

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า หลังจากที่สถานการณ์สงบลง ตำรวจของโซราบอลก็มาคุ้มกันที่คฤหาสน์แห่งนี้กันเยอะขึ้น จากนั้นก็มีการเพิ่มเวรยามกันมากขึ้นเป็นเท่าตัว

    ซิลเวียร์ : ปลอดภัยแล้วนะคะคุณย่า

    มาร์ธ่า : ใครกันมันกล้าทำแบบนี้ ขโมยของเขามันไม่ดีนะ

    ซาร่า : คงจะเป็นพวกโจรธรรมดาหน่ะค่ะแม่ อย่าคิดมากเลย

    ซิลเวียร์ : นั่นสิคะ ช่วงนี้ประเทศอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพงด้วย

    มาร์ธ่า : นั่นสินะ ท้องที่หิวมันทำให้คนเราทำอะไรไม่คิด

    ซาร่า : ตอนนี้แม่อยู่ที่นี่แม่ก็พักผ่อนให้สบายไปก่อนนะคะ // ในตอนนั้นเอง นกพิราบตัวเก่าก็บินเข้ามาหามาร์ธ่า ซิลเวียร์เห็นไม่รอช้าจึงรีบไปหยิบจดหมายที่แนบมาด้วยทันที จากนั้นเธอก็เปิดอ่านให้มาร่าฟัง

    ซิลเวียร์ : คุณย่าคะ นอร์ดิกปลอดภัยสบายดี ตอนนี้ใกล้จะถึงริงก้าแล้วค่ะ

    มาร์ธ่า : โอ้ ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเขาก็ใกล้จะไปถึงซะที

    ซิลเวียร์ : หนูขอตัวก่อนะคะคุณย่า // ซิลเวียร์หยิบจดหมายอีกฉบับหนึ่งที่นอรืดิกเขียนให้เธอโดยเฉพาะ แอบเอาไปอ่านที่อื่น จากนั้นเธอก็เปิดอ่านทันที

    ซิลเวียร์ที่รัก ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน ตอนนี้ฉันกำลังจะถึงริงก้าแล้ว เธออยู่กับคุณย่าสบายดีมั้ย มีใครรังแกเธอหรือเปล่า ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะ วันหนึ่ง ฉันจะไปเธอมาอยู่กับฉันให้ได้ รักเธอเสมอ นอร์ดิกซิลเวียร์ได้อ่านดังนั้น ทำเอาเธอแอบยิ้มทั้งวัน จากนั้นเธอก็เก็บจดหมายฉบับนั้นเอาไว้กับตัว

     

    มาที่น่านน้ำแห่งหนึ่งแถวแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกนำกองเรือของเธอลาดตระเวนเพื่อตามล่ากลุ่มโจรสลัด แล้วก็ไม่เสียเที่ยว เธอเจอกลุ่มโจรสลัดเหนือน่านน้ำทันที

    แอนตาร์กติก : เจอพวกมันแล้ว ส่งสัญญาณให้ปืนใหญ่ยิงใส่ทันที

    ปืนใหญ่ของเธอยิงใส่เรือของพวกมัน ทำเอาพวกมันแตกตื่น เนื่องจากเรือรบของเธอเป็นเรือรบที่ใช้ในการทำลายล้างโดยเฉพาะ ทำเอาพวกมันแตกกระเจิง

    ท่านครับ มีเรือลำหนึ่งกำลังแล่นมาหาเราครับ

    แอนตาร์กติก : แย่หล่ะ ทหารทุกนาย เตรียมปืนให้พร้อม

    พวกมันเอาเรือมาประชิดจากนั้นก็พยายามขึ้นเรือมา แต่แอนตาร์กติกคว้าปืน mauser ของเธอยิงสวนพวกมัน พวกมันยังไม่ละความพยายามในการปล้นเรือ ในตอนนั้นเอง แอนตาร์กติกจึงคิดอะไรได้บางอย่าง

    ทหาร เอาปืนใหญ่ยิงไปที่กลางเรือของมัน

    แต่มันเสี่ยงนะครับ

    ลองดูสิ ถ้าเสี่ยงเราอาจจะรอดก็ได้นะ

    ทหารของแอนตาร์กติกหันปืนใหญ่ไปใกล้เรือของมัน จากนั้นก็ยิงเรือมันจนแหลกกระจุย เรือของพวกมันจมน้ำไปในพริบตา ส่วนคนที่เหลือก็โดยทหารยิงตายกันหมด

    แอนตาร์กติก : รบได้ดีมากทุกคน ตรวจสอบคนเจ็บ รีบเอาเรือขึ้นฝั่งทันที

    และอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่โทมารอฟนำทหารเรือรัสเซียบุกทำลายเหล่าโจรสลัด ทหารของโทมารอฟรีบตรวจสอบอาวุธและเงินทุนของอเล็กซ์สกี้ทันที

    โทมารอฟ : สำรวจหรือยัง เจออะไรที่น่าสนใจบ้าง

    ท่านครับ เราตรวจสอบแล้วเจออาวุธปืนใหญ่รุ่นใหม่หลายกระบอก แล้วปืนเล็กยาวอีกเป็นพันเลยครับ

    โทมารอฟ : สายข่าวของเราเยี่ยมจริง พวกมันจะใช้อาวุธพวกนี้ทำอะไรกันแน่

    นั้นสิครับ อาวุธพวกนี้ตั้งกองทัพย่อยได้เลยนะครับ

    โทมารอฟ : นั้นสิ ยึดอาวุธพวกนี้ให้หมด อย่าให้พวกมันเอาไว้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรได้

    ทราบแล้วครับ

    และที่แคว้นเดลล์ โรงน้ำชาแห่งหนึ่ง อเล็กซ์สกี้กำลังนั่งดื่มน้ำชาของตัวเองอย่างสบายใจ ในตอนนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งก็รายงานข่าวกับเขาทันที

    ท่านครับ ไอ้โทมารอฟมันยึดอาวุธของท่านไปหมดแล้วครับ

    อเล็กซ์สกี้ : เป็นไปตามแผน บอกคนของเราให้เตรียมพร้อมไว้

    แผนอะไรเหรอครับท่าน

    อเล็กซ์สกี้ : พวกมันขนอาวุธมาให้ฉันตามที่วางแผนไว้ เราจะชิงมันมาทันทีที่มีโอกาส

     

    และอีกด้านหนึ่ง กองทัพราชนาวีอังกฤษ นายพลจอร์จเรียกลูกน้องมาคุยบนเรือ จากนั้นก็นั่งดื่มชาสุดโปรดของเขาไปด้วย

    จอร์จ : ติดต่อกับหน่วยข่าวกรองของเราได้หรือยัง

    ยังเลยครับท่าน ตอนนี้เราพยายามอยู่

    จอร์จ : ฉันอยากรู้ว่าใครมันเล่นสกปรกกับฉันแบบนี้กันแน่

    ผมว่า บางทีพวกเขาอาจจะเป็นโจรจริงๆก็ได้

    จอร์จ : งั้นเหรอ ตอนที่นายไปค้นที่เกาะ พวกเขามีอาวุธซักชิ้นมั้ย ไม่นับมีดล่าสัตว์นะ

    เออ ไม่ครับท่าน พวกเขามีแต่หน้าไม้และธนูธรรมดาครับ

    จอร์จ : เฮ้อ กองเรือราชนาวีอังกฤษสู้กับชาวบ้านที่ไม่มีปืน รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

    ว่าแต่ ท่านจะทำยังไงต่อหล่ะครับ

    จอร์จ : ฉันจะกลับสถานทูต ดูสิว่าท่านทูตจะมีอะไรดีๆบอกฉันหรือเปล่า

     

    กลับมายังฟิลล์บอน ที่ห้องแล็ปวิจัยน้ำมัน โคน่า คาลิมบ่าและอาเรียก็รีบมาเก็บงานวิจัยและตัวอย่างน้ำมันของเธอไปเก็บไว้ที่ริงก้า พวกเธอสั่งให้ลูกน้องเก็บของทุกอย่างไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อไม่ให้พวกโซราบอลได้อะไรไป

    คาลิมบ่า : เก็บตัวอย่างไปให้หมด อันนั้นด้วย เอาไปใส่รถม้าให้หมดนะครับ

    อาเรีย : นี่ ช่วยเอาเครื่องส่งโทรเลขของฉันไปด้วยได้หรือเปล่า

    คาลิมบ่า : ใส่มาให้หมดเลย อย่าให้มันได้อะไรไปเด็ดขาด

    โคน่า : คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องปิดห้องแล็ปแห่งนี้

    อาเรีย : ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ไม่ตายก็กลับมาเปิดใหม่ก็ได้

    โคน่า : แต่ฉันเสียดาย เพราะสงครามบ้าๆนี่แท้ๆเลย

    คาลิมบ่า : เอาน่า ไหนๆตอนนี้เราก็ได้งานวิจัยมาแล้ว รีบเก็บของแล้วไปจากที่นี่กันดีกว่า

    และที่บ้านของดราโก้ พวกเขากำลังรีบขนของหนีไปยังริงก้า ก่อนที่ทหารโซราบอลจะมาถึงพวกเขา

    ดราโก้ : นี่ๆ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นไม่ต้องเอาไปหรอก หนักเปล่าๆ

    อาร่า : คุณคะ ตอนนี้เงินกับของมีค่าฉันเอาไปฝากไว้ที่ธนาคารของคาเนสแล้วนะคะ

    คาเนส : ไม่ต้องห่วงครับแม่ มันปลอดภัยแน่นอน ผมรับรองครับ

    อาเรียส : แล้วโคน่าเขาหล่ะคะ ไม่มาด้วยเหรอคะ

    อาร่า : ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เดี๋ยวเขาต้องมาแน่ๆ

    ดราโก้ : หวังว่าพวกเขาคงจะปลอดภัยนะคาเนส

    คาเนส : ไม่ต้องห่วงครับพ่อ ผมส่งคนของผมไปคุ้มกันแล้วครับ ตอนนี้เรารีบไปกันดีกว่าครับ

     

    กลับมายังชายแดนแคว้นเดลล์ ในตอนนั้นเองอาร์เทมิสที่เพิ่งจะถูกตีเมืองจนแตกพ่าย เธอนำกำลังพลเดินทัพข้ามพรมแดนริงก้า เพื่อที่จะหาทางซ่องสุมกำลัง และกู้เมืองของเธอคืนมา ในตอนนั้นเอง เธอก็ตั้งค่ายกันอยู่ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง จากนั้นเธอก็สั่งให้ทหารค้างแรมกันแถวนั้นก่อน เพื่อที่จะเก็บแรงไว้เดินทางกันต่อ

    อาร์เทมิส : ทหารของเราตอนนี้เหลือเท่าไหร่หล่ะ

    ตอนนี้เหลือแค่ราวๆสองหมื่นครับ แล้วก็ปืนใหญ่อีกไม่กี่ร้อยกระบอกครับ

    อาร์เทมิส : เฮ้อ ฉันทำให้คุณพ่อผิดหวัง ฉันอุตส่าห์นั่งเมืองแทนพ่อให้ได้แล้ว

    อย่าห่วงไปเลยครับ ไม่นานเราจะต้องชิงมันกลับมาให้ได้

    อาร์เทมิส : ขอบใจนะ ตอนนี้คงต้องเจอนายพลอาร์เทอร์ให้ได้ก่อน

    ครับผม พรุ่งนี้ผมจะให้ทหารเดินทางกันแต่เช้าเลยครับ

    อาร์เทมิส : ได้เลย ตอนนี้ฉันเหนื่อย ขอนอนเก็บแรงไว้ก่อนก็แล้วกันนะ

     

    และที่แคว้นบาส์ก หลังจากที่อาร์มเมอร์กับสกายเพิ่งจะมาถึง พวกเขาได้มาสัมผัสบรรยากาศของหาดทรายที่สวยงาม พร้อมด้วยวิวทิวทัศน์แห่งทะเล ทำเอาพวกเขาหายเหนื่อจากสงครามเป็นปลิดทิ้งเลย

    อาร์มเมอร์ : เฮ้อ ที่นี่สบายจริงๆเลยนะ อยากไปเล่นน้ำจังเลย

    สกาย : ใจเย็นเพื่อน เรามาทำงานนะเว้ย อย่าลืมสิ

    อาร์มเมอร์ : ว่าแต่ งานของเราคืออะไรอย่างงั้นเหรอ

    สกาย : มาสืบเรื่องคนที่ฆ่าทหารอเมริกาทิ้งที่นี่หน่ะ // อีกด้านหนึ่ง สามสาวชาวทะเลที่เพิ่งจะมาขายปลาแถวนี้ มาครั้งนี้เธอได้ระวังตัวมากขึ้น มีการปิดหน้าคลุมตากันเพื่อไม่ให้ทหารอเมริกาสังเกตเห็น พวกเธอพยายามเก็บปลาไปขายที่ตลาดแถวนั้น

    แพท : นี่ เราต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

    เมด : ทำๆไปเถอะ ไม่ตายหรอก หรือเธออยากโดนพวกฝรั่งนั้นยิงหล่ะ

    โรส : เอาน่า แต่แบบนี้ก็ช่วยกันแดดไปได้ในตัวนะ // ในตอนนั้นเองสามสาวก็ดันไปเดินชนกับสองทหารหนุ่ม ทำเอาพวกเธอหัวเสียกันมา

    แพท : นี่ พวกคุณ มาเดินชนฉันทำไมหล่ะเนี่ย

    อาร์มเมอร์ : อะไรของคุณเนี่ย ผมอยู่ของผม คุณนั้นแหละมาชน

    เมด : เป็นผู้ชายซะเปล่า ไม่ยอมรับผิดเลยเหรอคุณ

    สกาย : อะไรของคุณเนี่ย ก็ผมอยู่ของผมแท้ๆ // แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีลมพายุทะเลพัดเข้ามายังชายฝั่ง ชาวบ้านแถวนั้นตกใจกันมาก ลมพัดแรงกันจนถึงขั้นพัดสองสาวเข้าหาอ้อมกอดของสองหนุ่มคนนั้น จนพวกเขานิ่งไปซักพัก แต่เมื่อพวกเธอรู้ตัวจึงรีบผละตัวออกมา

    เมด : นี่ คุณคิดจะลวนลามฉันงั้นเหรอ

    สกาย : ใจเย็นสิครับคุณ ก็ลมมันแรงแล้วพัดคุณเข้ามานี่

    แพท : แน่ ยังจะมาเถียงอีก แต่ยังไงก็ขอบใจมากนะ

    อาร์มเมอร์ : ยังไงก็ระวังๆหล่ะ ช่วงนี้พายุเข้าเยอะมากเลยนะ

    โรส : เออ ยังไงก็ขอบคุณพวกเธอสองคนมากนะ เดี๋ยวพวกเราขอตัวก่อนนะ // โรสพาแพทและเมดกลับไปขายปลาต่อ ส่วนสกายกับอาร์มเมอร์ก็ไปทำหน้าที่ของพวกเขากันต่อ

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ ชายแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นนอร์ดิกพานิโคลัสกับเอ็นไปนั่งพักแล้วช่วยกันรักษาเขาต่อ จากนั้นก็ให้อะไรกับทั้งคู่กินไปก่อน

    เคจา : นี่ พวกนายสองคนกินก่อนสิ จะได้มีแรง

    นิโคลัส : ขอบคุณมากนะครับ ผมกำลังหิวพอดีเลย // นิโคลัสกับเอ็นนั่งกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

    เอ็น : เฮ้อ อร่อยมากๆเลยนะเนี่ย ไม่เคยกินมาก่อนเลย

    ไซโซ : ใจเย็นๆสิ พวกนายคงจะหิวหน่ะ คงจะกินอร่อยกัน

    นอร์ดิก : ว่าแต่ ทำไมพวกนายทั้งคู่ถึงจะอยากไปที่ริงก้าหล่ะ

    นิโคลัส : ฉันเหรอ ฉันเป็นพ่อค้า แต่โดนโจรปล้นกลางทาง แต่พวกมันเอาของๆฉันไปไม่ได้หน่ะ

    ซอล : พวกมันเห็นนายมีของมีค่า เลยคิดจะมาปล้นสินะ

    แต่ระหว่างที่กำลังคุยกัน พวกโจรกลุ่มเก่าก็ตามมาหลายจะปล้นเงินของทั้งคู่ ในตอนนั้นเองพวกของนอร์ดิกก็เตรียมอาวุธวพร้อมแล้ว

    ส่งเงินของพวกมันมาซะเดี๋ยวนี้

    ไซโซ : เฮ้ย แกคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครวะ

    จะส่งเงินมันมาดีๆ หรืออยากตายอยู่ตรงนี้หล่ะ

    เคจา : ถ้าพวกแกอยากจะมา ก็ข้ามศพเราไปก่อนสิ

    นอร์ดิก : เฮ้อ พวกนายเนี่ย มือเท้าก็มีทำไมไม่ไปหางานอื่นทำหล่ะ มาปล้นคนอื่นแบบนี้ไม่ละอายใจบ้างเหรอวะ

    ถ้ามึงอยากตายแทนมัน กูก็จะสนองให้

    พวกมันไม่รอช้า บุกเข้าจู่โจมพวกของนอร์ดิกทันที

    ======================================================================

    กลุ่มโจรผู้หิวโหยกำลังเข้าปล้นพวกเขาอย่างอุกอาจ พวกเขาจะรอดออกมาได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×