ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #17 : EP 11 : กองทัพเคลื่อนพล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 105
      9
      26 ม.ค. 62

    ในช่วงเช้ามืดของวันต่อมา หลังจากที่ผ่านค่ำคืนอันเลวร้ายที่พวกเขาต้องเสียสมาชิกในกลุ่มไป พวกเขาก็เริ่มจะหมดอาลัยตายอยากกันถ้วนหน้า ที่ด้านล่างของห้องโถง นอร์รีนนั่งกอดเข่าเศร้าอยู่ซักพัก ในตอนนั้นเองมิเชลก็มานั่งข้างๆเขาและปลอบใจเขาเอาไว้

    มิเชล : นอร์รีน เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเศร้าๆนะ

    นอร์รีน : เหตุการณ์ที่เจอวันนี้ ไม่รู้สิ มันทำผมกลัวเลยหล่ะ

    มิเชล : เธอจะกลัวไปทำไมหล่ะ

    นอร์รีน : ผมไม่รู้สิ ก็แค่ ไม่อยากเห็นภาพเพื่อนเราต้อง

    มิเชล : ฉันเข้าใจ ฉันเองก็ไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่หรอก

    นอร์รีน : เมื่อไหร่เรื่องนี้มันจะจบลงซะทีเนี่ย

    มิเชล : คงอีกไม่นานหล่ะนะ คิดในแง่ดีไว้สิ

    นอร์รีน : ผมจะพยายามนะครับ

    ทางด้านของยูจีน ในคืนนี้เธอนอนไม่หลับ เธอนั่งกอดเข่าคิดอะไรไปเรื่องทั้งคืน เธอเอาแต่โทษตัวเองที่ช่วยซิลเวียไว้ไม่ได้ และในตอนนั้นเอง โทนี่ก็เอาน้ำมาให้เธอดื่ม เผื่อว่าจะช่วยอะไรเธอได้

    โทนี่ : พี่ยูจีน กินน้ำหน่อยสิครับพี่

    ยูจีน : ไม่เป็นไร นายวางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน

    โทนี่ : นี่พี่ไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเหรอครับเนี่ย

    ยูจีน : ปล่อยพี่เถอะ พี่อยากอยู่คนเดียวหน่ะ // โทนี่เดินหน้าเจือนออกมาจากห้อง โดยที่เอสเทอร์รอโทนี่อยู่ที่หน้าห้อง

    เอสเทอร์ : พี่เธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    โทนี่ : ยังไม่ยอมพูดกับใครเลยครับตอนนี้

    เอสเทอร์ : ฉันเข้าใจนะ ถ้าเป็นฉันก็คงเป็นแบบพี่เธอหล่ะ

    โทนี่ : ผมเข้าใจนะ แต่เสียใจไปแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ

    เอสเทอร์ : ฉันรู้หน่ะ แต่มันทำใจลำบากนะ

    ทางด้านของอลิซกับมิสซึ วันนี้เขาตื่นเร็วเพื่อมาจัดการเรื่องในห้องครัว และเป็นตอนที่อลิซบังเอิญตื่นมาพร้อมกับเขาพอดีด้วย อลิซตามมิสซึเข้าไปในห้องครัว ดูว่าเขากำลังทำอะไร

    อลิซ : มิสซึ นายทำอะไรอยู่งั้นเหรอ

    มิสซึ : มาดูน้ำที่เรากรองไว้หน่ะ ได้เยอะกว่าที่คิดซะอีก

    อลิซ : เออนี่ นายทำเหล้าเป็นหรือเปล่าหล่ะ

    มิสซึ : เคยทำอยู่ครั้งนึงนะ ถ้ามีของพอผมก็ทำได้นะ

    อลิซ : ฉันว่า จะให้นายทำเหล้าเพื่อแลกเปลี่ยนของกับคนข้างนอกหน่ะ

    มิสซึ : ว่าแต่ เรื่องการซ่อมอพาร์ทเม้นท์นี่ยังไงต่อหล่ะ เรามีที่ทำอาวุธ เครื่องกรองน้ำและกับดักสัตว์ เหลือแต่การป้องกันนี่แหละ

    อลิซ : ต้องมีวัสดุเพิ่มเติมหน่ะ ต้องหาให้ได้ก่อนนะ

    ทางด้านของไลฟ์ เธอร้องไห้อยู่ตลอดเวลาเนื่องจากพี่ชายของเธอที่ตายไป ในตอนนั้นเอง เอจิก็เดินเข้าไปดูเธอเนื่องจากว่าเป็นห่วง

    เอจิ : ไม่เป็นไรนะครับ // ไลฟ์กอดเอจิในทันที

    ไลฟ์ : ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วเอจิ

    เอจิ : ใจเย็นๆนะ ฉันอยู่กับเธอตรงนี้แล้ว

    ไลฟ์ : เอจิ ฉันกลัว กลัวว่าคนอื่นๆ รวมทั้งนายจะ

    เอจิ : ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ

    ไลฟ์ : นายสัญญากับฉันแล้วนะ

    และในตอนนั้นเอง ฮาจิก็วิ่งเข้ามาในห้อง เพื่อมานอนใกล้กับเอจิ แต่ไลฟ์กลับลูบหัวมันอย่างเอ็นดู

    ไลฟ์ : บางทีฉันก็อยากจะอยู่แบบฮาจิอ่ะนะ ไม่ต้องไปกังวลอะไรดี

    เอจิ : อยู่แบบคนดีแล้วหล่ะครับ อย่าเพิ่งสิ้นหวังแค่นั้นก็พอ

    ทางด้านของบารีร่า เธอนอนเฝ้าซีโร่อยู่ทั้งคืน จนกระทั่งเขาฟื้นขึ้นมา บารีร่ารีบกอดเขาในทันทีเมื่อรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร

    บารีร่า : ซีโร่ เธอปลอดภัยนะ

    ซีโร่ : ฉันเจ็บหน้าอกจังเลย รู้สึกไม่ค่อยดีเลย

    บารีร่า : ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวเธอก็ไม่เป็นไรแล้ว

    ซีโร่ : ว่าแต่ มีอะไรให้กินบ้างหรือเปล่าเนี่ย

    บารีร่า : เออใช่ กินนี่ก่อนสิ ฉันเก็บส่วนของเธอเอาไว้หน่ะ

    ซีโร่รีบกินอาหารแล้วก็ทานยาที่บารีร่าให้ไปทีหลัง

    ซีโร่ : อาหารเราก็หมดแล้ว เราต้องออกไปหาเพิ่ม

    บารีร่า : เข้าใจ แต่อย่าเพิ่งคิดถึงอนาคตเลย พักผ่อนก่อนดีกว่านะ

     

    กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด พวกเขามีภารกิจต้องตามล่ากลุ่มกบฏที่มีอยู่ในรายชื่อ ในตอนนั้นเควินพยายามจะแกะรอยกลุ่มกบฏโดยการดักฟังสัญญาณวิทยุสื่อสารของพวกนั้น แต่ในตอนนั้นเองคาสเตอร์ก็มาก่อกวนการทำงานของเควิน

    คาสเตอร์ : เฮ้ อุปกรณ์ของนายนี่มันกะจึ๋ดริดดีหว่ะ

    เควิน : อย่าแตะมันเด็ดขาดนะเฟ้ย ไม่งั้นฉันไม่เกรงใจแน่

    คาสเตอร์ : แล้วจะทำไม

    ในตอนนั้นเองอีริคกับอเล็กซ่าก็ต้องมาห้ามศึกก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะกันไปมากกว่านี้ คาสเตอร์โดนอเล็กซ่าลากไปทางอื่น

    คาสเตอร์ : น่าจะหากัญชาให้มันพี้บ้างนะ

    อเล็กซ่า : อย่างน้อยเขาก็ทำงานดีกว่าคนอื่นเป็นกองแหละน่า นายไปเตรียมอาวุธเถอะ

    อีริค : ได้ยินมั้ยพวก เขาทำงานเก่งกว่านายอีกหว่ะ

    อเล็กซ่า : เออนี่อีริค สถานที่ๆเราจะไปอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ

    อีริค : ห่างจากที่นี่ 2 กิโลเมตรได้หน่ะ ง่ายๆเอง

    ซิลเวสเตอร์ : เอาหล่ะทุกคน งานนี้เราต้องรีบทำ แล้วก็ให้สำเร็จด้วย

    อเล็กซานเดอร์ : เท่าที่ดูนะ พวกกบฏกลุ่มนี้มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

    ซิลเวสเตอร์ : ก็ว่างั้นหล่ะ ยังไงก็รีบทำงานให้เสร็จก็แล้วกันนะ

    อเล็กซานเดอร์ : แน่นอน เตรียมอาวุธให้พร้อมก็แล้วกัน

     

    ณ เขตเมืองหลวงของโซราติก ชายในกลุ่มกบฏสองคนพาทหารไทยไปตามทางเรื่อยๆ เพื่อไปตามหาผู้พันที่หายไป ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินกันอยู่ ชายสองคนก็บอกให้พวกเขารีบหลบเข้าไปในตึกหลังหนึ่งในทันที

    เดวิด : พวกรัฐบาลมา ท่าทางจะเป็นหมู่หน่ะ

    จินตโล : ดูท่าจะเป็นพวกสอดแนมนะครับท่านครับ

    เดชา : ไหนว่าพวกมันกำลังจะบุกแล้วยังไงหล่ะ

    อรุณ : พวกมันคงจะมาดูหล่ะมั้ง ว่าเส้นทางข้างหน้าปลอดภัยหรือเปล่า

    ในตอนนั้นเอง ทหารสองคนพาเชลยมาด้วยประมาณสามสี่คน จากนั้นพวกมันก็จับเชลยให้คุกเข่า

    เจตนา : นั่นเชลย พวกมันจะฆ่าเชลยแน่ๆครับท่าน

    เนตร : จะเอายังไงต่อดีครับท่าน เหมือนพวกมันจะฆ่าเขานะ

    อรุณ : โจอี้ เรามีเวลาเท่าไหร่ที่จะหนีเข้าเมืองได้หน่ะ

    โจอี้ : ราว 1 ชั่วโมงได้ครับ

    อรุณ : ยังพอมีเวลา ทุกคน ยิงประสานใส่พวกมัน เลือกเป้าตามใจชอบเลย

    พวกเขาต่างเล็งเป้าไปยังเป้าหมาย รอสัญญาณจากหัวหน้าของพวกเขา

    อรุณ : เอาหล่ะ ยิงเลย

    หลังจากมีคำสั่ง พวกเขาก็ยิงใส่ทหารรัฐบาล ทำเอาพวกมันระส่ำระส่าย บางคนรีบหนีกลับไปยังค่ายทหาร ส่วนเชลยก็รีบหนีเข้าไปในเมืองก่อนที่ทหารจะตามมาจับเขา

    โจอี้ : ขอบคุณมากนะครับที่ช่วย

    เนตร : เราคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหน่ะ รีบเข้าไปยังแนวรับของกลุ่มกบฏเถอะ

    เจตนา : โอเค รีบไปกันดีกว่า เหลือแค่ชั่วโมงเดียวเองนะ

    จินตโล : ว่าแต่ เราจะไปถึงที่นั่นในกี่นาทีหล่ะ

    เดชา : ถ้ารีบเดินก็ถึงเองหล่ะ รีบไปกันดีกว่า

    พวกเขาเดินทางกันต่อ ก่อนที่ทหารรัฐบาลจะตามมาจัดการพวกเขา

    และอีกด้านหนึ่ง เร็นกับเอ็ดเวิร์ดรีบหนีออกมาจากค่ายทหาร พวกเขาหารถแถวนั้นเพื่อขับรถกลับเข้าเมือง พวกเขารีบมาก ก็แหงะหล่ะ กลุ่มรัฐบาลกำลังตามก้นพวกเขามาหน่ะ

    เร็น : บ้าเอ้ย งานของฉันพังหมดเลย

    เอ็ดเวิร์ด : เอาน่า วันนี้ไม่ได้วันหลังค่อยทำก็ได้นี่

    เร็น : แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนกันเนี่ย

    เอ็ดเวิร์ด : เราจะรีบกลับไปยังค่ายกลุ่มกบฏ ไปตั้งหลักกันก่อนหน่ะ

    พวกเขารีบขับรถกลับไปยังค่าย ในขณะนั้นเองพวกเขาก็เผลอแหกด่านของกลุ่มกบฏ จากนั้นรถก็เสียหลักแล้วชนกำแพง ในตอนนั้นเองกลุ่มกบฏก็มาเปิดประตูรถพวกเขา

    อ้าว เอ็ดเวิร์ด ไหงขับมาแบบนี้วะ เกือบตายแล้วเนี่ย

    เอ็ดเวิร์ด : ขอโทษทีหว่ะ ฉันหนีทหารมา พาฉันไปพบกับหัวหน้าหน่อยสิ

    ชายคนนั้นพาเร็นและเอ็ดเวิร์ดไปยังค่ายของกลุ่มกบฏ ในตึกซึ่งเป็นตึกใหญ่ ในตอนนั้นเองก็มีคนจากกลุ่มอื่นมาร่วมประชุมเพื่อรับมือเหล่าทหารของรัฐบาลด้วย

    อ้าว เอ็ดเวิร์ด เรากำลังคุยกันเลย นี่เทเรซ่า เธอไปพา VIP ของเรามาด้วย เอาหล่ะ อย่าเสียเวลาเลย เริ่มคุยกันดีกว่าหลังจากที่คุยกัน พวกเขาก็เริ่มประชุมในทันที

    เทเรซ่า : เอาหล่ะค่ะ คุณอนูวา บอกสาเหตุที่คุณมาที่นี่ด้วยค่ะ

    อนูวา : ฉันมาเพื่อติดต่อกับกลุ่มกบฏ แล้วประเมินสถานการณ์หน่ะ

    เดม่อน : ว่าแต่ กองทัพของเธอเมื่อไหร่จะมาที่นี่หล่ะ

    อนูวา : พ่อฉันต้องแน่ใจก่อน ว่าถ้าทำแล้วจะไม่พลาดหน่ะ

    ลูลู่ : ว่าแต่ คุณตะวัน คุณติดต่อกับโลกภายนอกได้หรือยังคะ

    ตะวัน : ยังเลยครับ ผมไม่รู้ว่ากองทัพของผมกำลังทำอะไรอยู่

    เอ็ดเวิร์ด : ผมว่างานนี้เราต้องรีบดำเนินการหน่อยนะครับ

    เร็น : ใช่ พวกเราเห็นกองทัพกำลังจะบุกมาที่นี่

    เออใช่ ว่าแต่ กลุ่มกบฏที่เหลือตอนนี้ทำอะไรกันอยู่หล่ะหัวหน้าของกลุ่มได้สอบถามคนอื่นๆ

    เทเรซ่า : ตอนนี้เรายังติดต่อพวกเขาไม่ได้เลยค่ะ

    ลูลู่ : ได้ยินว่าบางส่วนเริ่มการปะทะกับทหารรัฐบาลแล้วนะคะ

    ตะวัน : ว่าแต่ พวกคุณรู้หรือเปล่า ว่าทางสหประชาชาติจะเอายังไงกับเรื่องนี้

    เดม่อน : เท่าที่ได้ยินมา ตอนนี้พวกเขายังไม่มีท่าทีอะไรนะครับ

    เร็น : ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ ถ้าเราจะจัดการ เราต้องจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันรู้ ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมพร้อมแล้วหล่ะ

    อนูวา : มีใครมีวิทยุบางคะ // เดม่อนนำวิทยุสื่อสารให้อนูวา จากนั้นอนูวาก็ติดต่อไปยังฐานบัญชาการของพ่อเธอในทันที

    พ่อคะ หนูอนูวาเองค่ะ

    อนูวา เป็นยังไงบ้างลูก ไม่ติดต่อมาหลายวันเลย ติดต่อกลุ่มกบฏได้มั้ย

    ติดต่อได้ค่ะ พวกเขาอยากคุยกับพ่อเลยค่ะอนูวาให้วิทยุกับหัวหน้ากลุ่ม

    ท่านนายพลครับ ผมเชสเตอร์ หัวหน้ากลุ่มกบฏเขตกลางครับ

    สถานการณ์การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ทหารรัฐบาลบีบเราเต็มที่ ตอนนี้พวกเขากำลังจะโจมตีกวาดล้างเราครับ

    เอาหล่ะ ผมจะหาทางส่งอาวุธให้พวกคุณก่อน

    ว่าแต่ เมื่อไหร่กองทัพของท่านจะมาหล่ะครับ

    ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบจัดการเองจากนั้นไม่นาน สัญญาณก็ถูกตัดไป

    เชสเตอร์ : เอาหล่ะทุกคน แยกย้ายกันไปได้ พวกรัฐบาลกำลังจะมาแล้ว คีธ นายหาทางไปติดต่อกับกบฏกลุ่มอื่นนะ // พวกเขารีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของแต่ละคน ในตอนนั้นเองเอ็ดเวิร์ดรีบวิ่งไปกอดเทเรซ่าทันที เนื่องจากว่าทั้งคู่ได้รักกันมาซักพักนึงแล้ว

    เทเรซ่า : ฉันคิดถึงคุณจังเลยเอ็ดเวิร์ด

    เอ็ดเวิร์ด : ผมก็คิดถึงคุณ ตอนนี้ผมได้อยู่กับคุณแล้วนะ // เอ็ดเวิร์ดจูบเทเรซ่าเข้าไปอีกครั้ง ทางด้านของฮาน่า เธอพาตะวันและอนูวากลับไปยังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนก่อน เพื่อให้พวกเขาไปพักผ่อน

    ฮาน่า : ฉันจะพาพวกเขาสองคนไปพักก่อน

    อลัน : ผมว่า ผมจะไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อปะทะกับพวกมัน

    ฮาน่า : ว่าแต่ คุณจะรู้เหรอว่ากลับมายังไงหล่ะ

    อลัน : ผมรู้น่า คุณพาพวกเขาไปส่งก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผมรีบกลับไปหาคุณเองนะ

     

    และทางด้านของคีธ เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังค่ายของกลุ่มกบฏแหล่งที่สอง ในตอนนั้นเองเขาคิดอยู่แค่ว่าต้องรีบไปเตือนพวกเขาว่ากองทัพของรัฐบาลกำลังจะไล่ตามเขา ให้พวกเขาเตรียมเข้าปะทะในทันที เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเจอกับขบวนชาวบ้านผู้อพยพ ที่กำลังเดินทางเข้าไปในเขตใจกลางเมือง

    ทุกคน รีบกลับเข้าไปในเมืองเร็ว พวกทหารกำลังมาแล้ว

    ชาวบ้านอพยพที่ได้ยินก็ตกใจ รีบวิ่งกลับเข้าไปในเมืองในทันที จากนั้นเองคีธก็เจอกับเทโจ หัวหน้ากลุ่มกบฏอีกกลุ่มหนึ่งที่พาชาวบ้านมาด้วย

    เทโจ : นี่นายเป็นใครเนี่ย

    คีธ : ผมก็เป็นพวกคุณนั่นแหละ ผมชื่อคีธ ผมมาเตือนพวกคุณว่าทหารรัฐบาลกำลังตามมา

    เทโจ : คิดว่าเราไม่รู้หรือไง เราก็รีบอยู่เนี่ย

    คีธ : ว่าแต่ คุณติดต่อกับกลุ่มอื่นได้หรือเปล่าครับ

    เทโจ : ผมพยายามอยู่ แต่การสื่อสารเข้าขั้นแย่มากเลย

    และในขณะเดียวกัน อันนาก็พาสาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเดินทางตามเทโจมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะหาที่ปลอดภัยในการหลบภัยสงคราม

    อันนา : เอาหล่ะเด็กๆ ยังไงก็เกาะกลุ่มรวมกันไว้นะจ๊ะ

    อามินะ : ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่พาพวกเรามาหน่ะ // ในตอนนั้นเอง จูซมแอบมองคีธอยู่ห่างๆ เพื่อนคนอื่นๆก็มาสะกิดเธอ

    ชิสา : จูซม มองอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ตาไม่กระพิบเลย

    จูซม : อะไรของพวกเธอเนี่ย ไม่ได้มองอะไรซะหน่อย

    ซนแซ : แหม่ ปากแข็งตามเคยเลยนะจ๊ะแม่คนสวย

    ซายอน : นี่พวกเธอ อย่าไปแซวเธอมากสิ หน้าแดงหมดแล้วเนี่ย

    จูซม : นี่พวกเธอ

    จียอน : ใจเย็นๆสิแหม่ แซวกันไปได้เนี่ย

    ไคล่า : เฮ้อ เหนื่อยจัง เดินมาตั้งไกลแล้วนะเนี่ย

    ยู่อี๋ : ว่าแต่ ต้องเดินอีกไกลหรือเปล่าเนี่ยถึงจะไปถึง

    ชินเฮ : ไม่รู้สิ แต่ยังไงก็เดินไปก่อนก็แล้วกันนะ // และในตอนนั้นเอง เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลก็บินผ่านหัวพวกเธอ ในตอนนั้นพวกเธอก็พยายามหาที่หลบที่ข้างทาง แต่พวกผู้ชายพยายามห้ามเธอเอาไว้

    เทโจ : ใจเย็นๆน่าคุณ พวกเราไม่ใช่เป้าหมาย มันคงมาสอดแนมหน่ะ       

    ชินเฮ : แต่ฉันกลัวนี่หน่า คุณเข้าใจหรือเปล่า

    เทโจ : เอาแบบนี้นะ ผมจะปกป้องคุณเองไม่ว่าจะยังไง

    จูซม : ว่าแต่ ถ้าพวกเธอไปถึงที่หลบภัย เธอจะเอายังไงต่อหล่ะ

    ไคล่า : พยายามติดต่อคนต่างชาติ หรือสถานทูตที่ไหนก็ได้สิ

    ซาซอน : เธอคิดว่าพวกเขาจะอยู่รอพวกเรางั้นเหรอ

    จียอน : แต่ยังไงก็ต้องลองดูก่อนนะ เราอาจจะได้กลับบ้านก็ได้

    ซนแซ : ตอนนี้ฉันหิวจังเลยเนี่ย อยากกินอะไรหน่อยหล่ะ

    ชิสา : แหม่ เพิ่งจะกินไปเมื่อกี้เองนะจ๊ะตัวเธอ

    อามินะ : เอาเป็นว่า ถ้าเราไปถึงที่ค่ายแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกัน

    ยู่อี๋ : เบื่อเสียงเครื่องบินจริงๆเลยเนี่ย มันทำฉันเป็นบ้าแล้ว

    ในตอนนั้นเอง ตอนอันนาเจอคีธ เธอรีบเข้าไปถามเขาเรื่องลูกของเธอในทันที

    อันนา : ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเคยเห็นเด็กชายคนนี้หรือเปล่าคะ // เธอยื่นรูปให้เขาดู

    คีธ : เหมือนจะเคยเห็นอยู่นะครับ

    อันนา : จริงเหรอคะ เห็นที่ไหนอย่างงั้นเหรอคะ

    คีธ : ลองไปที่ค่ายหลักของเราก่อนครับ เผื่อเขาจะอยู่ที่นั่น

    จากนั้นไม่นาน ขบวนของพวกเขาก็รีบออกเดินทางไปยังค่ายหลักในทันที ก่อนที่กองทัพรัฐบาลจะตามพวกเขามา

     

    กลับมายังโกดังสินค้าของมาร์ค ในตอนนั้นเองมาร์คก็พาเวร่ามายังที่เก็บของ ขนาดโกดังมันใหญ่มาก ตามที่มาร์คเปรยให้กับเวร่าฟัง เวร่าพอใจมากที่ได้มาร่วมงานกับเขา

    เวร่า : ที่นี่ใหญ่มาก น่าจะพอกักเก็บเสบียงให้พวกของฉันได้
    มาร์ค
    : แน่นอนครับ แต่เรายังขาดคนเฝ้าอยู่หน่ะ

    เวร่า : เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันให้ทหารของฉันมาเฝ้าก็ได้

    มาร์ค : แต่ว่า คุณต้องให้ทหารของคุณใส่ชุดพลเรือนนะครับ

    เวร่า : ต้องการจะพรางตัวสินะ ฉันเข้าใจน่า

    มาร์ค : โอเค ว่าแต่ จะส่งสินค้ามาเมื่อไหร่ดีหล่ะครับ

    เวร่า : ฉันจะรีบส่งสัญญาณให้ทหารมาส่งของ แต่ช่วงนี้คงต้องระวังหน่อย

    มาร์ค : เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอครับ

    เวร่า : ทางรัฐบาลสั่งให้ฉันนำกำลังบุกเข้าจัดการกลุ่มกบฏหน่ะ

    มาร์ค : งั้นเหรอ สงสัยผมคงจะต้องเก็บตัวแล้วสินะ

    เวร่า : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า

    ในตอนนั้นเอง ลูกน้องของมาร์คก็หยิบไวน์ขวดหนึ่งมาให้กับเขา

    มาร์ค : ดื่มหน่อยมั้ยครับคุณผู้หญิง

    เวร่า : แน่นอน คนอย่างฉันดื่มไม่เคยพอหรอก // ทั้งคู่นั่งดื่มไวน์ด้วยกัน

    เวร่า : ท่าทางคุณจะอยู่กับฉันได้ มีเหล้าให้ฉันเยอะๆแบบนี้

    มาร์ค : เฮ้อ แพงกว่านี้ก็มีให้คุณดื่มน่า เราเป็นหุ้นส่วนกันแล้วสินะ ว่าแต่ จะเป็นมากกว่านั้นได้หรือเปล่าหล่ะ // มาร์คยื่นหน้าไปหาเวร่า เธอเอามือปิดปากเขาไว้ก่อน

    เวร่า : ไปต่อที่ห้องดีกว่า ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมาเจอฉันหน่ะ

     

    กลับมาในเขตตัวเมือง ซีวิลวิ่งหนีจากการจับกุมของทหารมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงในตัวเมือง ในตอนนั้นเขาคิดว่าเขาหลุดพ้นจากการตามล่าของทหารแล้ว เขาก็เดินต่อไปในเมือง เผื่อว่าจะมีอะไรให้เขากินจนจบสงคราม
    แต่ในระหว่างที่เขากำลังเดินเล่น จู่ๆเขาก็โดนตีหัวเข้าที่ด้านหลัง ทำเอาซีวิลสลบในทันที จากนั้นพวกมันก็ลากซีวิลมาในตึกแห่งหนึ่ง จากนั้นไม่นาน เขาก็ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องขังห้องหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นมีคนอื่นๆก็อยู่ในห้องเดียวกับเขาด้วย

    ซีวิล : เฮ้ย พวกนาย นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นหล่ะเนี่ย

    ฉันก็ไม่รู้ โดนจับมาที่นี่เหมือนกับนายนี่แหละ

    ฉันมาแถวนี้เพื่อมาหาอาหาร แต่จู่ๆก็โดนตีสลบแล้วก็มาฟื้นที่นี่หน่ะ

    จากนั้นเอง พวกที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มคุยกัน ซีวิลไปแอบฟังพวกเขาพูดด้วยในตอนนั้น

    เฮ้ย ได้ข่าวหรือยัง พวกรัฐบาลกำลังจะบุกเข้ามาหน่ะ

    งั้นเหรอ แบบนี้ก็ไม่ต้องกินคนแล้วสินะ

    เออ ถ้างั้นพรุ่งนี้ก็รีบๆฆ่ามันให้หมด เอาเฉพาะพวกที่พอกินได้ก็แล้วกัน
    โอเค เดี๋ยวฉันคัดเลือกเองก็แล้วเอง

    ซีวิล : เฮ้ย พวกแกคิดจะทำอะไรฉันเหรอวะ

    เงียบปากเดี๋ยวนี้ หรือแกอยากเจ็บตัวห่ะมันตะโกนกลับใส่ซีวิล

    ซีวิล : บ้าเอ้ย กูไม่ยอมเป็นอาหารของพวกมึงหรอกนะเว้ย

    เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้กัน คืนนี้ปากดีไปเถอะหว่ะจากนั้นพวกมันสองตัวก็ออกไปด้านนอก

    เฮ้ย นี่เราจะโดนมันกินเหรอวะเนี่ย

    ซีวิล : เรื่องอะไรหล่ะวะ ฉันต้องหนีไปจากที่นี่ให้ได้

    ซีวิลพยายามหาทางหนีออกไปจากตึกนรกแห่งนี้ เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นอาหารของพวกมันแน่ๆ

     

    กลับมายังกลุ่มกบฏแปดหนุ่ม หลังจากที่พวกเขาไปสกัดทัพของรัฐบาลที่เข้ามาสอดแนมในเมือง พวกเขาก็รีบกลับเข้ามายังเขตปลอดภัยเพื่อที่จะรับมือกับกลุ่มรัฐบาล พวกเขามาที่ร้านค้าแห่งหนึ่งพร้อมกับอาหารกระป๋องบางส่วน จากนั้นพวกเขาก็นั่งพักถอนหายใจกันพักใหญ่

    อัลเบิร์ต : เฮ้อ กว่าจะหนีกันมาได้ เกือบตายแล้วมั้ยหล่ะ

    ริกโก้ : มีอาหารกระป๋องมาด้วย เดี๋ยวฉันทำให้พวกนายกินเอง // ในตอนนั้นทุกคนพร้อมใจกันจะแกะกระป๋องเพื่อที่จะรีบกินเดี๋ยวนี้

    ริกโก้ : หยุดก่อน เดี๋ยวนี้เลย ทำไมรีบกินจัง

    มีกัส : นี่พวกเรายังโดนมาหนักไม่พอหรือไงเนี่ย

    ทาเคชิ : นั่นสิ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์เท่าไหร่ วันหลังแล้วกันนะริกโก้

    ไซม่อน : ใช่ ฉันว่านายอย่าทำอีกเลยนะตัวเอง ฉันขอหล่ะ

    ริกโก้ : นี่แก!!

    มินโฮ : ช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่ เราจะเอายังไงต่อเรื่องนี้

    ดราก้อน : จะยังไงหล่ะ ทหารรัฐบาลบุกมาแน่ๆ ไม่ว่าจะยังไง

    ซุนฮยอน : ตอนนี้คนของเราก็เป็นรอง ไหนจะอาวุธอีกต่างหาก

    ทาเคชิ : เอาแบบนี้นะ ฉันจะลองไปติดต่อกับกลุ่มกบฏกลุ่มอื่นดู

    อัลเบิร์ต : ฉันว่า พวกนั้นก็คงหัวปั่นไม่ต่างกับเราหรอก

    มีกัส : ว่าแต่ เราจะไปกันต่อไหนดีหล่ะเพื่อน

    ดราก้อน : เราต้องรีบไป ยิ่งช้าแผนการตั้งรับจะยิ่งไม่ได้ผลมากขึ้นหน่ะ

    ริกโก้ : แต่ก่อนอื่น พวกนายไม่ให้ฉันทำอะไรให้กินจริงๆเหรอ // ทุกคนถึงกับรีบตักอาหารกระป๋องเข้าปาก

    ซุนฮยอน : เฮ้อ เหนื่อยจัง ได้กินอะไรแบบนี้ค่อยดีหน่อย

    ไซม่อน : วันนี้เราขอซักวันเถอะนะริกโก้

    ริกโก้ : ฮืม พวกนายนี่มันเหลือเกินจริงๆเลยนะเฟ้ย

    มินโฮ : เฮ้อ ฉันว่าเราคงจะไม่รอดถึงพรุ่งนี้แน่ๆ // มินโฮพูดพลางตักอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็ว

     

    กลับมายังร้านกาแฟแห่งหนึ่งในตัวเมือง หลังจากที่อนาตาเซียตื่นขึ้นมา ในตอนนั้นเองพ่อของเขาก็เอาน้ำมาให้เขาล้างหน้าล้างตา เพื่อทำให้เขาสดชื่นก่อนที่จะมาทานอาหารเช้าต่อ

    อนาตาเซีย : ผมขอกินเลยได้หรือเปล่าครับพ่อ

    เวสต์ : ไม่ได้ อย่าอิดออด เดี๋ยวก็ได้กินเองหล่ะ

    อนาตาเซีย : คุณพ่อเวสต์สอนไว้ ต้องล้างหน้าแปรงฟันก่อนกินข้าว // อนาตาเซียฮัมเป็นเพลง

    เวสต์ : นี่ จะต้องให้พ่อเอาหัวกดน้ำมั้ยห่ะ // อนาตาเซียรีบล้างหน้าอย่างไว จากนั้นก็รีบลงมาด้านล่าง กินอาหารเช้ากับพ่อของเขา

    อนาตาเซีย : ว่าแต่ เราจะเอายังไงต่อดีหล่ะครับพ่อ

    เวสต์ : อยู่ในนี้เราปลอดภัยน่า ไม่ต้องห่วงไปหรอก

    อนาตาเซีย : แต่เสบียงของเรากำลังจะหมดนะครับพ่อ

    เวสต์ : อีกไม่นานสงครามคงจบแล้วหล่ะ อีกอย่าง เสบียงของเรามีมากพออยู่แล้วน่า ลูกเบื่อที่นี่ใช่มั้ยหล่ะ

    อนาตาเซีย : ก็แหงะหล่ะครับ เสียงปืนใหญ่ดังทั้งคืน ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วเนี่ย

    เวสต์ : อดทนหน่อยนะลูก มันต้องจบลงอีกไม่นานแน่ๆ

    อนาตาเซีย : ก็หวังไว้แบบนั้นครับ // อนาตาเซียตักอาหารเข้าปากไปเรื่อยๆ เวสต์ต้องคอยปลอบใจลูกของเขาไม่ให้ขวัญเสียไปมากกว่านี้

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน พวกของนอร์รีนยังคงแยกย้ายกันพักผ่อน บางส่วนก็ช่วยกันทำอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อรับมือกับกลุ่มโจรที่จะบุกมาต่อไป แต่ในระหว่างนั้นเอง เสียงปืนใหญ่ก็ดังมาแต่ไกล ทำเอาพวกเขาตกใจกันมาก จนต้องมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่

    โทนี่ : นี่ ทุกคน สงสัยว่าพวกมันคงจะเริ่มการบุกแล้วหล่ะ

    เอสเทอร์ : นั่นสิ ว่าแต่คุณอนูวาเมื่อไหร่จะกลับมาหล่ะ

    ไลฟ์ : อาจจะไม่กลับมาแล้วมั้ง นางอยู่กับพวกกบฏแล้วนี่

    นอร์รีน : ว่าแต่ ยูจีนเขาหายไปไหนกันหล่ะเนี่ย

    มิเชล : ฉันก็ไม่รู้ สงสัยคงจะอยู่แถวนี้แหละ

    เอจิ : ไม่ว่าจะยังไง เราต้องอยู่ด้วยกันเอาไว้นะครับ

    จากนั้นไม่นาน ลูกปืนใหญ่ก็มาตกที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขา ทำเอาพวกเขาถึงกับต้องรีบหมอบลงกับพื้น

    บารีร่า : นี่เราจะตายกันหมดอย่างงั้นเหรอเนี่ย

    ซีโร่ : ไม่หรอกครับ ผมจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่หรอก

    มิสซึ : ตอนนี้อลิซกำลังซ่อมอพาร์ทเม้นท์อยู่ ภาวนาอย่าให้มันยิงมาโดนเราก็แล้วกัน

    อลิซ : ตอนนี้ฉันยังขาดอุปกรณ์เพิ่มเติมอยู่ พอจะหาได้หรือเปล่าหล่ะ

    นอร์รีน : เดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปหาของเอง พวกคุณไม่ต้องห่วงนะ

    หลังจากที่เสียงปืนใหญ่ดับลง พวกเขาก็ออกมาจากที่ซ่อนอย่างหมดกังวล แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า กองทัพของรัฐบาลกำลังจะเริ่มกวาดล้างผู้คนในเมืองแล้ว

    =================================================================

    สงครามระหว่างกลุ่มกบฏกับรัฐบาลกำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรกันต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×