คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : หาเพื่อน
เข้าวันต่อมา ที่โรงเรียนมัธยมปลายเดิม กลุ่มของเก่งในตอนนั้นก็มารวมตัวกันเพื่อดูรายการเกมโหวตตายย้อนหลัง เนื่องจากว่าเขาต้องการรู้ผลของเกมว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และต้องการอยากรู้ชะตากรรมของนาครด้วย เก่งเปิด iPad สุดหรูของเขาแล้วเปิดเสียงให้กับทุกคนได้ฟังในทันที
"สวัสดีค่ะ ท่านผู้ชมที่ดูรายการย้อนหลังทุกท่าน พบกับดิฉันพาช่าเจ้าเก่า เมื่อเกมโหวตตายดำเนินไปอย่างเข้มข้นและสนุกมาก หลายเป้าหมายตายตามที่ทุกท่านโหวตมา แต่เอ๊ะ วันนี้มีชายคนหนึ่งที่ยังไม่ตาย แถมกำลังมาแรงแซงโค้งในขณะนี้ เขาคือ นายนาคร ทัพไธสง เด็กหนุ่มนักเรียน ซึ่งเขาเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมปลายซึ่งเราขออุบไว้ก่อน ด้วยนะคะ!!"
"เฮ้ย ไอ้บ้านั่นยังไม่ตายเหรอวะ??" เก่งถามอย่างสงสัย
"โห แม่งดวงแข็งจริงหว่ะพี่ ไม่ธรรมดาเลย" ลูกน้องของมันอีกคนพูดขึ้น
"เนื่องจากเมื่อวานนี้เราพยายามสังหารเขาทุกวิถีทาง แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะหายไปได้อย่างไร้ร่องรอย รายงานล่าสุดของเราจากเขตรัชดา เราได้เห็นว่าเขาปืนรั้วเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แล้วหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ในตอนนี้เรากำลังหาตัวเขาทุกวิถีทาง เขาคือหนึ่งในไม่กี่คนที่หนีจากการตามล่าของเราได้!!"
"ไอ้ห่าเอ้ย นี่มันอะไรวะเนี่ย??" เก่งถามไป จากนั้นไม่รอช้า รีบ inbox เข้าไปในกล่องข้อความของเว็บไซต์ในทันที
"นี่ พวกคุณ ทำไมไอ้นาครมันถึงไม่ตาย??"
"Admin : ค่ะ ดิฉันต้องขออภัย แต่ทางเราทำดีที่สุดแล้ว"
"แต่มันยังดีไม่พอ ฉันเสียเงินตั้งเยอะโหวตมันตายนะ??"
"Admin : แต่ก็ยังเสียไม่พอนะคะ แค่ 1 ล้านบาทเอง คุณจะเอาอะไรนักหนาคะ ดิฉันแนะนำว่าคุณกลับไปดูผลการแข่งขันต่อดีกว่า"
"ระยำ แกอยากได้อีกเท่าไหร่ บอกมาเลย??"
"Admin : แล้วคุณคิดว่าคุณจะจ่ายเท่าไหร่กันหล่ะ??" ซันจิโร่คิดไปซักพักหลังจากที่เธอถาม จากนั้นเขาก็พิมพ์ไปในทันที
"5 ล้านบาท!!"
"Admin : ได้ค่ะ ขอหลักฐานการโอนเงินด้วยค่ะ"
"เออ ลูกพี่ มีตั้ง 5 ล้านเหรอพี่??" ลูกน้องเก่งคนหนึ่งถามไป
"ฉันจะออก 3 ล้าน ที่เหลือพวกแกไปรวบรวมมาอีก 5 ล้าน เดี๋ยวนี้!!" เก่งพูดขึ้น ทำเอาคนอื่นๆถึงกับต้องรวบรวมเงินที่มีโอนผ่านแอพธนาคารเข้าบัญชีของเก่งในทันที
"นี่ค่าขนมเราทั้งเดือนนะพี่??"
"เออ ถ้าชนะเมื่อไหร่ รับรองได้คืนทุกบาททุกสตางค์แน่นอน" เก่งพูดขึ้น จากนั้นเขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของเกมโหวตตายไปในทันที
"โอนเงิน 5000000 สำเร็จ!!"
"Admin : ขอบคุณที่ใช้บริการเกมโหวตตายค่ะ" Admin ส่งข้อความสุดท้ายมา ทำเอาเก่งถึงกับหัวเสีย เพราะนี่ก็คือค่าขนมของเขาถึง 50 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว แต่ยังไม่ทันที่เขาจะทำอะไรต่อ เสียงกริ๊งโรงเรียนก็ดังขึ้นมาในทันที ทำเอานักเรียนคนอื่นๆถึงกับต้องรีบวิ่งเข้าห้องเรียนในทันที ก่อนที่พวกเขาจะเรียนวิชาถัดไป
กลับมายังห้องของนาคร ซึ่งในตอนนั้นเองอาริลก็กำลังวิดพื้นเพื่อบริหารร่างกายเพิ่มเติม โดยที่ตัวเขาในตอนนั้นก็กำลังรอข่าวจากเพื่อนของเขาที่ใช้ชื่อรหัส Vegus นาครวิดพื้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงแจ้งเตือนมาจากคอมพิวเตอร์ของเขา อาริลรีบไปดูคอมของเขาในทันที
"1 การแจ้งเตือน Vegus" นาครเห็นดังนั้นก็กดอ่านข้อความในทันที และเขาก็พบกับข้อความซึ่งยาวเป็นหางว่าว เขาค่อยๆอ่านและประติดประต่อในทันที
"Vegus : ไอ้ริล ถ้านายอ่านข้อความของฉันอยู่ ฉันสืบเรื่องของเกมโหวตตายตอนนี้ได้แค่บางส่วนหน่ะ แต่รู้แค่ว่าองค์กรนี้ดำเนินการลับๆโดยองค์กรลับ สปอนเซอร์เป็นทั้งเศรษฐีของประเทศ รวมถึงคนในรัฐบาลบางส่วนก็มีเอี่ยวด้วย ฉันอยากจะช่วยนายนะแต่ว่าตอนนี้ฉันสืบได้แค่ตัวพิธีกรดำเนินรายการ พาช่า ศศิกานต์!!"
"นาคร : รู้ประวัติเธอหรือเปล่า??"
"Vegus : แม่งชื่อปลอม ความจริงเธอชื่อสุรีนา ไปรสุข อายุ 26 ปี เคยมีส่วนพัวพันกับคดีฉ้อโกงค่าโฆษณาข่าวจนโดนไล่ออกจากการเป็นนักข่าว จากนั้นเธอก็เปลี่ยนชื่อแซ่ แล้วมาเป็นพิธีกรรายการนี่หล่ะ!!"
"นาคร : พอรู้ที่อยู่เธอหรือเปล่า??"
"Vegus : ยัยนี่มักจะชอบเก็บตัว แต่ข้อมูลบางส่วนบอกว่าเธอชอบไปเดินย่านสยาม ซื้อของทีเป็นตันกลับบ้านเลยหล่ะ"
"นาคร : ถ้าอย่างงั้นคงต้องเริ่มจากยัยนี่ก่อน แล้วไม่มีข้อมูลอื่นอีกแล้วเหรอ ระดับ Vegus นี่ต้องมีข้อมูลมากกว่านี้สิ??"
"Vegus : ก็อยากจะช่วย แต่ฉันไม่ใช่เทพผู้พยากรณ์นะเว้ย คงต้องใช้เวลาซักพัก แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจะสืบให้ได้ แล้วอีกอย่าง ฉันมีข้อมูลเพิ่ม เผื่อนายจะสนใจ ที่เหลืออ่านเองแล้วกัน"
"Vegus : ออกจากการสนทนา!!"
หลังจากที่เขาคุยกับ Vegus จบเรียบร้อย นาครก็เปิดแฟ้มประวัติของบรรดาชายหญิงทั้ง 4 คนมาอ่าน จากนั้นข้อมูลก็ขึ้นมาผ่านไฟล์ PDF ในทันที
"ทุกคนที่ฉันส่งมา ล้วนแต่เป็นเป้าหมายของเกมโหวตตายทั้งนั้น เอาเป็นว่าฉันจะไล่เรียงลำดับก็แล้วกัน"
"คนที่ 1 วาเลเรีย อิเล็กทริซิส อายุ 21 ปี อาชีพวิศวกร ช่วงนี้เธอค่อนข้างโดนหัก เนื่องจากว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์โปรเจ็กค์ลับที่เธอทำงานด้วย เกิดไม่ลงรอยกับเธอ เนื่องจากว่าเธอผลงานเด่นเกินไป ค่าหัวของเธอมีอยู่ 3 ล้านบาท เธอพักอยู่แถวย่านสีลม คอนโดพาราไดซ์ ถ้าอยากจะช่วยเธอ ลองไปหาเธอได้"
"คนที่ 2 ซีอาร่า เครสเซนเทีย อายุ 21 ปี ขวัญใจส่วนตัวของฉันเลย นายน่าจะรู้จัก นางแบบดังที่กำลังมาแรงในตอนนี้ แต่ในช่วงนี้เธอน่าสงสารมาก ดูเหมือนว่ากลุ่มแอนตี้เธอจะไม่ชอบเธอซักเท่าไหร่ แถมพอมีข่าวไปคั่วกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เธอก็โดนพวกนั้นโหวตเข้าเกมโหวตตายในทันที ค่าหัวของเธอในตอนนี้ 4 ล้านบาท เธอพักอยู่ที่บ้านพักส่วนตัว ไม่ไกลจากบ้านนายเท่าไหร่ นายน่าจะรู้นะ"
"คนที่ 3 จอห์น เวสลีย์ อายุ 15 ปี ชาวอังกฤษ เพิ่งมาพักผ่อนที่ไทย ไอ้หมอนี่ตัวอันตราย แต่คนที่พยายามเก็บหมอนี่อันตรายกว่า ดูเหมือนว่าหมอนี่ไปเหยียบตีนองค์กรอะไรเข้านี่หล่ะ เลยโดนตามเก็บด้วยค่าหัว 3 ล้านกว่าๆ หมอนี่พักอยู่คอนโดแถวสยาม ไปหาได้เลย"
"คนสุดท้าย น้องสาวคนนี้น่ารักมาก เอบิต้า มิโลเซวิช อายุ 14 ปี รุ่นน้องนายเลยนะ ลูกสาวประธานาธิบดีอาร์เจนติน่าเลยนะ มาเรียนซัมเมอร์ที่เมืองไทย แต่สุดท้ายน้องเขาไม่รู้ไปทำอะไรมา ดูเหมือนว่าเธอก็โดนโหวตจากเกมนี่เหมือนกัน ๆม่รู้ว่าไอ้พวกไหนมันโหวตเธอ ค่าหัว 2 ล้านบาท ยังไงก็ช่วยน้องเขาให้ทันนะเว้ย ข้อมูลทั้งสี่คนฉันส่งให้นายหมดแล้ว โชคดี!!"
หลังจากที่ได้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย นาครก็เก็บข้อมูลของเขาลงบนโทรศัพท์มือถือพกพา จากนั้นเขาก็ไปหยิบปืน Glock 17 ชนิด Full auto พร้อมกระบอกเก็บเสียงมาหนึ่งกระบอก จากนั้นก็ใส่ชุดฮู้ทสีดำทั้งตัวและใส่หน้ากากไปด้วย และในตอนนั้นเองเขาก็รีบไปขึ้นรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งซึ่งจอดที่ด้านนอก เขาเปลี่ยนทะเบียนรถในทันที จากนั้นก็ซิ่งรถออกเดินทางไปตามที่ Vegus ได้บอกกับเขาอย่างรวดเร็ว
ณ สำนักงานสืบสวนคดีพิเศษ ประเทศไทย ชายคนหนึ่งใส่ชุดสูทสีน้ำตาลก็เดินเข้ามาในสำนักงาน โดยที่มีชายอีกคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบตำรวจเดินมาคุยกับเขาและทักทายเขาในทันที
"สวัสดีครับคุณจินเจอร์!!"
"สวัสดีครับท่านพิทักษ์ กรุงเทพนี่ยังร้อนเหมือนเดิมนะครับ" ชายคนนั้นพูดขึ้น
"ก็ไม่เหมือนแคลิฟอร์เนียหรอกครับ เชิญด้านในก่อนสิ" พิทักษ์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็พาจินเจอร์ไปที่ห้องทำงานของเขา เพื่อคุยถึงงานของเขาในทันที เมื่อพวกเขามาถึงในห้อง พิทักษ์ก็ยื่นซองเอกสารซองหนึ่งให้กับจินเจอร์ในทันที โดยที่จินเจอร์ก็เปิดซองอ่านไปด้วย
"ข้อมูลที่คุณต้องการ บอกให้นะ คดีที่คุณกำลังสืบเนี่ย มีหลายคนพัวพันด้วย นักการเมือง ข้าราชการใหญ่ คนมีสี งานนี้คุณอาจจะลำบากหน่อยหล่ะ"
"ผมรู้ แค่ได้ยินว่าเครือข่ายของพวกมันอยู่ที่กรุงเทพ มันก็ต้องลองหน่อยหล่ะ" จินเจอร์พูดขึ้น
"คุณต้องระวัง มันอาจจะจับจ้องคุณอยู่ก็ได้"
"ผมนึกแค่ว่าจะจับเป็นหรือจับตายพวกมันอยู่ แค่นั้นแหละ" จินเจอร์พูดขึ้น
"เออนี่ แล้วเมื่อไหร่คุณจะว่างหล่ะ ผมจะพาไปทานข้าวหน่อย??" พิทักษ์ถามไป
"เอาไว้เย็นนี้เจอกัน นายโทรนัดสถานที่มาเลย" จินเจอร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็เก็บเอกสารใส่กระเป๋าของเขา จากนั้นก็รีบเดินออกไปจากสำนักงานสืบสวนในทันทีอย่างรวดเร็ว
ณ คอนโดพาราไดซ์ สีลม ในห้องสวีทห้องใหญ่ห้องหนึ่งซึ่งหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเขียนแบบอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะของเธออย่างคร่ำเคร่ง เธอกำลังเขียนเส้นตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ในระหว่างที่เธอกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะ จู่ๆก็มีเสียงอะไรบางอย่างมาจากประตูหน้า
"ติ๊ดๆๆ"
มันไม่ใช่เสียงกริ่งประตู มันเหมือนกับเสียงเตือนภัยอะไรบางอย่าง หญิงสาวคนนั้นรีบเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้า และในตอนนั้นเอง พวกมันก็ถีบประตูเข้ามาด้านในทันที
"ปัง!!"
เสียงถีบประตูดังเข้ามา แต่จู่ๆมันสลับกับเสียงปืนเสียงดังไปมา
"ปังๆๆๆๆๆๆ"
เธอคนนั้นแปลกใจมาก แต่จู่ๆ เสียงฝีเท้าก็เดินเข้ามาที่หน้าตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เคาะประตูตู้ในทันที
"ก๊อกๆๆๆ" หญิงสาวคนนั้นเปิดประตูในทันที และนั่นก็คือนาครที่ถือปืนเดินเข้ามาหาเธอ จากนั้นก็ถามเธอไป
"คุณคือวาเลเรีย อิเล็กทริซิสสินะ??"
"ใช่ ว่าแต่นายเป็นใครกัน??" วาเลเรียถามเขาไป
"ผมชื่อนาคร ตอนนี้มีคนต้องการฆ่าคุณอยู่ มากับผม ผมจะอธิบายทุกอย่าง ถ้ายังอยากมีชีวิตนะ ไปเก็บของเร็ว!!"
วาเลเรียยังคงแปลกใจเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามไปหยิบของที่จำเป็นไปมากที่สุด จากนั้นก็มาหานาครที่กำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตู แล้วเหลือบไปมองซ้ายขวาเพื่อมองหาศัตรูไปด้วย
"นี่ หาผ้าคลุมหัวด้วย แล้วตามผมมา!!" นาครพูดขึ้น จากนั้นเธอก็รีบไปหาผ้ามาคลุมแล้วปิดหน้าเอาไว้ จากนั้นนาครก็พาเธอเดินออกไปทางด้านหลังคอนโด แล้วเดินอ้อมไปอีกหน่อยเพื่อไปที่มอไซค์เขา
"นี่ ทำไมไม่ออกประตูหน้าหล่ะ??" วาเลเรียถามอย่างสงสัย
"ถ้าทำแบบนี้เราโดนจับได้แน่ แล้วพวกมันจะตามเรามาทัน ถ้าถึงรถผมได้ก็ปลอดภัยแล้ว" นาครพูดไป และในไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็มาถึงมอไซค์ จากนั้นพวกเขาก็รีบขึ้นมอไซค์แล้วขี่ออกไปในทันที พวกเขาขี่รถมาเรื่อยๆ ฝ่าการจราจรที่ค่อนข้างติดหนึบ จนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง นาครก็มาจอดอยู่ที่หน้าซอยแห่งหนึ่ง แล้วก็ให้วาเลเรียลงในทันที
"นี่ ไล่ฉันลงแบบนี้เหรอ??"
"เดินไปตามซอย ถามชาวบ้านแถวนั้นว่าคอนโดแสงภิรมย์อยู่ที่ไหน เมื่อคุณไปถึง บอกพนักงานต้อนรับว่านาครส่งคุณมา แล้วเธอจะจัดการเอง" นาครบอกกับเธอ
"แล้วนายจะไปไหน??" วาเลเรียถามอย่างสงสัย
"ผมมีงานต้องทำหน่ะ คุณไปรอผมก็แล้วกัน" นาครพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ซิ่งรถออกไปอีกครั้ง เพื่ออกไปรับคนอื่นที่เหลือ เพื่อช่วยพวกเขาจากการโดนตามล่า
ณ บ้านพักแห่งหนึ่งในย่านที่ไม่ไกลจากบ้านของนาครนัก ซึ่งรถหรูคันหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถในบ้าน เธอเปิดประตูอัตโนมัตืด้วยรีโมทจากนั้นเธอก็ขับมาจอดในทันที แต่เธอก็ยังไม่ลงจากรถ เธอถ่ายเซลฟี่ไปหนึ่งรูปพร้อมกับอวดกระเป๋าใหม่ของเธอ
"แชะ!!"
"ใครเอ้ย สวยที่สุดในโลก!!" เธอคนนั้นพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เธอไม่รอช้ารีบรับสายไปในทันที
"สวัสดีค่ะพี่ มีอะไรเหรอ??"
"นี่ ซีอาร่า มีงานใหม่ จ่ายสูงด้วย เธอจะรับหรือเปล่า??"
"ให้ไปกินข้าวกับใครหล่ะคะ ไม่เอาหรอก" ซีอาร่าตอบกลับไป แต่ในตอนนั้นเอง นาครก็ขับมอไซค์มาจอดที่หน้าบ้านเธอ จากนั้นเขาก็ลงจากรถและมาเคาะที่หน้าประตูบ้านเธอ เธอหัวเสียรีบเดินไปหาเขาในทันทีเพื่อเดินไปไล่เขาออกไป
"นี่ มาทำอะไรหน้าบ้านฉันเนี่ย??"
"รีบตามผมมา ถ้าคุณยังไม่อยากตาย" นาครพูดกับเธอไป
"นี่ ฉันมีปืนนะ นายถอยไปดีกว่า" ซีอาร่าพูดขึ้น และเธอก็ชักปืนออกมา แต่นาครในตอนนั้นก็ไม่กลัว เปิดประตูบ้านเธอออกมาได้อย่างง่ายดาย ทำเอาเธอถึงกับเล็งปืนไปที่เขา แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะยิงอยู่
"อย่าเข้ามา ไม่งั้นฉันยิงนะ!!"
"ตู้ม!!"
จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังมาจากรถของเธอ แรงระเบิดทำเอาเธอกระเด็นออกไป แต่นาครก็เอาตัวรับเธอไว้ จนผ้าปิดหน้าของเขาหลุด ซีอาร่าเห็นหน้านายนาครทำเอาเธอถึงกับอึ้งและมองเขาไปซักพัก แต่นาครก็พยายามดึงสติเธอขึ้นมา
"นี่คุณ ฟังผมให้ดีนะ คุณรีบไปเก็บของ แล้วไปกับผม มีคนบางคนพยายามจะฆ่าคุณ ที่รถระเบิดนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ไปกับผม หรืออยากจะตายที่นี่ เลือกเอา พวกมันคงไม่หยุดแค่ระเบิดหรอกนะครับ" นาครพูดขึ้น ทำเอาซีอาร่าทำอะไรไม่ถูก เธอรีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บของใช้ที่จำเป็นของเธอ ส่วนนาครก็แอบมองไปแถวๆซอยซึ่งดูผิดปกติ ชาวบ้านแถวนั้นแทบไม่ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย และในตอนนั้นเอง ซีอาร่าก็ห้อยกระเป๋ามากมายเดินออกมา จากนั้นก็เดินมาหานาครในทันที
"นี่ เราจะไปกันได้ยังอ่ะ??"
"โห คุณจะเอาไปหมดเลยเหรอ??" นาครถามอย่างสงสัย ในขณะที่มองเห็นเธอถือกระเป๋ามามากมาย
"ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นปัญหาหรอกน่า" ซีอาร่าพูดขึ้น จากนั้นนาครก็พาเธอไปขึ้นมอไซค์ แล้วก็ขับออกจากบริเวณบ้านของเธอในทันที เขาใช้เส้นทางที่เขาเตรียมไว้เพื่อเลี่ยงการตรวจจับของคนอื่นๆที่พยายามจะล่าตัวเขา เขาขับวนอยู่แถวๆนั้นซักพัก จากนั้นเขาก็จอดรถอยู่แถวซอยเดิม แล้วให้ซีอาร่าลงจากรถในทันที
"นี่ คุณให้ฉันลงทำไมกัน??" ซีอาร่าถามอย่างสงสัย
"ถามชาวบ้านแถวนี้ว่าคอนโดแสงภิรมณ์อยู่ที่ไหน และบอกพนักงานว่าผมนาครส่งมา แล้วผมจะมาเจอกับคุณ ไม่ต้องห่วง" นาครพูดขึ้น จากนั้นเขาก็รีบบึ้งรถเดินทางออกไปต่อในทันที ซีอาร่าแอบยิ้มจากนั้นก็เดินแบกกระเป๋าเข้าไปในซอยต่อในทันที
ณ คอนโดแห่งหนึ่งแถวย่านสยาม ช่วงบ่ายคล้อย ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นไปบนลิฟท์เพื่อขึ้นคอนโโ แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็เกิดเอะใจอะไรบางอย่าง เขาเหลือบไปเห็นเด็กกำลังวิ่งเล่นแถวนั้น แต่ชายคนนั้นก็ไม่สนใจอะไร แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆลิฟท์ก็ดับไปอย่างไม่มีเหตุผล ทำเอาเขาตกใจมาก
"อะไรกันวะเนี่ย??" ชายคนนั้นถามอย่างสงสัย แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งกำลังเล็งปืนใส่ชายคนนั้น แต่ในตอนนั้นเอง
"ฟิ้ว!!"
ชายคนที่ถือปืนคนนั้นล้มลง และนาครก็เดินเข้าไปยิงศพของมันซ้ำ ชายคนนั้นถึงกับตกใจมาก และในตอนนั้นเองนาครก็เดินไปหาชายคนนั้นต่อ ทำเอาชายคนนั้นตกใจเล็กน้อย
"คุณจอห์น เวสลีย์ใช่หรือเปล่า??"
"ใช่ นายเป็นใครกัน??"
"ผมเป็นคนที่จะมาช่วยคุณ มากับผมถ้ายังอยากมีชีวิต" นาครตอบไป
"แล้วทำไมผมต้องเชื่อใจคุณหล่ะ??" จอห์นถามกลับไป
"ก็ผมเพิ่งช่วยคุณยังไงหล่ะ ไอ้บ้านี่มันกำลังจะฆ่าคุณ ตามผมมาเถอะ" นาครพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน นาครก็ได้รับ SMS จากมือถือของเขา เขาเปิดมือถือมาดูในทันที จากนั้นก็อ่านข้อความไป
"ฉันพาอีกสองคนกลับมาแล้ว กลับบ้านายมาสิ"
"เฮ้อ ให้มันได้อย่างงี้ ตามผมมา!!" นาครพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง นาครก็ยื่นหมวกกันน๊อคให้กับจอห์น จากนั้นเขาก็รีบขึ้นมอไซค์แล้วขับออกไปจากคอนโดในทันทีอย่างรวดเร็ว
และมาถึงช่วงบ่าย นาครพยายามเลี่ยงการใช้เส้นทางหลักและใช้เส้นทางอื่น และไม่นานนัก นาครก็มาจอดมอไซค์ไว้แถวๆคอนโดของเขา แล้วเขาก็พาจอห์นเข้ามาที่คอนโดด้วย โดยที่พนักงานต้อนรับกำลังรอเขาอยู่
"นี่ มีคนกำลังรอนายอยู่ ไปสิ!!"
นาครได้ยินดังนั้นจึงพาจอห์นลงไปชั้นใต้ดินด้านล่าง และเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามา เขาก็เจอกับคนที่เขาช่วยเอาไว้รวมถึงคนอื่นๆที่มาสมทบด้วย ทำเอานาครถึงกับตกใจเล็กน้อย
"อ้าว สวัสดีค่ะรุ่นพี่ จำหนูได้หรือเปล่าคะ??"
"หือ เอบิต้า มาทำอะไรที่นี่เนี่ย??" นาครถามอย่างสงสัย
"มีคนรับหนูมาส่งที่นี่ค่ะ" เอบิต้าตอบไป
"อ่า ผมชื่อเฮนรี่ เทร์เวอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก มีคนส่งผมมาที่นี่ ว่าแต่ ทำไมพวกเราต้องมารวมตัวกันที่นี่หล่ะ??" ชายอีกคนหนึ่งในห้องถามอย่างสงสัย
"เอาหล่ะ ผมจะรวบรัดเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน ตอนนี้ทุกคนกำลังโดนเกมโหวตตายตามล่าชีวิต ผมไม่รู้ว่าใครสั่งฆ่าพวกคุณ แต่ตอนนี้ พวกคุณกำลังโดนหมายหัวอยู่!!" นาครบอกกับทุกคนไป
"แต่ว่า เกมโหวตตายมันก็แค่เรื่องไร้สาระในเน็ตนะ" ซีอาร่าแย้งไป
"มันไม่น่าจะใช่เรื่องไร้สาระนะ ฉันเคยให้คนของฉันแฮ็คเข้าไปในเซิฟเกมหลักของมัน มันมีกลุ่มเครือข่ายขนาดใหญ่หนุนหลัง เราน่าจะลำบากแล้วหล่ะ" วาเลเรียพูดขึ้น
"ปัญหาคือ พวกคุณต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าพวกมันจะเลิกตามล่าเรา หรือไม่ก็ตอนที่เราจัดการเครือข่ายมันได้" นาครพูดขึ้น
"แต่ว่า ถ้ามันใหญ่ขนาดนั้น คนหนุนหลังต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ" จอห์นพูดขึ้น
"นั่นสิคะพี่ เรายังไม่รู้เลยว่าใครสั่งฆ่าเรา" เอบิต้าพูดเสริม
"ตอนนี้เรายังไม่รู้ แต่ในอนาคตเราได้รู้แน่ เพราะฉะนั้น เราจะต้องร่วมมือกัน หรือไม่ก็ออกไปตายข้างถนน แค่นั้นแหละ!!" นาครพูดขึ้น ทำเอาทุกคนในห้องถึงกับเงียบในทันที
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้านายสืบว่าใครจ้างฆ่าเรานาย ได้อยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมาเลย" เฮนรี่บอกกับนาครไป และในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงแจ้งเตือนจากคอมพิวเตอร์ของเขา ในตอนนั้นเองนาครก็ตอบกลับเขาไปในทันที
"นาคร : เฮ้ย มีอะไรหรือเปล่าถึงเรียกฉัน??"
"Vegus : ฉันช่วยได้แค่นี้หล่ะ ฉันส่งข้อมูลทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ให้นายแล้ว แต่ว่าฉันคงอยู่ช่วยนายไม่ได้ตลอดหรอก มีแฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่งกำลังตามล่าตัวฉัน ยังไงก็ติดตามเกมไปเรื่อยๆหล่ะ แล้วฉันจะติดต่อมาใหม่"
"Vegus : ออกจากการสนทนา" เมื่อนาครอ่านข้อมูลเสร็จ เขาก็ออกมาจากคอมในทันที
"นี่ ขอโทษนะคะ แล้วเราจะอยู่กันที่นี่เหรอคะ??" ซีอาร่าถามอย่างสงสัย
"นั่นสิ ห้องเล็กแบบนี้ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดก็อยู่ไม่ได้หรอกนะ" วาเลเรียถามเสริมไป
"มีห้องรับรองอยู่ที่ชั้นบนสุดของคอนโด แต่พวกคุณต้องห้ามออกไปไหนเด็ดขาด จนกว่าผมจะอนุญาต" นาครบอกไป
"นี่ นายเป็นใครมาสั่งฉันวะพวก??" เฮนรี่ถามอย่างยียวน
"นี่ ถ้านายอยากไปตายข้างนอกก็ไปเถอะไป" จอห์นตอบกลับไปอย่างยียวนเช่นกัน
"ผมแค่ไม่อยากให้ใครตาย และต้องการค้นหาต้นตอเกมบ้าๆนี่ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถ้าพวกคุณอยากรอดและอยากแก้แค้น พวกคุณต้องอยู่กับผม" นาครพูดขึ้น
"ก็ได้ค่ะ ว่าไงว่าตามกันค่ะ ถ้างั้นหนูขอไปเลือกห้องก่อนนะคะ" เอบิต้าพูดขึ้นทิ้งท้ายเอาไว้
ณ คอนโดสุดหรูแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุงเทพ ท่ามกลางบรรดาคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปสุดหรูหลากหลายที่อยู่บนโตีะ ซึ่งเหล่าชายหญิงทั้งสี่คนกำลังนั่งเล่นคอมอย่างสนุกสนาน บางส่วนก็นั่งสูบบารากุที่หามาได้ไปด้วย และในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็เข้าไปในเว็บไซต์ เกมโหวตตาย เพื่อดูผลการพนันที่พวกเขาพนันกันไว้ว่าใครจะตายตามที่พวกเขาโหวต แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็สะดุดตากับรายชื่อของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ในตอนนี้รอดชีวิตจากเกมโหวตตายมาได้ 2 วันเต็มๆแล้ว ชายคนนั้นรีบเรียกเพื่อนๆเขามาดูในทันที
"เฮ้ย ทุกคน ไอ้หมอนี่มันรอดตายมาสองวันแล้วหล่ะ!!" และในตอนนั้นเอง บรรดาพรรคพวกคนอื่นๆก็รีบมาดูที่หน้าจอในทันที แล้วเขาก็กดรายชื่อของชายหนุ่มคนนั้น
"นาคร.."
"โห ไอ้หมอนี่ใช่ได้หรือเปล่า ใช่ไหมลุงลาซ??"
"ก็ใช้ได้นี่หว่า ฉันบอกแล้วให้เธอแทงเขา วาเลน" ลาซหันไปพูดกับเธอ
"แบบนี้เรามาพนันหมอนี่หน่อยดีกว่า เอากี่ล้านดีรอนนี่??" หญิงสาวคนหนึ่งหันไปถามชายคนนั้น
"ฉันแทงไปเลย 5 ล้าน ไม่เคยแทงใครเยอะขนาดนี้เลยนะเนี่ย ดาเบรีย" รอนนี่พูดขึ้น จากนั้นเขาก็รีบไปทำคอมพิวเตอร์ แล้วโอนเงินให้เกมโหวตตายในทันที
===============================================================
มาแล้วกับตอนที่สอง ตัวละครมากันทุกคนแล้วเน้อ
อย่าลืมติดตามชมตอนต่อไปกันด้วยเน้อ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย!!
ความคิดเห็น