คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 9 : จบเกม (END)
เซเฟอร์ถีบประตูเข้ามาในห้องใต้ดินบริเวณนั้น เซเฟอร์เปิดไฟจากไฟฉายของเขาและพยายามส่องดูว่ามีอะไรบ้าง เขาเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงสุดของบันได จู่ๆไฟทั้งหมดก็เปิดขึ้นมา ทำเอาเซเฟอร์ตกใจเล็กน้อย
“ขอต้อนรับสู่ห้องของผมครับ!!”
เป็นเสียงของใครไปไม่ได้ เสียงของนาครนั่นเอง นาครกล่าวทักทายกับเซเฟอร์
“ไง ไอ้หนุ่ม ไม่เลวนี่หว่าที่กล้าท้าทายกู!!”
“ผมให้โอกาสคุณกลับใจ เลิกรับใช้ไอ้ชั่วนั่น แต่สุดท้าย คุณก็ทำให้ผมผิดหวัง” นาครพูดขึ้น
“เฮ้อ ฝันไปเถอะไอ้หนู วันนี้กูกับมึง ต้องมีใครตายกันไปข้างหนึ่งหล่ะ” เซเฟอร์พูดขึ้นจากนั้นก็ยกปืนกลของเขาขึ้นมากราดยิงนาคร นาครหาที่หลบและชักปืนพกของเขาออกมาในทันที
“ทำไมแกไม่พาพวกมาเยอะกว่านี้วะ จะได้สนุกกว่านี้หน่อย??” นาครตะโกนถามไป
“นี่มันเรื่องระหว่างฉันกับแก คนอื่นไม่เกี่ยวเว้ย!!” เซเฟอร์พูดขึ้น จากนั้นก็ใส่แม็กใหม่ และยิงกลับต่อไป
“ปังๆๆๆๆ”
นาครหลบไปซักพัก เมื่อเซเฟอร์กระสุนหมด นาวินก็ซัดกลับในทันที
“ปังๆๆๆๆ”
กระสุนโดนเข้าที่หน้าท้องของเซเฟอร์ แต่ตอนนี้เขาใส่เสื้อเกราะหนา แต่เซเฟอร์ก็ยังจุกอยู่ดี เขารีบไปหลบอยู่ที่เสาแถวนั้นก่อนในทันทีเพื่อพัก
“โทษทีพี่ .45 ACP ของผมมันเจาะเกราะได้ ต่อให้เกราะหนา ยังไงก็จุกอยู่ดีหว่ะ” นาครพูดขึ้น จากนั้นก็ใส่แม็กใหม่ในทันที
“ไอ้ระยำ อย่าอยู่เลย!!”
เซเฟอร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็หยิบระเบิดมือขึ้นมาลูกหนึ่ง เพื่อเตรียมขว้างใส่นาคร แต่ในตอนนั้นเอง
“ปัง!!”
จู่ๆลูกปืนก็พุ่งมาโดนระเบิดของเซเฟอร์จนกระเด็นออก ทำเอาเซเฟอร์ตกใจมาก นาครตกใจว่าเป็นฝีมือใคร และในตอนนั้นเอง ทั้งจอห์น เฮนรี่ วาเลเรีย ก็ถือปืนเข้ามาในห้องนั้นด้วย
“ระเบิดมันของอันตรายนะเว้ย!!” วาเลเรียตะโกนด่าไป
“เฮ้ย มาทำอะไรกันเนี่ย??” นาครตะโกนถามไป
“ฉันจะปล่อยให้นายสนุกคนเดียวได้ไงหล่ะ??” จอห์นตะโกนถามไป
“ไอ้นี่เหรอที่ตามล่าเราที่โรงแรม อยากเจอมันพอดีเลยหว่ะ” เฮนรี่พูดขึ้น
“ไอ้ระยำ!!”
เซเฟอร์ในตอนนั้นก็ชักปืนพกคู่ที่อยู่ด้านหลังออกมา จากนั้นก็ไล่ยิงพวกของนาครในทันที
“ปังๆๆๆๆ”
แต่ละคนพากันหาที่หลบกันให้วุ่น นาครเห็นในตอนนั้นก็ยิงสวนกลับไปในทันที
“ปังๆๆๆๆ”
นาครยิงจนกระสุนหมด จากนั้นก็ออกมาดูในทันที แต่ก็ไม่เห็นเซเฟอร์ที่กำลังหลบอยู่ที่เสานั้น
“อะไรวะ หายไปไหน??”
“ตุ๊บ!!”
จู่ๆในตอนนั้นเอง เซเฟอร์ที่ใช้จังหวะเคลื่อนที่หลังเสาก็เข้ามาเตะที่นาครจนล้มลง จากนั้นก็เล็งปืนใส่นาคร
“โชคดีนะไอ้หนู!!”
“ปัง!!”
ในตอนนั้นกระสุนไม่โดนนาคร เพราะจอห์นได้มาเตะปืนของเซเฟอร์ทันที ทั้งสามคนพยายามรุมเล่นงานเซเฟอร์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เซเฟอร์ชักมีดออกมาสองมือ ส่วนเฮนรี่ก็ชักดาบออกมาบ้าง พวกเขาทั้งคู่ประมือกัน แต่เซเฟอร์เหนือชั้นกว่าเลยเตะเฮนรี่ออกไป
“ตุ๊บ!!”
จอห์นและวาเลเรียพยายามสู้แต่ทำอะไรไม่ได้มาก นาครเห็นท่าไม่ดีเลยลุกขึ้นมาในทันที จากนั้นก็หยิบท่อนเหล็กแถวนั้นออกมาฟาดใส่เซเฟอร์ในทันที
“ตุ๊บ!!”
เซเฟอร์กันท่อนเหล็กได้ และพยายามเตะสวนนาคร แต่นาครหลบได้และตอบโต้ไปบ้าง
“เฮ้อ ไม่เลวนี่ไอ้หนู แต่น่าจะรอบคอบกว่านี้นะ!!”
“เออ ขอบใจที่บอก กูจะไม่พลาดหล่ะ!!” นาครพูดขึ้นจากนั้นก็จู่โจมใส่เซเฟอร์ โดยที่ทั้งสามคนพยายามจะช่วย แต่เซเฟอร์ยังต้านไว้ได้ จนในตอนนั้นเอง เซเฟอร์ก็โดนเฮนรี่ฟันจนดาบข้างหนึ่งกระเด็นออก
“เช้ง!!”
เซเฟอร์พยายามสู้ต่อแต่ในตอนนั้นนาครก็ตีเข้าที่ข้อมือของเซเฟอร์จนมีดอีกเล่มตกลง และในตอนนั้นเอง นาครก็กระโดดตีเซเฟอร์เข้าที่หน้าจนหน้ากากแตกในทันที
“เฮ้ย หน้าแก..” นาครมัวแต่ตกตะลึงไปกับหน้าของเซเฟอร์ แต่เซเฟอร์ในตอนนั้นก็หยิบมีดบินของเขาขว้างใส่พวกของนาครทีละคน จอห์น เฮนรี่และวาเลเรียโดนมีดเข้าที่กลางท้อง แต่นาครหลบมีดได้ จากนั้นเขาก็กลิ้งตัวไปหยิบมีดของเซเฟอร์ตกพื้นมา จากนั้นก็ขว้างใส่หน้าของเซเฟอร์ในทันที เซเฟอร์ปัดมีดออกแต่นาครก็วิ่งเข้าชาร์จใส่เซเฟอร์ในทันที จากนั้นเขาก็กระหน่ำต่อยเซเฟอร์ไปหลายหมัด
“ตุ๊บๆๆๆๆๆ!!”
"นี่ขนาดหน้าแกเป็นแบบนี้ แกยังสร้างเวรสร้างกรรมไม่หยุดไม่หย่อน" นาครตะโกนด่ามันไป
“โทษทีหว่ะ มันอยู่ในสายเลือดหน่ะไอ้หนู!!”
“เออ เอาเถอะหว่ะ!!”
นาครในตอนนั้นหยิบมีดที่อยู่ข้างตัวเซเฟอร์แทงเข้าไปที่หน้าอกของเซเฟอร์ เซเฟอร์ถึงกับกระอักเลือด และในตอนนั้นเอง คนอื่นๆก็ลากสังขารมาดูสภาพของเซเฟอร์ในทันทีเพื่อดูวาระสุดท้ายของหมอนั่น
“พวก..มึง..ไม่..รอด..หรอก..กู..ส่ง..สัญญาณ..”
“สัญญาณบ้าบออะไรวะ ฉันตัดสัญญาณตั้งแต่แกเข้ามาพื้นที่นี้ใน 20 กิโลหล่ะ ป่านนี้ลูกน้องของแกคงขับรถวนหาแกกันทั่วแล้วม้าง แล้วแกก็ไม่เสือกให้ลูกน้องตามมาด้วย” วาเลเรียพูดขึ้นพลางโชว์อุปกรณ์ของเธอให้เซเฟอร์ดู
อีกด้านหนึ่งของถนน
“เฮ้ย พวกแกรอที่นี่ก่อน ถ้าฉันเป็นอะไรไป พวกแกจัดการได้เลย ฉันขอสะสางงานของฉันก่อน!!” เซเฟอร์โทรสั่งลูกน้องของเขาไป จากนั้นรถของเขาก็ขับออกไปในทันที แต่เมื่อเซเฟอร์ไปได้ไม่นาน จู่ๆสัญญาณของเซเฟอร์ก็ขาดหายไปอย่างลึกลับ
“เฮ้ย อะไรวะ สัญญาณหาย!!”
“มึงก็ขับวนตามไปสิ!!” ชายคนหนึ่งบอกคนขับไป แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีรถตำรวจคันหนึ่งมาจอดตีคู่ข้างๆรถของพวกเขา จากนั้นตำรวจก็ลงมาเคาะกระจกรถพวกเขาในทันที
“สวัสดีครับ ขออนุญาตตรวจบัตรหน่อยครับ พวกคุณจะไปไหนหรือเปล่าครับเนี่ย??”
“เป็นไงหล่ะ พอแกเกลียดมากก็ขาดสติ สิ่งที่แกได้รับ สมควรแล้วหว่ะ!!” นาครพูดกับเซเฟอร์ไป จากนั้นเซเฟอร์ก็ค่อยๆขาดใจตายในห้องใต้ดินนั้น และในตอนนั้นเอง เอบิต้ากับซีอาร่าในชุดนอนของเธอก็รีบลงมาหาคนอื่นๆในทันที
“นาคร เป็นยังไงบ้างคะ??” ซีอาร่าถามไป
“ผมไม่เป็นไร รีบหาคนมารักษาสามคนนี้เถอะ” นาครพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง หญิงสาวพนักงานต้อนรับก็เดินเข้ามาในชั้นใต้ดิน โดยที่จอห์นและเฮนรี่ก็คุยกับเธอในทันที
“เฮ้ คุณ ผมต้องการหมอหน่ะ” จอห์นตะโกนไป
“ตามฉันมาทางนี้เลย ฉันจะจัดการเอง” พนักงานต้อนรับคนนั้นพูดขึ้น
“วาเลเรีย ไปกันเถอะ ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว” เฮนรี่พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็พากันไปรักษาตัวต่อในทันที
“มีศพคนตายด้วยค่ะ จะเอายังไงคะ??” เอบิต้าถามอย่างสงสัย
“เดี๋ยวพี่จัดการเอง เธอกลับไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้เธอก็ได้กลับบ้านแล้วหล่ะ” นาครพูดขึ้น
“จะได้กลับแล้วเหรอคะ ฉันใจไม่ดีเลยนะคะที่คุณหนีฉันมาแบบนี้ คราวหลังมีอะไรบอกฉันด้วยนะคะ ห้ามหนีฉันไปไหนนะ!!” ซีอาร่าพูดขึ้นพลางกอดนาครไปด้วย
“โอเคครับ วันหลังผมจะบอกแล้วกัน คุณไม่ต้องเป็นห่วง คุณไปนอนก่อน ผมจะจัดการเรื่องตรงนี้ก่อน แล้วผมจะไปนอนด้วยนะ” นาครพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็จัดการกับศพของเซเฟอร์ในห้องในทันที เขาแบกศพของเซเฟอร์ไปไว้ที่เตาเผา เพื่อเตรียมทำลายหลักฐานที่เหลือในทันที
ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพ ซึ่งรถตู้ของลาซและคนอื่นๆก็ขับเข้ามาด้านใน และเมื่อพวกเขาจอดรถ พวกเขาก็วิ่งเข้าไปที่หน้าประตูโกดัง จากนั้นลาซก็ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดยิงประตูในทันที
“ตู้ม!!” ประตูนั้นแหลกสลายเป็นจุล
“โห มันเลือกโลเคชั่นได้เยี่ยม!!” รอนนี่พูดขึ้น
“ใช่ โกดังแบบนี้ มันใหญ่ ป้องกันตัวง่ายด้วย” วาเลนพูดขึ้น
“แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะลุง??” วาเลียถามอย่างสงสัย
“บุกเข้าไปเลย ฆ่าทุกอย่างในนั้น!!”
ลาซพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็บุกเข้าไปด้านในทันที และเมื่อพวกเขาเข้ามาด้านใน ภาพที่พวกเขาเห็นก็ถือฉากต่างๆมากมายประดับประดาไว้ พวกของลาซถึงกับสงสัยว่ามันทำแบบนั้นไปทำไม
“นี่มันอะไรวะ ฉากพวกนี้??”
“มันอยากจะปั่นหัวพวกเราเล่นหล่ะมั้งลุง??” รอนนี่ออกความเห็นไป
“แต่เอ๊ะ มันมีลำโพงด้วยนี่คะ!!” วาเลนพูดขึ้น
“ถ้างั้นก็…” วาเลียกำลังจะพูด แต่ยังไม่ทันไร จู่ๆก็มีเสียงออกมาจากลำโพงนั้น
“ในที่สุดฉันก็เจอพวกแกจนได้ ดูเหมือนว่าพวกแกจะไม่ได้เก่งแค่แฮ็กจริงๆหว่ะ แกทำลายประตูโกดังได้ แต่เอาเถอะ ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้ว!!”
“แกร๊ง!!”
จู่ๆ ซี่ลูกกรงประตูก็ร่วงลงมาปิดทางพวกเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น
“ปัง!!”
พวกของลาซรีบหาที่หลบกันอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนั้นเอง กระสุนก็ดันไปโดนเข้าที่ท้องของวาเลนจนร่างแหลก พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา เพราะขนาดเธอใส่เกราะแล้วกระสุนยังเจาะทะลุจนร่างแทบแหลก รอนนี่รีบลากเธอมาหาที่หลบในทันที
“วาเลีย ทำใจดีๆไว้นะ!!” วาเลนพูดกับเธอไป
“บ้าเอ้ย นี่มันกระสุนรุ่นไหนเนี่ย??” รอนนี่ถามอย่างสงสัย
“ดูจากขนาด น่าจะไม่ต่ำกว่า .50 cal หน่ะ” ลาซพูดขึ้น
“ถ้างั้นฉันคงไม่รอดแล้วหล่ะ ฝากฆ่ามันแทนฉันด้วย!!” วาเลียพูดขึ้น จากนั้นลาซก็โผล่ออกไปยิงกับมันในทันที
“แน่จริงมึงเข้ามาเลย!!”
“ปังๆๆๆๆ”
ลาซซัดปืนกลสวนกลับไป แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเท่าไหร่นักเพราะเขาไม่เห็นตัวของเป้าหมายเลย แต่จู่ๆ ปืนกลทางฝั่งตรงข้ามก็หยุดยิงไป ทำเอาพวกเขาถึงกับแปลกใจ
“ทำไมพวกมันหยุดยิงเนี่ย??” รอนนี่ถามไป
“ถ้างั้นฉันไปดูเอง!!” วาเลนพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ค่อยๆเดินออกไปสังเกตการณ์ที่ด้านหน้า แต่จู่ๆ เธอก็เดินไปสะดุดอะไรบางอย่างเข้า
“ตู้ม!!”
วาเลนสะกิอดกับระเบิดจนร่างของเธอกระเด็นไปไกล ทำเอารอนนี่กับลาซถึงกับตกใจ และรีบวิ่งไปดูร่างของเธอในทันที
“วาเลน ยัยบ้าเอ้ย ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าซ่าส์!!” รอนนี่พูดขึ้นพลางลูบหน้าเธอไปด้วยและร้องไห้
“เฮ้อ ห่วงตัวเองเถอะตาบ้าเอ้ย!!” วาเลนพูดขึ้นและค่อยๆสิ้นลมไป ทำเอารอนนี่กับลาซถึงกับคลั่ง
“ไอ้ระยำ แน่จริงมึงออกมาลุยกับกูสิวะ!!” รอนนี่พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง จู่ๆร่างสีดำก็ปรากฎขึ้นมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา รอนนี่ไม่รอช้ายิงใส่มันในทันที แต่มันก็หลบที่เสาแถวนั้นได้ทัน
“ลุง ลุงไปด้านนั้น ผมจัดการด้านนี้เอง!!” รอนนี่พูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็วิ่งไปขนาบข้างของเป้าหมาย และพยายามยิงถล่มกลับ แต่ในตอนนั้นเอง ชายชุดดำคนนั้นก็โผล่ออกมาจับปืนของรอนนี่ไว้ จากนั้นก็ใช้มีดแทงเข้าไปที่อกของรอนนี่ในทันที
“ฉึก!!”
“ไอ้ระยำ กูไม่ยอมตายคนเดียวหรอก!!” รอนนี่พูดขึ้นและพยายามจะหยิบระเบิดมือออกมา แต่ชายชุดดำคนนั้นก็ฟันเข้าที่มือของรอนนี่ จากนั้นก็ถีบหมอนั่นจนกระเด็นไป แล้ววิ่งไปหยิบระเบิดอันนั้นในทันที
“เฮ้ย รอนนี่ ฉันมาแล้ว!!” ลาซพยายามวิ่งเข้ามาช่วย แต่ชายชุดดำคนนั้นก็เอาระเบิดโยนใส่ลาซในทันที
“ตู้ม!!”
เมื่อสิ้นเสียงระเบิด ลาซในตอนนั้นก็ถึงกับร่างแหลก ในขณะเดียวกันนั้นชายชุดดำก็ค่อยๆเดินเข้าไปที่ร่างของลาซที่หายใจรวยระริน จากนั้นเขาก็ไปกระชากหน้ากากของลาซออกมา และตัวชายชุดดำคนนั้นก็ถอดหน้ากากของตัวเองออกมา แล้วมองไปที่ลาซในทันที
“ในที่สุดก็เจอตัวจริงแกซะที โจ๊กเกอร์!!”
“นี่แก แกมันคือ…”
“ปังๆๆๆๆๆ”
ชายคนนั้นไม่รอช้าชักปืนพกออกมายิงลาซในทันทีจนหมดแม็ก จากนั้นก็ถุ๊ยน้ำลายใส่มันไปหนึ่งที
“ในที่สุดกูก็ชนะมึงซะที 10 ปีที่มึงทำกับกูไว้ ขอบใจนะเว้ยไอ้คร!!”
เช้าวันต่อมา ตึกบริษัทสุดหรูที่กบดานของเดเมี่ยน ในวันนั้นจินเจอร์นำกำลังตำรวจทั้งจาก CIA และตำรวจไทยบุกเข้าไปในตึกแห่งนั้น พวกเขาสั่งให้พนักงานพาไปค้นที่ห้องของเดเมี่ยนในทันที เดเมี่ยนที่กำลังนั่งจิบเหล้าในตอนนั้น จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขารับสายในทันที
“เออ ว่าไง??”
“ตำรวจมากันเต็มเลยค่ะท่าน!!”
“เออๆ ฉันจัดการเอง!!”
เดเมี่ยนวางสายไปในทันที จากนั้นเขาก็หยิบปืนพกออโต้กระบอกหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องของเขาในทันที โดยที่พวกของจินเจอร์ก็ขึ้นลิฟต์มาพอดี
“เฮ้ย เดเมี่ยน หยุดนะ!!”
“ปังๆๆๆๆ”
เดเมี่ยนยิงปืนใส่พวกของจินเจอร์ จินเจอร์หลบได้และพยายามไล่ตามเดเมี่ยนไป เดเมี่ยนวิ่งหนีขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าของตึก เมื่อเปิดประตูขึ้นมา ก็พบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังรอเขาอยู่
“ท่านครับ ทางนี้ครับ!!”
เดเมี่ยนรีบวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ แต่จินเจอร์ก็วิ่งไล่ตามมันไป ซึ่งฮอในตอนนั้นกำลังจะขึ้นพอดี แต่จินเจอร์ก็กระโดดเกาะใต้ฮอ จากนั้นก็พยายามปีนไปที่ห้องคนขับ จากนั้นก็เอาปืนจ่อนักบิน
“จอดฮอเดี๋ยวนี้!!”
“ฝันไปเถอะเว้ย!!” นักบินจะชักปืนยิง แต่จินเจอร์เอามือปัดออก ทำให้ปืนลั่นออกไปโดนแผงควบคุม จินเจอร์เห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดลงจากฮอลงดาดฟ้ามาก่อน ส่วนฮอของเดเมี่ยนก็ค่อยๆร่วงตาม
“โคร้ม!!”
และเมื่อสิ้นเสียง บรรดา CIA และตำรวจนับสิบก็พากันไปล้อมฮอในทันที เดเมี่ยนพยายามคลานออกจากฮอ แต่จินเจอร์ก็เตะเข้าที่หน้าเดเมี่ยนและจับกุมเขาไว้
“เดเมี่ยน ยินดีที่ได้พบ!!”
“นี่มึงเป็นใครวะ??” เดเมี่ยนตะโกนถามไป
“ก็แค่ CIA คนหนึ่งหน่ะ วอชิงตันอยากเจอแกพอดีเลย ฉันรับรองแกโดนนั่งเก้าอี้แน่ๆ” จินเจอร์พูดขึ้น จากนั้นก็ลากตัวเดเมี่ยนขึ้นมา แล้วส่งต่อให้กับพวกของเขาในทันที
“เอามันไปส่งที่สนามบิน เกมจบแล้ว!!”
และที่บ้านของเก่ง ในวันนั้นเองเก่งก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก เพราะตัวเองตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ ในตอนนั้นเขาก็ถือปืนและเดินออกจากห้องของเขาและลงไปที่ชั้นล่าง แต่คราวนี้มันผิดสังเกต เพราะทีวีรายการที่น้องของเขาชอบดูเปิดทิ้งไว้ และคนในบ้านก็หายไปไหนก็ไม่รู้
“เฮ้ย มีใครอยู่บ้างวะ??” เก่งตะโกนถามไป แต่ในตอนนั้นเอง
“ตุ๊บ!!”
จู่ๆมีเท้าปริศนาถีบเข้าที่กลางหลังของเก่ง เก่งล้มลงไป เก่งพยายามจะเล็งปืนใส่แต่ก็โดนเตะออก จากนั้นชายปริศนาก็มาเหยียบเข้าที่อกของเก่งในทันที
“มึงเป็นใครวะ??”
เก่งตะโกนถาม และในตอนนั้นเอง ชายคนนั้นก็เปิดหน้าของตัวเองออกมา ซึ่งนั่นก็คือนาครนั่นเอง นาครใช้ปืนพกของเขาเล็งไปที่เก่งในทันที
“ไอ้สัด มึงนี่เอง!!”
“ว่าไง ยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะ จะบอกให้นะ ปืนโง่ๆอันนี้ยิงผ่านเกราะกูไม่ได้หรอก” นาครพูดขึ้น
“มึงจะฆ่ากูเหรอ เอาดิ กูไม่กลัวหรอก!!”
“ยังหรอก ความจริงฉันอยากจะเล่นกับแกอยู่เหมือนกัน แล้วฉันจะดูว่าแกจะทนได้หรือเปล่า??” นาครพูดไป และในตอนนั้นเอง จู่ๆชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งก็เปิดประตูบ้านเข้ามา แล้วก็พบกับนาครและเก่ง
“พ่อ แม่ ช่วยด้วย!!”
เก่งอาศัยจังหวะที่นาครกำลังมองรีบวิ่งไปหาพ่อกับแม่ของเขา แต่ในตอนนั้น พ่อของเก่งก็ตบเข้าที่หน้าเก่งไปที
“ไอ้เก่ง มึงรู้มั้ยมึงทำอะไรลงไป??”
“พ่อ มันกำลังจะฆ่าผมนะ??” เก่งพยายามพูดโน้มน้าว
“ฉันรู้หมดแล้วว่าแกกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ แล้วรู้ด้วยว่าแกใช้เงินไปเท่าไหร่ แล้วนี่ แกเกือบจะใช้เงินน้องไปเล่นด้วย!!” แม่ของเขาพูดขึ้น
“ไม่ใช่นะแม่ ผมอธิบายได้!!” เก่งพูดขึ้น
“ให้ฉันอธิบายดีกว่า แกโหวตฉันให้ตายเองนะ แต่ฉันไม่ตายตามที่แกต้องการ เสียใจด้วยหว่ะ!!” นาครพูดขึ้น
“คุณคะ ดิฉันขอโทษแทนลูกฉันด้วยค่ะ” แม่ของเก่งพูดขึ้น
“แม่ จะไปขอโทษมันทำไม??”
“แกนั่นแหละหุบปาก แม่กำลังช่วยชีวิตแกรู้ไว้” พ่อของเก่งตะโกนด่าไป และในตอนนั้นเอง แม่ของเก่งก็หยิบเอาเช็คในกระเป๋าถือมาเซ็น จากนั้นก็ยื่นให้กับนาคร
“ลูกฉันทำร้ายคุณ นี่เป็นค่าเสียหายค่ะ ยังไงก็อย่าทำอะไรลูกฉันเลยนะคะ”
“เขาไม่ได้อะไรจากผม ผมต่างหากที่ได้จากเขา เก็บเงินนั่นไว้เถอะครับ!!” นาครพูดขึ้น
“ขอโทษนะ แล้วลูกสาวผมอยู่ไหนหล่ะครับ??” พ่อของเก่งถามนาครไป
“เธอปลอดภัย หลับสบายอยู่ในห้อง ผมรมยาสลบให้คนในบ้าน อีกครึ่งชั่วโมงทุกคนจะฟื้นครับ” นาครพูดขึ้น ทำเอาพ่อกับแม่ของเก่งโล่งใจ
“ไอ้เก่ง ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ฆ่าแก ฉันบอกแกแล้วใช่หรือเปล่า โลกนี้มันกว้างกว่าที่แกคิด คิดเหรอว่าแกจะใหญ่ได้ตลอด พอถึงเวลาขึ้นมา เพื่อนแก แม้แต่แฟนแกหายไปไหนกันหมดหล่ะวะ??” พ่อของเก่งเทศน์เก่งไปหนึ่งที
“ขอบคุณมากนะคะที่ไว้ชีวิตลูกฉัน ฉันสัญญาว่าจะอบรมเขามากกว่านี้” แม่ของเก่งบอกกับนาคร
“ฝากบอกเขาด้วยนะครับ ทำความสะอาดปืนของเขาหน่อย ผมมองดูก็รู้แล้วว่ามันสกปรกแค่ไหน ขอตัวนะครับ” นาครพูดขึ้น จากนั้นนาครก็เดินออกจากบ้านไปในทันที
“ไอ้เก่ง นี่แกขโมยปืนฉันมาเหรอ มิน่าหล่ะฉันหาตั้งนาน ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะส่งแกไปอยู่กับวัด วัดต่างจังหวัดด้วย!!” พ่อของเก่งพูดขึ้น
“พ่อ แม่ ผมขอร้อง อย่าทำกับผมแบบนี้เลย!!” เก่งคุกเข่าและพนมมือกราบพ่อของเขา
“ถ้าแกยังไม่สำนึกอีก แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ นี่ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไว้ชีวิตแก ไปเก็บของซะ เราจะไปมันคืนนี้เลย” แม่ของเก่งพูดกับเก่งไป เก่งในตอนนั้นทำอะไรไม่ได้เลยต้องอยู่แบบจำยอม
1 อาทิตย์ต่อมา
หลังจากเหตุการณ์เป็นปกติ รัฐบาลไทยได้จัดการเรื่องเกมโหวตตายให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ส่วนใหญ่ถูกหมายเรียกไปให้ปากคำกันเป็นพรวน ทั้งผู้จัดรายการและผู้ร่วมโหวต มีสถิติพบว่าคนไทยกว่า 3 แสนคนเล่นเกมนี้ และมีเหยื่อจากเกมถึง 200 คนเลยทีเดียว
แต่ละคนที่นาครได้ให้ความช่วยเหลือ ก็ได้กลับไปแก้แค้นตามทางของพวกเขา วาเลเรีย เมื่อเธอรู้ตัวว่ากลุ่มที่จ้างวานฆ่าเธอผ่านเกมโหวตตายคือกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เพื่อนของเธอ เธอกลับไปฆ่าพวกเขาทุกคนและกลับรัสเซียบ้านเกิดของเธอ
ซีอาร่า เธอได้ข้อมูลจากนาครและตำรวจไทยว่าชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นแฟนคลับของเธอ ร่วมมือกับกลุ่มแอนตี้จ้างวานฆ่า และก็เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ ชายหนุ่มคนนั้นถูกจับได้ ส่วนกลุ่มแอนตี้ถูกจับไปทั้งกลุ่ม ทั่วโลกตีข่าวซีอาร่ายังไม่ตาย จนกลายเป็นไวรอลอันดับต้นๆของโลก
จอห์น ในตอนนั้นเขาทราบว่ากลุ่มคนที่โหวตเขาเป็นคนที่เคยรู้จักตอนอยู่ในคุก เขาติดต่อพรรคพวกที่เหลือและพากันไปถล่มคุกแห่งนั้นในทันที จอห์นฆ่าทุกคนที่เขาสงสัยว่าจ้างวานฆ่าเขาไม่มีเหลือ หนังสือพิมพ์ออกข่าวดังไปทั่ว
เฮนรี่ รายนี้ยากหน่อย เพราะคนที่จ้างวานฆ่าเขาเป็นมาเฟียกลุ่มหนึ่ง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเขา เขาติดต่อพรรคพวกที่เหลือและกลับอังกฤษเพื่อตามล้างแค้นตามแบบฉบับของเขา
เอบิต้า นาครส่งเธอกลับไปหาพ่อของเธอที่กำลังตามหาเธออยู่ และพ่อของเธอก็พาเธอกลับบราซิลในทันที
จินเจอร์ หลังจากที่ทำผลงานจับตัวเดเมี่ยนได้ เขาก็ได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก ส่วนเดเมี่ยน เขาต้องโทษประหารชีวิตใน 3 ปีถัดมาหลังจากนั้น
2 อาทิตย์ต่อมา ณ เวลาปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร สยามพารากอน งานถ่ายแบบสุดหรูที่กำลังจัดขึ้น ท่ามกลางบรรดาผู้เข้าชมมากมาย และที่ห้องของพักของนางแบบ พนักงานคนหนึ่งก็เดินมาคุยกับนางแบบในทันที
“คุณซีอาร่าคะ อีก 10 นาทีเริ่มเดินค่ะ!!”
“ฉัน ออกไปก่อน ออกไปให้หมด ฉันต้องใช้สมาธิหน่ะ” ซีอาร่าตะโกนออกไป แต่ในตอนนั้นเอง เธอก็รู้สึกว่ามีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เธอ ทำเอาเธอถึงกับตะโกนโวยวายออกไป
“นี่ ฉันต้องใช้สมาธินะ ออกไป!!”
“ผมไม่ได้มาฟังคุณตะโกนแบบนี้นะ!!” ชายคนนั้นตอบกลับไป ซีอาร่ารู้สึกคุ้นเสียง เธอเลยหันไปดูในทันที
“คุณนาคร!!”
ซีอาร่ารีบวิ่งเข้าไปกอดนาครในทันที จากนั้นก็จูบเขาไปอีกหนึ่งครั้ง ทำเอานาครถึงกับตกใจเล็กน้อย
“นี่คุณ ถ้าใครมาเห็นจะว่ายังไงหล่ะ??”
“เห็นก็เห็นสิ ฉันอยากเปิดตัวอยู่พอดี” ซีอาร่าพูดขึ้นจากนั้นก็จูบนาครอย่างหนัก ทำเอานาครตั้งตัวไม่ติด
“ผมบอกแล้วนะ ว่าผมจะตามหาคุณ”
“ฉันคิดถึงคุณมากๆเลยนะคะ ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้างคะ??” ซีอาร่าถามอย่างสงสัย
“ผมกลับไปเรียนต่อหน่ะ ถ้าจบ ม.6 แล้วก็เข้ามหาลัยต่อเลย หลังจากนั้น ผมก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าผมจะเลิกทำงานแบบนี้แล้วหล่ะ” นาครบอกกับเธอไป
“แล้วฉันจะรอดูคุณนะคะ” ซีอาร่าตอบไป
“ผมมาดูคุณวันนี้ หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ ผมจะไปรอดูอยู่หน้าเวที” นาครพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินออกจากห้องของเธอในทันที ซีอาร่าในตอนนั้นก็ยิ้มและเดินกลับไปที่โต๊ะเครื่องแป้งของเธอและแต่งหน้าเพิ่มอีกเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินออกไปโชว์ตัวด้านนอก โดยที่แฟนคลับชาวไทยก็ได้ปรบมือต้อนรับกันยกใหญ่ ซึ่งนาครก็ยืนดูเธออยู่หน้าเวที และยิ้มให้เธออยู่ตลอดเวลา
=============================================================
จบแล้วจ้า
เดี๋ยวตอนหน้าจะแถมตอนพิเศษด้วย 1 ตอน แหะๆ แต่เอ๊ะ ตัวเองเขียนเสร็จแล้วนี่หว่า งั้นตามไปอ่านตอนพิเศษเลยดีกว่า
ที่เขียนตอนพิเศษเพราะคิดถึงตัวละครหลายคน โโยเฉพาะคุณซีอาร่า แหะๆๆ
ไปอ่านกันเลย ขอเม้นท์ด้วยเน้อ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย แหะๆ
ความคิดเห็น