SF l When I can't sing l GOT7 l BNior
ถ้าหากฉันสูญเสียทุกอย่างไป ถ้าหากฉันร้องเพลงไม่ได้ 'เพียงเพราะอย่างนั้น เธอจะยังรักฉันในแบบที่ฉันเป็นอยู่หรือเปล่า'
ผู้เข้าชมรวม
702
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
“ 내가 노래를 못해도 ”
When I Can't Sing
ฟิคนี้ได้แรงบันดาลใจจากความคิดถึงคู่นี้ของไรท์เองค่ะ
ยิ่งเพลงที่พี่บีร้องด้วยแล้ว เลยอยากแต่งขึ้นมา
ผิดพลาดประการใด ขอโทษด้วยนะคะ
ติชม ลงความเห็นเป็นกำลังใจหน่อยก็ยังดี
ถ้าชอบของแท็กสำหรับคนเล่นทวิตเนอะ
#บีร้องเพื่อเนียร์ คิดไม่ออก ฮ่าๆ
ฝากด้วยนะคะ ถ้าเรตติ้งดี เรื่องอื่นๆคู่อื่น หรือคู่เดิมตามมาแน่นอน
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
JJ Project fiction by Mayooku
Im Jaebeom and Park Jinyoung
“ When I can’t sing ”
“ 내가 노래를 못해도 ”
내가 모든걸 잃어도
แน-กา โม-ดึน-กอล อี-รอ-โด
ถ้าหากฉันสูญเสียทุกอย่างไป
내 인기가 떨어져도
แน อิน-กี-กา ตอ-รอ-จยอ-โด
ถ้าหากความนิยมของฉันลดลง
더 이상 노랠 못하고
ทอ อี-ซัง โน-แรล มท-ทา-โก
ถ้าหากฉันร้องเพลงไม่ได้
다른 직업을 가져도
ทา-รึน ชี-กอ-บึล คา-จยอ-โด
ถ้าหากฉันเปลี่ยนไปทำงานอื่น
나라는 이유만으로 날 계속 사랑해 줄 수 있니
นา-รา-นึน อี-ยู-มา-นือ-โร นัล คเย-ซก ซา-รัง-แฮ ชุล ซู อิท-นี
เพียงเพราะอย่างนั้น เธอจะยังรักฉันในแบบที่ฉันเป็นอยู่หรือเปล่า
เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมท่วงท่าที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของเพลงได้อย่างน่าหลงใหลเปล่งประกายอยู่บนเวที ท่ามกลางผู้คนและแสงไฟมากมายที่สนับสนุนและชอบในตัวเขา เสียงเพลงคลอไปกับเสียงอังกอร์ของเหล่าบรรดาแฟนคลับ ตามมาด้วยเสียงกรี๊ด ก่อนแสงไฟจะค่อยๆหรี่ลง บอกถึงช่วงเวลาอันแสนสุขได้จบลงแล้ว
ร่างสูง บวกกับใบหน้าคมคาย เพิ่มเอกลักษณ์ด้วยผมสีบลอนด์หม่นเกือบเทาควันบุหรี่ เมื่อลงมาจากเวทีแล้ว เขาก็ยังคงรักษารอยยิ้มถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องพัก แต่ก็ยังโค้งขอบคุณเหล่าสต๊าฟ เจ้าหน้าที่ควบคุมต่างๆที่คอยทำงานอย่างหนัก รอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลายิ่งทำให้ทุกคนเอ็นดูเขาไม่ใช่ในฐานะศิลปิน แต่เป็นเด็กคนหนึ่ง และเพราะนิสัยแบบนี้ ทำให้ ‘ อิม แจบอม ’ เป็นที่รักของทุกคน
บนเวทีนั่น เขาอาจจะเป็นศิลปินผู้เป็นที่รักของทุกคน ดูสูงกว่าจะเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสได้ แต่พอหลังเวทีนี้ เขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่เป็นที่รัก
และเป็นเด็กคนหนึ่ง
ที่มีคนที่รักเหมือนกัน
เมื่อขอบคุณเหล่าสต๊าฟเสร็จแล้ว แจบอมก็มุ่งตรงไปยังห้องพัก ทันทีที่เปิดประตู รอยยิ้มบนใบหน้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นรอยยิ้มที่จริงใจและดีใจที่เห็นคนที่เขาอยากเจอนั่งอยู่หน้ากระจก
แจบอมปิดประตูเบาๆ ค่อยๆเดินตรงไปหาอีกคน แต่ดูเหมือนอีกคนจะทำเป็นไม่สนใจเขาเลย
‘งอนอีกแล้วหรอเนี่ย’
ร่างสูงยืนนิ่ง ในหัวกำลังคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดมา แต่ก็นึกไม่ออก เวลาที่เขาอยู่บนเวทีก็จะทุ่มเทให้กับการแสดง มีสมาธิอยู่กับการแสดงอย่างเดียว
“ จินยอง อ่า ” แจบอมเลยตัดสินใจลองเรียกชื่ออีกคนก่อน
และแน่นอน ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าของชื่อ แถมอีกคนยังมุดหน้าลงกับอก คิ้วหนาๆนั่นเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด แจบอมยิ้มให้กับการกระทำเด็กๆของอีกคน ว่าเขาเด็กแล้วนะ แต่คนที่นั่งหันหลังนั่นทำตัวเด็กกว่าเขาซะอีก สงสัยต้องใช้ไม้ตาย เวลาจินยองงอนหรือเสียใจ เขาก็มักจะใช้วิธีนี้อยู่เสมอ
“แน กา โม ดึน กอล อีรอโด....” แจบอมเริ่มร้องเพลงออกมาเบาๆ พร้อมเดินเข้าไปใกล้อีกคน
“แน อิน กี กา ตอ รอ จยอ โด...” ค่อยๆโอบแขนกอดอีกคนจากด้านหลัง เอาคางเกยไหล่เล็กๆไว้ แต่ก็ยังไม่ลืมร้องเพลงต่อ
“ทอ อี ซัง โน แรล มท ทา โก...” สายตาคมมองใบหน้าที่ยังคงก้มหน้าผ่านกระจก พอเขาเริ่มร้องช้าลง ใบหน้าขาวๆก็ค่อยๆเงยหน้ามาสบตาเขาผ่านกระจก
“ทา รึน ชี กอ บึล คา จยอ โด” จินยองยังคงทำหน้าบึ้งและจ้องมาที่เขา แจบอมเปลี่ยนเอาหน้าซบลงกับไหล่เล็ก กำลังจะร้องท่อนต่อไป
“นา รา นึน อี ยู มา นือ โร นัล คเย ซก ซา รัง แฮ ชุล ซู อิท นี” แต่เสียงของคนในอ้อมกอดร้องชิงขึ้นมาก่อน ทำให้แจบอมรีบเงยหน้ามองอีกคน
“ใช้ไม้นี้ตลอดเลยนะ” จินยองพูดเหน็บแนม แต่ปากบึ้งๆค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นอมยิ้มน้อยๆแทน
“ก็ใช้ได้ตลอดนี่” แจบอมพูด แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
จินยองชอบเพลงนี้มาก และจินยองก็ชอบบอกว่า ชอบที่เขาร้อง และขอให้เขาร้องให้ฟังแทบทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะเลิกร้องเพลงนี้เป็นการถาวรยกเว้นต้องแสดงเท่านั้น แต่เพราะคนคนนี้ชอบมัน เขาก็ยอมร้องได้ทั้งวันทุกวัน ตราบเท่าที่ทำให้จินยองมีความสุข
จินยองเป็นแบ็คอัพให้กับเขา ทำให้ไม่มีใครสงสัยและเป็นข่าว อาจเพราะเราเป็นผู้ชายทั้งคู่ และเขาก็สนิทกับจินยองตั้งแต่เจอครั้งแรก ภายนอกเราดูเหมือนเพื่อนสนิทที่คอยแกล้งกันตลอดเวลา แต่พอหลังผู้คน เขาก็ต้องมาคอยง้อแบบนี้แหละ ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เพื่อน และไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคืออะไร แต่เราก็ไม่ได้คิดมากกับคำเรียกพวกนั้นหรอก แค่อยู่กันแบบนี้ตลอดไปได้ก็พอแล้ว
“เอาหล่ะ นายโกรธอะไรฉัน?” แจบอมคลายกอด แล้วหมุนเก้าอี้อีกคนให้หันมาประจันหน้าแทน
“นี่ง้อ โดยไม่รู้ว่าทำอะไรไว้เนี่ยนะ!” จินยองตาโต ขึ้นเสียงใส่แจบอม
แจบอมไม่ตอบ เพียงแค่ยักไหล่เชิงบอกว่า ‘ ช่วยไม่ได้นี่ ’
“ให้ตายเหอะ” จินยองถอนหายใจเฮือกใหญ่ เบ้ปากใส่แจบอมอย่างล้อเลียน
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาถึงท่อนพีคๆให้ออกห่างจากขอบเวที ถ้าโดนเอฟเฟ็คกระแทกหน้าขึ้นมาจะทำยังไง” จินยองค่อยๆอธิบายเหตุผลที่ทำให้เขาโกรธอย่างใจเย็น แต่เหตุผลนี้ทำเอาแจบอมยิ้มปากแทบฉีก
‘ ที่แท้ก็เป็นห่วงเกินขนาด ’
“โอเคครับ เข้าใจแล้ว” แจบอมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วดึงอีกคนให้ลุกขึ้นตาม
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าซะ จะได้กลับกัน” แจบอมบอกอีกคน ก่อนจะผลักจินยองเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเขาก็เดินไปเปลี่ยนในห้องน้ำแทน
ไม่นานทั้งคู่ก็จัดการตัวเองเรียบร้อย จินยองเลือกที่จะเดินออกมาจากห้องไปรอที่ประตูทางออกก่อน ถึงจะไม่มีคนสงสัย แต่ปลอดภัยไว้ก่อนก็คงจะดีกว่า หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีแจบอมก็เดินออกมา เหล่าสต๊าฟดูจะจัดการงาน เก็บของกันยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่ก็มีหลายส่วนที่กลับไปแล้ว อีกส่วนก็คงอยู่กันหน้าเวที เพราะตรงทางเดินไม่มีใครเลย ไม่นานแจบอมก็เดินมาสมทบกับจินยองที่ยืนคอยอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบ็คอัพคนอื่นคงมุ่งหน้าไปร้านอาหารกันแล้ว แต่นี่ปาร์ค จินยอง ตัวติดกับอิม แจบอมอย่างกับอะไรดี
“คิดว่าจะมีเยอะมั้ย” จินยองถามขึ้น
“ไม่รู้สิ แต่นี่ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้วนะ คงน้อยแล้วแหละ” แจบอมตอบ พลางกระชับเสื้อนอกให้เข้าที่ มือใหญ่คว้าแขนของจินยองไว้แล้วผลักประตูออกไป
ประตูยังไม่ทันเปิดจนสุด แสงแฟลชและเสียงรัวชัตเตอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะไม่มากเท่าเวลาอื่นๆ แต่สำหรับตอนนี้แค่นี้ก็วุ่นวายพอแล้ว เหล่าแฟนคลับที่ยังรออยู่ กรูกันเข้ามาหาแจบอม บ้างถือป้ายไฟ บ้างยื่นอัลบั้มมาให้เขาเซ็น จากมือที่จับแขนของอีกคนไว้แน่นเหมือนจะมีคนเข้ามามากเกินไป ทำให้เขาจับแขนอีกคนไว้ไม่อยู่ แจบอมพยายามมองหาร่างของอีกคน แต่ป้ายไฟบังอยู่มากเกินไป แจบอมเลยต้องจำใจเซ็นลายเซ็นให้แฟนคลับ ด้วยนิสัยแบบนี้ของแจบอมที่ไม่ว่าจะตอนไหนก็ใจดีกับแฟนคลับเสมอ
‘ จนทำให้อีกคนได้แค่มองอยู่ห่างๆเท่านั้น ’
หลังจากที่เดินแฟนคลับเบียดจนตัวเองหลุดออกมา จินยองพยายามมองอีกคนที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมแฟนคลับ แต่ก็เห็นแค่หัวเทาๆโผล่มานิดเดียว ร่างบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น
ยิ่งเดินไกลออกมา คนก็เริ่มเบาบาง จนไม่มีใคร ลมหนาวพัดโชยเข้าปะทะร่าง ทำให้จินยองต้องเอาแขนมากอดอกไว้ ยิ่งเดินก็ยิ่งหนาว ขาเริ่มก้าวช้าลงเรื่อยๆ ขอบตาที่อยู่ดีๆก็ร้อนพ่าวขึ้นมา น้ำใสๆอุ่นๆเอ่อล้นทำให้ภาพที่เขาเห็นพร่ามัวไปหมด ร่างบางค่อยๆทรุดตัวลงกับผนังกำแพงฮอลที่เย็บเฉียบ ร่างทั้งสั่นเทา ปากเม้มแน่นพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ดังออกมา
ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานเริ่มก่อตัวโจมตีเขา ภายในใจเหมือนจะเจ็บไปซะทุกที่ พอเริ่มร้องไห้ ก็ไม่สามารถจะกลั้นได้อีกต่อไป เพราะเขากลั้นมานานเกินไปแล้ว
เมื่อก่อนจินยองกับแจบอมมักจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตั้งแต่เช้าจนถึงเช้าอีกวัน ช่วงที่แจบอมยังเป็นเด็กเทรน พวกเขาสามารถไปไหนก็ได้ เป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาสองคน เที่ยวเล่นด้วยกัน ซ้อมด้วยกัน หลังจากซ้อมก็มาเดินเล่นจนดึก ชีวิตของพวกเขาเหมือนกลายเป็นของกันและกันไปแล้ว ข้างๆจินยองต้องมีแจบอม ข้างๆแจบอมต้องมีจินยอง เป็นแบบนี้ตลอดมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง แจบอมได้เดบิวต์ จินยองเลยตัดสินใจมาเป็นแบ็คอัพ ช่วงแรกๆพวกเขาก็ใช้ชีวิตตามปกติ แต่พอนานเข้า งานของแจบอมเริ่มเยอะขึ้น เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น และจินยองก็เป็นแค่แบ็คอัพ เจอกันน้อยลง ได้คุยกันน้อยลง และ ‘สำคัญ’ น้อยลง ตลอดที่ผ่านมา จินยองพยายามเข้าใจอีกคน แต่นับวันเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหว เขางอนเพื่อที่อีกคนจะได้สนใจเขาบ้าง แต่ก็แค่แปปเดียวเท่านั้น
‘ จินยองเหนื่อยแล้วนะแจบอม ’
เมื่อน้ำตาเริ่มจะหยุดไหล จินยองค่อยๆลุกขึ้น เตรียมจะเดินกลับบ้าน แต่กลับมีคนเข้ามากอดเขาไว้ก่อน
“เดินออกมาแบบนี้ได้ยังไง” แจบอมถาม
“รู้มั้ยว่าเป็นห่วง ถ้าฉันหานายไม่เจอ...” เมื่อรู้สึกถึงความชื้นที่ซึมเข้ามาในเสื้อเขา แจบอมคลายอ้อมกอด ประคองหน้าของอีกคนไว้ มือกร้านเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าอีกคน
“ขอโทษ...” แจบอมพูด พยายามจ้องเข้าไปในดวงตาอีกคน แต่จินยองเอาแต่ก้มหน้า ไม่พูดอะไรสักคำ
“อย่าร้องไห้สิ” เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมมองหน้าเขาแน่ แจบอมสวมกอดร่างบางอีกครั้ง
“แน กา โม ดึน กอล อีรอโด....” เริ่มเปล่งเสียงร้องออกมาเบาๆ
“แน อิน...”
“พอแล้ว!” ยังไม่ทันจะร้องจบท่อน จินยองก็ผลักเขาออก
“ไม่ต้องร้องแล้ว” น้ำตาของร่างบางค่อยๆไหลรินลงมาอีกครั้ง และนั่นเหมือนแจบอมโดนตบหน้าจนชา น้ำตาของจินยอง
“จินยอง..”
“เป็นแบบนี้ต่อไปมีแต่แย่ นายจะได้ไม่ต้องมาคอยร้องเพลงซ้ำๆอีกแล้ว” จินยองเตรียมเดินออกมา แจบอมรีบก็คว้ามือไว้ แต่จินยองก็สะบัดมันออก
“ฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีนาย” แจบอมพยายามหาเหตุผล แต่เหตุผลของเขามันไร้สาระสิ้นดี
“นายยังมีพวกเขา...” จินยองชี้ไปทางที่แฟนคลับเคยยืนอยู่ ที่ตอนนี้ว่างเปล่า
“แต่.”
“แต่ฉันไม่มีใครแล้ว นอกจากนาย” จินยองตัดบทจ้องลึกเข้าไปในดวงตาอีกคน สายตาที่เจ็บปวดทั้งจินยองและแจบอม ก่อนที่ร่างบางจะวิ่งออกไป
“พวกเขาเป็นน้ำ แต่นายเป็นลมหายใจของฉัน...” แจบอมได้แค่พูดใส่อากาศ ที่ที่อีกคนเคยยืน
“นายไม่รู้หรอ ฉันรักนายมากแค่ไหนกัน”
แจบอมค่อยๆเดินกลับเข้าไปในฮอลแทนที่จะกลับบ้าน สายตาเหม่อลอย เม็ดน้ำตาเล็กๆค่อยๆไหลริน ไร้เสียงสะอื้น มีเพียงน้ำตาที่บ่งบอกความรู้สึกเขาตอนนี้ พรุ่งนี้เขายังคงต้องแสดงคอนรอบสุดท้าย ต้องพักผ่อน แต่เขาพักไม่ได้แล้ว คืนนี้จะหลับลงได้ยังไง ใบหน้านั้นยังคงติดตาเขา ใบหน้าที่เขาต้องเห็นตลอดมาสิบกว่าปี และถ้าจากนี้จะไม่เห็นอีกแล้ว
“ฉันอยู่ไม่ได้แน่ๆ…”
เวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยง แจบอมยังคงนั่งอยู่ในห้องพัก ตอนที่สต๊าฟมาเห็นแทบจะพากันหามเขาไปโรงพยาบาล ทุกคนต่างพากันตกใจ แล้วถามว่าทำไมมาอยู่นี่ แล้วไปทำอะไรมา แต่สิ่งที่แจบอมตอบได้แค่ยิ้มบางๆ แล้วแสร้งทำเป็นเตรียมพร้อมแสดง ตอนนี้ช่างแต่งหน้ากำลังทำหน้าที่ก็บ่นตลอดเวลา เพราะหน้าแจบอมโทรมมากเลยทีเดียว ข้าวก็ไม่ได้กิน นอนก็ไม่ได้นอน ตาบวมเพราะร้องไห้เกือบเช้า แต่เขาก็โกหกไปว่าตื่นเต้นสำหรับรอบสุดท้าย
ในหัวตอนนี้คิดถึงแต่อีกคน คอยมองผู้คนที่เดินเข้าๆออกๆ ว่าจะมีคนคนนั้นเข้ามามั้ย แต่ก็ไร้วี่แวว
“ฮยอง จินยองหล่ะครับ?” แจบอมตัดสินใจหันไปถามพี่แบ็คอัพอีกคนที่นั่งกินข้าวอยู่
“ไม่รู้สิ เดี๋ยวคงมาแหละ” ตอบเพียงแค่นั้น แล้วก้มลงกินข้าวต่อ
ถึงหัวใจของแจบอมจะบอบช้ำมากแค่ไหน ในหัวจะมีแต่ภาพของอีกคนมากเท่าไหร่ แต่พอต้องขึ้นแสดงเขาก็ต้องสวมหน้ากากกลายเป็นเจบีของทุกคน นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ แต่อีกสิ่งที่ทำให้เขามีทุกวันนี้คือ ‘ปาร์ค จินยอง’
ตอนนี้ทุกฝ่ายยืนประจำที่เตรียมพร้อม เสียงแฟนคลับยังคงดังกระหึ่ม แจบอมยืนสแตนบายอยู่ข้างเวที แต่ไม่มีวี่แววของจินยองเลย ทุกครั้งก่อนขึ้นแสดงจินยองต้องให้กำลังใจเขา แต่ในสถานการณ์แบบนี้ แค่เห็นหน้าก็ยังดี
“เจบี ยืนประจำที่เลย!” เสียงตะโกนจากสต๊าฟ ทำให้แจบอมต้องลืมเรื่องนั้นไปก่อน
เสียงกรี๊ดดังสนั่น เมื่อพระเอกของคอนนี้ปรากฏตัว แจบอมยังคงแสดงได้ดีไม่มีตก รอยยิ้มที่มีสเน่ห์ประดับบนใบหน้าหล่อเหลา ยังคงดึงดูดแฟนคลับได้เป็นอย่างดี การแสดงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่แสดงอยู่ แจบอมก็ยังคงไม่ลืมมองหาอีกคน และตามคาด จินยองยังคงมาทำหน้าที่ของตัวเอง
คอนเสิร์ตดำเนินมาจนถึงเกือบสุดท้าย เป็นโชว์ที่แจบอมชอบมากที่สุด เพราะเขาจะได้ร้องเพลงที่คนที่เขารักชอบมากที่สุด และนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ร้องเพลงนี้ต่อหน้าอีกคน
내가 모든걸 잃어도
แน-กา โม-ดึน-กอล อี-รอ-โด
ถ้าหากฉันสูญเสียทุกอย่างไป
내 인기가 떨어져도
แน อิน-กี-กา ตอ-รอ-จยอ-โด
ถ้าหากความนิยมของฉันลดลง
더 이상 노랠 못하고
ทอ อี-ซัง โน-แรล มท-ทา-โก
ถ้าหากฉันร้องเพลงไม่ได้
다른 직업을 가져도
ทา-รึน ชี-กอ-บึล คา-จยอ-โด
ถ้าหากฉันเปลี่ยนไปทำงานอื่น
나라는 이유만으로 날 계속 사랑해 줄 수 있니
นา-รา-นึน อี-ยู-มา-นือ-โร นัล คเย-ซก ซา-รัง-แฮ ชุล ซู อิท-นี
เพียงเพราะอย่างนั้น เธอจะยังรักฉันในแบบที่ฉันเป็นอยู่หรือเปล่า
เสียงร้องอันไพเราะ คลอไปกับเสียงเปียโน ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งที่แจบอมตั้งใจร้องมากที่สุด
화면에 나오는 내 모습이 진짜 내 전부가 아니란 건 알고 있는지
ฮวา-มยอ-เน นา-โอ-นึน แน โม-ซือ-บี ชิน-จา แน ชอน-บู-กา อา-นี-รัน คอน อัล-โก อิท-นึน-จี
เธอรู้หรือเปล่าว่าภาพฉันที่อยู่บนหน้าจอ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่แท้จริงของฉัน
자신감 넘치는 내 모습이 날 더 불안하게 하는 건 알고 있는지
ชา-ชิน-กัม นอม-ชี-นึน แน โม-ซือ-บี นัล ทอ พู-รัน-ฮา-เก ฮา-นึน คอน อัล-โก อิท-นึน-จี
เธอรู้หรือเปล่าว่าภาพความเชื่อมั่นที่มีมากมายของฉัน ทำให้ฉันกังวลยิ่งกว่าที่เคย
화려한 조명 속에 서있는 모습 뒤에 진한 그림자가 지고 있어
ฮวา-รยอ-ฮัน โช-มยอง โซ-เก ซอ-อิท-นึน โม-ซึบ ทวี-เอ ชิน-ฮัน คือ-ริม-จา-กา ชี-โก อิท-ซอ
ถึงจะยืนอยู่ภายใต้แสงแฟลช ก็ยังมีเงามืดทึบอยู่เบื้องหลัง
เปียโนวางในจุดที่เขามองเข้าไปข้างเวทีได้พอดี ทำให้เขาเห็นว่าจินยองกำลังยืนฟังอยู่ เมื่อเห็นว่าเขามองอยู่ จินยองก็ก้มหน้าลงทันที ทุกท่อน ทุกคำ แจบอมพยายามจะสื่อมันให้ถึงอีกคน
ร่างสูงลุกเปลี่ยนมายืนร้อง แต่สิ่งที่แปลกไป คือ ปกติจะต้องหันไปทางหน้าเวที แต่ตอนนี้แจบอมกำลังเดินไปทางข้างเวที เมื่อจินยองเงยหน้ามาก็ตกใจ ตั้งท่าจะเดินออกไป แจบอมเลยรีบเดินจนลืมไปว่า
‘ พื้นเวทีเปิดไว้สำหรับโชว์ถัดไป ’
แจบอมแทบจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเพียงเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และสต๊าฟวิ่งกันเข้ามา แล้วทั้งหมดก็มืดไป
จินยองตั้งใจเดินหนีอีกคน เพราะแจบอมดูท่าจะเอาจริง แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะสต๊าฟวิ่งไปทางเวที จินยองรีบหันกลับไปดู หัวใจเหมือนมีอะไรมาตีเข้าแรงๆ เหมือนมีคนตบหน้าเขาจนชา ขาก้าวไม่ออก ได้แต่มองคนหามแจบอมที่มีเลือดออกเต็มหัวออกไป
หัวสมองขาวโพลน หูเขาแทบจะไม่รับรู้เสียงใดๆเลย จนกระทั่งเพื่อนๆแบ็คอัพพาเขาไปห้องพัก
“..ขอโทษ..” เสียงสั่นเทา น้ำตาที่เหือดแห้งไปกลับมาไหลอีกครั้ง ความรู้สึก รับรู้แปรปวนไปหมด
ชีวิตเค้าทำไมถึงได้โหดร้ายอย่างนี้ คิดว่าวันนี้อาจจะได้เป็นวันสุดท้ายสำหรับความเจ็บปวด แล้ววันพรุ่งนี้เค้าจะได้เริ่มต้นใหม่ แต่ตั้งแต่เมื่อคืน น้ำตาเจ้ากรรมก็เอาแต่ไหล ในหัวก็มีภาพของ ‘คนที่เค้ารัก ’ ที่ยังคงวนเวียนมาตอกย้ำ ว่าที่เค้าทำเห็นแก่ตัวเกินไปหรือป่าว แต่เพราะเค้าไม่แน่ใจว่า เค้ายังสำคัญสำหรับแจบอมมั้ย เค้ายังเป็นที่หนึ่งอยู่หรือป่าว หรือทุกวันนี้เค้าแค่กลายเป็นสิ่งของที่แจบอมพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับจินยอง อิม แจบอมไม่ใช่แค่คนสำคัญ แต่เป็นทุกอย่างสำหรับเค้า เค้ายังนึกภาพวันที่เค้าไม่มีแจบอมอยู่ด้วยแทบไม่ออกเลย แต่ว่างเตียงที่กว้างขนาดนี้ในตอนนี้ ย้ำแล้วว่าเค้าจะเจ็บปวดมากแค่ไหน ถ้าไม่มีแจบอม
แน่นอนว่าจินยองก็แทบไม่ได้นอน ถ้าไม่เผลอร้องไห้หนักจนหลับไป แต่เค้าก็มาที่ฮอลล์จัดคอนเร็วพอสมควร และเค้าก็เลือกที่จะไปอยู่ในที่ที่แจบอมจะไม่พบเค้าแน่นอน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เป็นจินยองเองที่ไปแอบดูแจบอม ทำให้เค้าได้เห็นว่าแจบอมโทรมมากแค่ไหน พอเห็นแบบนั้นก็ทำให้เค้ายิ่งคิดหนักเข้าไปอีก เค้าตัดสินใจจะไม่ให้แจบอมเห็น จะได้ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ พอถึงเวลาแสดงแจบอมยังคงทำหน้าที่ของเค้าได้ดี จนกระทั่งโชว์ที่ผมชอบที่สุด ถึงแม้ว่าเค้าจะบอกให้แจบอมเลิกร้อง แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ฟัง
แต่ใครจะคิดว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ได้ฟังจากปากของคนคนนั้น…
ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วตั้งแต่แจบอมได้รับอุบัติเหตุ สถานการณ์ที่เกิดดูจะไม่ร้ายแรง แต่หมอบอกว่าแจบอมเหมือนพยายามจะคว้าขอบแต่หัวดันกระแทกอย่างแรง แถมยังใช้ขารองรับการตกอีก อาการของแจบอมเลยกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
แน่นอนว่างานทุกอย่างถูกยกเลิก แฟนๆทุกคนรวมตัวกันทำโปรเจคให้กำลังใจอยู่ตลอด ช่วงแรกๆจะมีผจก.คอยแวะมาอยู่ซะมากกว่า แต่พอนานเข้าทุกคนก็ต้องแยกย้ายไปทำงาน แต่ไม่ใช่สำหรับ จินยอง เค้าแทบไม่ขยับไปไหนเลย คอยนั่งเฝ้าแจบอมทุกวัน คอยพูดคุยกับแจบอม เล่าเรื่องต่างๆให้แจบอมฟัง เปลี่ยนช่อดอกไม้จากแขกที่มาเยี่ยมทุกวัน และนอนกุมมือแจบอมไว้เสมอ
และวันนี้จินยองก็ยังอยู่ตรงนี้ ข้างๆ แจบอม
“แจบอมอ่า” มือเล็กค่อยๆจับมือหนามากุมไว้ สายตาที่เหนื่อยล้าเพราะนอนไม่เต็มที่มาหลายวันจ้องมองไปยังใบหน้าคมคายที่หลับพริ้มมาหลายวันแล้ว
“นายร้องไห้อยู่รึป่าว?”
จินยองกำลังร้องไห้อยู่นะ
“กลัวมั้ย?”
จินยองกลัวมาก
“จินยองอยู่ตรงนี้ แจบอมต้องไม่ร้องไห้ ไม่...ไม่ต้องกลัวนะ” ทุกครั้งที่เค้าพูดคุยกับแจบอม ยิ่งทำให้เค้าอ่อนแอลงเรื่อยๆ แต่เค้าก็ยังมีความหวัง
แต่ตอนนี้แจบอมอยู่ไหน
“ตื่นได้แล้วนะ... จินยอง...อยากเห็น..”
กลับมาได้แล้ว
“อยากเห็นดวงตาคู่นี้มองจินยองบ้าง...” มือเล็กที่กุมอยู่ค่อยๆเลื่อนไปลูกเปลือกตาที่ยังคงปิดอยู่อย่างเบามือ ยิ่งพูดเท่าไหร่ น้ำตาก็พลันไหลออกมาเรื่อยๆ
“ตื่นมาร้อง..เพลงให้ฟังหน่อยสิ...”
“...ร้องเพลงที่จินยองชอบ..”
“จินยองอยากฟังเสียงของแจบอม...” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหล เสียงก็พลันสั่นไปด้วย มือเล็กกุมมือหนามาแนบแก้มไว้ มีเพียงไอเย็นจากร่างอีกคนที่บอกว่าอาการไม่ได้ดีขึ้นเลย
“ แน-กา โม-ดึน-กอล อี-รอ-โด ” เสียงแผ่วเบาของจินยองพยายามจะร้องเพลงนี้ออกมา
ถ้าหากฉันสูญเสียทุกอย่างไป
‘ จินยองก็จะยังชอบแจบอม ’
“แน อิน-กี-กา ตอ-รอ-จยอ-โด” ยิ่งพยายามเปล่งเสียง ก็เหมือนจะยิ่งเบาลงกว่าเดิม
ถ้าหากความนิยมของฉันลดลง
‘ จินยองก็คอยเป็นกำลังใจให้แจบอม ’
“ ทอ อี-ซัง โน-แรล มท-ทา-โก ”
ถ้าหากฉันร้องเพลงไม่ได้
‘ จินยองก็จะเป็นคนร้องให้แจบอมฟัง ’
“ ทา-รึน ชี-กอ-บึล คา-จยอ-โด ”
ถ้าหากฉันเปลี่ยนไปทำงานอื่น
‘ จินยองก็จะตามไปอยู่ด้วย ’
“ นา-รา-นึน อี-ยู-มา-นือ-โร แน ยอพ-เพ อิท-ซอ ชุล ซู อิท-เกท-นี ”
เพียงเพราะอย่างนั้น เธอจะยังอยู่เคียงข้างฉันอยู่หรือเปล่า
‘ จินยองจะอยู่เคียงข้างแจบอมตลอดไป ’
จบคำสุดท้าย จินยองฟุบหน้าลงกับเตียงปล่อยโฮออกมาทันที เค้าอยากจะบอกทุกอย่าง ความรู้สึกของเค้าตลอดมาให้แจบอมรับรู้ เค้าอยากจะให้แจบอมตื่นขึ้นมาฟังเค้า ว่ายังไงแล้ว
“ มุด-โก ชิพ-พอ ”
ฉันอยากถามเธอ
ท่อนสุดท้ายของเพลงถูกเปล่งขึ้น แต่นี่ไม่ใช่เสียงของจินยอง กลับเป็นเสียงที่คุ้นหู เสียงที่เป็นเจ้าของเพลงนี้ เสียงที่ยังอยู่ในหัวเค้าตลอด เสียงที่เค้าอยากได้ยินมากที่สุด
จินยองรีบเงยหน้ามองทันที แต่ทว่าตาคู่นั้นก็ยังหลับพริ้มเหมือนเดิม สงสัยว่าเค้าคงร้องไห้จนเพ้อไปแล้ว
“ฉันขอโทษ....”
เสียงนี้อีกแล้ว พลันน้ำตาของจินยองเริ่มไหลอีกครั้ง เค้าคิดถึงเสียงนี้ แต่มันก็เหมือนฝัน เพราะเจ้าของเสียงยังคงหลับอยู่
“ขอโทษ..ฉันขอโทษ แจบอม” จินยองเริ่มเอาแต่พล่ามคำๆนี้อีกแล้ว แต่แล้วเค้ากลับรู้สึกถึงไออุ่นจากมือที่เค้ากุมไว้ มือหนาเริ่มขยับมาบีบมือเค้าแทน
ทุกอย่างเหมือนฝันจริงๆ ยิ่งตอนนี้ ดวงตาของจินยองกำลังสบตากับดวงตาที่เค้าคิดถึงมากที่สุด ดวงตาที่มีแต่ภาพของจินยองสะท้อนออกมา ดวงตาคู่นี้ของ ‘อิม แจบอม’
“อย่าไปไหนอีกนะ ขอร้อง” เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างลำบาก แต่นั่นยิ่งทำให้จินยองปล่อยโฮออกมา จินยองโผลเข้ากอดแจบอม
“ไม่ไป...”
“ฉันจะ....อยู่ข้างนายตลอดไป” จินยองเริ่มรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ลูบหลังของเค้าอยู่ สัมผัสที่เค้าไม่มีวันลืม
“นายเป็นทุกอย่างสำหรับฉัน..”
“ฉันรักนาย ปาร์ค จินยอง...” เสียงทุ้มที่แหบหน่อย กระซิบอยู่ข้างหูจินยอง เสียงกระซิบที่ดังก้องชัดเจน และยืนยันได้ว่า
‘แจบอมกลับมาหาจินยองแล้ว’
“รู้แล้ว...ฉันรู้แล้ว” รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาบนหน้าของจินยอง กลับมายิ้มอีกครั้ง จินยองกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น แจบอมก็ใช้แรงอันน้อยนิดกอดตอบ ก่อนจินยองจะค่อยๆผละออกมา รอยยิ้มของจินยอง ทำให้แจบอมยิ้มได้อีกครั้ง และเพราะจินยอง
‘ ที่ทำให้เค้าต้องพยายามกลับมาหาให้ได้ ’
จินยองใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆ แล้วพูดคำที่เค้าอยากจะบอกแจบอมมากที่สุด อยากจะให้แจบอมได้รู้
“ฉันรักนาย อิม แจบอม ”
“ ตลอดไป ”
◊ SQWEEZ
ผลงานอื่นๆ ของ MAYOOKU ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ MAYOOKU
ความคิดเห็น