ผมเจอเธอครั้งแรกที่บันได
ผมกำลังรอเข้าห้องเรียน เหมือนกับวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา
ทั้งที่เป็นช่วงปิดเทอม แต่ผมก็ไม่เคยได้พักผ่อน แต่กลับต้องเรียนพิเศษ เหมือนกับช่วงเปิดเทอม
บันไดเป็นทางหนีไฟเป็นที่ประจำของผมก่อนเข้าเรียนวิชาสุดท้ายของวัน
ฝูงชนทะลักเข้ามาตรงทางออก เป็นสัญญาณว่าได้เวลาเข้าเรียน ผมลุกขึ้น ชนเข้ากับใครบางคน
"ขอโทษครับ" ผมรีบเก็บหนังสือที่ล่วงหล่นขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นหน้าเธอ...ไม่เคยมีแสงใดเป็นประกายเท่าดวงตา และนวลเท่าใบหน้านั้น
"ขอบคุณคะ" เธอรับหนังสือจากผมไป พร้อมกับยิ้มที่จับใจผมตลอดมา
เธอเดินหายไปกับฝูงชน ผมมองตามเธอไปจนสุดสายตา
วันนั้นเป็นวันเข้าเรียนวิชาชีววิทยาวันแรก
ห้องเรียนก็เป็นเหมือนกับห้องเรียนอื่นในที่นั้น มีเพียงเก้าอี้และทีวีแขวนอยู่เต็มห้อง
สำหรับผมสิ่งนี้ยังคงเป็นของแปลก ทุกคนในห้องไม่มีใครรู้จักกัน แต่มารวมในที่เดียวกันเพื่อเรียนจากวิดีโอที่จะเปิดผ่านทางทีวีทุกเครื่องในห้อง วิดีโอที่อัดไว้เมื่อนานมาแล้ว ในอดีตที่ทุกคนในห้องนี้ต่างอยู่ต่างที่และต่างกิจกรรมกันไป ไม่มีใครจำได้ว่าทำอะไรอยู่ในระหว่างที่วีดีโอนี้ถูกบันทึกอยู่ แต่ในที่สุดทุกคนก็มารวมกันเพื่อดูในสิ่งที่มาจากอดีตเมื่อนานมาแล้ว
ผู้คนเริ่มทยอยเข้าและนั่งลงในที่ของตน
และเธอก็เข้ามา
ไม่มีทางเป็นคนอื่น ผมจำใบหน้านั้นได้ พร้อมกับกองหนังสือในมือเหมือนกับวันแรกที่ผมเจอเธอ
เธอนั่งลงข้างผม
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้
แต่ไม่ ผมจะไม่ยอมหลงเสน่ห์ของหญิงชาวกรุงแน่ ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้ว พวกเธอมักทำตัวดูเรียบร้อย แต่แท้จริงไม่ใช่แม้แต่น้อย เดาได้ว่าถ้าเปิดเพลงขึ้นมา พวกเธอก็คงเต้นกันไม่คิดชีวิตทีเดียว และความทำตัวทันสมัย เสื้อผ้าที่แต่งกันเกินจำเป็น ยังเครื่องประดับและเครื่องสำอางอีกพวกเธอบางคนยังหยิ่งทะนงตนเกินกว่าจะมองเห็นคนอื่นด้วยซ้ำ
ผมจะไม่ยอมหลงในตัวเธอแน่นอน
เธอเข้าเรียนสายทุกครั้งไป
ทำให้เธอจดเนื้อหาที่ครูผู้สอนในวิดีโอพูดมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ ผมแกล้งทำเป็นเปิดสมุดจดของผมไว้และทำเป็นกำลังเพ่งมองที่ทีวีอยู่เพื่อให้เธอลอกเนื้อหาที่ผมจดได้
วันหนึ่งผมป่วยเป็นหวัดหนักจนแทบไม่รู้สึกอะไร คือรู้สึกเหมือนจะหมดแรงสลบล้มฟลุกไปได้ตลอดเวลา เนื้อตัวร้อน ๆ หนาว ๆ ไม่มั่นคง และน้ำมูกไหลอยู่ตลอด ถึงจะใช้ผ้าเช็ดหน้าสั่งออกจนชุ่มแล้วก็ตาม
ผมยังคงเข้าเรียนตามปกติ ไม่รู้ว่าคนรอบข้างจะรู้สึกอย่างไรที่มีคนป่วยอยู่ในที่ปิดเช่นนี้ เขาคงจะคิดรังเกียจเป็นแน่แท้ รวมทั้งเธอด้วย
แต่ไม่
"เอาทิชชู่ไหมคะ"
"ขอบคุณครับ" ผมรับทิชชู่จากเธอมา
ผมนั่งเรียนอยู่ได้จนหมดชั่วโมง และต้องหยุดเรียนไปอีกสองสามวัน
เธอยังคงมาสายตามเคย แต่ผมก็ให้เธอลอกสมุดจดโดยไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ตัวอีกแล้ว
ผมเริ่มพูดกับเธอ ทุกวันผมจะรอจนกว่าจะถึงชั่วโมงชีววิทยา จนกว่าเธอจะเข้ามาในห้อง และลอกสมุดจดของผม
เราหัวเราะไปกับมุขตลกในวิดีโอด้วยกัน และอมยิ้มไปกับเรื่องชวนหัวด้วยกัน
ผมคุยกับเธออยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยรู้จักชื่อของเธอเลย
วันก่อนปิดครอส ผมยืนรอเธอออกจากห้องเพื่อจะถามชื่อของเธอ
เมื่อเธอออกมา ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยกับเธออย่างสนิทสนม
ผมเดินออกมาจากที่นั่นในทันที โอกาสยังมีอีกในวันรุ่งขึ้น
แต่เธอไม่ได้เข้าเรียนในวันต่อมา
เธอยังคงไม่มา แม้จะหมดชั่วโมง และทุกคนออกจากห้องกันไปหมดแล้ว ผมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั่น แต่ก็ไม่มีวี่แววของเธอเลย
แม้แต่ที่บันได ผมก็ไม่เห็นใบหน้านั้นอีกในฝูงชนที่ผ่านมา
เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงในแบบที่ผมคิด แต่เธอก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผม และก็ผ่านไป ไม่ต่างจากฝูงชนที่ผ่านไปมาที่บันไดทุกวัน
แต่ผมก็ไม่เคยลืมเธอ แม้จะไม่เคยรู้ชื่อของเธอ แต่ผมก็จะไม่มีวันลืมเธออย่างแน่นอน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น