ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นรักนาย (อดีต) ซุปตาร์

    ลำดับตอนที่ #2 : ยังคงตามหา

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 57


    "ทำไมแกถึงชอบมาแถวนี้จังวะ" ไอแอนถามฉันทุกทีที่ฉันชวนมันออกหลังเลิกเรียนที่พอมีเวลาว่าง ฉันอยู้ที่ไหนหน่ะเหรอ วันนี้มาแถวเกมส์เซ็นเตอร์แห่งหนึ่ง เครื่องเล่นมากมายในเกมส์เซ็นเตอร์เเรียงรายอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรถแข่งจำลอง เกมส์จับตุ๊กตา เป็นต้น

    "ฉันก็แค่อยากมาหน่ะ" ฉันพูดพรางเข้าไปในเกมส์เซ็นเตอร์ แล้วเดินรอบๆ พรางมองหาใครบางคน

    "มาก็ไม่เล่น เดินไปรอบๆทุกที นี่มันร้านที่เท่าไหร่แล้ววะ นี่มันจะทั้งเมืองแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ซิ ทั้งเมืองแล้วต่างหาก" แอนยังบ่นไม่หยุด 

    "ร้านนี้รอบสองแล้วเหอะ" ฉันหันไปแล้วสะบัดหน้าใส่ เชอะ! เฮ้อ... ไม่เจออีกแล้วเหรอ ร้านนี้มันก็ตรงในรูปทุกอย่างนี่หน่า ฉันคิ้วขมวดขึ้นทันที มันน่าจะร้านนี้ซิ ถ้าร้านนี้แสดงว่าบ้านเขาต้องอยู่ใกล้ๆ ดีหล่ะ ฉันจะลองมาที่นี่บ่อยๆกว่านี้

    "ไอแมร์ แกอย่าจะคิดนะว่าจะมาที่นี่ทุกวัน ถ้าแกเดินทางรอบแคนาดาได้ แกทำไปแล้วใช่มั้ย" ฉันพยักหน้าทันที ใช่ถ้าฉันมีเวลามากพอ ฉันจะเดินทางหาเขา "วันหยุดสุดสัปดาห์แก็นั่งรถไปไชน่าทาวน์ ไม่ก็แหล่งข็อปปิ้งแบร์นดเนม นี่แกคิดว่าเขาจะไปแถวนั้นบ่อยๆเหรอ" แอนยังบ่นไม่หยุด

    "ฉันไม่รู้ ให้ฉันได้ทำ ให้ฉันได้ตามหาเหอะ" ฉันยังคงมองไปรอบ ในร้านไม่มี นอกร้านแล้วกัน ฉันกำลังจะเดินออกไปนอกร้าน นี่มันเดือนกุมภาพันธ์ หิมะตกหนักจริงๆ ฉันถึงกับห่อไหล่ด้วยความหนาว แล้วฉันก็เหลือบมองไปเห็นผู้ชายร่างสูงเดินผ่านหน้าร้านไป ฉันชะงักแล้วพยายามที่จะวิ่งตามและตะโกนเรียก แต่เพราะหิมะตกหนัก และขายาวๆของเขาหรือเปล่า ทำให้เขาเดินอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็หายไปกับผู้คน 

    "วิ่งออกมาทำไมวะ" แอนถามฉัน เมื่อมันตามฉันทัน "แกร้องไห้ทำไม" เอ๊ะ ฉันร้องไห้เหรอ เอ๊ะทำไมตาฉันพร่ามัว รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลข้างแก้ม

    "ฉันเห็นเขาแก ฉันเจอเขา แกได้ยินไหม ฉันเห็นเขา แกเห็นเหมือนฉันหรือเปล่า" ฉันพูดขึ้นแล้วมองไปยังท่ามกลางผู้คน

    "ฉันว่าตรงนี้หนาวมาก พวกเราไปร้านกาแฟแถวนี้เถอะนะ" แอนพยายามลากฉัน แต่ขาของฉันไม่อยากก้าวเดิน ฉันเห็นเขาจริงๆนะ ฉันเห็นเขาจริงๆนะ ฉันไม่ได้ตาฟาด ถึงแม้บ่อยครั้งที่ฉันจะทักผิด ตอนมาใหม่ๆ ช่วง 2 เดือนแรก ฉันทักผิดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คนได้มั้ง

    ณ.ร้านกาแฟ

    "เอานี่ ช็อกโกแลตร้อน" แอนพูดพรางยื่นช็อกโกแลร้อนให้ฉัน พวกเรานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆ เกมเซ็นเตอร์ 

    "ขอบใจ แต่แกฉันเห็นเขาจริงๆนะ" ฉันยังคงบอกแอนซ้ำแล้วซ้ำอีก 

    "ตอนนี้แก อย่าห่วงว่าแกเห็นอะไรเลย แกห่วงค่าใช้จ่ายแกเองดีกว่ามั้ย เงินเก็บแกเหลือเท่าไหร่วะ 5 เดือนที่ผ่านมาแกใช้ไปเท่าไหร่แล้ว" แอนเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายของฉัน พ่อแม่ฉันจ่ายค่าเรียนและทุกอย่างให้ เว้นแต่เรื่องกินอยู่ที่ฉันต้องจ่ายเอง ไม่เหมือนแอนรายนี้พ่อแม่ ออกให้ทุกอย่างเนื่องจากแอนยังหางานทำไม่ได้ ได้งานไม่ก็ลาออก หรือเปลี่ยนงานใหม่ จนพ่อแม่ตัดสินใจส่งให้มันมาเรียน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีเหลือเกิน ฉันจะได้มีเพื่อนมาด้วย

    "ฉันยังพอมีอยู่ เงินเก็บยังพอมีอยู่ เดือนหน้าก็เริ่มทำงานแล้วไม่ใช่เหรอ ยังพอมีใช้เดือนนี้อยู่หน่ะ" ฉันพูดเพื่อให้แอนสบายใจ ฉันไม่ค่อยได้ซื้ออะไรกินเท่าไหร่นัก ฉันมักจะจำกัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเพื่อเป็นค่าเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ

    "เฮ้อ แกมันบ้า" แอนยังคงว่าฉัน ใช่ฉันมันบ้า แค่ฉันอยากเจอเขา อยากเห็นหน้าเขาเท่านั้นแหล่ะ

    "ปล่อยฉันไปเหอะ ว่าแต่แกเงินพอหรือป่าว ต้องขอพ่อแม่เพิ่มเหรอ" ฉันอดรู้สึกผิดไม่ได้ ฉันลากมันมาตลอดเวลา ถึงแม้บางครั้งฉนก็ไปคนเดียวก็ตาม เพราะไม่อยากให้มันพลอยเดือดร้อนไปด้วย

    "ไม่หรอก แกก็ไม่ได้ชวนฉันทุกวันนี่ ฉันเป็นห่วงแกมากกว่า บางทีแกควรตัดใจนะ แล้วก็ทำหน้าที่ของแกให้ดีที่สุด" แอนพูด

    "ถ้าทำได้ง่ายเหมือนพูดก็ดีหน่ะซิ" ฉันตอบกลับไป มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ถ้าฉันทำได้คงไม่ต้องมาถึงที่นี่หรอก 

    ถ้าฉันทำได้ ฉันคงไม่พยายามอย่างนี้หรอก วันนั้นที่มีงานแถลงข่าวเรื่องคอนเสิร์ต ฉันยังคงหวังว่าเขาจะออกมาแล้วพูดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น ฉันจะไม่โกรธเขาเลย ฉันยังรองานแถลงข่าวด้วยความหวัง และความเชื่อใจ ทั้งๆที่อีกใจหนึ่งได้แต่บอกว่าเขาไม่กลับมาหรอก เขาไม่มีทางกลับมา ถ้าเขากลับมาเขากลับมาตั้งนานแล้ว ฉันเฝ้าติดตามข่าวทั้งวัน แล้วข่าวก็ออกมา เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ ลงมาที่หัวใจฉัน ไม่เห็นเขา แต่ทางค่ายและสมาชิกได้ยืนยันแล้ว ว่าเขาลาออกจากวงและจะไม่กลับเข้ามาอีก พวกเขาจะดำเนินกิจกรรมต่อเพียง 11 คน ต่อไป คำว่า 11 คนทำให้ใจฉันแหลกสลาย ฉันจมน้ำตาอยู่เกือบเดือน เฝ้ารอวันที่เขาจะเขียนอะไรบนโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือป่าว สุดท้ายไม่มี ไม่มีอะไรเลย เหมือนเขาหายไปเฉยๆ นั่นคือสิ่งที่ฉันกลัวแล้วเป้นจริง ฉันกลัวจะมองไม่เห็นเขาอีกเลย ดังนั้นฉันจึงใช้กำลังที่ฉันมีตามหาเขาให้เจอ ถึงแม้จะเพ้อเจ้อแต่ก็ฉันก็อยากให้มีปาฏิหาริย์ 

    ฉันกับแอนกลับมาถึงที่ห้องของพวกเรา ฉันมองไปยังรูปภาพที่อยู่บนหัวเตียง มีภาพครอบครัวของฉันและ ผู้ชายคนหนึ่ง 'เจียงฟาน ฉันเห็นนายด้วยแหล่ะ ฉันเห็นนายด้วย ใช่นายใช่มั้ย' ฉันคิดในใจแล้วน้ำตาก็ไหลอีก TwT น้ำตาบ้านี่หนิ ไหลอยู่นั่นแหล่ะ 

    "แก เลิกร้องได้แล้ว ฉันหมดมุกจะปลอบแกแล้วนะ" แอนเดินเข้ามานั่งข้างเตียงแล้วกอดฉัน

    "ฉันพยายามแล้ว แต่ฉันอยากเจอเขาหนิ ทุกคนหันหลังให้เขา แม้กระทั่งสมาชิกวง เขาเหมือนโดดเดี่ยวเลยแก" ฉันพูดไปร้องไห้ไป

    "แก แต่เขามีแม่ที่อยู่กับเขานะ เขาไม่ได้โดดเดี่ยวหรอก" แอนพูดปลอบฉัน ใช่เขามีแม่ แต่สมาชิกในวงเลือกที่จะหันหลังให้เขามันบีบหัวใจฉันเหลือเกิน

    "แต่ฉันเป็นห่วงเขา" ฉันยังคงร้องไห้อยู่ และลุกขึ้นไปเตรียมตัวเข้านอน ฉันล้มตัวนอน และร้องไห้ต่อไปจนไม่มีน้ำตาจะร้องแล้ว เหมือนน้ำตาค่อยๆหายไป ความรู้สึกที่ว่าเจ็บจนไม่มีน้ำตามันเป็นยังไงฉันรู้สึกได้แล้วในหลายเดือนที่ผ่านมา แล้วทุกอย่างค่อยๆ ดำดิ่งสู้นิทรา ฉันหลับตาลงช้าๆ พร้อมภาวนาขอให้พรุ่งนี้ดีขึ้น ขอให้พรุ่งนี้ฉันเจอเขา ได้บอกเขาว่าฉันเป็นห่วงและคิดถึงเขา แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความสงบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×