เเบค...คนเหงา
เรื่องราวของพี่เเบคคนโสด ที่โสดจนพาล จนน่ารำคาญ จนเพื่อนๆต้องเข้ามาช่วยหาความรักใพ้กับเพื่อนคนนี้สักที เพื่อความสงบสุขเเด่หมู่มวลเพื่อนฝูง
ผู้เข้าชมรวม
137
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แบค...คนเหงา
15:20
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“เข้ามา”
เสียงห้าวตะโกนบอกอนุญาตคนหลังประตูที่มาเคาะให้เข้ามาได้โดยที่ไม่ได้ถามไถ่ก่อนว่าคือใคร
จากเวลาตอนนี้แล้วก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแฟนเด็กนิสัยแมวของรูมเมทเขา หรือถ้าไม่ใช่ก็คงจะเป็นพวกเพื่อนๆที่แวะเวียนมาหานั่นล่ะ
ไม่เกินไปกว่านี้หรอก
“พี่แบคสวัสดีครับ”
แล้วก็เป็นไปตามคาด
‘ชี’ แฟนเด็กมัธยมปลายกางเกงน้ำเงินของ ‘กุ๊ก’ รูมเมทสุดขี้เซาจากเอกนิติศาสตร์ของเขาโผล่หน้าหวานๆเปื้อนรอยยิ้มเข้ามาให้เขาเห็นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาในห้องแล้ววางกระเป๋าถือสุดฮิตของนักเรียนมัธยมปลายไว้ที่โต๊ะหนังสือของแฟนตัวเอง
“พี่แบคน้ำเต้าหู้ครับ
ผมซื้อมาฝาก”
“ขอบใจ”
แบคขอบใจชีที่เป็นเด็กมีน้ำใจก่อนจะทำท่าไม่สนใจแล้วทำเป็นพิมพ์งานในโน๊ตบุ๊คของตัวเองต่อ
แต่ห้องพักนักศึกษาราคาถูกที่ไม่ได้กว้างขวางและเป็นส่วนตัวเท่าใดนัก
ทำให้เขาต้องเห็นพฤติกรรมแฟนเด็กของเพื่อนตลอดว่ากำลังทำอะไรอยู่บ้าง
ตั้งแต่จัดแจงวางถุงน้ำเต้าหู้ที่ซื้อมาลงบนโต๊ะกับข้าวที่มุมห้อง
จากนั้นก็ค่อยๆย่องเดินไปที่ข้างเตียง
จนถึงการที่ค่อยๆมุดเข้าใต้ผ้าห่มไปซุกแฟนรุ่นพี่ที่นอนขี้เซาอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกันสองคน
พอกุ๊กรู้ว่าแมวที่มุดเข้าไปใต้ผ้าห่มนั้นคือแฟนเด็กของตัวเองไอ้ขี้เซาก็จัดการวาดขาวาดไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับแฟนเด็กจนหนำใจจนโดนแฟนเด็กเอ็ดเอาเบาๆ
“พี่แบคอยู่นะ”
“มันไม่สนใจหรอกน่า”
และการไม่สนใจการมีอยู่ของแบคสำหรับกุ๊กแล้วนั้น
ก็ทำให้คนโสดต้องนั่งฟังเสียงหัวเราะคิกคักของคนมีคู่เขาเล่นกันอยู่สักพักจนเสียงเงียบหายไป
ให้ทายก็คงจะเป็นการที่รูมเมทของเขานั้นหลับไปแล้ว ถึงได้เลิกวอแวแฟนเด็ก
และเขาจึงมีสมาธิสามารถเริ่มพิมพ์งานที่พิมพ์ค้างไว้ต่อได้
18:32
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“ข้าวมาส่งแล้วจ้า”
แล้วคนที่เข้ามาในห้องได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากเจ้าของห้องก็คือ ‘แพทริก’ หรือที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเรียกว่าแพท เดือนเอกรัฐประศาสนศาสตร์
เดือนคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และเดือนมหาวิทยาลัย
ผู้สร้างเสียงฮือฮาให้แก่คนทั่วมหาวิทยาลัยในฐานะผู้แย่งตำแหน่งเดือนจากเด็กนิเทศศาสตร์ที่ครองตำแหน่งมาหลายปีดีดักไปได้อย่างขาดลอย
ก็จะไม่ได้ได้อย่างไร สูง หล่อ ขาว ตี๋ พิมพ์นิยมขนาดนี้
แต่มารยาททรามทางคณะกรรมการผู้ตัดสินก็คงจะไม่รู้
แพทเดินเข้ามาในห้องก่อนแล้วจึงตามมาด้วย
‘มิ้น’
แฟนหนุ่มร่วมเอกจากแก๊งนางฟ้า
ชื่อนี้ได้มาเพราะลักษณะของสมาชิกที่มีลักษณะนุ่มนิ่มน่าปกป้องทั้งแก๊ง
และไอ้แพทก็ไปสอยมาได้แล้วคนหนึ่ง
“ไอ้กุ๊กอะ”
“ไปส่งแฟน”
แบคตอบคำถามของเพื่อนหน้าหล่อ
ไอ้เพื่อนหน้าหล่อก็ทำหน้าอ๋อก่อนจะช่วยแฟนตัวเองจัดที่นั่งให้เรียบร้อยถึงได้หันมาสนใจเจ้าของห้อง
“แบคแกไปกินข้าวก่อนไป
เดี๋ยวฉันทำต่อเอง”
“เออๆ
แล้วไอ้พวกนั้นอะ”
แบคถามหาเพื่อนที่เหลือที่ทำงานกลุ่มเดียวกันพร้อมเป็นแก๊งเพื่อนสนิทที่ยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นจากแพท
“กินข้าวอยู่ข้างล่างอะ
พวกมันขี้เกียจซื้อมากินบนห้องเพราะต้องล้างจานก็เลยกินกันข้างล่างให้เสร็จๆไป”
“อืมๆ”
“อ้อ
ไอ้พวกนั้นพาเด็กๆมาด้วยนะบอกไว้ก่อน”
แพทยักคิ้วกวนๆให้เจ้าของห้องก่อนที่ตัวเองจะนั่งลงหน้าโน๊ตบุ๊คแล้วเริ่มพิมพ์งานต่อจากเพื่อนที่พักไปกินข้าว
แบคพอได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับส่ายหัว
แล้วคิดในใจว่านี่เขาต้องมานั่งดูไอ้พวกนี้มันแสดงความรักกับแฟนอีกแล้วเหรอ
แค่ปกติมีกุ๊กกับชีเด็กกางเกงน้ำเงินคู่เดียวก็เลี่ยนจะแย่
แล้วนี่มีเพิ่มมาอีกสี่คู่เขาไม่ต้องทนดูความหวานจนน้ำตาลจุกคอเลยอย่างนั้นเหรอ
แล้วห้องพักของเขาก็ไม่ได้กว้างขวางพอที่จะหลบไปไหนไกล
และเขาก็คงจะไม่บ้าไปนั่งตากยุงอยู่ที่ระเบียงหรือทนอยู่ในห้องน้ำแคบๆอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เขาจะต้องทน
ทนกับสถานการณ์อันหน้าอัดอึดในฐานะที่เป็นคนโสดคนเดียวในดงของคนมีแฟน
19:45
“ก็อยู่กันหลายคน...อืม ก็มีไอ้แบค แพท มิ้น โจ ฮัก ซัง ตินติน ซอง...มีแค่นี้แหละ...คร้าบ
ไปอาบน้ำได้แล้วไปเดี๋ยวม๊าก็ดุอีก”
เสียงคุยโทรศัพท์ฯระหว่างกุ๊กคนขี้เซาและแฟนเด็กนิสัยแมวของมัน
“กาแฟของพวกพี่ๆ”
‘ฮัก’ กับ ‘ตินติน’ แฟนเด็กของ ‘โจ’ และ ‘ซัง’ ที่อาสาลงไปซื้อเสบียงกับของประทังชีวิตมาให้พวกผมกลับมาพร้อมถุงขนมใบโตและกาแฟกระป๋องจำนวนหนึ่ง
สองเด็กจากต่างเอกแต่คณะเดียวกันเที่ยวเดินแจกกาแฟกระป๋องให้ผม แพท มิ้น
แม้แต่กุ๊กที่ไม่ได้ทำรายงานด้วยก็ได้
แต่ไอ้ขี้เซานี่กินกาแฟก็เหมือนน้ำเปล่านั่นล่ะ เดี๋ยวพอมันคุยกับแฟนเด็กเสร็จลุกไปอาบน้ำมันก็กลับมานอนได้สบายๆถึงแม้ว่าพวกผมจะทำเสียงดังมันก็ไม่ตื่นขึ้นมาดุด่าแต่อย่างใด
ตินตินวางกาแฟไว้ให้ซองก่อนจะนำที่เหลือไปแช่ไว้ในตู้เย็น
นี่ซื้อมากะจะไม่ให้พวกเขานอนเลยใช่หรือไม่
“กาแฟพี่อะ”
“นี่ไง”
“โกโก้ปั่น?”
“อื้ม”
“แต่ร่างกายพี่ต้องการกาแฟมากกว่าโกโก้ปั่น”
อยู่ดีๆก็มีบทสนทนาปัญหาเรื่องกาแฟกับโกโก้ดังขึ้นมาจากโจและฮักแฟนเด็กเอกไทย
“นี่เพิ่งทุ่มกว่าๆเอง
พี่ก็กินโกโก้ไปก่อนสิ”
“จะสองทุ่มแล้วมั้ยหมู”
“ใครหมู?”
“เอ่อ...ไอ้แบค
ไอ้แบคเลย ตัวใหญ่อย่างกับหมู”
แบคคิดในใจว่าเขาก็นั่งของเขาอยู่ดีๆก็โดนลากเข้าไปเกี่ยวแถมยังโดนหาว่าเป็นหมูด้วยเสียอย่างนั้น
คนมีความรักและกลัวแฟนนี่มันช่างน่าสมเพส
‘ปั้ง!’
และแล้วคนไม่มีมารยาทคนที่สองของรอบวันที่แบคได้พบเจอก็ปรากฎตัวขึ้น
ซองเปิดประตูพรวดเข้ามาพร้อมปิดประตูเสียงดัง
“เป็นอะไรวะ”
“แดนมันจะออกไปกินเหล้าอะ”
“แล้ว...”
“ก็ฉันไม่ได้ไปด้วยไง”
“ห่วงไอ้แดน?”
“ห่วงไม่ได้กินเหล้าต่ากหาก”
สิ้นเสียงของแบคที่คิดกับเพื่อนในแง่ดีว่าจะต้องเป็นห่วงแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่ออกจากหอไปเที่ยวในสถานที่อโคจรแบบนั้นอย่างแน่นอน
แต่ฉับพลันเสียงของซังเพื่อนอีกคนก็ดังแทรกขึ้น พูดในสิ่งที่อยู่ในใจของตนออกมา
และดูเหมือนว่าสิ่งที่อยู่ในใจของซังจะไปตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจของเพื่อนคนอื่นๆในห้อง
รวมทั้งที่อยู่ในใจของซองเองด้วย
“เออสิ”
“ไปทั้งทีไม่ให้ฉันไปด้วยได้ไง”
“ไอ้ซองแกไปก็ภาระน้องเปล่าๆมั้ยวะ”
แพทพูดขึ้น
ซังและโจก็เห็นด้วย รวมทั้งแบค ที่ว่าซองนั้นเป็นภาระให้แดน
ก็ซองเนี่ยไปทีกินคุ้มยิ่งกว่าใครๆพอเมามาทีก็เป็นสุนัขดีๆนี่เอง
แล้วก็ต้องเป็นภาระให้แฟนเด็กต้องแบกกลับหอทุกครั้งไป
แต่ก็ถือว่ายังโชคดีของแดนอยู่ที่ซองตัวไม่หนามาก
ไม่อย่างนั้นแบคคิดว่าแดนคงจะทิ้งเพื่อนของตนไว้ที่ร้านเหล้าตั้งแต่เมาใส่กันครั้งแรกแล้ว
“ก็อยากกินด้วยได้มั้ยวะ
แล้วไปคนเดียวแบบนี้เดียวก็มีคนมาวอแวอีก”
“ฮิ้วววววว”
“ฮิ้วหน้าแกสิไอ้แพท”
“แซ็วๆน่า”
“พี่ซอง ออกมานี่ดิ๊”
อยู่ดีๆรุ่นน้องในเอกที่พ่วงตำแหน่งแฟนเด็กของซองก็โผล่เข้ามาเรียกตัวเพื่อนของเขาออกไป
ดูตอนแรกเหมือนว่าเพื่อนของเขานั้นจะดื้อไม่ยอมออกไปแต่พอรุ่นน้องเก๊กหน้าโหดใส่ก็ต้องยอมออกไปแต่โดยดี
นี่คือคนที่ชอบแซ็วซังกับโจว่ากลัวเมีย
แต่สำหรับซองนั้น...
“พ่อยังไม่น่ากลัวเท่าผัวเลยฮ่าๆ”
ซังกับโจหัวเราะไล่หลังตามซองไปด้วยความสนุกสนาน
ก่อนที่เป้าหมายจะเปลี่ยนมาเป็นคนโสดหนึ่งเดียวภายในห้องนี้
“ไง
เหม็นความรักเลยสิพ่อคนโสด”
“อ้าว
ทำไมเลี้ยวมาทางฉันไวจังวะ”
“เพื่อนๆก็แค่อยากใส่ใจ”
“เหรอออออ”
“จ้า”
“แล้วแกไม่คิดอยากมีแฟนเหมือนเพื่อนบ้างเหรอวะ”
มิ้นเปิดประเด็นถามขึ้นมาทำให้คนในห้องคนอื่นๆเริ่มหันมามองที่เขาเป็นตาเดียวด้วยความอยากรู้ว่าเขานั้นจะตอบว่าอะไร
ไม่เว้นแม้แต่กุ๊กที่แบคคิดว่าจะหลับไปตั้งนานแล้วก็ผงกหัวขึ้นมาจากหมอนมามองเขาด้วย
“ก็...อืม
ยังไม่อยากมี”
แบคตอบเพื่อนออกไปอย่างไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก
ก็ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ ไอ้แฟนน่ะเขาก็อยากมี
ในเมื่อคนรอบข้างเขามีแต่คนไม่โสด เวลาไปไหนทีก็ไปกันเป็นคู่ๆ มีเพียงเขาแค่คนเดียวในกลุ่มที่ยังโสดแล้วจะไม่ให้เขาเหงาลงได้อย่างไร
แต่ในเมื่อมันยังไม่ไม่ใครเข้ามาและยังไม่เจอคนที่ใช่จะให้เขาทำอย่างไรได้เล่า
“เลิกกับแฟนมานานยังอะ”
“ปีกว่าแล้ว”
มิ้นถามแบค
แต่คนที่ตอบกลับเป็นแพทที่นั่งอยู่ข้างกายแทน
“ชื่อแบคเหรอ”
“ก็อยากตอบ
ไม่อยากให้มิ้นพูดกับผู้ชายคนอื่น แพทหวง”
“ตลกมากป้ะ”
“ตลกแล้วชอบป้ะล่ะ”
“ไม่ชอบโว๊ย”
“หราหรา
หราจ๊ะตัวเอง”
“โถ่เว้ย
ไอ้แพทเอาหน้าออกไป”
มิ้นพยายามผลักหน้าแพทให้ออกห่างจากตัว
ดูจากทรงแล้วก็คงไม่อยากจะมาโชว์สวีทหวานกันต่อหน้าเพื่อนๆให้โดนล้อ
แต่แพทผู้ที่โนแคร์โนสนและชอบแสดงความรักต่อมิ้นในที่สาธารณะเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของก็ไม่ได้สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น
แบคเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมเพื่อนเดือนของตน
“ฉันล่ะอยากจะขอพรให้แกเลยจริงๆไอ้แบค”
ซังพูดขึ้นมาท่ามกลางสงครามสีชมพูของแพทกับมิ้น
ทำให้มิ้นผลักแพทออกได้สำเร็จแล้วลุกขึ้นมานั่งฟังว่าซังจะพูดอะไร
“ฉันจะขอพรว่า
ขอให้แต้มบุญทั้งหมดที่ฉันเคยสะสมมาทั้งชีวิตช่วยส่งผลให้เพื่อนเหงาๆของฉันอย่างไอ้แบค
ผู้ที่อาภัพเรื่องความรักนั้นช่วยๆให้มันได้มีแฟนดีๆกับเขาสักคนเถอะ
ลูกช้างเหม็นหน้าตอนมันอยู่กลางดงคนมีแฟนไม่ไหวแล้ว”
ซังยกมือขึ้นประสานตรงหน้าอกแล้วพร่ำเพ้อพรรณนาออกมาพร้อมเงยหน้าขึ้นสี่สิบห้าองศาราวกับกำลังขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องบน
“แต้มบุญทั้งหมดของชีวิตพี่ซังเลยเหรอ
สงสารพี่แบคจัง ชาตินี้คงไม่ได้มีแฟนดีๆกับเขาแล้วล่ะ”
“อ้าว”
“ก็แต้มบุญพี่มันสูงแค่เท่าต้นมะเขือเองนะ”
“ตินตินนนน”
“คริคริ”
แล้วหลังจากนั้นก็มีการก่อสงครามสีชมพูขึ้นมาในห้องอีกหนึ่งคู่
เขาเองก็ภาวนาในว่าอยากจะมีแฟนดีๆสักคน ขอแบบไม่เอาแต่ใจ ไม่งี่เง่า
และไม่เอาคนที่เมาแล้วเป็นภาระแบซองก็น่าจะเพียงพอให้หัวใจคนเหงาๆอย่างเขาได้กระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง
แต่ขอภาวนาด้วยแต้มบุญของตัวเองที่มี
ไม่เอาแต้มบุญของเพื่อนที่มีเพียงแค่ต้นมะเขือเท่านั้น ให้มันเก็บไว้เถอะ
คนบาปอย่างนั้นคงจะไม่ค่อยได้ทำบุญเพิ่มแต้มให้ตัวเองเท่าใดนักหรอก
***นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย ช ช
คนในรูปไม่เกี่ยวข้องใด้ๆกับเรื่องรางทั้งสิ้น
เพียงเเต่นำมาประกอบเพื่อนเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น
ผลงานอื่นๆ ของ shineeminpor ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ shineeminpor
ความคิดเห็น