คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #248 : [???] Otomo no ichijitsu [End]
Title : Otomo no ichijitsu [End]
Fandom : Kuroko no Basket
Paring : ???
Notes : จบแล้วจ้าาาาาาาาาา
ปล. ตอนต่อไปเรากะจะลง NijiHai และตามด้วย AllFuri ในตอนถัดถัดไปเด้อ ส่วนมาแนวไหนลุ้นกันเอง5555
.....................................................................................
Otomo on ichijitsu [End]
เสียงทำนองดนตรีแว่วลอยมาผสมผสานกับเสียงเหล่าผู้คนที่กำลังเฮฮาสนุกสนานกัน ภายในผับเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางเมืองโตเกียวที่...ในยามนี่หน้าเคาร์เตอร์จุดเก่า เวลาเดิม คนกลุ่มเดิมกับเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนที่คนพวกนี้มาปล่อยไอมาคุให้ชาวบ้านสยองกันเล่นกำลังนั่งดื่มเครื่องผสมแอลกอฮอล์อย่างชิวล์ๆ กันทั้งหมู่ ต่างจากที่มากันในครั้งก่อนลิบลับ
“สรุป...พวกคุณยอมรับแฟนของน้องของลูกตัวเองกันแล้วใช่ไหมครับเนี่ย?” เสียงถามอย่างสุภาพดังออกจากปากบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่กำลังยื่นแก้วที่ใส่น้ำสีอำพันให้หญิงสาวผมดำผู้เป็นนายจ้างของตน
“ตามนั้นแหละ” หญิงผมดำหรือยามาซากิ คานาเดะขานรับไป “ไอ้พวกนั้นเท่าที่ดูก็จริงใจดี ไม่น่าจะไม่ปัญหาอะไร...ถ้าไม่ติดว่าเพี้ยนไปหน่อยล่ะนะ”
“ช่ายยยย” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองเอ่ยเสียงยาว
“ทางฉัน...ถึงจะไม่ชอบหน้าไอ้จูนิเบียวนั้นเท่าไหร่แต่ก็ยอมรับว่ามันจริงจังกับโคกิอ่ะนะ...” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพร้อมยกแก้วน้ำสีฟ้าใสขึ้นซดฮวบ “...แต่ถ้ามันทำน้องฉันเสียใจเมื่อไหร่ล่ะก็ไม่เอาไว้แน่”
“ถึงบอกยอมรับแล้ว แต่ดูเหมือนยังมีอคติกับอาคาชินะเนี่ยนายน่ะ” ชายหนุ่มผมดำมาดนักเลงส่ายหน้าไปมาด้วยความปลง “และแกอย่าซดค็อกเทอร์ฮวบแบบนั้นสิฟะ เดี๋ยวเมาปลิ้นขึ้นมาฉันขี้เกียจแบกกลับนะเว้ย!”
“บู้! โชจิขี้บ่น!” ชายหนุ่มผมน้ำตาลหรือฟุริฮาตะ เคียวทำปากยื่น
“จะไม่ให้บ่นได้ไงฟะ!? แกเมาทีนี่แบกกลับยากจะตายชัก!” โชจิแยกเขี้ยวใส่...นี่ถ้ามันเมาแล้วหลับเฉยๆ เขาจะไม่ว่าเลย แต่นี้พอมันเมาทีไรความป่วนความบ้า (?) ยกกำลังสองทุกที!
“อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ...” ชายหนุ่มผมสีดำเหลือบเขียวเอ่ยด้วยท่าทีเหมือนคนง่วงนอน “...ส่วนทางฉัน...โอเคเลย น่ารับเป็นเขยอยู่”
“แล้วแฟนน้องนายปกติไหมอ่ะ?” ชายหนุ่มผมทองถามด้วยความอยากรู้...ก็เท่าที่รู้มาคนที่พูดถึงสองคนแรกที่กล่าวมาไม่ปกติเลยนิ
“ปกติดี เรียบร้อยสมหน้าตา จะมีแค่ชอบเล่นมุขแปลกๆ เท่านั่นแหละ” คนผมดำเหลือบเขียว...โมริยามะ โยชิกิตอบด้วยหน้าตายสนิท
“สำหรับนายเตรียมรับเขยแล้วเหรอ” อาสึกะ เรียวถามต่อด้วยสีหน้าขำๆ
“อื้ม” โยชิกิพยักหน้ารับนิ่งๆ
“ยอมรับง่ายจังนะครับ” วากะ มิคารุยื่นแก้วน้ำสีแดงให้ตามหน้าที่ของตน
“นายนี่เตรียมรับเขยเร็วดีเนอะ” เคียวส่ายหน้าไปมา “ทางฉันกว่าจะญาติดีกับมันได้คงอีกนาน”
“ชักสงสารแฟนน้องนายนิดๆ นะ” ชายหนุ่มผมน้ำตาลทองนามยามาซากิ ชิโรบะส่ายหน้าไปมาก่อนที่ดวงตาสีเขียวจะค่อยๆ เหล่กับยังชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งใกล้ๆ “แล้วทางพวกคุณล่ะครับ? คิโยมิซัง? ยูโตะซัง?”
“ทางฉันก็ไม่มีอะไรมาก แค่ได้เด็กกวนๆ คนหนึ่งมาเป็นลูกเขยน่ะ” หญิงสาวผมสีน้ำผึ้งหรือนางมิยาจิ คิโยมิเอ่ย “ไอ้เด็กนั้นเท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรมาก แค่กวนเหมือนยูโตะมันแค่นั้นแหละ แต่ไม่ป่วนเท่านะ”
“ถ้าเท่านี่มีแววคุณจะฆ่าหมกท่อรายนั้นไปแล้วแหง” คานาเดะเดาชะตากรรมของคนที่กล่าวถึงนี่ออกเลย
“ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า” คิโยมิยักไหล่น้อยๆ
“ครับ ไม่ทำครับ แต่ผมกลัวว่าถ้าป่วนเท่ายูโตะซังคุณจะเผลอเส้นกระตุกใส่รายนั้นจนไปนอนในหลุมสิครับ” ชิโระคาดว่าถ้าเกิดสาวเจ้าไปฆ่าหมกท่อแฟนลูกชายตัวเองจริงๆ คงมาจากเผลอลืมตัวตื้บแรงเกินแบบเดียวกับที่ตื้บสามีตนเองมากกว่า....และแน่นอนว่าถ้ารายนี่ตื้บเต็มแรงคนปกตินี่มีสิทธิตายได้เลยทีเดียว
“ไม่หรอก เท่าที่ดูมันอึกอยู่” คิโยมิยักไหล่น้อยๆ
“ช่ายเลยยยย” ชายหนุ่มผมดำที่เป็นสามีของสาวเจ้าขานรับอย่างเห็นด้วย
“ก็ไม่แน่นะครับ...” เคียวไม่คิดว่าจะมีใครอึดชนิดที่ว่าโดนอาจารย์สุดโหดของตนตื้บได้ทุกวี่ทุกวันแล้วไม่ตายแบบนายยูโตะได้หรอก “...ว่าแต่คิโยมิซัง...คุณตามลูกชายคุณคนไหนไปครับเนี่ย?”
“ฉันตามดูคิโยชิ ส่วนยูโตะมันตามยูยะไปน่ะ” คิโยมิตอบ
“ช่ายยยย เพราะตอนแรกเห็นยูยะน่าห่วงกว่าน่ะ” ยูโตะเอ่ย “แต่ใครจะคิดว่าหน้าโหดๆ แบบนั้นกลับซื่อพอๆ กับยูจังเสียได้ แถมยังเป็นน้องเซย์คุงอีก”
“เดี๋ยวๆ นะยูโตะซัง...น้องไอ้เซย์เหรอ?” เคียวเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของเพื่อนร่วมงานตนหลุดเข้ามาในประโยคด้วย
“ใช่ แฟนยูจังคือน้องคนเล็กของเซย์คุงล่ะ” ยูโตะตอบอย่างร่าเริง
“...ไอ้กอริล่าบ้ากล้ามนั้นน่ะนะ!?” เคียวแทบอยาก้อาหัวโขกโต๊ะตายกับคำตอบที่ได้รับ
“อื้ม! เคียวคุงรู้จักเหรอ?” ยูโตะเอียงคอน้อยๆ
“พอดีไอ้เซย์เคยแนะนำให้รู้จักน่ะครับ” เคียวส่ายหน้าไปมาอย่างปลงๆ เนื่องจากไม่คิดว่าจะบังเอิญขนาดนี้
“เหรอ แสดงว่ารู้จักกันมาก่อนสินะ” คิโยมิเท้าคางกับเคาเตอร์ “กลายเป็นว่าดีไม่ดีแฟนน้องพวกนายแต่ล่ะคนอาจเป็นคนที่บางคนรู้จักอยู่แล้วก็ได้นะ”
“ไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้งครับคิโยมิซัง” ชิโระไม่คิดว่ามันจะเป็นเช่นนั้นหรอก
“ไม่แน่นะ...” โยชิกิที่เงียบมานานเอ่ยอย้งขึ้น “....ลองบอกชื่อแฟนพวกนั้นแต่ล่ะคนมาดูไหม? อาจมีคนรู้จักก็ได้”
“ก็น่าสนุกดีนะ” เคียวที่เริ่มเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกเอ่ยขึ้นมา “ของฉันไม่ต้องบอกก็อย่างที่รู้...อาคาชิ เซย์จูโร่ที่ดันเป็นเพื่อนน้องของโชจิไง”
“ตามนั้นแหละ” โชจิยักไหล่น้อยๆ
“ทางฉัน ฉันว่านายน่าจะเคยได้ยินชื่อบ้างนะ...อิสึกิ ชุนน่ะ” โยชิกิเอ่ยเป็นคนต่อมา
“เอ๊ะ? นั้นมันชื่อรุ่นพี่ของโคกินิ?” เคียวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ใช่ไง” โยชิกิที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วพยักหน้ารับ
“คราวนี่รุ่นพี่น้องแก เอาเข้าไป” คานาเดะกรอกตาไปมา “ทางฉัน...ไม่รู้จะบอกชื่อคนไหนวะ เล่นมาเป็นพรวนเลย”
“นั้นสิ ถ้าให้บอกมาหลายชื่อนะนั้น” ชิโระถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ทางนายซวยไป มีให้เลือกหลายคน” คิโยมิเอ่ย “ส่วนแฟนลูกชายคนโตฉันชื่อฮายามะ โคทาโร่น่ะ”
“อ่ะ! ชื่อนี่...” ชิโระถึงกับคิ้วกระตุกทันทีที่หญิงสาวผมสีน้ำผึ้งเอ่ยจบประโยค
“...ชื่อเพื่อนนายคิ้วหนานั้นนี่หว่า” คานาเดะที่รู้จักเจ้าของชื่อนี้เหมือนกันเพราะไปแอบสืบมา (?) เริ่มอยากเอาหัวโขกเคาเตอร์ชอบกล...บังเอิญไปไหมฟะ!?
“นายคิ้วหนา?” เคียวทวนอย่างงงๆ
“ฮานามิยะ มาโคโตะ...หนึ่งในคนที่มาจีบน้องฉันน่ะ วันก่อนเห็นมันโผล่ไปป่วนแถวๆ นั้นอยู่” คานาเดะอธิบายสั้นๆ
“...เท่าที่ฟังๆ มารู้สึกว่าบังเอิญรู้จักกันอยู่แล้วแทบทั้งหมดเลยนะครับ” มิคารุที่ฟังมาตลอดเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้...โดยรวมๆ นี่คือพวกแฟนพวกน้องของพวกนี่รู้จักกันเองหมดเลยนิ!
“นั้นสิ...บังเอิญเกินไปล่ะ” โชจิส่ายหน้าไปมาด้วยความปลงสุดแสน
“นั้นสิเนอะ~~” ยูโตะลากเสียงยาวอย่างไม่ใส่ใจนัก “แต่ก็ไม่เห็นต้องสนเลยนี่เนอะ บังเอิญรู้จักกันสิดี สืบข่าวว่าแต่ล่ะคนไปก่อเรื่องอะไรกันมาง่ายหน่อย...สืบคนเดียวดีไม่ดีพรวนไปหมดเลยนะนั้น”
“...ก็จริงนะ” หนุ่มสาวทั้งหลายพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคนผมดำก่อนที่จะเริ่มเบี่ยงประเด็นไปคุยเรื่องอื่นกันต่อ
“มิกะๆ ...คิดเหมือนฉันไหมวะว่าว่าที่น้องเขยลูกเขยพวกนี้ซวยชิบ” เรียวกระดึบๆ มากระซิบเบาๆ กับมิคารุที่ทำหน้าที่ตนตามปกติอยู่
“เอาตามความคิดผม...แค่คำว่าซวยยังน้อยไปด้วยซ้ำ” มิคารุถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางนึกถึงชะตากรรมของว่าที่เขยบ้านคนไม่ปกติพวกนี่...งานนี่เขาคงได้แต่สวดให้อย่าเผลอทำเรื่องขัดใจพวกนี่แล้วกัน ไม่งั้นศพไม่สวยแน่
End
ความคิดเห็น