ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #76 : [HayaMiya] Wait

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.4K
      47
      2 ม.ค. 58

    Title : Wait

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Hayama x Miyaji

    Notes : แถมจากตอนวันคริสมาส ตามที่ขอมา ...

    ป.ล. งานนี้เขียนมาราธอนจริงๆ เล่นสองฟิครวดในหนึ่งสัปดารห์เนี่ย

    ................................................................

    Wait

     

    "หาว~~~" เสียงหาวต้อนรับวันคริสมาสดังออกมาจากปากของเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่บัดนี้เพิ่งตื่นขึ้นมาจากนิทราอันแสนสุข

    ถ้าว่าตามจริงในวันนี้มิยาจิ คิโยชิไม่ค่อยอยากลุกจากเตียงเท่าไหร่นัก...ก็แหม กว่าจะได้หยุดสักทีนี่นะ คนมันก็อยากพักยาวๆ หน่อย แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ มิยาจิถึงได้ตื่นมาเช้านักก็ไม่รู้

    "กี่โมงฟะเนี่ย?" มิยาจิหันไปมองนาฬิกาที่วางบนหัวเตียง "เพิ่งเจ็ดโมงแฮะ...แต่เอาเถอะ..."

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่ตื่นแล้วไม่อยากนอนต่อลุกขึ้นจากเตียงและไปทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปทำอาหารเช้ากิน...

    "อ้าว? วันนี้พี่ตื่นเช้าจังแฮะ" ระหว่างที่มิยาจิทำกับข้าวอยู่ก็มีเสียงทักดังขึ้นมา...ซึ่งมาจากนายมิยาจิ ยูยะน้องชายของมิยาจินั่นเอง

    "นายเองก็ตื่นเช้าพอกันนั่นแหละ" มิยาจิเอ่ยพร้อมพลิกเนื้อในกระทะ "นายจะเอามื้อเช้าด้วยเลยไหม?"

    "เอาคร้าบบบบ" ยูยะตอบด้วยน้ำเสียงกวนโอ๊ยมากมาย

    "ไม่ต้องทำเสียงกวนเลย ถ้าจะกินรีบไปล้างหน้าล้างตาซะไป!" มิยาจิโบกมือไล่น้องตัวเองไป

    "ครับๆ" ยูยะเกาหัวแกรดๆ ก่อนที่จะไปทำตามคำสั่งพี่ตน

    หลังจากนั่นประมาณสิบถึงยี่สิบนาทีพี่น้องมิยาจิก็กินอาหารเช้าที่ห้องอาหารด้วยกันตามประสาที่อยู่บ้านกันแค่สองคน เพราะพ่อแม่ของทั้งสองเล่นหนีไปฮานีมูลรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่ต้นเดือนเลย...จะกลับมาตอนไหนก็ไม่รู้

    "วันนี้ตอนแรกคิดว่าพี่จะตื่นสายๆ ซะอีก" ยูยะเอ่ยขึ้นมา

    "ตอนแรกก็กะว่างั้นแหละ แต่ดันตื่นเช้าว่าจะนอนต่อก็ไม่มีอารมณ์แล้ว" มิยาจิหยักไหล่ "แล้วนายล่ะ? ทำไมตื่นเช้านักเนี่ยวันนี้?"

    "ก่อนพ่อแม่ไปฮานีมูลดันใช้ให้ผมไปเอาที่เกียวโตวันนี้น่ะสิ" ยูยะตอบด้วยใบหน้ามุ่ยๆ บ่งบอกว่าเซ็งที่ถูกใช้งานอย่างแรง

    "ฮาๆ ถือว่านายซวยเองแล้วกัน" มิยาจิยืนมือตามโต๊ะไปตบไหล่อีกฝ่ายแปะๆ ...ก็นะ สงสัยตอนที่พ่อแม่ใช้เนี่ยเขาคงอยู่ซ้อมดึพอดีแหง

    "ไม่ต้องมาขำเลย..." ยูยะปัดมือพี่ชายตนออกเบาๆ ก่อนที่จะแหงนหน้ามองนาฬิกา "...ผมไปก่อนนะพี่...ถ้าโชคดีหน่อยคงกลับมาก่อนมืดล่ะ"

    "เออๆ ไปดีมาดีล่ะ" มิยาจิโบกมือไล่น้องชายตนเอง ขณะที่อีกฝ่ายรีบวิ่งออกจากบ้านไปเรียบร้อยแล้ว มิยาจิส่ายหน้าอย่างขำน้อยๆ กับน้องชายตนก่อนที่จะยกจานชามไปล้าง

    เมื่อล้างจานเสร็จ เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งก็ไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรบนเตียงห้องตัวเองอยู่พักใหญ่ๆ จนเริ่มที่จะเบื่อ...

    ...พอไม่มีอะไรทำแล้วน่าเบื่อชะมัด!!! ให้ตายเถอะ!!! ...ลองโทรหาฮายามะมันเล่นดีไหมหว่า?...

    มิยาจิคิดแบบนี้ก่อนที่จะหยิบมือถือโทรหาคนรักตนดู...ถึงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับสายก็ตาม เพราะวันนี้ทางนู้นไม่ได้หยุดซ้อมเหมือนทางเขาเสียหน่อย

    'โมชิโมชิ...พอดีเลยมิยาจิซัง...' ทันทีที่กดโทรไม่ทันที่จะมีเสียงรอสายเลยก็มีคนรับสายเสียแล้ว แต่นั่นยังไม่น่าสงสัยเท่าเสียงปลายสายนี่เป็นเสียงของ...

    "มิบุจิ...ไหงนายเป็นคนรับสายเนี่ย?" มิยาจิถามเมื่อเสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของมิบุจิเรโอะซึ่งเป็นเพื่อนคนรักตน

    'แอบล้วงโทรศัพท์โคทาโร่จังมาจ้า...' คำตอบจากปลายสายทำให้มิยาจิเดาได้ทันทีว่า...คนรักตนคงร้นจนไปสะกิดต่อมอะไรของมิบุจิเข้าอีกแล้ว '...เรื่องนั่นช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องมาฟ้องจ้า~~~'

    "ห๊า?" มิยาจิส่งเสียงอย่างงงๆ ก่อนที่จะได้รับคำตอบจากคำพูดของมิบุจิเมื่อได้ยินเสียงของฮายามะสอดตามสายมา...

    'ขอลองจับอกได้เปล่า?...เห็นบอกกันว่าหน้าอกผู้หญิงมันนุ่มอ่ะ อยากลองดูอ่ะ...ได้เปล่า?' ...เป็นคำพูดที่ทำให้มิยาจิอยากจับอีกฝ่ายมาหักคอจริงๆ เลย!!!

    'เอ่อ...' เสียงที่สองเป็นเสียงหวานๆ ของใครสักคนที่มิยาจิไม่คุ้นหู...แต่ทำไมในใจรู้สึกเหมือนว่าจะเป็นคนรู้จักหว่า?

    'มิยาจิซังได้ยินชัดเจนไหม?' เสียงมิบุจิเอ่ยขึ้นต่อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับที่มิยาจิได้ยินแทบทุกครั้งที่อีกฝ่ายโทรมา หรือก็คือฮายามะร้นจนไปเกาะแกะแฟนรายนั้นนั่นเอง...แต่แปลก คราวนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับมายุสุมิมันนี่หว่า? 'คุยกันเองนะจ๊ะ โคทาโร่จัง...'

    'แอ๊พ! พี่เรโอะ~ ฟ้องมิยาจิซังทำมาย~~!!! แหะๆ มิยาจิซัง...' เสียงเหมือนเด็กทำความผิดของฮายามะลอดตามสายมา

    "ฮา - ยา - มะ!!! นายแอบไปจีบหญิงที่ไหนห๊า!?!" มิยาจิแว๊ดใส่ปลายสายด้วยเสียงสะท้านโลกาแบบไม่เกรงใจใครทั้งนั้น โดยปัดความสงสัยเรื่องมิบุจิไป...ตอนนี้ขอเคลียร์เรื่องตัวเองก่อนเถอะ!!!

    'ง...ง่ะ ไม่ได้จีบสักหน่อยครับ' ฮายามะเริ่มเสียงอ่อย...แต่นั่นไม่ทำให้เขาเดือดน้อยลงนะเฟ้ย!!!

    "แล้วไอ้ที่พูดเมื่อกี้มันอะไรมิทราบ!?! หรือว่าอยากผันตัวเองเป็นพวกโรคจิตเหรอ!?" มิยาจิอยากเชือดอีกฝ่ายทิ้งจริงๆ งานนี้!!!

    'ผมพูดก้บคุณคิ้วบางฮ้าฟ...'

    "มายุสุมิมันเกี่ยวอะไรกับขอจับหน้าอกผู้หญิงกัน!" มิยาจิอยากแงะสมองมันมาดูจริงๆ ...ถ้าคิดจะโกหกช่วยโกหกมันเนียนหน่อยเถอะ!!!

    'ก็คุณคิ้วบางน่ะกลายเป็นผู้หญิงอ่ะ!'

    "..." คำพูดนี้ทำให้มิยาจิเอ๋อไปหน่อยนึง... "นายไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าฟะ!? ถึงพูดจาเละเทอะแบบนี้!!!"

    'ผมไม่ได้กินอะไรผิดสำแดงสักหน่อย! คุณคิ้วบางกลายเป็นผู้หญิงจริงๆ นะ!!!' ฮายามะเถียงกลับ

    'โว้ย!!! เลิกพูดย้ำสักทีได้ไหม!!! รับตัวเองไม่ได้เฟ้ย!!!' น้ำเสียงเล็กๆ ที่มิยาจิได้ยินในตอนแรกดังขึ้นอย่างคนใกล้สติขาดเต็มที...แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับคำพูดที่เหมือนเป็นการยืนยัดว่าสิ่งที่ฮายามะพูดนั่นเป็นเรื่องจริง!!!

    'ขอโทษฮ้าฟ...' เสียงของฮายามะดูเหมือนคนกลัวถูกตื้บ

    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?..."  มิยาจิเริ่มที่จะไมเกรนขึ้นล่ะงานนี้ "...ขอสายมายุสุมิทีสิ"

    'ครับผม...คุณคิ้วบางมิยาจิซังจะคุยด้วยแหนะ'

    'ฉัน?...ว่าไง?'

    "มายุสุมิจริงๆ เหรอ?" มิยาจิถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

    'เอ้อดิ!' มายุสุมิตอกกลับมาตามปกติ เป็นการยืนยัดว่าสิ่งที่มิยาจิได้ยินมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง 'มีอะไรว่ามา!'

    "ฮายามะมันพูดจริงเหรอวะเนี่ย?..." มิยาจิบ่น "...ไหงนายกลายเป็นงี้ได้?"

    'ไม่รู้! และอย่าถามถึงมันอีก!' น้ำเสียงของมายุสุมิบ่งบอกได้อย่างดีว่า...อารมณ์ของเจ้าตัวนั่นใกล้จะระเบิดแล้ว

    "ก็ได้..." มิยาจิก็ยอมเลิกถามง่ายๆ เพราะตอนนี้ตนก็รู้สึกจิตตกไม่ต่างกัน...ให้ตายเถอะ! เจอล่าสุดมันยังเป็นผู้ชายดีๆ ไหงผ่านมาไม่กี่วันดันกลายเป็นผู้หญิงฟะ!? เปลี่ยนเพศตามชื่อหรือไง!!! "...แล้ววันนี้นายจะเอาไงล่ะนั้น? หรือจะมุดหัวในบ้านทั้งวัน?"

    'ก็คงงั้น' มายุสุมิตอบ ถ้าให้มิยาจิเดา...เจ้าตัวคงไม่อยากไปไหนหรอกเพราะแค่เมื่อก่อนมันก็บ่นแทบตายแล้วว่าทำไมชื่อตนเองถึงเหมือนผู้หญิงนัก และคราวนี้มาเป็นผู้หญิงจริงๆ เนี่ยคงไม่กล้าออกไปไหนหรอก เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอ่ะนะ

    "ว่าแต่...นายในสภาพผู้หญิงนี้สวยไหมเนี่ย?" มิยาจิถามขึ้นเล่นๆ และผลที่ได้คือ...เสียงแว๊ดของมายุสุมิที่ดูจะรับตนเองไม่ได้นั่นเอง

    'ไม่มีทางหรอกเว้ย!!!'

    'ออกไปทางน่ารักมากกว่าจ๊ะ มิยาจิซัง'

    'เฮ้ย! มิบุจิ!'

    "จริงสิ? ส่งภาพมาให้ดูหน่อยสิ...อยากเห็น..." มิยาจิอยากรู้จริงว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในสภาพไหน...ว่าตามตรงเขานึกภาพไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายในร่างหญิงจะเป็นยังไง  

    ถ้าให้เดาคงเหมือนทอมมั้ง? เพราะงานโรงเรียนของราคุซันคราวก่อนเขาเห็นหมอนั่นโดนจับแต่งคอสเพรย์ซะสวยเชียว...แต่อันนั่นดูยังไงก็ผู้ชาย ถึงจะดูดีก็เถอะ

    'จ้า~' มิบุจิขานรับ และจากนั่นไม่นานก็มีข้อความส่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว 'เป็นไงจ๊ะ มิยาจิซัง'

    'มิบุจิทำบ้าอะไรของนาย!!!' มายุสุมิโวยลั่น คาดว่าโดนถ่ายรู้แบบไม่ทันได้ตั้งตัวแน่นอน

    'น่าๆ ทางนั้นไม่มีใครดูออกว่าเป็นมายุซังหรอก เว้นแต่มิยาจิซังเป็นคนบอกอ่ะนะ' เสียงมิบุจิดูจะลั้นล้ามากมายกับการแกล้งแฟนตัวเอง

    'ชิ!' มายุสุมิส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจนัก

    มิยาจิขำนิดหน่อยกับคู่รักคู่นี้ ก่อนที่จะเปิดข้อความที่ได้รับขึ้นมาดู...และมันทำให้มิยาจิหลุดเหวอออกมาเลยทีเดียว...เมื่อภาพที่ถูกส่งมาคือเด็กสาวหน้าหวานผมเงิน...

    ...น่ารักเฟ้ย! เฮ้ย! มันกลายเป็นผู้หญิงแล้วน่ารักขนาดนี้เลยเหรอฟะ!? แถมหน้าอกหน้าใจยังคัพซีกว่าอีก! ถ้ามันเป็นผู้หญิงจริงๆ รับรองมีคนจีบตรึม!!!...

    เมื่อนึกถึงตรงนี่มิยาจิก็นึกขำขึ้นมา...ถ้ามายุสุมิมันมารู้เข้าคงโวยเละแน่ "สวยกว่าที่คิดแฮะ ตอนแรกคิดว่าจะดูไม่จืดหรือไม่ก็ออกทางทอมเสียอีก...สภาพหญิงจ้าแบบนี้ตอนแรกมายุสุมิมันไม่คลั่งเลยเหรอ?"

    'ใครคลั่งฟะ!!!' มายุสุมิแว๊ดใส่

    "นายไง" มิยาจิตอบอย่างกวนโอ๊ยมาก "ว่าแต่มีวิธีกลับร่างเดิมไหม? หรือว่าจะกลายเป็นหญิงตลอดชาติ?"

    'อย่าพูดเหมือนแช่งสิ! แค่วันเดียวก็กลับร่างเดิมแล้ว!...มั้ง...'

    "เอ้อๆ งั้นขอให้กลับเป็นผู้ชายเร็วๆ แล้วกัน...และขอสายฮายามะมันหน่อย" มิยาจิเริ่มวกกลับมาเรื่องคนรักตนต่อ

    'เอ้อ! ฮายามะ...มิยาจิจะพูดกับนายแหน่ะ'

    'อย่าโยนสิครับ! ตกพื้นแตกขึ้นมาซื้อให้ใหม่ด้วย!' ฮายามะโวยใส่มายุสุมิก่อนที่จะพูดสายด้วยเสียงเหมือนแมวง่อย 'มิยาจิซัง...'

    "ฮายามะ! คราวนี้เห็นว่าเป็นมายุสุมิจะยกโทษให้ แต่ถ้ามีครั้งหน้า...นายเตรียมบอกลาชีวิตตัวเองได้เลย!!!" มิยาจิตะคอกใส่ฮายามะก่อนที่จะกดตัดสายไปเลย พร้อมปิดเครื่องหนีด้วย "เฮอะ! ไอ้บ้านั่น...ถ้าชอบผู้หญิงนักก็อย่ามาคบกับฉันสิฟะ..."

    มิยาจิทิ้งตัวลงนอนลงบนเตียงพร้อมคว้าหมอนรูปไอดอสของตนมากอด...

    ...ไอ้บ้าเอ้ย...ทำกันได้นะ...มีฉันอยู่แล้วแท้ๆ ดันไปยุ่งกับคนอื่นอีก...ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องมากลุ้มกับเรื่องของแกด้วยฟะ!?...

    มิยาจิคิดมาถึงตรงนี้ก็เอาหน้าซุกหมอน ด้วยน้ำตาคลอในดวงตาสีสวยนิดๆ สีหน้าดูจะเหมือน...คนกำลังน้อยใจอยู่อย่างงั้นแหละ

    ...เขาไม่ได้รู้สึกหึงนะ!!! เขาแค่หงุดหงิด! หงุดหงิดแค่นั่นเอง!!! โธ่เว้ย!!! ไอ้บ้าฮายามะ!!! ไอ้เวร!!! แล้วทำไมฉันต้องมาคิดมากเป็นสาวน้อยด้วยฟะ!!! โว้ย!!! ทุกอย่างเพราะนายคนเดียว!!!...

    มิยาจิกลิ้งไปกลิ้งมาราวกับว่าอยากลืมเรื่องเมื่อครู่ไปเสียจนกระทั่ง...

    โครม!!!

    ...ตกเตียงในที่สุด

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งนอนแอ่งแม้งอยู่กับพื้นโดยที่ไม่คิดที่จะลุกขึ้นเลยสักนิด พร้อมทั้งยังกลิ้งต่อไปทั่วๆ พื้นห้องอีกด้วย

    ...ตกลงนายรักฉันจริงๆ หรือเปล่า? ฮายามะ...

     

     

     

     

     

    ตลอดเวลาทั้งวันแทบไม่มีอะไรเข้ามาในหัวมิยาจิมากนัก สิ่งที่มิยาจิ คิโยชิทำตลอดวันมีเพียงนอนกลิ้งไปกลิ้งมา จะมีลุกขึ้นมาบ้างตอนที่ไปหาอะไรกินกับตอนที่คิมุระเอาสับปะรดมาส่งเท่านั้น...แถมก่อนที่คิมุระจะไปส่งของบ้านอื่นต่อยังหันมาพูดกับมิยาจิว่า...

    "ถ้ามีเรื่องอะไรบอกกันบ้างนะ! ฉันเต็มใจช่วยเสมอ!"

    ...เป็นตัวบอกเลยว่าสีหน้าของมิยาจิดูแย่ขนาดไหน แต่นั้นก็ไม่ทำให้มิยาจิสนใจอะไรกับสภาพตนเองนักพร้อมกับบอกเพื่อนตนอย่างปัดไปว่า 'มีเรื่องอะไรเดี๋ยวบอกเอง' ก่อนที่จะลากสับปะรดที่เยอะปานจะเอามาถมบ้านเข้าบ้าน พร้อมกับคิมุระส่านหน้าน้อยๆ กับเพื่อนตนก่อนที่จะขับรถบรรทุกจากไป

    โดยรวมในวันๆ นี้สิ่งที่ทำให้มิยาจิสบายใจขึ้นมาหน่อยก็มีแต่การนอนกลิ้งไปกลิ้งมากับการนั่งกินสับปะรดเท่านั้นเอง

    "เฮ้อ..." มิยาจิถอนหายใจยาวพร้อมกินสับปะรดในจานเป็นลูกที่แปด (กินเยอะไปป่ะ!? // s) "...ให้ตายเถอะ ออกไปจากหัวฉันสักที...ไอ้โครตหมาบ้าเอ้ย!!!"

    ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากเอาหัวโขดโต๊ะจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าคราวก่อนเคยทำแล้วเผลอทำแรงอีกท่าไหนไม่รู้ทำโต๊ะหักจนต้องเสียเงินซื้อใหม่ล่ะนะ...เพราะตอนนี้เขายังไม่อยากปวดหัวเพิ่มนักก็เลยกินสับปะรดระบายเครียดเป็นดีที่สุด

    ...อย่าเข้ามาป่วนความคิดฉันสิฟะ!!! ฮายามะ!!! เล่นซะฉันไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว!!!...นายมันบ้าที่สุด!!!...

    มิยาจิจิ้มสับปะรดชิ้นสุดท้ายเข้าปากอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะลุกไปปอกมากินอีกลูก (นายคิดที่จะทำลายสถิติโลกในการกินสับปะรดหรือไง!? // s) พอปอกไปได้สักครึ่งลูกก็...

    กริ้ง~~~~

    ...มีเสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมดันดังขึ้นมา ทำให้มิยาจิต้องวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ไปรับโทรศัพท์บ้านที่ร้อยวันพันปีไม่ยักเห็นใครโทรมาสักที

    'พี่!!!' ทันทีที่รับโทรศัพท์ ไม่ทันที่มิยาจิ คิโยชิจะได้พูดอะไรออกมา ปลายสายก็ตะโกนออกมาเสียงดัง 'ทำไมปิดเครื่องห๊า!? โทรสองทีมันเปลื้องตังค์มือถือนะ!!!'

    "ยูยะ..." คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่น มิยาจิ ยูยะน้องชายมิยาจิเองนั้นแหละ "...โทษทีๆ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยเลยปิดเครื่องน่ะ"

    'เป็นไรเปล่า? พี่? แบบนี้มันดูแปลกๆ ไปนะ...'

    ...นี่เขาดูผิดปกติจากเดิมมากใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ก็คิมุระคราวนี้ก็ยูยะต่ออีก...

    "เปล่า ไม่มีอะไร...ว่าแต่นายโทรมามีไร?" มิยาจิเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง

    'ไม่มีไรมากหรอก แค่จะบอกว่าวันนี้ผมไม่กลับบ้านนะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ กว่าจะได้กลับคงพรุ่งนี้นู้น...'

    "ไปก่อเรื่องอะไรล่ะ?" มิยาจิถามกลับ

    'พี่...บอกตามตรงนะ เสียงพี่เนี่ยโคตรซังกะตายมากเลย...ยังกัคนอกหักแหน่ะ แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร?'

    "ฉันสบายดีน่า..." มิยาจิกรอดตาไปมา...นี่เขาผิดปกติไปมากสุดๆ เลยใช่ไหมเนี่ย? ขนาดยูยะได้ยินแค่เสียงยังถาม "...ตกลงไปก่ออะไรมาหรือเปล่า?"

    'ก็นิดหน่อย...' ยูยะตอบกลับมา '...แต่บอกก่อนนะว่าคราวนี้เรื่องมันลอยมาหาเอง ผมไม่ได้ไปหาเรื่องใส่ตัวนะ'

    "รู้แล้วๆ ยังไงก็เอาตัวให้รอดล่ะ...ถ้าโดนดักตีหัวไปช่วยไม่ได้นะ" มิยาจิที่วันนี้ไม่มีอารมณ์แว๊ดน้องตัวเองนักเอ่ยเตือน

    'ครับๆ งั้นแค่นี้นะพี่...'

    "อื้ม แค่นี้นะ..." ...และแล้วสายก็ถูกตัดไป

    มิยาจิวางสายโทรศัพท์ลงก่อนที่จะเดินไปปอกสับปะมากินต่อ (นายเป็นอะไรกับสับปะรดหรือเปล่าเนี่ย? // s) ซึ่งด้วยความเหม่อหรืออะไรไม่รู้ระหว่างที่ใกล้จะปอกเสร็จอยู่นั่นก็...

    "โอ๊ย!"

    ...โดนมีดบาดมือเสียแล้ว

    "ให้ตายเถอะ..." มิยาจิวางมีดลงอีกครั้งและเดินไปทำแผล "...วันนี้แย่ชะมัด คริสมาสปีนี้ซวยชิบ"

    ...เขาเองก็บ้า...ดันไปนึกถึงภาพเจ้าบ้าฮายามะมันซะได้...สงสัยเพราะยูยะดันพูดแทงใจดำมั่ง...

    มิยาจิคิดในใจพร้อมถอนหายใจเบาๆ เมื่อแผลเสร็จก็เอาเอาไอ้สับปะรดลูกเดิมนี่แหละไปล้างน้ำแล้วเอามานั่งแทะ เพราะมือเจ็บจับมีดไม่ถนัดก็เลยกัดเป็นลูกไปเลย

    และพอกินหมดลูก ตอนที่มิยาจิกำลังจะกลับขึ้นห้องตัวเองก็...

    กิ่งก้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

    เสียงกดกริ้งหน้าบ้านดังขึ้นรวดๆ จนน่าแปลกใจ มิยาจิเกาหัวอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะไปเปิดประตูบ้าน...

    "ครับ...ใครค..." มิยาจิทำการเปิดประตูบ้านดูว่าใครมา ก่อนที่จะชะงั้นเมื่อเห็นบุคคลที่มาเยื่ยน

    "มิยาจิซัง!!!" เสียงของคนที่มาหาตะโกนดังสนั่น "ผมขอโทษครับๆๆๆๆ!!! อย่าโกรธผมเลยนะ!!! อย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ!!!"

    "ฮ...ฮา..." มิยาจิไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลยสักนิด เพราะสนใจสภาพอีกฝ่ายที่ตอนนี้...ตัวเปียกไปทั้งตัวทั้งที่เป็นหน้าหนาวและมันคงไม่บ้าพอที่จะไปเล่นน้ำเองแน่ มีรอยฟกช้ำตามตัว ที่สำคัญคือมีเลือดติดตามตัวเต็มไปหมด!

    "มิยาจิซัง..." ฮายามะเรียกอีกทีเมื่อว่าอีกฝ่ายทำท่าเหมือนเห็นผี

    "...ฮา...ฮายามะ! ไปโดนอะไรมาฟะ~~~!!! รีบมาทำแผลเลยเฟ้ย!!! ไอ้เจ้าบ้า!!!" มิยาจิอยากจะบ้าตายกับสภาพปานคนตกท่อของคนผมสีคาราเมล เด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งลากอีกฝ่ายเข้าบ้านและไล่ให้อีกฝ่ายไปอาบน้ำอาบท่าซึ่งฮายามะก็ยอมทำตามอย่างง่ายดาย จนมาถึงตอนทำแผลนี่แหละ...

    "มิยาจิซัง..." ฮายามะทำหน้างอยๆ ขณะที่มิยาจิกำลังจะทำแผลในห้องนั่งเล่น

    "ไม่ต้องมาอ้อนเลย! ถึงหน้างี้ใช่ว่าจะไม่ต้องทำแผลนะเฟ้ย!!!" มิยาจิทำหน้าบึ้งและแยกเขี้ยวอย่างกลุ้มใจกะมัน

    "มิยาจิซัง..." ฮายามะเริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "...แง้~~~"

    "เฮ้ย! นายร้องไห้ทำไมวะ?!" มิยาจิสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายจู่ๆ ร้องไห้ออกมา

    "แง้ๆๆๆ อย่าโกรธผมเลยนะครับ! มิยาจิซัง! อย่าทิ้งผมครับ! แง้~~~!!!" ฮายามะพุ่งเข้ากอดคนผมสีน้ำผึ้งเต็มแรง

    "ไอ้บ้า! ปล่อยนะ!" มิยาจิทำหน้าปุเลียนๆ ...ไอ้คนอยากร้องไห้มันเขาต่างหาก! เจ้าบ้าเอ้ย!

    "ไม่เอาๆๆๆๆ! มิยาจิซัง! อย่าทิ้งผมไปหาคนอื่นนะ!!!" ฮายามะร้องไห้งอแงปานเด็กๆ

    "ใครมันจะไปหาคนอื่นกันฟะ!? มีแต่แกนั่นแหละที่ชอบไปหาคนอื่น..." มิยาจิหลุดพูดออกมา เมื่อรู้สึกตัวก็ตะคุบปากตนเองทันที แต่มีหรือที่ฮายามะจะไม่ได้ยิน?

    "มิยาจิโกรธผมเรื่องนี้เหรอครับ? ..." ฮายามะมองคนผมสีน้ำผึ้งตาแป่ว "...ผมขอโทษครับ! มิยาจิซัง! จะให้ผมทำอะไรก็ได้! อย่าโกรธผมเลยนะครับๆๆๆๆ ผมรักมิยาจิซังคนเดียวนะครับ! ที่ผมไปเกาะคนอื่นเล่นผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ! อย่างอนผมเลยนะครับๆๆๆๆ!!!"

    "หนวกหูเฟ้ย! ไม่ต้องมาพูดเลย!" มิยาจิดันหน้าอีกฝ่ายออกห่างด้วยใบหน้าที่เริ่มออกแดงหน่อยๆ ไอ้ความน้อยใจความเครียดตลอดวันแตกกระจายในพริบตาเมื่อคำว่า 'รัก' หลุดมาจากปากอีกฝ่าย...ถึงในสภาพดูไม่จืดแบบนี้จะทำให้ดูฮามากกว่าซึ้งก็เถอะ

    "นะๆๆๆๆ มิยาจิซัง~~~!!!" ฮายามะก็ยังตื้อไม่เลิก

    "เออๆ ก็ได้! เลิกงอแงแล้วมาทำแผลเลย!" สุดท้ายมิยาจิก็ยอมอ่อนให้อีกฝ่ายตามเคย

    "ครับ!" ฮายามะเริ่มยิ้มออกทันทีเมื่ออีกฝ่ายยอมยกโทษให้ และแทบจะกระโดดโลดเต้นเป็นการฉลองที่แก้ปัญหาแฟนงอน (?) ได้สำเร็จ...ถ้าไม่ติดมือของมิยาจิจับตัวมาทำแผลก่อนล่ะนะ

    "อย่าดิ้น! อยู่นิ่งๆ ซะ!" มิยาจิเขกหัวสีคาราเมลของอีกฝ่ายก่อนที่จะเริ่มลงมือทำแผล

    "ครับ..." ฮายามะนั่งนิ่งๆ ตามคำสั่งของว่าที่ภรรยาในอนาคต (?) จนกระทั่งทำแผลเสร็จ

    "ให้ตายเถอะ...นายไปโดนอะไรมาฟะเนี่ย??" มิยาจิเอ่ยถามขณะเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหัวอีกฝ่ายที่เจ้าตัวไม่เช็ดให้แห้งสักที ทั้งที่ผมเท่าลูกหมาแท้ๆ มันจะเช็ดให้แห้งยากอะไรกันล่ะ?

    "ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มิยาจิซังอย่าสนใจเลย" ฮายามะโบกมือแบบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

    "แต่ฉันสนเฟ้ย! รีบๆ บอกมาเลย!" มิยาจิแกล้งขยี้หัวอีกฝ่ายแรงขึ้น

    "โอ้ยๆ! เจ็บนะครับ!" ฮายามะจับมือมิยาจิที่ขยี้หัวตน "ง่า! มิยาจิซังอ่ะก็! แกล้งผมอ่ะ!"

    "ก็นายอยากทำตัวน่าหมั่นไส้เองนิ..." มิยาจิหัวเราะเบาๆ "...แล้วตกลงไปโดนอะไรมาเนี่ย?"

    "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ..." ฮายามะเริ่มลั้นลาขึ้นเมื่อเห็นคนผมสีน้ำผึ้งยิ้ม...อ่า~ อยากถ่ายรูปเก็บไว้จัง~ ถ้าไม่นิดว่ากลัวโดนถีบกลับอ่ะนะ "...ก็แค่หลังจากลงชินคันเซ็นมาก็โดนกิ่งไม้กิ่งใหญ่ตกใส่หัว โดนหมาไล่กัด โดนโจรดันปล้นแต่ดวงดีหนีทัน เกือบถูกตู้กดน้ำล้มทับ เดินไปตกท่อยังดีที่ปีนขึ้นาได้ โดนรถเฉี่ยว เกือบโดนป้ายหล่นใส่ เกือบตกท่อ สะดุดขาตัวเองล้ม โดนลูกบอลของเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ลอยมากระแทกหัวจนตกน้ำ พอขึ้นมาได้ก็ดันซวยโดนรถขยะคว่ำใส่...ยังดีที่โดนแค่ส่วนขยะไม่ได้โดนรถทับด้วยไม่งั้นแบนแน่ และก็โดน..."

    "พอ! พอก่อน!" มิยาจิเริ่มทำท่าเหมือนคนไมเกรนจะขึ้น "นี่นายยังอุตสาห์รอดมาถึงนี้ได้เนอะ!!!"

    "แน่นอนคร้าบ~~~" ฮายามะเอ่ยอย่างภูมิใจ "ถ้าเพื่อมาหามิยาจิซังให้บุกอะไรมาผมก็ยอมทำคร้าบบ~~~~"

    "หุบปากไปเลย!" มิยาจิเอาผ้าเช็ดปิดหน้าฮายามะไว้

    "หว่าๆ มองไม่เห็นอ่ะ!" ฮายามะพยายามเอาผ้าเช็ดตัวออกจากหน้าตนเต็มที่ เมื่อดูท่ามิยาจิจะรัดผ้าเช็ดตัวบนหน้าแน่นเกินไปจนหายใจไม่ออก และเมื่อนำผ้าเช็ดตัวออกจากหน้าตนเองสำเร็จฮายามะก็เห็น...ดวงหน้าที่ขึ้นสีแดงฉานของคนผมสีน้ำผึ้ง "เขินเหรอครับ? มิยาจิซัง?"

    "ใครเขินวะ! ไม่มี้!!!" มิยาจิหันหน้าหลบ

    "แน่ใจนะครับ?..." ฮายามะเริ่มยื่นหน้าเข้าใกล้ จนลมหายใจร้อนๆ ปะทะซึ่งกันและกัน "...ว่าไม่มี?"

    "เออดิ!" มิยาจิเอาหมอนฟาดหน้าอีกฝ่าย

    "เจ็บง่ะ!" ฮายามะลูบหน้าตนเอง

    "ก็ใครใช้ให้เล่นแบบนั้นก่อนล่ะ?" มิยาจิถอนหายพลางมองคนรักของตน "ว่าแต่นายกินไรยัง? ถ้ายังเดี๋ยวไปทำให้..."

    "ยังค...อ่ะ! มิยาจิซัง! มือไปโดนอะไรครับ!?" ฮายามะที่เพิ่งสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่มือคนผมสีน้ำผึ้งถาม

    "อ๋อ...โดนมีดบาดน่ะ" มิยาจิตอบหน้าตาเฉยพร้อมทำท่าจะเดินเข้าครัวไป

    "เดี๋ยวๆๆๆ! เดี๋ยวผมทำเองครับ!" ฮายามะคว้าตัวมิยาจิไว้ด้วยความเร็วแสง "เจ็บมือแบบนี้มิยาจิซังอย่าเพิ่งทำะไรเลยครับ!"

    "เอ้าๆ งั้นก็ได้..." มิยาจิตอบอย่างขี้เกียจเถียงกับอีกฝ่าย "...นายจะหยิบอะไรกินก็หยิบ อย่าพังครัวฉันก็พอ"

    "แล้วมิยาจิซังไม่กินด้วยกันเหรอครับ?" ฮายามะถามขึ้น

    "ไม่ล่ะ เพิ่งกินสับปะรดมาเกือบสิบลูกน่ะ" มิยาจิบอกพลางคว้ารีโมตมาเปิดทีวีดู

    "งั้นเหรอครับ...งั้นผมขอไปหาอะไรกินก่อนนะครับ ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว" ฮายามะเอ่ยก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในครัว และกลับมาภายในเวลาไม่กี่นาทีพร้อมกับบะหมี่สำเร็จรูปในมือ

    "ฮายามะ...นายเอาไอ้นั่นมาจากไหน?..." มิยาจิมองของในมือคนรักตนอย่างเหงื่อตกน้อยๆ เพราะเขาจำได้ว่านั่นมัน...

    "ตรงตู้กับข้าวชั้นบนสุดด้านขวาครับ..." ฮายามะตอบพลางกินบะหมี่คำใหญ่ด้วยความหิวจัด "...นี่ยี่ห้อไหนครับเนี่ย? รสแปลกๆ"

    "ยี่ห้อซวยบรรลัยกันไง!!!" มิยาจะตอบพร้อมถอยห่างจากฮายามะ

    "มิยาจิซังถอยหนีทำไมอ่ะ!?..." ฮายามะมองคนรักตนที่ถอยหนีพร้อมว่าถ้วยบะหมี่ที่กินหมดแล้วลงบนโต๊ะ "...ว่าแต่กินแล้วทำไมมันร้อนแปลกๆ หว่า?"

    "จะไม่ร้อนได้ไงฟะ!!! ในเมื่อ...อุ๊บ!" ระหว่างที่มิยาจิกำลังจะตอบก็โดนคนผมสีคาราเมลกระโจนเข้าใส่พร้อมประทับจูบลงบนริมฝีปากตน "อื้อ~~~"

    "ร้อนจังครับ...มิยาจิซัง..." ฮายามะถอนจูบออกพร้อมค่อยๆ แกะเสื้ออีกฝ่ายออกอย่างช้าๆ "...มิยาจิซัง...ผมต้องการมิยาจิซังครับ...ดังนั่น...ผมขอล่ะนะ"

    "ด...เดี๋ยว...อ...อื้อ...ฮ...ฮา...ฮายามะ...รอ...รอก่อน..." มิยาจิแทบจะพูดไม่เป็นภาษาเมื่อถูกริมฝีปากอีกฝ่ายประทับตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

    ...ซวยแล้วงานนี้!!!...

    มิยาจิคิดในใจเพราะรู้ว่างานนี้ไม่จบลงง่ายๆ แน่ ในเมื่อ...ไอ้ที่ฮายามะกินนั้นมันเป็นของพิลึกๆ ที่พ่อแม่เขาซื้อมาน่ะสิ!!! ให้ตายเถอะ!!! พ่อแม่เขาคิดอะไรถึงซื้อบะหมี่ผสมยาปลุกมากันฟะ!?! คราวก่อนเขาเผลอกินไปจนยูยะต้องจับมัดไปโดนไว้ในห้องจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์เลย ซึ่งนั้นมันคือเกือบทั้งวัน!!!

    ...ตายแหง!!!...

    "ไม่ได้หรอกครับ...มิยาจิซัง..." ฮายามะเริ่มเปลี่ยนโหมดจากหมากลายเป็นเสือแล้ว เจ้าตัวถอนเสื้อของตนออกมามามัดมือที่พยายามผลักตนออกเอาไว้ "...คืนนี้มาสนุกกันเถอะครับ มิยาจิซัง~~~"

    "ด...เดี๋ยว...อา!" และหลังจากนั้นทั้งคืนก็มีเสียงครางเครือดังมาจากปากของมิยาจิ คิโยชิไม่หยุดตลอดทั้งคืน

     

     

     

     

     

    "ผมขอโทษครับ..." เสียงอ่อยๆ ดังมาจากคนที่นั่งสำนึกผิดอยู่ข้างเตียง "...จู่ๆ ผมหน้ามืดได้ไงไม่รู้อ่ะ! ยกโทษให้ผมนะ!"

    "เออๆ ช่างมันเถอะ...ฉันลืมเตือนนายเองนิ..." คนที่นอนปวดเอวบนเตียงเอ่ยพลางยื่นมือไปลูบเรือนผมสีคาราเมลของอีกฝ่าย

    "เตือน? หมายความว่าไงครับ?" ฮายามะเอียงคอมองคนผมสีน้ำผึ้งตาแป่ว

    "ก็ไอ้ที่นายกินเมื่อวานน่ะมัน...เป็นของพิลึกๆ ที่พ่อแม่ฉันซื้อมาน่ะ" มิยาจิแสดงสีหน้าออกมาว่า...ปลงมากมาย

    "พิลึก?" ฮายามะทำท่าเหมือนกับว่ายังไม่เข้าใจที่มิยาจิพูดนี่มันเกี่ยวอะไรกับที่ตนนั้น...เออ...เผลอกดอีกฝ่ายดัน

    "ก็ไอ้ที่พ่อแม่ฉันซื้อมาแต่ละอย่างมันมักผสมยาปลุกไว้ด้วยน่ะสิ..." คำตอบของมิยาจิคำนี้เป็นการไขข้อสงสัยของฮายามะได้ทันที

    "มิน่าล่ะ..." ฮายามะเริ่มทำท่าปวดจิตอีกคน...ก็ใครจะไปคิดว่ามียาปลุกในบะหมี่ล่ะ!!! ดีนะมิยาจิซังไม่โกรธเขาอีกรอบเนี่ย!!! "...แล้วมิยาจิรู้ได้ไงครับว่ามันผสมยาปลุกมาด้วย? หรือคุณพ่อคุณแม่ของมิยาจิซังบอก?"

    "อย่างพ่อแม่ฉันอย่าหวังเลว่าจะบอกก่อน...ที่รู้เนี่ยเพราะเผลอกินเข้าน่ะ..." มิยาจิตอบอย่างขนลุกนิดๆ เมื่อฮายามะเริ่มปล่อยรังสีอาฆาตออกมา "...ไม่ต้องมาทำท่าแบบนั้นเลย! ฉันไม่ได้โดนอะไรหรอกน่า! แค่โดนยูยะมันจับมัดโยนเข้าห้องจนยาหมดฤทธิ์แค่นั้นแหละ!!!"

    "งั้นเหรอครับ..." ฮายามะลดสังสีอาฆาตออกมาหน่อยนึง "...แล้ว...ยูยะเนี่ย...ใครกันครับ?"

    "น้องชายฉันเฟ้ย!" มิยาจิตอบคนรักที่ดูท่าจะเริ่มออกอาการหึง...ซึ่งแน่นอนมันหึงแต่ล่ะทีน่ากลังนะนั้น

    "มิยาจิซังมีน้องด้วยเหรอ?" ฮายามะที่เก็บรังสีอาฆาตไปหมดแล้วเอ่ยถาม

    "มีสิ...และเดี๋ยวคงกลับมาแล้วล่ะ" มิยาจิตอบ

    ...อา...แบบนี้จะโดยน้องมิยาจิซังตื้บไหมเนี่ย? ข้อหาไปกดพี่เขาน่ะ...

    ฮายามะคิดในใจ และหลังจากที่คิดแบบนี้ได้ไม่นานก็...

    "กลับมาแล้วครับ~~~" เสียงๆ หนึ่งดังแว่วมาจากชั้นล่างทำให้ทั้งสองเดาได้ไม่ยากว่า...มิยาจิ ยูยะกลับมาถึงบ้านแล้ว "พี่หายไปไหนวะเนี่ย?"

    "วันนี้พูดถึงไก่ ไก่ก็มาเลยแฮะ" มิยาจิบ่นขึ้นเบาๆ

    "มิยาจิซัง...ผมจะโดนน้องมิยาจิซังตื้บไหมอ่ะ?" ฮายามะถามขึ้นอย่างเสียวๆ

    "คงไม่...มั้ง..." มิยาจิเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าน้องตนรู้เรื่องนี้จะเป็นไง...ก็มันยังไม่รู้ว่าเขาคบกับฮายามะนี่หว่า

    ก๊อกๆ

    "พี่...อยู่หรือเปล่า?" ตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของยูยะ "ผมเข้าไปล่ะนะ...อ้าว? ใครเนี่ย?"

    "แฮะๆ สวัสดิ์ดี" ฮายามะโบกมือทักทายคนที่ดูว่างงๆ เมื่อเห็นตน

    "อ่า...สวัสดิ์ดี...ว่าแต่พี่เป็นไรเนี่ย? ป่วยหรือไง?" ยูยะถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ตนนอนหมดสภาพบนเตียง

    "แล้วแต่จะคิด..." มิยาจิตอบอย่างขี้เกียจคิดหาข้อแก้ตัวอื่น พร้อมพยายามปิดรอยจูบที่ขึ้นเต็มตามตัวให้หมด

    "ตอบดีๆ ก็ไม่ได้..." ยูยะกรอดตาไปมา แต่ก็สรุปว่าพี่ตนคงป่วยจริงๆ เพราะคิดไปถึงตอนโทรมาหาเมื่อวานด้วยแล้ว...มันมีเปอร์เซ็นว่าจะป่วยจริงๆ สูงมาก "...งั้นเดี๋ยวผมไปทำข้าวต้มกับเอายามาให้พี่แล้วกัน ส่วนเพื่อนพี่เนี่ย...ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาเนี่ย? เละซะ"

    "ไม่ได้ฟัดกับหมาสักหน่อย..." ฮายามะเอ่ยแก้ "...ก็แค่โดนกิ่งไม้กิ่งใหญ่ตกใส่หัว โดนหมาไล่กัด เกือบโดนปล้น เกือบถูกตู้กดน้ำล้มทับ เดินไปตกท่อยังดีที่ปีนขึ้นาได้ โดนรถเฉี่ยว เกือบโดนป้ายหล่นใส่ เกือบตกท่อ สะดุดขาตัวเองล้ม โดนลูกบอลของเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ลอยมากระแทกหัวจนตกน้ำ พอขึ้นมาได้ก็ดันซวยโดนรถขยะคว่ำใส่และก็โดน..."

    "พอ! หยุด!!!" สองพี่น้องมิยาจิเอ่ยห้ามพร้อมกัน

    "ไอ้พอฟังอีกแล้วมันปวดขมับชิบ!" มิยาจิคนพี่เอ่ย

    "รอดมาได้ไงเนี่ย?" ยูยะยังอดปวดหัวไปด้วยไม่ได้ "ต้องเตรียมยามาสองชุดสินะเนี่ย"

    "ไม่ต้องหรอก ฉันยังสบายดีน่า" ฮายามะเอ่ยอย่างลั้นลาตามฉบับของตน

    "ใช่...อย่างเจ้านี่ไปหาทางแก้ซวยดีกว่า..." มิยาจิพูดพร้อมเขกหัวอีกฝ่าย

    "เขกหัวผมทำไมอ่ะครับ!?" ฮายามะกุ่มหัวตนเอง...นี่เขาทำอะไรผิดอ่ะ!?

    "ข้อหาทำฉันปวดจิตไง" มิยาจิตอบหน้าตาเฉย

    "ง่า! ไม่มีเหตุผลเลย!" ฮายามะโวยกลับด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆ

    "นี่แหละเหตุผลของฉัน" มิยาจิไม่สนใจเสียงโวยวายพร้อมกับขยี้หัวอีกฝ่ายเล่นอีกต่างหาก

    "เออ...ผมขอไปทำข้าวต้มล่ะ" ยูยะมองคนผมคาราเมลที่เถียงกับพี่ตนแบบไม่กลัวตายก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป...

    ...เป็นอันว่าวันคริสมาสของฮายามะ โคทาโร่และมิยาจิ คิโยชิก็เป็นเช่นนี้แล

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×