ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #77 : [AkaFuri] What is it?!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.98K
      52
      9 ม.ค. 58

    Title : What is it?!

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Akashi x Furihata

    Notes : หมดมุข...นึกอะไรไม่ออก ฟิคนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่ใช้ฝึกฝีมือเฉยๆ (ซึ่งดูจะเท่าเดิมหรือไม่ก็ห่วยลงตลอดกาล) และอันนี้บอกก่อนนะว่ามีหลายคู่หลายตอน...ถ้าจะเริ่มอ่านโปรดทำใจสักนิด

    ................................................................

    What is it?!

     

    จิ๊บๆ

           เสียงนกน้อยที่ขับร้องกันเป็นการต้อนรับยามเช้าที่สดใสปลุกเด็กหนุ่มที่มุดอยู่ในผ้าห่มให้ตื่นจากนิทรา

    "อื้อ...เช้าแล้วเหรอ?" เด็กหนุ่มลุกงวยเงียขึ้นจากเตียงและเดินไปยังห้องน้ำอย่างสะสึมสะลือ...ก่อนที่จะรู้สึกแปลกใจเมื่อตนรู้สึกว่าตำแหน่งห้องน้ำในบ้านตนนั้นเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่ง...

    "แว๊กกกก!!! นี้มันอะไรกานนนนน!!!" เด็กหนุ่มแว๊ดลั่นอย่างตื่นเต็มตาทันทีเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนออกมาในกระจก...

    ภาพที่สะท้อนออกมาคือเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าแต่เคะได้ (แอ๊บ! #โดนถีบ // s) มีเส้นผมสีน้ำผึ้งเงางาม ดวงตาคู่สวยสะท้อนแววตาตกตะลึ่งของเจ้าตัวออกมา ทุกอย่างดูดีหมด เว้นแต่...

    ...นี้มันไม่ใช่ใบหน้าของเขาเองนี่สิ!!!...

    'ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้ไงฟะ!?! ไหงเขากลายเป็นมิยาจิซังไปได้เนี่ย!? แบบนี้บอกใครใครเขาจะเชื่อ!!! แล้วถ้าอาคาชิมาเห็นเข้าจะทำไง!!!' ฟุริฮาตะ โคกิแห่งทีมเซย์รินคิดอย่างวิตกในใจกับการที่ตนเปลี่ยนแปลงมาเป็นเช่นนี้

    "เฮ้! พี่! ตะโกนอะไรแต่เช้าเนี่ย!?" เสียงหนึ่งดังมาจากประตูทำให้คนในร่างเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งสะดุ้งโหยงพร้อมหันไปมองยังต้นเสียง...ก็มีเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่โคร่งหน้าคล้ายมิยาจิ คิโยชิยืนอยู่ซึ่งฟุริฮาตะไม่รู้จัก แต่คาดว่าคงเป็นน้องชายของรายนั้นจากคำเรียกของอีกฝ่าย

    "เอ่อ..." ฟุริฮาตะเอ่ยอย่างพูดไม่ออกเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดๆ

    "เป็นอะไรหรือเปล่าพี่? ไหงวันนี้ไม่โวยกลับล่ะ?" เด็กหนุ่มมองคนเป็นพี่ตนอย่างไม่เข้าใจ...ปกติพี่ตนถ้าไม่โวยกลับก็ต้องโยนอะไรสักอย่างสองอย่างใส่เขาสิ (เป็นการแสดงความรักของพี่น้องที่แปลกดีแฮะ // s)

    "บ...บน...บนหัว" ฟุริฮาตะชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่บนศีรษะอีกฝ่าย

    "หื้อ? บนหัว?" เด็กหนุ่มทวนอย่างงงๆ ก่อนที่จะยื่นหน้ามายังกระจกที่ฟุริฮาตะในร่างมิยาจิยืนอยู่ ก่อนที่จะ...แว๊ดลั่นไม่ต่างจากฟุริฮาตะก่อนหน้านี้ "นี่มันอะไรกานนนนน!?! มันมาโผล่บนหัวฉันได้ไง!?!"

    เด็กหนุ่มอยากเป็นลมสักทีจริงๆ เมื่อเห็นภาพตนเองที่สะท้อนมา...มันดูปกติมุกอย่างเว้นเพียงแต่มีหูสัตว์แหลมๆ โผล่ขึ้นมาบนศีรษะ เท่านั้นไม่พอเมื่อก้มลงมองตัวเองว่ามีอะไรงอกขึ้นมาอีกหรือเปล่าก็พบว่ามีหางฟู่ๆ โผล่มา...แถมเป็นหางหมาซะด้วย

    เด็กหนุ่มลองดึงหูหมาบนหัวตนเผื่อออก แต่ผลที่ได้คือความเจ็บที่แล่นแป๊บเข้าสู่ระบบประสาทบ่งบอกว่านี้คือของจริงและงอกจากร่างเขาจริงๆ

    "พี่! ทำไมผมกลายเป็นงี้ด้ายยยย!!!" เด็กหนุ่มแทบเขย่าตังฟุริฮาตะอย่างสติแตกทันที...นี่ไม่ตลกเลยนะ! กับการมีหูมีหางงอกมาเนี่ย!!!

    "เอ่อ...ผมไม่รู้ อีกอย่างผมไม่ใช่มิยาจิซังด้วย..." ฟุริฮาตะเอ่ยอย่างหวังให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่มิยาจิ คิโยชิเพราะไอ้การที่คนอายุมากกว่ามาเรียกพี่นี้มันหลอนแปลกๆ ...และหวังว่าอีกฝ่ายจะเชื่อเขานะ

    "ห๊า!?" เด็กหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตกใจ "จริงดิ!?"

    "ครับ..." ฟุริฮาตะเอ่ยตอบก่อนที่จะ...

    ปัง!!!

    ...มีเสียงดังสนั่นมาจากชั้นล่างทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองสะดุ้งก่อนพากันวิ่งลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อลงบันไดมาก็พบกับ...เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลคนหนึ่งยืนอยู่หรือก็คือร่างที่แท้จริงของฟุริฮาตะ โคกินั้นเอง

    "ใครน..." ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจะโวยก็โดนสายตาค้อนคมกริบจากคนผมน้ำตาลจนต้องปิดปากเงียบ

    "นาย...ฟุริฮาตะใช่ไหม?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยเสียงเครียด

    "ครับ...แล้วที่อยู่ในร่างผมเนี่ยมิยาจิซังใช่ไหมครับ?" ฟุริฮาตะถามด้วยเสียงแผ่วพลางนึกว่า...ไม่ว่ามิยาจิ คิโยชิอยู่ในร่างไหนก็สร้างความสยองได้ดีจริง

    "เดี๋ยวๆ หยุดก่อน...นี่ตกลงอะไรกัน?" เด็กหนุ่มถามขึ้นอย่างตามไม่ทัน...รู้เพียงจากบทสนทนาของทั้งสองพอจะเดาได้ว่าพี่เขากับคนผมสีน้ำตาลตรงหน้านี้สลับร่างกัน! ให้ตายเถอะ! เหลือเชื่อเกินไปแล้ว! ...แต่จะว่าไปของเขาก็ไม่ต่างกันแฮะ

    "ยูยะ...ถ้าให้ตอบคือ...ฉันไม่รู้โว้ย! นายน่ะเงียบไปก่อนเลย! ยิ่งกลุ้มๆ อยู่!" มิยาจิในร่างฟุริฮาตะไม่ว่าเปล่ายังชกเข้าท้องอีกฝ่ายเต็มๆ ...ที่จริงปกติเขาสับหัวเอา แต่ในร่างนี้ความสูงไม่อำนวยเลยเปลี่ยนเป็นชกแทน

    "ปากกับมือไปพร้อมกันแบบนี้...พี่ชัวท์" ยูยะกุ่มท้องด้วยสีหน้าเยเกด้วยความจุก...ในร่างไหนก็โหดเท่าเดิมเลยวุ้ย

    "ตกลงใครรู้บ้างเนี่ย? ว่ามันเกิดบ้าอะไรกัน? แล้วไหงยูยะมันมีหูหางงอกออกมาฟะ? แต่งคอสเพลย์หรือไง?" มิยาจิถามขึ้นพลางมองไปยังทั้งสองคนตรงหน้า

    "คอสบ้าอะไรล่ะพี่! ไอ้นี่ของจริงเลย!!!" ยูยะแทบทุ่มพี่ตนในร่างคนผมสีน้ำตาล ถ้าไม่ติดว่าคนที่อยู่ในร่างพี่ตนห้ามไว้ก่อน

    "ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ

    "นายช่วยอย่ายิ้มหรือทำท่าใจดีได้เปล่า? ทำในร่างพี่แล้วหลอนชอบกล..." ยูยะอดเอ่ยออกมาไม่ได้...เพราะดูจากลักษณะของคนในร่างพี่เขามันคนละขั้วเลย

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะเอียงคออย่างน่ารัก...ซึ่งก็น่ารักจริงๆ แม้อยู่ในร่างมิยาจิก็ตาม

    "อื้ม...ถ้าให้ไอ้หมาบ้ามาเห็นคงจะถ่ายรูปจนข้อมูลเต็มมือถือแน่" ยูยะเอ่ยออกมา...ที่จริงพี่เขาถ้าทำแบบหมอนี่คงมีคนมาจีบเยอะแน่ แต่พี่เขาดันโหดเกินไปนี่สิ

    "ฮายามะมันคงพุ่งเข้ามากว่า" มิยาจิเอ่ยอย่างรู้ในนิสัยคนรักตน

    กริ้ง...

    เสียงโทรศัพท์บ้านมิยาจิได้ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยปัญหาที่ดูจะออกนอกเรื่องของทั้งสาม

    "ยูยะรับสายสิ" มิยาจิบอกผู้เป็นน้องตน

    "ทำไมต้องผมอ่ะ!" ยูยะเถียงกลับ...ก็จะไม่ให้เถียงยังไงในเมื่อเขาถูกไกลจากโมรศัพท์ที่สุดนิ! ทำไมคนใกล้ๆ ไม่รับเองฟะ!?

    "เพราะฉันกับฟุริฮาตะสลับร่างกันอยู่ไงฟะ! จะให้คุยด้วยเสียงคนอื่นได้ไงฟะ!?" มิยาจิส่งสายตาประมาณว่า 'ไปรับโทรศัพท์เสียดีๆ ไม่งั้นจะแจกหมัดให้สักหมัดสองหมัด' ทำให้ยูยะจำใจต้องไปรับสายจนได้

    "โมชิโมชิ? บ้านมิยาจิครับ..." ยูยะเอ่ยเมื่อรับสายก่อนที่จะต้องรีบเอาหูโทรศัพท์ออกห่างจากหูเมื่อเสียงอันดังสนั่นลอดผ่านสายมา

    'แงๆๆๆๆ ขอสายมิยาจิซังที! ขอร้องล่ะ!!! แง~~~!!!' เสียงอันดังสุดยอดดังผ่านสายมาทำให้ทั้งสามนิ่งสนิกด้วยความซ็อกปนเหวอ...จะไม่ให้เป็นเช่นนี้ได้ไงล่ะในเมื่อเสียงที่ดังออกมามันเป็นเสียงของอาคาชิ เซย์จูโร่!

    "เอาสายมานี่สิยูยะ" มิยาจิคว้าหูโทรศัพท์จากน้องชายตนก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมา

    "ถ้าเล่นงี้ไม่ต้องบอกก็ได้มั้งพี่" ยูยะคิ้วกระตุกน้อยๆ กับการกระทำของพี่ตน...แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไม่อยากสู้กับความมหาโหดของพี่ตนเอง

    "ก็อยากช้าเองนิ..." มิยาจิยักไหล่ก่อนที่พูดกับปลายสาย "...อาคาชิเกิดอะไรขึ้น? ไหงนายเสียงตื่นแบบนั้นล่ะ?"

    'อ่ะ! ชิวาว่าคุงอยู่บ้านมิยาจิซังได้ไงอ่ะ!?'

    "ห๊า?" มิยาจิในร่างฟุริฮาตะเผลอหลุดร้องออกมา...เมื่อกี้อาคาชิเรียกฟุริฮาตะว่าชิวาว่าคุง? ไอ้คำเรียกนี้มันของฮายามะคนรักเขานี่หว่า!? "นายไม่ใช่อาคาชิ หรือว่า...ฮายามะ!?"

    'อ่ะ! รู้ได้ไงอ่ะ!?'

    "ก่อนถามอะไรช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่าว่าทางนั้นมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมนายเสียงเหมือนอาคาชิได้?" มิยาจิเอ่ยถามอย่างหวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่ตนคิด

    'คือ...ฉันกลายเป็นอาคาชิไปแล้วอ่ะ! ไม่รู้กลายเป็นงี้ได้ไง! ตอนตื่นขึ้นมาตกใจเกือบซ๊อกตายแน่ะ! และไม่รู้จะทำไงเลยโทรมาบ้านมิยาจิซังเนี่ย! ชิวาว่าคุงช่วยอธิบายให้มิยาจิซังฟังหน่อยสิว่านี่คือฉัน! ไม่ใช่อาคาชิน่ะ!'

    "ฮายามะ..." มิยาจินวดขมับตนอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อมันกลายเป็นแบบที่คิดเป๊ะ "...ฉันไม่ใช่ฟุริฮาตะ...ฉันมิยาจิต่างหาก"

    'ห๊า!?' ปลายตะโกนเสียงดังจนเสียงลอดผ่านสายมาจนคนรอบข้างได้ยินชัดเจน 'จริงดิ!?...ไม่ใช่ว่าแกล้งฉันเล่นนะ!?'

           "ใครมันจะมีอารมณ์เล่นฟะ!?! ฉันมิยาจิ คิโยชิจริงๆ เฟ้ย!!! เดี๊ยวปั๊ดฆ่าทิ้งซะนิ!!!" มิยาจิตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างดัง...ดังมากด้วย เพราะขนาดฟุริฮาตะที่สวมที่อุดหูที่ยูยะยื่นให้อย่างรู้ทันพี่ตนยังได้ยินเสียงชัดเจน แล้วคนปลายสายจะเหลือไหมนั่น?

    '...' ปลายสายเงียบไปสักพัก...ถ้าให้เดาคงเพราะหูอื้อ ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังลอดสายโทรศัพท์มา 'มิยาจิซัง! ไหงไปอยู่ในร่างชิวาว่าคุงได้ล่ะครับ!?'

    "จะไปรู้เหรอฟะ!? ตื่นมามันก็เป็นแบบนี้แล้ว!!!" มิยาจิเอ่ยอย่างหัวเสีย

    "เอ่อ...มิยาจิซัง...ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ..." ฟุริฮาตะที่ดึงที่อุดหูออกแล้วขัดการสนทนาของมิยาจิกับฮายะมะ

    "มีอะไรว่ามาสิ..." มิยาจิไม่คิดว่าจะมีอะไรน่าปวดหัวกว่านี้แล้วล่ะ

    "ถ้าฮายามะซังอยู่ในร่างอาคาชิงั้นก็หมายความว่าอาคาชิเองก็น่าจะอยู่ในร่างฮายามะซังด้วย..." ฟุริฮาตะเอ่ยออกมา "...ถ้าลองให้อาคาชิช่วยอาจหาวิธีแก้ก็ได้นะครับ ยังไงช่วยกันคิดหลายๆ คนน่าจะดีกว่านะครับ"

    "ก็จริง..." มิยาจิเห็นด้วยกับฟุริฮาตะ ก่อนที่จะคุยกับคนในโทรศัพท์ต่อ "...ฮายามะช่วยประชุมสายกับอาคาชิที จะได้ช่วยกันคิดหาทางแก้ไอ้เรื่องบ้านี่กัน"

    'รับทราบครับ!' ฮายามะที่ใช้เสียงอาคาชิเอ่ย...มันฟังดูหลอนแปลกๆ สำหรับมิยาจิชอบกล ฮายามะเงียบไปสักพักก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง...เป็นเสียงของฮายามะ

    'นั่นใคร?' แค่เสียงที่เดาอารมณ์อีกฝ่ายออกทำให้มิยาจิรู้สึกหนาวนิด และคาดว่าฮายามะที่เป็นคนโทรไปคงแข็งเป็นหินไปแล้วแน่

    "อาคาชิ..." มิยาจิเอ่ยขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสายไป "...อย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งนั้นและฟังฉันให้จบก่อน...คือตอนนี้ฉันว่าเราควรหาวิธีที่จะทำให้พวกเรากลับร่างเดิมมากกว่าให้นายทำเสียงปานจะฆ่าคนแบบนั้นและฉันมิยาจิไม่ใช่ฟุริฮาตะ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมลักษณะการพูดเปลี่ยนไปเลย"

    '...นี่มันบ้าอะไรกัน' อาคาชิที่ใช้เสียงของฮายามะบ่นออกมาอย่างปวดจิต 'มิยาจิซังกับโคกิสลับร่างกันด้วย?'

    "ใช่เลย~~" มิยาจิก็รู้สึกปวดจิตไม่ต่างนั้นแหละ

    'คงไม่ใช่ว่าทุกคนสลับร่างกันหมดนะ...มิยาจิซังเจอใครที่ผิดปกติโทรอีกไหม?' อาคาชิถาม

    "ไม่...จะมีที่แปลกก็มีแต่น้องชายฉันอยู่ๆ มีหูกับหางหมาโผล่แค่นั้น" มิยาจิบอก

    'อื้ม...งั้นมิยาจิซังช่วยมารวมตัวกันที่โรงเรียนเซย์รินหน่อยครับ...ผมจะตรวจดูว่ามีใครผิดปกติอีกหรือเปล่า และถ้าให้ดีพาน้องชายมิยาจิซังมาด้วยนะครับ อ๋อ! และดูแลทั้งโคกิและร่างโคกิดีๆ นะครับ...ไม่งั้นต่อให้เป็นมิยาจิซังผมก็ไม่มีทางยอมแน่' อาคาชิเอ่ยอย่างมีเหตุผลและ...เอ่ยเสียงเย็นปานฆาตกรโรคจิตในตอนท้ายด้วย

    "เอ่อ...เข้าใจล่ะ" มิยาจิเหงื่อตกนิดๆ ...นี่หมอนี่เป็นโรคหวงแฟนระยะสุดท้ายหรือไงฟะ!? โหดจริง!

    'ขอบคุณที่เข้าใจครับ...ตอนนี้ผมขอสายโคกิหน่อยครับ'

    "โอเค..." มิยาจิกวัดมือเรียกคนที่อยู่ในร่างของตน "...ฟุริฮาตะ อาคาชิจะคุยกับนายแหน่ะ..."

    "อาคาชิเหรอครับ?" ฟุริฮาตะถาม มิยาจิก็พยักหน้าตอบทันที เจ้าตัวเลยรับสายตามที่อีกฝ่ายเรียก "...อาคาชิ?"

    'โคกิ...' อาคาชิเอ่ยเรียกคนรักตนด้วยน้ำเสียงฮายามะ '...ตอนนี้นายยังอยู่ดีใช่ไหม? ไม่ได้โดนอริของมิยาจิซังบุกมาทำอะไรใช่ไหม? ถ้ามีรีบบอกมาฉันจะจัดการให้...'

    "เอ่อ...อย่าพูดแบบนั้นด้วยเสียงฮายามะซังได้หรือเปล่า? มันหลอน..." ฟุริฮาตะรู้สึกรับคำพูดที่ตรงข้ามกับนิสัยฮายามะไม่ได้ชอบกล "...อีกอย่างฉันยังไม่ทันก้าวไปไหนเลยนะ ไม่มีเรื่องอะไรเหรอน่า ไม่ต้องห่วง"

    'งั้นก็ดี...แต่ทางที่ดีนายควรรีบไปที่เซย์รินเพราะฉันนัดมิยาจิซังไปที่นั้นและพยายามเลี่ยงคนรู้จักให้ได้มากที่สุดด้วย อีกสามชั่วโมงเจอกัน'

    "อื้ม! แล้วเจอกันอาคาชิ!" ฟุริฮาตะเอ่ยตอบก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไป

    "สรุปคือว่าพวกเราต้องไปเซย์รินดังนั้น...พวกนายรีบไปแต่งตัวเลย และห้ามไปในสภาพซกมกเด็ดขาดโดยเฉพาะฟุริฮาตะเข้าใจไหม!?" มิยาจิเอ่ยสั่งคนอายุน้อยกว่า...ถึงแม้ตอนนี้มิยาจิจะอยู่ในร่างเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแต่ความสยองและดีกรีความโหดก็ไม่ได้น้อยลง ทำให้เด็กหนุ่มอีกสองคนรีบทำตามคำสั่งโดยไวหลังสิ้นเสียงอีกฝ่าย...

     

     

     

     

     

    อาคาชิ เซย์จูโร่ในร่างคนผมสีคาราเมลกดว่างสายลงอย่างใจเย็น ขณะที่กำลังทำใจกับร่างที่ตนอยู่ในตอนนี้...ที่ถ้าเจอใครเข้าคงไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะเขาไม่อยากหลอนกับตัวเองถ้าแอ๊บเป็นเจ้าของร่างเนี่ย...

    ...เมื่อเช้า ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาเขานึกเอ๊ะใจว่าตนมาอยู่ในหอพักของโคทาโร่ได้ไง และตอนที่กำลังจะลุกไปตามหาเจ้าของห้องเขาก็รู้ถึงความผิดปกติเมื่อตัวเขาดูจะสูงขึ้นกว่าเดิมมาก...มากจนเป็นไปไม่ได้ว่ามันจะสูงขึ้นเองในชั่วข้ามคืน

    ...เขาจึงเดินไปส่องกระจกดูสภาพตัวเองในห้องน้ำและ...เผลอเอากรรไกรปักกระจกห้องน้ำจนแตกด้วยความตกใจกับภาพที่สะท้อนมา

    ...เพราะภาพที่สะท้อนมากลับไม่ใช่ตัวเขาเองนี่สิ!!! ไหงกลายเป็นงี้ได้ไม่รู้!!! เขาไม่ได้ไปกินของที่โมโมอิทำซะหน่อย!!! ใครบอกเขาทีว่านี้คือความฝัน!!!

    ...แต่เสียงที่หลุดรอดจากปากเขานั้นเป็นเสียงของเจ้าของร่างที่ตนมาอยู่เป็นตัวย้ำเตือนว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง

    ...ตอนนั้นเขาซ็อกมากจนสุดท้าย เขาต้องมานั่งสงบสติอารมณ์พักใหญ่ๆ ...และนานมากด้วยเพราะเขานั่งพยายามดึงสติตัวเองกลับมาจนโคทาโร่...เจ้าของร่างที่เขาอยู่นี้แหละประชุมสายมาและมิยาจิซังที่ใช้เสียงคนรักของเขาบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทางนั้นนั่นล่ะจึงทำให้เขาดึงสติสตางค์กลับมาได้ครบ

    อาคาชิมองมือถือของฮายามะสักพักก่อนที่จะตัดสินใจข้อความไปบอกตัวจริงทีมราคุซันทั้งหมดให้ไปรวมตัวที่โรงเรียน

    เมื่อส่งข้อความเสร็จแล้ว อาคาชิก็อาบน้ำแต่งตัวพร้อมพลางคิดว่า...คงต้องออกเงินเปลี่ยนกระจกห้องน้ำให้ฮายามะใหม่เสียแล้ว (แหงล่ะ...เล่นซะ... // s)

    จากนั้นอาคาชิก็ออกมาจากห้องพร้อมล็อกประตูเรียบร้อยก่อนที่จะ...วิ่งไปยังโรงเรียนของตนอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้นว่าใครจะมาทักหรืออะไร จนเด็กหนุ่มมาถึงก่อนใครคนอื่นทำให้เจ้าตัวต้องรอคนอื่นไป

    และเมื่อผ่านไปสักพักเหล่าคนในทีมราคุซันก็เริ่มทะยอกกันมา...

    "อาคาชิ!" ร่างผมสีแดงวิ่งมาถึงก่อนเป็นคนที่สองพร้อมทำหน้าเหมือนน้ำตาจะแตก...ฮายามะนั่นเอง

    "โคทาโร่...อย่าทำหน้าฉันเสียแบบนั้นได้ไหม?" อาคาชิรู้สึกรับไม่ได้ชอบกลที่เห็นหน้าตัวเองแบบนี้...มันขนลุกแปลกๆ

    "โทษทีๆ ก็มันเผลอน่ะ..." ฮายามะเอ่ย "...ก็ฉันเก๊กหน้าเป็นนายมาตลอดทางจนหน้าจะชาแล้ว! นายทำหน้านิ่งทุกวันได้ไงเนี่ย!?"

    "เขาเรียกว่ามาดไม่ใช่เก๊ก...และนายก็ควรฝึกไว้บ้างก็ดีนะ" อาคาชิส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

    "โคทาโร่! อาคาชิ!" เสียงของเนบุยะดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองหันไปมองและ...แทบหลุดขำ

    "เอย์อิจิ...ทำไมนายซีดเป็นคนป่วยแบบนั้นล่ะ?" อาคาชิมองลูกทีมตนที่เมื่อก่อนผิวออกสีเข้ม...แต่ตอนนี้กลับซีดขาวดังคนป่วย

    "ไม่รู้มันเป็นเอง...แล้วเมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?!" เนบุยะคิ้วกระตุกยิกๆ ...ปกติโคทาโร่มันเรียกเขาว่าเอย์จังนี้หว่า? แล้ววันนี้ทำไมเรียกงี้ฟะ!? ผีเข้าเหรอ!!! "แล้วอาคาชิเป็นอะไรล่ะนั้น?!"

    "www โทษทีๆ พอดีนายดูขำไปหน่อยน่ะ...พอเอย์จังซีดแบบนี้แล้วดูไม่จืดเลย! www" ฮายามะในร่างคนผมแดงหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่

    "อ...อาคาชิ? นายไม่สบายหรือเปล่า?" เนบุยะถึงกับเหวอเมื่อกัปตันทีมสุดโหดของตนหัวเราะออกมาแบบนี้ แถมไอ้คำเรียกนี้มันของเพื่อนเขาอีกต่างหาก!

    "โคทาโร่..." เสียงเย็นๆ จากคนผมสีคาราเมลทำให้ทุกคนหนาวสะท้านไปทั่ว "...ถ้านายยังทำหน้าฉันหลุดมาดอยู่ล่ะก็...จบเรื่องนี้เมื่อไหร่เจอแน่"

    "อุ๊ย! ขอโทษครับ..." ฮายามะหง่อยลงทันที

    "ใครก็ได้...บอกทีว่านี่มันอะไร?..." เนบุยะที่ตามเรื่องต่างๆ ไม่ทันทำหน้าเหมือนคนกินยาขม

    "ไว้มาครบแล้วค่อยบอก..." อาคาชิในร่างคนผมสีคาราเมลเอ่ย

    "เอ่อ...ก็ได้..." เนบุยะที่ไม่รู้ว่าที่พูดอยู่นั้นไม่ใช่เพื่อนตนรู้สึกหนาวแปลกๆ

    "เซย์จาง~~~" เสียงเล็กๆ ที่ไม่คุ้นหูดังมาทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ต้นเสียง

    "เฮ้ย!!!" เนบุยะกับฮายามะแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น...

    ...เมื่อร่างที่วิ่งมานั้นคือเด็ก...เอ่อ...ชายหรือหญิงไม่รู้เพราะเล่นสวมชุดแบบที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิงเลย แต่จากคำเรียกเมื่อกี้เดาได้ไม่ยากว่า...นี่คือมิบุจิ เรโอะ ซึ่งมาพร้อมกับชายที่สวมชุดมิดชิดจนไม่เห็นผิวหรือแม้แต่เส้นผมโผล่ออกมาเลย...ถ้าให้เดาคนคนนี้คงจะเป็นมายุสุมิ จิฮิโระคนรักของเจ้าตัวนั้นแหละ

    "เรโอะเหรอ!?" เนบุยะถามเหมือนจะย้ำให้แน่ใจว่าเด็กน้อยนี้คือเพื่อนตน...ถึงโคร่งหน้าโดยรวมมันคือเพื่อนเขาก็เถอะ

    "จ้าาาา" มิบุจิตอบอย่างลั้นล้าราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับการที่ตนกลายเป็นแบบนี้เลยสักนิด

    "มากันครบแล้วก็เข้าไปด้นในเถอะ..." อาคาชิเมื่อเห็นทุกคนมากันครบแล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงรีบลากทุกคนเข้าโรงยิมไปในทันที

    ณ โรงยิมอันเงียบสงบ เพราะไม่มีใครมาในวันหยุดเช่นนี้...เหล่าตัวจริงทีมราคุซันต่างมานั่งล้อมวงกันราวจะมาเล่าร้อยเรื่องผีงั้นแหละ

    "เอ้า! ตกลงนายเรียกพวกเราทำไมเหรอ?! โคทาโร่!? แล้วไหงเรโอะมันกลายเป็นงี้ได้!" เนบุยะเอ่ยถามขึ้นเป็นคนแรก

    "เฮ้อ..." อาคาชิในร่างฮายามะกวาดตามองลูกทีมตนอย่าง...ปวดขมับกับเรื่องที่เกิดขึ้น "...ฉันไม่ใช่ฮายามะ...ฉันอาคาชิต่างหาก"

    "ห๊า!?" เหล่าตัวจริงทั้งสามมองคนผมแดงสลับกับคนผมคาราเมล "จริงดิ!?"

    "ใช่เลย!" ฮายามะตอบอย่างลั้นล้า...เพราะจากที่ดูเขาไม่ได้เจอเรื่องหน้าปวดหัวคนเดียว ยิ่งมีคนร่วมด้วยช่วยคิดยิ่งดี!

    "นี่มันอะไรกัน..." เสียงมายุสุมิดังขึ้นบ่งบอกว่าชักอยากเป็นลมกับเรื่องนี้

    "แล้วคุณคิ้วบางไหงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ!? อากาศก็ไม่ได้หนาวมากสักหน่อย..." ฮายามะถาม

    "อย่าใช้หน้าอาคาชิทำแบบนี้สิฟะ! หลอนเฟ้ย!" มายุสุมิแทบถีบหน้าระรื่นของอีกฝ่าย...ถ้าไม่ติดว่าเจ้าของร่างตัวจริงยังนั่งจ้องอยู่อ่ะนะ "ส่วนที่แต่งตัวแบบนี้ก็..."

    "เฮ้ย!!!" ฮายามะกับเนบุยะถึงกับหลุดร้องเสียงหลง เมื่ออีกฝ่ายถอดเสื้อที่คลุมอยู่ออกทำให้เห็นว่า...ร่างอีกฝ่ายนั้นใสจนมองทะลุได้!!!

    "ก็อย่างที่เห็น...ฉันตัวใสแบบนี้แหละเลยต้องใส่เสื้อปิดไว้" มายุสุมิถอนหายใจ

    "นี่มันบ้าชัดๆ" เนบุยะรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ตัวเขาเปลี่ยนแค่สีผิว

    "ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้วสิ..." อาคาชิตอนแรกกะว่าถ้าคนอื่นไม่ได้เป็นไรก็กะจะจัดการเองแต่แบบนี้...คงต้องลองโทรหาคนรู้จักทั้งหมดแล้วมั้ง? "...เอาเป็นว่าตอนนี้เราต้องไปโตเกียวเพื่อไปปรึษากับคนอื่นๆ เรื่องนี้...เข้าใจไหม?"

    "นอกจากเรามีคนอื่นเป็นด้วยเหรอ?" มิบุจิถาม

    "มีชิวาว่าคุงสลับร่างกับมิยาจิซัง และยูยะมีหูหางหมาโผล่มาฮ้าฟ" ฮายามะบอก...อย่าคิดว่าตอนที่เขาเงียบเพราะหลอนเสียงตัวเองน่ะจะไม่ได้ฟังที่พูดกันนะ!!!

    "เดี๋ยวฉันกำลังจะตรวจดูอยู่...ว่ามีใครโดนอะไรอีกไหม ระหว่างที่เดินกันไปนี่แหละ..." อาคาชิเอ่ยพร้อมต้อน (?) เหล่าตัวจริงทีมราคุซันไปยังสถานีรถไป พร้อมกดมือถือโทรไปยังเบอร์เพื่อนของตน...ซึ่งเขาจำได้ทุกเบอร์เลยใช้มือถือฮายามะโทรได้ (ดีเนอะ...ไม่เปลื้องตังค์ // s , ไม่เปลื้องตังค์อาคาชิแต่มันเปลื้องตังค์ฉันนะ!!! // ฮายามะ)

    'โมชิโมชิ...' เสียงที่รับสายจากเบอร์แรกที่อาคาชิโทรไปนั้นฟังดูเด็กแปลกๆ จนน่ากลัวว่าจะโทรผิดสาย '...คุโรโกะ เท็ตสึยะพูดสายครับ...นั้นใครครับ?'

    "เท็ตสึยะ..." เมื่อมั่นใจว่าตนไม่ได้โทรผิดอาคาชิก็รีบพูดทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไร "...อย่าเพิ่งถามอะไรทั้งนั้น ตอนนี้นายมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? ถ้ามีนายไปตรวจดูว่าคนในทีมตนมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าแล้วไปรวมตัวที่เซย์รินซะ...และขอบอกเลยนะว่าฉันอาคาชิไม่ใช่โคทาโร่"

    'อาคาชิคุงเหรอครับ? ...คุณโดนสลับร่างหรือไงครับ?' คุโรโกะเอ่ยถามด้วยเสียงงงๆ แสดงออกมาอย่างชัดเจน

    "ใช่...แค่นั้นไม่พอโคกิสลับร่างกับมิยาจิซัง เอย์อิจิยังผิวซีดลงยังกะคนป่วย เรโอะกลายเป็นเด็ก จิฮิโระซังตัวจางเหมือนผีด้วย" อาคาชิเอ่ย

    'งั้นเหรอครับ? เข้าใจแล้วครับ...เดี๋ยวผมจะไปตรวจดูในทีมผมดูนะครับ'

    "อื้ม...อย่าให้ตกหล่นนักล่ะ...แค่นี้ก่อน ฉันต้องโทรเซ็คคนอื่นอีก"

    'ครับ...ขอให้เดินทางมาได้โดยที่มายุสุมิซังไม่โดนชาวบ้านจับแสดงงานวัดนะครับ' คุโรโกะพูดคำนี้เป็นคำสุดท้ายก่อนตัดสายไป

    และหลังจากนั้นอาคาชิก็ต้องพูดประโยคเดิมๆ กับทุกสายที่โทรไปจนแทบเสียงแห้งกว่าจะครบ และจากนั้นก็พากันขึ้นชินคันเซ็นไปยังโตเกียว

     

     

     

     

     

    "นี่มันบ้าชัดๆ..." เสียงสามเสียงประสานพร้อมกันทันทีที่เท้าก้าวเข้ามาภายในโรงยิมของโรงเรียนเซย์ริน...

    ...ในโรงยิมที่ไม่น่าจะมีผู้คนเพราะเป็นวันหยุดกลับอัดแน่ไปด้วยเหล่าทีมที่อดีตทีมปาติหาร์สังกัดอยู่ทั้งหมดทุกคน แถมสภาพแต่ล่ะคนยังไม่ปกติทั้งนั้นด้วย!!!

    "มิยาจิซัง~~~!!!" เสียงอันดังพร้อมกับร่างของ...เด็กหนุ่มที่มีปีกนกโผล่มาจากหลังพุ่งเข้าหาฟุริฮาตะในร่างมิยาจิอย่างแรง "ทำไงดีๆๆๆๆๆ แบบนี้ผมก็เล่นบาสไม่ได้น่ะสิ! แถมชินจังยังกลายเป็นแบบนี้อีก! จะทำไงดี...แง~~~"

    "ทาคาโอะใจเย็นๆ สิ...เดี๋ยวหาทางแก้ได้น่า..." เสียงหนึ่งดังขึ้นมาพร้อมกับ..กระต่ายตัวสีเขียวแปลกตากระโดดมาหา

    "เดี๋ยวนะ...นี่มัน..." มิยาจิในร่างฟุริฮาตะนวดขมับ "...มิโดริมะ? ไหงกลายเป็นกระต่ายได้เนี่ย!?"

    "ไม่รู้เหมือนกัน..." กระต่ายมิโดริมะตอบกลับ

    "มิยาจิซังทำไงดีอ่ะ!?" ทาคาโอะถามฟุริฮาตะที่อยู่ในร่างมิยาจิ

    "เอ่อ...ทาคาโอะ...ฉันไม่ใช่มิยาจิซังนะ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ

    "เอ๋?" ทาคาโอะหลุดเสียงออกมาอย่างงงๆ

    "ใช่...เพราะตอนนี้ฉันสลับร่างกับฟุริฮาตะน่ะ!" มิยาจิในร่างฟุริฮาตะเอ่ยออกมา...

    "โดนกันครบเลยนะครับ..." ร่างของเด็กผู้ชายวัยประถมผู้มีเรือนผมสีฟ้าเดินเข้ามาหา

    "นี่นาย...คุโรโกะ!?" ฟุริฮาตะมองเพื่อนตน...ที่บัดนี้กลายเป็นเด็กไปเสียแล้ว

    "ครับ...ผมเอง..." คุโรโกะเอ่ยพร้อมมองฟุริฮาตะสลับกับสองพี่น้องมิยาจิ "...พวกคุณสลับร่างกันเหมือนอาคาชิคุงสินะครับ...แล้วข้างๆ มิยาจิซังนั้นใครน่ะครับ? ไหงใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่ขนาดนั้นล่ะครับ?"

    "นี่น่ะเหรอ?..." มิยาจิชี้ไปที่ยูยะที่สวมเสื้อโค้ดตัวยาวและสวมฮู้ดไว้ "...หมอนี่น้องชายฉัน ส่วนทึ่แต่งแบบนี้เพราะดันมีหูหางโผล่มาน่ะสิ...ตอนนี้เป็นหมาเกือบเต็มตัวเลยล่ะ"

    "อยากมีเรื่องกันใช่ไหม!?" ยูยะแยกเขี้ยวใส่พี่ตนเอง...ที่จริงเขาพูดไปงั้นแหละ เพราะยังไงเขาสู้พี่ตัวเองไม่ได้บวกกับอยู่ในร่างคนอื่นแบบนี้เขาไม่กล้าลงมือเท่าไหร่นักหรอก

    "แล้วใครโดนอะไรกันบ้างเนี่ย?" ฟุริฮาตะมองทุกคนในโรงยิมที่ดูท่าวิญญาณบางคนหลุดออกจากร่างแล้ว

    "เดี๋ยวอาคาชิมาค่อยมาคุยกันดีกว่า ไม่เสียเวลาดี" ร่างของเด็กหนุ่มผมสีเพลิงเดินเข้ามาหาในสภาพ...ที่ดูจะเหมือนคนอายุประมาณยี่สิบกว่า

    "ของคางามิเป็นโตขึ้นสินะ?" ฟุริฮาตะแหงนหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่าปกติในตอนนี้...อา ในอนาคตเขาจะสูงขึ้นแบบนี้ไหมเนี่ย?

    "ตามนั้นแหละ" คางามิหยักไหล่

    "ว่าแต่...กะจะถามตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว...ไอ้คนผมดำที่ยืนอยู่นั่นใครล่ะนั้น?" มิยาจิชี้ไปยังคนที่ไม่คุ้นหน้าเพียงคนเดียวในโรงยิม

    "นั้นเหรอครับ..." คุโรโกะมองไปยังที่จุดที่มิยาจิชี้ไป "...นั้นรุ่นพี่นิจิมุระเป็นคนที่เคยเป็นกัปตันทีมที่เทย์โคก่อนอาคาชิคุงน่ะครับ"

    "แล้วอีกนานไหมเนี่ย? กว่าอาคาชิจะมาน่ะ?" มิยาจิถามต่อ

    "คงอีกไม่นานหรอกครับ..." คุโรโกะมองนาฬิกาที่ผนัง "น่าจะอีก...สิบ...เก้า...แปด...เจ็ด...หก...ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง..."

    ปัง!!!

    เมื่อคุโรโกะกำลังจะเอ่ยเลขสุดท้ายประตูโรงยิมก็ถูกเปิดอย่างแรง ก่อนที่ร่างของเหล่าตัวจริงทีมราคุซันจะวิ่งเข้ามาและปิดประตูลงกลอนอย่างดีทันที

    "มิยาจิซางงง~~~" ฮายามะในร่างอาคาชิพุ่งเข้ากอดมิยาจิในร่างฟุริฮาตะทันที

    "อย่ามาเกาะเลยเฟ้ย!!! ฮายามะ!!!" มิยาจิดันหน้าอีกฝ่ายออก...อย่างขนลุกน้อยๆ กับการเห็นคนรักตนในร่างอาคาชิ

    "ระหว่างทางไม่เจอใครหาเรื่องใช่ไหม?" อาคาชิในร่างฮายามะเมินคู่รักที่เริ่มเถียงกันตามปกติ แล้วมาถามคนรักตน

    "เอ่อ...ก็นับว่าไม่นะ..." ฟุริฮาตะในร่างมิยาจิยิ้มแห้งๆ

    "แสดงว่าก็มีสินะ?" อาคาชิเริ่มทำเสียงเย็นประมาณว่า 'มันเป็นใคร...ฉันจะไปฆ่ามัน'

    "ก็ใช่อยู่...แต่ก็ไม่เป็นไรกันหรอก..." ฟุริฮาตะพยายามทำให้คนรักตนใจเย็นลงก่อนที่จะไปฆ่าใครเขาจริงๆ

    "ใช่...เพราะ...ไอ้พี่บ้ามันให้ฉันจัดการคนเดียวเลย!" ยูยะเอ่ยยืนยันอย่างหนาวส้นหลังนิดๆ จากแรงอาฆาตปานวิญญาณ (?) ของอาคาชิ...ให้ตายเถอะ! พอเห็นหน้าหมอนี่ในสภาพนี้แล้วโคตรหลอน! สู้ดี้ด้าแบบเก่าดีกว่า!

    "งั้นก็ดี..." อาคาชิเก็บรังสีอาฆาตไป "...เอาล่ะทุกคน...มาปรึษาเรื่องปวดหัวเวียนเกล้านี่กันเถอะ"

     

     

     

     

     

    "ตกลงว่าใครโดนอะไรกันมั้ง?" อาคาชิถามขึ้นหลังจากลากทุกคนที่บ้างก็เอะอะโวยบ้างก็เฉยๆ บ้างก็ซึมชนิดรับตัวเองไม่ได้มาล้อมวงคุยกันได้สำเร็จ "ของฉัน...สลับร่างกับโคทาโร่"

    "ฉันสลับร่างกับฟุริฮาตะ" มิยาจิเอ่ยออกมาต่อจากอาคาชิ

    "ของฉัน...ก็ไอ้หูหมานี้แหละ" ยูยะที่ถอดเสื้อโค้ดออกแล้วชี้ที่หูบนหัวตน

    "ส่วนฉัน...ดันกลายเป็นเหมือนผีนี่สิ!" มายุสุมิโวยพร้อมชี้มายังร่างยังเลือนลางของตน...ให้ตายเถอะ! ถ้าไม่ติดว่ายังกินยังเข้าห้องน้ำยังสัมพัสสิ่งต่างๆ ได้เขาคงคิดว่าตัวเองตายแล้วแหง!

    "ถือว่าคุณโชคร้ายแล้วกันครับ...ส่วนผมก็อย่างที่เห็นว่ากลายเป็นเด็กประถมครับ" คุโรโกะบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    "ฉันก็กลายเป็นเด็กเหมือนกันจ้า" มิบุจิที่สวมชุดที่แทบแยกไม่ออกว่าชายหรือหญิงเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

    "ฉันโชคดีสุด แค่ผิวเปลี่ยนสี" เนบุยะที่ตอนนี้ผิวซีดราวคนป่วยหยักไหล่...ยังไงก็สภาพดีสุดในกลุ่มเขาล่ะนะ

    "ฉันแก่ขึ้นมาหน่อยแค่นั้น" คางามิเอ่ย

    "พวกฉันสลับร่างกันเหมือนฟุรินั้นแหละ" คาวาฮาระกับฟุคุดะบอกพร้อมกัน...ยังดีที่พวกเขานิสัยคล้ายๆ กันอยู่บ้างไม่ได้สุดโต่งแบบเพื่อนตนกับคนผมสีน้ำผึ้ง เลยพอหลอนคนอื่นได้บ้าง

    "ฉันซวยสุด...ดันกลายเป็นผู้หญิง!" เด็กสาวผู้สวมแว่นหรือฮิวงะนั้นแหละดูใกล้สติแตกเต็มที

    "ใจเย็นๆ สิฮิวะงะ...ส่วนฉันก็กลายเป็นงี้อ่ะนะ" เสียงของคิโยชิยังลั้นล้าตามปกติ...ทั้งที่ตัวเองตอนนี้กลายเป็นแมวน้ำไปเลยแล้ว แถมยังถูกจับวางไว้ในกะละมังที่ใส่น้ำไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้เคลื่อนไหวได้สะดวกก็ตาม

    "ใช่...อย่างน้อยก็มีฉันกลายเป็นหญิงเป็นเพื่อนน่า" สึจิดะที่กลายร่างเป็นหญิงเหมือนกันตบบ่าเพื่อนตน

    "ส่วนฉันก็ไอ้หูกับหางแมวนี่อ่ะนะ" โคงาเนอิสะบัดหางไปมาอย่างอารมณ์ดี

    "..." มิโตเบะทำท่าทางที่...เดาไม่ออกว่าพูดอะไร แต่แค่ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายกลายเป็นเด็กไปเสียแล้วล่ะ

    "มิโตเบะบอกว่าของฉันเหมือนคุโรโกะน่ะ" โคงาเนะอิแปลให้มิโตเบะตามหน้าที่ (?)

    "ของฉันแค่ผมเปลี่ยนสีน่ะ" อิสึกิจับผมตนที่ตอนนี้เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นสีดำเป็นสีขาวแทน "อ่ะ! ผมเปลี่ยนสีเพราะเลือกกิน...เข้าท่าแฮะ!!!" (変色 ที่แปลว่า การเปลี่ยนสี, การจางลงของสี กับ偏食 ที่แปลว่า การเลือกกินแต่อาหารที่ชอบ ทำให้กินไม่ครบหมวดหมู่ นั้นอ่านว่า henshoku ทั้งคู่จ๊ะ // s)

    "เข้าท่ากะผีน่ะสิ!!!" ฮิวงะกับมิยาจิแว๊ดใส่คนที่เล่นมุขไม่ดูเวล่ำเวลา

    "อย่าเล่นมุขไม่ตลกพาเพื่อนเครียดได้ไหม!?" ฮิวงะแทบอยากลุกไปเขกหัวอีกฝ่ายจริงๆ

    "ถ้าไม่เลิกเล่นอีกเดี๋ยวปั๊ดเอาสับปะรสปาหัวซะนิ!!!" มิยาจที่ถึงอยู่ในร่างฟุริฮาตะก็ยังคงมาน่ากลัวในสายตาคนอื่นอยู่ดี

    "ขอโทษครับ..." อิสึกิเอ่ยก่อนที่จะได้ไอ้ลูกเหลืองๆ ส้มๆ มาประดับหัวจริงๆ

    "น่าๆ อย่าเพิ่งเถียงกันสิ!...ส่วนฉันก็อย่างที่เห็นล่ะนะ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ติดกิ๊บประดับเรือนผมไว้เอ่ย...ดูจากโครงหน้าและการพูดเดาได้ไม่ยากว่านี่คือไอดะ ริโกะโค้ชแห่งทีมเซย์รินนั้นเอง

    "ส่วนฉันไม่ได้โดนอะไรหรอก แค่มาร่วมวงคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้นแหละ" ไอดะ คาเงะโทระเอ่ยพร้อมส่งสายตาหวงลูกไปทั่วโรงยิมแม้ว่าตอนนี้ลูกตัวเองกลายเป็นผู้ชายแล้วก็ตาม...

    ...เอาตามจริงตอนแรกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี้คือลูกสาวตัวเอง จนโดนแถความลับสุดยอดที่ลูกสาวตนรู้คนเดียวมาจนหมดเปลือกนั้นแหละ เขาถึงรู้ว่านี้คือลูกตัวเอง...อย่าให้รู้นะว่าอะไรทำให้ลูกสาวสุดที่รักเขาเป็นอย่างนี้ พ่อจะไปถล่มให้เละเลย!!!

    "ฉันก็อย่างที่เห็น..." มิโดริมะในสภาพกระต่ายสีเขียวเอ่ยออกมาขณะนั่งบนตักทาคาโอะอยู่

    "ของฉันปีกงอก..." ทาคาโอะเอ่ยอย่างปลงในชะตากรรมตัวเองมาก

    "ส่วนฉันกับคิมุระก็...หูหางโผล่มาเนี่ยแหละ" โอสึโบะชี้ที่หูตกๆ ของตัวอะไรสักอย่างของตนเหมือนกับคิมุระที่ชี้ที่หูหมีของตน

    "ส่วนฉันสลับร่างกับคาซามัตสึน่ะ" เด็กหนุ่มในร่างคาซามัตสึเอ่ย...ดูจากหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นเดาได้เลยว่านี้คืออิมาโยชิ

    "อย่าเอาหน้าฉันทำท่าเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้ไหมฟะ!?" คาซามัตสึในร่างอิมาโยชิโวย...ถึงแม้ตนก็ทำหน้าคนอื่นเสียลุดเหมือนก็เถอะ

    "โทษที แต่มันติดนิสัยแล้วล่ะ" อิมาโยชิเอ่ยอย่างไม่สะท้ทสะท้าน

    "นายนี่มัน..." คาซามัตสึไม่รู้จะว่าไงกับรายนี้จริงๆ

    "เอาน่า ทำใจเถอะคาซามัตสึ...ของฉันก็อย่างที่เห็นนี้แหละ ไอ้หูเนี่ย" โมริยามะชี้ที่หูกระต่ายอันใหญ่ที่เด่นบนหัวตน

    "ฉันก็เหมือนโมริยามะนั้นแหละ" โคโบริจับหางจิ้งจอกของตนมากอดเล่น

    "พวกฉันก็กลายเป็นเด็กนี่แหละ..." สองปีสองแห่งทีมไคโจวเอ่ย

    "ส่วนผมซวยสุด...ดันกลายเป็นหญิง!" สาวสวยผมสีเหลืองทำหน้าราวจะร้องไห้กับสภาพตน...ตอนมานี้ก็เกือบโดนฉุนกลทางแหน่ะ!

    "ก็ซวยพอกันล่ะวะ! ฉันก็...กลายเป็นหญิงเหมือนนั้นแหละ!" วากามัตสึโวยลั่นอย่าง...รับตัวเองไม่ได้เท่าไหร่นัก

    "ฉันก็ซวยพอๆ กับพวกนายนั้นแหละวะ!" เสียงของอาโอมิเนะออกมาจากปากเสือดำตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใกล้ "...ของฉันก็กลายเป็นเสือดำนี่แหละ"

    "ฉันก็กลายเป็นเด็กนี่อ่ะนะ" เด็กผมชมพูเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพราะอย่างน้อยตนก็สภาพดีกว่าเพื่อนสมัยเด็กตนล่ะ

    "ฉันก็เป็นงี้ล่ะนะ...หน้าแก่กว่าเดิมเยอะเลย" ซุสะชี้หน้าตนที่ดูจะปานเข้าไปสามสิบย่างสี่สิบ

    "ส่วนผมก็ตัวหดครับ...ขอโทษครับ! ผมขอโทษครับ!" เสียงของซากุไรที่ตัว้ท่าตุ๊กตาบาบี้ดังขึ้นมาจากไหล่ของวากามัตสึ...ที่ดูเหมือนว่าดูจะมีสกิลมือจิ้งจกแน่ถึงได้เกาะได้อย่างสบายๆ เนี่ย

    "ง่ำๆ ของฉันก็อย่างที่เห็น..." มุราซากิบาระพูดพร้อมกินขนมไป...ในร่างที่สูงใกล้ๆ กับคุโรโกะ "...แต่ดูเหมือนของฉันจะโดนลดอายุมากกว่าคุโระจินนะ ถึงเหลือตัวนี้เนี่ย"

    "แน่ใจเหรอครับว่าตอนคุณอายุประมาณนี้ไม่ได้สูงเท่าผม?" คุโรโกะเอ่ยอย่างฉุนเล็กๆ กับคำที่เหมือนบอกอ้อมๆ ว่าเขาเตี๊ย

    "แน่สิ...ก็ตอนนั้นฉันสูงกว่าชาวบ้านจนโดยเข้าใจว่าอายุมากกว่าอายุจริงเสมอเลยน่ะ" มุราซากิบาระตอบก่อนที่จะกินขนมต่อ

    "กลายเป็นคนแก่น่ะ" โอคามุระบอกพร้อมชี้ผมตนที่แทบขาวทั้งหัว

    "ส่วนอั๊วก็..." หลิวยิ้มแห้งๆ กับสภาพของตน

    "...ตัวติดกันแบบนี้ไงฟะ!!!" ฟุคุอิอยากบ้าตายกับสภาพที่หลังมือของพวกเขาติดเป็นแผ่นเดียวกันแบบนี้!!!

    "ส่วนฉัน...เป็นผู้หญิง" ฮิมุโระเอ่ยเหมือนทำใจไม่ได้อย่างแรงกับสภาพนี้

    "เอาน่าๆ อย่างน้อยก็ดูดีล่ะน่าทัตสึยะ" นายหน้านก (แอ๊ด! #โดนถีบ // s) นิจิมุระปลอบสาวหน้าหวาน (?)

    "มาเป็นเองไหมชู?" ฮิมุโระเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ

    "ไม่เอา แค่นี้ก็แย่แล้ว..." นิจิมุระในสภาพ...ที่มีดอกไม้พรุกขึ้นรอบๆ เอ่ย

    "ของชูนี่มันอะไรเนี่ย?" ฮิมุโระถามพลางมองดอกไม้ที่ขึ้นรอบๆ ตัวอีกฝ่าย

    "ไม่มีอะไรมา...แค่ไอ้ดอกไม้บ้านี้มันต่อให้ถอนทิ้งกี่ครั้งก็จะมาเลื้อยขึ้นรอบตัวแบบนี้ตลอดเลย!" นิจิมุระอย่างบ้ากับเหตุการณ์นี้จริง...นี้เขาแทบเป็นวัถุตโบราณ (?) ที่ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นแล้วนะโว้ย!!!

    "กรุณาเลิกเถียงกันก่อนครับทั้งสองคน...ว่าแต่ทั้งสองรู้จักกัน?" อาคาชิในร่างฮายามะเอ่ยห้ามทัพทั้งสองก่อนถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอดีตกัปตันของตนกับตัวจริงทีมโยเซ็นคนนี้ดูสนิกกันเกินกว่าเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก

    "ใช่" ทั้งสองตอบพร้อมกันทันที

    "ไปรู้จักกันตอนไหนเนี่ย? ไหงฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย!" คางามิถามพี่ชายร่วมสาบาน...ที่ตอนนี้กลายเป็นพี่สาวไปเสียแล้วของตนอย่างงุนงง

    "ตอนที่ฉันเจอกับชูครั้งแรกนายกลับมาที่ญี่ปุ่นแล้วนี่นา ก็เลยไม่รู้จัก" ฮิมุโระตอบคนผมสีเพลิง

    "...แล้วรุ่นพี่นิจิมุระไปรู้จักกับมุโระจินได้ไงอ่ะ?" มุราซากิบาระถาม ก่อนที่จะหันไปขอขนมจากฮิมุโระเมื่อขนมของตนหมด "มุโระจินๆ ขอหนมหน่อยสิ"

    "นายอย่าถามคนอื่นไปด้วยแล้วขอขนมไปด้วยสิ..." ฮิมุโระยิ้มอย่างอ่อนใจก่อนที่จะหยิบขนมให้เด็กโข่งที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กจริงๆ ไปแล้ว

    "ฮิมุโระอย่าตามใจหมอนี่นักสิ..." ฟุคุอิเอ่ยขึ้นตามปกติ...จนเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว

    "ฟุคุจินใจร้ายยย" มุราซากิบาระทำแก้มป่องอย่างงอนน้อยๆ ที่ทั้งทีมโยเซ็นเห็นกันจนหน่าย

    "เอ้าๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิ...ตอนนี้อั๊วอยากรู้มากกว่าว่าฮิมุโระไปรู้จักกับรุ่นพี่ของมุราซากิบาระได้ไงน่อ" หลิวเอ่ยออกมา

    "นั้นสิ...ตกลงพวกนายไปรู้จักกันได้ไงกัน?" คางามิถาม

    "พอดีตอนไปอเมริกาช่วงแรกๆ มีเรื่องกับพวกอัตพาตเข้าน่ะ แล้วทัตสึยะก็เข้ามาช่วย...จากนั้นก็เลยสนิกกันน่ะ" นิจิมุระตอบคำถามให้แก่คางามิ

    "พอเดาสภาพพวกนั้นออกเลย..." มุราซากิบาระรู้ดีว่ารุ่นพี่ไม่ใช่พวกฝีมือกระจอกนัก แถมฮิมุโระก็นิสัยขัดกับหน้าตาดังนั้นเลยเดาได้เลยว่าอัตพาตพวกนั้น...อยู่ในสภาพที่คำว่าเละยังน้อยไปแน่

    "เรื่องนี้ช่างมันก่อนเถอะ...ตกลงมีคนโดนไอ้ผลบ้าๆ นี้แค่นี้ใช่ไหม?" มิยาจิดูท่าจะไม่สนใจเรื่องของนิจิมุระกับฮิมุโระนัก...ตอนนี้เขาอยากหาวิธีแก้ไอ้สภาพบ้าๆ นี่มากกว่า!!!

    "ป่าว...เหลือนี่อีกคน..." นิจิมุระคีบบางอย่างสีเทาๆ ขึ้นมา "...ไฮซากิไงล่ะ"

    "เอ๋? โชโงะคุงเหลือตัวเล็กแค่นี้เองง่ะ!" คิเสะมองคนที่นิจิมุระคีบมา

    "ก็ใช่สิ! ไอ้บ้า!!!" ร่างเล็กๆ เท่าไม้หนีบผ้าโวยใส่เด็กสาว (?) ผมเหลือง

    "ไฮซากิ? นายเปลี่ยนไอ้ทรงไส้เดือนของนายแล้วเหรอ?" อาโอมิเนะถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทรงผมและสีผมอีกฝ่ายเปลี่ยนไป

    "เขาเรียกทรงเดสร็อกเฟ้ย! ไม่ใช่ทรงไส้เดือน! แล้วฉันไม่ได้เปลี่ยนเองด้วย! นิจิมุระซังเป็นคนลากฉันไปเปลี่ยนกลับมาเป็นทรงเนี่ย!!!" ไฮซากิโวยนิดหน่อยเรื่องที่ทรงผมที่ไว้และย้อมเป็นสีดำตลอดหนึ่งปีถูกรุ่นพี่สมัยเทย์โคของตนเปลี่ยนเป็นทรงเดิมเมื่อสมัยเทย์โค...โดนการล็อกคอเขาลากไปร้านบ้านไอ้แว่นกัปตันทีมเซย์รินนี่แหละ!!! ไม่ถามความสมัครใจเขาสักนิด!!!

    "แต่ก็ดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเดิมน่า" นิจิมุระไม่สนใจเสียงโวยวายเท่าไหร่นัก

    "ถึงว่าสิ...ว่านายทำไมอยู่ๆ นึกที่จะเปลี่ยนทรงผม..." ฮิวงะพูดขึ้น...เพราะรอบที่ไฮซากิไปตัดผมนั้นฮิวงะมาช่วยพ่อตัวเองพอดี และฮิวงะนี้แหละที่เป็นคนตัดผมให้ไฮซากิ "...แต่ตอนนั้นก็ไม่เห็นนายโวยอะไรนิ"

    "รุ่นพี่ครับ...ไฮซากิคุงไม่ใช่ไม่โวยแต่โวยไม่ได้มากกว่าครับ" คุโรโกะพูดขึ้นอย่างรู้ดีว่า...ไฮซากิตลอดมาแพ้แต่นิจิมุระ ชูโชวคนนี้

    "ช่ายยย ไม่งั้นได้ขนมตุ๊บตั๊บ" อาโอมิเนะกระดิกหางไปมาอย่างไม่แปลกใจนัก

    "ดูท่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติสินะ?" ทาคาโอะถามกระต่ายบนตักตน

    "ใช่...เพราะไฮซากิแพ้นิจิมุระซังตลอดกาล" มิโดริมะตอบ

    "ไม่ได้แพ้เฟ้ย! แค่สู้ไม่ได้!!!" ไฮซากิโวยกลับ

    "มันก็เหมือนกันแหละ!" มิยาจิที่นึกสนุกอะไรไม่รู้รวมวงกะเขาด้วย

    "เอ้าๆ! นอกเรื่องอีกล่ะ! กลับเข้าเรื่องเดิมได้แล้ว!" คาเงะโทระเรียกทุกคนกลับมายังปัญหาเดิมอีกครั้งแทนมิยาจิที่เหมือนใกล้จะออกนอกเรื่องตามคนอื่นแล้ว

    "คร้าบบบ" ทุกคนขานรับก่อนที่จะเริ่มมาปรึษากันว่ามีอะไรบ้างที่น่าจะเป็นสาเหตุของเรื่องนี้

    "งั้นเริ่มเลยแล้วกัน...ตกลงเมื่อวานมีอะไรแปลกจากปกติไหม?" คาเงะโทระเริ่มถามจากเรื่องง่ายๆ ก่อน

    "ก็ไม่น่ามีอะไรนะ..." ทุกคนตอบออกมา

    "ลองคิดดีๆ สิ...เรื่องเล็กน้อยอย่างเดินตกท่อก็ได้..." คาเงะโทระย้ำอีกครั้ง เพราะมันอาจเกี่ยวโยงกับที่เรื่องแปลกๆ นี้เกิดขึ้นก็ได้

    "อ่ะ!" โค้ชแห่งเซย์รินดูท่าจะคิดบางอย่างออก

    "คิดอะไรออกเหรอ?" ฮิวงะถามเพื่อสาวที่กลายเป็นผู้ชายของตน

    "พัสดุ! เมื่อวานมีพัสดุมานิ!" ริโกะเอ่ยอย่างเพิ่งนึกออก

    "พัสดุ? ไอ้ที่เหมือนมีคนมาแกล้งเล่นอ่ะนะ?" คิโยชิถาม

    "พวกนายก็ด้วย? ...ทางพวกฉันก็ได้เหมือนกัน!" คาซามัตสึเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ก็นึกออกมาตนก็ได้พัสดุแปลกๆ เมื่อวานเหมือนกัน

    "พวกฉันด้วย..." โอสึโบะรู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้น

    "ได้เหมือนกัน!" ฟุคุอิจำได้ว่าตนเป็นคนรับมันมากะมือ

    "ฉันก็ได้" นิจิมุระเอ่ยขึ้นมา...ได้ตอนไปลากไฮซากิมาออกจากห้องนอนตามที่กัปตันทีมที่มันอยู่ขอให่วยนั้นแหละ

    "ผมด้วย..." อาคาชิคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่

    "พวกฉันก็...ได้เหมือนกัน" อิมาโยชิเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ แล้ว...ยังกะเจาะจงที่พวกเขางั้นแหละ

    "ตกลง...ไอ้พัสดุที่ว่ามันคืออะไร?" คาเงะโทระถามขึ้น

    "ก็แค่พัสดุ...ที่ไม่มีอะไรในกล่องเลยนอกจากจดหมายแปลกๆ แต่พอเห็นมันว่างเปล่าก็เลยคิดว่ามีคนมาแกล้งเล่นเลยไม่ได้สนใจอะไรน่ะค่ะ" ริโกะตอบพ่อของตนเอง ก่อนที่จะรีบดันหน้าพ่อตัวเองเมื่อคาเงะโทระพุ่งเข้ากอดลูกตนตามปกติ

    "แล้วพัสดุนั้นยังอยู่หรือเปล่า? ลองเอามาดูสิ...เผื่อมีอะไรที่ทำให้เรื่องนี้กระจ่างขึ้นบ้าง" คาเนะโทระลูบหน้าตัวเองน้อยๆ ...ไม่ว่าลูกตนจะเป็นหญิงหรือชายก็เหมือนเดิม เหมือนเขาที่ยังติดลูก (?) ตามปกตินั้นแหละ

    "ยังอยู่คร้าบ! เดี๋ยวไปหยิบมาให้!" โคงาเนะอิเอ่ยพร้อมวิ่งไปหยิบกล่องพัสดุที่ว่านั้นทันที...

    ...และจากนั้นห้านาทีโคงาเนะก็กลับมาพร้อมกล่องขนาด 12 × 12 นิ้วในมือ

    "นี่ครับ!" เด็กหนุ่มที่มีหูแมวโผล่มาเอากล่องว่างลงกลางวง

    "ไหน...ดูสิ..." คาเงะโทระเปิดกล่องดู...ก็พบว่ามันมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ตามที่ลูกตนว่า จึงหยิบขึ้นมาเปิดอ่านพร้อมพูดอกมาเสียงดังฟังชัดเพื่อให้ได้ยินกันทั่วถึง "...ถึงใครก็ตามที่อ่านจดหมายฉบับนี้...ทุกคนคงแปลกใจกันสินะว่าในกล่องทำไมไม่มีอะไรเลย? เพราะในกล่องนี้ใส่สารบางอย่างซึ่งทำให้เกิดผล...

    ...คงเดากันออกนะ? เพราะกว่าจะเปิดดูคงโดนผลกันหมดแล้ว สารนี้จะมีฤทธิ์กับคนที่อยู่ในบริเวณี่เปิดกล่องนั้นนานเกินสามนาที

    ...สารนี้มันจะมีผลภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง...ไม่ต้องห่วงว่าเปิดรอบสองจะเกิดอะไรขึ้นอีกเพราะมันใช้ได้ครั้งเดียว และผลจะหายไปนั้นเมื่อผ่านไปสักวันสองวัน

    ...ขอให้โชคดีกันทุกคนนะ...by...shiko akaki"

    "..." ทุกคนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินก่อนที่จะตะเบ็งเสียงออกมา "ยัยชิโกะ!!! ขี้เกียจคิดมุขจนเล่นแบบนี้เลยเหรอ~~~~!!!"

    "โอ้ย! จะบ้าตาย..." อาคาชิถึงกับมาดหลุดเพราะไม่คิดว่าจะมามุขนี้...

    ...แบบนี้จะทำอะไรได้!!! ถ้าเป็นคนอื่นยังไล่กวดได้...แต่เป็นเธอฉันจะทำอะไรได้กัน!!! พอจะไล่เชือด (?) ก็แว่บหนีหรือไม่ก็เขียนบทแย่ๆ ให้เนี่ย!!!...

    "สรุป...ต้องปลง" ฟุริฮาตะถึงได้รับบทซวยมาเยอะ...แต่นี่มันเกินไปไหม!?

    "เอาน่าๆ เดี๋ยวเลี้ยงข้าว..." เสียงหนึ่งดังมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ทุกคนสะดุ้งและมองหาต้นเสียง...แต่ไม่พบ ถึงกระนั่นก็จำได้ดีว่านี่เสียงใคร

    "ชิโกะ!"

    "จ้า~~~" เราลากเสียงแกล้งชาวบ้านเล่น

    "ทำไมเขียนบทได้...สุดๆ แบบนี้ฟะ!?" มิยาจิถามอย่าง...ใกล้สติแตก

    "ไม่รู้...มันนึกขึ้นมาได้เอง...นึกได้ปุ๊บก็เขียนเลย..." เราตอบตามจริง...เพราะขี้เกียจคิด (?)

    "คุณนี่มัน..." คุโรโกะไม่รู้จะพูดยังไงเลย

    "เอาน่าๆ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวหนึ่งวันเต็มๆ เลยเอ้า!" เราพูดอย่างลงทุนสุดๆ ...งานนี้เงินบินออกจากกระเป๋าหมดแน่

    "ก็ได้..." ทุกคนตอบอย่างจำใจ...

    ...หึ! ค่อยดู...จะล้างท้องกินล้างกินผลาญเลยค่อยดู!!! เอาให้เงินหมดกระเป๋าเลย!!!...

    "งั้นเราไปล่ะ!"

    "ไปไหนก็ไปเลย!!!" เสียงแว๊ดไล่ส่งก่อนที่ตัวเราจะมาเขียนต่อ = v =

    "เฮ้อ..." ทุกคนถอนหายใจอย่างปลงกับเรื่องนี้

    "เอาเป็นว่าเราหาทางรอดวันสองวันนี้ก่อน แล้วค่อยไปผลาญเงินชิโกะเป็นการแก้แค้นแล้วกัน..." อาคาชิเอ่ยออกมาเป็นข้อสรุปของเรื่องนี้

    "ตกลงตามนั้นครับ...ตอนนี้เราควรหาที่อยู่ที่คนรู้จักจับไม่ได้สินะครับ? ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่" คุโรโกะเอ่ยพร้อมคิดหาทางแก้

    "ไม่เฉพาะคนรู้จักหรอก แต่ต้องทุกคนมากกว่า..." มายุสุมิเอ่ยพร้อมมองมือตน...ในสภาพนี้ใครมาเจอได้ซ็อกตายกันแน่

    "งั้นเอาเป็นว่า..." ระหว่างที่มิบุจิกำลังจะเสนอก็มีเสียง...

    ปัง! คลุกๆ! โครม!

    ...เสียงบางอย่างพุ่งชนหน้าต่างโรงยิมจนเปิดออก พร้อมกับร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งกลิ้งมาชนกะละมังที่คิโยชิอยู่จนกะละมังแทบคว่ำ

    "อะไรอีกเนี่ย?" คิโยชิบ่นกับตัวเองก่อนมองสิ่งที่กลิ้งมาชนกะละมังที่ตนอยู่ "อ้าว? แมวมาจากไหนเนี่ย?"

    "คิโยชิ!?" เสียงที่ออกจากปากแมวดำที่กลิ้งมาชนกะละมังนั้นทำทุกคนชะงั้น...เพราะเสียงนี้คือเสียงของฮานามิยะ มาโคโตะ "ไหงแกกลายเป็นแมวน้ำฟะ!?"

    "เฮ้ย! นายโดนด้วยเหรอวะ!?" ฮิวงะมองแมวดำที่ตอนนี้เกาะกะละมังมองแมวน้ำอยู่

    "หื้อ?" ฮานามิยะในร่างแมวดำหันมองเด็กสาวผมดำ "ใครหว่าดูคุ้นๆ ...เฮ้ย! หรือว่า...เจ้าแว่น!?"

    "เรียกใครว่าเจ้าแว่นฟะ!? เดี๋ยวเตะกลิ้งนิ!!!" ฮิวงะโวยใส่คนที่กวนโมโหตนได้ตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ในสภาพไหน

    "...ใช่จริงๆ ด้วย" ฮานามิยะตอนแรกว่าอีกฝ่ายคือกัปตันของทีมเซย์รินหรือเปล่า...แต่โดนตอบกลับแบบนี้ใช่ชัวท์ "ตกลงนี้มันบ้าอะไรฟะ!?"

    "ไม่มีอะไรมากหรอก...แค่โดนชิโกะแกล้งน่ะ..." คิโยชิตอบฮานามิยะ

    "...ยัยบ้าชิโกะ!!! ยัยความคิดสั้น!!! ยัยกระดูกสั้น!!! ยัยคนโตช้าเป็นเต่าล้านปี!!! ยัยสมองน้อย!!! ยัย...ยัย...โธ่เว้ย!!!" ฮานามิยะแว๊ดลั่นเมื่อรู้ว่าต้นเหตุมาจากอะไร...เพราะแค่นี้ก็เดาออกแล้วว่าเขาต้องซวย!!!

    "เอ้าๆ ใจเย็นๆ สิ...ฮานะจัง" มิบุจิอุ้มแมวที่ดูใกล้จะดิ้นแล้วขึ้นมา

    "นี่...มิบุจิ!?" เจ้าแมวดำมองคนอุ้มตั้งแต่หัวจรดเท้า "แกกลายเป็นเด็กกระเปี๊ยกเหรอวะ!?"

    "พูดไม่ดูตัวเองเลยนะฮานะจัง...ตอนนี้ตัวเล็กกว่าฉันอีก" มิบุจิหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่จะหันไปคุยกับคาเงะโทระ "แล้วจะเอาไงต่อดีครับ? แบบนี้จะให้อยู่ตัวใครตัวมันคงไม่ไหวหรอก ผมว่ารวมกลุ่มไว้จะดีกว่านะครับ มีอะไรจะได้ช่วยกันได้"

    "ก็จริง...แต่เกาะกลุ่มใหญ่เกินก็สะดุ้งตาเดินไป" คาเงะโทระลูบคางตนอย่างครุ่นคิด "เอางี้ไหม? อยู่กันอย่างล่ะสองคนแล้วก็ไปทางใครทางมัน จะมีจับสามคนกลุ่มหนึ่ง...ส่วนใครไม่รู้ว่าจะอยู่กับใครก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวจัดกลุ่มให้ โอเคไหม?"

    "ครับ~~" ทุกคนไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธก็เลยขานรับข้อเสนอของคนอายุมากที่สุดในที่นี้ แล้วพากันจัดกลุ่มดังนี้...ด้วยเหตุที่ดูเหมือนจำใจกลายๆ ด้วย...

    ...อาคาชิกับฟุริฮาตะ...เพราะอาคาชิไม่ยอมให้คนรักตนไปกับคนอื่น

    ...ฮายามะกับมิยาจิ...เนื่องจากฮายามะงอแง เลยทำให้ต้องจับคู่กันแทนที่จะคู่กับยูยะตามที่มิยาจิกะไว้ตอนแรก

    ...คางามิกับคุโรโกะ...กันคุโรโกะแว่บหาย และถ้าเกิดคุโรโกะหายจริงๆ คางามิก็มักตามหาคุโรโกะเจอบ่อยกว่าคนอื่น

    ...มุราซากิบารกับฮิมุโระ...ด้วยเหตุว่ามีเด็กติดผู้ปกครองก็เลยเป็นเช่นนี้

    ...หลิวกับฟุคุอิ...มือติดกันเลยแยกกันไม่ได้

    ...มิโดริมะคู่กับทาคาโอะ...เพราะมิโดริมะบอกว่าลักกี้ไอเทมวันนี้คือปีกนก ส่วนของทาคาโอะคือกระต่ายก็เลยคู่กันเอง...บวกกับว่าต่อให้ดวงวันนี้ของอับโชคคืออะไรก็ตามก็จะไม่ยอมให้คู่หูตนไปอยู่กับคนอื่นนั้นแหละ

    ...มิบุจิกับมายุสุมิ...ด้วยเหตุผลเดียวกับคางามิและคุโรโกะ

    ...อาโอมิเนะกับคิเสะ...เพราะอาโอมิเนะกลัวแฟนตนถูกฉุดก็เลยจะตัวติดกันเป็นตังเมเลย

    ...วากามัตสึกับซากุไร...ด้วยเหตุว่าคู่นี้อยู่ด้วยกันก็ไม่มีทางทะเลาะกันแน่นอน

    ...อิมาโยชิกับคาซามัตสึ...เนื่องจากคาซามัตสึกลัวว่าอิมาโยชิจะทำอะไรแผลงๆ กับร่างตนก็เลยเลือกที่จะตามติดซะเลย

    ...โมริยามะคู่กับอิสึกิ...เพราะโมริยามะเมื่อได้ยินว่าให้อยู่เป็นคู่ก็จองอิสึกิเลยทันที แบบกลัวคนแย่งอย่างนั้นแหละ

    ...คิโยชิกับฮิวงะ...อันนี้เนื่องจากฮิวงะกลัวอีกฝ่ายไปโดนหมาจับกินเข้า (?)

    ...มิโตเบะกับโคงาเนะอิ...คุยกันรู้เรื่องอยู่กันแค่สองคน

    ...นิจิมุระกับไฮซากิ...เพราะนิจิมุระบอกว่าต้องคุมเจ้าตัวก่อเรื่องนี่

    ...ฟุคุดะกับคาวาฮาระ และสองปีสองของไคโจวเลือกจับคู่กันเองเนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับคู่ให้

    ...สุดท้ายที่เหลือไม่รู้จะคู่กับใครเลยรอให้คาเงะโทระจับให้

    "เหลือแค่นี้สินะ?..." คาเงะโทระมองคนเหลืออยู่ "...งั้นเริ่มจากริโกะตันลูกรักเลย...คู่กับแม่หนูผมชมพูนี่แล้วกันนะ"

    "ไหงงั้นอ่ะป๊า!" ริโกะเบ้หน้านิดหน่อยเมื่อรู้ว่าตนได้คู่กับโมโมอิ

    "ง่ายๆ ...เพราะพ่อไม่มีทางให้ลูกอยู่กับไอ้พวกนี้หรอก!!!" ทาเงะโทระที่อาการหวงลูกเริ่มออกส่งสายตาเฉือดเฉือกใส่ชาวบ้านเขา

    "งั้นก็ได้..." ริโกะถอนหายใจ...ถึงเธอไม่อยากคู่กับโมโมอิเท่าไหร่นักเพราะพอเจอหน้ากันทีไรอีกฝ่ายมักมองเธอแปลกๆ แต่ถ้าเธอเถียงต่อและได้คู่กับผู้ชายจริงๆ มีหวังพ่อได้เอาปืนมาไล่ขู่แน่...ลืมไปหรือเปล่าว่าตอนนี้เธออยู่ในร่างผู้ชายน่ะ!!! โดนอะไรก็ไม่ท้องหรอก!!! (หวงตัวบ้างเถอะ ถึงเป็นชายแต่ในนี้มันวายนะจ๊ะ // s)

    "โอเคนะจ๊ะ...ต่อไปไอ้ทาเคชิคู่กับไอ้คางหนา" คาเงะโทระชี้ที่สึจิดะและโอคามุระ

    "แฮะๆ เลิกตั้งชื่อเล่นให้คนอื่นเถอะครับ" สึจิดะถึงชินแล้วแต่มันก็แปลกๆ นะพอฟังคำเรียกของโอคามุระเนี่ย

    "ค...คางหนาเหรอ..." โอคามุระเริ่มที่จะง่อยลงเมื่อได้ยินคำนี้ตามเสต็ป

    "ยังไม่ชินหรือไง?" ฟุคุอิดูจะไม่เห็นใจเพื่อนตนแถมยังตอกย่ำอีก

    "นั้นสิน่อ" หลิวร่วมวงอีกคน

    "ฮือ...พวกนายใจร้ายมาก..." โอคามุระเริ่มเข้าไปในหลุมดำแล้วครับพี่น้อง

    "เอาน่าๆ" สึจิดะตบไหล่ปลอบเบาๆ

    "เป็นงี้บ่อยเหรอ?" มิยาจิเริ่มคิ้วกระตุกเมื่อเห็นแบบนี้...มันอยากขว้างรองเท้าไปสักข้าง

    "ประจำ" ฟุคุอิยักไหล่อย่างเคยชิน

    "เอาๆ! เลิกคร่ำครวญได้แล้ว! ต่อไปไอ้หัวตั้งคู่กับไอ้หัวโล้นแล้วกัน!" คาเงะโทระชี้ไปยังผู้เคราะห์ร้ายคนต่อไป

    "หัวตั้ง?" โอสึโบะลูบหัวตนหน่อยๆ เมื่อถูกเรียกว่าหัวตั้ง

    "โล้น?" คิมุระเหวอนิดๆ ...เขาเรียกทรงสกิลเฮดนะ! ไม่ใช่โล้นเสียหน่อย!

    "อย่าบ่น! ฉันจะเรียกอะไรก็เรื่องของฉัน! ต่อไปไอ้ออร่าคนดีกับไอ้หน้าเกินอายุ!" คาเงะโทระก็ตั้งชื่อให้ชาวบ้านต่อไป

    "ออร่าคนดี? ฟังแปลกๆ แฮะ" โคโบริรู้สึกว่าถูกเรียกแบบนี้มันจี้ชะมัด

    "หน้าเกินอายุ?" ซุสะลูบหน้าตนเมื่อถูกเรียกอย่างนี้...เขาไม่ได้หน้าแก่นะ! แค่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุเอง!!!...แต่จะว่าไปตอนนี้ก็หน้าแก่เกินอายุจริงๆ นั่นแหละเขา

    "ส่วนที่เหลือสามหน่อก็อยู่ด้วยกันไปซะ..." คาเงะโทระสรุปดังนี้ก่อนที่จะเอาเด็กหญิงผมชมพูและลูกตนแบกขึ้นบ่า "...ฉันขอพาสองคนนี้กลับบ้านล่ะ...หนีงานมาไม่ได้บอกใครด้วยสิ พวกแกหาทางไปกันเองแล้วกัน"

    ...แล้วคาเนะโทระก็เดินจากไปโดยทิ้งให้ที่เหลือหาทางจัดการชีวิตตัวเอง

    "เอาไงต่อ?" มิยาจิถามขึ้นพร้อมเหลือบมองน้องชายตนเป็นระยะๆ ...เนื่องจากรู้สึกสังหรณ์ว่าสามคนนี้อยู่ด้วยกันอาจเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นก็ได้ แถมเป็นเรื่องไม่ค่อยดีด้วย

    "ตามที่คาเงะโทระซังบอกนั่นแหละ...เอาเป็นว่ามิยาจิซังกับโคทาโร่ไปอยู่บ้านโคกิ ส่วนผมกับโคกิจะไปอยู่บ้านมิยาจิซังจะได้ไม่มีใครผิดสังเกต..." อาคาชิเริ่มแจกแจง "...เท็ตสึยะไปอยู่บ้านคางามิ ส่วนคนอื่นๆ พิจารณาหาที่ที่หลบคนรู้จักได้กันเองแล้วกัน"

    "ตามนั้น" ทุกคนที่ขี้เกียจคิดให้เสียเวลาขานรับ และแยกย้ายไปทางใครทางมันเลยเพราะไม่อยากถูกเจอในสภาพพิลึกๆ แบบนี้

    "เดี๋ยว..." มิยาจิที่อยู่ในร่างเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเรียกน้องชายของตน

    "มีไรพี่?" ยูยะที่อุ้มแมวดำ...หรือฮานามิยะนั้นแหละไว้เอ่ยถาม

    "...ถ้าเกิดเรื่องอะไรก็เผ่นให้เร็วเลยเข้าใจไหม?" มิยาจิเอ่ยในสิ่งที่...ทำให้ยูยะเส้นเลือดปูดขึ้นมาน้อยๆ

    "ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ!!! ที่ต้องมาเตือนแทบทุกครั้งเนี่ย!!!" ยูยะอยากจะเขกหัวพี่บัดเกิดเกล้าเสียทีจริงๆ ...ติดแต่ถ้าทำอาจได้ลูกมะกรูดกลับมานี่สิ

    "แค่บอกไว้ก่อน" มิยาจิยักไหล่ก่อนที่จะเดินไปกับฮายามะ เช่นเดียวกับคนที่มองสองพี่น้องคุยกันและพากันทะยอกออกไปจนหมด

     

     

     

     

     

    "ดูท่ามิยาจิซังจะชอบมิยุมิยุมากเลยแฮะ..." อาคาชิกวาดตาไปทั่วห้องของมิยาจิโดยมีฟุริฮาตะที่ยืนราววิญญาณออกจากร่างอยู่ข้างๆ

    ย้อนไปเมื่อสิบนาทีก่อนเมื่อทั้งสองถูกมิยาจิ คิโยชิย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามทำบ้านตนพังเด็ดขาดและถูกถีบเข้ามาในบ้านพร้อมเสียสั่งว่าห้ามเปิดประตูให้ใครเด็ดขาด ถ้ามีใครมาหาให้แกล้งทำเป็นไม่อยู่บ้านซะ

    หลังจากที่มิยาจิเดินจากไปอาคาชิก็นึกสนุกอะไรไม่รู้อยากลองดูว่าห้องมิยาจินั้นเป็นไงก็เลยลากฟุริฮาตะไปดูด้วยกัน...และทุกอย่างนี้ก็คือจุดเริ่มของเหตุการณ์ในปัจจุบัน

    "...มิยาจิซังเป็นแฟนพันธ์แท้ขนาดนี้เลยเหรอ?" ฟุริฮาตะที่สติเข้าร่างยังไม่ครบเอ่ยออกมา...เพราะเมื่อเช้าเขาเมาขี้ตาและตอนโดนไล่มาเปลี่ยนชุดมันรีบเลยไม่ทันสังเกตว่าห้องของมิยาจิ คิโยชิเป็นแบบนี้!!!

                   "เล่นสะสมซะขนาดนี้ก็คงใช่ล่ะนะ" อาคาชิตบบ่าคนรักตนที่ดูจะซ็อกกับสภาพห้องที่เต็มไปด้วยโปรเตอร์ ซีดี และอีกสารพัดมากมายของมิยุมิยุ...ขนาดเขายังเอ๋อกินหน่อยๆ เลย ใครจะคิดว่าอย่างรายนั้นจะมีมุมแบบนี้ล่ะ

    "เรารีบออกจากห้องเถอะ...ฉันหลอน..." ฟุริฮาตะพอนึกภาพมิยาจิในสภาพคลั่งไคล่ในงานคอร์เสิรก์แล้วยิ่งหลอน

    "นั้นสินะ..." อาคาชิก็หลอนไม่แพ้กันจึงลากฟุริฮาตะลงไปนั่งเล่นในห้องรับแขก...และสิงในห้องนั้นเลย

    "อาคาชิ..." ฟุริฮาตะเอ่ยเรียกคนข้างกาย

    "ว่าไง?" อาคาชิขานรับ

    "เบื่อ..." เด็กหนุ่มในร่างคนผมสีน้ำผึ้งฟุบหน้ากับหมอนอิง

    "นั้นสินะ" คนในร่างเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลเอ่ยอย่างเห็นด้วย

    "มาเล่นเกมกันไหม?" ฟุริฮาตะเสนอ

    "ก็เอาสิ" อาคาชิก็ไม่ขัดข้อง "โคกิเลือกเกมมาเลย"

    "งั้นเอาเป็น...เล่นถามคำถามสลับกันไหม? ถ้าใครไม่ตอบถายในยี่สิบวิถือว่าแพ้และตอนทำตามคำสั่งผู้ชนะหนึ่งอย่างด้วย" ฟุริฮาตะในตอนนี้คิดออกแค่เกมนี้

    "ก็ได้...ใครเริ่มก่อนล่ะ?" อาคาชิถามพร้อมยิ้ม...เจ้าเล่ห์ออกมา

    "...ไม่รู้สิ...เป่ายิ้งฉุบกันไหม? ใครชนะเริ่มก่อน..." ฟุริฮาตะคิ้วกระตุกนิดๆ รู้สึกเหมือนจะเจอคำถามชวนเหวอแฮะ

    "อื้ม..." อาคาชิพยักหน้ารับ

    "งั้นก็...เป้ายิ้งฉุบ!" ฟุริฮาตะเอ่ยพร้อมออกกระดาษ...โดนที่อาคาชิออกกรรไกรราวกับรู้ทันในความคิดอีกฝ่าย

    "ฉันชนะ..." อาคาชิแย้มยิ้ม "...งั้นเริ่มเลยนะ...ขอถามนายว่า...นายยังเวอร์จิ้นไหม?"

    "ถามอะไรของนายเนี่ย!?" ฟุริฮาตะไม่คิดเลยว่าอาคาชิจะถามคำถามนี้ออกมา

    "ก็ตามที่ได้ยินนั้นแหละ..." อาคาชิยักไหล่อย่างสนุกกับการแกล้งคนรักตน "...รีบตอบสิโคกิ เดี๋ยวหมดเวลานะ"

    "นายคิดยังไงถึงได้ถามงี้เนี่ย!?" ฟุริฮาตะอยากจะบ้ากับคำถามนี้

    "เพราะฉันอยากรู้ไง...และถ้าใครเอาครั้งแรกของนายไปแล้วล่ะก็ฉันจะไปเชือดเจ้านั่นซะ!!!" อาคาชิพูดด้วยเสียงที่แสดงว่า...เอาจริงสุดๆ

    "ฉันยังเวอร์จิ้นอยู่! พอใจยัง!?" ฟุริฮาตะตอบด้วยหน้าแดงๆ

    "จริง?" อาคาชิถาม...ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

    "จริงสิ!" ฟุริฮาตะตอบเสียงหนัก

    "แน่นะ?" อาคาชิเริ่มเผยยิ้มชั่วร้าย (?) ออกมาเรื่อยๆ

    "แน่สิ!!!" ฟุริฮาตะที่ไม่สังเกตรอยยิ้มของอีกฝ่ายยังคงตอบต่อไป

    "งั้นครั้งแรกของนายฉันขอนะ..." อาคาชิเอ่ยออกมาหน้าตาย

    "ได้!!! เฮ้ย! ไม่ใช่นะ! เดี๋ยว..." ฟุริฮาตะเผลอหลุดพูดออกมา กว่าจะสมองจะประมวลผลทันก็สายไปแล้ว

    "ไม่มีทาง...ฉันถือว่านายยอมแล้ว และฉันไม่ยอมให้นายปฏิเสธหรอกนะโคกิ" อาคาชิยิ้มลั้นล้าเหลือหลาย

    "อาคาชิขี้แกล้งอ่ะ!" ฟุริฮาตะทำแก้มป่องอย่างน่ารัก...ซึ้งสำหรับอาคาชิมันขัดตาแปลกๆ เมื่ออยู่ในร่างของมิยาจิ คิโยชิ

    "หึหึ..." ถึงจะขัดตาแต่อาคาชิก็อดหัวเราะกับท่าทางน่ารักของคนรักตนไม่ได้ "น่าๆ ...ตานายแล้วนะโคกิ"

    "อา...งั้นเอาเป็น..." ฟุริฮาตะที่ปัดเรื่องเมื่อครู่ทิ้งไปแล้วทำท่าครุ่นคิด "...อาคาชิถ้าระหว่างกินอาหารฝีมือโค้ชกับวากาเมะจะเลือกอะไร?"

    "อาหารฝีมือริโกะซัง" อาคาชิตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด เพราะเขาเกลียดสาหร่ายสุดชีพ...แม้ที่เขาเลือกถ้ากินอาจถึงตายก็เถอะ

    "...เกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ?" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ...เพราะข้อที่อาคาชิเลือกข้องข้างสยองอยู่นะ

    "ใช่..." อาคาชิไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองเลย แต่ก็ไม่วาย... "...แต่ถ้านายป้อนให้แบบปากต่อปากฉันก็ยอมกินนะ~~~"

    "อ...อา~~" ฟุริฮาตะหน้าร้อนพล่านขึ้นมา...เขาคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่เล่นเกมนี้? "เอ่อ...เล่นเกมต่อเถอะ..."

    "หึหึ...ก็ได้..." อาคาชิขพนิดหน่อยกับการเปลี่ยนของอีกฝ่ายที่ไม่เนียนเอาซะเลย "...ตาฉันสินะ งั้นเอาเป็น...นายยอมให้ฉันกดทันทีที่กลับร่างได้ไหม?"

    "ห๊า!?" ฟุริฮาตะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...ให้ตายเถอะ! ก่อนมานี้หัวไปกระแทกอะไรมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย!? ถามแต่ละอยากเอาธรรมดาหน่อยก็ไม่ได้!!! "ไม่มีทางล่ะ!"

    "ทำไมล่ะ?" อาคาชิเริ่มทำหน้าหงอย...ที่แน่นอนเจ้าตัวจงใจทำเพื่อเรียกคะแนนความเห็นใจจากคนใจอ่อนตลอดกาลอย่างฟุริฮาตะ โคกิ

    "เอ่อ...คือ..." ฟุริฮาตะรู้สึกเหวอนิดๆ ที่อาคาชิทำท่าแบบนี้...คงไม่ได้อยู่ในร่างนั้นแล้วติดนิสัยเจ้าของร่างมาด้วยนะ!!! "...ก็...มัน...มันน่าอายนี่นา!!!"

    "ไม่เห็นต้องอายเลย..." อาคาชิเริ่มกลับโหมดเดิม "...ในเมื่อยังไงซะ...ก็ไม่มีเรื่องอะไรของนายที่ฉันไม่รู้นิ? จะให้บอกขนาดของ 'ไอ้นั่น' ยังได้เลย"

    "นายรู้ได้งายยยย!!!" ฟุริฮาตะแว๊ดลั่นกับเรื่องที่ไม่น่าออกจากปากอีกฝ่ายหรือใครทั้งนั้นเลย

    "ไม่บอก..." อาคาชิยิ้มอย่างผู้ชนะ

    "อาคาชิอ่ะ!!!" ฟุริฮาตะไม่รู้จะว่าไงเลยจริงๆ ...นี้คงไม่ใช่ว่าอาคาชิแอบสะกดรอยตามเขาทุกฝีก้าวหรอกนะ!?

    "โอ๋ๆ อย่างอนน่าโคกิ...มาเล่นเกมกันต่อมะ" อาคาชิยิ้มเริงร่า...อา ถ้าไม่ติดว่ามาติดอยู่ในร่างคนอื่นทั้งคู่เขาคงเผลอกดอีกฝ่ายไปแล้วแหงๆ เล่นทำท่าน่ารักซะ

    "ก็ได้..." ฟุริฮาตะถอนหายใจ...หวังว่าพอถึงตาอาคาชิรอบต่อไปไม่ถามคำถามชวนเหวออีกนะ "...อื้ม~ งั้นเอาเป็น...ถ้าฉันบอกเลิกกับนายแล้วไปคบกับคนอื่น นายจะทำยังไงล่ะ?"

    "ฉันจะไปฆ่าหมอนั่นแล้วหาทางหลอกล่อตัวนายกลับมา" อาคาชิพูดโดยไม่ต้องคิดสักวิ...แถมน้ำเสียงยังจริงจังมากด้วย

    "เอ่อ...ฉันถามเล่นๆ นะอาคาชิ อย่าทำเสียงเหมือนจะไปฆ่าคนสิ" ฟุริฮาตะไม่คิดว่าผลที่กลับมาจะหนักขนาดนี้

    "ฉันก็แค่ตอบตามจริงเฉยๆ" อาคาชิยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ "ตอนนี้ตาฉันแล้วสินะงั้นฉันขอถาม...ว่ารากที่สองของ 9+12-9+15-1+10-5+8+6-9 เอาผลที่ได้คูณด้วย 7 หาร 12 เท่ากับเท่าไหร่?"

    "เอ่อ...เมื่อกี้อะไรบ้างนะ?" ฟุริฮาตะถามขึ้นอย่างตามไม่ทัน...นี่เขาไม่ได้เก่งเลขขนาดคำนวณเลขยาวพรืดแบบนี้ภายในยี่สิบวิได้นะ!

    "รากที่สองของ 9+12-9+15-1+10-5+8+6-9 เอาผลที่ได้คูณด้วย 7 หาร 12 เท่ากับเท่าไหร่?" อาคาชอทวนให้อีกครั้งตามที่ขอ

    "ใจคอคิดว่าฉันตอบได้หรือไง?" ฟุริฮาตะเบ้หน้ากับตัวเลขจำนวนมากที่อาคาชิพ่นออกมา...เขาลืมแล้วด้วยซ้ำว่ามันมีเลขอะไรบ้าง!

    "ไม่ลองไม่รู้นะ...รีบหน่อยก็ดีนะเหลืออีกแค่สิบวิ" อาคาชิดูสนุกสนานกับการแกล้งคนเหลือหลาย

    "ง่ะ!" ฟุริฮาตะอยากรู้จริงว่าอาคาชิคำนวณได้ไงทั้งที่ไม่ได้จดหรือใช้เลขคิดเลขเนี่ย! ฟุริฮาตะพยายามคิดคำตอบของคำถามให้ได้...จนกระทั่ง...

    "หมดเวลาแล้วโคกิ...เกมนี้ฉันชนะ..." อาคาชิยกยิ้มอยากพอใจ "...เท่ากับว่าฉันขออะไรก็ได้จากนายได้หนึ่งอย่างสินะ?"

    "อื้ม...ใช่ ก็อาคาชิชนะนิ..." ฟุริฮาตะพยักหน้ารับ "...ว่าแต่คำตอบของคำถามเมื่อกี้คืออะไรเหรอ?"

    ...อย่าตอบว่าจำเลขเมื่อกี้ไม่ได้หรือไม่รู้เชียวนะ! ไม่งั้นเขาโวยแน่!!!...

    "คำตอบคือ 3.5 " อาคาชิตอบได้อย่างง่ายดาย

    "นายจำไอ้ตัวเลขยาวเหยียดนั้นได้เหรอ!?" ฟุริฮาตะไม่อยากเชื่อเท่าไหร่นัก...แต่จะว่าอาคาชิ เซย์จูโร่ก็ทำได้ทุกอย่างเขาคิดไม่ถึงนี่เนอะ

    "ได้สิ...ถ้านายไม่เชื่อลองกดเครื่องคิดเลขตามเลยก็ได้" อาคาชิท้าอย่างมั่นใจว่า...ยังไงซะต้องได้คำตอบตามที่ตนตอบไปแล้วแน่ๆ

    "ก็ได้..." ฟุริฮาตะลุกไปหยิบเครื่องคิดเลขที่มุมห้องมา "...เริ่มเลย อาคาชิ"

    "ที่ฉันถามเมื่อกี้คือ รากที่สองของ 9+12-9+15-1+10-5+8+6-9 เอาผลที่ได้คูณด้วย 7 หาร 12 เท่ากับเท่าไหร่? และคำตอบคือ 3.5 ถูกไหม?" อาคาชิเอ่ยราวกับเป็นคำที่พ่นออกมาจากเครื่องบันทึกเสียงมากกว่ามาจากปากและสมองมนุษย์

    "...ถูก" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ กับผลที่แสดงบนเครื่องคิดเลข...นายคิดคำตอบได้ไงห๊า! อาคาชิ!

    "เมื่อหมดข้อสงสัยแล้ว...งั้นฉันขอรางวัลตามที่ชนะนี่แล้วกัน..." อาคาชิยิ้มบางๆ ออกมา ก่อนเอ่ยคำขอที่แทบทำให้ฟุริฮาตะ โคกิในร่างมิยาจิ คิโยชิกลิ้งตกโซฟาทีเดียว "...ฉันขอกดนายทันทีที่กลับร่างเดิมแล้วกัน"

    "ขออะไรของนายเนี่ย!?" ฟุริฮาตะหน้าแดงแป๊ดกับคำขอที่คนรักตนเอ่ยออกมาได้หน้าตาเฉย

    "ก็ขอตามที่ฉันต้องการจริงๆ ไง..." อาคาชิยิ้มพร่าว "...ที่จริงถ้าไม่ติดว่ามิยาจิซังจะมาเอาเรื่องล่ะก็ฉันจะกดนายตอนนี้เลยด้วยซ้ำ...ถ้าเป็นนายในร่างไหนฉันก็ไม่เกี่ยงหรอก"

    "อ...อา...อาคาชิคนบ้า!!!" ฟุริฮาตะตอนนี้แทบอยากเอาหน้ามุดดินหนี

    "ถึงจะบ้าแต่ก็บ้ารักนะ" อาคาชิเล่นมุกเก่าโบราณ (เฮ้ย! อย่าโยนกรรไกรมาสิ!!! #ก้มหลบ // s)

    "อ...อา...เอ่...อาคาชิคงหิวแล้วงั้นฉันขอไปทำข้าวเที่ยงก่อนนะ!!!" ฟุริฮาตะรีบแว่บหนีไปในครัวด้วยใบหน้าแดงฉานทันที

    อาคาชิมองอีกฝ่ายที่วิ่งหนีเข้าครัวไปด้วยสีหน้าพออกพอใจอย่างมาก และจากนั้นก็เดินตามไปแหย่ (?) คนรักตนต่อ...

    ...ในการทำอาหารกลางวันผ่านไปแบบ...เกือบทำบ้านคนอื่นเขาเละแล้ว เพราะฟุริฮาตะสะดุ้งกับการที่อาคาชิค่อยแกล้งจนแทบทำจานชามบ้านคนอื่นแตก

    และหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วเด็กหนุ่มทั้งสองก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยหยิบหนังสือที่กองๆ ไว้ในห้องนั่งเล่นมาอ่านฆ่าเวลา อ่านไปอ่านมาจนกระทั่งในที่สุดฟุริฮาตะก็เผลอหลับไปในที่สุด

    เมื่ออาาชิเห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วจริงไปเอาผ้าที่ห้องของใครไม่รู้มาห่มให้คนรักตนก่อนที่จะเอาศรีษะอีกฝ่ายมานอนหนุกที่ตักตน...

    ...และในท้ายที่สุดอาคาชิก็ผล็อยหลับไปอีกคนหนึ่ง

     

     

     

     

     

    "อื้ม..." เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นบ่งบอกว่าร่างที่หลับไหลอยู่ร่างหนึ่งกำลังจะตื่นขึ้นจากนิทรา ดวงตาค่อยๆ ลืมขึ้นมาก็จะเบิกโพรงขึ้นเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏสู่สายตา...

    ...ภาพที่เห็นคือภาพเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นอนขดในผ้าห่มอย่างเป็นสุขเหลือหลาย แถมยังทำท่าออดอ้อนเมื่อเด็กหนุ่มขยับตัวอีก

    "โคกิ..." อาคาชิที่ได้ยินเสียงที่หลุดลอดจากปากตนเป็นเสียงของตนเองไม่ใช้เสียงของฮายามะ โคทาโร่แบบก่อนหน้านี้ ก็ลุกขึ้นนั่งและก้มลงมองมือตนเองก่อนที่สายตาจะมองไปรอบๆ ...ซึ่งทุกสิ่งที่เข้าสู่สายตาคือภาพที่เขาเห็นจนชินตาหรือห้องของฟุริฮาตะ โคกินั้นเอง

    ...กลับร่างเดิมแล้ว!? แสดงว่าชิโกะขี้เกียจเขียนต่อแล้วสินะ? แล้วไหงพวกเขาถึงมาอยู่บนเตียงเดียวกันได้เนี่ย? โคทาโร่คงไม่ทำอะไรแผลงๆ ในร่างเขานะ? ส่วนมิยาจิซัง...ไม่มีทางทำพิลึกๆ ในร่างคนรักเขาแน่ล้านเปอร์เซ็น...งั้นคงเป็นไปได้ว่าโคทาโร่งอแงว่าจะนอนด้วยจนสุดท้ายมิยาจิซังต้องจำยอมลากตัวเองมานอนที่นี่สินะ?...

    ดวงตาสีแดงสวยเหลือบไปมองนาฬิกาในห้องที่บ่งบอกเวลาเที่ยงคืน...แสดงให้เห็นว่าพวกเขาหลับไปนานพอดูเลย

    อาคาชิมองคนที่หลับอย่างเป็นสุขแล้วอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ เด็กหนุ่มยื่นมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ อย่างเอ็นดู...แต่ด้วยความที่อาคาชิขยับตัวมากไปหรือเปล่าไม่ทราบดวงตาสีน้ำตาลจึงค่อยลืมขึ้นมามองเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีแดง

    "อื้อ...อาคาชิ?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลงวยเงียลุกขึ้นมามองคนตรงหน้า

    "โคกิเหรอ?" อาคาชิลองเอ่ยถามเพื่อให้มั่นใจว่าในร่างนั้นเป็นคนรักของตนจริงๆ ไม่ใช่มิยาจิ คิโยชิ

    "อื้ม..." ฟุริฮาตะตอบอย่างคนที่ยังเมาขี้ตาอยู่

    "งั้นเหรอ..." อาคาชิเริ่อมยิ้มเจ้าเล่ห์ ด้วยตาสองสีพราวระยับราวเด็กได้ขนม "...งั้นเมื่อเป็นอย่างนั้น...นายคงต้องทำตามสัญญาณแล้วล่ะ"

    "เอ๋? ...อื้อ!" ก่อนที่สมองของฟุริฮาตะจะประมวลผลอะไรทัน อาคาชิก็ผลักอีกฝ่ายกดลงกับเตียงพร้อมบดขยี้ริมฝีปากของอีกฝ่าย และหลังจากนั้น...ก็มีเสียงครางเครือดังออกจากห้องไม่ขาดสายจนกระทั่งถึงเช้า

     

     

     

     

     

    "ให้ตายสิ...อาคาชิบ้าที่สุด!" เด็กหนุ่มกอดหมอนทำแก้มป่องอยู่บนเตียงอย่างน่ารักในสายตาคนผมแดงที่นั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ เตียง "นายคิดอะไรมากดฉันเนี้ย!?"

    "ก็ตามที่เล่นเกมชนะไง แล้วเมื่อวานนายก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนิ..." อาคาชิตอบออกมาหน้าเป็นมาก...ยิ้มไม่หุบเลย

    "ก็มันตามไม่ทันนิ! เล่นตื่นมาปุ๊บนายก็กดฉันปั๊บเลย!" ฟุริฮาตะอยากร้องไห้จริงกับเรื่องนี้จริง!

    "เอาน่าๆ" อาคาชิขยี้เรือนผมอีกฝ่ายเล่น

    "อย่าเล่นหัวกันสิ..." ถึงปากจะพูดอย่างนั้นฟุริฮาตะก็ไม่ได้ปัดมืออีกฝ่ายออกไป "...ว่าแต่...อาคาชิ...ฮายามะซังพังบ้านฉันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?"

    "...จะว่าไงดีล่ะ...เกือบมั้ง..." อาคาชิยิ้มแห้งๆ กับสภาพห้องด้านล่างที่ดูสะอาดเกินปกติ แถมข้าวของดูเปลี่ยนที่อีกทั้งๆ ที่เขามากี่ทีๆ ก็จะอยูที่เดิมตลอดแท้...

    ...เหมือนมีคนมารื้อ และดูเหมือนมีคนเก็บเข้าที่ด้วย...ถ้าให้เขาเดา โคทาโร่คงเป็นคนรื้อ ส่วนมิยาจิซังเป็นคนเก็บแหง

    "แสดงว่ายังไม่พังใช่ไหม?" ฟุริฮาตะกลัวว่าตนต้องเสียเงินซ่อมบ้านชอบกล

    "ยัง...แต่ถ้ากลับร่างช้ากว่านี้อาจจะ..." อาคาชิคิดว่าบางทีควรจับเพื่อนร่วมทีมคนนี้เข้าอบรมเรื่องการไปอยู่บ้านคนอื่นบ้างแล้วสิ จะได้เป็นผู้เป็นคนกะเขาบ้าง

    "เหรอ~~" ฟุริฮาตะเอ่ยก่อนที่จะฟุบหน้าลงคล้ายๆ จะหลับ

    "เดี๋ยวๆ โคกิ...ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนแล้วค่อยนอน" อาคาชิเอ่ยก่อนที่อีกฝ่ายจะหลับไปจริงๆ พร้อมยกข้าวต้มที่ตนวางไว้บนโต๊ะให้อีกฝ่าย

    "ไม่กินไม่ได้เหรอ? เมื่อคืนได้หลับนิดเดี๋ยวเอง..." ...ที่จริงเรียกเมื่อคืนไม่ได้แฮะ ควรเรียกว่าเมื่อเช้ามากกว่า

    "งั้นโคกิ...เลือกระหว่างลุกขึ้นมากินดีๆ หรือให้ฉันป้อนให้ดีล่ะ?" อาคาชิเอ่ยขึ้นมาพร้อมส่งด้วยสายตาบอกว่า 'เลือกข้อสองก็ดีนะ'

    "กินเองครับ!" ฟุริฮาตะแทบลุกพรวกขึ้นมาคว้าชามจากอีกฝ่ายมา เพราะเดาได้เลยว่าถ้าช้าอาจได้รับการยัดเยียดข้อสองมาให้ แถมไม่จบแค่ป้อนแน่

    "หึหึ..." อาคาชิหัวเราะเบาๆ กับอีกฝ่ายด้วยความเสียดายนิดๆ

    "นี่...อาคาชิ..." ฟุริฮาตะเอ่ยขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกได้ "...แล้วคนอื่นๆ จะกลับร่างเดิมหรือยังเนี่ย?"

    "น่าจะ...แต่ที่รู้แน่ๆ คือมิยาจิซังกับโคทาโร่กลับร่างแล้วแน่..." อาคาชิตอบ "...และถ้าให้เดา...ในเมื่อได้รับไอ้พัสดุนั้นวันเดียวกันก็คงจะกลับร่างเดิมเวลาไล่ๆ กันนี่แหละ"

    "อื้ม..." ฟุริฮาตะขานรับก่อนที่จะกินข้ามต้มต่อ...เป็นอันว่าเรื่องวุ่นวายจบไปเรื่องหนึ่ง...

     

     

     

     

     

    ...หื้อ? ส่วนของคนอื่นๆ นั้นน่ะเหรอ? ไว้เดี๋ยวบอกแล้วกัน~~~~

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End and TBC.

     

    แถมท้าย

    อาคาชิ // ห้ามลืมเรื่องเลี้ยงข้าวเชียวนะ

    S // จ้าๆ ไม่ลืมจ้า

    ฟุริฮาตะ // ...แล้วเธอกะรอให้ครบก่อนแล้วเลี้ยงทีเดียวหรือจะเลี้ยงไปทีละคู่เนี่ย?

    S // ใจเราอยากเลี้ยงทีละคู่จะได้กระเป๋าไม่ฉีกนัก...แต่ดูจากสายตาอาคาชิไม่น่าจะยอมหรอก

    อาคาชิ // รู้ก็ดี และเตรียมกระเป๋าฉีกได้

    S // พวกนายพยายามกินยังไงเราก็ไม่ห่วงเท่าไหร่...แต่เรานึกถึงของเนบุยะกับคางามิน่ะสิ! กระเพาะหลุมดำทั้งคู่!

    อาคาชิ // หึหึ ดี...งั้นฉันจะให้สองคนนั้นล้างท้องไว้เลย

    S // อย่าพูดงั้นสิ~~ ฟุริช่วยเราหน่อย~~~

    ฟุริฮาตะ // โทษที...แต่งานนี้ฉันคนหนึ่งล่ะ จะให้คางามิล้างท้องกินแหลกตอนเธอเลี้ยงเนี่ย

    S // ฟุริอ่า~~~

    อาคาชิ // เอาๆ เลิกเล่นแล้วไปหาตังค์เตรียมเลี้ยงพวกฉันให้พอแล้วกัน

    S // จ้า~~~...แต่เอาทีล่ะคนไม่ได้จริงๆ น่ะเหรอ? มาทีเดี๋ยวทั้งกลุ่มถ้าตังค์ไม่พอเราซวยดิ

    อาคาชิ // เธอซวย ฉันไม่ซวยนิ?

    S // บู้! ใจร้าย...เดี๋ยวให้ฟุริไปมีกิ๊กซะนิ...

    อาคาชิ // ฉับๆๆๆๆ #กรรไกรบินลอยมาหา

    S // เอ่อ...บายล่ะจ้า!!! #เผ่นด้วยความเร็วแสง

     

    End

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×